ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ครึ่งวันแรก
    จากการสังเกตุพฤติกรรมของสัตว์นั้น มันทำให้ผมรู้ว่า ผมนั้นไม่ได้อะไรจากมันเลย เพราะผมนั้นไม่ได้สังเกตุเลยผมลงมาตามตูน แล้วก็นั่งคุยอยู่กับเค้า จนเกือบจะถึงเวลา 4 โมงอยู่แล้ว เราต้องไปชมการแสดงแต่ว่าทำไมเราต้องไปกันนะ ผมเดินนำทางทุกคนมาถึงที่ๆชมการแสดง ที่นั่นยังปิดประตูอยู่เลย และเขียนตรงหน้าประตูไว้ว่า
‘เปิด 10.00-11.00’
‘เปิด 12.00-13.00’
‘เปิด 14.00-15.00’
‘เปิด 16.00-17.00’
                    ผมอยากรู้เหมือนกันจะแสดงอะไรกันนักหนาถึงต้องใช้เวลาถึงชั่วโมงนะ ผมส่งกระดาษบันทึกพฤติกรรมของสัตว์ให้อาจารย์ไปและนั่งรอประตูเปิด ผมยังได้ยินจากรุ่นน้องเค้าบอกว่า ‘ที่นี่ไม่ค่อยมีไรหรอก’ บางคนก็บอกว่า ‘สนุกที่ได้ดูนะ’ แต่ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเป็นไง แต่ที่ผมไม่ชอบคือต้องนั่งดูอะไรที่ๆมันใช้เวลาเป็นชั่วโมงแล้วก็นั่งนิ่งๆอีกต่างหาก จะบอกว่าผมเป็นคนอยู่ไม่สุขก็ได้
เมื่อประตูที่นั่นเปิด ทุกคนก็ต่างเข้าไปในนั้นกันอย่างช้า เค้าให้นั่งไงก็ได้ไม่ตามกลุ่ม ผมก็นั่งอยู่บนสุดกับเพื่อนของผมในแก๊ง แต่ที่ผมเห็นนั้นเป็น เวทีเล็กๆ และมีเชือกคล้องเกี่ยวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง และยังมีที่เกาะของนอกอยู่ประมาณ 2-3 อัน
                    เมื่อถึงเวลาแสดง ผมเห็นทีมงานที่นี่อกมาแสดงร่วมกับสัตว์ผมนี่แถบจะเซ็ง มันไม่มีอะไรที่น่าตื่นใจเลย ก็แสดงความสามารถสัตว์ส่วนมากก็จะเป็นนกที่เล่นการแสดง ผมอยากจะกลับไปเข้าที่พักซักที แต่ปัญหาไม่ได้อยู่แค่นั้น เพราะตอนผมเข้ามาที่สวนสัตว์นี้ไม่ได้ไปที่บ้านพัดเพื่อวางกระเป๋าเลย แต่เป็นแค่ พิพิธภัณฑ์เก่าๆที่วางกระเป๋าไว้ที่นั่น แล้ว ‘แล้วที่พักหละ!’
                    การแสดงจบลง ผมก็ปรบมือตามๆเค้ากัน ผมหันไปดูหน้าเพื่อนผมนั้นหน้าออกเซ็งๆกันทั้งนั้น 5 โมงแล้ว อาจารย์บอกให้ไปเข้าแถวข้างหน้า ประตูที่เราเข้ามา เพื่อจะได้เดินทางไปที่ๆหอประชุม เพื่อนกินข้าวเย็นกัน เราเดินกันเป็นแถวยาวกลับไปยังหอประชุม  เมื่อเราเดินทางาถึงหอประชุมผมรู้สึกว่า สบายใจที่ได้พักแล้ว กินข้าวแล้วของีบหน่อยดีกว่าแต่ไม่ทันไรก็
“วุฒิ!มานี่หน่อย” อาจารย์ปูเรียก
“อาจารย์ปู มีไรอะคับ” ผมถาม อาจารย์ปูนั้น เป็นอาจารย์ที่ผมรู้จักตั้งแต่ ป.3
“ก็อยากไปช่วยยกกระเป๋าอะ ของน้องๆไปยังที่พัก” อาจารย์ปูพูด
“หา!โห ตายแน่” ผมพูด
“ไม่ตายหรอก เอาเพื่อนๆของวุฒิไปด้วยละกัน” อาจารย์ปูพูด
“ก็ได้ครับ” ผมตอบ
“พร้อมเมื่อไรก็ไปเลย รถอยู่นั่นแล้วเดี๋ยวครูไปด้วย” อาจารย์ปูพูด
“ครับ”
                  ผมไปเรียกเพื่อนๆผมก็ในแก๊งนั่นแหละครับ ผมก็อดงีบไปแล้ว ผมชวนเพื่อนคนนี้ไปด้วย นายเจ๋ง เป็นเพื่อนผมเหมือนกัน แต่คนนี้เค้าออกจะ แต๋วๆหน่อย แต่ก็ชายในบางเวลา มันสมัครเข้ามาคนที่ 201 จากอภิสิทธิ์พิเศษของอาจารย์ให้มาคุมพวกเราครับ แต่ตอนนี้ไม่รอดแล้วเราคุมมันกันหละครับ แต่ก็อย่างว่าไปยกของครับไม่มีใครคุมใคร เมื่อผมรวมเพื่อนครบก็ไปรออาจารย์ที่รถ แต่ก่อนผมจะไปจะฝากใครคุมกลุ่มหละ
“ตูน!ตูน” ผมเรียกตูน
“ค่ะ”ตูนตอบ
“คือว่าพี่ต้องไปช่วยอาจารย์ไงก็ฝากกลุ่มด้วยละกัน” ผมพูด
“อืมได้ค่ะ” ตูนตอบ
“อืม!อะใบรายชื่อฝากด้วย” ผมยื่นใบรายชื่อของกลุ่มให้แล้วก็เดินจากไป
                    ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมต้องเรียกตูน แต่เมื่อตอนที่ผมเข้าไปคุยใกล้ตูนเมื่อกี้นี้ มันใกล้ยิ่งกว่าตอนที่ผมคุยกับเธอเมื่อตอนกลางวันอีก ผมได้ยืนใกล้เธอแล้วเห็นใบหน้าของเธอ ยิ่งตอนนี้ผมยิ่งเห็นว่าเธอยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก แต่ก็ได้แค่มองผมก็เขินพูดไรไม่ออกเหมือนกัน
                    ผมออกเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์เก่าๆที่เราได้วางกระเป๋าไว้ ผมขนกระเป๋าผมนี่แทบอึ้งขนกันมาได้อย่างไรนะ หนักจัง เหมือนขนเสื้อผ้ามาจะย้ายบ้านอย่างนั้นแหละ บางคนนี่ 2 กระเป๋าโอ้พระเจ้า แต่ผมนี่แทบไม่สนใจกันเลยเพราะการขนนั้น ผมโยนไปให้เพื่อนรับไม่ก็กลิ้งลงมา พูดได้ง่ายๆว่าเอาให้เร็วเข้าไว้อะคับ ขนขึ้นรถก็ 6.30 แล้วด้วย แต่มันมืดแล้วเพราะมันเป็นหน้าหนาว หน้าหนาวมืดเร็ว
                    ผมนั้นขึ้นรถพร้อมกับกระเป๋า เป็นรถกระบะแค็บทรงสูง แล้วรอบๆแค็บนั้นล้อมรอบด้วยกรงเหล็ก มีแต่ข้างหลังเท่านั้นที่ไม่มีอะไรกั้นเลยพูดง่ายๆว่าเราต้องเป็นที่กั้นไว้กันกระเป๋าตก เพื่อนผมทุกๆคนต่างที่จะคิดว่า ที่พักนั้นอยู่ข้างล่างบริเวณช่วงเขาหรือตีนเขา แต่เมื่อรถขับมาถึงช่วงตีนเขาแล้วแต่ยังคงขับขึ้นไปอีก ยิ่งมืดยิ่งน่ากลัว เป็นทางขึ้นเขายาวๆ รอบๆมืดมิดมีแต่แสงไฟจากไฟถนนไปตามทางเท่านั้น แต่ก็หนาวมากๆด้วย ผมมองนาฬิกา 1 ทุ่มตรง
    เมื่อมาถึงที่พักเป็นที่พักที่ดีเป็เหมือนบ้านชั้นเดียวแต่กว้างมากๆ บริเวณโดยรอบถึงจะมืดแต่ก็เป็นพื้นที่ๆที่โล่ง มีต้นไม้นิดหน่อย พวกเราเอาของลงมากจากรถทันที ไปกองๆรวมกันไว้ที่ที่ห้องโถงของที่นั่น แล้วก็รีบขึ้นรถเพื่อลงมารวกกลุ่มกันเหมือนเดิม ตอนนี้ เกือบๆ จะ 2 ทุ่มแล้ว
    กิจกรรมต่อไปเป็นกิจกรรมชมสัตว์ในตอนกลางคืน ผมสนใจกิจกรรมนี้นะ มันคงได้รู้อะไรเยอะแยะเกี่ยวกับสัตว์ด้วย ว่าจะมีสัตว์ชนิดไหนและอะไร อยู่ในตอนกลางคืนบ้าง ผมไปถึงที่ๆเขารวมตัวกัน ที่นั่นมีเด็กนั่งๆเป็นกลุ่มกันอยู่แล้ว ผมก็เข้าไปรวมทันที
    “มีอะไรเปลี่ยนไปไหม” ผมถามตูน
    “เรียบร้อยดีพี่” ตูนตอบกลับมา
    “อืมก็ฝากต่อละกันขี้เกียจดู” ผมพูด “กิจกรรมต่อไปเริ่มเมื่อไร” ผมถาม
    “ใกล้แล้ว” ตูนตอบ
    ไม่ทันไรเค้าก็เรียกไปให้เดินเป็นกลุ่ม เดินไปยังที่ๆหนึ่ง ซึ่งเป็นตู้กระจกกว้างๆ ผมมองเข้าไปในนั้น เห็นเป็นเหมือนป่ารกๆอยู่ข้างในแต่ก็ยังมีที่ว่างให้พอมองเห็นสัตว์ข้างในนั้น และที่ผมเห็นข้างในนั้นเป็นงูชนิดต่างๆมากมาย เลื้อยขดเป็นวงอยู่ ตัวของมันใหญ่พอสมควรทีเดียว และเดินผ่านไปเรื่อยๆก็ยังเป็นงู และเดินข้ามมายังอีกที่หนึ่ง ก็มีเสือ เสือนั้นผมคิดว่าน่าจะมีแต่ตอนกลางวันนะ มันเป็นสัตว์กลางคืนด้วยเหรอ ผมรู้สึกแปลกมากๆเพราะว่ากลุ่มผมนั้นอยู่ๆก็เป็นกลุ่มสุดท้ายที่เดินข้างหลัง ไม่ใช่กลุ่มที่ 12  แต่เป็นกลุ่มผมเอง ไปไหนกันหมดนะ สงสัยเดินนำหน้าไปแล้วมั้ง
    “ตูน นำทางไปด้วย เดี๋ยวพี่ไปดูหลังนะ” ผมบอกตูน
    “ค่ะ” ตูนตอบตกลง
    ผมรู้สึกแปลกๆแต่ก็ยังไม่มากเท่าไร แต่ตอนนั้นผมเห็นแปลกๆเป็นเงารูปร่างที่เหมือนคน ดูสัตว์อยู่เหมือนกัน แต่ผมก็คิดอะนะว่า ไม่มี ‘ผี’ ที่ไหนดูสัตว์หรอก แต่ที่แน่ๆผมเห็นจิง
                    เมื่อเดินออกมาแล้ว จะเป็นเนินขึ้นไปนิดนึงและมีรถยาวๆคันหนึ่ง หรือที่ผมเข้าใจอาจจะเรียกว่ารถ ‘ซาฟารี’ มีเด็กนักเรียนนั่งกันเต็มแล้วเลยเหลือแต่ข้างหลัง ผมก็เห็นเพื่อนในแก๊งผมนั้นนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม
“เฮ้ย วุฒิเว้ยมาๆนั่ง” เพื่อนผมชวนและมันเหลือที่นั่งไว้ที่นึง
“อืม” ผมตอบ
    กลุ่มผมก็นั่งกันที่นี่ ไม่ไปไหนไกลเพราะว่า มันเหลือที่นั่งไม่กี่ที่แล้ว ตูนนั่งอยู่หน้าผมกับคนในกลุ่มผมอีก 2-3 คน เมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่ ก็จะมีคำบรรยายไประหว่างทางด้วย และก็ยังมีไฟส่องให้เห็นสัตว์กันชัดๆอีกด้วย อย่างนี้ก็แปลกไปอีกแบบ
    เมื่อชมสัตว์กันเสร็จแล้วก็วนมายังที่ๆก่อนจะไปชมสัตว์กันอาจารย์บอกให้ไปรวมก่อนเพื่อนัดหมายกิจกรรมก่อน
    “วันพรุ่งนี้ เราจะไปดูนกกัน ต้องตื่นน 6.00 น. นะ” อาจารย์พูด “แล้วก็ในวันพรุ่งนี้ ก็อย่าลืมนะเรามีกิจกรรมรอบกองไฟกัน” อาจารย์เสริมอีก
    “ครับ/ค่ะ” นักเรียนทุกคนขานรับ
    “ดีมากตอนนี้.....2ทุ่ม50 แล้ว เราจะขึ้นที่พักกัน” อาจารย์พูด
    “เยยยยยยยยยย้” นักเรียนทุกคนต่างดีใจ อาจจะเพราะว่าจะได้พักผ่อนแล้ว
    “เดี๋ยวๆฟังครูก่อน” อาจารย์พูด “คือนักเรียนไปได้กลุ่มละ 3 คนนะ”
    “อ้าว ไมอะคะ” เด็กคนนึงถามขึ้น
    “คือมันจะเป็นแค่รถคันเล็กๆอะ” อาจารย์พูด
    “โหยยยยยยย” เด็กๆต่างเกิดอารมณ์เซ็ง
    “เอาหน่า ถ้าพวกเธอไปแล้วเธอจะเข้าใจ แล้วก็...พี่ๆที่ไปเค้าก็รู้แล้วใช่มะว่าเป็นไง” อาจารย์พูดพร้อม เหลือบตามายังพวกเรา
    “เหอๆๆๆ” ผมกับเพื่อนทุกคนพยักหน้า แล้วขานรับ
    “งั้นกลุ่ม 1- 3 ไปกันได้” อาจารย์พูด
    “ระวังนะ” แก๊งผมล้อๆกันไป
                    แล้วก็กลุ่มๆก็ไปกันมันจะใช้เวลาที่นานซักหน่อย เพราะการจะขับขึ้นไปนั้นต้องค่อยๆขับขึ้นไป ช้าซักหน่อยแต่ปลอดภัย อาจารย์ก็ไปกันหมด ในรอบแรก ก็เลยเหลือแต่พวกเราเท่านั้น ที่ยังคงคุมรุ่นน้องอยู่
                    “พี่....พี่” เสียงเด็กคนนึงเรียก “ที่นั่นเป็นไงอะพี่” เด็กถาม
                    “ก็.... ไปก็เห็นเอง” ผมตอบ
                    “โหบอกนิดนึงดิ” เด็กเซ้าซี้ผม
                    “ก็เตรียมเสื้อกันหนาวมาปะ” ผมถามพวกรุ่นน้องเรา
                    “ก็เอามา” เด็กตอบ ผมว่าบางคนไม่ได้เอามาหรอกคับ แต่จากสภาพกระเป๋านั้นเอามาแน่ๆหละ แล้วตอนนี้ภายนอกตึกนี้อากาศก็เริ่มเย็นแล้ว คุยไปคุยมาเพลินๆ รถลงมารับในเที่ยวต่อไปพอดี
                    “4-6 ไปได้แล้ว” ตั้มพูด
                  “ค้าบๆ” เด็กตอบ
ผมเห็นเค้าไปก็เหลือแต่ กลุ่มไม่กี่กลุ่มเท่านั้น เมื่อรถเที่ยวต่อไปก็เวลากลุ่มผมซักที่นะ
                  “7-9 ลุกได้แล้ว ไปกันเถอะ” ผมพูด
ผมปล่อยให้ตั้มอยู่ที่นี่ เพราะตั้มจะอยู่กับเจ้าปอมัน ผมก็ไปกับต้น เมื่อผมเห็นเด็กๆของผม ขึ้นรถกันหมดแล้ว
                  “กลุ่มพี่ขึ้นมาหมดนะ” ผมถาม
                  “ค่ะ/ครับ” เด็กตอบ แล้วต้นก็ทำเช่นเดียวกัน
                  “ที่เหลือกลุ่มตั้มอะ 12 คนนะ” ผมถาม “อืมดี”
ผมก็บอกให้เค้าออกรถได้เลยมันมีม้านั่งยาวอยู่บนนี้ด้วยบนรถเนี่ยแหละ  เด็กๆใครจะนั่งก็นั่ง ส่วนน้อยที่จะยืน
                  “เอาหละใกล้ทางลาดแล้วระวังด้วยนะ” ผมพูด
    พูดไม่นานก็ถึงทางลาดแล้ว ม้านั่งนั้นลื่นลงมานิหน่อยกระแทกขาผมแต่ผมก็ยึดเกาะไว้ไม่ให้มันลื่นไปกว่านี้ แต่...โคตรเจ็บอะคับ เมื่อถึงที่นั่น เด็กๆก็ลงจากรถและเข้าใจว่าทำไมผมถึงถามว่าเอาเสื้อกันหนาวหรือปล่าว ที่นั่นแม้แต่ผมยังคิดว่าโคตรหนาวเลยอะคับ แล้วรถก็ไปรับเด็กๆเป็นครั้งสุดท้าย
    เมื่อมาถึงที่นั่นผมเห็นเด็กๆเอากระเป๋าไปแล้วผมกับต้นก็ไปเอากระเป๋ามาบ้าง แล้วผมก็เห็นนายแจ๊คนั่งรอพวกเราอยู่ จึงได้ไปรวมด้วยเหตุผมทั่งรอก็เพราะจะรอไปพร้อมกัน เมื่อมาถึงกันหมดแล้ว อาจารย์ก็บอกพวกเราว่าวันนี้ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ก็จะไปกันแต่เช้า พวกเราก็เลยไปที่ห้อง ห้องพักชายนั้นจะเป็นห้องรวมเลย มี เตียง 2 ชั้น แต่พวกเรานั้นนอนเตียงเดี่ยวหละครับ แต่เตียงเดี๋ยวนั้นมีแค่ 7 เตียงแต่รวมๆเพื่อนผม ก็ 8 คนอะ พวกเรามีความคิดพิศดารว่า เอาเตียงมาต่อกันดีกว่า 5 เตียงต่อกันนอนได้ตั้ง 6 คนแล้วครับอีก 2 เตียง ยกให้ เจ๋งเตียงนึงเฉพาะเลย อีกเตียงก็แล้วแต่ว่าใครจะนอน เพื่อนๆของผมบอกว่าจะไปอาบน้ำกัน แน่นอนหละทั้งวันใครไม่อาบก็บ้าแล้ว ผมนั้นลุกไปอาบน้ำ ผมนั้นใส่กางเกงฟุตบอลออกไป  พร้อมผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำ ที่ใส่กางเกงฟุตบอลเพราะแห้งง่ายดี ผมนั้นเดินไปห้องอาบน้ำเป็นแค่ห้องเล็กๆไม่ใช่ห้องอาบน้ำรวมด้วย ผมเห็นเด็กๆเข้าไปก็เต็มแล้ว อาบห้องละ 3-4 คนก็ได้ยัดๆเข้าไป แต่มันล่อเข้าไป 1 คนต่อ 1 ห้อง โหยรอนานอะคับ
    20 นาทีผ่านไป ผมก็ยังไม่ได้อาบ ผมคิดว่าไม่น่าเสียสละเลย ผมก็โคตรหนาวเลยเพราะแค่กางเกงตัวเดียวเสื้อก็ไม่ได้ใส่ มีแต่ผ้าเช็ดตัว ผืนเดียวคลุมร่างกาย โอยยยย! หนาว ผมก็เลยไปนั่งเลยหน้าห้องน้ำ ไปนิดหน่อย จะมีที่ๆขายของเล็กๆน้อย เป็นพวกขนมคบเคี้ยวหรือลูกอมของหวานต่างๆ ผมไปนั่งไม่นานผมเห็นและตามาฝาดแน่ๆ นั่น ตูน เธอนุ่งผ้าถุง แล้วใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมไว้ โหผมเห็นนี่แทบอึ้ง เธอขาวมาก แล้วในชุดนี้เธอน่ารักอะ น่ารักมากด้วย แต่ผมก็คิดไรมากไม่ได้ กว่าจะได้อาบ ก็ปาเข้าไป 4 ทุ่ม 30 อาบเสร็จก็ไปนอนกับเพื่อน ผมต้องเช็คเด็กให้นอนอีก ส่วนใครไปเข้าห้องน้ำก็ไปปลุกพี่ที่ประตูแรกนะ เพราะอีกประตูนึงผมไม่ให้ออกเพราะเป็นห้องที่ๆนักท่องเที่ยวเค้าพัก แต่ผมนั้นเมื่อล้มตัวลงนอนแค่ลมผ่านห้องยังหนาวเลย แต่ไม่ว่าจะหนาวเท่าไร ก็ช่างมันแต่ที่ผมหนาวคือหนาวหัวใจต่างหาก ผมนั้นเริ่มคิดถึงวันเก่าๆที่เคยมีความสุขกับปิ้น    เพราอะไรก็ไม่รู้ผมถึงคิดขึ้นมาอีก แต่ก็ช่างมันมันทำให้ผมหลับได้ไม่สิ ไม่ได้หรอกเพราะโอเพื่อนในแก๊งผมนั้น แกล้งนายเจ๋งซะจนทุกคนหัวเราะจนท้องแข็ง ไม่ได้นอนเลย แล้วอีกอย่าง ตอนนั้น ตี 1.30 แล้วยังไม่นอนเลยเพราะเหตุนี้แหละ
‘เปิด 10.00-11.00’
‘เปิด 12.00-13.00’
‘เปิด 14.00-15.00’
‘เปิด 16.00-17.00’
                    ผมอยากรู้เหมือนกันจะแสดงอะไรกันนักหนาถึงต้องใช้เวลาถึงชั่วโมงนะ ผมส่งกระดาษบันทึกพฤติกรรมของสัตว์ให้อาจารย์ไปและนั่งรอประตูเปิด ผมยังได้ยินจากรุ่นน้องเค้าบอกว่า ‘ที่นี่ไม่ค่อยมีไรหรอก’ บางคนก็บอกว่า ‘สนุกที่ได้ดูนะ’ แต่ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเป็นไง แต่ที่ผมไม่ชอบคือต้องนั่งดูอะไรที่ๆมันใช้เวลาเป็นชั่วโมงแล้วก็นั่งนิ่งๆอีกต่างหาก จะบอกว่าผมเป็นคนอยู่ไม่สุขก็ได้
เมื่อประตูที่นั่นเปิด ทุกคนก็ต่างเข้าไปในนั้นกันอย่างช้า เค้าให้นั่งไงก็ได้ไม่ตามกลุ่ม ผมก็นั่งอยู่บนสุดกับเพื่อนของผมในแก๊ง แต่ที่ผมเห็นนั้นเป็น เวทีเล็กๆ และมีเชือกคล้องเกี่ยวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง และยังมีที่เกาะของนอกอยู่ประมาณ 2-3 อัน
                    เมื่อถึงเวลาแสดง ผมเห็นทีมงานที่นี่อกมาแสดงร่วมกับสัตว์ผมนี่แถบจะเซ็ง มันไม่มีอะไรที่น่าตื่นใจเลย ก็แสดงความสามารถสัตว์ส่วนมากก็จะเป็นนกที่เล่นการแสดง ผมอยากจะกลับไปเข้าที่พักซักที แต่ปัญหาไม่ได้อยู่แค่นั้น เพราะตอนผมเข้ามาที่สวนสัตว์นี้ไม่ได้ไปที่บ้านพัดเพื่อวางกระเป๋าเลย แต่เป็นแค่ พิพิธภัณฑ์เก่าๆที่วางกระเป๋าไว้ที่นั่น แล้ว ‘แล้วที่พักหละ!’
                    การแสดงจบลง ผมก็ปรบมือตามๆเค้ากัน ผมหันไปดูหน้าเพื่อนผมนั้นหน้าออกเซ็งๆกันทั้งนั้น 5 โมงแล้ว อาจารย์บอกให้ไปเข้าแถวข้างหน้า ประตูที่เราเข้ามา เพื่อจะได้เดินทางไปที่ๆหอประชุม เพื่อนกินข้าวเย็นกัน เราเดินกันเป็นแถวยาวกลับไปยังหอประชุม  เมื่อเราเดินทางาถึงหอประชุมผมรู้สึกว่า สบายใจที่ได้พักแล้ว กินข้าวแล้วของีบหน่อยดีกว่าแต่ไม่ทันไรก็
“วุฒิ!มานี่หน่อย” อาจารย์ปูเรียก
“อาจารย์ปู มีไรอะคับ” ผมถาม อาจารย์ปูนั้น เป็นอาจารย์ที่ผมรู้จักตั้งแต่ ป.3
“ก็อยากไปช่วยยกกระเป๋าอะ ของน้องๆไปยังที่พัก” อาจารย์ปูพูด
“หา!โห ตายแน่” ผมพูด
“ไม่ตายหรอก เอาเพื่อนๆของวุฒิไปด้วยละกัน” อาจารย์ปูพูด
“ก็ได้ครับ” ผมตอบ
“พร้อมเมื่อไรก็ไปเลย รถอยู่นั่นแล้วเดี๋ยวครูไปด้วย” อาจารย์ปูพูด
“ครับ”
                  ผมไปเรียกเพื่อนๆผมก็ในแก๊งนั่นแหละครับ ผมก็อดงีบไปแล้ว ผมชวนเพื่อนคนนี้ไปด้วย นายเจ๋ง เป็นเพื่อนผมเหมือนกัน แต่คนนี้เค้าออกจะ แต๋วๆหน่อย แต่ก็ชายในบางเวลา มันสมัครเข้ามาคนที่ 201 จากอภิสิทธิ์พิเศษของอาจารย์ให้มาคุมพวกเราครับ แต่ตอนนี้ไม่รอดแล้วเราคุมมันกันหละครับ แต่ก็อย่างว่าไปยกของครับไม่มีใครคุมใคร เมื่อผมรวมเพื่อนครบก็ไปรออาจารย์ที่รถ แต่ก่อนผมจะไปจะฝากใครคุมกลุ่มหละ
“ตูน!ตูน” ผมเรียกตูน
“ค่ะ”ตูนตอบ
“คือว่าพี่ต้องไปช่วยอาจารย์ไงก็ฝากกลุ่มด้วยละกัน” ผมพูด
“อืมได้ค่ะ” ตูนตอบ
“อืม!อะใบรายชื่อฝากด้วย” ผมยื่นใบรายชื่อของกลุ่มให้แล้วก็เดินจากไป
                    ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมต้องเรียกตูน แต่เมื่อตอนที่ผมเข้าไปคุยใกล้ตูนเมื่อกี้นี้ มันใกล้ยิ่งกว่าตอนที่ผมคุยกับเธอเมื่อตอนกลางวันอีก ผมได้ยืนใกล้เธอแล้วเห็นใบหน้าของเธอ ยิ่งตอนนี้ผมยิ่งเห็นว่าเธอยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก แต่ก็ได้แค่มองผมก็เขินพูดไรไม่ออกเหมือนกัน
                    ผมออกเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์เก่าๆที่เราได้วางกระเป๋าไว้ ผมขนกระเป๋าผมนี่แทบอึ้งขนกันมาได้อย่างไรนะ หนักจัง เหมือนขนเสื้อผ้ามาจะย้ายบ้านอย่างนั้นแหละ บางคนนี่ 2 กระเป๋าโอ้พระเจ้า แต่ผมนี่แทบไม่สนใจกันเลยเพราะการขนนั้น ผมโยนไปให้เพื่อนรับไม่ก็กลิ้งลงมา พูดได้ง่ายๆว่าเอาให้เร็วเข้าไว้อะคับ ขนขึ้นรถก็ 6.30 แล้วด้วย แต่มันมืดแล้วเพราะมันเป็นหน้าหนาว หน้าหนาวมืดเร็ว
                    ผมนั้นขึ้นรถพร้อมกับกระเป๋า เป็นรถกระบะแค็บทรงสูง แล้วรอบๆแค็บนั้นล้อมรอบด้วยกรงเหล็ก มีแต่ข้างหลังเท่านั้นที่ไม่มีอะไรกั้นเลยพูดง่ายๆว่าเราต้องเป็นที่กั้นไว้กันกระเป๋าตก เพื่อนผมทุกๆคนต่างที่จะคิดว่า ที่พักนั้นอยู่ข้างล่างบริเวณช่วงเขาหรือตีนเขา แต่เมื่อรถขับมาถึงช่วงตีนเขาแล้วแต่ยังคงขับขึ้นไปอีก ยิ่งมืดยิ่งน่ากลัว เป็นทางขึ้นเขายาวๆ รอบๆมืดมิดมีแต่แสงไฟจากไฟถนนไปตามทางเท่านั้น แต่ก็หนาวมากๆด้วย ผมมองนาฬิกา 1 ทุ่มตรง
    เมื่อมาถึงที่พักเป็นที่พักที่ดีเป็เหมือนบ้านชั้นเดียวแต่กว้างมากๆ บริเวณโดยรอบถึงจะมืดแต่ก็เป็นพื้นที่ๆที่โล่ง มีต้นไม้นิดหน่อย พวกเราเอาของลงมากจากรถทันที ไปกองๆรวมกันไว้ที่ที่ห้องโถงของที่นั่น แล้วก็รีบขึ้นรถเพื่อลงมารวกกลุ่มกันเหมือนเดิม ตอนนี้ เกือบๆ จะ 2 ทุ่มแล้ว
    กิจกรรมต่อไปเป็นกิจกรรมชมสัตว์ในตอนกลางคืน ผมสนใจกิจกรรมนี้นะ มันคงได้รู้อะไรเยอะแยะเกี่ยวกับสัตว์ด้วย ว่าจะมีสัตว์ชนิดไหนและอะไร อยู่ในตอนกลางคืนบ้าง ผมไปถึงที่ๆเขารวมตัวกัน ที่นั่นมีเด็กนั่งๆเป็นกลุ่มกันอยู่แล้ว ผมก็เข้าไปรวมทันที
    “มีอะไรเปลี่ยนไปไหม” ผมถามตูน
    “เรียบร้อยดีพี่” ตูนตอบกลับมา
    “อืมก็ฝากต่อละกันขี้เกียจดู” ผมพูด “กิจกรรมต่อไปเริ่มเมื่อไร” ผมถาม
    “ใกล้แล้ว” ตูนตอบ
    ไม่ทันไรเค้าก็เรียกไปให้เดินเป็นกลุ่ม เดินไปยังที่ๆหนึ่ง ซึ่งเป็นตู้กระจกกว้างๆ ผมมองเข้าไปในนั้น เห็นเป็นเหมือนป่ารกๆอยู่ข้างในแต่ก็ยังมีที่ว่างให้พอมองเห็นสัตว์ข้างในนั้น และที่ผมเห็นข้างในนั้นเป็นงูชนิดต่างๆมากมาย เลื้อยขดเป็นวงอยู่ ตัวของมันใหญ่พอสมควรทีเดียว และเดินผ่านไปเรื่อยๆก็ยังเป็นงู และเดินข้ามมายังอีกที่หนึ่ง ก็มีเสือ เสือนั้นผมคิดว่าน่าจะมีแต่ตอนกลางวันนะ มันเป็นสัตว์กลางคืนด้วยเหรอ ผมรู้สึกแปลกมากๆเพราะว่ากลุ่มผมนั้นอยู่ๆก็เป็นกลุ่มสุดท้ายที่เดินข้างหลัง ไม่ใช่กลุ่มที่ 12  แต่เป็นกลุ่มผมเอง ไปไหนกันหมดนะ สงสัยเดินนำหน้าไปแล้วมั้ง
    “ตูน นำทางไปด้วย เดี๋ยวพี่ไปดูหลังนะ” ผมบอกตูน
    “ค่ะ” ตูนตอบตกลง
    ผมรู้สึกแปลกๆแต่ก็ยังไม่มากเท่าไร แต่ตอนนั้นผมเห็นแปลกๆเป็นเงารูปร่างที่เหมือนคน ดูสัตว์อยู่เหมือนกัน แต่ผมก็คิดอะนะว่า ไม่มี ‘ผี’ ที่ไหนดูสัตว์หรอก แต่ที่แน่ๆผมเห็นจิง
                    เมื่อเดินออกมาแล้ว จะเป็นเนินขึ้นไปนิดนึงและมีรถยาวๆคันหนึ่ง หรือที่ผมเข้าใจอาจจะเรียกว่ารถ ‘ซาฟารี’ มีเด็กนักเรียนนั่งกันเต็มแล้วเลยเหลือแต่ข้างหลัง ผมก็เห็นเพื่อนในแก๊งผมนั้นนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม
“เฮ้ย วุฒิเว้ยมาๆนั่ง” เพื่อนผมชวนและมันเหลือที่นั่งไว้ที่นึง
“อืม” ผมตอบ
    กลุ่มผมก็นั่งกันที่นี่ ไม่ไปไหนไกลเพราะว่า มันเหลือที่นั่งไม่กี่ที่แล้ว ตูนนั่งอยู่หน้าผมกับคนในกลุ่มผมอีก 2-3 คน เมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่ ก็จะมีคำบรรยายไประหว่างทางด้วย และก็ยังมีไฟส่องให้เห็นสัตว์กันชัดๆอีกด้วย อย่างนี้ก็แปลกไปอีกแบบ
    เมื่อชมสัตว์กันเสร็จแล้วก็วนมายังที่ๆก่อนจะไปชมสัตว์กันอาจารย์บอกให้ไปรวมก่อนเพื่อนัดหมายกิจกรรมก่อน
    “วันพรุ่งนี้ เราจะไปดูนกกัน ต้องตื่นน 6.00 น. นะ” อาจารย์พูด “แล้วก็ในวันพรุ่งนี้ ก็อย่าลืมนะเรามีกิจกรรมรอบกองไฟกัน” อาจารย์เสริมอีก
    “ครับ/ค่ะ” นักเรียนทุกคนขานรับ
    “ดีมากตอนนี้.....2ทุ่ม50 แล้ว เราจะขึ้นที่พักกัน” อาจารย์พูด
    “เยยยยยยยยยย้” นักเรียนทุกคนต่างดีใจ อาจจะเพราะว่าจะได้พักผ่อนแล้ว
    “เดี๋ยวๆฟังครูก่อน” อาจารย์พูด “คือนักเรียนไปได้กลุ่มละ 3 คนนะ”
    “อ้าว ไมอะคะ” เด็กคนนึงถามขึ้น
    “คือมันจะเป็นแค่รถคันเล็กๆอะ” อาจารย์พูด
    “โหยยยยยยย” เด็กๆต่างเกิดอารมณ์เซ็ง
    “เอาหน่า ถ้าพวกเธอไปแล้วเธอจะเข้าใจ แล้วก็...พี่ๆที่ไปเค้าก็รู้แล้วใช่มะว่าเป็นไง” อาจารย์พูดพร้อม เหลือบตามายังพวกเรา
    “เหอๆๆๆ” ผมกับเพื่อนทุกคนพยักหน้า แล้วขานรับ
    “งั้นกลุ่ม 1- 3 ไปกันได้” อาจารย์พูด
    “ระวังนะ” แก๊งผมล้อๆกันไป
                    แล้วก็กลุ่มๆก็ไปกันมันจะใช้เวลาที่นานซักหน่อย เพราะการจะขับขึ้นไปนั้นต้องค่อยๆขับขึ้นไป ช้าซักหน่อยแต่ปลอดภัย อาจารย์ก็ไปกันหมด ในรอบแรก ก็เลยเหลือแต่พวกเราเท่านั้น ที่ยังคงคุมรุ่นน้องอยู่
                    “พี่....พี่” เสียงเด็กคนนึงเรียก “ที่นั่นเป็นไงอะพี่” เด็กถาม
                    “ก็.... ไปก็เห็นเอง” ผมตอบ
                    “โหบอกนิดนึงดิ” เด็กเซ้าซี้ผม
                    “ก็เตรียมเสื้อกันหนาวมาปะ” ผมถามพวกรุ่นน้องเรา
                    “ก็เอามา” เด็กตอบ ผมว่าบางคนไม่ได้เอามาหรอกคับ แต่จากสภาพกระเป๋านั้นเอามาแน่ๆหละ แล้วตอนนี้ภายนอกตึกนี้อากาศก็เริ่มเย็นแล้ว คุยไปคุยมาเพลินๆ รถลงมารับในเที่ยวต่อไปพอดี
                    “4-6 ไปได้แล้ว” ตั้มพูด
                  “ค้าบๆ” เด็กตอบ
ผมเห็นเค้าไปก็เหลือแต่ กลุ่มไม่กี่กลุ่มเท่านั้น เมื่อรถเที่ยวต่อไปก็เวลากลุ่มผมซักที่นะ
                  “7-9 ลุกได้แล้ว ไปกันเถอะ” ผมพูด
ผมปล่อยให้ตั้มอยู่ที่นี่ เพราะตั้มจะอยู่กับเจ้าปอมัน ผมก็ไปกับต้น เมื่อผมเห็นเด็กๆของผม ขึ้นรถกันหมดแล้ว
                  “กลุ่มพี่ขึ้นมาหมดนะ” ผมถาม
                  “ค่ะ/ครับ” เด็กตอบ แล้วต้นก็ทำเช่นเดียวกัน
                  “ที่เหลือกลุ่มตั้มอะ 12 คนนะ” ผมถาม “อืมดี”
ผมก็บอกให้เค้าออกรถได้เลยมันมีม้านั่งยาวอยู่บนนี้ด้วยบนรถเนี่ยแหละ  เด็กๆใครจะนั่งก็นั่ง ส่วนน้อยที่จะยืน
                  “เอาหละใกล้ทางลาดแล้วระวังด้วยนะ” ผมพูด
    พูดไม่นานก็ถึงทางลาดแล้ว ม้านั่งนั้นลื่นลงมานิหน่อยกระแทกขาผมแต่ผมก็ยึดเกาะไว้ไม่ให้มันลื่นไปกว่านี้ แต่...โคตรเจ็บอะคับ เมื่อถึงที่นั่น เด็กๆก็ลงจากรถและเข้าใจว่าทำไมผมถึงถามว่าเอาเสื้อกันหนาวหรือปล่าว ที่นั่นแม้แต่ผมยังคิดว่าโคตรหนาวเลยอะคับ แล้วรถก็ไปรับเด็กๆเป็นครั้งสุดท้าย
    เมื่อมาถึงที่นั่นผมเห็นเด็กๆเอากระเป๋าไปแล้วผมกับต้นก็ไปเอากระเป๋ามาบ้าง แล้วผมก็เห็นนายแจ๊คนั่งรอพวกเราอยู่ จึงได้ไปรวมด้วยเหตุผมทั่งรอก็เพราะจะรอไปพร้อมกัน เมื่อมาถึงกันหมดแล้ว อาจารย์ก็บอกพวกเราว่าวันนี้ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ก็จะไปกันแต่เช้า พวกเราก็เลยไปที่ห้อง ห้องพักชายนั้นจะเป็นห้องรวมเลย มี เตียง 2 ชั้น แต่พวกเรานั้นนอนเตียงเดี่ยวหละครับ แต่เตียงเดี๋ยวนั้นมีแค่ 7 เตียงแต่รวมๆเพื่อนผม ก็ 8 คนอะ พวกเรามีความคิดพิศดารว่า เอาเตียงมาต่อกันดีกว่า 5 เตียงต่อกันนอนได้ตั้ง 6 คนแล้วครับอีก 2 เตียง ยกให้ เจ๋งเตียงนึงเฉพาะเลย อีกเตียงก็แล้วแต่ว่าใครจะนอน เพื่อนๆของผมบอกว่าจะไปอาบน้ำกัน แน่นอนหละทั้งวันใครไม่อาบก็บ้าแล้ว ผมนั้นลุกไปอาบน้ำ ผมนั้นใส่กางเกงฟุตบอลออกไป  พร้อมผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำ ที่ใส่กางเกงฟุตบอลเพราะแห้งง่ายดี ผมนั้นเดินไปห้องอาบน้ำเป็นแค่ห้องเล็กๆไม่ใช่ห้องอาบน้ำรวมด้วย ผมเห็นเด็กๆเข้าไปก็เต็มแล้ว อาบห้องละ 3-4 คนก็ได้ยัดๆเข้าไป แต่มันล่อเข้าไป 1 คนต่อ 1 ห้อง โหยรอนานอะคับ
    20 นาทีผ่านไป ผมก็ยังไม่ได้อาบ ผมคิดว่าไม่น่าเสียสละเลย ผมก็โคตรหนาวเลยเพราะแค่กางเกงตัวเดียวเสื้อก็ไม่ได้ใส่ มีแต่ผ้าเช็ดตัว ผืนเดียวคลุมร่างกาย โอยยยย! หนาว ผมก็เลยไปนั่งเลยหน้าห้องน้ำ ไปนิดหน่อย จะมีที่ๆขายของเล็กๆน้อย เป็นพวกขนมคบเคี้ยวหรือลูกอมของหวานต่างๆ ผมไปนั่งไม่นานผมเห็นและตามาฝาดแน่ๆ นั่น ตูน เธอนุ่งผ้าถุง แล้วใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมไว้ โหผมเห็นนี่แทบอึ้ง เธอขาวมาก แล้วในชุดนี้เธอน่ารักอะ น่ารักมากด้วย แต่ผมก็คิดไรมากไม่ได้ กว่าจะได้อาบ ก็ปาเข้าไป 4 ทุ่ม 30 อาบเสร็จก็ไปนอนกับเพื่อน ผมต้องเช็คเด็กให้นอนอีก ส่วนใครไปเข้าห้องน้ำก็ไปปลุกพี่ที่ประตูแรกนะ เพราะอีกประตูนึงผมไม่ให้ออกเพราะเป็นห้องที่ๆนักท่องเที่ยวเค้าพัก แต่ผมนั้นเมื่อล้มตัวลงนอนแค่ลมผ่านห้องยังหนาวเลย แต่ไม่ว่าจะหนาวเท่าไร ก็ช่างมันแต่ที่ผมหนาวคือหนาวหัวใจต่างหาก ผมนั้นเริ่มคิดถึงวันเก่าๆที่เคยมีความสุขกับปิ้น    เพราอะไรก็ไม่รู้ผมถึงคิดขึ้นมาอีก แต่ก็ช่างมันมันทำให้ผมหลับได้ไม่สิ ไม่ได้หรอกเพราะโอเพื่อนในแก๊งผมนั้น แกล้งนายเจ๋งซะจนทุกคนหัวเราะจนท้องแข็ง ไม่ได้นอนเลย แล้วอีกอย่าง ตอนนั้น ตี 1.30 แล้วยังไม่นอนเลยเพราะเหตุนี้แหละ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น