ปาฏิหารย์ในคืนเพ็ญ - ปาฏิหารย์ในคืนเพ็ญ นิยาย ปาฏิหารย์ในคืนเพ็ญ : Dek-D.com - Writer

    ปาฏิหารย์ในคืนเพ็ญ

    คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ร่างกายของฉันกำลังพุ่งลงสู่เบื้องล่างพร้อมกับนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน ขอให้เขารอดชีวิตด้วยเถอะแลกกับชีวิตของฉัน

    ผู้เข้าชมรวม

    119

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    119

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 มี.ค. 49 / 17:07 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ปาฏิหารย์ในคืนเพ็ญ

      ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนของเมืองกรุง  แสงไฟเหล่านั้นไม่ได้ทำให้จิตใจของ
      หญิงสาววัย 20 ปี ที่กำลังนั่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งสว่างไสวขึ้นเลย  ลมเย็นที่พัดมา
      ปะทะใบหน้าอันร้อนผ่าวกลับทำให้จิตใจของเธอหนาวสั่นยิ่งขึ้น   น้ำใสๆที่ไหลรินออกมาจากตาคู่สวยนั้นเริ่มแห้งหายไป  อาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่เพื่อเสียน้ำตาอีกแล้ว
        เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเธอยังเฝ้ารอด้วยความหวังว่าคนที่เธอรักมากที่สุดจะฟื้นขึ้นมา  แต่ตอนนี้เขาได้จากเธอไปแล้ว  จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยโรคติดต่อซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเป็นโรคอะไร  เพราะไม่เคยพบในวงการแพทย์   ย้อนกลับไปเมื่อเธออายุ7ปี  พ่อที่เธอรักมากได้จากเธอไปด้วยโรคมะเร็งปอด  ตอนนั้นเธอยังเด็ก เลยแค่คิดว่าเดี๋ยวพ่อก็คงกลับมา  แต่เธอเฝ้ารอทุกวันก็ไม่มีวี่แววของพ่อ  ไม่มีแม้กระทั่งเสียงโทรศัพท์ที่โทรมาบอกว่าติดประชุม  แต่เธอก็ยังคงไม่หมดหวังเพราะเธอยังมีแม่  แม่ที่รักเธอมาก  ไม่ใช่สิ  แม่ที่เคยรักเธอมากต่างหาก  หลังจากที่พ่อเสียไปแม่ของเธอก็เริ่มทารุณเธอมากขึ้น  แรกๆก็แค่ทุบตี  แต่ระยะหลังนี้แม่ของเธอบังคับให้เธอขายตัว  เธอก็ไม่สามารถขัดขืนได้  จนเธอเติบโตขึ้นเรื่อยๆ  สังคมของเธอเป็นสังคมที่เน่าเฟะ  นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย  เธอถูกแม่ควบคุมมาตลอด  แล้วในที่สุดวันที่เธอรอคอยก็มาถึง  แม่ของเธอได้จากเธอไปเพราะอุบัติเหตุ  มันอาจจะผิดหากเธอจะดีใจมาก  แต่มันก็เป็นไปแล้ว  เธอดีใจมากที่แม่เสียไป  เธอหลุดจากการควบคุมต่างๆ  เธอหนีออกมาจากแหล่งมั่วสุมนั้นได้โดยง่ายดาย  ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มีวันเป็นไปได้  ตอนนั้นเธออายุ 15 ปี  เธอทนการทารุณนั้นมาหลายปีเหลือเกิน  ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองสกปรกมาก  ไม่ควรจะอยู่บนสังคมนี้ต่อไป  เธอไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน  ที่ๆเดียวที่เธอรู้จักคือหลุมฝังศพของพ่อ  หลุมที่มีหญ้าขึ้นรกร้าง เพราะไม่มีใครเคยเข้ามาเลย  เธอนั่งลงข้างหลุมศพพ่อพลางนึกไปถึงคำพูดของพ่อที่บอกไว้ก่อนจะจากไป ว่า คนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้  แต่เลือกที่จะเป็นได้   จริงหรอค่ะพ่อ  เราเลือกที่จะเป็นได้หรอคะ  เลือกไม่ได้หรอก  สังคมสิที่เลือกว่าเราจะเป็นอะไร  เป็นไปอย่างไร  สังคมเป็นตัวที่บีบบังคับเรา  พ่อลองคิดดูสิคะ  หนูไม่ได้อยากเป็นแบบนี้สักหน่อย  แต่สังคมต่างหากที่บังคับหนู  หนูต้องการเป็นคนดี  หนู...หนู  ลำคอของเธอกำลังตีบตัน  น้ำที่ไหลลงมาจากไปไม่ใช่น้ำตาจากความเสียใจ  แต่เป็นน้ำตาของความคิดถึง  เธอคิดถึงพ่อมาก  พ่อที่เธอรักและรักเธอมากที่สุด  บัดนี้เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

       

      หลังจากนั้นเธอตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปโดยนำเงินเก็บที่มีอยู่มาใช้ประทังชีวิต  เธอทำงานในร้านขายของแห่งหนึ่ง  ซึ่งไม่ได้ค่าจ้างมากมายนัก  แต่ก็ยังดีกว่าการที่ต้องขายตัว   เธอทำงานที่ร้านได้ดีมาก  ผ่านมา4ปีแล้ว  ตอนนี้เธอกำลังจะแต่งงานกับลูกชายเจ้าของร้าน  เขารู้เรื่องของเธอทุกอย่างและยินดีจะปิดเรื่องนี้ไว้  เขาไม่เคยนึกรังเกียจเธอ   ทั้งที่เขาก็เป็นคนที่ดีพร้อมทุกอย่างต่างจากเธอลิบลับ    วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 20 ปีของเธอ  เป็นวันแต่งงานของเธอ  และเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดหลังจากที่เธอลืมไปนานแล้วว่าความสุขนั้นเป็นอย่างไร  พิธีการต่างๆสิ้นสุดลงแล้ว ทุกอย่างถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย  ตอนนี้เธอและเขากำลังจะออกเดินทางไปฮันนีมูนด้วยกัน  เขาตัดสินใจว่าจะพาเธอไปที่บ้านพักต่างอากาศที่ต่างจังหวัด  หลังจากที่ขับรถออกมาได้สักพักเขาก็แวะมินิมาร์ทข้างทางเพื่อซื้อเครื่องดื่ม   เธอเดินลงจากรถเพื่ออกไปผ่อนคลาย  ทันใดนั้นก็มีรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงในขณะที่เธอไม่ทันตั้งตัว  เธอรู้สึกว่าตัวของเธอลอยสูงขึ้นและตกลงในไม่ช้า  ตาของเธอเริ่มพร่าเลือน  ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือภาพของเขา  คนที่เธอรัก  คนที่เป็นสามีของเธอนอนจมกองเลือดอยู่  พร้อมกับเสียงที่ได้ลอยมาเบาๆว่า ไม่เป็นไรนะ  ขอโทษที่ต้องผลักเธอฉันรัก ....  เธอตื่นขึ้นมาอีกทีในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง  กำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้น  เหตุใดรอบตัวเธอถึงมีคนล้อมรอบมากมายเช่นนี้  แล้วเขาล่ะ  ใช่สิเขาโดนรถชน  เขาช่วยฉันไว้  เขาอยู่ที่ไหนล่ะ

       

      แม่ค่ะ  เขาอยู่ที่ไหนคะ  เขาไม่เป็นไรใช่มั้ย

       

      .........................  ไม่ใครพูดอะไร  อันที่จริงไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า

       

      เขากำลังได้รับการผ่าตัดอยู่จ๊ะ  หมอบอกว่ากระดูกเลื่อน  และมีเลือดคั่งอยู่ในสมอง

       

      ไม่จริงใช่มั๊ยคะแม่

       

      แต่ฉันก็รับรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง  รอบๆตัวฉันต่างมีแต่ผู้คนที่ร้องไห้  ฉันรีบวิ่งออกไปยังที่ๆเขาอยู่  ฉันวิ่งลงไปที่ชั้น3   แล้วนั่งลงหน้าห้องผ่าตัด

       

      1  ชั่วโมงผ่านไป

       

      2  ชั่วโมงผ่านไป

       

      3  ชั่วโมงผ่านไป

       

      4  ชั่วโมงผ่านไป

       

      ในขณะที่นาฬิกากำลังจะตีบอกเวลา11นาฬิกานั้นหมอก็ออกมา พร้อมคำที่บอกว่า

       

      หมอพยายามเต็มที่แล้วครับ  เสียใจด้วย

       

      ฉันไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งสิ้น  ฉันพาร่างกายที่หนักอึ้งเดินมาจนถึงดาดฟ้า  คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง  มันกลับตอกย้ำความรู้สึกของฉันมากขึ้น  วันเกิดของฉัน  วันแต่งงานของฉัน  วันตายของเขา  และมันควรจะเป็นวันตายของฉันด้วย  ฉันภาวนาต่อดวงจันทร์ในขณะที่ยืนขึ้นเพื่อจะทิ้งตัวลงไปสู่เบื้องล่าง  สู่เมืองที่สับสนวุ่นวาย

       

      ร่างกายของฉันกำลังพุ่งลงสู่เบื้องล่างพร้อมกับนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน

       

      ขอให้เขารอดชีวิตด้วยเถอะแลกกับชีวิตของฉัน

       

      ภาพสุดท้ายที่ฉันจะจดจำไว้ตลอดไปคือภาพของหมอและนางพยาบาลที่กำลังวุ่นวายอยู่ภายในห้องผ่าตัดของชั้น 3  ภายในห้องที่เขาอยู่  รอยยิ้มสุดท้ายของฉันได้จบลงแล้ว  จบไปพร้อมกับชีวิตที่เคยเป็นของฉัน  นับแต่นี้ไปชีวิตฉันเป็นชีวิตของคุณแล้วนะ

       

      ลาก่อนคนที่ฉันรัก  ขอให้มีความสุขนะ  อย่าเสียใจที่ฉันจากไป  อย่าเสียใจที่คุณมีชีวิตอยู่เพราะฉันได้มอบชีวิตของฉันไว้กับชีวิตของคุณแล้ว   พ่อคะหนูกำลังไปหาพ่อค่ะ  หนูมาช้าไปใช่มั้ยคะ  พ่อรอหนูนะคะหนูกำลังไปแล้วค่ะ...

       

       

      ปาฏิหารย์ในคืนเพ็ญ

      ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนของเมืองกรุง  แสงไฟเหล่านั้นไม่ได้ทำให้จิตใจของ
      หญิงสาววัย 20 ปี ที่กำลังนั่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งสว่างไสวขึ้นเลย  ลมเย็นที่พัดมา
      ปะทะใบหน้าอันร้อนผ่าวกลับทำให้จิตใจของเธอหนาวสั่นยิ่งขึ้น   น้ำใสๆที่ไหลรินออกมาจากตาคู่สวยนั้นเริ่มแห้งหายไป  อาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่เพื่อเสียน้ำตาอีกแล้ว
        เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเธอยังเฝ้ารอด้วยความหวังว่าคนที่เธอรักมากที่สุดจะฟื้นขึ้นมา  แต่ตอนนี้เขาได้จากเธอไปแล้ว  จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยโรคติดต่อซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเป็นโรคอะไร  เพราะไม่เคยพบในวงการแพทย์   ย้อนกลับไปเมื่อเธออายุ7ปี  พ่อที่เธอรักมากได้จากเธอไปด้วยโรคมะเร็งปอด  ตอนนั้นเธอยังเด็ก เลยแค่คิดว่าเดี๋ยวพ่อก็คงกลับมา  แต่เธอเฝ้ารอทุกวันก็ไม่มีวี่แววของพ่อ  ไม่มีแม้กระทั่งเสียงโทรศัพท์ที่โทรมาบอกว่าติดประชุม  แต่เธอก็ยังคงไม่หมดหวังเพราะเธอยังมีแม่  แม่ที่รักเธอมาก  ไม่ใช่สิ  แม่ที่เคยรักเธอมากต่างหาก  หลังจากที่พ่อเสียไปแม่ของเธอก็เริ่มทารุณเธอมากขึ้น  แรกๆก็แค่ทุบตี  แต่ระยะหลังนี้แม่ของเธอบังคับให้เธอขายตัว  เธอก็ไม่สามารถขัดขืนได้  จนเธอเติบโตขึ้นเรื่อยๆ  สังคมของเธอเป็นสังคมที่เน่าเฟะ  นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย  เธอถูกแม่ควบคุมมาตลอด  แล้วในที่สุดวันที่เธอรอคอยก็มาถึง  แม่ของเธอได้จากเธอไปเพราะอุบัติเหตุ  มันอาจจะผิดหากเธอจะดีใจมาก  แต่มันก็เป็นไปแล้ว  เธอดีใจมากที่แม่เสียไป  เธอหลุดจากการควบคุมต่างๆ  เธอหนีออกมาจากแหล่งมั่วสุมนั้นได้โดยง่ายดาย  ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่มีวันเป็นไปได้  ตอนนั้นเธออายุ 15 ปี  เธอทนการทารุณนั้นมาหลายปีเหลือเกิน  ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองสกปรกมาก  ไม่ควรจะอยู่บนสังคมนี้ต่อไป  เธอไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน  ที่ๆเดียวที่เธอรู้จักคือหลุมฝังศพของพ่อ  หลุมที่มีหญ้าขึ้นรกร้าง เพราะไม่มีใครเคยเข้ามาเลย  เธอนั่งลงข้างหลุมศพพ่อพลางนึกไปถึงคำพูดของพ่อที่บอกไว้ก่อนจะจากไป ว่า คนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้  แต่เลือกที่จะเป็นได้   จริงหรอค่ะพ่อ  เราเลือกที่จะเป็นได้หรอคะ  เลือกไม่ได้หรอก  สังคมสิที่เลือกว่าเราจะเป็นอะไร  เป็นไปอย่างไร  สังคมเป็นตัวที่บีบบังคับเรา  พ่อลองคิดดูสิคะ  หนูไม่ได้อยากเป็นแบบนี้สักหน่อย  แต่สังคมต่างหากที่บังคับหนู  หนูต้องการเป็นคนดี  หนู...หนู  ลำคอของเธอกำลังตีบตัน  น้ำที่ไหลลงมาจากไปไม่ใช่น้ำตาจากความเสียใจ  แต่เป็นน้ำตาของความคิดถึง  เธอคิดถึงพ่อมาก  พ่อที่เธอรักและรักเธอมากที่สุด  บัดนี้เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

       

      หลังจากนั้นเธอตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปโดยนำเงินเก็บที่มีอยู่มาใช้ประทังชีวิต  เธอทำงานในร้านขายของแห่งหนึ่ง  ซึ่งไม่ได้ค่าจ้างมากมายนัก  แต่ก็ยังดีกว่าการที่ต้องขายตัว   เธอทำงานที่ร้านได้ดีมาก  ผ่านมา4ปีแล้ว  ตอนนี้เธอกำลังจะแต่งงานกับลูกชายเจ้าของร้าน  เขารู้เรื่องของเธอทุกอย่างและยินดีจะปิดเรื่องนี้ไว้  เขาไม่เคยนึกรังเกียจเธอ   ทั้งที่เขาก็เป็นคนที่ดีพร้อมทุกอย่างต่างจากเธอลิบลับ    วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 20 ปีของเธอ  เป็นวันแต่งงานของเธอ  และเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดหลังจากที่เธอลืมไปนานแล้วว่าความสุขนั้นเป็นอย่างไร  พิธีการต่างๆสิ้นสุดลงแล้ว ทุกอย่างถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย  ตอนนี้เธอและเขากำลังจะออกเดินทางไปฮันนีมูนด้วยกัน  เขาตัดสินใจว่าจะพาเธอไปที่บ้านพักต่างอากาศที่ต่างจังหวัด  หลังจากที่ขับรถออกมาได้สักพักเขาก็แวะมินิมาร์ทข้างทางเพื่อซื้อเครื่องดื่ม   เธอเดินลงจากรถเพื่ออกไปผ่อนคลาย  ทันใดนั้นก็มีรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงในขณะที่เธอไม่ทันตั้งตัว  เธอรู้สึกว่าตัวของเธอลอยสูงขึ้นและตกลงในไม่ช้า  ตาของเธอเริ่มพร่าเลือน  ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือภาพของเขา  คนที่เธอรัก  คนที่เป็นสามีของเธอนอนจมกองเลือดอยู่  พร้อมกับเสียงที่ได้ลอยมาเบาๆว่า ไม่เป็นไรนะ  ขอโทษที่ต้องผลักเธอฉันรัก ....  เธอตื่นขึ้นมาอีกทีในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง  กำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้น  เหตุใดรอบตัวเธอถึงมีคนล้อมรอบมากมายเช่นนี้  แล้วเขาล่ะ  ใช่สิเขาโดนรถชน  เขาช่วยฉันไว้  เขาอยู่ที่ไหนล่ะ

       

      แม่ค่ะ  เขาอยู่ที่ไหนคะ  เขาไม่เป็นไรใช่มั้ย

       

      .........................  ไม่ใครพูดอะไร  อันที่จริงไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า

       

      เขากำลังได้รับการผ่าตัดอยู่จ๊ะ  หมอบอกว่ากระดูกเลื่อน  และมีเลือดคั่งอยู่ในสมอง

       

      ไม่จริงใช่มั๊ยคะแม่

       

      แต่ฉันก็รับรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง  รอบๆตัวฉันต่างมีแต่ผู้คนที่ร้องไห้  ฉันรีบวิ่งออกไปยังที่ๆเขาอยู่  ฉันวิ่งลงไปที่ชั้น3   แล้วนั่งลงหน้าห้องผ่าตัด

       

      1  ชั่วโมงผ่านไป

       

      2  ชั่วโมงผ่านไป

       

      3  ชั่วโมงผ่านไป

       

      4  ชั่วโมงผ่านไป

       

      ในขณะที่นาฬิกากำลังจะตีบอกเวลา11นาฬิกานั้นหมอก็ออกมา พร้อมคำที่บอกว่า

       

      หมอพยายามเต็มที่แล้วครับ  เสียใจด้วย

       

      ฉันไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งสิ้น  ฉันพาร่างกายที่หนักอึ้งเดินมาจนถึงดาดฟ้า  คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง  มันกลับตอกย้ำความรู้สึกของฉันมากขึ้น  วันเกิดของฉัน  วันแต่งงานของฉัน  วันตายของเขา  และมันควรจะเป็นวันตายของฉันด้วย  ฉันภาวนาต่อดวงจันทร์ในขณะที่ยืนขึ้นเพื่อจะทิ้งตัวลงไปสู่เบื้องล่าง  สู่เมืองที่สับสนวุ่นวาย

       

      ร่างกายของฉันกำลังพุ่งลงสู่เบื้องล่างพร้อมกับนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน

       

      ขอให้เขารอดชีวิตด้วยเถอะแลกกับชีวิตของฉัน

       

      ภาพสุดท้ายที่ฉันจะจดจำไว้ตลอดไปคือภาพของหมอและนางพยาบาลที่กำลังวุ่นวายอยู่ภายในห้องผ่าตัดของชั้น 3  ภายในห้องที่เขาอยู่  รอยยิ้มสุดท้ายของฉันได้จบลงแล้ว  จบไปพร้อมกับชีวิตที่เคยเป็นของฉัน  นับแต่นี้ไปชีวิตฉันเป็นชีวิตของคุณแล้วนะ

       

      ลาก่อนคนที่ฉันรัก  ขอให้มีความสุขนะ  อย่าเสียใจที่ฉันจากไป  อย่าเสียใจที่คุณมีชีวิตอยู่เพราะฉันได้มอบชีวิตของฉันไว้กับชีวิตของคุณแล้ว   พ่อคะหนูกำลังไปหาพ่อค่ะ  หนูมาช้าไปใช่มั้ยคะ  พ่อรอหนูนะคะหนูกำลังไปแล้วค่ะ...

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×