คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Love like this :: บทที่ 14
บทที่ 14
ดวงตาสวยค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะกระพริบเพื่อให้ชินกับแสงเทียนที่ส่องสว่างภายในห้อง ก่อนที่สมองจะประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด น้ำตาเม็ดโตก็ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยอีกครั้ง ความเจ็บปวดจากความทรงจำที่โหดร้าย
คีย์ค่อยๆเปิดผ้าห่มก่อนจะก้มลงสำรวจตัวเอง กายขาวเนียนเต็มไปด้วยร่องรอยความรุนแรงจาก คิมจงฮยอน รอยจากคนที่เขารังเกียจ ใบหน้าสวยซุกลงกับหัวเข่าตัวเองก่อนจะปล่อยโฮ ออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ……คีย์มองไปยังชุดนักเรียนของเขาที่กระจัดกระจายถูกฉีกทิ้งอย่างไม่มีชิ้นดี มันไม่เหลือสภาพไม่สามารถนำกลับมาใส่ได้ใหม่ ภายในหัวของคีย์มีเพียงคำเดียว หนี!!!! หนี ให้ไกลจากที่อันตรายแห่งนี้
“โอ้ย!!!!”
ทันทีที่เท้าเล็กแตะพื้นหินอ่อนเย็นๆความเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมาเท่าตัว จนคีย์อดไม่ได้ที่จะร้องออกมา ขาเรียวเล็กทรงตัวแทบจะไม่ไหว แต่ร่างบางก็กัดฟันทนพยายามคว้าผ้าห่มผืนโตคลุมตัวเอง ก่อนจะพยุงร่างกายที่บอบช้ำตรงไปยังประตูไม่โอ๊คบานใหญ่ มือบางพยายามผลักมันออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะสอดส่องมองไปรอบๆทางเดินที่ทอดยาวไปไกลถูกประดับด้วยโคมไฟ ร่างบางไม่รู้ว่าทางเดินนี้จะไปสิ้นสุดที่ใดนอกจาก มือเล็กคอยเกาะกำแพงเย็นเฉียบเพื่อพยุงตัวเองไปตลอดทางเดิน เสียงนกกลางคืนกรีดร้อง ยิ่งทำให้คีย์ใจสั่น ร่างบางภาวนาเพียงให้รอดพ้นจากที่นี่……แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง คีบอมเอาซะเลย
“นั่นใคร!!!!!!”
ร่างตะคุ่มของชายหนุ่มร่างสูงทำให้คีบอมต้องรีบหลบเข้าซอกของปราสาท มือบางสั่นเทาถูกยกขึ้นมาปิดปากตัวเองแน่น ลมหายใจที่พ่นเข้าออกอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นไอน้อยๆในอากาศบ่งบอกได้ว่า คีบอมกลัวมากขนาดไหน
เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันใกล้เข้ามา แล้วหยุดนิ่งก่อนจะเดินถอยห่างออกไปเมื่อพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ คีย์ค่อยๆชะโงกหน้าออกมาดวงตาสวยมองซ้ายมองขวาก่อนจะยอมก้าวออกมาจากที่หลบซ่อนหมาป่าตัวใหญ่พุ่งทะยานเข้ามาหมายตะปบเหยื่อ
“ม่ายยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!”
“คีย์!!!!!!!”
ร่างบางกุมหน้าอกด้านซ้ายที่เต้นแทบทะลุอกเอาไว้ เหงื่อมากมายผุดเต็มใบหน้าหวาน แทมินปาดเหงื่อก่อนจะมองไปยังนาฬิกาที่หัวเตียง เข็มสั้นชี้เลขสามเข็มยาวชี้เลขหก คนตัวเล็กเปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะนั่งทบทวนถึงฝันเมื่อครู่ ทำไมมันเหมือนจริงแบบนี้นะ
แทมินมองหาโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะพบว่ามันนอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ คนตัวเล็กค่อยๆเดินไปหยิบเจ้าเครื่องมือสื่อสารเครื่องจิ๋ว ก่อนจะพบว่า มีข้อความของคีย์ส่งเข้ามาเมื่อตอนเย็นของวัน ไหนจะสายที่ไม่ได้รับจากเพื่อนหน้าสวยของเขาอีก…..แทมินรีบเปิดอ่านมันทันที
“แทมิน….นายช่วยบอกฉันหน่อยได้มั้ย…ว่ากริมคืออะไร?....”
ฉับพลันภาพหมาป่าตัวใหญ่ก็ปรากฏชัดในหัวของแทมิน ชองยุนโฮทำให้แทมินมั่นใจว่า มนุษย์หมาป่าไม่ได้มีเพียงแค่ในตำนาน และไหนจะแวมไพร์หนุ่มรูปหล่อ คนตัวเล็กรีบกดโทรศัพท์ติดต่อไปยังเพื่อนรักทันที ถึงจะรบกวนเวลานอนแต่อย่างน้อยก็มั่นใจว่าตอนนี้ คีย์น่าจะนอนหลับสบายอยู่บนเตียง
……………………สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ โทรศัพท์ของคีย์ติดต่อไม่ได้ มันมีลางสังหรณ์แปลกๆเกี่ยวกับเพื่อนหน้าสวยของเขาคนนี้ซะแล้วซิ แทมินไม่สามารถข่มตาให้หลับต่อไปได้ แสงฟ้าแลบเป็นสายสะท้อนเข้ามาในห้องของคนตัวเล็ก มันทำให้แทมินรู้สึกกลัวแปลกๆ
“ก๊อกๆ……..”
เสียงเคาะที่ดังขึ้นทำให้แทมินผุดลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปยังประตูห้องของตัวเอง
“ก๊อกๆ……..”
เสียงเคาะดังขึ้นอีกและแทมินก็เริ่มมั่นใจว่ามันไม่ได้มาจากประตูห้องนอนแต่เสียงมันชัดเจนมาจากประตูบานเลื่อนริมระเบียง แสงฟ้าแลบสาดเข้ามา ทำให้แทมินเห็นรูปร่างของใครบางคนอยู่หลังผ้าม่าน แทมินยิ้มกว้างก่อนจะเดินไปดึงผ้าม่านออกพร้อมกับเปิดประตูบานเลื่อน ชายหนุ่มรูปงามอยู่ในชุดผ้าคลุม จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ชเวมินโฮ
“พี่มินโฮ!”
แทมินกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่นมินโฮเองก็กอดตอบคนตัวเล็ก
“ทำไมไม่ถามก่อน….ว่าใคร…ถ้าไม่ใช่ฉันละ…”
มินโฮดุแทมินเสียงเข้ม เพราะถ้าแทมินเปิดประตูรับเอาคนอื่นเข้ามา………..แทมินจ้องหน้าร่างสูงก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้
“ไม่มีใครมาหรอกฮะถ้าไม่ใช่…พี่มินโฮ….”
มินโฮลอบถอนหายใจ คนตัวเล็กมองโลกในแง่ดีเกินไป อันตรายรอบด้านมีมากเกินไป และเขาจะไม่มีวันให้ใครมาทำอันตรายเด็กคนนี้เด็ดขาด มินโฮค่อยๆรั้งตัวแทมินให้นอนพิงอกแกร่งของเขา
“ทำไมถึงยังไม่นอน….ฉันเห็นห้องนายเปิดไฟสว่างเชียว”
“ผมนอนไม่หลับฮะ…”
แทมินหลับตาพริ้มเมื่อนิ้วเย็นๆลูบใบหน้าหวานของเขาก่อนจะเสยผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าหวานออกให้อย่างแผ่วเบา
“ฝันร้าย….”
แทมินพยักหน้าแรงๆก่อนจะนอนคว่ำเอามือเท้าคางมองใบหน้าหล่อที่อมยิ้มขำๆมินโฮยันตัวขึ้นก่อนจะนอนตะแคงเพื่อให้ใบหน้าตัวเองอยู่ในองศาเดียวกับแทมิน
“พี่มินโฮฮะ….ผมฝันเห็นคีย์…เอ่อ…คีย์กำลังถูกหมาป่าไล่ล่าฮะ…มันตัวใหญ่…ผมหมายถึงหมาป่าตัวนั้นต่างจากพี่ยุนโฮฮะ….มะ…มันน่ากลัว….ดวงตามันสีเทา”
แทมินเล่าถึงฝันร้ายมันน่ากลัว ยิ่งดวงตาของหมาป่าตัวนั้นยิ่งทำให้เขากลัว….แทมินมองร่างสูงที่รีบลุกขึ้นนั่ง ดวงตาคมทอดมองไปไกล ไม่ใช่ว่าเขาเห็นฝันของร่างเล็กเป็นนิทานหรือฝันร้ายหากแต่มันคือเรื่องจริง…… เรื่องจริงที่ไม่สามารถแก้ไขได้และไม่สามารถช่วยเหลือได้ หากหมาป่าได้สมสู่กับมนุษย์ เด็กคนนั้น มีพันธะสัญญาผูกสัมพันธ์กับหมาป่า จะต้องอยู่ร่วมกันไปจนตายไม่สามารถหลบหนีหรือพรากจากกันไปได้
“พี่มินโฮฮะ….ตอนเช้า…เราไปรับคีย์ที่บ้านกันนะ”มินโฮยิ้มให้คนตัวเล็กน้อยๆก่อนจะกระชับแทมินเข้าสู่อ้อมกอด
“ถ้าตอนเช้า…พี่ชายนายเห็นฉันอยู่ในห้องนายละก็…..”มินโฮแค่นยิ้มออกมา แจจุงคงไม่เท่าไหร่ หากแต่อีกคนที่ค้างอยู่กับแจจุงนี่ซิ ชองยุนโฮ…
“จริงซิฮะ….อ่างั้นพี่ก็คงไปกับผมไม่ได้ ใกล้สว่างแล้วพี่มินโฮคงต้องกลับแล้วซิฮะ”
ใบหน้าหวานเบะปากหน่อยๆก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจ มินโฮอมยิ้ม กดริมฝีปากหยักลงบนกลุ่มผมนุ่มของอีกคน
“อย่าทำแบบนี้ซิ….นายกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า…ฉันทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเฝ้ามองนาย…”
ริมฝีปากเย็นๆแตะลงบนหน้าผากสวยอีกครั้งกดจูบย้ำๆแบบนั้นเพื่อบอกให้รู้ว่าเขารักคนตัวเล็กในอ้อมกอดมากแค่ไหน
“ฉันไม่อยากปล่อยนายไปแม้แต่วินาทีเดียว…อยากอยู่กับนาย…เป็นเจ้าของของนายตลอดไป…”
แทมินรีบลุกขึ้นทำให้มินโฮต้องคลายอ้อมกอดออก
“งั้นพี่ก็กัดผมซิฮะ…ผมอยากอยู่กับพี่…อยู่กับพี่ตลอดไป…ผมรู้ว่าถ้าผมเป็นมนุษย์ซักวันผมก็ต้องตายถ้าวันนั้นมาถึงผมคงทำใจไม่ได้ พี่รู้ใช่มั้ยฮะ…ว่าเมื่อตอนเย็นผมตกใจมากแค่ไหนที่พี่อยู่ๆก็ล้มลงไป…ผมกลัว…กลัวไปหมดว่าพี่มินโฮจะตายอีกครั้ง…ผมกลัวว่าจะเสียพี่ไป…จริงๆนะฮะ….”
ใบหน้าหวานของอีกคนเปียกไปด้วยหยดน้ำตา สิ่งที่เขาพูดมันเป็นเรื่องจริง ทั้งหมดนั้นออกมาจากหัวใจ จริงอยู่ว่ามินโฮนั้นตายแล้วและไม่สามารถตายได้อีก แต่เขานี่ซิ ยังเป็นมนุษย์ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความตายจะพรากเขาไปจากมินโฮ……มินโฮเม้มปากแน่น ก่อนจะส่ายหน้าเหมือนผู้ใหญ่เอือมระอาเด็กน้อยตรงหน้า
“คราวที่แล้วนายก็ขอให้ฉันกัดนาย ไหนจะคราวนี้อีก….” มินโฮจ้องแทมินเขม็งดวงตาคมเปลี่ยนเป็นสีดำสนิททำให้แทมินขนลุกซู่ “คราวนี้ก็อยากให้ฉันเปลี่ยนนายอีกงั้นหรอ….ดูนายไม่ห่วงตัวเองบ้างเลยนะ”
ดวงตาคมไม่ได้มองไปที่คนตัวเล็กอีกต่อไป นั่นยิ่งทำให้แทมินใจสั่น สายตาแบบนั้นหมายความว่ายังไงกัน หรือว่ามินโฮเอือมระอากับแทมิน เด็กน้อยตรงหน้านี้แล้ว
“แล้วพี่จะให้ผมทำยังไง…ในเมื่อผมรักพี่ไปแล้ว…ใช่สิ!ในเมื่อพี่เป็นอมตะ ในเมื่อพี่ไม่แก่และไม่ตาย แต่ผมละ…ซักวันนึงผมก็ต้องแก่และผมก็ต้องตาย…ไม่วันใดก็วันหนึ่ง…ผมไม่อยากให้ถึงวันนั้น…มันเจ็บปวด”
แทมินซบใบหน้าที่เปียกด้วยน้ำตาลงกับฝ่ามือตัวเอง ดวงตาคมสีดำสนิทราวกับสีของรัติกาลข้างในเวิ้งว้างและว่างปล่าว ความเจ็บปวดจากคำพูดของคนตัวเล็กแล่นริ้ว มันทำให้เขาเจ็บปวดแม้เขาจะไม่มีหัวใจแต่ก็รับรู้มันได้ว่ามันเจ็บปวดเพียงใจกับการที่ต้องพรากจากคนรัก
“นายว่ามันง่ายงั้นหรอ!!!” มินโฮกระชากเสียงถามคนตรงหน้า “ง่ายมากนักใช่มั้ย ที่ต้องรักนายเนี่ย….ที่ฉันพร่ำบอกนายบ่อยๆนายยังไม่เข้าใจใช่มั้ย!”
“ผมยังไม่เข้าใจอะไร!”แทมินเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะจ้องมินโฮเขม็ง
“นายพักผ่อนก่อนดีกว่า…พรุ่งนี้นายมีเรียนเดี๋ยวจะไปสาย”มินโฮลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มผืนใหญ่ห่มให้คนตัวเล็ก แต่ท่าทางแบบนั้นมันทำให้แทมินรู้สึกขัดใจ
“พี่มินโฮก็บอกผมซิ….ว่าผมยังไม่เข้าใจอะไร”มินโฮถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน บางทีคนตัวเล็กตรงหน้าก็ดื้อจนเกินไป
“ฉันเคยบอกนายแล้วใช่มั้ย…ว่าฉันต้องห้ามใจตัวเองมากแค่ไหนที่ต้องอยู่ใกล้นาย”ดวงตาคมยังจ้องใบหน้าหวานไม่วาง ก่อนจะดึงเก้าอี้ข้างเตียงแล้วนั่งลงไป
“ก็ใช่… แต่นั่นเป็นทางเดียวที่ผมจะได้อยู่กับพี่มินโฮนี่”แทมินกัดผ้าห่มแรงๆเมื่อรู้สึกว่าเสียงสะอื้นของตัวเองจะออกมาอีกระรอก
“อาจจะจริง….แต่นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ฉันจะทำ” มินโฮพูดเสียงเข้ม “นายไม่ใช่อาหาร….นายมันน่าถนุถนอมยิ่งนายเป็นแบบนี้ ฉันยิ่งอยากปกป้องนาย…ไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้ นายจะตาย ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไป ฉันจะปกป้องนายด้วยชีวิตอมตะของฉัน ต่อให้ฉันไม่อยู่แล้วนายรอดตายก็ตาม เพราะฉะนั้นห้ามขอให้ฉันทำอะไรบ้าๆแบบนี้อีก”มินโฮลุกขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูบานเลื่อน แต่แรงกอดจากด้านหลังทำให้เขาหยุดชะงัก
“พี่มินโฮ….” แทมินซุกหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของมินโฮ รู้สึกผิดเหลือเกินที่ขออะไรแบบนั้น
“ผม…ขอโทษ..ผมไม่น่าขออะไรแบบนั้น…ผมฮึก…ผมขออะไรที่มันฝืนใจพี่…ผมขอโทษ”
แทมินปล่อยโฮออกมาก่อนที่มินโฮจะหมุนตัวกลับแล้วกอดกระชับคนตรงหน้าเอาไว้แน่น
“ไม่ต้องขอโทษ….แทมิน…ฉันอยากให้นายใช้ชีวิตแทนฉัน…ตรงนี้” มินโฮเอามือทาบลงบนหน้าออกข้างซ้ายของแทมิน “ฉันอยากให้นาย งดงามเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แบบพวกฉัน…ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันตลอดไปแบบนี้”
มินโฮก้มลงจูบแทมินริมฝีปากเย็นเฉียบค่อยๆชิมริมฝีปากแดงธรรมชาติอย่างแผ่วเบา ก่อนจะดูดริมฝีปากบางเบาๆเพื่อขออนุญาติเข้าไปภายในซึ่งคนตัวเล็กก็ตอบรับมันอย่างดี เสียงครางอื้ออึงในลำคอบ่งบอกว่าทั้งคู่พอใจกับมันขนาดไหน มินโฮถอนจูบออกมาเมื่อคนตรงหน้าเริ่มหายใจติดขัด ก่อนจะกดจูบซ้ำลงไปอีก ราวกับไม่อยากปล่อยริมฝีปากแดงให้หายไป
“ขอบคุณฮะ…พี่มินโฮ…”
แทมินยิ้มรับก่อนที่คนตัวสูงจะกดริมฝีปากหยักลงมาอีกครั้ง….และอีกครั้ง…
ฝันร้าย………คงไม่มีใครอยากจะเอ่ยถึง เมื่อมันคือฝันที่เกิดจากเรื่องจริงไม่ว่าจะหลับไปนานแค่ไหนมันก็ยังคงชัดเจน
“คีย์!!!อย่าวิ่งซิ…เดี๋ยวล้มนะ”
เสียงตะโกนจากด้านหลัง ไม่ทันขาดคำร่างเล็กของเด็กชายคีบอม ก็สะดุดเข้ากับก้อนหินก้อนใหญ่จนหน้าสวยคะมำลงไปกับพื้น
“แง๊!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงร้องบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บของร่างบางก็ดังขึ้น แม้ความจริงมันจะเป็นแผลเล็กน้อยก็ตาม ร่างสูงที่วิ่งตามมารีบเข้ามาพยุงร่างเล็กทันที
“เห็นมั้ย…พี่บอกแล้วว่าอย่าวิ่ง…อย่าร้องนะคนเก่งเงียบซะ…ไม่งั้นละก็หมาป่าจะมากัดนะ….”
คนพี่แอบหัวเราะเบาๆ ไม่น่าเชื่อว่าสัตว์ประหลาดในนิทานจะถูกยกออกมาหลอกคนตัวเล็กตรงหน้า ซึ่งมันก็ได้ผลซะด้วยเพราะคีย์ยอมเงียบ ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตา ทำให้ดินในมือเปื้อนใบหน้าสวยไปด้วย
“ฮ่าๆๆๆๆ”
เห็นแบบนั้นยิ่งทำให้คนเป็นพี่หัวเราะจนตัวงอ
“พี่อนยู…มันไม่ตลกนะ…อย่าเสียงดังซิเดี๋ยวหมาป่าได้ยิน…”
อนยูแอบขำ แสบจริงๆนะคีบอม แอบเอาคำขู่ของเขามาย้อนซะเอง ร่างสูงค่อยๆย่อตัวลงเพื่อให้คีย์ได้ปีนขึ้นหลังเขาสะดวก คิมคีบอมวัย 8 ปี และลีจินกิ 18 ปี อนยูพาคนตัวเล็กขึ้นมาถึงเนินหญ้าที่ทอดยาวมองเห็นต้นหญ้าสีทองตัดกับแสงพระอาทิตย์
“ว๊าว…..สวยจริงๆเลย…”
คีย์วิ่งไปรอบๆ ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้กลับมาที่นี่ แดกู บ้านเกิดของคีบอม คนเป็นพี่นั่งพักเหนื่อยก่อนจะมองคนน้องที่วิ่งกางแขนเริงร่า เนื่องจากอนยูเป็นเด็กกำพร้า ป้าของอนยูนำมาฝากไว้กับพ่อของคีบอม อนยูจึงได้อยู่รับใช้ตระกูลคิม มานานเป็น 10 ปี คุณคิมไว้ใจอนยูให้เป็นคนสนิทกับคีบอม ลูกชายคนเดียวของตระกูลคิม อนยูต้องอยู่ที่แดกู ส่วนคีย์อยู่ที่โซล ทุกปิดเทอมหน้าร้อนและวันหยุดยาวทั้งสองคนจึงจะได้พบกัน คีย์รักและเคารพอนยูแต่หากความรักนั้นมันมากกว่า คำว่าพี่กับน้อง
“พี่อนยู…คีย์โตรึยัง”
คีย์เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าของร่างสูงก่อนจะเอามือซ้ายวางไว้บนหัวตัวเองพร้อมกับยืดตัวขึ้น
“อืมห์….ก็โตขึ้นกว่าเทอมที่แล้ว สูงขึ้นรึปล่าวเนี่ย…”
อนยูยิ้มจนตาหยี นั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กยิ้มตอบเพราะได้รับคำตอบที่พอใจ
“แล้วคีย์สวยมั้ย….”
คีย์ยิ้มหวานก่อนจะเอามือจับแก้มตัวเอง อนยูมองแล้วยิ้มขำๆ
“คีย์ไม่อยากหล่อ หรอกหรอ…”
มือหนาถูกวางไว้บนหัวทุยของอีกคน แต่คีย์จับมันมากุมไว้
“ไม่เอาหรอก…ไม่เห็นมีใครชมว่าคีย์หล่อเลยซักคน คีย์อยากสวยอ่ะ”คีย์ยิ้มหวาน พร้อมกับแกว่งมืออนยูไปมา
“อืม….สวยซิ…สวยมาก”
“งั้นพี่อนยูต้องรักคีย์นะ…”คีย์ยิ้ม แต่อนยูชะงักนิดๆ ใบหน้าหล่อขึ้นสีหน่อยๆ สาบานว่านี่คือคำพูดของเด็กอายุ 8 ขวบ
“ครับเจ้าหญิง….”อนยูพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหยิบมงกุฎดอกหญ้าที่เขาตั้งใจทำให้คีย์ สวมลงบนหัวทุยนั่นแผ่วเบา
“เอ๋….สวยจังเลยฮะเจ้าชาย…..”คีย์จับมือร่างสูงก่อนจะหมุนตัวไปมา
ความสุขช่างแสนสั้น ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ดวงตาสีเทาเข้มจ้องมองมายังมนุษย์ทั้งสองคน จ้องมองอย่างเงียบกริบ เหมือนสิงโตดักซุ่มคอยจ้องเหยื่อ หากแต่ใบหน้าสวยของเด็กน้อยทำให้เจ้าของดวงตาสีเทาต้องหยุดชะงัก แววตาสดใส รอยยิ้มหวานที่ถูกส่งออกมายามเมื่อเจ้าของกำลังมีความสุข มันทำให้ คิมจงฮยอนรู้สึกหัวใจเต้นแรง เพียงแค่สบตาครั้งแรกเด็กคนนี้ก็ทำให้เขาใจเต้นซะแล้ว สัญชาติญาณบอกให้เขาแย่งชิงเด็กคนนี้มาเป็นของเขาให้ได้…..ไวเท่าความคิดเมื่อหมาป่าตัวใหญ่กระโจนออกไปเสียงหัวเราะหยุดชะงักก่อนจะกลายมาเป็นเสียงกรีดร้องที่แสนเจ็บปวด เจ้าของดวงตาสีเทาเข้มคีย์จำมันได้แม่นยำ……ปีศาจที่พรากคนที่เขารักไปจากคีย์….คิมจงฮยอน
มงกุฎเปื้อนเลือด คงไม่มีใครอยากได้มันอีก ภาพสุดท้ายยังติดตาของคีบอมภาพของอนยูที่ปกป้องเขาจากหมาป่าตัวใหญ่ก่อนจะถูกฆ่าอย่างไม่ปราณี
“ไม่!!!!!!!!!!!!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าสวยชุ่มไปด้วยเหงื่อ คีย์ซุกหน้าลงไปกับฝ่ามือ ร่องรอยความเจ็บปวดยังคงติดอยู่บนผิวกายของร่างบาง
“ตืนแล้วหรอ….หึๆ”
เสียงหัวเราะเย็นยะเยือก กับร่างหนาของบุรุษหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกข้างๆเตาผิง แสงไฟที่พัดกระพือไปมา ขับให้ใบหล่อนั้นดูหล่อเหลา หากแต่คนตรงหน้าไม่ใช่มนุษย์คีบอมมองร่างหนาตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะกอดตัวเองแน่น
“แกฆ่าเขา….ฮึก….แกมันเลว…แกมันปีศาจ!!!!!!…”
ร่างเล็กกรีดร้องราวกับคนเสียสติ คีย์พยายามคว้าของทั้งหมดเท่าที่จะคว้าได้ก่อนจะปามันใส่ร่างหนาไม่ยั้ง คิมจงฮยอน ลุกขึ้นมาก่อนจะดินตรงไปยังร่างบาง แรงหอบน้อยๆกำลังทำให้คีย์หมดแรง ไม่นานนักร่างบางก็เป็นฝ่ายเงียบไปเอง
“แก…ฆ่าเขา…ฉันเกลียด…เกลียดแก…คิมจงฮยอน!”
แววตาแข็งกร้าวถูกส่งให้คนตรงหน้า ดวงตาคมของคิมจงฮยอนไม่ได้มีสีเทาอีกต่อไป หากแต่มันเป็นสีน้ำตาล
“ไอ้หมอนั่นมันก็เป็นปีศาจเหมือนกัน…..นายยังอยากอยู่กับมันมั้ย…หึๆแต่นายคงได้เป็นอาหารของมันมากกว่า”คิมจงฮยอนยกยิ้มน้อยๆ
“เพราะ…แก…แกทำให้เขาเป็นแบบนั้น…”จงฮยอนรู้สึกเจ็บที่อกซ้าย ก่อนจะกระชากแขนคีบอมมาแรงๆ
“อ๊ะ!!!!”
แรงบีบแน่นทำให้ร่างบางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“มันขายวิญญาณให้พวกนั้น…ยังอยากจะกลับไปหามันอีกรึไง!!!!”
“ใช่!!!!ฉันจะกลับไป! ต่อให้เขากลายเป็นอะไร…เป็นตัวประหลาด…ฉันก็จะกลับไป!”
คีย์ตะโกนก้อง ทั้งโกรธทั้งเกลียดคนตรงหน้า 8 ปี มานี้ไม่เคยได้ทราบข่าวของลีจินกิอีกเลย รู้แต่เพียงว่าร่างกายของ จินกิหายไป และไม่รู้อะไรอีกเลย เพราะคุณคิมต้องการให้ลูกชายลืมเรื่องราวเหล่านั้นด้วยการย้ายมาอยู่ที่ โซลเป็นการถาวร
คิมจงฮยอนหลับตาแน่นก่อนจะจ้องคนตรงหน้าอีกครั้ง ฉันพลันดวงตาคมก็เปลี่ยนเป็นสีเทาเข้ม มือหนาบีบปลายคางร่างบาง ก่อนจะกระชากผมของคีบอม แล้วประกบปากลงไปอย่างรุนแรง
แม้กลิ่นคาวเลือดจะไหลออกมาตามริมฝีปากบวมช้ำก็ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กตรงหน้าส่งเสียงออกมาแต่อย่างใด นั่นยิ่งทำให้จงฮยอนหงุดหงิดเป็นที่สุด
“ร้องออกมาสิ!!...ฉันสั่งให้นายร้องออกมา!!!!”
คีบอมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น แม้จะเจ็บปวดแทบตายแต่ก็ยอมแข็งใจ ไม่กรีดร้องออกมา จงฮยอนละริมฝีปากออกมาจากใบหน้าสวยดวงตาคมตวัดมองคีบอมด้วยความโกรธ ก่อนจะระบายอารมณ์โกรธกับข้าวของในห้อง ข้าวของทั้งหมดเสียหายและกระจัดกระจายปลิวว่อนไปในอากาศ
“อวดดี!!!นายมันอวดดี คิมคีบอม!!!!”
ร่างกายกำยำค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นหมาป่าตัวใหญ่ ดวงตาสีเทาเข้มจ้องมองคีย์ ก่อนจะพุ่งทะยานหายไปกับความมืด…..คีย์ซุกหน้าลงไปกับหมอน น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย
“ขออนุญาตครับ”
เสียงทุ้มของใครอีกคนทำให้คีย์บอมที่นอนสะอื้นอยู่หันไปมองทางต้นเสียง
“นายท่านคิมจงฮยอนให้ผมเตรียมนี่ให้คุณ….เผื่อตอนเช้าคุณจะต้องไปโรงเรียน”
ใบหน้าหล่อของชายหนุ่มละสายตาออกจากก้อนผ้าที่มีร่างกายบอบบางขดตัวอยู่ในนั้น
“ได้โปรด….พาฉันออกไปจากที่นี่…นะ…ฮึก พาฉันไปให้พ้น..ฮึก…นรกนี่ชายหนุ่มถอนหายใจ
“ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้….นายท่านจะกลับมาในตอนรุ่งสาง พักผ่อนเถอะครับ คุณคีบอม”
เสียงประตูปิดลงแผ่วเบา ก่อนที่ร่างสูงของชายหนุ่ม โอเซฮุน จะหายลับไป คีบอมไม่ได้สนใจชายหนุ่มแต่คิดหาทางหนีอย่างน้อยไปโรงเรียนเขาก็มีโอกาสรอด ที่นั่นคงมีใครสามารถช่วยเขาได้ แทมิน…….
CRY .q
ความคิดเห็น