ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พบพาน
                ยามเช้าของวันทั่วๆไป ที่ผู้คนจะต้องออกไปข้างนอกกัน ซึ่งหน้าที่ที่ทุกคนจะต้องออกไปนั้นเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาสำหรับทุกๆคน ทั้งออกไปทำงาน ไปซื้อของเพื่อทำกับข้าว หรืออื่นๆ รวมถึงวันไปโรงเรียนของพวกนักเรียนทั้งหลาย และวันนี้เป็นวันเปิดโรงเรียนวันแรกซะด้วย
    และ ณ บ้านหลังหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเรี่องราวนี้ก็ได้
    “ลูก! ตื่นได้แล้ว” แม่ตะโกนเรียกลูกจากที่นอน
    “ลูก! ตื่นเถอะเดี๋ยวไปโรงเรียนสายหรอก” แม่ย้ำอีก
    “5 นาที คับแม่” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย
    “แต่นี้มัน 7.30 แล้วนะลูก” แม่พูดตอบกลับด้วยเสียงที่เริ่มโกรธแล้ว
    “อืม!” ผมกลับอย่างไม่ใยดี แต่
    “ ว่าไงนนนนนนนนนนนะ!” ผมตกใจเป็นอย่างมาก แต่งตัวกันแทบจะไม่ทันหละ แน่นอนมัน 7.30 แล้วนิ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาเข้าไปตั้ง 7.40 แล้ว โอ้พระเจ้า! เป็นคำที่กึกก้องในของผมตอนนี้ ผมก็คิดในใจหละ เหมือนกับคนทั่วไปว่าถ้าสาย จะไปทันไหมเนี่ย
    “วุฒิ รีบเข้านะไปเถอะ โชคดีลูก” แม่ของเด็กชายกล่าว
    ผมหรือวุฒินั้น ม.3 แล้วอยู่โรงเรียน แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนของศาสนาคริสต์ แต่ก็จะรับคนพุทธเป็นส่วนมากเหมือนกัน แต่อยู่ใกล้บ้านของผมหละ ผมเรียนที่นี้ตั้งแต่เค้าอนุบาล 1- มัธยมฯ 3 เนี่ยแหละ แต่ก็เป็นปีสุดท้ายสำหรับผมแล้วด้วยเพราะ ที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟนี้มีระดับการศึกษาอยู่ที่มัธยม 3 เท่านั้น แล้วภายในโรงเรียนยังมีผู้ปกครองหรือผู้รับผิดชอบโรงเรียนที่เรียกว่า คุณพ่ออธิการ แต่ถ้าเป็นโรงเรียนทั่วๆไปคงเรียกผู้อำนวยการละมั้ง โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ที่ท้ายซอยโชคชัยร่วมมิตร ซึ่งท้ายซอยก็สามารถออกไปทางรัชดาภิเษกได้ ซึ่งนักเรียนที่ใกล้โรงเรียนนั้นก็เยอะมากจริงๆ แถมทางเข้าโรงเรียนก็แคบพอสมควร
    ที่แน่ๆเลยวันแรกของการเปิดโรงเรียนละก็รถจะติดมากเป็นพิเศษจริงๆ เหมือนกับว่า ใครๆจากทั่วประเทศจะมาเข้าโรงเรียนนี้โรงเรียนเดียวเท่านั้น แต่มันก็เกิดขึ้นกับทุกโรงเรียนแหละ
‘โอ้! พระเจ้า นี่มันนรกชัดๆเลย อะไรมันจะติดขนาดนี้เนี่ย’ ผมที่เพิ่งออกจากบ้าน บ่นอยู่ข้างในใจ ในตอนนั้นภาพที่เค้าเห็นคือ รถยนต์ต่างๆมากมายนั้นจอดเรียงรายกันยาวจนเกือนถึงหน้าซอยบ้านผม ซึ่งบ้านของผมนั้น จะอยู่ประมาณกลางๆซอยโชคชัยร่วมมิตร แล้วยังต้องเข้าไปอีก รวมระยะทางก็ประมาณ 450 ม .
    แต่ในขณะที่เค้าเดินออกมานั้น ก็เจอกับ ต้นพอดี ต้นนั้นเป้นเพื่อนสนิทของผมมา 3 ปีเท่านั้นเองแต่เหมือนสนิทกันมา 6 ปีหรือมากกว่านั้นซะอีก อาจจะเป็นเพราะอยู่บ้านใหล้เรือนเคียงกันก็ได้ ต้นจะชอบปั่นจักรยานไปโรงเรียนมากๆ แต่ตอนนี้เค้ามีน้อง ที่ชื่อ โต ซ้อนท้ายมาด้วยเพราะ น้องเค้าก็เรียนที่เดียวกันกับพี่อะแหละ
    “วุฒิ เฮ้ยเป็นไงบ้าง” ต้นทัก
    “อ้าว! ต้น สบายดีเว้ย ” ผมรีบตอบรับคำ
    “ ไปด้วยกันป่าว รถติดยังงี้สายแล้วด้วย ไปด้วยกันจะได้ถึงเร็วๆ” ต้นชักชวน
    “ไปไงอะ” ผมก็ย้อนทันทีเพราะมีคนซ้อนแล้ว
    “ก็ซ้อน 3 ไง ไม่ใช่มอฯไซค์ ตำรวจไม่จับหรอกเว้ย” ต้นพูดทันที
   
    “ก็ได้ฟะ” ผมก็ตอบอย่างไม่ลังเล
    ต้นเค้าปั่นได้โดยน้ำหนักโดยรวมของน้องเค้ากับผม ก็เกือบ จะ 100 โลแล้ว ยังเป็นจักรยานอีก แต่! เค้าปั่นได้และเร็วด้วย ไม่ต้องสงสัยหรอกกล้ามขาเค้าเป็นมัดๆเลยหละ
    เมื่อถึงโรงเรียน โห! รถเยอะหละคับ มาส่งลูกหลานของตัวเอง แต่มันใกล้ 8 โมงแล้ว แต่ยังไงเราก็ทันหละ ไปลงทะเบียนห้องพักครู แล้วก็มายังห้องเรียน ไม่ต้องบอก ห้องเรียน มัธยม ที่นี่มีอยู่ห้องเดียวคือ ม.1 1ห้อง ม.2 1 ห้องและ ม.3 1 ห้อง ความสัมพันธ์ของคำว่าเพื่อนนั้นย่อมต้องแน่นแฟ้นเป็นธรรมดาเป็นเพื่อนเก่าๆกันซะอีกเป็นส่วนใหญ่ คนที่ลาออกไปก็มี เข้ามาใหม่ก็มีแต่จะเป็นส่วนน้อยกัน
    ผมมาถึงโรงเรียนพร้อมกับต้น แค่เข้ามาในห้องเรียนนีร้เท่านั้นแหละ โอ้โหเพื่อนมากันเต็มห้องเลย เรามาสายเหรอเนี่ย
    แก็งผมก็ทักหละ
    “เฮ้ย ! ต้น วุฒิ มาแล้วเหรอ ” โอ เพื่อนเรานั้นร้องทัก โอนั้นเป็นเพื่อนตัวโตๆใหญ่เหมือนกัน กินเก่งด้วย แต่เป็นมิตรกับทุกๆคนง่ายและเป็นคนตลกดี
    “เออ กรูมาแล้วเว้ย” ต้นตอบกลับ
    “เฮ้ย ต้น วุฒิกรูมีไรจะให้ดู” โอร้องชักชวน “ดูคนนั้นดิ โคตรน่ารักอะ”
    ผมกับต้นนี้แถบจะอ้าปากค้างจิงๆ กับความน่ารักของเค้าคนนั้น เธอเป็นคนที่ตัวสูงประมาณ 165 ซม เห็นจะได้ ตาโต ขาว แก้มชมพูและที่แน่ๆน่ารักมากๆด้วย แต่ต้นนี้อดแน่ๆเพราะเค้ามีคนที่เค้ารักอยู่แล้ว แต่เค้าก็บ่นกับผมเหมือนกันว่า ‘เรารักเค้าข้างเดียวหรือไง’  แค่เห็นเท่านั้นผมเองก็ทำตัวยากมากๆ ก็คงเหมือนกับเพื่อในแก๊งของผมอะแหละ แต่เพื่อนในแก๊งของผมนั้น ตอนี้ยังไม่มีแฟนซักคนเลย ยกเว้นอยู่คนเดียว คือ กานต์
    กานต์เป็นประเภทที่หลายใจเลยหละ แต่ที่มีแฟนได้ก็เพราะ เค้าตามตื้อคนนี้อยู่นาน และเพื่อนๆของเราก็คิดว่าคงไม่นานนักหรอก แต่มันไม่ใช่ยังงั้น 2 ปีที่กานต์คบกับผู้หญิงคนนั้นและไม่มี ข่าวจากผู้หญิงคนอื่นๆอีกเลย แต่คนชอบเค้าก็เยอะพอสมควร เพราะหน้าตาของกานต์นั้นก็จัดว่าดีทีเดียว และเค้าก็เป็นคนมีฐานะดีเหมือนกัน ผิดกับผมหละก็ไม่ได้จัดว่าหน้าตาดีเท่าไร แต่ผมก็เป็นคนที่นิสัยดี เรียนพอได้ดีอีกต่างหาก ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่ผมพอเห็นผู้หญิงคนนั้น ก็หวั่นไหวเป็นเหมือนกัน เพราะผมนั้นก็มีนิสัยที่แปลกแตกต่างจากกลุ่มก็คือ รักเดียวใจเดียวนี่แหละ(ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะครับ) แล้วตอนนั้น วุฒินั้นก็โสดสนิทซะด้วย แค่เห็นเธอคนนั้นวุฒิก็ใจเต้นระรัวแต่ เค้าอยู่แค่ ม.1 เท่านั้น ในตอนนั้นเพื่อนก็สะกิดผมตั้งหลายที กว่าผมจะรู้สึกตัวก็ โดนเตะเนี่ยแหละ
    “เฮ้ย! เมิงเตะกรูไมวะ” ผมถามแบบดุๆ
    “ ก็กรูเรียกหลายที เมิงไม่หัน” นายตั้มเพื่อนในแก๊งอีกคนกล่าว “แสดงเมิงชอบเค้าซิเนี่ย แค่เห็นครั้งแรกเองนะ” ตั้มนั้นถามผม
    “เฮ้ย ปล่าวนะ” ผมก็ปฏิเสธ “กรูก็แค่...”
    “แค่ไร กรูรู้หน่าเมิงคิดไร” ตั้มแย้ง “เราเป็นเพื่อนกันกี่ปีแล้วหละ แล้วอีกอย่างนะ....”
    เป็นเวลาที่อาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามา Homeroom พอดี ทำให้ผมรอดตัวไป พวกเราจึงต้องนั่งที่กันแล้ว แก๊งเราก็นั่งใกล้กันหละ ไม่ห่างกัน เพราะยังไม่ได้จัดโต๊ะ เป็นเรื่องเป็นราว อาจารย์ก็อบรม ไปเถอะ แต่ในหัวของผมตอนนั้นซิ กลับมีแต่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น อยู่แต่ในหัวเท่านั้น ไม่มีคำของอาจารย์อยู่ในหัวของผมเลย
    และ ณ บ้านหลังหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเรี่องราวนี้ก็ได้
    “ลูก! ตื่นได้แล้ว” แม่ตะโกนเรียกลูกจากที่นอน
    “ลูก! ตื่นเถอะเดี๋ยวไปโรงเรียนสายหรอก” แม่ย้ำอีก
    “5 นาที คับแม่” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย
    “แต่นี้มัน 7.30 แล้วนะลูก” แม่พูดตอบกลับด้วยเสียงที่เริ่มโกรธแล้ว
    “อืม!” ผมกลับอย่างไม่ใยดี แต่
    “ ว่าไงนนนนนนนนนนนะ!” ผมตกใจเป็นอย่างมาก แต่งตัวกันแทบจะไม่ทันหละ แน่นอนมัน 7.30 แล้วนิ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาเข้าไปตั้ง 7.40 แล้ว โอ้พระเจ้า! เป็นคำที่กึกก้องในของผมตอนนี้ ผมก็คิดในใจหละ เหมือนกับคนทั่วไปว่าถ้าสาย จะไปทันไหมเนี่ย
    “วุฒิ รีบเข้านะไปเถอะ โชคดีลูก” แม่ของเด็กชายกล่าว
    ผมหรือวุฒินั้น ม.3 แล้วอยู่โรงเรียน แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนของศาสนาคริสต์ แต่ก็จะรับคนพุทธเป็นส่วนมากเหมือนกัน แต่อยู่ใกล้บ้านของผมหละ ผมเรียนที่นี้ตั้งแต่เค้าอนุบาล 1- มัธยมฯ 3 เนี่ยแหละ แต่ก็เป็นปีสุดท้ายสำหรับผมแล้วด้วยเพราะ ที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟนี้มีระดับการศึกษาอยู่ที่มัธยม 3 เท่านั้น แล้วภายในโรงเรียนยังมีผู้ปกครองหรือผู้รับผิดชอบโรงเรียนที่เรียกว่า คุณพ่ออธิการ แต่ถ้าเป็นโรงเรียนทั่วๆไปคงเรียกผู้อำนวยการละมั้ง โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ที่ท้ายซอยโชคชัยร่วมมิตร ซึ่งท้ายซอยก็สามารถออกไปทางรัชดาภิเษกได้ ซึ่งนักเรียนที่ใกล้โรงเรียนนั้นก็เยอะมากจริงๆ แถมทางเข้าโรงเรียนก็แคบพอสมควร
    ที่แน่ๆเลยวันแรกของการเปิดโรงเรียนละก็รถจะติดมากเป็นพิเศษจริงๆ เหมือนกับว่า ใครๆจากทั่วประเทศจะมาเข้าโรงเรียนนี้โรงเรียนเดียวเท่านั้น แต่มันก็เกิดขึ้นกับทุกโรงเรียนแหละ
‘โอ้! พระเจ้า นี่มันนรกชัดๆเลย อะไรมันจะติดขนาดนี้เนี่ย’ ผมที่เพิ่งออกจากบ้าน บ่นอยู่ข้างในใจ ในตอนนั้นภาพที่เค้าเห็นคือ รถยนต์ต่างๆมากมายนั้นจอดเรียงรายกันยาวจนเกือนถึงหน้าซอยบ้านผม ซึ่งบ้านของผมนั้น จะอยู่ประมาณกลางๆซอยโชคชัยร่วมมิตร แล้วยังต้องเข้าไปอีก รวมระยะทางก็ประมาณ 450 ม .
    แต่ในขณะที่เค้าเดินออกมานั้น ก็เจอกับ ต้นพอดี ต้นนั้นเป้นเพื่อนสนิทของผมมา 3 ปีเท่านั้นเองแต่เหมือนสนิทกันมา 6 ปีหรือมากกว่านั้นซะอีก อาจจะเป็นเพราะอยู่บ้านใหล้เรือนเคียงกันก็ได้ ต้นจะชอบปั่นจักรยานไปโรงเรียนมากๆ แต่ตอนนี้เค้ามีน้อง ที่ชื่อ โต ซ้อนท้ายมาด้วยเพราะ น้องเค้าก็เรียนที่เดียวกันกับพี่อะแหละ
    “วุฒิ เฮ้ยเป็นไงบ้าง” ต้นทัก
    “อ้าว! ต้น สบายดีเว้ย ” ผมรีบตอบรับคำ
    “ ไปด้วยกันป่าว รถติดยังงี้สายแล้วด้วย ไปด้วยกันจะได้ถึงเร็วๆ” ต้นชักชวน
    “ไปไงอะ” ผมก็ย้อนทันทีเพราะมีคนซ้อนแล้ว
    “ก็ซ้อน 3 ไง ไม่ใช่มอฯไซค์ ตำรวจไม่จับหรอกเว้ย” ต้นพูดทันที
   
    “ก็ได้ฟะ” ผมก็ตอบอย่างไม่ลังเล
    ต้นเค้าปั่นได้โดยน้ำหนักโดยรวมของน้องเค้ากับผม ก็เกือบ จะ 100 โลแล้ว ยังเป็นจักรยานอีก แต่! เค้าปั่นได้และเร็วด้วย ไม่ต้องสงสัยหรอกกล้ามขาเค้าเป็นมัดๆเลยหละ
    เมื่อถึงโรงเรียน โห! รถเยอะหละคับ มาส่งลูกหลานของตัวเอง แต่มันใกล้ 8 โมงแล้ว แต่ยังไงเราก็ทันหละ ไปลงทะเบียนห้องพักครู แล้วก็มายังห้องเรียน ไม่ต้องบอก ห้องเรียน มัธยม ที่นี่มีอยู่ห้องเดียวคือ ม.1 1ห้อง ม.2 1 ห้องและ ม.3 1 ห้อง ความสัมพันธ์ของคำว่าเพื่อนนั้นย่อมต้องแน่นแฟ้นเป็นธรรมดาเป็นเพื่อนเก่าๆกันซะอีกเป็นส่วนใหญ่ คนที่ลาออกไปก็มี เข้ามาใหม่ก็มีแต่จะเป็นส่วนน้อยกัน
    ผมมาถึงโรงเรียนพร้อมกับต้น แค่เข้ามาในห้องเรียนนีร้เท่านั้นแหละ โอ้โหเพื่อนมากันเต็มห้องเลย เรามาสายเหรอเนี่ย
    แก็งผมก็ทักหละ
    “เฮ้ย ! ต้น วุฒิ มาแล้วเหรอ ” โอ เพื่อนเรานั้นร้องทัก โอนั้นเป็นเพื่อนตัวโตๆใหญ่เหมือนกัน กินเก่งด้วย แต่เป็นมิตรกับทุกๆคนง่ายและเป็นคนตลกดี
    “เออ กรูมาแล้วเว้ย” ต้นตอบกลับ
    “เฮ้ย ต้น วุฒิกรูมีไรจะให้ดู” โอร้องชักชวน “ดูคนนั้นดิ โคตรน่ารักอะ”
    ผมกับต้นนี้แถบจะอ้าปากค้างจิงๆ กับความน่ารักของเค้าคนนั้น เธอเป็นคนที่ตัวสูงประมาณ 165 ซม เห็นจะได้ ตาโต ขาว แก้มชมพูและที่แน่ๆน่ารักมากๆด้วย แต่ต้นนี้อดแน่ๆเพราะเค้ามีคนที่เค้ารักอยู่แล้ว แต่เค้าก็บ่นกับผมเหมือนกันว่า ‘เรารักเค้าข้างเดียวหรือไง’  แค่เห็นเท่านั้นผมเองก็ทำตัวยากมากๆ ก็คงเหมือนกับเพื่อในแก๊งของผมอะแหละ แต่เพื่อนในแก๊งของผมนั้น ตอนี้ยังไม่มีแฟนซักคนเลย ยกเว้นอยู่คนเดียว คือ กานต์
    กานต์เป็นประเภทที่หลายใจเลยหละ แต่ที่มีแฟนได้ก็เพราะ เค้าตามตื้อคนนี้อยู่นาน และเพื่อนๆของเราก็คิดว่าคงไม่นานนักหรอก แต่มันไม่ใช่ยังงั้น 2 ปีที่กานต์คบกับผู้หญิงคนนั้นและไม่มี ข่าวจากผู้หญิงคนอื่นๆอีกเลย แต่คนชอบเค้าก็เยอะพอสมควร เพราะหน้าตาของกานต์นั้นก็จัดว่าดีทีเดียว และเค้าก็เป็นคนมีฐานะดีเหมือนกัน ผิดกับผมหละก็ไม่ได้จัดว่าหน้าตาดีเท่าไร แต่ผมก็เป็นคนที่นิสัยดี เรียนพอได้ดีอีกต่างหาก ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่ผมพอเห็นผู้หญิงคนนั้น ก็หวั่นไหวเป็นเหมือนกัน เพราะผมนั้นก็มีนิสัยที่แปลกแตกต่างจากกลุ่มก็คือ รักเดียวใจเดียวนี่แหละ(ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะครับ) แล้วตอนนั้น วุฒินั้นก็โสดสนิทซะด้วย แค่เห็นเธอคนนั้นวุฒิก็ใจเต้นระรัวแต่ เค้าอยู่แค่ ม.1 เท่านั้น ในตอนนั้นเพื่อนก็สะกิดผมตั้งหลายที กว่าผมจะรู้สึกตัวก็ โดนเตะเนี่ยแหละ
    “เฮ้ย! เมิงเตะกรูไมวะ” ผมถามแบบดุๆ
    “ ก็กรูเรียกหลายที เมิงไม่หัน” นายตั้มเพื่อนในแก๊งอีกคนกล่าว “แสดงเมิงชอบเค้าซิเนี่ย แค่เห็นครั้งแรกเองนะ” ตั้มนั้นถามผม
    “เฮ้ย ปล่าวนะ” ผมก็ปฏิเสธ “กรูก็แค่...”
    “แค่ไร กรูรู้หน่าเมิงคิดไร” ตั้มแย้ง “เราเป็นเพื่อนกันกี่ปีแล้วหละ แล้วอีกอย่างนะ....”
    เป็นเวลาที่อาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามา Homeroom พอดี ทำให้ผมรอดตัวไป พวกเราจึงต้องนั่งที่กันแล้ว แก๊งเราก็นั่งใกล้กันหละ ไม่ห่างกัน เพราะยังไม่ได้จัดโต๊ะ เป็นเรื่องเป็นราว อาจารย์ก็อบรม ไปเถอะ แต่ในหัวของผมตอนนั้นซิ กลับมีแต่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น อยู่แต่ในหัวเท่านั้น ไม่มีคำของอาจารย์อยู่ในหัวของผมเลย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น