ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจดวงสุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #11 : วันแรก...

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 48


    การเดินทางได้เริ่มต้นขึ้น ทุกๆอย่างถูกกำหนดไว้ที่นั่น จุดหมายก็ก็คือ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ในจังหวัด ชลบุรี วันแรกที่เราได้เดินทางไปถึงนั้นเราไม่ได้ลงที่ที่เป็นที่พักเลย พวกเราลงในสถานที่ๆหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนกับพิพิธภัณฑ์เล็กแห่งหนึ่งของสวนสัตว์ เราไม่ได้มาเยี่ยมชมหรอกนะเพราะ ในที่ๆนั้นเหมือนกับเลิกใช้มานานแล้ว มีแต่ตู้กระจกที่ ว่างเปล่า อยู่ข้างในนั้นเรียงกันเป็นแถว จะมีก็แต่สิ่งที่ยังไม่ได้เคลื่อนที่หรือขนย้ายออกไปก็คือ พวกสัตว์ที่ได้ สตาร์ฟไว้เท่านั้น ในนั้นจะมีห้องอยู่ห้องหนึ่ง เป็นห้องกว้างๆ อยู่ที่ชั้น 2 ของตึกนั้น อาจารย์บอกให้วางกระเป๋าไว้ที่นี่ก่อน เพราะเราต้องทำกิจกรรมที่นี่กันเลย ทุกๆคนก็วางกระเป๋าไว้ที่นี่ และออกไปข้างนอกตัวตึกไปรวมกันที่ หอประชุมเล็กๆของที่นี่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่เท่าไร

        เมื่อไปถึงที่นั่น เรารูได้ทันทีว่า บรรยากาศก็ถือว่าโอเคหละ อาจเป็นเพราะไปในช่วงฤดูหนาวด้วยแหละมั้ง อาจารย์บอกให้นั่งเป็นกลุ่ม และให้ตั้งชื่อกลุ่มด้วย



        “เอ้านักเรียน! ให้ตั้งชื่อกลุ่มไว้ด้วยนะ” อาจารย์พูด



        ‘เนี่ยแหละจะชื่อไรอะ’ ผมนึกอยู่ในใจ



        “เอาเป็นชื่อที่ออกจะวิทยาศาสตร์หน่อยละกัน” อาจารย์พูดเสริม



        ‘เอากันเข้าไป’ ผมคิดในใจอีก ‘แค่ทั่วไปยังตั้งไม่ได้เลย แล้วแบบวิทย์จะเหลือเหรอเนี่ย’ ผมยิ่งคิดอีก



        ผมนั้นไม่รู้จะตั้งไรจริงๆ ผมจึงหันไปถาม คนในกลุ่มจะตั้งว่าอะไร



        “เออ...” ผมทัก “เราจะตั้งว่าไรอะ”



        “พี่ก็คิดดิ” น้องคนหนึ่งพูด



        “เอ้า! ก็ช่วยกันคิดหน่อย” ผมพูดขอร้อง



        “แล้วแต่พี่อะแหละ” น้องคนเดิมพูดอีก



        “เออ ว่าเข้าไปนั่น พอๆ! ถามคนอื่นก็ได้วะ” ผมเริ่มเคืองแล้ว



        ผมนั้นหันไปเห็นคนในกลุ่มผมนั้นคนนึง ที่ชื่อ ตูน ผมนั้นก็ลองถามเค้า



        “ตั้งชื่อว่าไงดีอะ” ผมถามเธอ



        “แล้วแต่พี่ละกัน หนูยังไงก็ได้” ตูนตอบ



        “ก็ช่วยหน่อยละกัน พี่ก็ไม่อยากคิด เดี๋ยวเค้าว่าอีกว่าชื่อโหลย” ผมพูด



        ตูนหัวเราะนิดๆแล้วพูดว่า



        “พี่ตั้งว่าไรอะ...ในใจพี่อะ” ตูนถาม



        “กลุ่มเหรอ....เกี่ยวกับวิทย์ก็.....” ผมคิดอยู่ครู่นึง “โมเลกุล” ผมตอบ



        “ก็ไม่เลวนะ” ตูนตอบ “เอาเถอะไงก็ได้พี่” ตูนพูด



        ผมก็ตกลง แล้วก็บอกตูนว่าให้ไปบอกคนในกลุ่มให้ด้วย เป็นอันตกลงว่ากลุ่มของเรานั้นชื่อกลุ่มว่า ‘โมเลกุล’



        “เฮ้ย!เมิงตั้งชื่อกลุ่มว่าไรวะ” เสียงผู้ชายคนนึงถาม ไอ้ต้นนี่เอง



        “โมเลกุลอะ” ผมตอบ



        “เหรอ ช่วยคิดให้กรูด้วยดิ” ต้นขอร้อง



        “เออ.....ว่าไงดีอะ” ผมคิดอีก ปวดหัวนะเนี่ย



        “อ๋อ!” ต้นอุทาน “อะตอมไง” ต้นพูด



        “เออ! เมิงก็คิดได้นี่หว่า” ผมพูด



        ในขณะที่ผมพูดจบ อาจารย์ก็พูดขึ้นแทรก ในระหว่างที่ทุกกลุ่มนั้นจะตั้งชื่อกลุ่มผมไม่รู้หรอกนะว่ากลุ่มนั้นจะตั้งเสร็จหรือไม่เสร็จยังไง



        “เอ้า! นักเรียน ฟังทางนี้หน่อย” อาจารย์พูดพร้อมตบมือ ทุกๆคนนั้นต่างที่จะสนใจในจุดๆเดียวก็คืออาจารย์นั่นเอง



        “ตอนนี้เราขอทำกิจกรรมที่ 1 ก่อน” อาจารย์พูด “ให้นักเรียนดูวิดีโอเกี่ยวกับประวัติของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวแห่งนี้” อาจารย์พูดเสริม



        และก็เป็นที่แน่นอนว่า การดูวีดีโอนั้นเป็นที่น่าเบื่ออย่างเห็นได้ชัด ทุกๆคนที่นั่งอยู่ในหอประชุม นั้นไม่สนใจกับประวัติของที่นี่เอาเลยจะมีแต่บางคนเท่านั้น แต่ผมเห็นตูนนั้นสนใจเป็นอย่างมากไม่คุยกับใครเค้าเลย แต่ผมก็คิดอีกนะว่าทำไมต้องมองเค้าบ่อยๆด้วยนะ แต่เค้าก็ไม่ใช่ว่าไม่น่ารักนะคับ แต่เธอก็น่ารักอะคับ ถึงจะสู้ปิ้นไม่ได้แต่เธอก็โอเคหละครับ ใส่แว่นอีกต่างหาก ทำให้เธอยิ่งน่ารักเข้าไปอีก ผมรวบไว้ด้านหลัง แต่ปากและแก้มอมชมพู แต่...ผมคิดไปไหนแล้วเนี่ย

        10 นาทีผ่านไปวีดีโอยังไม่จบเลย อะไรมันจะยาวขนาดนี้ ผมดูนาฬิกาโอ้ 11.00 น. แล้วอีกแป๊ปเดียวก็ได้เวลากินข้าวแล้ว แต่ไอ้วีดีโอบ้าๆนี่ไม่จบซักที เค้าว่าไอ้การรอคอยอะไรซักอย่างเวลาจะผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ไอ้การที่ทำอะไรอย่างสนุกสนานเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมเชื่อเลย แต่เมื่อผมหันไป สิ่งที่ทำเอาผมแปลกใจก็คือ ตูนนั้นยังนั่งเฉยๆดูวิดีโออยู่เลย



        “เฮ้! ตูน ไม่เบื่อมั่งเหรอ” ผมถาม



        “เบื่อนะ แต่ต้องฟังไว้” ตูนตอบ “ฟังไปงั้นแหละ” ตูนพูดเสริม



        ผมหละเชื่อเค้าเลย แต่อย่างว่าดูไปเถอะ มันไม่มีไรทำนิ เผอิญผมหันไปพอดีกับคำที่เคาบรรยาย ว่า ‘ที่สวนสัตว์ของเรามีสวนสัตว์เปิดกลางคืนด้วย’ โอ๊ะ! น่าสนใจหละครับว่าเป็นยังไง กิจกรรมนี้เราต้องเจอตอนกลาคืนนี้อยู่แล้วน่าสนใจมากๆ ผ่านไป 15 นาที ประวัติก็จบลง และใช่ มันจบลงซักที อาจารย์บอกให้ไปกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยว่ากันเกี่ยวกับกิจกรรมต่อๆไป



        “เฮ้ย!เปงไงบ้างวะ” นายแจ๊คถาม



        “เออ...กรูโคตรเบื่อ” ผมตอบไป



        “เฮ้ย วุฒิ แจ๊ค ทางนี้เว้ย” ตั้มเรียก



        เพื่อนผมไปนั่งกินข้าวเป็นกลุ่มๆกัน แล้วโดยเฉพาะแก๊งผมนั่งกันเป็นวงกินข้าวกันแล้วตอนนี้ผมรูสึกว่าอยากจะนอนพักแล้ว ไม่รู้สิคุมน้องเหนื่อยละมั้ง



        “เฮ้ย!กลุ่มเมิงมีสาวๆป่าววะ” แจ๊คถาม



        “ก็มีบ้างนิดหน่อย” ผมและทุกๆคนก็ตอบกันคล้ายคลึงว่ามีกันหละ



        “เออ!ไอ้วุฒิกลุ่มเมิงมีคนนึงนิ” แจ๊คถาม



        “ใครอะ กรูไม่เห็นมีซักคน” ผมพูดพลางนึกคิดไปด้วย แต่ผมคิดไว้ว่าอย่าเป็นตูนเลย



        “ถักเปียอะ ผมยาวอะ ที่ใส่เสื้อลายแดงอะ” แจ๊คพูดลักษณะ “ชื่อไรอะ” แจ๊คถามอีก



        “อ๋อ” ผมนึกออกแล้ว “แอมป์อะ”



        ในความคิดของผมนั้นแอมป์อะเฉยๆสู้ตูนไม่ได้ด้วยแต่ผมว่า ผมจะใส่ใจอะไรตูนมากมายนักนะ



        “ติดต่อเว้ย” แจ๊คพูด



        “เอาเหรอ” ผมถาม “ติดต่อเองละกัน” ผมพูด



        “เมิงจะจีบก็ทำเองดิวะ” ผมพูดกลับไป



        แต่ก็พูดกันอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น เรื่อง ‘หญิง’ น่ารักมั่งไม่น่ารักบ้าง แต่ผมก็ไม่สนใจอะ ต้นเค้าบอกกลุ่มเค้าก็มีคนที่ชื่อ ‘แพร’  คนอื่นส่วนมากก็ลงความเห็นว่า ไม่มีอะ

        เมื่อกินข้าวพวกเราก็ได้พักอีก 30 นาที เค้าก็เรียกรวมแล้วในหอประชุมนั้นแหละคราวนี้ ทีมงานที่บรรยายตอนเรื่องประวัติตอนนั้นก็บอกอีกว่า



        “อยากให้นักเรียนตั้งชื่อกลุ่มใหม่” สตาร์ฟที่นั่นพูด



        “คือเราตั้งไปแล้ว” หลายๆเสียงต่างตอบกัน



        “ก็อยากให้ตั้งใหม่แต่เป็นชื่อสัตว์ แล้วก็ให้คิดเพลงประจำกลุ่มด้วย” สตาร์ฟพูด



        “เฮ้อ!กรูได้ตั้งใหม่อีกแล้ว” ผมพูดกับต้น



        “คราวนี้ตั้งว่าไรดีอะ” ผมพูดกับเด็กในกลุ่ม



        “ไม่รู้ดิ” เด็กพูดแบบเดิมๆ



        “เสือขาวเป็นไง” เสียงคนนั้นพูดขึ้น



        “ก็ดีนะเอามะ” เด็กอีกคนถาม



        “เอาก็เอาวะ” ผมพูด



        มันเป็นชื่อที่แปลกและแหวกแนวมากที่สุดผมอยากบอกว่า น้องคนนั้นชื่อต้น นิสัยต่างกับต้นเพื่อนผมโดยสิ้นเชิง มันเป็นเด็กที่กวนๆ แต่ยังไม่รู้หรอกอาจจะทำไปงั้นนี่เพิ่งรู้จักกันครึ่งวันเองนะ การที่ตั้งชื่อว่า ‘เสือขาว’ นั้นก็ดีที่มีชื่อกลุ่มแต่เรื่องของชื่อเพลงที่เราต้องแต่งอะ แต่....เอ.....จะแต่งไปทำไมนะ



        “เอาฟังนะ” สตาร์ฟ “เพลงที่ให้แต่งนั้น พรุ่งนี้จะมีกิจกรรมเกี่ยวกับการเล่นรอบกองไฟด้วย เราต้องแสดงท่าทางประกอบเพลงด้วยไปคิดมาละกัน”



        โอ้ มาแล้ว ผมไม่น่าจะทักเลยมันมาจนได้ ผมก็เอาวะเลยตามเลยไม่สนใจสิ่งอันใดแล้ว ผมบอกว่าเอางี้พรุ่งนี้เราค่อยคิดกัน ส่วนใครคิดได้ก็คิดนะ



        “กิจกรรมต่อๆไป เราจะไปสังเกตุพฤติกรรมของสัตว์กันนะ” สตาร์ฟพูด “เราจะมีแผนที่ให้ด้วย อย่าหลงกันหละ ตอนนี้ บ่ายโมง 12 นาที ตอน 4 โมงเย็นเราต้องไปชมการแสดงของสัตว์กันนะ เห็นมั้ยในรูปอะใกล้ๆพิพิธภัณฑ์นกอะ”



        อืมผมเห็นหละแล้วก็ทำเครื่องหมายหมายไว้ และก็มาร์คที่ๆผมอยู่ตอนนี้คือหอประชุมด้วย ส่วนสัตว์ที่ผมต้องสังเกตุก็คือ ‘แรดขาว’



        “สังเกตุพฤติกรรม แล้วก็บันทึกมา เราจะมีตารางให้” ทีมงานพูดพร้อมกับแจกกระดาษบันทึก แล้วก็ปากกาให้คนละกลุ่ม กลุ่มละ 1 ใบและ 1 ด้าม



        กลุ่มผมนั้น ไปกับนายต้นเค้า ส่วนคนอื่นๆนั้นจะไปสังเกตุพฤติกรรมของสัตว์ กลุ่มละตัว ผมสงสัยว่า แรดขาวนั้นต้องสังเกตุถึง 2 กลุ่มเลยเหรอ แต่ก็ไม่ได้ถามเค้า

                         ออกเดินทางไปตามแผนที่ ทุกคนเชื่อฟังผมดีมากว่าว่าอย่าแตกแถวหละ ก็คงไม่ได้กวนไปทุกคนหรอก ต้นเค้าให้ผมนำหน้า เพราะว่าขี้เกียจอ่านแผนที่ เมื่อไปถึงที่หมายเค้าบอกว่าให้สังเกตุดู ภายในเวลา 20 นาที ว่ามีสิ่งใดเปลี่ยนไปบ้าง 1 นาทีก็ให้บรรทึก แต่การสังเกตุนั้นผมดูอย่างเดียวแล้วให้เด็กๆในกลุ่มบันทึก ที่ๆกั้นแรดขาวไว้นั้นจะเป็นปูนที่ก่อไว้สูงๆข้างที่ก่อไว้นั้นจะเป็นเหมือนกระท่อมบนต้นไม้หรือบ้านไม้นั่นแหละต้องขึ้นบันไดไปดูมัน แรดขาวตัวใหญ่มากตามที่ผมดู แล้วตัวของเค้าจะเป็นสีขาวหรือสีเผือก ผมให้ เด็กๆบันทึกเอาผมไม่แนะนำหรือทำอะไรทั้งนั้น แล้วที่แปลกก็คือ ตูนหละไปไหนแล้ว ผมไม่เห็นอยู่บนนั้น ผมลงไปเห็นเธอนั้นนั่งอยู่ข้างล่าง ไม่ขึ้นมาดูแบบคนอื่นๆ ผมเดินเข้าไปหาเธอ



                         “ไม่ขึ้นมาดูหละ” ผมถาม



                         “ก็ดูแล้ว แต่เห็นคนอื่นบันทึกแล้วคิดว่าไม่ต้องทำไรไง” ตูนตอบ



                         “เหรอ” ผมพูด



                         “แล้วพี่ไม่ดูเหรอ” ตูนถาม



                         “ไม่อะ เหตุผลเดียวกับน้องแหละ” ผมตอบ



                         “เหรอ” แล้วเธอก็นั่งเงียบไป



                         “เป็นอะไรไป ไม่สบายป่าว” ผมภามเธอ



                         “ป่าวหรอก เบื่ออะ” เธอตอบ



                         “เบื่อไรอะ” ผมถามเธออีก



                         “ไม่มีอะไรช่างมันเถอะ” ตูนตอบ



                        แล้วผมกับเธอก็ไม่พูดอะไรกันอีก ผมนั้นได้แต่จ้องมองหน้าของตูน ซึ่งใบหน้าของเธอนั้นไม่ได้สดใสแบบที่ทุกคนจะเป็น แต่เป็นใบหน้าที่มีแต่ความทุกข์ราวกับว่าเธอนั้นเพิ่งจะอกหักหรือสูญเสียสิ่งสำคัญของเธอไป แต่ตอนนี้เวลา....เวลานั้นก็ยังผ่านไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักหยุด ผมอยากจะลบเวลาในช่วงที่ทำให้เธอเศร้าออกไปจากชีวิตเธอ ทำไมก็ไม่รู้ทำไมถึงสนใจเธอนัก แต่มันเหมือนกับตอนผมเจอกับปิ้น....ใช่....เหมือนกันจิงๆและสิ่งที่เหมือนกันคือ ผมรู้สึกว่าผมเริ่มชอบเค้านิดๆขึ้นมาแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×