ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจดวงสุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #6 : คำจากปากเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 48


    วันสอบผ่านไปแล้วเป็นเวลา 3 วัน วันนี้เป็นวันสุดท้าย และ วิชาสุดท้ายแล้วด้วยทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ไม่เป็นไรผมไม่คิดมาก แต่มันอยู่ที่ว่า คำที่เธอบอกจะพูดตอนหลังสอบนั้น มันคือคำว่าอะไร และเมื่อเธอบอกแล้วเราจะทำยังไงต่อไปเท่านั้น เราจะแสดงอาการอย่างไรให้เธอรู้ ผมคิดว่าถ้าถึงเวลานั้น ถ้าเธอบอกว่า ‘รัก’ นั้นผมคงจะดีใจมากๆเลย แต่ถ้า ‘ไม่รัก’ ผมคงต้องยอมจำนนฟ้าดินว่าผมนั้นไม่คู่ควรกับเธอจิงๆ

        ผมสังเกตุเห็นแค่ผ่านๆเท่านั้นแต่ดูท่าทีของปิ้น ผมเห็นว่าปิ้นนั้นมีท่าทีที่กลุ้มใจอยู่พอสมควร  ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ที่แน่ๆเรื่องที่ผมปิดไว้ ไม่เคยให้ใครรู้นั้น นอกจากผมกับปิ้นทั้น ผมก็ยังแปลกใจที่มีคนเรื่อนี้รู้ เพราะก่อนจะเข้าห้องสอบนั้น มีน้องคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนของปิ้นนั้นเข้ามาทักผม...



        “พี่วุฒิ หนูมีเรื่องจะคุยด้วย” เด็กผู้หญิงนั้นทัก



        “อ้าว! แอมนั่นเอง” ผมตกใจเล็กน้อย “มีอะไรปล่าวจ๊ะ” ผมถามแอม



        “คือ...เรื่องของปิ้นแหละค่ะ” แอมพูด



        “ไม! เรื่องอะไรอะ” ผมสงสัยนิดหน่อย “มีเรื่องไรหรือ” ผมถามต่ออีก



        ผมเห็นแอมนั้นเหมือนจะไม่กล้าพูด หรือเวลาจะพูดก็ อ้ำๆอึ้งไป



        “มีไรพูดมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ...” ผมพูดออกไปเพื่อให้แอมสบายใจก่อนจะพูดกับผม



        “คือ...ว่า...” แอมยังอ้ำอึ้งอยู่



        “เอาหน่าพูดมาเลย” ผมก็เริ่มรำคาญแล้วไม่พูดซักที



        “คือ...ว่า... พี่รอคำตอบจากปิ้นอยู่ใช่มั้ย” แอมถาม



        ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมแอมถึงได้รู้เรื่องนี้ซึ่งมันเป็นความลับที่รู้กันแค่ 2 คนเท่านั้น ไม่น่าจะมีใครเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือรู้เรื่องนี้เลย



        “ทำไมเหรอ แล้ว แอมรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร” ผมถามแอมโดยที่ผมเองยังตกใจเล็กน้อย



        “คือปิ้นเค้าบอกหนู แค่หนูคนเดียวนะ หนูเลยอยากจะถามพี่อะ” แอมพูดขึ้นมา



        “ในเมื่อรู้แล้ว มีไรอยากถามหละ” ผมคิดในใจช่างมันแล้วใครจะรู้ก็ช่างมัน



        “ก็อยากถามว่า พี่ชอบปิ้นเค้าจิงๆเหรอ” แอมถามผม



        “อืม...ใช่... พี่ชอบปิ้น แล้วก็ชอบมากด้วย” ผมพูดตอบคำถามแอมแล้ว



        “งั้นเหรอ... แล้ว... ถ้าวันนี้คำตอบมันออกมาว่า ใช่หละ” แอมถามอีก



        “ก็ดีใจสิครับ” ผมตอบอย่างไม่ยากเย็น



        “งั้น... ถ้ามันไม่ใช่หละ” แอมถามผมอีก



        “ก็คงจะเสียใจแหละ” ผมตอบอีก



        เป็นเวลาพอดีอีกแล้วที่มีสียงกริ่งหรือออดให้เข้าห้องเรียน แต่ในกรณีจะบอกว่าให้เข้าห้องสอบได้



        “งั้น หนูไปแล้ว โชคดีนะพี่วุฒิ” แอมพูด



        “โชคดีเช่นกัน” ผมพูดอวยพรกลับไป



        ก่อนผมที่จะเข้าห้องสอบผมได้นึกถึงคำพูดของแอมขึ้นมา คือ ใช่ และไม่ใช่ ถ้าใช่จะทำอย่างไร และไม่ใช่จะทำอย่างไร ผมคิดก่อนสอบว่า ‘คำถามนี้มันยากซะยิ่งกว่าข้อสอบที่เรากำลังทำอยู่นี่ซะอีก’

        มันถึงเวลาที่เราต้องสอบแล้ว เรามัวแต่คิดถึงเรื่องนี้ทำไม เราต้องทำข้อสอบให้ดีที่สุดซิ ถึงจะถูกและตอนนี้ เพื่อนๆในแก๊งผมก้ยังรอคอยคำตอบจากผมอีก อืม...ใช่ ผมลืมบอกไปผมก็ยังเป็นที่พึ่งของเพื่อนๆเหมือนเดิม เราจะตั้งสัญลักษณ์กันระหว่างกลุ่มของเราว่า คำตอบข้อ ก. เป็นยังงี้นะ หรือ ข. เป็นยังงี้นะ จนถึงข้อ จ. แน่นอน ระดับหัวดีในกลุ่มก็ยังต้องเป็นผม และนายมิทเค้าแต่ผมนั้น จะถูกจับตามากที่สุด เพราะอยู่ใกล้เพื่อนๆมากที่สุดด้วย และก็ถูกเผง ผมว่าแล้ว เพื่อนๆต้องหันมาหาผม และถามผม มีทั้งแกล้งทำปากกาตก หรือ เคาะโต๊ะกัน ให้ผมหันไปหาเค้าและเค้าจะได้ถามคำถามผม ผมนี่เดาแม่นจิงๆ แต่มันก็ถามผม มาตั้ง 3 ปีแล้ว ปีนี้ก็ยังเพิ่งเริ่มต้นผมก็ชินแล้วหละครับ

        เมื่อถึงวิชาสุดท้าย น่าแปลกใจจิงๆที่มีสอบวิชาลูกเสือด้วย ผมนี่ยังแปลกใจเลยเพราะว่ามันไม่ต้องสอบก็ผ่านแล้ว แต่นี่มันต้องสอบ ผมยังงงเลยครับ เอาเถอะ ยังมีแปลกกว่าก็คือ เค้าจะอ่านคำถามให้ฟังแล้วก็ ให้เราเขียนแค่คำตอบ...



        “คำถามแรก…” อาจารยืคุมสอบอ่านให้พวกผมฟัง



        เอาหละครับผมก็ไม่ได้อ่านเลย กรูตกแน่เลย



        “กฎหมายสูงสุดของประเทศคืออะไร” อาจารย์อ่านเสร็จแล้ว



        ห้องผมนี่เซ็งกันหละครับโดยดูจากหน้าตาโดยรวมแล้ว คำถามยังงี้จะสอบทำไมแล้วอีกอย่าง จะมีกำหนดให้สอบไปทำไม แต่เอาเถอะ ง่ายยังงี้ก็สบายหละครับ และอย่างที่ว่าจิงๆมันเป็นข้อสอบที่ออกมาอย่างง่ายดายมากๆเลยครับ

        ในที่สุด การสอบก็เสร็จสิ้นไปซักที นี่แค่สอบกลางภาคยังถือว่ายากเลยแล้วสอบปลายภาคพวกเราจะเหลือไหมเนี่ย แต่เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็ถึงเวลาที่เรา จะไปฟัวคำตอบแล้ว แต่ในใจผมก็ยังไม่อยากฟังเลย ในใจใครหลายๆคนคงมีใจทั้ง 2 ใจหละนะครับว่า อยากฟัง และ ไม่อยากฟัง ผมก็ต้องทำใจหละครับถ้าคำตอบนั้นออกมาไม่ดีอย่างที่เราหวังไว้

        ผมกำลังจะไปหาปิ้นอยู่พอดีแต่ว่า ปิ้นนั้นกลับมาหาผมเอง



        “พี่วุฒิค่ะ...คือวันนี้กลับบ้านด้วยกันนะ” ผมงงนึกว่าจะให้คำตอบผมซะอีก



        “อืม...ได้สิ” ผมตอบ “แล้ว...” ผมกำลังจะถามพอดี แต่ปิ้นกลับพูดขึ้นมาก่อน



        “ส่วนคำตอบนั้น….” ปิ้นเงียบไปซักพัก “เดี๋ยวหนูตอบละกัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะค่ะ ไปแล้วค่ะ” ปิ้นอยู่ๆก็หันหลังแล้ววิ่งไปหาเพื่อนเธอ



        อืม...ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันจะออกมาแบบไหน ผมก็ได้แต่มองข้างหลังเธอที่วิ่งออกไป ตอนนั้น ต้นก็เข้ามาหาผมพอดี ต้นเข้ามาทัก แล้วพูดเหมือนกับว่าได้ยินทุกอย่างจากเมื่อกี้นี้ทั้งหมด



        “เฮ้! วุฒิ นายรอคำตอบไรอยู่จากปากของเธอหละ” ต้นถาม



        “อืม....” ผมอ้ำอึ้งอยู่นิดๆ



        “เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว เอาหน่า เราเข้าใจนายก็ขอให้โชคดีในคำตอบละกัน”

    ต้นพูด “งั้นเราไปเล่นบาสกันดีกว่า” ต้นชวน “คิดมากไปก็กลุ้มนะ” ต้นพูดอีก



        งั้นเหรอ อืมผมก็ไปเล่นบาสโดยทำตามคำชักชวนของต้น ตอนนั้นเป็นเวลา 5 โมงครึ่ง ผมก็เตรียมตัวจะกลับบ้านแล้ว ผมจำได้ผมนัดปิ้นไว้ ผมก็ไปหาปิ้นอยู่แต่ผมหาเท่าไรก็ไม่เจอ เผอิญผมเห็นแอมพอดี

        “แอม...แอม...” ผมเรียกแอม



        “อ้าว พี่วุฒิ กำลังจะไปหาพอดีเลย” แอมพูด



        “ไมอะ” ตอนนี้ผมคงไม่ใช่ผู้ถามแล้ว แต่เป็นผู้ที่ต้องตอบคำถามต่างหาก



        “คือปิ้นเค้ากลับไปก่อน เพราะว่าแม่เค้ามารับอะ” แอมพูด “เค้าฝากขอโทษด้วย”



        “งั้นเหรอ” ผมผิดหวังเล็กน้อย “ขอบคุณมากนะที่มาบอก” แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำไงเหมือนกัน เผอิญมาสเตอร์ที่นั่นชวนเพื่อนๆผมเตะบอล ผมก็ต้องไปด้วย



        “คือ...พี่วุฒิค่ะ ปิ้นเค้าฝากมาบอกอีกเรื่องค่ะ” แอมพูดขึ้น



        “เรื่องไรอะ” ผมถามแต่ให้ผมเดามันคงเป็นคำตอบของเธอแน่ๆ



        “คือ...คำตอบ อะ” แอมพูดขึ้น



        ‘มาแล้วงั้นเหรอ’ ผมคิดในใจ และทำใจยอมรับแล้ว



        “เค้าบอกว่า....” แอมอ้ำอึ้ง ทำเอาผมลุ้นไปด้วย ผมได้ยินเสียงแว่วๆเหมือนกันว่า ‘วุฒิ เตะบอลได้แล้ว’



        “เค้าบอกว่า....” แอมอ้ำอึ้งอีก “เค้าบอกว่า... เค้าอะชอบพี่วุฒินะ แต่ไม่รู้เหมือนกัน ว่าพี่วุฒิอะ จะหลายใจหรือปล่าว”



        ผมได้ฟังคำตอบนั้นถึงไม่ใช่จากปากของปิ้น แต่มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากๆ มากที่สุด



        “โชคดีนะพี่วุฒิ” แอมพูด แถมด้วยยิ้มน้อยๆของแอม



        “ขอบคุณมากนะ แอม” ผมพูดขอบคุณแอม



        “หนูไม่ได้ทำไรเลยนะ” แอมพูด “งั้นหนูไปก่อนนะ” แอมหวัดีผมแล้วก็เดินหันหลังกลับไป



        วันนั้นผมรู้สึกว่าผมนั้นเตะบอลได้ดีและมีความสุขมากที่สุดด้วย ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ก็เหนื่อยเป็นนะ เมื่อถึงเวลา 1 ทุ่ม ผมกลับถึงบ้าน ผมอาบน้ำ แล้วจึงรีบออกไปโทรตู้โทรศัพท์สาธารณะข้างนอก แล้วผมจึงกดเบอร์ ใช่แล้วผมโทรโทรไปหาปิ้น



        “สวัสดีค่ะ” เสียงผู้หญิงพูดขึ้น



        “สวัสดีครับขอสายปิ้นครับ” ผมพูดขอสายเธอ



        “พูดอยู่ค่ะ พี่วุฒิเหรอ” ปิ้นพูดแล้วลองเดา



        “ใช่แย้ว~” ผมพูดเฉลย

        

        “กลับมานานยังอะ” ปิ้นถาม



        “ปิ้นวันนี้ปิ้นฝากแอมมาพูดเหรอ” ผมไม่รีรอแล้วผมถามเธอแบบไม่อ้อมค้อมหละ เพราะตู้โทรศัพท์สาธารณะนั้นกินตังน่าดู



        “อืม...” ปิ้นตอบ



        “ปิ้นพูดจิงป่าวหละ” ผมภามเธอ

        “ทำไมอะ ไม่เชื่อหรอ” ปิ้นถาม



        “เชื่อสิ แต่อยากได้ยินจากปากของปิ้นเองอะ” ผมพูด



        “หา! เอางั้นเหรอ คือ...แบบว่า....” ปิ้นอ้ำอึ้ง “คนมันก็อายเป็นนะคะ” ปิ้นพูด



        “เออ...ก็มันอยากได้ยินจากปากของปิ้นเองนี่หน่า” ผมพูด



        “เอออ...ก็...นะ”



        ผลสุดท้ายเธอก็ไม่พูดอะไรเลยแต่เราก็ยังคุยอยู่อีกแป๊ปเดียวไปเรื่อยๆ โดยไม่นึกถึงมันอีก แต่ผมเอาตังออกมาแค่ 40 บาทเท่านั้น คุยได้ 15 นาทีก็ถือว่าคุ้มแล้ว ตอนนี้เหลือแค่บาทเดียวแล้ว



        “ปิ้นเหลือบาทเดียวแล้ว คงต้องเลิกคุยแล้ว” ผมพูด



        “เออ...พี่วุฒิคะ” ปิ้นเรียกผม



        “หืม” ผมขานรับ



        “คือหนูจะบอกว่า.....” ปิ้นอ้ำอึ้งอีกแหละ “คือหนู...ชอบพี่วุฒินะ แต่ไม่รู้ว่าใจพี่อะดิ” เธอพูดแล้วครับ



        “ไมอะ ใจพี่ก็มีแต่ ปิ้น เนี่ยแหละ ไม่มีคนอื่นหรอก” ผมตอบ



        “งั้นเหรอคะ หนูดีใจจิงๆที่ได้ชอบพี่วุฒิ หนูต้องไปแล้วไปนะคะ” ปิ้นลา



        “อืม โชคดีจ๊ะ บาย ผมลา” แล้วก็วางโทรศัพท์ไป

        ผมถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ ผมมีความสุขจิงๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะเพราะว่าเธอให้คำตอบเราในทางที่ดีก็ได้ ผมอาจจะรอคำตอบจากปากเธอมานานถ้าคำตอบมันออกมาดี มันก็คุ้มค่าทีจะรอผมกลับบ้านไป ผมก็นอนแล้ว และได้ส่ง sms ไปหาปิ้น มันเป็นข้อความสั้นๆ แต่มีความหมาย มันคือคำว่าว่า ‘รักนะครับ’ ปิ้นก็ส่งกลับมาเหมือนกันเป็นข้อความที่สั้นๆ ว่า รักเหมือนกันนะ ผมว่าโชคดีจิง มันทำให้ผมอมยิ้มได้ทั้งวัน และอีกอย่างความรักในตอนนี้ของผมมีแค่ว่า ผมชอบปิ้น และ ปิ้นก็ชอบผม มันไม่มีอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้วในตอนนี้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×