คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Love like this :: บทที่ 22
บทที่ 22
“คีย์!!!!” แทมินถลาเข้าหาร่างบอบบางอีกคนที่นอนอยู่มุมห้อง
“นายไม่เป็นไรใช่มั้ย….” แทมินค่อยๆพยุงร่างของคีย์ขึ้นมา ร่างเล็กสลึมสลือ ก่อนดวงตากลมจะเปิดรับภาพทั้งหมด
“แทม….นายหรอ….”
แทมินพยักหน้าก่อนจะดึงเอาคีย์เข้ามากอด แทมินเองก็กลัวแต่เวลาแบบนี้ต้องเป็นที่พึ่งของกันและกัน
“ฮึก….แทม…ฉันฆ่า…ฮึก…จงฮยอน..แทมฉันฆ่าเขา” อยู่ๆเพื่อนหน้าสวยของแทมินก็คร่ำครวญออกมา
แทมินลูบหลังปลอบเพื่อน ก่อนจะกดใบหน้าของคีย์ให้ซบลงบนบ่าของตัวเอง ใบหน้าหวานหันมองจนทั่วห้อง ห้องทึบๆไม่มีแม้กระทั่งหน้าต่าง ทุกอย่างถูกปิดกั้นมีเพียงแสงเทียนจากโคมมุมห้องเท่านั้นที่ส่องสว่าง ทางออกมีเพียงแค่ทางเดียว….. “ประตู”
แทมินถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน “แทม…เราจะไปจากที่นี่ได้ไหม”คีย์เงยหน้ามองแทมิน วงแขนบอบบางโอบกอดเพื่อนสนิทเอาไว้แน่น
“ได้ซิ….เราต้องออกไปได้” แทมินตอบไปแบบนั้นทั้งๆที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปยังไง ทุกทางถูกปิดสนิท ถ้ามีปีกคงสามารถบินหนีได้ซินะแรงกอดกระชับจากร่างบางเริ่มรู้สึกอึดอัดจนแทมินรู้สึกได้
“แทมินนายกลัวไหม…” เสียงคล้ายกระซิบจากริมฝีปากแดงแทมินไม่สามารถเห็นใบหน้าของอีกคนได้เลยเมื่อเพื่อนหน้าสวยที่เขากอดอยู่กำลังมีเขี้ยวงอกออกจากริมฝีปาก
“นายกลัวหรอคีย์…ไม่ต้องกลัวฉันจะอยู่กับนาย” แทมินลูบหลังคีย์เบาๆเมื่อเสียงของคีย์ดูสั่นจนเหมือนหวาดกลัว
มือเรียวของคีย์กำลังลูบไปมาบนเส้นผมนุ่มของแทมิน พร้อมๆกับเส้นผมที่ยาวระต้นคอถูกนำไปทัดบนใบหูเผยให้เห็นช่วงลำคอขาวเนียน ดวงตาสีแดงดูตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิดปากเล็กอ้าออกพร้อมๆกับเขี้ยวขาวเตรียมพร้อมจะกดลงไปให้มิดในคราวเดียว
ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกก่อนจะปรากฏร่างของผู้มาใหม่ ดวงตากลมเบิกกว้างก่อนจะกอดกระชับร่างของคีย์ให้แน่นขึ้น แทมินพาคีย์ถอยหลังไปจนชิดมุมห้อง
“ออกมา” ชายร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ แทมินยังคงนั่งเฉยเช่นเดิม คีย์ก็เช่นกันมือบางจับกันแน่นจนชุ่มเหงื่อ อนยูเดินเข้าไปใกล้ร่างบางก่อนจะฉุดแทมินให้ลุกขึ้น ดวงตากลมเบิกกว้างก่อนจะพยายามสะบัดให้หลุด
“คีย์!!!!ช่วยด้วย!!!” แทมินตะโกนลั่นก่อนจะร้องเรียกร่างบางอีกคนที่ยังนั่งนิ่งด้วยความหวาดกลัว
“เรียกให้มันมาช่วยกินคุณรึไง…หุบปากซะ!!!!” อนยูตะหวาด แทมินจ้องร่างที่นั่งกอดเข่าอยู่มุมห้อง อยู่ดีๆคีย์ก็ลุกขึ้นยืนใบหน้าที่หวาดกลัวเมื่อครู่หายไป มีเพียงความกระหายเลือดเข้ามาแทนที่
“ฮ๊า!!!!!!” คีย์พุ่งเข้าหาคนทั้งสองหมายฝังคมเขี้ยวลงบนตัวเหยื่อ แต่การเคลื่อนไหวยังช้ากว่าร่างสูงอีกคน อนยูตะปปลงไปบนช่วงคอขาวก่อนจะบิดจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นดัง เปาะ! ไม่นานนักแวมไพร์กระหายเลือดตัวนั้นก็สงบนื่งร่างกายเปลี่ยนไปเป็นร่างกายมนุษย์แก่ๆ ร่างบางยืนนิ่งดวงตากลมเบิกกว้าง
“เห็นรึปล่าว….พวกนี้น่ะพึ่งจะเริ่มกระหายเลือด…มากับผมถ้าคุณอยากมีชีวิตอยู่”
เวลานี้แทมินควรจะเชื่อคนตรงหน้าดีรึปล่าว…..เวลามีไม่มากขาเล็กวิ่งตามร่างสูงทันทีที่ตั้งสติได้ถ้าคนๆนี้มาไม่ทันแทมินคงจะถูกกินไปแล้วแน่ๆ
“คุณเป็นใคร?” แทมินถามในขณะที่ตัวเองกำลังพยายามวิ่งเพื่อให้ทันร่างสูง
“ผมสามารถทำให้คุณปลอดภัยได้ก็พอ” อนยูหันกลับมามองร่างบางก่อนจะฉุดแทมินหลบเข้ามุมกำแพงพร้อมกับคลุมร่างเล็กไว้ด้วยผ้าคลุมสีดำ ร่างของแวมไพร์สองตนค่อยๆเดินผ่านไปโดยไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ
“คุณเป็นคนของพี่มินโฮ” แทมินตอบเสียงเบาทำไมเขาต้องมานึกน้อยใจตอนนี้ด้วยนะ มินโฮจะรู้หรือไม่ว่าเขาถูกจับมา แทมินกำลังจะถูกกินในขณะที่มินโฮไม่อยู่
“เฮ่อ….มนุษย์นี่เข้าใจยากจริงๆ” อนยูพ่นลมหายใจออกอย่างเหนื่อยหน่าย
“เลือดของคุณหอมออกขนาดนี้….ผมๆไม่เข้าใจว่าองค์ชายทนคุณได้ยังไง”แทมินเงยหน้ามองแวมไพร์หนุ่ม
“องค์ชายกลับมาปราสาทด้วยอาการหิวโซทุกครั้ง…”
แทมินตาโตด้วยความตกใจนึกถึงคำพูดของมินโฮ หลายครั้งที่ที่มินโฮดูเหมือนทรมานเมื่อจะกอดเขา มินโฮเป็นแวมไพร์สิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงชีวิตได้ก็คือเลือด
“พี่มินโฮ….ผม…ฮึก…” ร่างบางกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ตลอดเวลาเขาเอาแต่ใจ….ไม่เคยรับรู้ถึงการเสียสละหลายๆอย่างของมินโฮ มินโฮทำเพื่อเขาขนาดนี้แต่เขาก็ยังขอให้มินโฮกัด เพียงเพราะเขาอยากจะเป็นแวมไพร์และอยู่กับมินโฮ
“แล้วตอนนี้พี่มินโฮอยู่ที่ไหน…คุณพาผมไปหาเขาได้ไหม”
ตามทางเดินที่มือสนิทปรากฏร่างของแวมไพร์ร่างสูงและมนุษย์น้อยเสียงสะอื้นยังคงมีให้ได้ยินไปตลอดทาง….กลิ่นของดินที่ถูกลมพัดมาบ่งบอกว่าเขาทั้งสองคนกำลังจะเข้าเขตป่า
“ผมไม่รู้….รู้แต่ว่าต้องพาคุณไปจากที่นี่…ให้เร็วที่สุด”อนยูกั้นมือเมื่อรับรู้ได้ถึงเสียงแปลกๆที่กำลังดังขึ้นมาในความมืด
“ชวู่….เงียบๆนะพวกมันมากันแล้ว”อนยูและแทมินหลบเข้าพุ่มไม้เตี้ยๆมันใหญ่พอที่จะบังทั้งสองคนเอาไว้ได้
“ตามหาให้ทั่ว!!!!พวกมันอยู่แถวนี้แหละ….แย่จริงๆที่พวกเจ้าปล่อยมันหนีไปได้…มันอุตส่าห์ติดกับแล้วเชียว”
เสียงแวมไพร์สาวอนยูจำได้ดี เธอกำลังโกรธจัดเพราะถ้างานนี้พลาดหมายถึงชีวิตของเธอเองก็จบสิ้นลงด้วย
แวมไพร์หนุ่มสองตนรับคำก่อนจะหายไปในความมืด
“แย่จริง!!!!มันจะหนีไปได้ยังไงนะ!!!”อนยูลอบมองใบหน้าโกรธจัดของฮยอนอา
“อ๊ะ!!!!!”แขนแกร่งล็อคคอแวมไพร์สาวไว้อย่างแน่นหนา
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!!!!” อนยูรีบตะคุบปากของแวมไพร์สาวเอาไว้ก่อนจะลากตัวหล่อนมาหลบหลังพุ่มไม้ เมื่อแวมไพร์สาวเห็นแทมินเธอก็หมายตรงเข้าขย้ำทันที
“ฤทธิ์มากนักนะฮยอนอา” อนยูพยายามล็อคร่างของฮยอนอาเอาไว้แน่น เสียงขู่คำรามดังเบาๆจากปากบางที่ถูกปิดไว้
“เรากำลังจะไปไหนฮะ”แทมินเดินตามร่างสูงมาเรื่อยๆจนกระทั่งพ้นเขตกำแพงของปราสาทสูงตระหง่าน…..เมื่อถึงที่ปลอดภัยอนยูก็จัดการผลักร่างของหญิงสาวลงไปกองจมปุกอยู่กับพื้น
“แฮ่!!!.....แก!!!ไอ้บ้า…คอยดูนะองค์ชายจะต้องฆ่าแกถ้ารู้ว่าแกทำแบบนี้กับฉัน”แวมไพร์สาวขู่ดวงตาแดงฉานจ้องไปที่แทมินอย่างไม่ลดละ
“องค์ชายจะฆ่าเธอก่อนน่ะสิ…ที่มายุ่งกับเด็กคนนี้”
“แกเข้ามาแย่งทุกอย่าง!!!เด็กบ้า!!องค์ชายต้องเป็นของฉัน!!!!”ฮยอนอาพุ่งเข้าหาแทมินหมายจะตะปปให้หายแค้น แต่กลับโดนเหวี่ยงจนร่างของแวมไพร์สาวล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
“มาขวางทำไม!!!....เลือดของเด็กนั่นเจ้าไม่อยากลิ้มรสหรือไง!!!”ดวงตาของทั้งคู่จ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“เจ้าเองก็ไม่ใช่แวมไพร์โดยกำเนิด….เจ้าเองก็เป็นแบบเดียวกับข้า…แล้วทำไมไม่ฆ่าเด็กนั่นซะ”
“หุบปาก!!!!” อนยูหมดความอดทนมือหนาเหวี่ยงเข้าใบหน้าของแวมไพร์สาวเต็มแรง
“หึๆ…เจ้าคงถูกลบความจำไปหมดแล้วน่ะสิ….ไม่รู้รึไงว่าเป็นเพราะมนุษย์นั่นเจ้าถึงเป็นแบบนี้…มันเป็นต้นเหตุให้เจ้าถูกหมาป่าฆ่า….ส่งเด็กนั่นมาซะไม่อย่างนั้นละก็เด็กหนุ่มของเจ้าก็จะไม่รอดเหมือนกัน!!!!”แวมไพร์สาวเอ่ยอย่างผู้ชนะ
“เจ้าทำอะไรเด็กนั่น.....” อนยูเริ่มจะกุมหัวตัวเองเมื่อรู้สึกถึงอาการปวดมากขึ้นกว่าทุกที
“ถ้าช้ากว่านี้ละก็….เด็กคิบอมนั่นก็จะเป็นอาหารของราชินีน่ะสิ”
“คีย์!!!!” แทมินตะโกนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อเพื่อนรัก
“บอกมา…ว่าเธอจับเด็กนั่นไปไว้ที่ไหน!!!นำทางไป!!!” อนยูรวบแขนทั้งของข้างไขว้หลังก่อนจะออกแรงบังคับแวมไพร์สาวให้เดินนำ เสียงคำรามด้วยความไม่พอใจดังออกจากปากบางเป็นระยะ
“เธอไม่สมควรไป….รอที่นี่แหละ”อนยูหันมาบอกแทมิน ร่างเล็กส่ายหัวรัวๆ “ไม่!!!ผมจะไม่ปล่อยคีย์ผมต้องไปช่วยเพื่อนของผม”
“แต่เธอไม่สามารถต่อกรกับแวมไพร์ได้เป็นฝูงหรอกนะ” แทมินเถียงขึ้นมาทันควัน “คุณก็เหมือนกัน…คุณตัวคนเดียวก็สู้กับพวกแวมไพร์ไม่ได้เหมือนกัน”
“แต่ฉันตายแล้ว!!!นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องไป!!!”อนยูเบื่อจะเถียงกับเด็กน้อยตรงหน้านี้เต็มทนร่างสูงผลักแวมไพร์สาวไปด้านหน้า
“ผมจะตามคนมาช่วย!!!!” แทมินว่า ดวงตากลมของคนตัวเล็กมีน้ำใสรื้นขึ้นมาหน่อยๆ ร่างของอนยูหายกลับเข้าไปในปราสาทพร้อมด้วยร่างแวมไพร์สาว แทมินวิ่งอย่างไม่รู้ทิศทางมีเพียงแสงสะท้อนของดวงจันทร์เท่านั้นที่เป็นไฟส่องทาง ร่างเล็กสะดุดทั้งกิ่งไม้และก้อนหิน
เสียงร้องของนกกลางคืนและเสียงสุนัขป่าดังก้องไปทั่ว เมื่อความเหนื่อยเริ่มถามหาความกลัวก็เริ่มเกาะกิน แทมินหยุดพักก่อนจะหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดหนักๆ…..มีเวลาให้คิดไม่นานมากนักเพื่อนหน้าสวยของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายมันช่างเหมือนกับในหนังที่เขาได้ดูมาไม่ผิดเพี้ยน ทุกคนไม่สามารถหนีออกจากพื้นที่สยองขวัญแห่งนี้ได้ ทุกคนจะต้องกลายเป็นอาหารของแวมไพร์ และตายลงอย่างทรมาน สีหน้าแววตาและความเจ็บปวดเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังก้องอยู่ในหัวของแทมิน…..เหล่านักเรียน 4-5 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกนำไปเป็นอาหารต่อไป
“พี่มินโฮ….ฮึก…พี่อยู่ไหนฮะ…ฮือ…” แทมินสะอื้นออกมา
“แฮกๆๆๆ….” เสียงคำรามคล้ายขอความช่วยเหลือแต่เสียงนั้นไม่ใช่มนุษย์ ร่างบางหันซ้ายขวาเพื่อหาที่มาของเสียง หัวใจดวงน้อยเต้นหนักๆด้วยความหวาดกลัว แทมินไม่กล้าทักร่างบางทำได้เพียงลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
“โอ๊ย!!!!” ประจวบกับความมืดทำให้เท้าเล็กสะดุดกับรากไม้ก่อนที่คนตัวเล็กจะกลิ้งลงจากเนินตามแรงโน้มถ่วงของโลก
“อ๊า!!!!!” แทมินนอนกุมท้องแขนบางมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นทางเพราะตอนที่ไถลลงมานั้นคงจะไปเกี่ยวกับหินหรือซากไม้แหลมเข้า
“แฮกๆๆๆ….”เสียงยังคงดังต่อเนื่องและชัดเจนกว่าเมื่อกี้จนเหมือนกับเสียงนี้ดังอยู่ข้างหลังของเขาเอง แทมินค่อยๆหันไปตามเสียงครวญ ดวงตากลมปะทะเข้ากับร่างของหมาป่าหิมะตัวโต ดูเหมือนหมาป่าตัวนั้นจะบาดเจ็บมากเสียด้วยกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วจนขนสีเทานั้นชุ่มชื้นไปด้วยเลือด แทมินค่อยๆเดินเข้าไปใกล้หมาป่าตัวใหญ่ แต่เมื่อมือบางจะสัมผัสขนนุ่มของหมาป่ากลับถูกพละกำลังมหาศาลถาโถมเข้าใส่
“อย่า!!!!ผม….คะ…แค่…จะช่วยคุณ” แทมินตะโกนก้องเมื่อดวงตาคมนั้นจ้องมาที่เขา ดวงตาแบบนี้เขาเคยสบมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่เขากับคีย์ไปดูหน้าของเพื่อนบ้านคนใหม่ เพื่อนบ้านที่ทำการเสียมรรยาทกับเขาใช่แล้วดวงตาแบบนี้
“คะ….คิม….จงฮยอน” แทมินเอ่ยเสียงเบา หมาป่าหิมะตัวใหญ่ผละออกจากตัวร่างบางก่อนจะเดินโซเซไปอีกทาง
“เดี่ยว!!!!...จงฮยอน…เดี๋ยว!!!!” แทมินวิ่งตามหมาป่ามาจนทัน ร่างเล็กพึ่งสังเกตเห็นว่ารอยเลือดหยดนั้นมาจากหน้าอกของหมาป่า ร่างใหญ่โตหยุดนิ่งก่อนจะทรุดลงเหมือนเดิม เสียงหายใจหนักๆหลายครั้งติดต่อกันพร้อมกับเสียงคำรามเพื่อไม่ให้คนร่างเล็กเข้าใกล้
“ผม…จะ….เอ่อ…ช่วยคุณ” แทมินเม้มปากก่อนจะเดินเข้าไปใกล้หมาป่าอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีเสียงคำรามมีเพียงดวงตาสีเทาเข้มค่อยๆจางจนกลายเป็นสีน้ำตาล
“คุณถูกทำร้ายมานี่!!!!!” แทมินพูดอย่างตกใจเมื่อยังเห็นมีดปักคาอยู่ที่หัวไหล่ของหมาป่าและมีดด้ามนั้นแทมินคุ้นตามันเป็นของใครบางคน
“ไค…..” แทมินพูดออกมาเบาๆเขาเองก็นึกแปลกใจที่มีดของไคมาปักอยู่บนไหล่ของหมาป่าหนุ่มซะได้
มือเล็กเอื้อมจับด้ามมีด ก่อนจะมองหน้าหมาป่าเพื่อขออนุญาต
“อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงร้องดังลั่นเมื่อมีดถูกดึงออกมาจากหัวไหล่ของหมาป่า เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากรอยแผลแต่ในไม่ช้าบาดแผลนั้นก็หายไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้นแทมินมองอย่างอึ้งๆกว่าจะรู้ตัวร่างเล็กถูกตะครุบเข้าให้แล้ว
“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่!!!!” เสียงคำรามด้วยความโกรธ
“ผมต้องไปช่วยเพื่อน….เพื่อนของผมถูกพวกนั้นจับตัวไว้”
วูบหนึ่งที่เห็นใบหน้าของหมาป่าสลดลง จงฮยอนคำรามอย่างโกรธเกี้ยว “บ้าเอ้ย!!!!!!!”
“คิบอมอยู่ที่ไหน!!!!”
“ยะ…อยู่…ในปราสาทฮะ…”
ทันที่ที่ได้รับคำตอบหมาป่าหนุ่มก็โก่งคอเห่าหอนเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่าทั้งนี้เพื่อเป็นการเรียกรวมพลและจัดการกับพวกซากศพมีชีวิต ความแค้นสะสมมานับร้อยปีกำลังจะถูกสะสางไม่เผ่าพันธุ์ใดเผ่าพันธุ์หนึ่งต้องล้มตายกันไปข้าง ความแค้นระหว่างหมาป่าและแวมไพร์
“ผะ….ผมไปด้วย…”
แทมินพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้งแต่ด้วยขาที่ไม่แข็งแรงนั้นทำให้ทุกก้าวของเขาเต็มไปด้วยความลำบาก
“กลับบ้านไปซะ!!!” จงฮยอนคำรามใส่ร่างเล็ก
“ไม่!!!!ผมไม่กลับ!!!!”
แทมินยังยืนยันคำเดิมเขาจะไม่สนใจหมาป่าตรงหน้าอีกต่อไป ร่างเล็กพยายามเดินด้วยตนเอง ใบหน้าหวานแหงนมองด้านบนที่เขาเพิ่งพลัดตกลงมา ขาที่กำลังบาดเจ็บไม่สามารถพาเขาขึ้นไปถึงข้างบนได้แน่
“ดื้อเหมือนเจ้าเด็กนั่นไม่มีผิด!!!”
จงฮยอนหอนด้วยเสียงดังก้องอีกครั้ง ไม่นานนักเสียงโดยรอบที่เงียบสนิทกลับมีเสียงฝีเท้าของหมาป่ากำลังวิ่งมาทางด้านนี้หมาป่าหิมะตัวใหญ่ 4 ตัวกำลังวิ่งมาทางนี้ดวงตาสีน้ำตาลจ้องผ่านไปยังร่างเล็ก
“เซฮุนพาเด็กนี่ไปส่งที่บ้าน”
จงฮยอนสั่งเสียงเฉียบก่อนจะออกแรงวิ่งพุ่งทยานเข้าไปในป่าเป้าหมายคือปราสาทหลังใหญ่ เขาไม่รู้ว่าพวกแวมไพร์กำลังทำอะไรกัน แต่ในเมื่อพวกมันตั้งใจจะจับเด็กสองคนนี้มา แสดงว่าพวกมันเหล่านั้นกำลังคิดจะทำการใหญ่แน่นอน หมาป่าหนุ่มยังข้องใจกับการหายตัวไปขององค์ชายปิศาจไม่มีทางที่มินโฮจะปล่อยให้เด็กน้อยลีแทมินโดดเดี่ยวอยู่แบบนี้
“ออกมาซะทีมินโฮ!!!!เราจะได้สู้กันให้รู้แพ้ชนะซะ!!!!” หมาป่าหนุ่มคำรามผ่านสายลม ในขณะที่พยามเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ร่างของหมาป่าหนุ่มชองยุนโฮที่กำลังเร่งรีบใส่เสื้อผ้า ทำให้ร่างบางของแจจุงที่นอนอยู่ข้างๆต้องตื่นตามไปด้วย
“จะไปไหนยุนโฮ…..”
แจจุงพยายามกระพริบตาเพื่อให้สายตาชินกับความมืด
“ฟังนะแจจุง…..ตอนนี้แทมินไม่ได้อยู่ที่ห้อง” แจจุงตาโตร่างบางคว้าเสื้อผ้ามาใส่ลวกๆก่อนจะวิ่งไปเคาะประตูของน้องชาย
“แทม!!!แทม!!!!เปิดประตูให้พี่หน่อย!!!!” แจจุงเร่งเคาะประตูเหมือนคนบ้าร่างบางตัดสินใจผลักประตูเข้าไปแต่ก็ไร้วี่แววของเจ้าของห้องแทมินไม่อยู่อย่างที่ยุนโฮบอกจริงๆด้วย
“ฟังนะ….น้องชายนายกำลังตกอยู่ในอันตราย” แจจุงปล่อยโฮทันทีเมื่อนึกถึงน้องชายเพียงคนเดียว
“ยุนโฮ….ฮือๆๆ…แทมินหายไปฉันจะทำยังไงดี ฮือๆๆๆๆๆๆ”แจจุงร้องไห้คร่ำครวญ ยุนโฮกอดร่างบางเอาไว้แน่น
“ไม่ต้องห่วงไม่มีใครทำอะไรแทมินได้ทั้งนั้น….ถ้าแทมินยังอยู่กับมินโฮ”แจจุงเงยหน้าจากอ้อมกอดของร่างสูง
“เพราะชเวมินโฮไม่มีทางปล่อยให้แทมินเป็นอะไรเด็ดขาด….และฉันก็จะต้องไปช่วยน้องชายของนาย…ฉันไม่อยากให้นายเป็นอะไรไปอีกคนรออยู่ที่บ้านนะแจจุงแล้วฉันจะกลับมา”ชองยุนโฮจูบแนบไปกับริมฝีปากแดงของร่างบางบบดขยี้ซักพักก่อนจะถอนออกเป็นการสัญญาว่าเขาจะกลับมา
“ฮือๆๆ….ยุนโฮช่วยแทมินด้วยนะ….”ยุนโฮพยักหน้า ฉับพลันร่างกายก็แปรเปลี่ยนเป็นหมาป่าหิมะตัวใหญ่วิ่งหายไปกับความมืดดวงตาคมเหมือนจะรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่เริ่มเคลื่อนไหวไปรอบๆ ดวงตาเรืองแสงโผล่ให้เห็นครั้งเดียวแล้วหายไปชองยุนโฮยกยิ้มเล็กน้อย…..
“คิมแจจุงเป็นของฉัน….อย่าคิดยุ่งเด็ดขาด”
เสียงเหมือนจะพูดออกไปลอยๆแต่กลับแฝงไปด้วยความหนักแน่นและหวงแหนไม่ทันไรร่างในชุดผ้าคลุมก็ปรากฏกายขึ้น
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่……” แวมไพร์แสยะยิ้มโชว์เขี้ยวขาว
“ไม่นึกว่าต้องมาเจอแกอีกชีวอน” ยุนโฮคำรามใส่แวมไพร์อีกครั้ง
“หึๆ…..ยินดีที่ได้เจอแก” แวมไพร์หนุ่มหายตัวด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะตามไปด้วยบริวารอีกหลายตน
CRY .q
ความคิดเห็น