คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 5
CHAPTER 5
Just when I felt like giving up on us, you turned around and gave me one last touch
That made everything feel better and even then my eyes got wetter
เมื่อตอนที่ฉันรู้สึกเหมือนอยากยอมแพ้เรื่องของเรา, เธอหันหลังกลับมาสัมผัสฉันเป็นครั้งสุดท้าย
ซึ่งมันทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แม้หลังจากนั้นภายในดวงตาของฉันต้องร้องไห้ออกมา
โอ เซฮุนในตอนนี้กำลังสั่งให้รุ่นน้องหลีดเดอร์ไปวิ่งรอบสนาม เขาก้าวขาเดินผ่านลู่วิ่งเพื่อไปยังอีกฝั่งพร้อมกับหน้านิ่งคิ้วขมวด แบคฮยอนเดินไปซื้อชานมไข่มุกนานเกินไป หรือบางทีเพื่อนรักอาจจะแอบไปนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวก็ได้ แต่สนามฟุตบอลที่นี่กว้างมาก และฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว เซฮุนเริ่มกลัวว่าแบคฮยอนจะเป็นอะไรหรือเปล่า
“ สมน้ำหน้า ไอ้แมลงสาบเนอะ ฮิฮิ เลือดอาบเลย ฉันหวังว่ามันคงไม่ตาย”
“ คิก ว้า เสียดายนะ มันคงอดกินชานมไข่มุกเลย “
เสียงของกลุ่มนักศึกษาหญิงที่เดินสวนมาทำให้โอเซฮุนสะดุดเดิน แค่คำว่า ”แมลงสาบ” เขาก็รู้แล้วว่าหมายถึงใคร แขนของผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มถูกกระชากและบีบอย่างแรงจนเธอต้องร้องออกมา
“เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ!!!”
“พวกเธอทำอะไรแบคฮยอนรึเปล่า?”
ก่อนที่อารมณ์โกรธของเซฮุนจะทำให้เจ้าตัวทำอะไรไปมากกว่านี้ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นซะก่อน หน้าจอปรากฏเบอร์ของเพื่อนรักตัวเล็กของเขา นิ้วยาวจึงรีบกดรับในทันที..
โอเซฮุนขมวดคิ้วอีกครั้ง เมื่อเสียงปลายสายกลับกลายเป็นเสียงของพี่ลู่หาน
ปากสีอ่อนเม้มเข้าหากันอย่างอดกลั้น ก่อนใช้สายตาจิกไปยังกลุ่มหญิงสาวพวกนั้นอย่างโกรธแค้น
เมื่อพี่ลู่หานวางสายไป โอเซฮุนก็ต่อสายอีกครั้งไปยังเพื่อนรักอีกหนึ่งคน
“คยองซู นายอยู่ที่คอนโดใช่ไหม เดี๋ยวออกมาเจอฉันหน่อยที่ข้างสนามบอล ฝั่งตึก Aนะ” มือสวยกดวางสายอีกครั้งอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินเข้ามากระชากผมของผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งพร้อมกับใช้โทรศัพท์เครื่องหรูตบไปยังใบหน้าของผู้หญิงผมบลอนด์คนหนึ่งในกลุ่มอย่างเต็มแรง
“ โอ้ยยยยยยยยยยยย!!! “
“ ฉันจำหน้าพวกเธอได้ทั้งหมด พวกเธอเจอดีแน่!”
Cinderella Story
เสียงหัวเราะครืนประกอบกับเสียงโวยวายของกลุ่มนักบอลคณะบ่งบอกได้ดีว่าวันนี้พวกเขาเตะฟุตบอลกันอย่างมีความสุข “ปาร์ค ชานยอล” เด็กหนุ่มที่รุ่นพี่ปีสี่กำลังเล็งให้เป็นกัปตันทีมคนต่อไปใช้ผ้าคนหนูซับเหงื่อตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มละลายใจ ระหว่างทางเดินกลับบ้านพร้อมรุ่นพี่คนอื่นๆ ดวงตาคมก็เหลือบไปเห็นใบหน้าเรียวขาวเด่นที่เดินเข้ามา..
รอยยิ้มขี้เล่นของเด็กหนุ่มเดือนคณะจึงปรากฏกว้างกว่าเดิม
“ สวัสสดีคร้าบบบ น้องโอ เซฮุน จะไปไหนหรอ เดินหน้ามุ่ยมาเชียว ไม่หล่อนะค้าบ”
“ ฮิ้ววววววววววววววว” เสียงแซวของนักบอลรุ่นพี่ที่อยู่ปีเดียวกันกับเซฮุนดังขึ้นมาสมทบตามแบบฉบับ
“ ฉันไม่ใช่น้องนาย ช่วยให้ความเคารพด้วย” เซฮุนตอบเสียงเย็น ใบหน้าของเขาไม่ยิ้มเลยซักนิด
“ เรามีเรื่องต้องคุยกัน นายจะคุยกับฉันสองคน หรือจะคุยต่อหน้ากลุ่มพวกบ้านี่”
โอเซฮุนกัดฟันพูด แววตาไม่สบอารมณ์บ่งบอกถึงความหงุดหงิดในใจ เขาพยายามอดกลั้นอารมณ์ของตนเองให้มากที่สุด
“ โอ้โฮฮววว อื้อหือ มีเรื่องต้องคุยกันซะด้วย สองคนนี้มีอะไร ซัมติงกันหรือเปล่าเอ่ย คิคิคิคิ “ พี่ๆนักบอลปีสามยังคงแซวไม่หยุดหย่อน ชานยอลหัวเราะออกมาดังก้องแล้วแกล้งตีไหล่รุ่นพี่ที่เตะบอลด้วยกัน ก่อนจะบิดตัวทำท่าเขินอาย
“ ก็คุยที่นี่ก็ได้นะครับ เดี๋ยวคนเค้าจะคิดกันไปไกล ฮ๊า”
นักบอลรุ่นน้องยักคิ้ว ขยิบตาให้เซฮุน ก่อนจะใช้มือไปหยิกเบาๆที่แก้มขาวนิ่มของรุ่นพี่
“ นี่ ยิ้มโหน่ยสิ “
“พี่เป็นอย่างนี้ตลอดเลยนะ ไม่เล่นกับผมเลย เพื่อนรักของแฟนในอนาคตผมไม่ยิ้มแบบนี้ โลกหดหู่จัง ฮื้อออ น้ำตาจะไหลขอแชร์นะค้าบ ผมว่าถ้าพี่ยิ้มบ่อยๆแบบพี่แบคฮยอน เผลอๆพี่จะน่ารักกว่าเขาอีกน้า ”
โอ เซฮุน ปัดมือหนาที่โชยไปด้วยกลิ่นเหงื่อออกอย่างไม่ใยดี เขาไม่ชอบสัมผัสที่ทีเล่นทีจริงแบบนั้น
ปาร์ค ชานยอล อาจจะเป็นผู้ชายที่ขี้เล่น เด็กหนุ่มคนนี้อาจจะมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ทำให้โลกสดใส คนอื่นๆอาจจะหลงรักในความร่าเริงของเขา แต่ไม่ใช่สำหรับรุ่นพี่ที่ชอบความมั่นคงอย่างโอเซฮุน การกระทำของรุ่นน้องตัวโตที่แสดงออกเหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกล้วนเป็นเรื่องขำขัน ทำให้เซฮุนที่พยายามข่มอารมณ์ไว้ ควบคุมไม่ได้อีกต่อไป มือบางกำเข้าหากันจนแน่น
ไม่รู้จะสรรหาคำเรียกไหนให้ชานยอลได้อีก นอกจากคำว่า “ตลกไม่รู้เวล่ำเวลา..”
เพี๊ยยยยยะ !!!
ฝ่ามือของโอเซฮุนกระทบดังไปทั่วสนาม รุ่นพี่ร่างบางไม่คิดยั้งมือเลยซักนิด ชานยอลหน้าหันไปพร้อมแรงตบ เสียงเงียบกริบเกิดขึ้นไปทั้งกลุ่มนักฟุตบอล ทุกคนตกใจจนไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา
รุ่นพี่ร่างบางในตอนนี้น้ำตาคลอเบ้า น้ำเสียงและท่าทางที่พูดทำให้ทุกคนหวาดกลัว
“ที่ฉันไม่ยิ้มเพราะฉันเกลียดความขี้เล่นของนายที่สุด “
“นายรู้รึเปล่าว่าเมื่อตอนเย็นแบคฮยอนโดนแฟนคลับนายรุม หรือนายมัวแต่เล่นฟุตบอลจนไม่สนใจ“
“ ปาร์ค ชานยอล ได้ข่าวว่าจะได้เป็นกัปตันทีมฟุตบอลในอนาคต แต่เรื่องแค่นี้ยังไม่รู้และไม่คิดจะสนใจเลยซักนิด ถ้านายตั้งใจจะดูแลเพื่อนฉันจริง นายควรปกป้องเขาให้ได้มากกว่านี้ ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าคิดเลย ”
“ ฉันจะให้โอกาสนายดูแลแบคฮยอนอีกครั้งแต่นายก็ควรกลับไปคิดเองแล้วกัน ว่านายจะไม่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดอีก แบคฮยอนไม่ไม่ได้เป็นคนเข้มแข็งอย่างที่นายคิดหรอกนะ นายลองทบทวนตัวเองด้วย นายรักความใจดีของเขาเพราะนายคงคิดว่าเขาจะดูแลนายได้ บางทีในสายตาฉัน นายอาจจะเป็นแค่คนที่ไม่รู้จักโต !!! “
“ถ้านายไม่มีความรับผิดชอบพอ ก็อย่าคิดจะไปรักใครเลย!! “ รุ่นพี่ร่างบางเดินจากไปพร้อมกับปาร์คชานยอลที่ก้มหน้าลงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สีหน้าของเขาดูไม่ดีเอาเสียเลย ใบหน้ารุ่นน้องไม่ปรากฏรอยยิ้มอีกต่อไป
พี่แบคฮยอนต้องเจ็บ หากแต่เขาไม่รู้อะไรเลย.... มันจริงอย่างที่พี่เซฮุนพูดจริงๆ
Cinderella Story
“ ฉันจะไม่พูดอะไรมาก แต่พวกแกอย่าเสนอหน้ามาทำร้ายแบคฮยอนอีก“
“ เพื่อนฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าความอิจฉาริษยาทำให้พวกเธอเป็นแบบนี้ บางทีพวกเธอก็สมควรได้รับสิ่งที่ทำลงไป..”
โอ เซฮุน รุ่นพี่ปีสามหัวหน้าเชียร์หลีดเดอร์ยืนกอดอกพร้อมกับมองพวกผู้หญิงเหล่านั้นที่คุกเข่าเรียงอยู่ตรงหน้า โด คยองซู เองก็กอดอกมองอย่างหยามเหยียดไม่แพ้กัน
“ จัดการเลยไหมคะรุ่นพี่ “
“ อื้ม เอาให้ได้รับบทเรียนเลยนะ”
“ นี่ถือว่าฉันปราณีพวกเธอแล้ว “
“ ฉันหวังว่าพวกเธอคงจะจำและไม่ทำอีก”
หัวหน้าเชียร์หลีดเดอร์ คือตำแหน่งที่โอ เซฮุนได้รับ การฝึกรุ่นน้องเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เพราะเขาต้องกลายเป็นคนที่ตรงต่อเวลาและสั่งรุ่นน้องให้ทำตามอย่างไม่มีการผ่อนปรน แต่นั่นทำให้เชียร์หลีดเดอร์ของคณะนิเทศศาสตร์ ถือเป็นกลุ่มที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่ง พวกคนเหล่านี้หน้าตาดีและมีอิทธิพลในการจัดการเรื่องต่างๆอย่างง่ายดาย
ที่จริงเซฮุนไม่เคยใช้ตำแหน่งของตัวเองไปทำร้ายหรือระรานใคร...นอกเสียจากว่า...จะมีใครมาทำร้ายเขาหรือเพื่อนรักของเขาเสียก่อน...
Cinderella Story
น้องหลับไปแล้ว..
ลู่หานนั่งยองลงข้างเตียงแล้วก้มพิจารณาใบหน้าของแบคฮยอนใกล้ๆ ใบหน้าเรียวเล็กสีซีดขาวพร้อมกับรอยน้ำตาที่ยังเปรื้อนเกรอะกรัง เขาพาแบคฮยอนมาทำแผลให้เรียบร้อยก่อนน้องชายตัวเล็กจะเพลียหลับไปในห้องนอนของเขา
ลมหายใจเข้าออกที่ดังสม่ำเสมอบ่งบอกแบคฮยอนหลับลึกมาก เสียงครางหงิงคล้ายลูกหมาทำให้ลู่หานอดส่ายหน้าไม่ได้
กว่าร่างบางขี้แยตรงหน้าจะหลับตาลงได้ ใช้เวลานานพอสมควร..
“ทำไมไม่นอน? “ ลู่หานเอ่ยถามเมื่อแบคฮยอนยังคงหันข้างนอนบนเตียงมองหน้าเขาที่นั่งอยู่ตรงโซฟาอ่านหนังสือ
“ ผมกลัว ..”
“ กลัวตื่นมาแล้วพี่จะหายไป “ ประโยคหลังถูกเอ่ยขึ้นเสียงค่อยแต่ในห้องนอนมีกันเพียงสองคนทำให้พี่ชายได้ยินชัดเจน
“อย่างี่เง่า นอนเถอะ ฉันไม่ได้ไปไหน..”
พอเจอลู่หานทำหน้าดุใส่เข้าหน่อยแบคฮยอนก็หลับตาปี๋ ซักพักผ่านไปไม่ถึงห้านาทีคนตัวเล็กก็หลับไปอย่างง่ายดายด้วยความอ่อนพลีย
ลู่หานพลิกฝ่ามือของน้องชายเพื่อสำรวจเพื่อสำรวจดู แบคฮยอนเป็นคนมือเล็ก แถมยังมีนิ้วมือคล้ายผู้หญิง มือหนาจับมือของน้องชายเอาไว้แน่น สายตาของกวางหนุ่มหม่นลงเพราะเห็นว่ามือของคนตัวเล็กเต็มไปด้วยความหยาบกร้าน น่าเสียดายที่มันต้องกลายเป็นแบบนี้
เรื่องนั้นเขารู้ดีที่สุด..แบคฮยอนเป็นคนทำงานหนัก น้องชายทำงานบ้านด้วยตัวเองตั้งแต่เขายังไม่กลับมาจากต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยเหลือแม่นมและคนอื่นๆในบ้านอย่างดีจนกลายเป็นที่รัก อย่างไรก็ตามลู่หานก็อดคิดไม่ได้ว่าน้องต้องอยู่คนเดียวมาตลอดโดยไม่มีคนในครอบครัวดูแล คงจะเหงาน่าดู
บางทีเขาควรชดเชยสิ่งเหล่านี้ให้น้องบ้างซักครั้ง..
คนเป็นพี่ยกมือขึ้นอีกข้างแล้วแนบไปที่แก้มของน้องชายเพื่อให้ไออุ่น เขาคิดถึงจมูกรั้นที่เชิดขึ้นพร้อมกับดวงตาเรียวเล็กที่จ้องมองเขาเวลาที่ขัดใจกัน
ไอ้ตัวเล็ก...นายชอบทำเหมือนตัวเองเข้มแข็งทั้งที่ตัวเองก็อ่อนแอนะตาย
พี่ชายผมทองถอนหายใจอีกครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้คนลู่หานสับสนในตัวเองมาก
จริงอยู่ที่เขาอยากให้แบคฮยอนเกลียดเขา...แต่พอเห็นว่าน้องโดนคนอื่นทำร้ายจิตใจมากเหลือเกิน การที่น้องจะต้องโดนเขาแสดงท่าทีรังเกียจอีกมันจะเป็นการทำร้ายน้องมากเกินไปหรือเปล่า เขาทำให้น้องต้องเสียใจมากเกินไปไหม
แล้วถ้าน้องหมดหวังในตัวเขาจริงๆ เขาจะทำใจยอมรับมันได้หรือเปล่า ลู่หานเองก็ยังไม่รู้เลย..
“แบคฮยอน ถ้าพี่ไม่ไปหานายจะเกิดอะไรขึ้น นายต้องรู้จักสู้กับคนอื่นสิ พี่ดูแลนายตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะ เพราะนายเป็นคนใจดี นายใจดีกับทุกคนเกินไป และนั่นจะทำให้นายเจ็บและถูกทำร้ายตลอด “
“นายเข้าใจพี่ใช่ไหม?”
คนผมทองก้มกระซิบไปที่ข้างหูของน้องชายแล้วค่อยๆเลื่อนสัมผัสออกมาปัดผมม้าของแบคฮยอนอย่างเบามือ แบคฮยอนพลิกตัวไปอีกข้าง คิ้วบางขมวดคิ้วคล้ายกับว่าตัวเองรำคาญเสียงของลู่หาน
พี่ชายมองภาพนั้นแล้วยิ้มบางก่อนห่มผ้าให้แบคฮยอนแล้วลุกยืนขึ้น..
มือหนาเอื้อมหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดต่อสายไปยังคนที่อยู่ต่างประเทศ บางทีแค่เขาคนเดียวอาจจะดูแลแบคฮยอนได้ไม่ดีพอ..ภาษาอังกฤษคือภาษาที่ทั้งสองคนใช้สื่อสารกัน
“ Business issue? “
“ No,just my personal case “
Cinderella Story
หรือเธอคืออุบัติเหตุที่เฝ้ารอเวลาที่จะเกิดขึ้นกับฉัน เหมือนดังคืนและวัน เกิดขึ้นซ้ำเช่นนี้..
คยองซูเดินกลับคอนโดด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย เขาใช้พลังงานไปกับการจัดการผู้หญิงพวกนั้น แต่เซฮุนดูเหมือนจะเหนื่อยมากกว่าเขาหลายเท่า คนตัวเล็กตาโตเดินไปตามทางพร้อมกับใช้มือขยี้ผมตัวเองไปมา
เครียดจัง..ทำไมแบคฮยอนต้องมาเจอเรื่องพวกนี้ด้วย โชคดีนะที่พี่ลู่หานพากลับบ้านไปแล้ว
คยองซูมองไปบนท้องฟ้า ปกติเวลาเขามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ หรือเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนเขา คนที่จะคอยปลอบหรือให้คำปรึกษาก็คือ คิมจงอิน
“บ้า.. ฉันจะไปคิดถึงไอ้เลวนั่นทำไมวะ” คนตัวเล็กบอกกับตัวเอง พร้อมกับความทรงจำที่ย้อนกลับมาคล้ายกับการนั่งไทม์แมชชีนอีกครั้ง คยองซูก้มลงมองพื้นอย่างเหม่อลอย
“อย่าทิ้งฉันไปได้ไหม “
“ฉันทำอะไรผิดหรอจงอิน ฉันแย่ตรงไหน นายแค่บอกฉันมา ฉันจะปรับปรุงตัวเอง ฉันสัญญา ฉันจะไม่ทำอะไรให้นายรู้สึกแย่อีก ” น้ำตาไหลลงมาจนชุ่มเต็มหลังของคนตัวสูง ความเจ็บปวดทุกอย่างคือสิ่งที่คอยย้ำเตือนได้ดี
“นายไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิด ก็คงเป็นเพราะนายรักฉัน ..”
“ฮึกก ทำไมละ จงอิน ช่วยบอกเหตุผลหน่อยได้ไหม “
“เอาง่ายๆเลยนะ คยองซู ฉันไม่ได้รักนายแล้ว ปล่อยฉันไปซะ “
แขนเล็กๆที่โอบกอดค่อยๆผ่อนคลายลง โด คยองซูยังจำภาพแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไปไม่คิดจะหวนกลับมาได้ดี
นั่นสินะ...เขาลืมเหตุผลของคิม จงอินไปได้อย่างไร ..เหตุผลที่แสนจะงี่เง่า
แต่มันคือเหตุผลที่ทำลายความรักอันแสนเปราะบางอย่างง่ายดาย
Cinderella Story
เปลือกตาบางค่อยขยับขึ้น พร้อมกับความรู้สึกอุ่นที่สัมผัสได้ว่ามีใครบางคนจับมืออยู่ แบคฮยอนตื่นแล้ว แต่คนที่นอนกุมมืออยู่ข้างๆยังไม่ตื่น พี่ลู่หานไม่ได้มานอนบนเตียงแต่เขาเลือกที่จะนั่งจับมือแบคฮยอนไว้ทั้งคืน
แบคฮยอนมองหน้าของลู่หานแล้วรู้สึกดีใจ คนตัวเล็กยิ้มบางออกมา พี่เขาไม่ได้หายไปอย่างที่เราคิดจริงๆด้วย
คนตัวเล็กนอนมองหน้าของลู่หานอยู่นานจนเสียงหัวเราะขำคิกดังขึ้นมาแล้วก็ต้องรีบเอามือไปปิดปากตัวเอง นั่นคงเพราะคิ้วของพี่ลู่หานยังขมวดตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนหลับตา สีหน้ายังดูเคร่งเครียดเหมือนเดิม...
ทำไมตอนนอนถึงน่ารักขนาดนี้นะ และมองกี่ที่ๆ ทำไมขนตาพี่ชายก็ยาวกว่าของแบคฮยอนอีกละเนี่ย เปลือกตาหนาของลู่หานขยับขึ้นเล็กน้อยก่อนมือของหนาจะค่อยๆเลื่อนออกมาจากการกอบกุม แบคฮยอนรีบหลับตาลงเพราะกลัวว่าพี่เขาจะรู้ว่าแบคฮยอนแอบนอนมองอยู่ตั้งนาน
“จะแกล้งหลับตาทำไม ฉันรู้ว่านายตื่นแล้ว “ โธ่ ! ทำอะไรก็รู้ไปซะหมด แบคฮยอนจำใจลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเห็นคนบางคนนั่งกอดอกส่ายหน้าอยู่ แก้มชมพูใสปรากฏสีขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เสียงเล็กๆจึงเอ่ยถาม
“พี่ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยหรอครับ “
“หลับๆ ตื่นๆ เดี๋ยวไปอาบน้ำซะ วันนี้นายต้องออกไปข้างนอกกับฉัน...”
Cinderella Story
เพราะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ทำให้ห้างสรรพสินค้าเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ลู่หานในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าสบายตาและกางเกงสีดำสามส่วนเดินนำแบคฮยอนไป หากแต่พอก้าวขาไปได้ซักพักก็ต้องหันกลับมามองด้วยสายตาตำหนิบ่อยๆ น้องเดินช้าเกินไป มัวแต่มองร้านค้าอยู่ได้
“ไม่เคยมาหรือไง ห้างน่ะ ทำตัวยังกะบ้านนอกเข้ากรุง” เสียงทุ้มเอ็ดไปพลางคิ้วขมวดเข้าหากัน
“ก็ไม่ค่อยได้มาหรอกครับ มีบ้างมาทานไอติมกับเซฮุน แต่ปรกติผมไปแต่ซุปเปอร์แถวบ้าน แค่ซื้อของสดมาทำกับข้าวเท่านั้น ส่วนเสื้อผ้าที่ใช้ก็ใช้แต่ของเหลือจากพี่ที่อยู่เมืองนอก...”
แบคฮยอนก้มหน้าลงแล้วตอบอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก ลู่หานมองไปยังเสื้อผ้าที่น้องสวมใส่ จริงสินะ น้องใส่แต่เสื้อผ้าเขาทั้งนั้น ซึ่งเสื้อบางตัวก็ใหญ่เกินไปจนทำให้แบคฮยอนเหมือนคนแต่งชุดฮิปฮอป
มองไปมองมา คนตัวเล็กนี่เหมือนซินเดอเรลล่าเลยนะ โดนพี่เลี้ยงใจร้ายอย่างเขาแกล้งเนี่ย
“เดี๋ยวฉันจะซื้อเสื้อให้ใหม่แล้วกัน ไปซ่อมกล้องกันก่อน แล้วฉันจะซื้อมือถือให้นายใหม่ด้วย จะได้ใช้โปรแกรมตามตัวนายได้”
“อ้อ แล้วอย่าลืมเตือนฉันเรื่องครีมทามือกับของใช้ส่วนตัวนายด้วย”
ทำไมวันนี้พี่ลู่หานใจดีมากกว่าปกติ..หรือพี่เขาจะกินอะไรผิดแปลกไปนะ
“เอ่อ พี่ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ ไปหาหมอกับผมไหม“
“หึ ฉันสบายดี และสิ่งมีชีวิตที่ฉันไม่ชอบรองต่อจากนายคือ คุณหมอ เข้าใจไว้ด้วย“
ลู่หานอมยิ้มกับความไร้สาระของแบคฮยอน ก่อนจะดีดไปยังกลางหน้าผากเล็ก แม้ประโยคที่เอ่ยจะมีใจความต้องการบอกว่าไม่ชอบแบคฮยอน แต่แบคฮยอนทราบดีว่ามันเป็นเพียงการล้อเล่นเท่านั้น ร่างบางมองภาพนั้นแล้วน้ำตารื้น ก่อนจะยิ้มกว้างจนตาขีดเป็นเส้นตรง
พี่เค้ายิ้ม ....พี่ลู่หานเค้ายิ้มให้เราจริงๆด้วย แบคฮยอนอยากจะดึงแก้มตัวเองเพื่อทดสอบว่าไม่ได้ฝันไป
“แล้วเป็นอะไร? ฉันว่านายแหละควรจะไปหาหมอโรคจิตไหม ดึงแก้มเหมือนคนบ้า“
ลู่หานส่ายหน้า แกล้งตีหน้าเฉย จากนั้นมือใหญ่ก็ยกขึ้นไปดึงแก้มตุ่ยๆของแบคฮยอนแทนจนน้องชายต้องร้องออกมา
“อะ โอ้ยย”
“ทีนี้ นายก็เดินตามฉันมาเร็วๆได้แล้ว ฉันไม่อยากจะเสียเวลามาก ”
แบคฮยอนมองตามหลังกว้างนั้นไป รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าจนปิดไม่อยู่
พี่ลู่ หาน คือคนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของแบคฮยอนมากเกินไป
หากแค่เพียงพี่เขาใจร้าย หัวใจแบคฮยอนก็แทบจะแหลกเป็นเสี่ยงๆ
และแม้แค่การทำดีเล็กๆน้อยๆ แบคฮยอนก็ดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ขาเล็กรีบวิ่งตามไปเมื่อเห็นพี่ชายหยุดเดินและกำลังจะหันหลังกลับมา คาดว่าถ้ารู้ว่าเขายังไม่ตามมาก็คงจะใช้สายตาดุเหมือนเคย
ในตอนนี้ แบคฮยอนรู้สึกว่าเขาได้รับน้ำบางอย่างล่อเลี้ยงหัวใจ
แบคฮยอนอยากให้พี่ชายเป็นแบบนี้ตลอดไปจัง...
Cinderella Story
“ฉันจะอณุญาตแค่วันนี้วันเดียว ถ้าวันอื่นนายมาที่นี่แล้วไม่กินถั่วงอก ฉันจะรู้ได้ทันที เพราะฉันสั่งคุณป้าร้านราเมนให้รายงานฉันไว้แล้ว”
ลู่หานช่วยแบคฮยอนคีบถั่วงอกออกให้ คนเป็นน้องหลงดีใจเพียงแปปเดียว แต่พอรู้ว่าอนาคตเขาก็หนีถั่วงอกไม่พ้นทำให้ใบหน้าเล็กยู่ลงอีกครั้ง ไม่ชอบถั่วงอกเลย ให้ตายเถอะ!
“แล้วโชยุน่ะ จะใส่ไปทำไมเยอะแยะ เค้าต้องทานน้ำซุปแบบนี้แหละ ถึงจะอร่อย ” ลู่หานดึงขวดออกมาแล้วเอามาไว้ฝั่งตัวเอง แบคฮยอนมองภาพนั้นแล้วก็อ้าปากค้าง เขาชอบกินราเมนใส่โชยุเยอะๆนี่นา
“แล้วให้เวลากินครึ่งชั่วโมง ถ้ายังคีบบะหมี่เล่นแบบนี้อีกละก็....”
“ฉันยีหัวนายแน่” ไม่ใช่ลู่หานหรอกที่พูดประโยคนี้ แต่มันเป็นเสียงเล็กของคนตรงข้ามที่เอ่ยออกมา คนตัวเล็กจงใจจะล้อเลียนท่าทางของพี่ชาย
ลู่หานมองไปที่ใบหน้าของแบคฮยอนที่ยิ้มกว้างมาให้ตนเอง กล้าเล่นกับเขาด้วยหรอเนี่ย...คนอายุมากกว่าตีหน้านิ่งคิ้วขมวดแล้วจับตะเกียบขึ้นมาทำท่าจะใช้มันจิ้มตาของน้องชาย แบคฮยอนหัวเราะออกมาเพียงเล็กน้อย ก่อนพี่ชายจะสั่งให้นั่งทานดีดี จากนั้นพวกเขาจึงลงมือทานราเมนเงียบๆกันต่อไป....
หลังจากทานอาหารด้วยกันเสร็จ พี่เลี้ยงจอมดุบอกให้แบคฮยอนนั่งรอที่ลานน้ำพุหน้าห้าง เจ้าตัวบอกว่าจะเดินไปเอาถุงเสื้อผ้าที่ตนเองฝากไว้กับร้านแล้วจะขับรถกลับบ้านด้วยกัน น้องชายตัวเล็กนั่งมองสายน้ำที่พุ่งออกมาจากรูปปั้นกามเทพสีขาวแล้วคิดอะไรเพลินๆอยู่คนเดียว..
วันนี้พี่ชายใจดีจัง รู้สึกว่าอีกนิดเดียวพี่เค้าก็จะกลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว
มันน่าแปลก..ต่อให้พี่เค้าจะทำร้ายแบคฮยอนมากกว่านี้ แบคฮยอนก็ไม่อยากหมดหวังและทอดทิ้งพี่ชายอีกเลย
หลังจากนั่งรออยู่นาน แบคฮยอนจึงลองมองหาพี่ชายไปทั่วลานน้ำพุ หายไปไหนกันนะ ทำไมพี่เค้ามาช้าจัง ดวงตาเรียวเล็กลุกยืนขึ้นตั้งใจจะลองเดินไปร้านเสื้อที่พวกเค้าเข้าไปเลือกซื้อก่อนหน้านี้ แต่แล้วแขนเล็กก็ถูกใครคนหนึ่งดึงไว้ก่อน
“ พี่ครับ...”
“ ชานยอล !”
ที่ลานน้ำพุปรากฏร่างของคนตัวสูงและคนตัวเล็กที่นั่งข้างกัน ทั้งสองคนจองมองละอองน้ำที่พุ่งออกมาจากรูปปั้นอยู่อย่างนั้น ชานยอลหน้าซึมลงมากเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนในตอนนี้มีปลาสเตอร์แปะอยู่ที่ข้อศอก ใบหน้าขาวยังปรากฏรอยช้ำที่มุมปากอยู่ เด็กหนุ่มตัวโตพลิกแขนรุ่นพี่ดูอยู่อย่างนั้นเพื่อสำรวจ ก่อนจะโถมตัวเข้าไปกอดแบคฮยอนอย่างไม่ทันตั้งตัว
“อ้ะ!!”
น้ำตาของชานยอลไหลลงมาซึมเสื้อของแบคฮยอน จนรุ่นพี่ตัวเล็กตกใจ แขนเล็กๆจึงเอื้อมไปลูบหัวให้อย่างอ่อนโยนคล้ายจะปลอบใจ สำหรับแบคฮยอนแล้ว ชานยอลคือน้องชายที่น่าสงสารมากในตอนนี้
“ผมขอโทษนะครับพี่ที่ผมดูแลพี่ไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกนะ นายไม่ได้ผิดซักหน่อย นี่พี่ยังสบายดี ดูสิ่ ยังมาซื้อของในห้างได้เลย”
“ปาร์ค ชานยอล เป็นนักบอลก็ต้องแมนๆสิ อย่าร้องไห้นะ
แบคฮยอนตบไหล่หนาของรุ่นน้องแล้วยิ้มกว้างมาให้ ชานยอลเอานิ้วมือถูจมูกแดงของตัวเองไปมา รุ่นน้องตัวสูงตั้งใจจะเอ่ยบอกว่าเค้าดีใจมากที่บังเอิญมาเจอรุ่นพี่โดยบังเอิญที่นี่ เพราะตั้งแต่เมื่อวาน เขาพยายามติดต่อพี่แบคฮยอนแต่กลับกลายเป็นว่ารุ่นพี่ปิดเครื่องตลอด เขาเป็นห่วงแบคฮยอนมาก ชานยอลกอดแบคฮยอนเอาไว้จนแน่น
“พะ พี่ลู่หาน."
เสียงเรียกชื่อของใครคนหนึ่งทำให้แบคฮยอนผละออกจากอ้อมกอดของชานยอลพร้อมกับลุกยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ชายผมทองมองหน้าคนทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาเข้มตวัดมองไปยังชานยอลที่ยืนอยู่ซักพัก ก่อนจะมองหน้าแบคฮยอนด้วยสีหน้านิ่งเฉยเช่นกัน
ในมือของลู่หานข้างหนึ่งถือถุงเต็มไปหมด แต่มือหนาอีกข้างของเขาถือโคนไอศครีมรสสตอรเบอร์รี่ที่เป็นรสโปรดของแบคฮยอนอยู่ แน่นอน...มันถูกเขวี้ยงทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีในทันที
“ ขึ้นรถกลับบ้าน ”
“ คะ ครับ ”
แบคฮยอนรีบเดินจากไปโดยลืมบอกลารุ่นน้องคณะ ชานยอลมองภาพนั้นแล้วรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม ทำไมกันนะเพียงแค่คำพูดที่แสนเย็นชาจากผู้ชายคนนั้น ทำไมพี่แบคฮยอนถึงเลือกที่จะปล่อยมือของเขาออกโดยไม่สนใจซักนิดเลย สีหน้าของชานยอลเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
พอสองคนพี่น้องนั่งอยู่ในรถ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเงียบ จนกระทั่งคนเป็นพี่เอ่ยขึ้นมาก่อนด้วยความเจ้าอารมณ์
“ นี่ไอเด็กนั่นใช่ไหม “
“รักมันมากหรือไง? ถึงได้คอยเอาใจมันนัก “
“ เหอะ ฉันมันแค่ คนใจร้ายสินะ “
ลู่ หาน ผู้ซึ่งไม่รู้ตัวเลย เขากลายเป็นคนอายุใกล้สามสิบที่ขี้ประชดที่สุดในโลก..
“ก็ไม่ได้หมายความอย่างนั้นซักหน่อยนี่ครับ “ แบคฮยอนยู่ปากลงพร้อมกับสีหน้าที่เศร้าอีกครั้ง.. ทำไม ทำอะไรก็ผิดหูผิดตาพี่เขาตลอด เหมือนว่าเราทำอะไร พี่เขาก็ไม่ชอบทั้งนั้น
“แต่สำหรับผม..พี่ก็ไม่ได้ใจร้าย...”
“นายอย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย!!”
เหนื่อยใจ...
แบคฮยอนเหนื่อยใจจนน้ำในตารื้นขึ้น พี่ลู่หานพูดไม่ดีกับเขาอีกแล้ว คนเป็นน้องชายอยากจะร้องไห้ออกมาตรงนี้ ทำไมช่วงเวลาที่เขามีความสุขถึงได้ผ่านไปไวเหลือเกิน
ร่างเล็กสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด พยายามข่มน้ำตาของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา พร้อมกับโปรยยิ้มบางไปให้พี่ชาย
“ผมอาจจะไม่รู้อะไรทั้งนั้น แต่วันนี้ขอบคุณมากนะครับ ยังไงก็ตาม ผมเชื่อว่าพี่ยังห่วงผม”
"ฉันบอกนายว่า อย่ารู้ดี"
และเพียงแค่ประโยคสั้นๆที่พี่เลี้ยงเจ้าอารมณ์เอ่ยออกมา ทำให้แบคฮยอนไม่กล้าพูดอะไรต่อจากนั้นอีกเลย คนสองคนนั่งอยู่ในรถพร้อมกับจมอยู่กับความคิดของตนเองอยู่อย่างนั้น เพราะทิษฐิและอะไรหลายๆอย่างทำให้คนทั้งคู่ไม่เข้าใจกันซักนิดเลย..
Cinderella Story
วันนี้พี่ชายหน้าบึ้งต้องออกไปที่ทำงานแต่เช้า ทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์ แต่เหมือนลู่หานจะยุ่งมากจริงๆ เขาบอกกับแม่นมไว้ว่าให้แบคฮยอนช่วยจัดเตรียมอาหารให้หน่อย จะมีแขกคนสำคัญมาที่บ้าน แบคฮยอนสงสัยเล็กน้อยแต่คนตัวเล็กก็รับคำสั่งอย่างดี
น้องชายในชุดผ้ากันเปื้อนลายตารางสีเขียว คิดรายการอาหารไว้หลายอย่าง เขานึกถึงแต่อาหารที่พี่ลู่หานชอบทานพี่ชายเป็นคนชอบทานอาหารง่ายๆ เช่นแกงจืดเต้าหู้ หรือไม่ก็ซุปบร็อคโคลี่ เป็นต้น
ถ้ามีแขกคนสำคัญมาจริงๆ แบคฮยอนคิดว่า จะอบไก่ซักหน่อย เสริ์ฟพร้อมสลัดก็คงจะดี คนตัวเล็กวุ่นวายอยู่ในครัวตั้งแต่บ่ายยันเย็น จนไม่ได้สังเกตว่าในตอนนี้ มีใครคนหนึ่งเดินถือดอกกุหลาบเข้ามาจากทางด้านหลังแล้ว
“ ทำอะไรทานหรอครับ หอมจังเลย ”
เสียงทุ้มนั้นคือเสียงที่คุ้นเคย แบคฮยอนตกใจจนทำช้อนที่คนสลัดตกก่อนจะรีบหันกลับไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างจนตาปิด
“เจ้าชาย!!!!”
ผู้ชายร่างสูงคนนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับมาเช่นกัน และนั่นอาจเป็นรอยยิ้มที่อาจฆ่าสาวครึ่งโลกให้ตายได้ภายในวินาทีเดียว เขามีผมสีทองคล้ายสีของลู่หานหากแต่เข้มกว่าหน่อย จมูกที่สันโด่งช่างเข้ากับรูปหน้าเรียวยาวได้ดี ปกติแล้วเจ้าชายคนนี้ไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ หากแต่กับคนสำคัญแล้ว รอยยิ้มที่มีจะคอยส่องแสงอยู่ตลอด
เจ้าชายคือคนที่แบคฮยอนไม่มีวันลืม ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน..
“ใช่แล้วครับ เจ้าชายหิมะ ความอบอุ่นของแบคฮยอนไง”
ความคิดเห็น