คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Love like this :: บทที่ 17
บทที่17
ร่างหนาของคิมจงฮยอนเหลือบมองคนข้างๆที่นั่งนิ่ง นานๆครั้งจึงจะเงยหน้าขึ้นมามองข้างทาง ดวงตาสวยบวมช้ำและมีน้ำตาตลอดเวลา แต่ที่จงฮยอนหงุดหงิดมากกว่านั้นคือ กระดุมเสื้อของร่างบางที่หลุดหายไปกว่าครึ่งตัว ไม่รู้ว่าระหว่างที่เขาไม่อยู่คนๆนี้ไปทำอะไรมา ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ยิ่งคิดก็ยิ่งหวง
ก่อนหน้านั้น
“นายไม่สบายหรอคีย์”
จงอินมองร่างบางที่กำลังนอนหันหลังอยู่บนเตียงพยาบาลสีขาว เพียงแค่ร่างบางพลิกหน้ากลับมาจงอินถึงกับตกใจ ใบหน้าสวยที่เคยสดใสและมีความสุข ดูซูบซีดลง ไหนจะดวงตาที่บวมช้ำจนน่าตกใจ
“ยะ…อย่าเข้ามานะ…”
คีย์มองร่างสูงที่กำลังเอื้อมมือมาจับตัวเอง จงอินชะงักหยุดนิ่งอยู่กับที่
“ช่วยพา…ฉันออกไปจากที่นี่ที…”ร่างบางที่นั่งกอดตัวเองอยู่บนเตียงเอ่ยออกมาหลังจากที่เงียบอยู่นาน
“ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนาย…และฉันก็ไม่รู้จะช่วยนายยังไง…”คีย์เงยหน้ามองจงอิน สภาพของร่างสูงตรงหน้าเสื้อผ้านักเรียนก็หลุดลุ่ย คีย์มองด้วยความสงสัย
“แทมินละ…นายเห็นแทมินรึปล่าว…”จงอินหลบสายตาของคีย์ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ข้างๆเตียง
“ฉัน…ทำให้แทมินโกรธ…ฉัน…ขอโทษ…”คีย์มองจงอินอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าจงอินหมายถึงอะไร…..จงอินนั่งเฝ้าร่างบางตรงหน้าอยู่นาน จนกระทั่งเกือบบ่าย
“นายไม่เข้าเรียน…”คีย์ลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะมองคนตรงหน้า แววตาของร่างสูงดูเหมือนมีความลับอะไรปกปิดอยู่
“นายอยากเจอแทมใช่มั้ย?…”จงอินเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะจ้องร่างบางที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“แทมินโกรธฉัน…เขาไม่ให้อภัยฉัน…ฉันทำร้ายเขา…”
น้ำเสียงของคนตรงหน้าดูอ่อนลง คีย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักคิมจงอินเป็นการส่วนตัว แต่ก็รับรู้ได้ว่าร่างสูงตรงหน้า รักลีแทมินมากขนาดไหน จงอินที่อยู่เคียงข้างของแทมิน แต่…..ในฐานะ เพื่อนเท่านั้น
“รู้ใช่มั้ยว่าแทมไม่เคยโกรธใคร…รายนั้นโกรธใครไม่เป็นซะด้วย” จงอินพยักหน้าเบาๆ
“ฉันคงเป็นคนแรกที่แทมินโกรธ” จงอินเงียบไปซักพักก่อนจะถอนหายใจ “ฉันไม่รบกวนนายดีกว่า….ฉันควร…”
“เดี๋ยว!...” คีย์ที่พยายามเดินตามจงอินให้ทัน แต่ด้วยความที่รีบเกินไปทำให้ร่างบางเซถลา จงอินที่ปรี่เข้าไปคว้าตัวร่างบางเอาไว้ แต่ด้วยระยะห่าง ทำให้จงอินเผลอดึงเสื้อนักเรียนของคีย์จนเม็ดกระดุมหลุดไปถึงครึ่งแถบ
“เฮ้ย!!!!/อ๊ะ!!!!”
“นายไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
จงอินถึงกับตาโต เมื่อมองเห็นร่องรอยบนหน้าอกขาวบางรอยฟันและรอยจ้ำเลือดเป็นหย่อมๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนตรงหน้าผ่านเรื่องอะไรมา ยังไม่ทันจะได้พูดต่อคีย์ก็รีบดึงเสื้อเข้าหากันแต่เม็ดดุมที่หลุดหายไปถึงสี่เม็ดทำให้ร่างบางต้องใช้แขนกอดตัวเองเอาไว้ ไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยนี้เพราะเขาสกปรกเกินไป เมื่อคิดแบบนั้นน้ำตาที่เพิ่งแห้งไปก็ไหลซ้ำลงมาอีก ก่อนจะตามมาด้วยเสียงสะอื้นน้อยๆ
“คิบอม…”
จงอินตั้งใจจะเดินเข้าไปหา แต่ร่างบางกลับเบี่ยงตัวหลบ
“อย่ามาแตะต้องฉันนะ…ฮึก…”
คีย์ปล่อยโฮออกมา ใบหน้าหวานซบลงกับฝ่ามือก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอิ้น
“ปีศาจ…ฮึก…ปีศาจ…”
ร่างบางทรุดลงไปกับพื้น จงอินรีบเข้าไปพยุงแม้คนตรงหน้าจะขืนตัวออกเขาก็ไม่ยอมปล่อย
“คีย์!!!!ฟังนะ!!!ที่นี่ไม่มี ปิ-ศาจ…เข้าใจไหม!!!ตั้งสติหน่อยซิคีบอม!!!!”
จงอินตะคอกคนตรงหน้าเมื่อเห็นว่าร่างบางในอ้อมกอดเกิดอาการคุ้มคลั่ง
“มันทำลายฉัน!!!!ไม่เห็นรึไง!!!!ฉันจะฆ่ามัน!!!!ฮือๆๆๆ…ฮึก…”
“ใจเย็นๆซิ บอกฉัน..คีย์บอม!!!บอกฉัน…มองหน้าฉัน มันเป็นใคร!!!!”
ดวงตาสวยหลุบต่ำริมฝีปากแดงถูกกัดจนห้อเลือด มือเล็กกำแขนเสื้อของอีกคนไว้แน่น ยิ่งนึกถึงคืนที่โหดร้ายน้ำตาก็ยิ่งไหล
เมื่อร่างสูงหยุดเขย่าตัวร่างบาง คีย์ก็เปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก เกลียดที่ต้องพูดถึงสิ่งที่เพิ่งพบเจอมา ขยะแขยงสัมผัสทุกสัมผัสของ หมาป่า….คิมจงฮยอน…
“ว่าไง…บอกฉันได้มั้ย…ฉันจะช่วยนาย..”
“ฮึก…ฆ่า…หมาป่า..ฉันจะฆ่าหมาป่า!!!!”แววตาสวยวาวโรจน์ด้วยความโกรธ
“นายว่าไงนะ..”จงอินตกใจกับคำพูดของคีย์ ทุกๆอย่างบนโลกไม่ได้มีแค่ตำนานหากแต่ทุกอย่างมันมีจริงแล้วเขาก็กำลังพบมันอยู่ตอนนี้
“แย่แล้ว!!!!แทมิน!!!”จงอินสบถก่อนจะรีบกดโทรศัพท์หาร่างเล็ก
“รับซิแทมิน”คนตัวสูงนั่งไม่ติด ร่างเล็กไม่รับสายเขาแถมยังกดตัดสายอีก
“มีอะไรจงอิน?”จงอินหันมามองหน้าคีย์ มือหนายังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้แบบนั้น
“แทมินกำลังเจอแบบเดียวกับนาย”
ดวงตาสวยของคีย์เบิกกว้าง ยังไม่ทันจะพูดอะไรร่างสูงของจงอินก็วิ่งนำออกไปก่อนแล้ว คีย์ได้แต่วิ่งตามลืมกระทั่งความเจ็บปวดทั้งหมดที่ตัวเองได้รับ
ริมสระน้ำ
จงอินแทบจะขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้น แทมินเอาแต่ตัดสายเขาแบบนี้ ถ้าคนตัวเล็กเป็นอะไรไปเขาจะไม่ให้อภัยตัวเองเป็นอันขาด ร่างสูงตัดสินใจส่งข้อความเข้าไปหาร่างบาง อย่างน้อยตอนนี้เขาก็อยู่กับคีบอม อย่างน้อยร่างบางก็ต้องยอมออกมาพบเขาเพราะลีแทมิน ห่วงคีบอมยิ่งกว่าใคร เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะสารภาพทั้งหมด และเอาร่างเล็กกลับคืนมาจากปีศาจ
“แทมิน….ออกมาพบฉันได้ไหม…ตอนนี้ฉันอยู่กับคีบอม..ฉันจะรอนะ…”
ร่างสูงกดส่งเมสเสจ อุณภูมิในร่างกายของร่างสูงร้อนยิ่งกว่าอะไร ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คน… ชเวมินโฮ เขาน่าจะรู้ตั้งแต่แรก พละกำลังเกินมนุษย์ ดวงตาคมเมื่อโกรธจะเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท เขาน่าจะฉุกคิดตั้งแต่ตอนนั้น จงอินกุมหัวตัวเองก่อนจะจิกทึ้งอย่างบ้าคลั่ง
“ไค!!!หยุด!!!ทำบ้าอะไรของนายน่ะ!!!!แทนที่จะคิดวิธีช่วยแทมแต่นายมาทำร้ายตัวเองแบบนี้นี่นะ!!!”
จงอินหันขวับมามองคีย์ ดวงตาที่มีแต่ความเข้มแข็งตลอดเวลามันกำลังจะเริ่มอ่อนแอ อ่อนแอที่ปกป้องคนที่ตัวเองรักไม่ได้
“ทำไมคนที่แทมินรักไม่ใช่ฉัน….ทำไมต้องเป็นมัน…ไอ้หมอนั่นมันจะฆ่าแทมิน”
“นายพูดเรื่องอะไร!!!ใครจะฆ่าแทม”
จงอินหลับตาสะกดกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหล
“ชเวมินโฮ….หมอนั่น…ไม่ใช่คน…มันเป็นแวมไพร์!!!”
จงอินเอ่ยถ้อยคำออกมาอย่างยากลำบากเน้นชัดทุกถ้อยคำราวกับมันไม่ชัดเจนพอ
“เพราะแบบนี้ ฉันถึงต้องรีบช่วยแทมินยังไงละ…”คีย์สะอึกไปชั่วครู่ แวมไพร์ อะไรกัน ในโลกนี้มีเรื่องแบบนี้ด้วยรึไง หมายความว่าชเวมินโฮเป็นแวมไพร์
“คิมจงฮยอน…หมาป่า…”คีย์พูดกับตัวเองเบาๆ อยู่ๆภาพใบหน้าของจงฮยอนก็วูบขึ้นมา ร่างบางเซเล็กน้อยเมื่อนึกถึงร่างกายของคิมจงฮยอนกลิ่นกายที่คุ้นเคยมีความรู้สึกเหมือนร่างสูงอยู่ไม่ไกล
“คีย์…นายเป็นอะไรรึปล่าว?”จงอินมองท่าทีที่แปลกไปของร่างบาง ร่างกายบางสั่นเล็กน้อยเหมือนคนไม่สบาย
“มะ….ไม่มี…ไม่มีอะไร…”
คีย์หลับตาสะกดกลั้นภาพที่ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ร่างกายของหมาป่าหิมะสูงใหญ่ดวงตาสีเงินประกายคีย์รู้สึกเหมือนมันกำลังจ้องมองมาที่ตนเองหากแต่รอบๆก็มีแค่เขากับจงอินเท่านั้น
“ฉะ…ฉัน…กลับก่อน…ฝะ…ฝาก…ดูแทมด้วย….”คีย์หน้าซีดปากสั่น ร่างบางเดินกอดตัวเองออกมาจากบริเวณนั้น
“คีย์เดี๋ยว!!!!เอานี่ไป….เผื่อนายต้องใช้มัน…”
วัตถุมีคมส่องประกายอยู่ในมือเล็กของร่างบาง ดวงตาสวยปริ่มน้ำตาขึ้นมาอีก
“แต่มันเป็นของนาย…แล้ว…”
“เอาไปเหอะ…ฉันมั่นใจว่าฉันจะปกป้องแทมินได้ …. ด้วยมือของฉัน”
คีย์ยิ้มให้จงอิน ร่างบางมีเวลาไม่มากความรู้สึกเหมือนหมาป่าอยู่ใกล้ๆชัดเจนขึ้นทุกขณะจะไม่มีใครต้องบาดเจ็บเพราะเขา…..ร่างสูงมองร่างบางเดินเร็วๆจนหายลับไป ก่อนจะหันมองตัวเอง เมื่อกี้เขาพูดว่าเขาจะปกป้องแทมินด้วยสองมือของเขา…..ตอนนี้จงอินเริ่มไม่มั่นใจ เมื่อคนที่ครอบครองแทมินไม่ใช่มนุษย์ ผู้ชายคนนั้นเป็นแวมไพร์ และเขาเป็นมนุษย์……ความคิดทั้งหมดมลายหายไปเมื่อพบกับร่างเล็ก เหมือนคนชกหน้าตัวเองแรงๆซักสิบที ใบหน้าหวานที่กำลังมองเขาอยู่นั้นมันคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาแม้เจ้าตัวจะพยายามเช็ดแต่ความเจ็บปวดและคราบน้ำตาก็ยังหลงเหลืออยู่ เขาอยากเข้าไปกอดไปปลอบประโลม นึกโทษตัวเองที่ทำโง่ๆกับแทมิน
“แทม…ฉันคิดว่านายจะไม่มาแล้ว…ขอบคุณนะที่มา”
ร่างสูงโอบกอดร่างบางแน่น กอดแน่นไม่ยอมปล่อยไม่ว่าคนในอ้อมกอดจะออกแรงดิ้นหรือทุบตีเขาแค่ไหนก็ตาม เขาจะไม่มีวันปล่อยเด็ดขาด
“นะ…นาย..จะทำ..ฮึก..เหมือนเมื่อเช้า…ฮึก..ใช่ไหม…ฮึก…”
คำพูดของร่างเล็กทำให้ร่างสูงเจ็บปวด นี่ฉันทำให้นายเจ็บขนาดนี้เลยหรอ….. แทมิน จงอินเอาคางเกยไว้ที่ไหล่เล็กของแทมิน อ้อมกอดยิ่งโอบกระชับแน่นมากขึ้น เมือมองเห็นร่างสูงอีกคน ชเวมินโฮ ดวงตาคมที่สบกันชั่วครู่ดูก็รู้ว่าแวมไพร์หนุ่มไม่พอใจแค่ไหน ดวงตาของจงอินที่สื่อถึงมินโฮ ฉันไม่มีวันปล่อยแทมิน…ไม่มีวันปล่อยมือจากแทมิน!!!
คีย์ไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่ร่างสูงไม่ขับรถพาตัวเองไปส่งที่บ้าน แม้จะสะกดกลั้นความกลัวในใจแต่น้ำตามันกลับไม่ทำตามคำสั่งมันยังคงไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
‘เอี้ยด!!!!’
เป็นคิมจงฮยอนเองที่ทนความเงียบไม่ไหว หมาป่าหนุ่มเลือดร้อนเบรกรถกระทันหันแต่คนข้างๆกลับนิ่งเฉยราวกับตุ๊กตามีเพียงแค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้นที่บอกว่าร่างบางตรงหน้ายังมีชีวิตอยู่ ดวงตาคมตวัดมองคนข้างๆอย่างเอาเรื่อง
“ไปทำอะไรมา”
มือหนากำแน่นอยู่กับพวงมาลัยแต่สายตาคมกลับจ้องมองคนข้างกาย ดวงตาคมแข็งกร้าวราวกับจะหาคำตอบจากกายบางตรงหน้า ดวงตาคมที่ไล่มองตั้งแต่ศรีษะจวบจนปลายเท้าของร่างบาง แขนผอมบางที่โอบกระชับลำตัวแน่นกับน้ำตามากมายที่ไหลรินไม่มีวันหมด ไม่ได้ทำให้หมาป่าหนุ่มรู้สึกสงสารเลยซักนิด ตรงกันข้ามกลับรู้สึกหงุดหงิดเป็นเท่าทวีคูณ
“ฉันถามว่าไปทำอะไรมา!!!”
มือแกร่งจับไปที่ปลายคางของคนดื้อรั้นให้หันกลับมามองเขา แต่ด้วยแรงโทสะจงฮยอนจึงเผลอบีบคางคนสวยแน่น ใบหน้าหวานนิ่วด้วยความเจ็บ หากแต่ชั่วครู่ดวงตาสวยนั้นกลับหันมาสบตาคมอย่างไม่เกรงกลัว
“………………”
“จะให้ฉันโมโหแล้วฉีกนายเป็นชิ้นๆรึไง คิมคีบอม!!!!”
เมื่อคำตอบที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบดวงตาที่จ้องตอบกันอย่างไม่มีใครเกรงกลัวใคร คีบอมไม่มีท่าทีสะทกสะท้านไม่แม้แต่จะแกะมือแกร่งที่บีบคางมนของตัวเองออก
“เอาซิ…ฆ่าฉันเลย…ฉีกเนื้อฉันเลย จะแบบไหนมันก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว!!!!”
แรงบีบที่คางแรงขึ้นกว่าเดิมทำเอาคีย์ร้องครางในลำคอ ดวงตาสวยยังคงไม่ลดละจดจ้องคนตรงหน้าด้วยความโกรธ คีย์รู้ว่ายิ่งทำแบบนี้จงฮยอนก็ยิ่งโกรธ เมื่อโกรธมากๆหมาป่าหนุ่มอาจจะทำอย่างที่พูดจริงๆก็ได้
“อยากให้ฉันฆ่านายมากรึไง!!!งั้นก็ดี ก่อนตายฉันจะทรมานนายก่อนดีมั้ย?!!!!”
ดวงตาคมมองสบดวงตาหวานอย่างมีเลศนัยก่อนที่มือแกร่งจะคลายออกจากปลายคาง เมื่อคนตัวเล็กเป็นอิสระ ร่างเล็กก็พยายามหลบหนีจากการเกาะกุมของร่างสูง ร่างเล็กถอยจนชิดขอบประตูรถมือเล็กพยายามที่จะปลดล็อคประตูเพื่ออกสู่โลกภายนอก
“ง่ายไปมั้ง คิมคีบอม ไหนบอกอยากตายไง….”
จงฮยอนยกยิ้มมองร่างบางที่รุกลี้รุกรนเหมือนหนูติดจั่น รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปทั่ว จนกายบางต้องหันกลับมาเผชิญหน้ากับร่างสูง
“เปิดซิ….ถ้าเธอคิดว่าจะหนีฉันได้เอาซิ…คีบอม…หนีฉันให้พ้นนะ…”
เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบข้างหูร่างบาง ขนอ่อนในตัวของร่างบางต่างพากันลุกซู่น้ำเสียงของร่างสูงทรงอิทธิพลจนคนตัวบางไม่สามารถขัดขืนได้
“รีบๆเร็วเข้า…ไม่มีเวลาแล้วนะ…”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉาบไปทั่วใบหน้าคม
“ไม่นะ!!!!”
คีย์ผลักคนตรงหน้าออกก่อนจะเปิดประตูอีกครั้ง ร่างเล็กถึงกับเซถลาเมื่อพบว่าประตูรถคันหรูมันเปิดง่ายกว่าที่คิด คีบอมรีบพาตัวเองวิ่งหนีให้ไกลจากบริเวณนั้นสุดชีวิต ไม่อยากหันหลังกลับไปมอง ไม่อยากพบเห็น วิ่งหนีให้ไกล หนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยป่ารกชันแต่ร่างบางก็ยังคงวิ่งต่อไป
“หึๆ…ฉันให้เวลากระต่ายน้อยได้เล่นสนุก…หนีฉันให้ได้ตลอดนะคีบอมอย่าให้ฉันหาเจอเชียว….”
ร่างสูงเปิดประตูรถอีกฝั่งก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง ตาคมทอดมองไปข้างหน้าทางเดียวกับที่ร่างบางหนีเขาไป นอกจากถนนสายนี้สายเดียวรอบข้างล้วนมีแต่ป่าไม้เพียงเท่านั้น ต้นไม้สูงใหญ่ที่แข่งกันขึ้นสูงเพื่อให้ตนเองได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ก็เหมือนกับคีย์ที่วิ่งหนีเขาเพื่อให้ได้รับอิสรภาพ แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น….กระต่ายน้อยไม่มีวันหนีพ้นกรงเล็บของหมาป่า….
ร่างบางวิ่งโซซัดโซเซโดยไม่รู้จุดหมายข้างหน้าเลยด้วยซ้ำรอบๆบริเวณมีแต่ต้นไม้ใหญ่ คิมจงฮยอนพาเขามาไกล….ไกลกว่าที่คีย์จะหาทางออกเจอ…..ร่างบางทรุดลงกับพื้นเมื่อรู้สึกว่าเท้าเล็กๆกำลังล้า ร่างเล็กนั่งพักบนขอนไม้ใหญ่ก่อนจะค่อยๆถอดรองเท้าผ้าใบออก เท้าเล็กแดงและบวมจนน่ากลัว
“ฮือๆ….ฮึก…ทำไม..ทำไม…ฮึก..ฉันต้องเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ด้วย…”
แผลที่เท้าปวดระบมจนร่างเล็กไม่สามารถพาตนเองลุกขึ้นยืนได้ บรรยากาศรอบๆบริเวณหนาวเหน็บจนต้องรวบเสื้อนักเรียนที่กระดุมขาดหายไปกว่าครึ่งแถบห่มกระชับร่างกายตัวเอง
“แกร็ก!....”
คีย์หันไปทางต้นเสียงทุกๆอย่างโดยรอบกลับเงียบสนิท
“คะ…คิมจงฮยอน….”
เพียงแค่นึกถึงใบหน้าของหมาป่าหนุ่มความกลัวก็บังเกิดขึ้น เห็นทีว่าคราวนี้ร่างบางคงจะไม่รอด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นร่างบางพร้อมที่จะยอมรับมัน ดีกว่ากลับไปให้ใครอีกคนทรมานเล่น….คีย์หันหลังเตรียมวิ่งหนีไม่สนแม้กระทั่งความเจ็บปวดที่เท้า
“แกร็ก…แกร็ก…”
เสียงนั้นยังคงคืบคลานเข้ามา ร่างกายเล็กที่สั่นสะท้านพยายามพาร่างกายตนเองเคลื่อนที่ออกจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด
“อ๊ะ!!!!!”
สิ่งมีชีวิตขนปุยสีขาวกำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าขาหลังมันดูเหมือนจะบาดเจ็บ รอยเลือดที่ไหลออกมาจากโคนขาทำให้มันไม่สามารถกระโดดไปไหนได้
“ฟูว่…กระต่ายนี่เอง”
ร่างกายบางค่อยๆเดินเข้าไปหากระต่ายตัวน้อย
“ไม่ต้องกลัวนะ…ฉันไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”
คีย์เดินเข้าไปใกล้สิ่งมีชีวิตสี่ขาตัวเล็ก กระต่ายเองก็พยายามคลานหนี มันเองก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะทำร้าย….คีย์รีบอุ้มเอากระต่ายป่าตัวเขื่องเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แรงดิ้นน้อยๆของกระต่ายทำให้คีย์ต้องกอดปลอบก่อนจะลูบหัวเบาๆเพื่อให้รู้ว่ามันจะปลอดภัย
“ไม่ต้องห่วงนะ…เจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากฉัน…ถ้าฉันรอดเจ้าก็จะรอด”
เลือดของกระต่ายที่เปรอะเสื้อนักเรียนของคีย์เป็นกลิ่นดึงดูดอมนุษย์โดยรอบอย่างดี เพราะมัวแต่สนกระต่ายในอ้อมกอดจนลืมมองดูเบื้องหน้าว่า มีบางสิ่งกำลังย่างกรายเข้ามา
“ส่งอาหารมาให้ข้า….เด็กน้อย…”
ร่างสูงให้ชุดผ้าคลุมสีดำมุมปากมีเลือดไหนยาวเป็นทาง ดวงตาสีแดงภายใต้ผ้าคลุมกำลังจดจ้องเหยื่อตรงหน้า
“ไม่!!!!”
เท้าเล็กถอยหนีคนตรงหน้า คีย์หันหลังกลับก่อนจะวิ่งให้ห่างออกจากบริเวณนั้น แบบนี้มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ
“โอ๊ะ!!!!!!”
ร่างกายบางถูกกระชากจากทางด้านหลังทำให้คีบอมเสียหลัก เซล้มลงไปกับพื้น แม้ตนเองจะล้มแต่ลำแขนกลับกอดกระต่ายเอาไว้แน่น กลิ่นเลือดบนตัวร่างบางช่างหอมน่ากินไปซะหมด
“อย่าทำผม….ได้โปรด…ปะ…ปล่อยผมไปเถอะ….”
คีบอมไม่สามารถห้ามเสียงที่เกิดจากความหวาดกลัวได้เลย กายบางทั้งสั่นสะท้านและหวาดกลัว
“ไม่มีนักล่าคนไหนปล่อยให้เหยื่อหลุดมือหรอก…”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกชวนขนลุก คีย์สังเกตเห็นผิวขาวซีดภายใต้ผ้าคลุม ริมฝีปากหยักนั้นคลี่ยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของร่างบาง…ท่าทางคุ้นเคยของร่างสูงน่าแปลกทั้งๆที่คนตรงหน้าไม่ใช่มนุษย์แต่คีย์กลับคลายความหวาดกลัวจนสิ้น เหมือนเคยพบร่างสูงตรงหน้านี้มาก่อน
“ไม่กลัวฉันแล้วหรือไง?”
ร่างสูงค่อยๆย่อตัวนั่งลงจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับร่างบาง เขี้ยวสีขาวโผล่พ้นริมฝีปากหยักออกมาพร้อมๆกับรอยเลือดสีแดงเข้มก็เปรอะอยู่รอบๆด้วย
“ส่งมันมาให้ฉัน….เร็วเข้าเด็กดี”
มือขาวซีดถูกส่งมาตรงหน้าของร่างบาง คีย์บอมกอดกระชับกระต่ายแน่นและเบี่ยงตัวหลบ
“ไม่!!!….ผมไม่ยอมให้คุณฆ่ามัน…ถ้าคุณจะกินมันคุณต้องกินผมด้วย”
เสียงหัวเราะดังออกมาจากริมฝีปากหยัก คนตรงหน้านี้ช่างแปลกประหลาดจริงๆทั้งๆที่มีโอกาสหนีกลับไม่หนีหนำซ้ำยังแลกชีวิตตัวเองกับกระต่ายตัวจ้อยนี้ด้วย….มือแกร่งขาวซีด สัมผัสไปที่ลำคอขาวของร่างบางทำเอาอีกคนตัวกระตุก เพราะมือของร่างสูงเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง….ชายชุดผ้าคลุมกดใบหน้าลงตรงซอกคอขาวของร่างบาง กลิ่นหอมอ่อนๆรวมถึงกลิ่นเลือดช่างหอมหวานซะจริงๆแต่….
ร่างบางหลับตาแน่นฟันขาวขบริมฝีปากตัวเองเอาไว้จนแดงกล่ำ กลับไปก็ต้องตายหนีก็ต้องตาย คีย์ไม่อยากทรมานอีกต่อไปแล้ว ร่างบางยินยอมให้คนตรงหน้ากินเขาเป็นอาหาร ดวงตาสวยหลับสนิทก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นทาง…แต่….เพียงแค่ริมฝีปากเย็นจะแตะลงบนลำคอขาวกลิ่นกายของคนตรงหน้ากลับผสมมากับกลิ่นที่เขาคุ้นเคยดี กลิ่นของหมาป่า กลิ่นของคิมจงฮยอน ร่างสูงละใบหน้าออกมาดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆก่อนจะหยุดที่ร่างบางที่กำลังสั่น
“อั๊ก!!!!!”
ร่างสูงกุมหัวตัวเองมันปวดจนแทบจะระเบิด ทำไมเขาถึงกัดคนตรงหน้าไม่ได้
“คุณ!!!....”
คิบอมลืมตาขึ้น แม้จะมีโอกาสหนีแต่เขากลับเดินเข้าหาร่างสูง อาการทุรนทุรายที่บอกว่าร่างสูงกำลังเจ็บปวดทำให้คีย์กล้าที่จะเข้าหาคนตรงหน้า
“ไป!!!!...ออกไป!!!!...ไปให้พ้น!!!!”
เสียงตวาดดังลั่นออกมาจากปากของร่างสูง
“อ๊าก!!!!!”
ร่างสูงกุมหัวตัวเองแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกปวดจนแทบบ้า ร่างกายกำยำพยายามพาตัวเองลุกขึ้นแต่เมื่อเดินไปได้เพียงสองก้าวกลับทรุดลงกับพื้น แววตาแดงก่ำเขาเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้กลิ่นเลือดของคนตรงหน้ามันหอมจนเขาอยากจะกระชากมากัดกินซะให้รู้แล้วรู้รอด
มือบางค่อยๆปลดผ้าคลุมที่คลุมใบหน้าของร่างสูงออก
“พะ…พี่…พี่อนยู…”
ร่างบางตาโตอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าคนตรงหน้าคือคนที่เขาตามหามานาน
“ไป!!!!บอกให้ไปไงเล่า!!!!อยากให้ฉันกินนายรึไง!!!!”
อนยูออกแรงผลักจนคนร่างเล็กเซถลาล้มลงไปกับพื้นแม้จะเจ็บปวดจนแทบร้องไห้แต่ร่างบางก็พยายามพยุงตัวเองขึ้นมา จ้องไปที่คนตรงหน้า อาการคุ้มคลั่งของ อนยู มือแกร่งกุมขมับด้วยความเจ็บปวด
“พี่อนยู…ฮึก…พี่จริงๆด้วย..พี่จำคีย์ได้มั้ย…ฮึก…”
ร่างสูงหันมาสบตากับร่างบาง ภาพซ้อนทับระหว่างหมาป่าและใบหน้าของคีย์ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ดวงตาคมฉายแววนักล่า อนยูเดินตรงเข้าหาร่างบาง ในตอนนี้เขาไม่สามารถต่อต้านความต้องการของร่างกายได้ สมองสั่งให้ล่าแต่หากจิตใจกลับตรงกันข้าม ภาพใบหน้าสวยที่เขาเฝ้ามองบ่อยๆที่โรงเรียน
“อั๊ก!!!!....ปวด…อึก…ปวดหัว…”
“พี่อนยู…พี่อนยู..ฮึก…อย่าเป็นอะไรนะ…”อนยูภาวนาให้คนตรงหน้าวิ่งหนีไป ก่อนที่เขาจะควบคุมตนเองลำบาก
“เลือด….เลือด…”
ยิ่งได้เห็นเลือดของกระต่ายในอ้อมกอดที่กำลังดิ้นพล่านบวกกับโลหิตสีแดงที่ไหลออกมาจากตัวกระต่ายโชคร้ายตัวนั้นยิ่งทำให้อนยูควบคุมตัวเองลำบาก
คีย์ปล่อยกระต่ายลงกับพื้น มือเล็กยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาก่อนจะล้วงเอาของมีดที่ได้มาจากจงอินออกมาจากกระเป๋ากางเกง มือบางบรรจงถอดปลอกมีดออกแล้วค่อยกรีดลงบนแขนขาว ความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมาทุกอณู เมื่อโลหิตสีแดงไหลออกมาตามรอยแยก….ร่างของแวมไพร์หนุ่มพุ่งเข้าหาร่างบางด้วยความดุดันทำให้ทั้งคู่ล้มลงไปกับพื้น อนยูกระโจนขึ้นมาคล่อมร่างบางเอาไว้ ดวงตาแดงกล่ำแสดงถึงสัญชาติญาณนักล่าริมฝีปากเย็นเฉียบแตะลงไปบนแขนขาวก่อนจะเลียเลือดสีแดงสดทุกหยาดหยด
“ฮีก….”
ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเจ็บปวดแทบขาดใจแต่ก็ไม่มีแม้เสียงสะอื้น
“พี่อนยู…กินให้พอนะ…ฮึก…”
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มมองคนตรงหน้าที่ก้มลงเล็มเลียเลือดของตัวเอง
“อ๊าก!!!!!!”
อนยูผละออกจากกายบาง ก่อนจะกลิ้งไปกับพื้นมือแกร่งที่กุมหัวเป็นสัญญาณบอกได้อย่างดีว่าตนเองเจ็บปวดแค่ไหน
“คีย์…นะ…อึก…นะ..หนีไป…หนีไป!!!!…ไปเร็ว!!!…อั้ก!!!!!”
ดวงตาสีแดงเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลปกติ แต่เมื่อควบคุมซาตานในร่างตนเองไม่ได้ดวงตาแห่งความโหดเหี้ยมก็จะกลับมาอีก ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะพาร่างกายของตัวเองเดินโซซัดโซเซหายเข้าไปในป่า
“พี่อนยู!!!!…อย่าทิ้งคีย์นะ!!!!..”
คีย์วิ่งตามร่างสูงที่หายเข้าไปในป่า ไม่สนแม้กระทั่งความเจ็บปวดที่เท้า และท่อนแขนขาวร่างบางไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังวิ่งเข้าหามัจจุราช เจ้าของดวงตาสีแดงที่อยู่โดยรอบต่างรอให้เหยื่อเข้ามาติดกับ
ดวงตะวันทอแสงสีแดงสดเหมือนสีเลือด เวลาแห่งการล่าใกล้เข้ามาทุกที ร่างบางก็เหมือนเหยื่อที่เข้ามาติดกับแล้วหาทางออกไม่ได้ รอแต่จะได้เป็นอาหารของนักล่า……………
CRY .q
ความคิดเห็น