ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♡ CINDERELLA STORY [LuhanxBaekhyun]

    ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER 8

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      3
      2 ก.พ. 57

     

    CHAPTER 8

     

    lost time is never foud again




              10 ปีก่อนที่ริมทะสาบ

     

                “แบคฮยอน ชอบสร้อยข้อเส้นนี้ไหม พี่ซื้อให้นายคนแรกเลยนะ

                “ชอบ ชอบสิครับ แต่มันใหญ่ไปหน่อยนะ

     

                พี่ชายวัยสิบแปดปียิ้มบางก่อนจะตั้งใจสวมสร้อมข้อมือให้กับน้องชายของตัวเองที่ยังดูซนและดื้ออยู่ น้องชายมองสร้อยนั้นแล้วทำปากยู่ มันใหญ่เกินไปจริงๆ พอมาอยู่ที่ข้อมือเขาก็เลยดูหลวม เขากลัวว่ามันจะหลุดหล่นหายไป คุณพ่อกับคุณแม่กำลังย่างบาร์บีคิวอยู่ใกล้ๆมองมาที่สองพี่น้องแล้วอมยิ้ม ลู่หานยกข้อมือของน้องชายมาดู พลิกไปพลิกมาอยู่อย่างนั้น

     

                “ถ้าโตกว่านี้มันจะพอดีกับแบคฮยอนเลย เชื่อพี่

     

                น้องชายตัวเล็กพยักหน้า เขาลุกยืนขึ้นก่อนจะกระโดดกอดจากด้านหลังพี่ชาย ลู่หานหัวเราะออกมาเสียงดัง ลู่หานแบกแบคฮยอนไว้ที่หลังก่อนจะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าจะพาน้องไปเดินเล่นซักหน่อย สองพี่น้องเดินเลียบริมชายฝั่งทะเลสาบไปเรื่อยๆก่อนน้องชายจะใช้ใบหน้าซบลงตรงไหล่หนาแล้วเอ่ยถาม

     

                “เสี่ยวลู่...เสี่ยวลู่จะไม่ทิ้งแบคฮยอนไปใช่ไหม

                “ไม่ทิ้งอยู่แล้ว แต่แบคฮยอนต้องใส่สร้อยเส้นนี้ ห้ามถอดออกเลยนะ มันจะช่วยปกป้องแบคฮยอนทุกที่ที่แบคฮยอนไปเลย น้องชายยิ้มกว้าง ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างดึงแก้มลู่หาน ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังอยู่บนหลังคนอายุมากกว่า

     

                “พี่ชายรู้ไหม พี่ชายใจดีที่สุด แบคฮยอนจะไม่รักใครนอกจากพี่ชายเลย พี่ชายก็ต้องห้ามรักใครด้วย

                “ฮ่าๆๆ ทำไมพูดจาเอาแต่ใจแบบนี้

                “ไม่สนหรอก ยังไงแบคฮยอนก็รู้ว่าเสี่ยวลู่รักแบคฮยอนมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว

     

                ลู่หานยกคิ้วขึ้นคล้ายกับจะบอกว่า เด็กอะไรทำไมมั่นใจขนาดนั้น ใบหน้ากวางหนุ่มหันไปยิ้มละมุนให้กับน้องชาย

     

                “แล้วนายจะสัญญาหรือเปล่าล่ะว่าจะรักพี่คนเดียว

                “อื้มมมมมมมม รักคนเดียว

     

                แบคฮยอนซบลงกับไหล่หนา แล้วใช้แขนเล็กๆโอบกอดคนที่แบกหลังตัวเองอยู่ไว้แน่นก่อนจะหลับตาลงเพราะความเพลียจากการเล่นทั้งวัน คงเพราะหลังพี่ชายอบอุ่นเกินไป มันเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดในความคิดของน้องชายตอนนั้น

     

     

                ความฝัน .....

                มันคงเป็นฝันดี และ ฝันร้ายในคราวเดียวกัน

                ไม่อยากตื่นเพราะมันเป็นฝันดี ไม่อยากคิดถึงเพราะมันทำให้เสียใจคล้ายดังฝันร้ายตลอดมา

     

                ลู่หานลืมตาขึ้นมาขึ้นมากลางดึกพร้อมความทรงจำที่เหมือนหมุนกลับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขานอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว นั่นเป็นเพราะเขาคิดถึงแบคฮยอนมากเกินไป เขาคิดถึงน้องมากเกินไปจริงๆ ทั้งใจอยากจะลุกแอบเดินไปมองหน้าที่ห้องนอน หากแต่อีกใจก็ไม่กล้าแม้แต่จะพบเจอ

     

                แบคฮยอนไม่คุยกับเขาอีกเลย ไม่แม้แต่จะมาให้เห็นหน้า ลู่หานเขยิบตัวลุกขึ้นมาจากที่นอนก่อนจะหยิบสร้อยข้อมือที่หัวเตียงขึ้นมาดูอีกครั้ง

     

                ความทรมาณที่เขาคิดว่าพอจะทนไหว เทียบไม่ได้เลยกับความทรมาณของความเป็นจริงที่เป็น

                มันเจ็บกว่าหลายเท่ามาก

     

                เขาอยากจะตายเร็วๆ ไม่อยากจะอยู่บนโลกนี้ต่อไปแล้ว ความรู้สึกนี้คงเป็นคงความรู้เดียวกันที่แบคฮยอนเคยรู้สึกสินะ

     

                แบคฮยอนครับ....ในตอนนี้พี่ชายเข้าใจ เข้าใจทุกอย่างแล้ว..

                ลู่หานนอนหันข้างมองสร้อยข้อมืออยู่อย่างนั้น คืนนี้คงเป็นอีกคืนที่เขาจะไม่ได้นอนจนถึงเช้า..

     

     

    Cinderella Story



     “ชานยอล นายชอบกินอะไรหรอ?

                เด็กหนุ่มนักฟุตบอลก้าวเดินอย่างอารมณ์ดีมาที่ตึกคณะนิเทศศาสตร์ฝั่งของรุ่นพี่ วันนี้เขาไม่มีซ้อมฟุตบอล คงเป็นเพราะใกล้สอบมิดเทอมแล้ว รุ่นพี่กัปตันทีมเลยสั่งให้พักได้ ชานยอลมีว่างตอนเย็นหนึ่งวันและแน่นอน เขารีบมาหาคนที่อยากเจอมานาน

     

                “พี่แบคครับ เย็นนี้ไปทานข้าวกันไหม?

                รุ่นน้องตาโตหูกางเดินเข้าไปตัดหน้าแบคฮยอนที่เดินอยู่กับคยองซูและเซฮุน เขาอยากเจอหน้าพี่แบคฮยอนมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่วันนั้นที่ห้างก็ไม่เห็นหน้าเลย ชานยอลตั้งใจจะชวนรุ่นพี่ไปเที่ยวกันสองคน

     

                “อื้มมม เอาสิ เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงข้าวให้นายเอง

                “งั้น...เดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้นะ ฉันต้องไปทำงานพิเศษก่อนคยองซูเอ่ยขึ้นแล้วยิ้มกว้างอย่างร่าเริงโบกมือลาเพื่อนๆและรุ่นน้อง

     

                “โอเค งั้นฉันกับคยองซูแยกกันตรงนี้เลย วันนี้มีซ้อมหลีดเซฮุนเอ่ยขึ้นตามคยองซูก่อนจะปรายตามองชานยอลเล็กน้อยแล้วโบกมือยิ้มให้แค่แบคฮยอน

     

                สายตาของชานยอลมองตามหลังของรุ่นพี่ร่างโปร่งไป ไม่รู้ทำไมถึงไม่ละสายตาซักที แบคฮยอนขมวดคิ้วมองภาพนั้นแล้วอมยิ้มนิดหน่อย รุ่นน้องตัวสูงมองตามหลังเซฮุนอยู่นานจนรู้สึกตัวแล้วสะดุ้งโหยง ก่อนเจ้าตัวจะรีบหันมาพูดกับรุ่นพี่ตัวเล็กอย่างเลิ่กลั่ก           

     

                “เฮ้ แล้วทำไมหน้าตาโทรมเซา ดูโศกเศร้าอีกละ บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่านอนดึก เดี๋ยวผมตีเลยนะ

     

                สภาพแบคฮยอนดูไม่ได้จริงๆ ดวงตาคล้ำจากการร้องไห้และไม่ได้นอนไปพร้อมกัน อีกทั้งยังมีใบหน้ายังขาวซีดจนแทบจะเป็นกระดาษ

                ชานยอลชี้หน้าดุ แถมยังแย่งถือหนังสือแล้วจูงข้อมือของแบคฮยอนไปที่ถนนข้างมหาวิทยาลัย พวกเขาสองคนเลือกร้านสุกี้ง่ายๆ นั่งคุยกันเรื่องต่างๆมากมาย ชานยอลก็ยังคงเล่นมุขทำให้แบคฮยอนขำเสมอ คนตัวเล็กยิ้มออกมาได้บ้าง และสุดท้ายพวกเขาก็ไปที่ร้านไอศครีมด้วยกัน

                รุ่นน้องตัวโตมองหน้าขาวของรุ่นพี่ที่ตอนนี้ดูเศร้าหากแต่พยายามฝืนมีความสุขก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ชานยอลตักไอติมของตนเองแบ่งให้แบคฮยอน ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เก็บไว้ในใจ

                วันนี้เขาควรจะบอกความในใจแก่รุ่นพี่ที่เขาแอบชอบมาตั้งนานซักที

     

                “พี่แบคฮยอนครับ..... พี่รู้เปล่า ว่าผมชอบพี่ ชอบพี่มานานแล้วด้วย

                “พี่เป็นแฟนกับผมมั้ยผมจะรักพี่ให้มากที่สุดเลยนะ

     

                ชานยอลก็คือชานยอล เวลาบอกอะไรเขาเลือกที่จะไม่เก็บอะไรเลย บางทีก็พูดตรงกับความรู้สึกเกินไป ไม่ยั้งอะไรซักนิด บางทีก็ตลกเกินไป แบคฮยอนชะงักเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าชานยอลแล้วส่ายหน้ายิ้มบาง สำหรับแบคฮยอนแล้ว คนตัวโตตรงหน้าดูเหมือนเด็กน้อยยังไม่เข้าใจในความรักเท่าไหร่

                แม้จะสงสาร แต่ชานยอลควรจะตัดใจจากเขาซักที ถ้าบอกในตอนนี้ รุ่นน้องจะยังทำใจได้ หากเขายังไม่ชัดเจน นานกว่านี้รุ่นน้องอาจจะเจ็บปวดมากกว่าเดิม

     

                “ชานยอล นายชอบกินอะไรหรอ?

                “หืมม

     

                ชานยอลชะงักกับคำตอบที่กลับกลายเป็นคำถามของแบคฮยอน เขามองหน้ารุ่นพี่ตัวเล็กที่ยิ้มกว้างมาให้

               

                “พี่ถามว่า นายน่ะ ชอบกินอะไร

                “ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยว ใส่ลูกชิ้นเยอะๆนะ อร่อยมั้กกก แต่พี่แบคห้ามกินตามนะ เดี๋ยวอ้วน ผมออกกำลังกาย แต่พี่ดูเหมือนไม่ออกเลย เพราะงั้นถ้าพี่กิน พี่จะพุงหนากว่าผม ฮ่าๆ พี่แบคพุงโต

     

                ถึงจะสงสัยในสิ่งที่แบคฮยอนถาม แต่ชานยอลก็ยังตอบคำถามสไตล์ขี้เล่นแบบเดิม

     

                “อื้มม แล้วถ้าพี่ให้นายกินก๋วยเตี๋ยวทุกวันเลย แต่ไม่ใส่ลูกชิ้น แถมยังมีรสที่เผ็ด เค็ม หรือหวานเกินไปทุกวันชานยอลจะชอบหรือเปล่า?

     

     

                “................”

                รุ่นน้องลดรอยยิ้มลง ก่อนสีหน้าจะกลับกลายเป็นไม่เข้าใจ

     

                “ชานยอล พี่ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวชามที่ไม่มีลูกชิ้น แถมยังรสชาติไม่ถูกปากชานยอลนั่นแหล่ะ ถ้าชานยอลยังเลือกที่จะชอบพี่ ทั้งที่เราไม่ได้เหมาะสมกัน นายอาจจะไม่มีความสุขก็ได้นะ ทุกอย่างบนโลกนี้ต้องเป็นไปด้วยความพอดี และบางที พี่ว่าความรักมันอาจจะต้องมีอะไรมากกว่าคำว่ารักหรือชอบนะ

     

                รุ่นพี่ตัวเล็กยังคงส่งยิ้มบางมาให้ แถมยังเอื้อมมือไปจับมือหนาเพื่อให้กำลังใจ

                “พี่ขอโทษที่ตอบแทนความรู้สึกของนายคืนไม่ได้ พี่เข้าใจความรู้สึกของชานยอลดี แต่พี่จะไม่เห็นแก่ตัวกับนาย พี่จะไม่โกหกชานยอลว่าหัวใจของพี่รักคนๆนึงไปแล้ว

     

                ใบหน้าของทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่หม่นลงพร้อมกัน แบคฮยอนก้มลงมองไปที่พื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาน้ำตาคลอ

     

                “และถึงแม้เขาคนนั้นจะเคยไม่รักพี่เลย..แต่พี่ดันเลือกกินก๋วยเตี๋ยวชามนั้นจนผูกพันไปแล้วนั่นแหละ อย่างตัวพี่เองพี่ไม่เคยชอบก๋วยเตี๋ยวใส่ถั่วงอกซักนิด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลย..คงเพราะพี่ใช้เวลานานเกินไปจนกลับกลายเป็นว่า พี่รักก๋วยเตี๋ยวรสชาติห่วยแตกนั่นไปซะแล้ว.

     

                “น้องชายของพี่ พี่จะไม่ทรยศหัวใจตัวเองและหัวใจของนาย ซักวันหนึ่งนายจะเจอคนที่เหมาะกับนายนะ นายจะต้องมีความสุข และไม่ต้องทุกข์ใจเหมือนกับพี่

                “พี่แค่อยากให้ชานยอลเข้าใจ

     

     

                นิยามความรักของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปไม่เหมือนกัน

                แต่นิยามคำว่ารักของแบคฮยอนที่ต้องการสื่อให้ชานยอลเห็นก็คือ

                เราบอกว่าเราชอบก๋วยเตี๋ยว แต่เราจะสามารถอยู่กับมันได้หรือเปล่า ถ้าเรารัก เราคงต้องยอม เราคงต้องคีบเส้นบะหมี่เข้าปากไปพร้อมรอยยิ้มและหยดน้ำตา เพราะวันที่หวานมันอาจหวานเกินไป และวันที่เค็มจนอยากร้องไห้ เราก็อาจจะทำได้เพียงต้องฝืนทนกินไปอย่างนั้น

                น่าแปลกที่ชานยอลฟังคำปฏิเสธของรุ่นพี่ตรงหน้าแล้วน้ำตาไม่ไหล เขาเพียงแต่ก้มหน้าให้แบคฮยอนจับมืออยู่อย่างนั้น แม้จะเสียใจแต่อาจจะเป็นเพราะเขาพอจะคาดเดาอะไรล่วงหน้าไว้แล้ว นับตั้งแต่วันที่พี่แบคฮยอนเลือกทิ้งเขาโดยไม่ลังเลเมื่ออยู่กับพี่ชายคนนั้น

     

                “ว่าแต่...ชานยอลชอบทานก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวหรอชานยอลอย่าบอกพี่ว่านายชอบทานก๋วยเตี๋ยวเลย ทั้งๆที่ตัวเองก็แอบไปซื้อข้าวมันไก่กินบ่อยๆ

                “จริงมั้ย?

     

                รอยยิ้มที่สวยงามจากพี่แบคฮยอนส่งให้น้องชานยอลอีกครั้ง

     

     

                มันคือความจริง....

                ชานยอลไม่ได้ชอบแค่ก๋วยเตี๋ยวเพียงอย่างเดียว  เขาชอบอาหารอย่างอื่นด้วย บางทีเขาควรจะลองหันไปมองสิ่งอื่นบ้าง แบคฮยอนเลื่อนมือเล็กของตัวเองออก คนสองคนมองหน้ากันอยู่นาน แววตาของคนทั้งคู่เต็มไปด้วยน้ำสีใสหากแต่ไม่ได้ไหลลงมา ก่อนจะค่อยๆยิ้มกว้างให้กัน

                ในตอนนี้รุ่นน้องตัวโตเข้าใจความหมายลึกซึ้งที่แบคฮยอนตั้งใจจะสอนได้ดีแล้ว เขาก้มหน้าจนชิดอก แอบใช้นิ้วหนาเกลี่ยน้ำตาของตนเองอีกครั้งก่อนจะเงยหน้ายกยิ้มกว้าง น้ำตาที่คลอเบ้าค่อยๆเหือดหายไป

     

                “เฮ้ยยยยยยย รู้ได้ไงฟะว่าผมแอบกินข้าวมันไก่

                “ช่วยด้วยครับ รุ่นพี่คนนี้เป็นสตอล์กเกอร์ผม ช่วยด้วยยยยยยยยยยย อ้ากกกกกกก

     

                เสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วร้านขายไอศครีมอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงนักฟุตบอลจอมทะเล้นแกล้งโวยวายเสียงดัง รุ่นน้องตัวสูงยิ้มกว้างจนเห็นฟันทั้งหมดสามสิบสองซี่ให้กับรุ่นพี่ที่เขาปลื้ม

                แบคฮยอนเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเป็นคนที่เป็นทั้งแบบอย่างของชานยอล เขาเป็นทั้งความใจดี ทั้งความอบอุ่นเหมือนพี่ชาย พี่ชายที่จะคอยสอนและช่วยเหลือน้องชายอยู่ตลอด

     

                ทั้งหัวใจของชานยอลตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ ขอบคุณที่ตัวเองได้มีโอกาสชอบพี่แบคฮยอน...

     

     

     

                “คนนี้อ่ะหรอที่พี่บอกว่ารัก หึงดีไหมอะ ก็หล่อใช้ได้นะ ไม่สิ โคตรหล่อเลยก็ได้วะ ไม่น่าเชื่อนะมีคนน่าตาระดับเดียวกับผมอยู่บนโลกด้วย

     

                ระหว่างเดินไปยังป้ายรถเมล์ รุ่นน้องก็แย่งโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ของแบคฮยอนมาเปิดรูปดู ข้างในมีรูปของพี่อี้ฟานอยู่รูปเดียว มันเป็นรูปที่แบคฮยอนถ่ายไว้ตอนไปประชุมงานครั้งก่อน

     

                “ฮ่าๆ หลงตัวเองอีกแล้ว คนนี้ไม่ใช่หรอก เป็นเจ้าชายน่ะ เจ้าชายในฝันพี่เอง

                แบคฮยอนแกล้งหลิ่วตาให้กับชานยอล รุ่นพี่ตัวเล็กยิ้มจนตาปิด และตอนนี้คนตัวสูงก็หัวเราะกว้างกว่าเดิม

     

                “อ๋อ งั้นแสดงว่า พี่หลงรักพี่ผู้ชายหน้าบูดคนนั้นที่ห้างหรอ เยอะนะเรา เซี้ยวไปแล้วน้องแบคฮยอน เดี๋ยวโดนจักจี๋เลย นี่แหน่ะๆๆๆๆ

                “ฮ่าๆ โอ้ยย อย่าแกล้งพี่

     

                ทั้งชานยอลและแบคฮยอนเล่นกันเหมือนเดิม วิ่งไล่กันเหมือนเดิม หัวเราะให้กันเหมือนเดิม

                ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่เป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจ แต่จริงๆแล้วมันง่ายดายเพียงแค่เราลองเปิดใจมองดู

                ระหว่างพวกเขามีเพียงมิตรภาพที่เกิดขึ้นท่ามกลางช่องว่างของวัยแค่เพียงเท่านั้น

     

                ในชีวิตนี้ ถ้าหากได้พบเจอคนๆหนึ่งที่เป็นเหมือนกำลังใจ คนๆนั้นอาจจะไม่ใช่คนรักหรือแฟนของเรา แต่ถ้าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ และเราสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง คงเรียกได้ว่านับเป็น ความโชคดีอย่างหนึ่งที่เราได้เจอผู้คนเหล่านั้น

     

                แบคฮยอนหวังเพียงว่า

                ชานยอลจะได้มีโอกาสเจอคนที่เป็นทั้งบะหมี่และน้ำซุปกลมกล่อมซึ่งเหมาะสมกับของตัวเขาเองในซักวันหนึ่ง..

     


    Cinderella Story

     

    " ได้โปรด รักฉันให้เหมือนกับเขา เพราะมันนานมาแล้วที่ฉันต้องตื่นมาเดียวดาย "

     

                ไม่เข้าใจ..

                จาง อี้ชิงไม่เคยเข้าใจมัน แต่เขาเลือกที่ไม่สนใจและปล่อยให้เรื่องราวผ่านไป

     

                เขายังจำวันนั้นได้ดี วันที่พี่ลู่หานมาคุกเข่าและยังจับมือไว้แน่นขอคบกับเขา แววตาของพี่ลู่หานเต็มไปด้วยความสั่นไหว ความรู้สึกแรกของอี้ชิงคือแปลกใจปนตกใจ เพราะเหมือนว่าที่ผ่านมาเขาเป็นฝ่ายแอบหลงรักพี่ลู่หานมาตลอด ดูก็รู้เขาเป็นได้แค่น้องชายของลู่หานเท่านั้น

                พอพี่ชายผมทองมาทำอะไรที่แตกต่างออกไป เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่คนอื่นๆอย่างคยองซูคิดว่าเป็นตัวร้าย ก็มีสิทธิ์หวั่นไหวบ้างยอมรับเลยว่า อี้ชิงไม่เคยมั่นใจอะไรเลยซักวินาทีนับตั้งแต่วันที่เขาตกลงคบกับพี่ลู่หาน

                เหรียญมักมีสองด้านเสมอ หากด้านที่คนอื่นมองเห็น คือความร้ายกาจตาใสของอี้ชิงเป็นด้านหัว สำหรับด้านก้อยที่แทบจะไม่มีใครเห็นแล้ว อี้ชิงไม่ใช่คนใจร้าย เพียงแต่ว่าเขาแค่อยากได้หัวใจของคนที่เขารัก แม้ว่าวิธีนั้นจะสกปรกแค่ไหนก็ตาม และนั่นทำให้เขาทำเรื่องเลวร้ายใส่คนอื่น

     

                “พี่ชาย กินนี้ไหม อี้ทำเองเลยนะ

                “อื้มมม ขอบคุณนะ

     

                อี้ชิงตักแกงจืดเต้าหู้หมูสับให้กับพี่ลู่หานที่ก้มลงมองจานข้าวอยู่อย่างนั้น แกงจืดเป็นอาหารที่แบคฮยอนมักจะทำให้เสมอ ลู่หานมองข้าวในจานอยู่อย่างนั้นราวกับว่าความคิดของเขาลอยไปไกลแสนไกล

               

                “พี่ชายจูบอี้หน่อยได้ไหมครับ

                “ได้สิ

     

                พี่ชายผมทองหลบสายตาแล้วยิ้มบาง เขาลุกยืนขึ้นมาแล้วเดินไปยังฝั่งตรงข้ามก่อนจะโค้งตัวสัมผัสริมปีฝากกับจางอี้ชิง จากนั้นก็กลับมายั่งที่นั่งเดิมของตนเอง

               

                หุ่นยนต์

                ลู่หานทุกวันนี้เหมือนหุ่นยนต์เดินได้ แค่กดโปรแกรม หุ่นยนต์ก็ทำตามโดยไม่ลังเล หากแต่การทำตามนั้น ไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกปนอยู่ด้วยเลย ท่าทีเหม่อลอย เศร้าจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนอี้ชิงเป็นห่วง

     

                “พี่ครับ..มีอะไรจะบอกอี้หรือเปล่า

                “ไม่มีหรอก

                “เกี่ยวกับแบคฮยอนหรือเปล่า?”   

     

                “.........

                ความเงียบคือคำตอบที่ดีที่สุด

                ไม่ต้องบอก อี้ชิงก็รู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแฟนตัวเองกับน้องชายต่างสายเลือด เพราะสายตาของลู่หานเวลาที่มองแบคฮยอน มันคือสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย แม้จะเป็นการแอบมองฝ่ายเดียวของลู่หานก็ตามที

     

                “พี่ลู่หานจะกลับเลยก็ได้นะ อี้อิ่มแล้ว วันนี้อี้ไม่ค่อยสบายด้วย

     

                อี้ชิงกระแทกช้อนลงกับจานข้าวแล้วเดินออกจากห้องทานข้าวไปอย่างไม่ระงับอารมณ์ ทั้งๆที่เขาบอกว่าไม่ค่อยสบาย แต่ลู่หานก็ไม่เคยคิดจะสนใจซักนิด  มันไม่ใช่ท่าทีของคนรักกันหรอก ไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว

     

                หลังเคาท์เตอร์ในครัว มีเพียงเด็กหนุ่มหน้าสวยที่น้ำตาไหลอยู่อย่างนั้น

                ไม่มีใครรู้เลยว่า อี้ชิงแอบร้องไห้ทุกคืน เพียงเพราะเขารู้ตัวดีว่า หัวใจของพี่ลู่หานไม่ได้อยู่ที่ตนเองซักนิดเลย

     

                อี้ชิงไม่เคยสนใจว่าเขาจะโดนเกลียดจากใครบ้าง แต่แค่พี่ลู่หานไม่รักเขา เขาก็รู้สึกเกลียดตัวเอง

                เกลียดที่ตัวเองไม่ใช่แบคฮยอน เกลียดตัวเองที่ไม่ใช่คนที่ลู่หานจะมอบความรักให้..

                ตัวร้ายอย่างเขา ทั้งเกลียดและสมเพชตัวเองไปพร้อมๆกัน

     

                สำหรับความรักอันแสนบอบบางในครั้งนี้ ไม่อาจล่วงรู้ได้เลย ว่ามีใครที่ต้องเจ็บปวดไปกับมันบ้าง

     

    Cinderella Story

     

     " ความรักที่เขาไม่อาจดูแลได้" 

     

     

                “คยองซู เดี๋ยววันนี้ฉันขอกลับบ้านก่อนน้า งื้อออ ไม่เป็นไรใช่ไหมอ่า?

                เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งของคยองซูเอ่ยถามระหว่างที่เขากำลังเช็ดโต๊ะในร้านกาแฟอยู่

                คยองซูมาทำงานพิเศษที่นี่ได้ซักพักแล้ว เขาใฝ่ฝันอยากเป็นเถ้าแก่ร้านกาแฟเล็กๆ นั่นคือเหตุผลที่เจ้าตัวเข้าห้องสมุดอยู่บ่อยครั้ง เขาชอบที่จะศึกษาเมล็ดกาแฟขนิดต่างๆ วิธีการชงชา และการทำลวดลายที่น่ารักบนฟองกาแฟ คยองซูมักมีความสุขกับมันอยู่เสมอ เขามักเพลิดเพลินไปกับสิ่งเหล่านี้ 

                คนตาโตมองเพื่อนตัวเองที่ทำท่าไหว้ตลกๆแล้วขำออกมา อึนจีคงต้องรีบกลับไปช่วยแม่ที่ร้านซักรีดอีกซินะ

     

                “อื้มม ไม่เป็นไรหรอก นี่ดึกแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงร้านจะปิดแล้ว คงไม่มีคนมาซื้อกาแฟแล้วล่ะ

                คนตัวเล็กยิ้มกว้าง ก่อนจะเหลือบไปเห็นคัพเค้กที่เขาได้รับมาจากเจ้าของร้านวันก่อน เขาไม่รู้หรอกว่าเจ้าของร้านคือใคร เหมือนกับว่าเจ้าของไม่ว่างจะมาดูแลร้านนี้เลยสั่งให้จัดหาพนักงานมาดูแลร้านแทน

     

                “เฮ้ อึนจี เอาคัพเค้กกลับไปทานที่บ้านด้วยซิ

                “แล้วนายไม่เก็บไว้กินเองหรอ?

     

                คนตัวเล็กส่ายหัวยิ้มเป็นเชิงปฏิเสธ คยองซูคิดว่าถ้าให้คนอื่นได้ทาน คงจะมีความสุขกว่า และตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบเค้กเท่าไหร่นัก

     

                “อื้มมมมม งั้น..ขอบคุณนะ นายใจดีมากเลย

                “ไม่เป็นไรหรอก กลับบ้านดีดีนะ

     

                คนตัวเล็กตาโตโบกมือลาอย่างร่าเริง อึนจีพยักหน้าแล้วทำท่าไฟท์ติ้งทำให้คยองซูหัวเราะออกมา เขาหันกลับไปเช็ดโต๊ะต่อ จากนั้นก็ตรวจดูยังลิสต์ออเดอร์สิ่งของที่ต้องการสั่งเพิ่ม

     

                กริ๊ง....

                เสียงผลักประตูเปิดออกทางหน้าร้าน มันเป็นเสียงระฆังที่น่ารักทำให้คยองซูที่หันหลังอยู่รู้สึกตัว คนตัวเล็กบ่นงึมงำอยู่คนเดียว ใครกันนะมาซื้อกาแฟเอาป่านนี้ ร้านจะปิดอยู่แล้ว ให้ตายเถอะ เดี๋ยวแกล้งเรียกทิปเยอะๆเลย

     

                “สวัสดีครับ ต้องการอะ ..

               

     

                “คิม จงอิน

                “มาทำไม!!!!

     

                พอเห็นหน้าก็ทำตาโตแถมยังมองค้อนปะหลับปะเหลือกมากๆ

                มึงมาทำไม ไอ้ดำ !! ใครใช้ให้มึงมาเหยียบร้านกู

     

                “ออกไปนะ ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างนาย!!

     

                คยองซูพูดเสียงเย็นใส่ คนตัวสูงผิวคล้ำไม่รู้อารมณ์ไหน เขาเดินเข้ามาหาคยองซูน้ำตาคลอ สามปีแล้วที่เขาไม่เคยใช้มือหนาจับมือเล็กเลย สามปีแล้วที่พวกเขาไม่คุยกันดีดีเลย นั่นเป็นเพราะคิมจงอินเลือกที่จะเก็บงำความทุกข์เอาไว้และคยองซูเลือกที่จะหลีกหนีการเผชิญหน้าตลอดมา

                แต่หลังจากที่คิมจงอินเห็นคยองซูต้องทำงานหนัก แถมยังไม่มีใครคอยดูแลกลับดึกทุกวัน มันทำให้เขาอยากอยู่กับคยองซูทุกวันจนทนไม่ไหว เขาจะไม่สนใจสิ่งอื่นอีกต่อไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาเป็นคำตอบได้ดี เขาต้องอยู่อย่างทรมาณมาตลอด..

     

                ยิ่งพอเล่นเทนนิส เขาก็ยิ่งทุกข์ใจ

                ความรักที่เขาไม่อาจดูแลได้ แต่เขากลับไม่อยากทิ้งมันไปซักวินาที

     

     

                คนผิวคล้ำคุกเข่าจับมือเล็กนั่นไว้แน่น ก่อนจะยกมันขึ้นมาสัมผัสที่ใบหน้าของเขาเอาไว้อยู่อย่างนั้น

     

     

     

                “ไม่ได้จะมาขอโทษอะไรตอนนี้หรอก แต่แค่อยากให้นายฟัง

                “ฉันจะไม่คุยกับนายแบบเดิม เราจะไม่เป็นแบบเดิมก็ได้

                “ถ้านายจะเกลียดฉัน โกรธฉัน มันก็สมควรแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

                “แต่ฉันแค่...คิดถึงนาย

     

     

    Cinderella Story

     


    " ข้าวมันไก่ของชานยอล "

     

                หลังซ้อมหลีดให้รุ่นน้องเสร็จ เซฮุนก็เดินกลับบ้านอย่างไม่รีบร้อนเท่าไหร่ รุ่นน้องคนหนึ่งในคณะเชียร์หลีดเดอร์ถามว่าจะให้ไปส่งที่บ้านไหม แต่ก็กลับได้รับคำปฏิเสธจากหัวหน้าเชียร์หลีดเดอร์

                วันนี้เซฮุนขับรถมาเองจึงไม่อยากรบกวนใคร เขาส่งเมสเสสไปหาเจ้าชายหิมะที่มานอนที่บ้าน บอกว่าวันนี้กลับดึกหน่อยแต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะกำลังจะกลับแล้ว

                ขาเรียวก้าวไปตามทางเดินที่ค่อนข้างมืดสลัวข้างสนามฟุตบอลอย่างไม่เกรงกลัวซักนิด เซฮุนค่อนข้างจะชินแล้วกับการกลับดึกแบบนี้ ปกติแล้วช่วงเวลาที่เขาเลิกซ้อมเชียร์มักจะเป็นช่วงเวลาที่นักฟุตบอลของคณะกลับบ้านพอดี แต่ช่วงนี้กลุ่มนักฟุตบอลงดเล่นกีฬา ทำให้บรรยากาศเงียบเหงาลงอยู่บ้าง

                มือเรียวเริ่มควานหาพวงกุญแจเมื่อตัวเองเดินมาถึงรถมินิคูเปอร์สีแดงคันสวย

     

                “ยังไม่กลับบ้านหรอจ้ะ เพื่อนรักแมลงสาบ เสียงเรียกของผู้หญิง ทำให้เซฮุนชะงัก เขาหันไปมองเหวี่ยงไปมองแล้วเหยียดปาก

     

                “ฮิฮิ อยู่คนเดียวซะด้วย เพื่อนรักแมลงสาบนี่เป็นคนดีเนอะ ช่วยแมลงสาบตั้งเยอะแหน่ะ

                กลุ่มผู้หญิงกลุ่มนั้นคือพวกแฟนคลับของชานยอลนี่เอง พวกเธอเดินเข้ามารุมล้อมเซฮุนอยู่ประมาณสี่ห้าคน ทั้งๆที่โดนเซฮุนสั่งสอนไปจนบาดเจ็บขนาดนั้น แต่พวกเธอก็ยังจะกล้ามาพูดจาหาเรื่องใส่เซฮุนอยู่ คนหน้าเรียวกอดอกแล้วมองหน้าคล้ายหาเรื่องกลับ พวกผู้หญิงกลุ่มนี้...ไม่สำนึกสินะ

     

                “พวกเธอมีอะไรกับฉัน โดนไปวันนั้นยังไม่เข็ดใช่ไหม อยากจะโดนอีกหรือไง?

                เซฮุนตวาดแถมมองตาเขียวใส่ผู้หญิงพวกนั้น ซึ่งพวกผู้หญิงกลุ่มนั้นก็มองกลับไปไม่แพ้กัน ผู้หญิงผมบลอนด์คนหนึ่งในกลุ่มยกยิ้มร้ายกาจออกมาก่อนจะเอ่ย

     

                “ทำพวกฉันไว้แสบนะ ถึงพวกฉันจะสู้นายไม่ได้ แต่พวกฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าถ้านายเจอกับผู้ชายเหมือนจะเป็นยังไง คิกคิก จัดการมันเลยมยองซู!!

     

                พวกเธอหลีกให้ผู้ชายสองสามคนเข้ามา หนึ่งในนั้นมีมยองซู อันธพาลแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์

    มยองซูแอบหลงรักเซฮุนมานานแล้ว แต่เหมือนเซฮุนจะไม่เล่นด้วยเลย พอมีคนมาข้อเสนอดีดีพร้อมกับเงิน มยองซูเลือกที่จะไม่ปฏิเสธ ถ้าได้มีอะไรกับคนขาวๆอย่างเซฮุนคงจะทำให้สุขใจไม่น้อยทีเดียว

     

     

                “ให้มันโดนข่มขืนซะบ้างจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร อยุ่ดีไม่ว่าดี ไปช่วยแมลงสาบซะได้” กลุ่มเพื่อนของมยองซูมาจับแขนเซฮุนไว้ คนตัวบางดิ้นสุดแรงเกิดอย่างไม่ยอม

     

                “ปล่อยยยยย ปล่อยยยฉันนะ

                “หืม อะไรนะครับ ? พูดมากจริงเลยนะเซฮุน หยิ่งๆอย่างนาย อยากรู้จังว่าจะครางได้เพราะแค่ไหน

     

                “ปล่อยฉันไปนะ ไอ้โสโครก

                เซฮุนถุยน้ำลายไปเต็มใบหน้าของคนที่ขมขู่เขา มยองซูเช็ดน้ำลายบนใบหน้าของตัวเองอย่างไม่รีบร้อน เขายกยิ้มร้ายที่มุมปากก่อนจะต่อยหนักไปที่หน้าท้องของเซฮุน

     

                อ่อกกก....

               

                เพียงแค่นั้นเซฮุนก็รู้สึกจุกจนทนไม่ไหว เรี่ยวแรงที่ต้องการต่อสู้เริ่มหายไป..

                ประโยคสุดท้ายที่คนตัวบางเอื้อนเอ่ยเป็นเพียงประโยคบางเบาที่ลอยไปตามสายลม

     

                “ชะ ช่วยฉันด้วย

     

     

     

                ปาร์ค ชานยอล เดินกลับเข้ามาที่มหาลัยหลังจากแยกกับพี่แบคฮยอน เขาลืมไปว่าตัวเองตั้งใจจะเอารองเท้าคู่เน่าไปซักเสียที มันคลุกดินจนเลอะไปหมด

                ถ้าเขากลับมาเตะฟุตบอลอีกครั้งอาจจะโดนสายตาของรุ่นพี่เชียร์หลีดเดอร์ที่มักจะเดินผ่านแล้วมองมาคล้ายกับจะบอกว่าเขาสกปรกก็ได้ ไม่รู้ทำไมชานยอลดันแคร์กับสายตาดูถูกนั้นซะมากมาย

                อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ดันลืมเอารองเท้ากลับบ้านไปพร้อมกันด้วย คงเพราะพอเลิกเรียนเขาก็รีบไปหาพี่แบคฮยอนเลย นั่นคือเหตุผลที่คนขายาวต้องย้อนกลับมาในมหาวิทยาลัยอีกครั้ง

     

                “ถ่ายคลิปไว้ด้วยนะ จะเอาไปประจานที่คณะมัน

                “คิก ถ้าแมลงสาบเห็นก็คงดิ้นชักแหง่วๆพอกันเลย

                “หุหุ ชานยอลก็ต้องภูมิใจในพวกเราชัวร์

     

                ประโยคลอยจากด้านหลังกำแพงทำให้ขายาวของชานยอลชะงัก ชื่อของเขาหรอ เกิดอะไรขึ้นน่ะพวกแฟนคลับของเขาคิดจะทำอะไรหรือเปล่านักฟุตบอลตัวสูงรีบวิ่งไปยังเสียงวงล้อมของผู้หญิงพวกนั้น เพื่ออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาใช้แขนดันผู้หญิงพวกนั้นออกไปก่อนดวงตาคมจะเบิกกว้างขึ้นในทันใด

     

                ภาพของเซฮุนกำลังถูกมัดปากโดยผ้าขนหนู เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกกระฉากโยนออกไป ร่องรอยสีแดงประพรมบนผิวคอยาวระหง น้ำตาของของคนร่างโปร่งไหล เขาร้องไห้เพียงแต่ไม่อาจร้องให้ใครช่วยเหลือได้ เมื่อรุ่นพี่ตัวขาวสบตากับชานยอล น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างท่วมท้นกว่าเดิม ภาพของมยองซูที่กำลังจะถอดกางเกงยีนส์อย่างลวกๆ และหญิงสาวพวกนั้นกำลังถ่ายคลิปทำให้คนชานยอลโมโหมาก

     

                “มึง...ไอ้เลว หยุดนะ !!!!!

               

                พลั่กกกกกกกกก

                ชานยอลชกไปยังใบหน้าของมยองซูจนล้มคว่ำ ก่อนจะใช้เท้ากระทืบซี่โครงของคนที่ติดจะปล้ำเซฮุนอยู่อย่างนั้น สติและอารมณ์ของชานยอลขาดผึงในทันที พวกเพื่อนๆเมื่อเห็นว่ามยองซูกำลังโดนซ้อมก็กำลังจะมาช่วย แต่ก็โดนกลุ่มผู้หญิงร้องกรี๊ดห้ามไว้ก่อน

     

                “กรี๊ดดดดดดด พวกนายอย่าทำอะไรชานนยอลนะ

                “ห้ามทำร้ายชานยอลนะ ไม่งั้นฉันไม่จ่ายเงินแน่

     

                พวกผู้หญิงกลุ่มนั้นน้ำตาไหล มยองซูโดนชานยอลต่อยและกระทืบอยู่อย่างนั้น จนสุดท้าย คนตัวสูงก็หายใจแรงเหนื่อยหอบ เค้าปาดเหงื่อที่หน้าผากของตัวเองก่อนจะเดินมาหากลุ่มพวกผู้หญิงด้วยสายตาน่ากลัว

     

                “พวกเธอคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะชอบพวกเธอหรือไง

                “ฉันยอมไม่มีแฟนคลับแต่ทำแบบนี้ยังจะดีซะกว่า จำไว้ ถ้าคราวหน้าพวกเธอมาทักทายฉันไม่เล่นกับพวกเธออีกแล้ว

                ออกไป ออกไปซะ!!!

     

              พอโดนสายตาและคำพูดแบบนั้น กลุ่มแฟนคลับของชานยอลก็ร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม พวกเธอค่อยๆเดินถอยหลังออกไปพร้อมกับใจที่หวาดกลัวในคนที่ตัวเองปลื้ม ชานยอลในตอนนี้ไม่ขี้เล่นเลยซักนิด แววตาเขามีแต่ความน่ากลัวและน่าเกรงขาม พวกกลุ่มของมยองซูก็เช่นกัน พวกเขารีบแบกมยองซูที่สภาพตาบวมช้ำ เสื้อยับยู่ยี่เต็มไปด้วยคราบเลือดออกไปอย่างรวดเร็ว สภาพของมยองซูที่โดนชานยอลอัดในตอนนี้ดูไม่ได้เลย

                พอชานยอลไล่พวกคนที่มารังแกเซฮุนออกไปแล้ว คนตัวสูงก็กลับมามองหน้าของเซฮุนที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง มือหนาหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นมา ก่อนจะบรรจงสวมให้เซฮุนอย่างอ่อนโยน จากนั้นค่อยติดกระดุมให้เซฮุนทีละเม็ด ทีละเม็ด

     

     

                รุ่นน้องก้มหน้าเม้มปาก ใช้นิ้วหนาเกลี่ยน้ำในตาตนเอง เขาเสียใจที่ต้องมีคนโดนทำร้ายเพราะเขา เป็นอีกครั้งที่เขาปกป้องใครไม่ได้เลย ชานยอลก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าพยายามยิ้มกว้างให้กับรุ่นพี่ตัวขาวแล้วมือนั้นเช็ดน้ำตาให้เซฮุนแทน

     

                “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้วนะเซฮุน

     

     

     

              เพี๊ยยยยยยะ!!!

     

                ใบหน้าของชานยอลหันข้างไปตามแรงกระทบนั้นอีกครั้ง อีกครั้งที่เขาโดนตบจากรุ่นพี่ตัวขาว เซฮุนปากสั่น มือสั่น มองหน้าชานยอลอย่างน้ำตาคลอ มือน้อยค่อยๆยกขึ้นมากำหมัดแล้วทุบไปอย่างแรง เซฮุนทุบ ทุบอกชานยอลอยู่อย่างนั้น ทุบจนสุดท้ายชานยอลต้องหยุดการกระทำของรุ่นพี่ด้วยการสวมกอด

                รุ่นพี่โอเซฮุนยังคงทุบต่อไปด้วยน้ำตาที่ไหลริน

     

                “ฮึก ไอ้บ้า ไอ้ชานยอลบ้า ฮืออออออออ ทำไม ทำไมมึงไม่มาช่วยกูพรุ่งนี้เลยละ

                “ฮืออออ ไอ้ควาย ทำไมมึงไม่มาหากูพรุ่งนี้เลยยยยย!!!!

     

                สรพพนามกูมึงที่เอ่ยออกมาจากปากเซฮุน บ่งบอกได้ดีว่าเขาโกรธมากแค่ไหน เขากลัวมากแค่ไหน เซฮุนร้องไห้หนักกว่าเดิม เขาใช้ไหล่ของชานยอลเป็นที่ซับน้ำตา เสื้อของชานยอลเปียกไปด้วยเหงื่อของรุ่นน้องและหยาดน้ำที่ไหลมาจากดวงตาของเซฮุน

     

                “อย่าร้องไห้สิ น้องเซฮุนคนสวยต้องยิ้มเยอะๆนะ เข้าใจไหม?

                “ฮึก ฮือออออ กูบอกแล้วใช่ไหมว่ากูไม่ใช่น้องมึง

     

                คนตัวโตที่โอบกอดเซฮุนไว้อย่างอบอุ่นยิ้มบางออกมา

     

                อีกมุมหนึ่งที่ชานยอลไม่เคยเห็น คือมุมที่พี่เซฮุนอ่อนแอ

                มุมที่ไม่ได้มีใบหน้าอันเรียบเฉยและดูเหวี่ยงวีน มุมที่แทบจะไม่มีใครรู้เลย โอ เซฮุนไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น รุ่นพี่คนนี้ยังต้องการคนดูแลอยู่ดี คนตัวสูงรู้สึกแปลกที่ตนเองได้มีโอกาสรับรู้มุมมองเหล่านี้

                ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คงเพราะแสงไฟอ่อนๆในตอนกลางคืนที่กระทบไปยังใบหน้าขาวเปื้อนน้ำตาของเซฮุน คงเพราะหัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะแทบบ้าตอนเห็นเซฮุนโดนทำร้าย หรือคงเพราะพี่เซฮุนกอดเขาคล้ายกับว่าไม่อยากให้เขาไปไหน คล้ายกับว่าขอบคุณมากเหลือเกินที่ชานยอลผ่านมาทางนั้นพอดี

                ชานยอลคิดว่าท่าทางเหล่านั้น .. มันน่ารักดีเหมือนกัน...

     

                “พี่ ชอบกินอะไรครับ

                “ฮือออออ อะไรของนายเล่า

     

                เซฮุนน้ำตาไหล กัดปากมองหน้าคนที่ยิ้มกว้างมาให้ตัวเอง น้ำตาของเขามันไม่หยุดไหลซักที ยิ่งมาพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ น้ำตามันก็ยิ่งไหล

                มันใช่เวลาไหม ไอ้เด็กบ้าชานยอล!

     

                “บอกหน่อยนะ ชอบกินอะไร?

                “ชอบกินก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ผัดไทยด้วย ฮึก ฮือออออ

                “จะมาถามทำไมตอนนี้เล่า กูหิวว ไอ้บ้า

     

     

                “ฮ่าๆ มันอ้วนนะ ทำไมพี่ถึงผอมละ

                ชานยอลคลายอ้อมกอดออกมาแล้วยิ้มกว้างจนเห็นฟันสามสิบสองซี่ เซฮุนเบะปากคล้ายจะร้องไห้อีกครั้ง

     

     

                “โอ๋ ๆ อย่าร้องนะ ฮ่าๆ ผมก็ชอบกินเหมือนกัน เดี๋ยววันนี้จะซื้อให้กินนะ

     

     

                ชานยอลใช้ไหล่หนาของตนเองให้เซฮุนซบอยู่อย่างนั้น คนอะไร ชอบกินอาหารที่เขาชอบทั้งนั้นเลยนี่นา

                ไม่รู้ว่าชานยอลค้นพบคนที่เป็น ข้าวมันไก่ของตัวเองแล้ว

                หรือบางที พริกแสบๆของพี่เซฮุน อาจจะเป็นรสชาติน้ำซุปที่เขาตามหานานก็ได้

     

     

                ชานยอลจูบเบาๆไปที่ขมับของรุ่นพี่คล้ายกับต้องการปลอบโยน วันนี้พี่เซฮุนไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ ยังไงวันนี้ผมก็มาช่วยพี่แล้ว แล้วผมก็จะไม่ขี้เล่นมากเกินไปกับคนอื่นจนทำให้ใครต้องเป็นอันตรายอีกแล้ว

                คนตัวสูงยกมือหนาลูบหัวให้เซฮุนอยู่เนิ่นนานพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นดังคงที่ บ่งบอกว่าเขาจะสามารถเป็นที่พึ่งให้กับเซฮุนได้แน่นอน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×