ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจดวงสุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #10 : การเข้าค่ายคือจุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 48


                         อีกไม่นานนี้ก็จะเข้าค่ายวิทย์แล้ว รู้สึกตื่นเต้นจิงๆ จะได้เห็นไรบ้างนะ ที่นั่น แม้แต่เพื่อนผมที่จะไปกัน ก็ยังอยากจะรู้เลยว่ามีอะไรเตรียมไว้บ้างที่นั่นจะเป็นอย่างไร แล้ว จะเป็นที่แบบไหน แต่ตอนนี้ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจกว่าการไปเข้าค่ายที่นั่นอีก แต่มันก็ต้องทำอะไรเป็นจุดเด่นจนได้ โครงงนเครื่องบำบัดน้ำเสียนั้น ดันเกิดเสียขึ้นมาอีกซะงั้น ไมมันต้องมาเกิดเอาตอนนี้ เหลืออยู่ อีก 1 อาทิตย์เท่านั้น ก็จะเข้าค่ายแล้ว แล้วก็รายงานรูปเล่ม หรือแม้แต่ โชว์งานแสดงทางบอร์ดอีก ยังไม่ได้ทำเลยซักอย่าง ผมจึงเร่งไปทำงานบอร์ดก่อน แต่ก็นะ ทำคนเดียวความคิดมันไม่ออกอะ ช่วยไม่ได้ ผมก็แต่งมั่วๆตามความเข้าใจของตัวเองนั่นแหละ พยายามบรรยายให้มันยาวเข้าไว้ แต่ก็ไม่ยาวแหะ แต่ก็เอาเถอะยังไงก็ต้องเอาไปให้อาจารย์ดูก่อนแล้วค่อยทำบอร์ด ผมจึงรีบกลับบ้านไปเขียน ร่างๆลงกระดาษก่อน กว่าจะเสร็จก็ ปาเข้าไปตั้ง เที่ยงคืนโคตรง่วงอะคับ แต่ก็แปลกใจที่มีโทรศัพท์เข้ามาหาผม ผมก็แปลกใจและอยากจะบอกว่านั่นเป็นเบอร์ของ…



        “สวัสดีค่ะ ขอสายพี่วุฒิคะ” เสียงผู้หญิงพูดขึ้น



        “พูดอยู่ครับ” ผมพูด



        “คือ...เอ่อนี่ปิ้นนะค่ะ”



        ปิ้นนั่นเอง ผมนี่แทบงง อยู่ๆเค้าก็โทรมาเหมือนกับรู้ว่า ผมนั้นยังไม่นอน แต่ก็นั่นแหละ เธอยังไม่นอน ทั้งๆที่ปกติเค้าต้องนอนเวลา 3-4 ทุ่มโดยปกติ



        “ว่างคุยปะค่ะ” ปิ้นถาม



        “ก็...ว่าง” ผมตอบ



        “คือ พี่วุฒิยังไม่นอนอีกเหรอค่ะ” ปิ้นถาม



        “จะไปแล้ว” ผมตอบโดยเคืองนิดๆ ผมยังคิดอยู่ว่าจะถามว่า ไมไม่นอนเหมือนกันแต่ ผมนึกถึงอดีตก็ทำให้ ผมนั้นโกรธและเคืองนิดๆ



        “เหรอค่ะ...คือ...” ปิ้นพูดแล้วก็เงียบไป “คือว่า...”



        “มีไรมะ ถ้าไม่มีพี่จะอาบน้ำนอนแล้ว” ผมตอบเสียงโกรธนิดๆ



        “คือหนูมีเรื่องจะพูดด้วยอะค่ะ” ปิ้นพูด



        “เรื่องไร” ผมถาม



        “เรื่องระหว่างเราอะ” ปิ้นตอบผม



        “มันไม่มีอะไรแล้วนิ จะนึกถึงมันทำไม” ผมตอบ “แล้วอีกอย่าง น้องต่างหากที่เป็นคนบอกให้เราเลิกกัน” ผมเสริม



        “หนูว่าแล้วแต่ว่าพี่ต้องโกรธ” ปิ้นตอบ



        “แล้วมีไรอีก” ผมถาม



        “คือหนูอยากให้เรากลับมารักกันอีกอะ ได้ไหมค่ะ” ปิ้นพูด



        “ไม่มีทาง” ผมตอบแข็งขัน



        “หนูรู้ว่าพี่ต้องตอบอย่างนี้ แต่ไม่เปนไรค่ะหนูให้เวลาพี่ไปคิดนะคะ” ปิ้นพูด



        “ไม่” ผมตอบย้อนกลับไป     



        “เอาหน่า พี่วุฒิลองไปคิดดูนะคะ” ปิ้นพูด แล้วก็วางหูโทรศัพท์ไปเลย



        ถ้าเป็นเมื่อเดืนก่อนผมอยากจะให้คำๆนี้ พูดออกจากปากของเธฮเหมือนกัน แต่ตอนนี้สำหรับผมมันสายไปแล้ว ผมไม่มาคิดว่าเราต้องกลับมาเริ่มต้นกันอีกเลย ผมตั้งใจไว้อย่างนั้นและจะไม่มีอะไรมาทำให้ไขว้เขวได้อีก ผมรีบอาบน้ำแล้วเข้านอน

        วันรุ่งขึ้น ผมนำสิ่งที่เขียนเกี่ยวกับโครงงานนั้นไปให้อาจารย์ดู อาจารย์นั้นบอกว่า ให้ทำลงไปเลย ผมเองยังงงเลย มันโอเคแล้วเหรอเนี่ย เขียนมั่วไปเยอะเหมือนกัน ไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าเรานั้นเขียนยังไงไปบ้าง เมื่อผมออกมาจากห้องพักครูแล้ว ผมหันหลังไปเจอปิ้นพอดี ผมก็เดินผ่านไปเฉยๆ แต่ผมสังเกตเห็นบนใบหน้าของเธอนั้น ทำหน้าตาเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด

        ใบหน้าของเธอบางทีก็ทำให้หวั่นไหวแต่ไม่ซะละ ไม่ใช่กับผมแน่นอน ผมพูดคำไหนคำนั้น เป็นเวลาเข้าแถวพอดี ผมลงไปเข้าแถว แต่วันนี้วันประชุมนักเรียนที่ไปค่ายวิทย์อีก ผมก็เลยต้องอยู่หลังเคารพธงชาติอีก วันนี้ไม่ใช่ชุดลูกเสือ-เนตรนารี ได้เห็นหน้าทุกคนขนัดตาแน่ๆ



        “เออ....กลุ่ม 8 นะคับ งั้นขอพี่เช็คหน้าเช็คตาหน่อยนะ” ผมพูด



        “โหย เช็คไมบ่อยๆอะพี่ ไม่เบื่อมั่งเหรอ” น้องในกลุ่มนั้นแซว



        “เออ...เอาหน่า” ผมตอบ



        “เออ...พี่ที่คบกับพี่ปิ้นป่าว” เด็กคนหนึ่งถาม



        “ใครถามวะ” ผมนี่เคืองหละครับ ประมาณว่าของขึ้น



        “….” มันกลายเป็นเสียงเงียบขึ้นมาทันที ไม่มีใครตอบ



        “อ้าวเฮ้ย หมาพูดนี่หว่า” ผมพูดลอยๆ ‘ช่างแม่งเว้ย’ ผมพูด ผมรู้เสียงนั้นมาจากใกล้กลุ่มผม นั่นแหละไม่ก็มาจากกลุ่มผมเอง เป็นเสียงผู้หญิงด้วย ไม่คุ้นหูเท่าไร แต่ตอนนี้ผมก็ไม่เอะใจได้แต่ปล่อยๆไป ไม่เอามาคิดให้หนักใจ

        เมื่อประชุม และนัดแนะเวลาจากอาจารย์หมวดวิทย์แล้ว ผมก็ขึ้นห้องเรียน แต่แก๊งผมนั้นจะขึ้นช้าหนอย ไม่ได้ไปช่วยอาจารย์หรอกครับ อู้เวลาเรียนซะมากกว่า วิชา คณิตศาสตร์ ฟังๆไปผมก็เคลิ้มๆหลับบ้างเหมือนกันแหละครับ แต่ก็ได้ผลดี ผมไปถึงเกือบเลิกแล้ว อาจารย์ม่สอนอะไรด้วย เพราะอาจารย์ไม่อยู่ได้แต่สั่งงานไว้

        สำหรับการเรียนในเทอม 2 นั้น เป็นไปง่ายๆแต่บทเรียนนั้นยาก เพราะว่า การเรียนนั้น ไม่ค่อยได้เรียน ไอ้ที่ว่าง่ายก็นี่แหละ เวลาเรียนส่วนมากหมดไปกับกิจกรรม และไปเข้าค่าย อีก 2 วันก็กิจกรรมวันพ่ออีก แป๊ปๆ ก็เข้าค่าย เดี๋ยวมีกิจกรรมวันคริสตมาสอีก เดือนหน้ากีฬาสี โอ้เยอะแยะครับ แต่นักเรียนต่างๆก็ชอบกันทังนั้น

        ตอนนี้ ผมลืมปิ้นไปแล้วอยางสิ้นเชิง ไม่มีคำว่าห่วงหาและคิดถึงเธออีก เธอเหมือนหายไปจากสมองผมเหมือนผมนั้นโดนลบความจำในช่วงนี้ไป แต่จะพูดให้เหมือนภาษาเพลงที่เค้าร้องกันก็ว่า หายแล้ว แต่ยังมีแผลใหญ่ที่ใจอยู่

        2 วันเหมือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันถึงวันพ่อแล้ว เร็วโคตรๆเลย ผมไม่ใส่ใจหรอกไม่ได้ทำอะไรเลย ตอนเช้ามาร่วมพิธี ตอนเย็นช่วยเค้ายกของอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่ก็ทำทุกปี เห็นหน้าก็เรียกแล้ว ‘วุฒิช่วยยกของหน่อย หรือ ช่วยเก็บนี่หน่อย’ เบื่อนักหละ วันนี้เป็นวันที่ไม่มีอะไรพิเศษเลย แต่ผมก็ชอบเพราะมันไม่ต้องเรียน แถมตอนเย็นก็เล่นบอลกับมาสเตอร์อีก ชอบจิงๆ

        อาทิตย์หน้าแล้วซินะ ที่ต้องไปเข้าค่าย เร็วจิงๆ  ผมนั่งนับวันเวลาที่จะไปเหมือนกับว่า มันมีอะไรนะที่ทำให้เราต้องจดจ่ออยู่กับมัน มันไม่มีอะไรพิเศษเลย แค่ไปเข้าค่าย 3 วัน 2 คืน แล้วก็กลับ ไม่อะไรเลยด้วยซ้ำ แต่การนับปฏิทินของผมก็ต้องจบลง ด้วยเสียงโทรศัพท์ของผมเอง



        “โหล...ครับ” ผมรับโทรศัพท์



        “สวัสดีค่ะ พี่วุฒิหรือค่ะ” เสียงผู้หญิงนั้นพูด “จำได้ไหมว่าใคร” เสียงผู้หญิงนั้นถาม



        “ไม่อยากทายอะ” ผมตอบ



        “เหอๆๆๆ” เสียงผู้หญิงหัวเราะร่วนๆ “แอมเองคะ”



        “อ้าวแอมเหรอ” ผมตกใจนิดๆ “แล้วไปเอาเบอร์นี้มาจากไหน” ผมถาม



        “เอามาจากปิ้นนั่นแหละ” แอมตอบ



        “เหรอ” ผมได้ยินดังนั้นก็แทบไม่มีอารมณ์พูดอีกเลย



        “มีอารายอะ ง่วงอะ จะไปนอนแล้วด้วย” ผมพูดปดไป ใจจิงไม่อยากคุย



        “คือ ปิ้นเค้าอยากรู้อะว่าเหตุผล ทำไมไม่กลับไปคบกันอีก” แอมพูด



        “เหรอ พี่ไม่สนใจแล้ว พี่หมดรักเค้าตั้งแต่เค้าบอกว่าเค้าลองรักพี่อะ” ผมตอบ “และมันจะไม่มีการกลับเป็นเหมือนเดิมอีกด้วย” ผมยืนยัน



        “เหรอคะ” แอมพูด “แล้วจะพูดกับเค้าว่าไงอะถ้าเค้าโทรมา” แอมถามอีก



        “ไม่ทั้งนั้น” ผมพูด “และนี่เป็นคำตอบคงเดิมและสุดท้าย”



        “ขอบคุณนะพี่วุฒิ” แอมพูด

        



        “อืม...แล้วจะเอาคำตอบนี้ไปทำไรอะ ใครถามมา” ผมถามกลับไปบ้าง



        “ก็ น่าจะรู้นะพี่วุฒิ” แอมพูด



        “ปิ้นเหรอ” ผมลองเดา



        “ค่ะ” แอมตอบ “ไปแล้วนะ ขอบคุณมากค่ะพี่วุฒิ” แอมพูดแล้ววางโทรศัพท์ไป



        “เฮ้อ! ไมต้องเป็นกรูอีกแล้วนะ” ผมคิดอยู่ในใจ ตั้งแต่แรกผมไม่น่าไปเชื่อคำพูดของเธอเลย ว่าเธอนั้นรักผม แต่มันก็ผิดที่ผมด้วย ที่รักเธอมากไป

        วันที่ 9 แล้ว พรุ่งนี้เข้าค่ายแล้ว อาจารย์นัดที่โรงเรียนก่อน 7.30 น มาให้เร็ว ละกัน วันที่ 9 ผมรีบกลับไปบ้านแล้วจัดกระเป๋าอย่างเร่งด่วน เพราะจะได้เช็คของก่อนไป จะได้ไม่ลืมอะไร เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น



        “โหล...ครับ” ผมพูด

        

        “พี่วุฒิเหรอคะ” เสียงผู้หญิงพูดขึ้นเป็นเสียงที่น่ารักและเรียบๆ ผมจำเสียงนั้นได้



        “ปิ้นเหรอ” ผมลองเดา “มีไร”



        “คือว่าหนูอยากได้คำตอบ” ปิ้นพูด



        “เรื่องนั้นเหรอ” ผมถาม “อืม....” ผมคิด แต่ผมมีคำตอบในใจอยู่แล้ว



        “ว่าไงอะค่ะ” ปิ้นถาม



        “พี่ขอยืนยันคำตอบเดิมอะนะ” ผมพูดออกไป



        “เหรอคะ” เสียงปิ้นดูเศร้าๆไปเลย แล้วเธอก็เงียบไป



        “คือว่าพี่หายโกรธปิ้นก็ได้ แต่เราจะไม่มีวันเป็นอย่างเดิมอีก” ผมพูด



        “เหรอคะ” ปิ้นเสียงฟังแล้วยิ่งเศร้าเข้าไปอีก



        “อืม เราเป็นพี่น้องกันดีกว่า” ผมพูด



        “ก็ได้คะ” ปิ้นพูดแต่เสียงนั้นยังไม่สดใสเลย



        “คือ...มีไรอีกไหม พรุ่งนี้พี่ไปเข้าค่าย” ผมพูด



        “อืมงั้นเหรอค่ะ งั้นไม่รบกวนแล้วโชคดีนะค่ะ” ปิ้นพูด



        “อืม! เช่นกันนะ บายนะ” ผมพูดแล้วก็วางหูไป



        ผมรู้สึกว่านั่นแหละดีแล้ว ผมไม่สนใจ มันจบแล้ว ไม่มีอีกแล้วและแน่นอน



        วันรุ่งขึ้นผมก็ออกจากบ้าน ไหว้พระ และกราบเท้าพ่อแม่ก่อนไป เหมือนกับไปว่าจะไม่ได้กลับมาแล้วซะงั้น แต่ไม่เป็นไร เป็นสิริมงคลแก่ตัว 7.00 โมงผมถึงโรงเรียนแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือ มากันเยอะแล้ว 7.00 โมงเองนะ แต่เอาเถอะ จะได้มีเวลาเตรียมตัว แต่แป๊ปเดียวเค้าก็เรียกแล้ว อะไรกัน 7.20 แล้วเหรอเนี่ย ผมรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น อาจารย์ให้นั่งเป็นแถวตามกลุ่ม วันนี้ผมรู้สึกแปลกตาแหะ วันนี้รู้สึกผมเห็นหน้าตาคนในกลุ่มผมชัดเจนขึ้น แต่มันจะเป็นไรอะ ต้องอยู่กับเค้าอีกตั้ง 3 วัน ยังไงๆก็ได้เห็นอยู่แล้ว กลุ่มผม 12 คน รวมผมด้วยนะ แอมป์ ต้น จิ๋ว จอย มิ้น บอย ออฟ กอล์ฟ จิ๊บ จ๋า  และ ตูน ผมเช็คชื่อแล้วทุกคนมากันครบก่อนเวลาอีก 7.50 คุณพ่ออธิการกล่าวอวยพรก่อนการเดินทาง และ 8.00 โมงขึ้นรถเดินทาง แก๊งผมนั้น จะนั่งหลัง กัน เพราะข้างหลังนั้นเป็นรถทัวร์กว้างอยู่แล้ว แก๊งผมที่ไปกัน 8 คน ก็พอดีอะ การไปเข้าค่ายทุกอย่างลงตัวได้ดี ดูแล้วน้องๆในกลุ่มผมนั้น จะเชื่อฟังดีด้วย ทุกอย่างลงตัว แต่ผมนั้นติดใจรุ่นน้องอยู่คนหนึ่ง ที่ชื่อ ตูน ผมรู้สึกเหมือนว่ามีไรพิเศษกับเค้ามากๆ ผมรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นหน้าเค้าแต่ก็ยังไม่คิดมากเพราะพึ่งจะได้เจอครั้งแรก แล้วอีกอย่างก็พึ่งจะรู้จักเค้าด้วย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×