คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Paradise สวนสวรรค์ ตอนที่ 3
บทที่ 2
ลักพา (ภาค 1)
ขบวนเสด็จจากโครนอสใกล้เข้ามาทุกเพลาเจ้าหญิงน้อยผู้มีตัวตนอยู่ในปราสาทน้ำแข็งอันวิจิตรงดงามสูงเสียดฟ้านี้ กำลังจ้องมองผีเสื้อที่กำลังดอมดมดอกไม้งาม หนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าถูกเปิดค้างเอาไว้มีรูปสถานที่อันสวยงามและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนเต็มไปหมด นกสีขาวตัวหนึ่งบินหยอกล้อกับเจ้าหญิงมันคอยมองดูใบหน้างดงามแต่ทว่าเศร้าสร้อย
“เราอยากมีอิสระแบบเจ้าบ้าง…”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นเขาอิจฉาสรรพสัตว์พวกนี้เหลือเกินมีทั้งครอบครัวมีทั้งอิสระจะไปไหนมาไหนได้ตามใจ…ไม่ต้องถูกกักขังอยู่ในปราสาทเช่นนี้ ถูกลิดรอนอิสรภาพทำสิ่งใดก็ไม่ได้
ผนังน้ำแข็งเย็นจัดเมื่อใดก็ตามที่ฝ่ามือบางไล้ผ่าน…..อณูของน้ำแข็งมักจะเกาะติดไปทั่วราวกับเป็นร่องรอยที่บ่งบอกชาติกำเนิด…แบบนี้เล่าองค์หญิงน้อยถึงหวั่นใจนักไม่มีใครเหมือนจนดูแตกต่างเช่นนี้ ผู้คนที่โครนอสใช้ชีวิตในความอบอุ่นแต่เขากลับต่างโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นบ้างในภายภาคหน้า
“เหตุใดยังไม่เร่งเตรียมตัว” เสียงทุ้มปลุกองค์หญิงน้อยตื่นจากภวังค์เมื่อพบว่าผู้ใดกำลังก้าวเข้ามาในห้องเจ้าหญิงน้อยก็รีบคุกเข่าทำความเคารพอย่างนอบน้อมทันที
“พระบิดา”
ชายวัยกลางคนปรายตามองลูกชายคนเล็กเพียงนิดสายตาที่เรียบเฉยหันมองนอกหน้าต่างที่นี่ไม่มีกลางวันกลางคืนภายนอกกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มล้อมรอบไปด้วยภูเขาน้ำแข็งหนาวเหน็บอย่าหวังให้ยากว่าจะมีพืชพรรณธัญญาหาญให้อุดมสมบูรณ์อย่างโครนอสแม้กระทั่งผีเสื้อสักตัวยังไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
“เจ้าสร้างพวกมันเหล่านี้ขึ้นมาทำไม…อีกไม่นานเจ้าจะได้ไปอยู่กับมันแท้ๆ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับทำลายภาพฝันในจินตนาการของแทมินออกไปจนหมดสิ้น
“เจ้าช่างไร้ค่านักแทมิน….เกิดมาเป็นชายแต่กลับด้อยค่า…สู้รบในสงครามก็มิได้หนำซ้ำยังถูกจับเป็นเชลยอีก”
องค์หญิงน้อยน้ำตาคลอเบ้าพยายามอย่างยิ่งที่จะฟังคำเย้ยหยันจากพระบิดาโดยไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว….ที่เขาเกิดมาเป็นอย่างนี้…ความผิดเขาหรืออย่างไร
“เอาเถอะ…อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นลูกของข้า…”
ชายวัยกลางคนยื่นมือเหี่ยวย่นหวังจะจับเส้นผมนุ่มของร่างบางที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่บนพื้น ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ลีแทมินเป็นลูกชายคนเล็กเพียงคนเดียวของราชาแห่งโฟรเซนการ์ดแต่เขากลับหลอกตัวเองตลอดมาไม่ยอมรับว่าเด็กน้อยที่อยู่ข้างหน้าเป็นลูก เขาสร้างปราสาทสูงใหญ่เพื่อกักเก็บตัวตนลีแทมินเอาไว้บนปราสาทไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเจ้าหญิงน้อยที่คนทั้งเมืองเรียกกันนี้แท้จริงคือบุรุษ…สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถซ่อนความจริงที่ว่านี้ได้ดอกไม้งามแห่งโฟรเซนการ์ดเติมโตขึ้นอย่างงดงามเค้าโครงมเหสีคนรองยิ่งฉายชัดบนใบหน้าหวานนี้ นิ้วหยาบกร้านเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าหวานเบาๆดวงตาของพระราชาสั่นเครือเขาเอาแต่พึมพำคำเดิมๆ ‘เหมือนเหลือเกิน’ แทมินเหมือนแม่…เหมือนทุกอย่างนั่นทำให้พระราชาต้องดึงบุตรชายองค์เล็กเข้ามากอด….เป็นครั้งที่สอง
ครั้งแรกเมื่อพระมเหสีสุดที่รักคลอดเด็กทารกเพศชายและหลังจากที่พระนางสิ้นใจเขาก็ไม่คิดจะแตะต้องทารกนี้อีก
“พระบิดา…” เมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดพระบิดาที่ตนโหยหามาตลอดทั้งชีวิตองค์หญิงน้อยยิ่งไม่อยากจากไปไหน
“แม้ข้าจะเกลียดเจ้านัก…แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมลูกชายของข้า…เจ้าเหมือนแม่ของเจ้า…เหมือนพระนางยูจิน….แต่เสียดายนักที่นางไม่มีโอกาสได้เลี้ยงดูเจ้า”
แทมินสะอื้นเบาๆเขารู้ว่าพระบิดาเจ็บปวดเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กันทั้งๆที่อยากให้พระบิดากอดปลอบเมื่อยามเจ็บตัวเหมือนพี่สาวบ้าง….เขาไม่เคยได้รับ…หนำซ้ำยังไม่มีตัวตนอยู่ในสายพระเนตรของพระบิดา
“พระบิดาข้าขอกอดพระองค์ได้หรือไม่”เจ้าหญิงน้อยกล่าว พระบิดายิ้มด้วยความอ่อนโยนเมื่อได้รับอนุญาติแทมินก็โผเข้าหาอกอุ่นพร้อมกับกอดแน่น
“เจ้าจงรักษาสิ่งนี้ไว้ให้ดี…มันเป็นของเจ้าแพนโดรา”
กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มวางอยู่บนฝ่ามือของพระบิดา เจ้าหญิงน้อยทำหน้างงได้เพียงชั่วครู่ก่อนที่พระบิดาจะเฉลยความอยากรู้ให้
“แพนโดราเป็นของเจ้า….เมื่อใดก็ตามที่เจ้าเดือดร้อนจงเปิดออกมานางจะช่วยเหลือเจ้าทุกอย่าง…จำไว้บุตรของข้าเจ้าจะใช้นางได้เพียงสามครั้งเท่านั้น….หากเจ้าเปิดนางเป็นครั้งที่ 4….” พระบิดาเงียบไป ซึ่งเจ้าหญิงน้อยเองก็สงสัยแต่ขลาดเกินกว่าจะเอ่ยปากถาม
“หากเจ้าใช้นางเป็นครั้งที่ 4 แพนโดราจะขอชีวิตของเจ้าเป็นสิ่งตอบแทน…จำไว้ลูกข้า…จงใช้มันยามคับขัน..นางจะช่วยเหลือเจ้า”
“พระบิดา…ลูกไม่ขอไปแล้วได้หรือไม่…ได้โปรดให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อไปเถอะ”
องค์หญิงน้อยก้มลงแทบฝ่าเท้า สองมือประคองทั้งสองเท้าของพระบิดาไว้แน่นทั้งพรมจูบทั้งกอด ทั้งร่ำไห้อย่างน่าสงสาร
“ลูกข้า…จงจำที่ข้าบอกไว้…เจ้าเป็นลูกของกษัตริย์สิ่งที่เจ้าต้องทำคือเสียสละเพื่อบ้านเมืองของเรา…ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะมีความสุขลูกของข้า”
“ความสุขของลูกคืออยู่ใกล้ชิดพระบิดา…ข้ามิอยากไป…ที่นั่นมิใช่บ้านเรา…ฮึก…”
“เอาเถอะ…มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้แล้ว….อีกไม่กี่เพลาโครนอสคงจะมาถึงขอให้เจ้าเตรียมตัวให้พร้อม…ข้รักเจ้า”
พระบิดาจูบกระหม่อมของเจ้าหญิงน้อยเบาๆแม้จะห่วงหนักหนาแต่ก็มั่นใจในคำสัญญาของกษัตริย์แห่งโครนอสที่ได้ให้คำสัตย์เอาไว้เมื่อศึกคราวที่แล้ว
“เจ้าชายท่านแน่ใจหรือว่าเรามาถึงโฟรเซนการ์ดแล้ว”
องครักษ์จินกิเอ่ยถามเมื่อพวกเขาทั้งหมดเดินทางข้ามอาณาจักโดยสะพานสายรุ้งเพียงไม่ถึง 5 นาที ทั้งสามคนก็มาถึงอาณาจักน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ ร่างบางที่ยืนตัวสั่นกำลังเบียดตัวเองเข้ากับไหล่ขององครักษ์
“ข้าหนาวนี่” ดวงตากลมโตตวัดมองเพื่อนรัก เพราะอยากมาที่นี่เร็วๆเขาเลยไม่ได้เตรียมความพร้อมอะไรซักอย่าง
“คิบอม…เจ้านี่มัน….”
แม้จะติร่างเล็กแต่ก็ยังยอมสละเสื้อคลุมขนสัตว์ที่คลุมติดตัวมาด้วยให้ร่างบางห่มแทน
“ข้ามั่นใจ….แต่ที่ข้าไม่มั่นใจคือ…เราอยู่ห่างจากเมืองหลวงเกินไป”
องค์ชายตอบเขามองฝ่าพายุหิมะเบื้องหน้าขาวโพลนจนมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ต้นไม้แม้สักต้นยังไม่มีจะมีก็แต่ตอน้ำแข็งสูงๆตั้งเรียงรายกันเต็มไปหมด
“หากเรายังเดินเท้าอยู่เช่นนี้มีหวังเราคงได้จมกองหิมะหนาวตายที่นี่แน่ๆองค์ชาย”
องครักษ์หนุ่มให้ความเห็น หิมะบางส่วนเริ่มเข้าไปอยู่ในรองเท้าทำให้การเดินทางไม่สะดวกเท่าที่ควร
“เอาอย่างนี้…เราจะเข้าไปหลบในถ้ำนั้นก่อน…รอให้พายุสงบกว่านี้เราจะเดินทางต่อ”
เจ้าชายชี้บอกเมื่อเห็นป้อมปราการด้านหน้า พวกเขาทั้งสามคนไม่รอช้าเข้าไปหลบด้านในทันที อุโมงกว้างแห่งนี้น่าจะเคยเป็นที่หลบภัยมาก่อนเพราะด้านในอบอุ่นกว่าข้างนอกและผนังถ้ำก็มีรอยขีดเขียนเป็นเรื่องราวต่างๆของผู้ที่เคยอยู่ในนี้ด้วย
“ว้าว….นี่มันอะไรกัน” คีย์อุทานเสียงดังเมื่อเขาควักเอาเทียนในกระเป๋าเสื้อออกมาจุดไฟ ภาพวาดรูปกล่องที่กำลังถูกเปิดออกมาพร้อมกับเขียนบรรยายด้วยภาษาประหลาด ร่างเล็กเดินตามภาพไปเรื่อยๆ
กล่องใบแรกถูกเปิดโดยผู้ชายสวมชุดทหารครบครันบนศรีษะมีมงกุฏที่บ่งบอกว่าคนในรูปนั้นไม่ใช่คนธรรมดา….ดอกไม้บานสะพรั่งพร้อมกับหมู่สัตว์นานาชนิดหลังจากนั้นก็ปรากฏรูปใบที่สองกล่องถูกเปิดอีกครั้งกลายเป็นแม่น้ำและความอุดมสมบูรณ์ถึงกล่องใบที่สาม ร่างบางเดินเข้ามาด้านในถ้ำลึกขึ้นเรื่อยๆดวงตากลมโตเบิกขึ้นด้วยความประหลาดใจ….คีย์เดาว่าคนที่เขียนขึ้นคงจะเป็นชาวโฟรเซนการ์ดคนใดคนหนึ่งที่เคยมาพักที่นี่แน่ๆ กล่องใบที่สามเปิดออกกลับกลายเป็นหญิงสาวสวยอีกคนเธอออกมาพร้อมกับรอยยิ้มงดงามหญิงสาวผู้นั้นยื่นมือมาจับชายหนุ่มก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเคียงคู่กันและไม่นานหญิงสาวที่อยู่ในรูปก็มีเด็กทารกกำลังอยู่ในครรภ์ของเธอ….ชายหนุ่มผู้เป็นสามีคงจะดีใจน่าดู…แต่แล้วภาพบนผนังก็หายไป เหลือเพียงถ้ำมืดๆแม้ว่าคีย์จะพยายามเอาเทียนย้ายไปใกล้ผนังถ้ำมากเท่าไหร่ก็ดูจะไร้ความหมาย….ทั้งรูปภาพทั้งตัวหนังสือหายไปหมดแล้ว
“กร็อบ!.....”
“ใครน่ะ?!!!”
ร่างเล็กหันซ้ายหันขวาพร้อมกับจ่อเสียงเทียนเข้าไปใกล้ๆกับที่มาของเสียง ภายในถ้ำเงียบสนิทเท่าเดิมผนังอีกด้านหนึ่งสะท้อนแสงเทียนและเงาของร่างเล็กเพียงเท่านั้น
“จินกิ?.....” เสียงสะท้อนพร้อมกับไอของหิมะลอยมาปะทะใบหน้าของเด็กหนุ่มบางๆ แสงเทียนที่กำลังส่องสว่างเริ่มวูบไหวราวกับมีคนกำลังเป่ามันให้ดับ
“มินโฮ?....นะ….นั่นเจ้ารึปล่าว?....อย่าเล่นบ้าๆแบบนี้นะข้ากลัว” ร่างบางหันซ้ายหันขวาเขาเดินตามภาพเข้ามาจนลืมมองทางแต่เมื่อส่องไฟกลับไปหาภาพเหล่านั้นมันหายไปหมดผนังถ้ำรอบด้านกลายเป็นสีฟ้าเข้มและมันก็เริ่มหนาวเหน็บมากขึ้นทุกที ควันสีขาวลอยออกมาตามการหายใจคีย์เริ่มกระชับผ้าคลุมเข้าหากันแน่นไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกอย่างล้วนมีแต่น้ำแข็ง….
ท่ามกลางความเย็นจัดกลับมีหมอกสีขาวทึบจนมองไม่เห็นสิ่งใด ร่างเล็กขยี้ตาพร้อมกับใช้มือปัดผ่านควันเหล่านั้น…..ท่ามกลางความมืดสลัวคีย์มองเห็นผู้หญิงกำลังนั่งคุกเข่าด้านหน้ามีกล่องใบเดิมกำลังจะถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง เสียงหญิงสาวหวานจับใจกำลังสวดบางสิ่งบางอย่าง และที่หน้าท้องกลมๆนั้นดูเหมือนจะนูนขึ้นมาหญิงสาวเอามือลูบท้องตนเองเบาๆคีย์ได้ยินเสียงสะอื้นจางๆออกมาจากปากของหญิงคนนั้นด้วย
“เจ้า….ที่นี่ใช่โฟรเซนการ์ดหรือปล่าว?” ร่างบางเอ่ยถามออกไป แต่หญิงสาวในม่านหมอกนั้นกลับไม่ขยับตัวเพราะกำลังตั้งใจจดจ้องอยู่กับกล่องสี่เหลี่ยม แม้ว่าคีย์จะโบกมือหรือกระโดดสูงแค่ไหนหญิงสาวผู้นั้นก็ไม่หันมาเหลียวแลเลยซักนิด
ปากแดงนั้นกำลังขยับเอ่ยคำพูดที่คีย์เองก็ไม่ได้ยิน รู้แต่เพียงว่ามือขาวจัดนั้นกำลังลูบหน้าท้องกลมโตใบหน้าสวยหวานนั้นและดูเศร้าอย่างถึงที่สุด ทันทีที่หญิงสาวเปิดกล่องออกมาแทนที่จะมีควันสีขาวลอยออกมาเหมือนคราแรกกลับกลายเป็นม่านหมอกสีดำทึบและมันเริ่มหมุนวนจนร่างบางของหญิงสาวทรงตัวไม่อยู่ สัตว์ร้ายขนาดใหญ่พรั่งพรูออกมาจากด้านในกล่องนั้นบางตัวใหญ่โตสูงกว่าต้นสนในป่า พวกมันทำลายข้าวของจนเละเทะก่อนจะวิ่งกระจัดกระจายออกไป…..ด้วยความตกใจหญิงสาวจึงพยายามจะปิดกล่องนั้นแต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อเกิดมีควันดำเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างนางเป็นหญิงแก่ชรากำลังลอยวนรอบตัวหญิงสาวทั้งสองคนสนทนากันก่อนที่ร่างของหญิงสาวจะล้มลงพร้อมๆกับที่ทารกน้อยที่กำลังถือกำเนิดขึ้น
ยักษ์น้ำแข็งตัวใหญ่น่ากลัวผู้ซึ่งกำลังหิวโหยกำลังจะวิ่งเข้าไปหวังจัดการจับเด็กน้อยกินเป็นอาหาร คีย์จึงรีบวิ่งเข้าไปขวาง
“อย่านะ!!!!....โอ๊ะ!!!!”
ภาพลวงตาเหล่านั้นจางหายไป เบื้องหน้าคือหุบเหวลึกสุดลูกหูลูกตาแม้กระทั่งหินก้อนใหญ่ที่กำลังกลิ้งลงไปด้านล่างก็มิอาจจะประมาณได้ว่าพื้นนั้นอยู่ใกล้เพียงใด
“จินกิ….” ร่างบางยึดมือของอีกคนไว้แน่นก่อนจะถูกสหายสนิทดึงขึ้นมาจากปากเหว เมื่อขึ้นมาได้แล้วร่างบางก็โผเข้าหาอ้อมกอดของจินกิทันที
“เจ้าซนจนได้เรื่องคีย์” ปรามเสียงแข็งแต่ก็อดปลอบคนที่กำลังสั่นในอ้อมกอดไม่ได้
“ไม่ใช่นะ…ข้ากำลังจะช่วยเด็กทารกต่างหากเจ้าไม่เห็นหรือ….เด็กคนนั้นกำลังจะถูกยักษ์น้ำแข็งกินน่ะ”
“ดีนะที่จินกิไหวตัวทันเห็นเจ้าหายไปพวกเราจึงออกตามหา”
มินโฮพูดขึ้น ถ้าเขาสองคนมาช้ากว่านี้อีกเพียงนิดเดียวร่างของคีย์คงแหลกเละใต้ก้นเหวแน่ๆ
“ที่เจ้าเห็นมันเป็นภาพลวงตา…ใครซักคนในที่นี้กำลังหลบหนีและเขาคงไม่อยากให้ใครตามหาเขาเจอ…และที่สำคัญสิ่งที่เจ้ากำลังพบเจออยู่นั้นมันคืออนุภาพของแพนโดรา” จินกิบอก
“แพนโดราหรือ?.....”
ร่างสูงพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้นจงระวังตัว…ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรอีกหากเกิดเหตุขึ้นอีกคราเราอาจจะไม่โชคดีอย่างคราวนี้”
พายุสงบลงแต่ด้านนอกยังคงเป็นสีน้ำเงินเข้มไม่มีเดือนไม่มีตะวันเช่นเคยแต่อย่างน้อยปุยน้ำแข็งจางๆที่หล่นมาจากฟ้าก็ไม่ได้หนาวเย็นเหมือนพายุเมื่อครู่
“เราจะไม่เดินเท้าเข้าไปเด็ดขาด”
มินโฮหันไปสบตากับสหายสนิททั้งสองพร้อมกับเผยรอยยิ้มร้ายๆ
“หากทำเช่นนั้นพระบิดา…”
“ท่านพ่อไม่มีทางรู้…” รอยยิ้มนี้มีเพียงคีย์และมินโฮเท่านั้นที่เข้าใจ ไม่ผิดเลยที่ให้ร่างบางข้างๆไปร่ำเรียนกับชาวโฟรเซนการ์ดนอกจากคีย์จะเรียนการหายตัวเล็กๆน้อยๆแล้วพรสวรรค์ในการสร้างคำลวงก็ไม่ได้แพ้ชาวโฟรเซนการ์ดเลยซักนิด
“ข้าไม่อยากจะนึกถึงเมื่อพระบิดาทรงทราบเลยจริงๆ” จินกิส่ายหัวเล็กๆเขาทั้งสามคนคงจะถูกทำโทษสถานหนักเพราะสิ่งที่กำลังจะกระทำอยู่นี้คือลักพาตัวพระคู่หมั้นของเจ้าชายมินโฮ
“ไปเถิดสหาย” ชายหนุ่มผิวปากเพียงชั่วครู่ม้าเปกาซัสสีดำสนิทเหาะมาด้วยความรวดเร็วและลงจอดอย่างแม่นยำด้วยท่าทีสง่างาม ด้านหลังม้าสีขาวอีกหนึ่งตัวก็ปรากฏขึ้น
“อะไรกัน…นาบีของข้าทำไมนางไม่มาด้วยเล่า” ร่างเล็กเอ่ยเสียงหงุดหงิดเพราะม้าอีกตัวหนึ่งไม่ยอมมาด้วย
“พูดมากน่า…เจ้าขี่กับข้าก็ได้”
“ไม่นะ…ใครจะอยากขึ้นม้าของเจ้ากันละ…นาบีนะนาบี…คอยดูนะข้าจะงดฝักข้าวโพดแก่นาง”
พูดไปหน้ามุ่ยไปแต่ก็ยอมยื่นมือให้จินกิฉุดขึ้นม้าจนได้ เจ้าชายแห่งโครนอสนำหน้าไปก่อนแล้วก่อนจะตามด้วยสหายสนิททั้งสอง
“เป็นไปได้อย่างไรกันขบวนของโครนอสมาถึงก่อนกำหนด”
“พระเจ้าข้า….องค์ชายแห่งโครนอสและสหายทั้งสองมาตามพระบัญชาของกษัตริย์แห่งโครนอส”
อดจะแปลกใจไม่ได้เมื่อกำหนดการมาเร็วกว่าที่คิดแต่เมื่อเจ้าชายเสด็จมาถึงบ้านเมืองเช่นนี้ก็จำต้องมีที่รับรองและการต้อนรับอย่างสมเกียรติ
เจ้าชายแห่งโครนอสสง่างามสมแท้เป็นลูกกษัตริย์ ชาวเมืองที่ทราบข่าวอย่างกระทันหันต่างพากันมาชะเง้อคอรอยลโฉมว่าเจ้าชายองค์นี้ที่จะมาพาเจ้าหญิงน้อยที่รักไปจากนครน้ำแข็งจะงดงามดังเสียงล่ำลือหรือไม่ หลังจากที่ได้เห็นพระพักตร์ของเจ้าชายชาวเมืองทั้งหลายลืมความโกรธแค้นของโฟรเซนการ์ดและโครนอสไปสิ้น
“ถวายบังคมเจ้าข้า…กษัตริย์แห่งโฟรเซนการ์ด” เจ้าชายรูปงามทำความเคารพด้วยความนอบน้อม
“นั่งลงเถิดเจ้าชาย…นึกว่าเจ้าจะมาพร้อมขบวนเสด็จเสียอีก” คำพูดของกษัตริย์แห่งโฟรเซนการ์ดเจ็บนัก….เจ้าชายยังคงส่งยิ้ม “ขบวนเสด็จคนมาเป็นร้อยพันหรือจะสู้เจ้าชายแห่งโครนอสที่มารับว่าที่พระคู่หมั้นด้วยตนเองเล่าพระเจ้าข้า” คำพูดของเจ้าชายทำให้กษัตริย์แห่งโฟรเซนการ์ดหัวเราะด้วยความพอพระทัย
“จะเป็นอันใดหรือไม่หากกระหม่อมรีบร้อนพาเจ้าหญิงกลับไปในคืนนี้…”
“จะเป็นอันใดเล่า….ในเมื่อมันเป็นประสงค์ของเจ้า….ข้าขอฝากแพนโดราด้วย…จงรักนางเหมือนที่ข้ารัก”
มินโฮอึกอักเล็กน้อยแต่ก็ยอมตอบเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตของพระราชา “พระเจ้าข้า…ข้าขอให้คำสัตย์”
“ดี….จงพักผ่อนเถิดราชบุตรเขย…ข้าจะให้คนไปตามเจ้าหญิงน้อยมาพบเจ้า”ชายหนุ่มโค้งหัวให้กับพระราชา
“มินโฮเจ้าดูซิ….ที่นี่สวยงามกว่าที่ข้าคิดไว้ซะอีก” คีย์มองสิ่งก่อสร้างโดยรอบอย่างพอใจ ไม่มีสรรพสัตว์ไม่มีแม้กระทั่งดอกไม้หรือใบหญ้าทุกอย่างดูขาวโพลนไปหมดแม้ทุกอย่างจะสร้างมาจากน้ำแข็งแต่มันกลับงดงามอย่างหาที่ติไม่ได้
“ข้าอยากจะเห็นแพนโดราเต็มทนแล้ว”
“เจ้าควรจะสำรวมบ้างคิบอม” เมื่อถูกว่าเข้าให้ร่างบางจึงยู่ปากใส่อีกคน
“เจ้าชอบว่าข้า”
เจ้าชายกำลังยิ้มขำกับสองคนนี้….เขาเป็นสหายสนิททั้งคีย์และจินกิมานานทำไมจะไม่รู้ว่าองครักษ์มาดเข้มนี้คิดอย่างไรกับเพื่อนร่างบาง….มินโฮเองก็จดจ่ออยู่ไม่น้อยเขาเองก็อยากจะยลโฉมเจ้าหญิงคนสวย…อยากรู้ว่าแพนโดราจะสวยได้ถึงครึ่งของแอนโดรเมดราหรือไม่
“เจ้าหญิงน้อย”
“ยุนอา….เรากำลังจะออกไปข้างนอกพอดี” รอยยิ้มงดงามฉาบบนใบหน้าหวานแทมินตั้งใจจะออกไปเดนเล่นด้านนอกซึมซับเอาบรรยากาศแห่งนครโฟรเซนไว้ให้มากที่สุดอีกสองวันขบวนแห่งโครนอสคงมาถึง
“ได้ออกแน่เพคะเจ้าหญิง…แต่ก่อนอื่นต้องฉลองพระองค์ใหม่เพคะ”
ยุนอาจัดนางรับใช้เข้าไปด้านในอีกสามสี่คน ทั้งช่วยกันอาบน้ำให้เจ้าหญิงน้อย….งดงามเหลือเกินเหนือสิ่งใดจะเอ่ยอีกไม่นานไข่มุกน้ำงามนี้จะกลายเป็นของโฟรเซนการ์ดโดยสมบูรณ์
“เอาละเรียบร้อยแล้วเพคะ…เจ้าหญิงน้อยของหม่อมฉันงดงามที่สุด” แทมินอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีฟ้าแนบลู่ไปกับผิวกาย แม้เจ้าตัวจะสงสัยนิดหน่อยว่าทำไมวันนี้จึงต้องแต่งกายมากมายผมยาวถูกรวบและถักเปียไว้ด้านหลัง ใบหน้าสวยงดงามโดยไม่ต้องแต่งแต้มสิ่งใดๆ
“ทำไมเราต้องแต่งมากมายขนาดนี้ด้วยเล่า….วันนี้เราอยากใส่กางเกงบ้างไม่ได้หรือ?”
ยุนอายิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับจับร่างกายเจ้าหญิงน้อยหมุนไปมาหน้ากระจก
“มิได้เพคะ….วันนี้พระองค์จะต้องออกไปพบพระคู่หมั้น”
“พระคู่หมั้น?.....”
“เพคะ….เจ้าชายเสด็จมาถึงโฟรเซนการ์ดอันหนาวเหน็บก็เพื่อเจ้าหญิงน้อยของหม่อมฉัน…”
เจ้าหญิงน้อยยิ้มจางๆ….ไม่อยากจะเชื่อเลยซักนิดว่าเจ้าชายแห่งโครนอสจะมาเพื่อตนขนาดนี้ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าเจ้าชายแห่งโครนอสนั้นมิมีทางที่จะทิ้งแอนโดรเมดราแสนงามนั้นมาได้อย่างแน่นอน
“ไปเถอะเพคะ…เจ้าชายรออยู่ที่ตำหนักรับรอง…”
เจ้าหญิงน้อยพยักหน้ารับ…ไม่มีเวลาให้คิดนานมันถึงเวลาแล้วจริงๆที่จะต้องจากบุคคลอันเป็นที่รักทั้งห้องหับที่เคยอยู่อาศัย…จากเสด็จพ่อและเสด็จแม่ใหญ่….พี่สาวรวมถึงสหายคนสนิทอย่างอี้ฟานที่ไม่มีแม้เวลาจะเอ่ยคำลาใดๆ
“ฝากสิ่งนี้ให้ท่านพี่ได้หรือไม่….”
เจ้าหญิงน้อยถอดสร้อยเพชรรูปพระจันทร์เสี้ยววางบนมือเหี่ยวย่นของนางกำนัล ยิ่งเห็นแววตาอาลัยอาวรณ์ของเจ้าหญิงน้อยเหล่านางรับใช้ทั้งหลายก็อดเศร้าตามไม่ได้
“หม่อมฉันจะมอบให้อี้ฟานกับมือเพคะ”
“ขอบใจมากนะ….ท่านพี่คงโกรธไม่อยากพบหน้าเราแน่ๆ…”
“ถึงเวลาแล้วเจ้าหญิงควรเร่งได้แล้วเพคะ…ให้เจ้าชายรอนานเห็นท่าจะไม่ดี”
แทมินพยักหน้าก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้อง…..ดวงตากลมมองตามทางที่ตนเองเดินผ่าน…พื้นน้ำแข็งสีฟ้าเข้ม…ท้องฟ้าสีเข้มที่ไม่มีแม้ก้อนเมฆและความเย็นจากอากาศที่คุ้นชิน….ต่อจากนี้ไปจะไม่มีอีกแล้ว
“องค์ชาย…เจ้าหญิงมาแล้วพระเจ้าข้า…” จินกิทูลบอกเจ้าชายที่มัวมองเหม่อไปไม่สิ้นสุดจวบจนได้เห็นร่างกายบางกำลังก้าวย่างเข้ามา เพียงแค่แพรพรรณสีฟ้าที่เจ้าหญิงสวมใส่ก็งามไร้ที่ติ….มินโฮอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงใบหน้าที่กำลังก้มอยู่นั้นได้เลย
“เจ้าหญิงแทมินเสด็จแล้วเพคะ….”
- - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - -
TBC
มาแล้วจ้า!!!!
ก่อนอื่นขออธิบายเรื่องแทมินก่อนนะ
น้องแทมินคือเจ้าหญิงจ้า เป็นเจ้าหญิงน้ำแข็ง ส่วนฉายานั้นก็คือแพนโดรา แทมินเป็นผู้ชายนะคะ
(งงละเซะ…กลับไปอ่านใหม่อีกรอบ) แทมินเป็นผู้ชายแต่พ่อของตัวเองกลับปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่าที่จริงแล้วแทมินคือผู้ชายก็เลยเป็นเจ้าหญิงน้อยจ๊ะ
ส่วนลู่ฮาน ก็คือเจ้าหญิงแห่งแสง ฉายาก็คือแอนโดรเมดรา (ก็พอจะรู้เนอะว่ามินโฮรักใคร) สรุปเรื่องนี้ชายชายนะจ๊ะ อาจจะมีภาษาที่งงไปบ้าง (ก็เหอะ) เราจะพยายามปรับปรุงนะคะ (ให้อภัยข้าน้อยด้วย)
ช่วงนี้งานยุ่งมากไอ้หนูก็พึ่งพังยังดีที่ไฟล์ฟิคไม่หาย จะทยอยอัพฟิคทุกเรื่องเลยนะคะ ได้โปรดอย่าหายยยยนะ (สัญญาก่อน)
ความคิดเห็น