ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจดวงสุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #5 : เงียบหาย

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 48


        เวลาจากตอนนั้นที่ผมสารภาพรักแล้วนั้น ผมก็ยังไม่ได้คุยกับปิ้นอีกเลย พอผมโทรไปก็เป็นแต่เสียงผู้หญิงที่เหมือนๆกันคือ ‘ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก’ อย่างนี้อยู่หลายๆครั้ง ผมก็ผิดหวังอยู่นิดๆเหมือนกัน และตั้งแต่วันนั้นนอกจากผมจะโทรไปหาปิ้นบ่อยๆด้วยแล้ว ผมยังคิดถึงวันนั้นซะด้วยซ้ำ วันที่ผมได้สารภาพกับเธอครั้งแรก ผมยังคิดเลยว่าเราพูดไปได้อย่างไรในตอนนั้น พอผมไปโรงเรียนแน่นอนต้องเจออยู่แล้ว แต่ไม่เคยหรือไม่มีเวลาแม้แต่จะคุยกันเลยด้วยซ้ำ ผมก็พยยามอดกลั้นอยู่แน่นอน แต่เป็นใครๆก็คงไม่พ้นคำว่าคิดถึงหรอก ผมชอบเธอแล้วนิ จะคิดถึงก็ไม่แปลกหรอก แต่ข่าวที่ว่าเธอนั้น ชอบหรือรักผู้ชายคนอื่นนั้นก็ยังไม่เบาบางหรือมีท่าทีจะลดนั้นไม่มีเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นในใจผมที่บอกว่า ผมนั้นยังรักเธออยู่

        เมื่อถึงตอนเย็นวันนี้เป็นวันซ้อมบาสวันสุดท้ายแล้ว เพราะพวกเรานั้นจะต้องสอบกันแล้ว ภายในอาทิตย์หน้านี้ แต่ผมนั้นยังเตรียมตัวสอบไม่พร้อมเลยด้วย แต่ไม่เป็นไร ผมก็จะพยายามต่อไป

        เมื่อถึงบ้านนั้น จู่ๆก็มีโทรศัพท์โทรเข้าหาผมทันที เป็นเบอร์ที่ไม่ค่อยจะคุ้นซักเท่าไรด้วย...

        

        “สวัสดีครับ” ผมพูดทัก



        “สวัสดีค่ะ นั่นพี่วุฒิหรือปล่าวค่ะ” เสียงผู้หญิงคนนึงถาม และเป็นเสียงที่ผมจำได้ซะด้วย



        “ปิ้นเหรอ” ผมลองเดา



        “ค่ะ พี่วุฒิ นี่ปิ้นพูดเอง” และใช่จิงๆด้วยปิ้นนั่นเอง



        “หายไปไหนมาปิ้นพี่ติดต่อหาซะแทบแย่ โทรศัพท์เป็นไร” ผมลองถาม



        “คือ ปิ้นเปลี่ยโทรศัพท์อะค่ะ โทษที” ปิ้นพูด “เลยไม่ได้ติดต่อมาเลย โทษทีนะคะ”

        

        “ไม่เป็นไร แล้วว่างคุยป่าวหละ” ผมลองภามปิ้นดู



        “ว่าง คะ คุยโต้รุ่งยังได้เลย” ปิ้นตอบ



        “เว่อร์ไปนะ พรุ่งนี้เราต้องไปเรียนกันนะ” ผมตอบ



        “เอ่อ! ใช่แฮะ ลืมไปเลย” ปิ้นพูดพลางยิ้มนิดๆ



        แล้วหลังจากนั้นผมก็คุยกับปิ้นเกือบๆ 2 ชั่วโมง มันทำให้ผมหายคิดถึงปิ้นได้แค่นิดเดียวเท่านั้น แต่ผมก็ยังดีใจที่ปิ้นนั้นยังไม่ลืมที่จะติดต่อกับผู้ชายคนนี้

        

        “คือ...เดี๋ยวหนูต้องนอนแล้วนะ” ปิ้นพูด



        “พี่ก็เหมือนกัน” ผมตอบปิ้นไป



        “งั้นแค่นี้นะคะ...” ปิ้นพูด

        

        “จ้า! แค่นี้นะ บายจ้า....” ผมยังพูดไปม่จบประโยคเพราะเหลือแต่กล่าวคำว่าฝันดีเท่านั้น แต่ปิ้นก็พูดว่า...



        “คือ พี่วุฒิ เดี๋ยวนะ คือเรื่องที่...” ปิ้นพูดแบบอ้ำอึ้ง “คือ...เรื่องนั้นอะนะ ขอบอกหลังสอบได้ไหม” ปิ้นพูดแกมขอร้อง



        “เรื่องนั้นเหรอ อืม.... เอาก็เอา” ผมพูดเพราะไม่อยากขัดใจเค้ามาก



        “ขอบคุณค่ะ งั้นแค่นี้นะค่ะ บายค่ะ ฝันดีนะค้า” ปิ้นตอบ

        “เช่นกันครับ ฝันดีคับ บายคับ” ผมตอบรับ แล้ววางหูโทรศพท์ไป วันรุ่งขึ้นผมก็มาเรียนพิเศษกันตามปกติ แต่วันนี้อาจจารย์เค้าจะบอกแนวข้อสอบและจะติวข้อสอบให้ด้วยเลยทำให้เพื่อนผมที่ไม่ได้เรียนพิเศษนั้นก็มานั่งเรียนด้วย เพราะปกติผมก็เรียนกับเพื่อนอีกแค่ 5-6 คนเท่านั้นเอง ในแก๊งผมที่เรียนพิเศษกับผม ก็มีแต่ ไอซ์ กับมิท เท่านั้น นอกนั้นคนอื่นไม่ได้เรียนกัน แต่วันนี้มันมาครบหละครับ ทั้งแก๊งเลย! ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน และเพื่อนผู้หญิงของผมในห้องนั้นก็มาครับ แต่เอาเถอะ ใครๆก็กลัวจะตกกันทั้งนั้นแหละครับ ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง

        เมื่อถึงเวลาเที่ยงวันผมก็รีบกลับบ้าน และผมบอกเพื่อนว่าจะรีบกลับไปอ่านหนังสือ แต่เพื่อนผมนั้นสิ กลับฉุดให้ผมนั้นเล่นบาสกันก่อน



        “วุฒิเว้ย! เล่นบาสเว้ย” ตั้มชวนผม



        “ไม่อะ รีบกลับบ้านอ่านหนังสือ” ผมตอบกลับไป



        “เออ! เดี๋ยวค่อยอ่านก็ได้” ไอซ์พูด “ยังไงนายก็ได้คะแนนดีกว่าพวกเราอยู่แล้ว” ไอซ์ พูดต่อไปอีก



        “ไม่อะ ขี้เกียจด้วย” ผมตอบกลับไปอีก



        “เอาหน่าเล่นกัน” ต้นชวนด้วยอีกคน



        ผมนั้นไม่อยากเล่นหรอก แต่เอาก็เอาวะกลับบ้านไปยังไงก็คงไม่ได้อ่านอยู่แล้ว



        “เอาวะ! เล่นก็เล่น” ผมตอบกลับไป โอ้กว่าผมจะกลับบ้านก็ปาเข้าไป 4.30 หละครับ

        

        “งั้นกรูขอกลับก่อนละกัน” ผมบอกเพื่อนๆ



        “กลับแล้วเหรอ” เพื่อนทัก “อืม...ก็ดีเหมือนกัน”

        

        พวกเราต่างแยกย้ายกันหลับบ้านไป ผมกับต้นก็กลับด้วยกัน แต่ผมก้ไม่ได้กลับอีกแหละ เพราะ...

        

        “เฮ้ย!วุฒิกินข้าวดีกว่า” ต้นชักชวน



        “เอางั้นเหรอ.....ก็ได้” ผมตอบ



        ผมยังคิดอยู่เหมือนกันแหละ ว่ามันคงเป็นความผิดของผมเอง เพราะว่าผมใจไม่แข็งพอ ปฏิเสธเพื่อนไม่ได้ แต่ผมก็กลับบ้าน มาตอน 6 โมงเย็น ผมก็อาบน้ำ และนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องอยู่อย่างนั้น อ่านได้แค่ 3 ชั่วโมงหละครับ หลัคาโต๊ะไปตอนไหนผมก็ไม่รู้ ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันอาทิตย์ ผมต้องไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์อยู่แล้วเพราะผมนับถือศาสนาคริสต์ ไปขอพรสักหน่อยก็ได้ ‘ขอให้สอบได้คะแนนดีๆ’ ผมเชื่อว่าพระเจ้าจะให้ผมได้

        ผมกลับมาถึงบ้าน ผมนำโทรศัพท์มือถือของผมนั้นขึ้นมาดูหน้าจอ ‘2 สายไม่ได้รับ’ เอ......ผมลองดูเบอร์ อ้าว! ปิ้นโทรมานี่หน่า เมื่อวานด้วย สงสัยคงเป็นเวลาที่ผมหลับแน่ๆเลย และใช่จิงๆเค้าโทรมา ผมก็คิดในใจหละว่า โอ๊ย! เวลาอยู่โรงเรียนไม่มีเวลาจะคุย อยู่บ้านเราก็ไม่ได้คุย โอ้พระเจ้า! ผมจะลองโทรไปหาปิ้นแต่ผมก็ไม่กล้าเหมือนกัน เพราะกลัวเค้าจะไม่ว่าง เอาเป็นว่าผมอ่านหนังสือดีกว่า

        มันเป็นเวลา 6 โมงเย็นแล้ว ผมอ่านมาได้ไงเนี่ย เกือยจะ 6 ชั่วโมง ผมลงมากินข้าว และสิ่งที่ผมทำนอกจากินข้าวคือรอโทรศัพท์จากปิ้น ผมอาจจะฝันลมๆแล้งๆ ว่าเค้าจะโทรมาในวันนี้ ทั้งๆที่วันพรุ่งนี้เป็นวันสอบ คนที่ตั้งใจเรียนและเรียนเก่งอย่างเธอนั้น จะโทรมาทำไม

        2 ทุ่ม ผมก็ยังรอโทรศัพท์จากเธอยู่เลย ปิ้นก็ยังไม่โทรมาเลย ตาของผมจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือถือของผมตลอด ไม่ลดละด้วยซ้ำ อยู่ๆผมก็หลับไปเมื่อไรอีกแล้วก็ไม่รู้

    ผมตื่นขึ้นมาในตอน 6 โมงเช้า ผมอาบน้ำ และเตรียมตัวไปโรงเรียนแล้ว แต่ผมก็เหลียวกลับมามองโทรศัพท์มือถือของผม และผมก็ยังเห็นว่า ไม่มีแม้สักสายที่แสดงว่ามิสคอล ผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และเดินไป สวัสดี พ่อและ แม่ แล้วก็ไปโรงเรียน วันนี้ผมออกจากบ้านเช้ากว่าปกติกว่าทุกๆวัน ไม่ใช่เพราจะรีบไปอ่านหนังสือหรอกครับ แต่ว่าผมจะเดินไปโรงเรียน ผมอยากคิดเรื่องราวเกี่ยวกับปิ้น ไปเรื่อยๆ อยากเก็บมันไว้ในความทรงจำตลอดไป และแล้วผมก็คิดถึงคำพูดของเธอที่ว่า อีก 3 วันเท่านั้น ที่ผมจะได้รู้จากปากของเธอว่า

    ‘คำตอบที่เธอจะตอบนั้น จะรัก หรือ ไม่รัก’ แค่เท่านั้น เอง

        









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×