แดจังกึม - ลียองเอ

เนื้อเรื่อง

ก่อนจะมาเป็น "แดจังกึม"

            เรามารู้จักตัวจริงของผู้หญิงที่ตอนนี้คน(น่าจะ)ทั้งประเทศรู้จักกันดีผ่านละครน้ำดีทางหน้าจอโทรทัศน์กันดีกว่า ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน  เอาล่ะเชิญติดตามตอนต่อไปคราวหน้า เอ้ย!ล้อเล่น อย่าเพิ่งปิดหน้าต่างน้านะนะนะนะ

            แต่น แต้น แต๊น  ชะว้าบ

            เธอคือ..... "ลียองเอ" ปีนี้ก็ 35 เย้ว   ((โห...(ตาโตเท่าไข่ไดโนเสาร์) [[OO]]   ดูไงก็ดูไม่ออกว่าอายุเลยเลข 3 เลยแฮะ))                 เอ้า..ต่อๆ  เธอเกิดที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี  เมื่อวันที่  31  มกราคม 2514  ((  อ๊าก...เกิดเดือนเดียวกะเราเลยอะ  เราเกิด 13 มกราคม ปีฉลอง กทม. ครบ 200 ปี (555 เรื่องไรจาบอกอายุตัวเองตรงๆ เล่า)  แต่ไหงต่างกันราวฟ้ากะเหวงี้หว่า)) ( อืม...เห็นด้วย – เย่ )     ก็เพราะเงี้ยเธอจึงได้ฉายาว่า "ดาราหน้าเด็ก" ( พรึบฟู่ฟู่... จ๊าก!!!!!อิจฉาจนตาลุกเป็นไฟแล้วใครมาช่วยดับที – เงา  , โป๊กๆๆๆ  จ๊ากจ๊ากจ๊าก (เสียงเงาโดนเย่เขกกบาลโทษฐานส่งเสียงรบกวนการเล่น m  555 สม) – เย่ )       ถึงไหนแล้วหว่า          อ้อ...ลียองเอ มาจากครอบครัวที่อบอุ่น สมัยเด็กเธออาศัยอยู่แถวชานเมืองกรุงโซล ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ( มิน่าสวยจัง ) ชีวิตในวัยเด็กของเธอจึงเป็นสิ่งที่สวยงามน่าจดจำ  ด้านการศึกษานั้นก็น่าสนใจนักแล ชะเอิง เอย ( เงาเพี้ยนจนออกลิเกแล้ว ใครช่วยกู้คืนที – เย่ )  เอ้าคืนสติแล้วมาโม้ต่อ          อื้ม...เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮันยาง และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยซุงอาง   นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถด้านภาษาอีกด้วย  ทั้งภาษาเกาหลี , อังกฤษ , เยอรมันฯ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษจึงถือว่าเธอโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับดาราคนอื่น ( คนเกาหลีน้อยคนนักที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ )

            การเข้าสู่วงการบันเทิง

            เมื่ออายุ 14 ปี ลียองเอ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการถ่ายโฆษณาช็อคโกแลต กับพระเอกแห่งยุค "หลิวเตอหัว" ( อ๊าก...อิจฉาอีกแล้วอะ – เงา , แกยังไม่เลิกบ้าอีกเหรอ  เห็นเงียบไปตั้งนาน – เย่  , เอ้า..เพลาๆลงก็ล่าย – เงา )

      ส่วนด้านการแสดงของเธอนั้นเริ่มต้นเมื่อปี 2536  กับผลงานทางจอแก้วเรื่องแรก "Family's Husband How"  แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้นไม่นานเธอก็ได้สร้างชื่อไว้ใน "Western Palace"   และ "love And Marriage"  ก่อนจะก้าวไปเล่นภาพยนตร์เรื่องแรกในปี 2539 ในเรื่อง "lnch Alla"                           

ต่อมาในปี 2000 ชื่อของลียองเอ ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงแถวหน้าของแดนโสมได้อย่างภาคภูมิใจ และถือว่าเป็นปีทองของเธอเลยก็ว่าได้ จากละครเรื่อง "love As Fireworks" ( เราดูเราดูเรื่องนี้เราดู  ฉายช่อง 7 ตอนบ่ายๆ วันจันทร์ถึงศุกร์ ชื่อไทยว่า "ไฟรักกลางใจ" ( พระรองหล่อมาก ขรึม เท่ห์ชะมัด เป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรงหน่ะ มาดให้เลย กรี๊ดๆๆๆๆๆ แต่ไม่รู้จักนี้ดิ กลุ้มเลยแล้วจะไปหารูปได้จากไหนเล่า เฮ้อ!พระเอกของฉาน โฮโฮโฮ ) เราซื้อวีซีดีมาด้วยประมาณ 3,000 กว่ามั้ง (รู้สึกจะกล่องละพันกว่าบาท)       มีทั้งหมด 2 กล่อง  แต่ดูเสร็จก็ขายร้านรับซื้อหนังมือสองไปเลย แบบว่ากลัวพ่อมาเจอ แล้วจะโดนด่าเอา    ขายไปแค่ 200 เองอะ กระซิก ๆ   ร้านที่เซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ฯ ชั้น 2 ทางไปห้องน้ำหน่ะ ร้านนี้กดราคาสุดๆ เลย ทั้งเทปทั้งซีดี อย่าได้คิดไปขายเชียว  ขอระบายหน่อยเถอะ(หลังจากเงียบมานาน ก็ได้โอกาสระบายแบบเต็มที แล้วจะหายบ้าไปอีกพักใหญ่) – เงา )  ในปีเดียวกันเธอยังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง "Joint Seeurity Area"  ที่ทำรายได้อย่างมหาศาลในเกาหลี   ความดังของเธอไม่หยุดเพียงเท่านั้น ต่อมาในปี 2544  เธอมาพร้อมกับภาพยนตร์เรื่องเศร้า ที่เรียกน้ำตาคนดูได้อย่างท่วมท้นใน "Last Present"  และตามมาอีกหนึ่งเรื่องคือ "One Fine Spring Day" หนังทั้งสองเรื่องของเธอนั้น ทำรายได้เป็นมากเลยทีเดียว

จากนั้นไม่นานเธอตัดสินใจรับละครอีกเรื่องนึงที่สามารถสร้างกระแสในบ้านเราได้อย่างท่วมท้น ถล่มฟ้าทลายดิน นั่นก็คือ แต่น แต๊น  ถกต้อง เอ้ย!ถูกต้องนะก๊าบ   ดำจังแก  หรือ "แดจังกึม" น่านเอง เย่ๆๆๆๆๆๆเย้วๆๆๆ   แต่ก่อนที่ละครเรื่องนี้จะมาฉายในบ้านเรานั้น ที่เกาหลีเองละครเรื่องนี้ก็ถือเป็นซีรีส์อันดับหนึ่งที่มีคนดูมากที่สุดในประวัติการณ์เลยทีเดียว           สำหรับเรื่อง  "แดจังกึม"จอมนางแห่งวังหลวงนั้น สร้างจากเรื่องจริงตามประวัติศาสตร์เกาหลีสมัยราชวงศ์โชซอน ( สมัยเมื่อ 500 ปีก่อน ตรงกับสมัยอยุธยาของไทย )

รางวัลการันตีความสามารถ

ปี 2534 - รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม ของสถานี KBS

ปี 2537  - รางวัล Beat new comer ของสถานี SBS

ปี 2538 - รางวัลดารายอดเยี่ยมของสถานี MBS

      ปี 2540 - 2541 - รางวัลดารายอดเยี่ยมของสถานี SBS 2 ปีซ้อน

      ปี 2544 - รางวัลสาขาดารานำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมในงานเทศกาลหนังปูซาน

            ปี 2546 - รางวัลดารายอดเยี่ยมของสถานี MBS

            ปี 2548 - ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เธอได้รางวัลดารานำฝ่ายหญิงจากภาพยนตร์เรื่อง Sympathy For Lady Vengeance ของ Blue Dragon Awards

จบ ( เฮ้อ...ตาลาย ขณะนี้เวลา 24.00 น. ของวันที่ 03/03/2549 หาวๆๆๆ )