คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Love like this :: บทที่ 11-12
บทที่11
Note:: อ่า….ตอนนี้ขอควบเป็นสองตอนนะคะ ลงผิด 55555 อ่านแบบยาวจุใจไปเลย ขอบบอกว่าใครคิดว่าเรื่องนี้จบ [!] คิดผิดแล้วจ๊ะยังไม่จบนะเอ้อ เรายังค้างคาจงคีย์ กับทูมินเนอะ เดี๋ยวต่อภาคพิเศษให้ด้วย
บทที่ 11
ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าหวานที่กำลังหลับสนิท มินโฮอดไม่ได้ที่จะไล้นิ้วมือไปตามใบหน้าหวาน ก่อนจะกดจูบเบาๆที่ริมฝีปากนิ่มสีเชอรรี่
“หืม…พี่มินโฮ…”
แทมินยิ้มหวานเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วคนที่พบเป็นคนแรกคือ ชเวมินโฮ คนตัวเล็กค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ความเจ็บปวดที่โถมเข้ามาทำให้แทมินร้องออกมาเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวานในสภาพนั้น คนที่นั่งเฝ้าอยู่ถึงกับนั่งไม่ติด
“แทมิน!นายรีบลุกทำไม…เจ็บอยู่ไม่ใช่หรอ…”
มินโฮกอดเอาคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนแกร่ง ถ้าเขารู้จักห้ามใจ แทมินคงไม่เจ็บขนาดนี้
“พี่มินโฮฮะ…มันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นซะหน่อย….”
แทมินยิ้มให้คนตัวโต ก่อนจะซบใบหน้าลงบนอกแกร่ง มินโฮลูบหัวแทมินเบาๆก่อนจะกดจูบลงบนนั้น
“ผมรักพี่นะฮะ….”
ดวงตาคมเบิกกว้างก่อนจะก้มมองคนในอ้อมกอด ไม่ใช่ว่าแทมินไม่เคยบอกรักเขา แต่ครั้งนี้มันรู้สึกได้ว่ามันมีค่าและบริสุทธิ์ มินโฮอยากจะมีหัวใจ อยากจะมีร่างกายที่มีเลือดเนื้อเหมือนมนุษย์ทั่วไป เพื่อเอาไว้ใช้ รักคนๆนี้ นานแค่ไหนที่หน้าอกข้างซ้ายของเขาไร้หัวใจ
ดวงตาคมมองผ่านไปยังร่างสองร่างที่กอดกันแนบแน่น ราวกับไม่มีวันจากกันไปไหน ยิ่งมองหัวใจด้านซ้ายยิ่งเหมือนถูกบีบมันเจ็บปวดเกินไป กับการได้เห็นเพื่อนรักกอดกับหญิงสาวอันเป็นที่รัก
“จงฮยอน….”
สองร่างผละออกจากกัน ก่อนจะมองผู้มาใหม่ รอยยิ้มหวานยังคงถูกส่งมาจาก ใบหน้าหวาน แต่หากคนที่พยายามปั้นหน้านิ่งกลับรู้สึกเจ็บปวดแทบขาดใจ
“มินโฮ….ข้ากำลังจะไปพบเจ้าอยู่พอดี…”
จงฮยอนยิ้มน้อยๆ ก่อนจะสวมกอดเพื่อนรัก
“ศึกสงครามครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก…ถ้าหากข้าไม่ได้กลับมา…..” มินโฮเว้นช่วงเล็กน้อยก่อนจะมองใบหน้าหวานของหญิงคนรักสลับกับใบบหน้าของเพื่อนรัก “ข้าคงต้องฝากเจ้าดูแล…จีอึนด้วย”
แววตาคมสลดลงชั่วครู่ ความรู้สึกหลากหลาย หากแต่แสดงออกไม่ได้ เพื่อนรัก และหญิงคนรัก…ไม่ว่าใครก็เลือกไม่ได้ทั้งนั้น
“ข้าไม่วันปล่อยเจ้าไปผู้เดียว…เราเป็นเพื่อนกัน เราต้องไปด้วยกัน…ไม่ว่าใครก็ห้ามตาย”
จงฮยอนจับมือของอีกคนไว้แน่น ไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขา มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนทั้งสามคน
มินโฮดึงเอาร่างบางมากอด แม้ในใจจะเจ็บปวด ทั้งศึกสงครามและเรื่องราวของความรัก แต่ร่างสูงก็ได้แต่เก็บมันไว้
“รอข้า…ได้โปรด…” มินโฮจูบลงบนกระหม่อมของร่างบาง โดยเขาเองก็รู้ว่าเพื่อนสนิทของเขานั้นรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ หากเพียงแต่เพราะหน้าที่ ความจริงแล้ว ลี จีอึน ควรคู่กับ คิมจงฮยอนมากกว่าชเวมินโฮ
หากแต่ความรักครั้งนี้ไม่มีใครสามารถพูดหรืออธิบายอะไรออกมาได้ นอกจากปล่อยให้มันเป็นไป
ภายในโบสถ์ ร่างสูง พร่ำภาวนา ขอให้เขาได้กลับมา แม้ไม่ได้หัวใจก็ขอให้ได้รัก หวังว่าพระผู้เป็นเจ้าจะเข้าใจความรักของเขา ชเวมินโฮ คิมจงฮยอน และ ลีจีอึน
“ขอให้ท่านทั้งสองโชคดี…..”
ดวงตาหวานเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ร่างบางสวมกอด บุรุษหรุ่มตรงหน้า มินโฮโอบกอดหญิงสาวตอบเช่นกัน อ้อมกอดนี้สมควรเป็นของจงฮยอน ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเดินตรงไปยังม้าศึก ควบออกไปในทันที
“ได้โปรด…กลับมา…ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง”
หญิงสาวไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป มือบางลูบไล้ไปบนใบหน้าของคิมจงฮยอน ก่อนจะดึงชายหนุ่มเข้ามากอด หัวใจของหญิงสาวเป็นของจงฮยอน หากแต่ร่างกายเละหน้าที่บังคับให้นางต้องเป็นของ ชเวมินโฮ
จงฮยอนกล่าวลาเป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาคมจ้องมองไปยังหนทางเบื้องหน้า เมื่อข้าศึกมาประชิดเมืองขนาดนี้ จำเป็นต้องละทิ้ง…..ร่างหนาควบม้าศึกตามเพื่อนรักออกไป การรบดำเนินไปอย่างยาวนาน เบื้องหน้าปรากฏร่างของผู้คนมากมาย นอนจมกองเลือด ผู้คนเหล่านั้นต่างสังเวยให้กับดาบเล่มคมของทั้งสอง….. เสียงอาวุธเมื่อกระทบกันเสียดแทงเข้าถึงขั้วหัวใจ ไม่ตายก็เหมือนตาย ร่างกายแข็งแรงของชายหนุ่มทั้งสองนำกำลังกองทหารมากมายบุกตะลุย ฝ่าเข้าไปถึงกองทัพศัตรู
ภายในวังปรากฏร่างของหญิงสาวกำลังสวดอ้อนวอนขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ชายหนุ่มทั้งสองชนะสงคราม และกลับมาอย่างปลอดภัย
หากแต่กองทัพของข้าศึกมีมากเกินไป แม้จะเก่งกาจย่อมต้องมีเหนื่อยล้า มินโฮเหนื่อยเกินไป เรี่ยวแรงทั้งหมดเริ่มถดถอย เมื่อนึกถึงใบหน้าหญิงสาวอันเป็นที่รัก กำลังกอดกันแนบแน่นกับเพื่อนรักของเขา หัวใจก็เหนื่อยขึ้นมาซะอย่างนั้น
“มินโฮ!!!!!!!ระวัง!!!!!”
จงฮยอน ควบม้าเข้ามารับคมดาบ ทำให้ดาบพลาดเฉี่ยวแขนของเขา แม้บ่าและหลังจะหุ้มด้วยชุดเกราะ แต่คมของดาบก็สามารถทะลุผ่านเนื้อผ้า ไปเฉี่ยวเอาผิวหนังทำให้เลือดไหลออกมาได้เหมือนกัน
“จงฮยอน!!!!!!”
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ก่อนจะมองเพื่อนรักที่กำลังกุมแขนตัวเอง
“ไม่เป็นไร!!!!”
จงฮยอนควบม้าก่อนจะพุ่งเข้าหาศัตรู มินโฮเองก็ตามไปเช่นกัน
“ข้าจะบุกมันเข้าไป….หากพระอาทิตย์ตกดินแล้วยังไม่กลับมา….เจ้าถอยทัพกลับไปก่อนได้เลย”
ชเวมินโฮมองเพื่อนรักของตัวเอง ที่อยู่บนม้าศึก ความเจ็บปวดจากคมดาบแล่นขึ้นมาจนเขาเองชาไปทั้งร่าง
“ไม่!!!!....ข้าจะไปเอง…เจ้าควรกลับไปจงฮยอน….”
ถึงอย่างนั้นมินโฮเองอยากเป็นผู้นำในการรบครั้งนี้มากกว่า ในเมื่อเขาเป็นถึงลูกกษัตริย์
“เจ้าอย่าลืมซิมินโฮ….ว่าเจ้าขัดข้าไม่ได้….ถึงแม้เราจะเป็นเพื่อนรักกัน…และถึงแม้…เราจะรักสตรีนางเดียวกัน”
จงฮยอนเว้นช่วง เขาเองก็เจ็บไม่แพ้มินโฮ ทั้งบาดแผลทางร่างกายและหัวใจ
“ข้าอาจจะยอมเจ้าเรื่อง จีอึน….แต่เรื่องศึกครั้งนี้ข้าไม่มีวันยอมเด็ดขาด….เจ้าจงรออยู่ที่นี่เถิด…ข้าจะเข้าไปตีพวกมันให้แตกกระเจิง…เมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้วยังไม่เห็นข้ากลับก็ขอให้เจ้ากลับไปได้เลย….และ…อย่าบอกจีอึน เด็ดขาด….หากข้าไม่มีโอกาสกลับไป”
จงฮยอนมองไปยังเบื้องหน้า ยากเหลือเกินที่จะหาหนทางรอด ถึงแม้เขาจะแข็งแกร่งเพราะพระเจ้าประทานกำลังมากมายให้ แต่หากมนุษย์ที่มีเพียงสองมือและสองเท้า มีผิวหนัง มีเส้นประสาทแห่งความเจ็บปวด เมื่อโดนหนักๆเข้าก็เจ็บปวดได้เหมือนกัน
จงฮยอนรู้ว่ามินโฮไม่ยอมให้เขาไปเพียงลำพังแน่ แต่หากมินโฮเองก็ย่ำแย่เหมือนกัน จงฮยอนควบม้าศึกบุกตะลุยตรงเข้าไป ตามด้วยกองทหารอีกมากมาย
เสียงตะโกนของมินโฮไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของจงฮยอนเลย กองกำลังของทั้งสองเมืองต่างฟาดฟันกันไม่ยั้ง ดูเหมือนรอบๆจะถูกกองทัพของมินโฮ บุกทะลวงจนร่างกายของมนุษย์ล้มลงเกลื่อนกลาด ยิ่งในสมรภูมิรบพื้นดินแดงฉานเต็มไปด้วยเลือด องค์ชายรูปงามบัดนี้แปดเปื้อนไปด้วยเลือดทั้งสองมือ เมื่อตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง ทุกสรรพสิ่งดูท่าจะจบสิ้น หากแต่เพื่อนรัก คิมจงฮยอน ยังไม่มีท่าทีจะกลับมา
“องค์ชายพะยะค่ะ…เสด็จกลับเมืองเถิด….”
นายทหารที่ยังคงเหลืออยู่…..ยืนมององค์ชายของเขาที่ไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน สายตามองไกล เหมือนกำลังรอคอยบางสิ่งอยู่ เมื่อพระอาทิตย์คล้อยต่ำดังเช่นเพื่อนรักบอก ชเวมินโฮ ก็เริ่มทำใจ กองทหารที่เหลืออยู่ทั้งหมดต่างพากันถอยทัพกลับเมือง
เมื่อกลับมาถึงเมืองแม้จะได้ชัยชนะแต่หากต้องสูญเสียเพื่อนรัก
“องค์ชาย….ข้าดีใจที่ท่านกลับมา…”
หญิงสาวโผเข้ากอดชายหนุ่มอันเป็นที่รัก แต่หากสายตากลับมองไปยังเบื้องหลังเพื่อสอดส่องหาชายที่ตัวเองรักหมดใจ
“คะ….คิม…คิมจงฮยอน….เขาอยู่ที่ไหน….”
ใบหน้าหวานปกคลุมด้วยน้ำตามากมายที่ไหลอาบแก้ม ยิ่งเห็นมินโฮยืนนิ่ง จียึนยิ่งสะอื้นหนัก….
“ได้โปรดบอกมา….จงฮยอน…อยู่ไหน…”
แรงขยำเสื้อ เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ สายตาของจีอึน ทำให้ชเวมินโฮเจ็บปวดแทบขาดใจ ถ้าเลือกได้เขาขอเป็นคนที่ต้องตายอยู่ในสนามรบแทนจงฮยอนดีกว่า
“จงฮยอน….ไม่กลับมาแล้ว….”
ชายหนุ่มกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหล ตาคมหลับลงอย่างอ่อนแรง พร้อมๆกันนั้นแขนแกร่งทั้งสองก็ประคองกอดร่างบางที่กำลังทรุดลงเอาไว้แนบกาย เจ็บปวดเหลือเกิน พระผู้เป็นเจ้า….พระองค์ทำกับผู้เลื่อมใสและศรัทธาต่อพระองค์แบบนี้ได้อย่างไร ตอบแทนผู้ศรัทธาพระองค์ด้วยการพรากจาก และความไม่สมหวัง
ร่างของหญิงสาวที่ร้องไห้จนอ่อนแรงถูกนำไปไว้บนเตียงภายในหอคอย
มินโฮลูบไล้ใบหน้าหวาน ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเขาก็ยังคงรักคนๆนี้ ใบหน้าคมก้มลงจุมพิต บนกลีบปากบาง เจ็บปวดเหลือเกินเมื่อคนที่อยู่ภายในใจของหญิงสาวไม่ใช่เขา
มินโฮพาร่างกายที่บาดเจ็บไปด้วยคมดาบตรงเข้าไปในโบสถ์ภายในปราสาท ดวงตาคมจ้องมองไปยังรูปปั้นของพระผู้เป็นเจ้า ดวงตาคมปิดลง ริมฝีปากขยับขึ้นลงเพื่ออธิฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าที่เขาศรัทธา แต่หากคำอธิฐานนั้นกลับไม่สัมฤทธิ์ผล
“องค์ชาย!!!!.....แย่แล้วเพค่ะ….องค์หญิงจีอึน….สิ้นพระชนม์แล้ว”
หนึ่งในนางสนมวิ่งโร่เข้ามาหาเขา หากเป็นเวลาปรกตินางคนนี้คงถูกดาบคมกริบของเขาฆ่าไปแล้ว ร่างสูงวิ่งตรงไปยังหอคอย ก่อนจะเห็นนางอันเป็นที่รัก นอนสิ้นลมอยู่บนพื้นกระเบื้องเย็นๆนางโดดลงมาจากหอคอยปลิดชีพเพื่อคนที่นางรัก
“ทำไมต้องทำแบบนี้….ทำไม…ทำไมกัน!!!!!!!!!!…..”
ชเวมินโฮประคองกอดร่างของสาวคนรักเอาไว้ในอ้อมกอด น้ำตามากมายไหลออกมาจากตาคม เขาเหนื่อยเหลือเกินอยากจะหลับตามจีอึนไปชั่วนิจนิรันดร์
ร่างที่หลับสนิทถูกวางไว้บนแท่นศิลา เพื่อทำพิธีให้ถูกต้องตามหลักศาสนา……หากแต่ใครคนหนึ่งกำลังกลับมา ใบหน้าและแววตาเปี่ยมไปด้วยความสุข เพียงเพราะชัยชนะที่เขาได้รับ
“องค์ชาย….ท่านจงฮยอนกลับมาแล้วพ่ะยะค่ะ”
เสียงกราบทูลของเหล่าเสนา ทำให้เขาแทบบ้าคลั่ง หากแต่สีหน้าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่สามารถแสดงความรู้สึกอะไรออกมาได้เลย ในเมื่อจงฮยอนกลับมาแล้ว เขาจะเหลืออะไร….ในเมื่อนางอันเป็นที่รักก็ไม่อยู่ซะแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น!!!!!”
ร่างหนาวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข กลับเบิกโพรง เมื่อเห็นร่างบอบบางไร้วิญญาณที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นศิลาเย็นๆ ดวงตาคมดูโกรธเกรี้ยว
“นางตายแล้ว……”
มินโฮพูดออกมา ทำให้อีกคนหันมามองเขา ดวงตาที่บ่งบอกถึงความโกรธ
“ทำไมไม่ห้ามนาง!!!…..ทำไมถึงปล่อยให้นางตาย!!!!”จงฮยอนตรงเข้าไปกระชากเสื้อของอีกคน
“เจ้าเอาข่าวการตายของเราบอกนาง…..”
หมัดหนักๆถูกเหวี่ยงเข้าใส่ใบหน้าหล่อของมินโฮ เหล่าทหารและเสนาต่างพากันจับร่างที่คุ้มคลั่งของจงฮยอนเอาไว้
“นางฆ่าตัวตายวิญญาณของนางไม่มีวันได้ไปเกิด….นางจะต้องอยู่ที่นี่ไปชั่วนิรันดร์”เสียงของบาทหลวงดังขึ้น
“ข้าจะพานางไปจากที่นี่….ไปจากเจ้า…ชเวมินโฮ!!!!!….”
ร่างหนาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธแค้น อุ้มร่างบางของหญิงสาวขึ้นแนบอกก่อนจะ พาขึ้นม้า ควบหายไปกับความมืด ชเวมินโฮทรุดลงกับพื้น ใบหน้าคมก้มลงมองพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน…..ความศรัทธาทั้งหมดหายไปจากหัวใจ เลือดในกายสูบฉีดไปด้วยความโกรธยากที่จะระงับ
“พระผู้เป็นเจ้า!!!!!!!!!ทั้งที่ข้าซื่อสัตย์ต่อพระองค์!!!!....เหตุใดจึงลงโทษข้าเช่นนี้….เหตุใดจึงพรากคนรักไปจากข้า!!!!”
เสียงตะโกนก้องขององค์ชาย สะท้อนก้องไปทั่วโบสถ์ พร้อมๆกับเสียงฟ้าด้านนอกที่คำรามราวกับโกรธแค้นเสียเต็มประดา มือแกร่งฉวยเอาดาบก่อนจะตรงเข้าไปยังรูปปั้นของพระเจ้า ที่ตั้งเด่นอยู่ใจกลางโบสถ์ สิ้นเสียงฟ้าผ่า รูปปั้นนั้นถูกชเวมินโฮทำลายลงอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับเลือดจำนวนมากมาย ที่ไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก
“ท่านต้องคำสาบ…..ชีวิตของท่านต้องคำสาบ….เพราะท่านปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้า….”
ไม่มีใครสามารถห้ามองค์ชายของเขาได้อีกต่อไป มินโฮล้มลงก่อนจะเลียเลือดที่ไหลเปรอะฝ่ามือของเขา เลือดที่ไหลออกมาจากพระผู้เป็นเจ้า ในเมื่อท่านไม่เห็นใจข้า ข้าก็จะเป็นปฏิปักกับท่านตลอดไป ข้าขอใช้ชีวิตเป็นอมตะของข้าชั่วนิจนิรันดร์เพื่อรอนางอันเป็นที่รัก……ลีจีอึน…..ข้าจะรอเจ้า
เสียงสาปแช่งมากมายดังขึ้น ชเวมินโฮเดินทางเข้าสู่อ้อมกอดของซาตาน…….สองร้อยกว่าปีช่างยาวนาน….ยาวนานเหลือเกิน
“พี่มินโฮ…..พี่มินโฮฮะ…..”
เสียงหวานในอ้อมกอดปลุกเขาให้ตื่นจากความคิดในอดีต ดวงตาคมสบกับดวงตาหวานที่ช้อนมองเขาด้วยใบหน้าน่ารัก ทำให้มินโฮอดไม่ได้ที่จะกดจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเหมือนเชอรรี่ของคนในอ้อมกอด
“อื้อ……”
ร่างเล็กประท้วงก่อนจะดันตัวออก…..
“นายทำให้ฉันรัก…ฉันไปไหนไม่ได้…เพราะนาย….”
แทมินมองหน้าของอีกคนใบหน้าหวานแดงซ่าน “ผม…หิวแล้ว…ลงไปข้างล่างกันดีกว่า”
คนตัวเล็กค่อยๆลุกขึ้น หากแต่ความเจ็บปวดก็แล่นริ้วขึ้นมาที่สะโพกบางทำให้ร่างเล็กถึงกับเซ หากไม่ได้ร่างสูงคว้าเอาไว้
มินโฮสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่อยู่รอบๆบ้านของแทมิน และดูเหมือนมันกำลังจะใกล้เข้ามาทุกที รังสีแห่งความอันตรายแผ่ซ่านไปทั่วบ้านของคนตัวเล็ก จนมินโฮต้องยืนขึ้นแล้วโอบเอาร่างบางไว้ในอ้อมกอด
“พะ…พี่มินโฮ….”
“ชู่ว…..” มินโฮใช้นิ้วชี้ปิดปากของคนตัวเล็กเอาไว้…..
“อันตราย……” มินโฮกระซิบเบาๆที่ข้างหูของแทมิน นั่นยิ่งทำให้คนในอ้อมกอดเบิกตากว้าง….มือเล็กกอดตอบร่างสูงไม่ยอมให้ห่างไปไหน เสียงรถที่คุ้นเคยทำให้ร่างบางเกือบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ….
“พี่แจจุง!!!!”
แทมินผละออกจากอ้อมกอดของร่างสูงก่อนจะวิ่งลงมาจากบนบ้านด้วยความรวดเร็วจนลืมไปว่า ตัวเองเจ็บสะโพกอยู่
“พี่แจจุง!!!!!!”
แทมินกระโดดกอดพี่ชายด้วยความคิดถึง สิ่งที่ได้รับกลับมาคืออ้อมกอดของพี่ชายที่รักเช่นกัน
แทมินเหลือบมองไปด้านหลังก่อนจะมองเห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง เจ้าของใบหน้าคมหล่อเพอเฟ็คอย่างไม่มีที่ติ
“พี่ยุนโฮ….สวัสดีฮะ”
แทมินโค้งหัวให้กับชายหนุ่ม ยุนโฮยิ้มรับ หากเพียงชั่ววินาทีสายตาของร่างสูงก็เปลี่ยนไปดวงตาสีน้ำเงินปรากฏเพียงชั่วครู่แล้วหายไป….ราวกับเขาเองก็สัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกปลอมภายในบ้านเช่นกัน…………………..
...................................
.......................................................
....................................................................................
.....................................................................................................
บทที่ 12
แทมินช่วยพี่ชายถือของเข้ามาด้านใน ก่อนจะวางลงบนโต๊ะรับประทานอาหาร
“วันนี้….พี่ยุนโฮจะค้างกับเราหรอฮะ…”
เสียงหวานถามด้วยความกระตือรือร้นทำเอาพี่ชายหน้าสวยของแทมินถึงกับหน้าแดงซ่าน
“ปล่าวซะหน่อย….ใครจะให้ค้างด้วยกันเล่า….”
แจจุงพูดออกมา แต่นั่นก็เรียกรอยยิ้มจากร่างสูงที่กำลังล้มตัวนั่งบนโซฟาเกือบจะทันที
“อะไรกันแจจุง….นี่มันก็ดึกแล้วนะ…นายจะให้ฉันขับรถกลับบ้านตอนนี้น่ะหรอ…”
ยุนโฮยิ้มน้อยๆ แต่นั่นยิ่งทำให้ร่างบางที่ยืนหันหลังอยู่หน้าแดงเข้าไปใหญ่
“เอ่อ….พี่แจจุงฮะ…ผม…พาเพื่อนมาด้วย….”
แทมินสบตากับแจจุงที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าสวยของพี่ชายยิ้มด้วยความใจดี
“คีย์หรอ….แล้วนี่ทำไมไม่พามาทานข้าวละแทมิน…เดี๋ยวก็หิวหรอก…”
แจจุงดุน้องชาย แต่สีหน้าของแทมิน เริ่มเป็นกังวล ร่างบางส่ายหัวเบาๆ
“มะ….ไม่ใช่…ไม่ใช่คีย์ฮะ….”
แทมินพูดติดขัดเพราะกลัวโดนดุ แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มใจดีมาจากพี่ชายเท่านั้น
“เอ…ไม่ใช่คีย์แล้วใครกันน้า~ แล้วเพื่อนแทมินไปไหนละ…”
แทมินยิ้มเขินๆมือเรียวเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันได เพื่อไปตามร่างสูงอีกคนแจจุงได้แต่มองตามร่างบางที่วิ่งหายขึ้นไป ไม่เคยเห็นน้องชายของเขาดูมีความสุขขนาดนี้เลย
“ยุนโฮ…อื้ม….”
ไม่ทันไร ชองยุนโฮก็กอดเอาร่างบางไว้แน่นก่อนจะกดจูบกลีบปากบาง จากอ่อนโยนเป็นร้อนแรงจนอีกคนต้องทุบอกหนาเบาๆ
“ยุนโฮ….เดี๋ยวแทมินจะเห็นนะ…”ถึงจะเอ่ยห้ามแต่คนตัวบางก็เขินหน้าแดงทุกครั้งไป
“แทมิน…เชียร์ฉัน…นายไม่รู้หรอ…”
ยุนโฮกดจูบที่แก้มนวลนั่นอีกครั้ง สงสัยอีกสักพักเขาคงทนไม่ไหว กลีบปากแดงที่บวมช้ำจากพิษจูบดูมีเสน่ห์จนน่ากดซ้ำอีก ใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อ รวมถึงแก้มป่องๆที่ดูขัดใจ มันทำให้ ชองยุนโฮ เริ่มจะเครียด เมื่อเห็นสายตาแทะโลมของยุนโฮทำให้แจจุงรีบดันชายหนุ่มออกก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาหยิบวัตถุดิบบนโต๊ะเพื่อไปทำอาหารโดยมีร่างสูงคอยช่วย จัดการอีกแรงแต่ดูเหมือนจะเพิ่มความวุ่นวายมากกว่า เสียงเอะอะจากด้านล่างทำให้ร่างบางอีกคนยิ้มไปด้วย แทมินเคาะห้องตัวเองเบาๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านใน
“พี่มินโฮ”
แทมินเรียกชื่ออีกคนที่กำลัง นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาของเขา
“นายอยากรู้เรื่องแวมไพร์ขนาดนั้นเลยหรือไง”
มินโฮพลิกปกหนังสือไปมา หนังสือพวกนี้จะไปรู้ดีกว่าเขาได้ยังไง ในเมื่อคนเขียนไม่ได้เป็นแวมไพร์ซะหน่อย แต่คนที่กำลังอ่านอยู่นี่ซิ ตัวจริง
“ผมแค่ไปยืมเพื่อนมาน่ะฮะ….โอ๊ะ!....ตายจริง…ผมลืมเอาไปคืน…”มินโฮลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงมาที่คนตัวเล็ก
“ไอ้หมอนั่นน่ะนะ….ไม่ต้องไปยุ่งกับมันได้มั้ย….ฉันไม่ชอบที่มันแตะต้องนาย”
“แต่พี่มินโฮฮะ…ผมแค่เอาหนังสือไปคืนเองนะฮะ…”แทมินกระตุกเสื้อร่างสูงเบาๆเมื่อเห็นว่ามินโฮทำท่าไม่สนใจ
“มันกำลังจะจูบนาย…..”แม้น้ำเสียงจะดูแข็งกร้าวแต่ใบหน้าหล่อนั้นก็ยังไม่หันมา จนแทมินต้องเดินอ้อมไปหาใบหน้าของมินโฮที่กำลังเมินไปทางอื่น
“ว้า~….ใช้ไม่ได้เลยจริงๆน้า…..ที่แท้วันนั้นก็พี่มินโฮนี่เอง….แอบดูผม….”
แทมินยิ้มหวาน แต่ร่างสูงกลับไม่ยิ้มด้วยเลยหนำซ้ำแววตา ยังดูแข็งกร้าวขึ้นไปอีก
“ถ้าไม่ใช่ฉัน….ป่านนี้นาย…..”
“ผมรักพี่…รัก…ตั้งแต่เจอพี่ครั้งแรก…ถึงแม้พี่จะไม่ใช่มนุษย์ผมก็รักพี่นะฮะ….พี่มินโฮเชื่อใจผมนะ”แทมินยิ้มก่อนจะเขย่งตัวขึ้นจูบร่างสูง
“บ้าจริง! ใครสอนให้อ้อนแบบนี้ห๊ะ!เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปโรงเรียนหรอก”
ร่างสูงอุ้มเอาคนตัวเล็กขึ้นแนบอกก่อนจะ กดคนตัวเล็กลงกับเตียงนอนนุ่ม ริมฝีปากหยักกดจูบคนใต้ร่างด้วยความร้อนแรง แทมินไม่มีท่าทีขัดขืนเลยซักนิดหนำซ้ำกลับกดศรีษะของร่างสูงลงมาให้แนบชิดมากขึ้นอีกต่างหาก
“อื้อ…..”
เสียงครางเบาๆในลำคอยิ่งทำให้คนตัวสูงอารมณ์พุ่งพล่าน ริมฝีปากหยักละจากริมฝีปากอิ่มก่อนจูบไล่มาที่ลำคอขาอุณหภูมิของร่างสูงเย็นจนแทมินสัมผัสได้…..ความเย็นเหมือนน้ำแข็งของมินโฮถูกส่งผ่านเนื้อแนบเนื้อ
“พี่…อะ…มิน…มินโฮ…อื้อ….”ริมฝีปากอิ่มถูกกดจูบอีกครั้งพร้อมกับลิ้นร้อนที่แทรกเข้าไปกวาดหาความหวานทั่วโพรงปาก
“ก๊อกๆๆๆ”
เสียงเคาะประตูทำให้ร่างสูงรีบผละออกจากตัวร่างบาง
“แทมิน…อาหารเสร็จแล้วนะ…ลงมาทานข้าวได้แล้ว”สิ้นเสียงหวานที่เพิ่งเคาะห้องบวกกับฝีเท้าที่เดินห่างออกไป ทำให้ร่างสูงยืดตัวขึ้นก่อนจะจัดเสื้อผ้าตัวเองดีๆ
“พี่มินโฮ…ลงไปข้างล่างด้วยกันนะฮะ…”
แทมินเกาะแขนมินโฮอย่างออดอ้อน จนมินโฮอดไม่ได้ที่จะฝังจมูกโด่งลงบนพวงแก้มนิ่มของอีกคน มินโฮเดินตามคนตัวเล็กออกกจากห้อง แต่ก็ไม่วายมีสีหน้ากังวลเพราะเขายังรู้สึกได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมและมันอันตรายเป็นอย่างยิ่งอยู่ในบ้านของแทมิน รังสีปีศาจแผ่ซ่านไปทั่วยิ่งใกล้เท่าไหร่ยิ่งชัดเจน มินโฮเองอยากจะมองทะลุออกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่แบบนั้นยิ่งเป็นการแสดงตัวเองให้อีกฝ่ายเห็น
“พี่แจจุงฮะ…นี่พี่มินโฮ…”
แทมินกุมมือมินโฮก่อนจะเรียกพี่ชายคนสวยให้หันมา พร้อมๆกันนั้น ชองยุนโฮก็หันมาด้วย ทันทีที่ดวงตาคมสองคู่สบกันแววตามินโฮแววโรจน์ ดวงตาของยุนโฮเปลี่ยนเป็นสีเงินเข้ม พร้อมกับเสียงขู่เบาๆในลำคอ
“พี่มินโฮฮะ….”
แทมินต้องสะกิดมินโฮเพราะเห็นอีกคนทำท่าเหมือนไม่สบายหนำซ้ำยังจ้องกับยุนโฮไม่วางตาแจจุงเองก็อึ้ง เมื่อเห็นร่างกายของมินโฮแม้จะรู้ถึงความผิดปกติไปบ้าง…..ร่างสูงตรงหน้าดูขาวซีด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มดูมีประกายจนน่ากลัว
“มินโฮ..เอ่อ…ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ…”
แจจุงยิ้มหวาน พร้อมกับเอื้อมมือไปจับอีกคน แต่มินโฮกลับโค้งคำนับให้แจจุง ดวงตาคมกลับมองไปยังร่างสูงอีกคน
“เอ่อ….นี่…คุณชองยุนโฮจ๊ะ”
แจจุงผายมือไปทางยุนโฮ หากแต่ยุนโฮทำเพียงแค่ยิ้มรับนิดๆ ทั้งสี่ตรงไปที่โต๊ะอาหาร ก่อนที่แจจุงและแทมินจะเป็นฝ่ายตักข้าวให้กับทั้งสอง ชองยุนโฮ ยกยิ้มดูสบาย ผิดกับอีกคนที่จ้องมองอาหารตรงหน้าอย่างไม่รู้รสชาติ
“พี่มินโฮฮะ….ไม่กินก็ได้มั้งฮะ…”
แทมินกุมมือกับร่างสูงใต้โต๊ะก่อนจะกระซิบเบาๆ มินโฮยิ้มให้ร่างบาง ก่อนจะมองอาหารในจาน
“อาหารไม่ถูกปากรึปล่าว มินโฮ…”แจจุงที่เห็นมินโฮนิ่งอยู่นานเอ่ยถามขึ้น หากแต่ชองยุนโฮกลับยิ้มเจ้าเลห์
“อาหารแบบนี้กินได้รึปล่าว…..รึว่ากินแต่”ดวงตาคมเบิกกว้าง ก่อนจะรีบสวนคำพูดไปทันที
“ได้ครับ…ไม่มีปัญหา”
มินโฮตักอาหารในจานก่อนจะใส่ปากแล้วเคี้ยว คำแรกร่างสูงทำท่าจะปฎิเสธแต่อาหารตรงหน้าก็อร่อยมาก จนเขาไม่รู้ว่าเคยกินมาแล้วเมื่อไหร่ เพียงไม่นานมินโฮก็ทานจนเกลี้ยง นั่นยิ่งสร้างความปลาบปลื้มให้กับแจจุง
“คราวหน้าก็มาอีกนะ มินโฮ…เดี๋ยวพี่จะทำอาหารอร่อยไว้เยอะๆเลย”
มินโฮยิ้มรับ เขาไม่นึกเลยจริงๆว่าจะกินอาหารพวกนี้ได้ ชองยุนโฮเองก็ดูจะอึ้งเหมือนกัน เป็นไปไม่ได้ที่แวมไพร์จะทานอาหารมนุษย์
“อุ้ก!! อุ้บ…”
มินโฮรู้สึกแปลกๆในท้องร่างสูงถึงกับทรุดลง เมื่อรู้สึกปวดท้องจนยืนไม่ไหว แทมินที่เดินออกมาส่งถึงกับต้องพยุงร่างสูงให้ลุกขึ้น
“พี่มินโฮ…พี่ไหวมั้ย…”
มินโฮถึงกับนอนกุมท้อง ยุนโฮและแจจุงรีบวิ่งเข้ามาดูอาการเจ้าตัวที่อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วสร้างความตกใจให้สองพี่น้องเป็นอย่างมาก แต่กับชองยุนโฮเอง มันเป็นเรื่องที่แวมไพร์ทั่วไปสมควรจะเป็นก็กินอาหารผิดสำแดงนี่เนอะ
“แย่แล้ว!!!! มินโฮเป็นอะไรน่ะแทมินพาไปโรงพยายาบาลเร็ว!!”แทมินตกใจจนตาโต เขาเองก็รีบช่วยยุนโฮพยุงร่างสูงขึ้นรถของยุนโฮ
“แจจุง…นายรออยู่ที่บ้านนะ ฉันจะพาแทมินกับมินโฮไปเอง”
แจจุงพยักหน้าหงึกหงักแววตาดูร้อนรนเช่นกัน ยุนโฮรีบขับรถตรงไปยังถนนใหญ่หากแต่ร่างสูงกลับจอดรถสงบนิ่งเมื่อพ้นบ้านของร่างบาง สร้างความตกใจให้ร่างเล็กในรถเป็นอย่างมาก
“พี่ยุนโฮ!!!!....พี่หยุดรถทำไมฮะ…พี่มินโฮกำลังไม่สบายนะฮะ…รีบไปซิ…”
ยุนโฮหันมาสบตาแทมิน ฉับพลันดวงตาคมก็เปลี่ยนเป็นสีเงินเข้ม น่ากลัวเหลือเกิน
“พะ…พี่…พี่..ยุนโฮ…”
แทมินขนลุกซู่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นถึงแม้จะกลัวแต่อาการปวดของอีกคนกลับทำให้แทมินเป็นห่วงมากกว่า เหงื่อมากมายไหลออกมาจากตัวร่างสูงพร้อมๆกับเสียงร้องครวญของเจ้าตัวที่เจ็บปวดแสนสาหัส
“ไปโรงพยายาบาลไม่ได้….”
“ทะ….ทำไมฮะ….”ถึงแม้จะกลัวยุนโฮแต่ร่างบางก็พยายามกลั้นใจถาม แทมินไม่รู้เลยว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นใคร
“ชเวมินโฮ…เป็นแวมไพร์…ขืนไปที่โรงพยาบาลเขาก็จะรู้กันหมดว่าหมอนี่ไม่ใช่คน….”
“จริงด้วย!!! แล้วเราจะทำยังไง…ขืนเป็นแบบนี้พี่มินโฮ…พี่มินโฮไม่ไหวแน่..ฮึก…ผะ..ผมกลัว..ฮือ…ฮือ”
แทมินปล่อยโฮแบบกลั้นไม่อยู่ กลัวเหลือเกินว่าจะเสียคนตรงหน้านี้ไป
“เราต้องไปบ้านมินโฮ….”
แทมินเช็ดน้ำตาก่อนจะมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ชองยุนโฮเป็นใครกันแน่….ฉับพลันร่างสูงก็แปรเปลี่ยนเป็นหมาป่าตัวใหญ่ ทำให้แทมินถึงกับขนลุกซู่ มือเล็กยกขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อข่มเสียงร้อง
“ขึ้นมาเร็วเข้า!!!!!!”
ยุนโฮคาบเอาร่างของมินโฮไว้ในปากก่อนจะบอกให้แทมินเกาะหลังของเขา “จับแน่นๆละ”
“พี่ยุนโฮ…เรากำลังจะไปไหน…”
ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับออกแรงวิ่งพุ่งทะยานหายเข้าไปในป่า ความเย็นของลมปะทะใบหน้าจนแทมินต้องก้มตัวลงต่ำใบหน้าหวานกระทบกับหยดน้ำค้างและกิ่งไม้ในป่าจนใบหน้าเป็นรอยข่วนหน่อยๆ
ไม่นานนัก ปราสาทหลังทรงประหลาดตั้งอยู่ใจกลางหุบเขา ก็สว่างโร่ปรากฏแก่สายตาของแทมิน ยุนโฮชลอความเร็วจนกลายเป็นเดินเหยาะๆแล้วหยุดนิ่งกับที่ เพื่อให้คนตัวเล็กลงไปได้สะดวก
“พี่ยุนโฮ…..”ยุนโฮมองค้อนคนตัวเล็กเพื่อปรามไม่ให้ถามอีก
“อยู่ใกล้ๆฉันไว้นะ….พวกมันมากันแล้ว….”
แทมินเห็นป่าบริเวณรอบด้านมีแต่ความมืดมิด หนำซ้ำยังมีเสียงเหมือนกับมีคนอยู่รอบๆดวงตาหวานเบิกโพรงเมื่อเห็นดวงตาเรืองแสงหลายคู่จดจ้องมาที่พวกเขา……ร่างกายของมินโฮที่บิดเร้าไปมาเพราะความทรมาน
“ดูมินโฮไว้!!!!”
ยุนโฮปล่อยร่างของมินโฮลงกับพื้นก่อนที่จะหันไปจัดการกับแวมไพร์ที่กระโดดเข้ามาหมายจะขย้ำเขา….การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดเมื่อหมาป่าตัวใหญ่สามารถจัดการแวมไพร์ลงไปได้ เมื่อหลายๆตัวเห็นแบบนั้นต่างพากันเดินกรูเข้ามา เขี้ยวยาวอ้าออกพร้อมกัด…..เลือดมนุษย์ตรงหน้าช่างหอมหวานเหลือเกิน หากแต่
“หยุด!!!!!!!!”
เสียงทรงอำนาจที่สามารถสะกดทุกคนรวมทั้งแวมไพร์พวกนั้นให้หยุดนิ่งอยู่กับที่….ภายในปราสาทหลังงามที่ถูกจัดแต่งไว้ด้วยความทันสมัย แม้ภายนอกจะดูเป็นปราสาทเก่าแก่แต่ภายในกลับตกแต่งได้ดีเยี่ยม
“กล้ามากที่บุกมาถึงที่นี่ ชองยุนโฮ”ชายหนุ่มชุดดำ กอดอกมองชายอีกคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“ถ้า…น้องชายของนายไม่โง่ไปกินอาหารพวกมนุษย์เข้าละก็….ฉันคงไม่ต้องลำบากมาถึงที่นี่หรอก”น้ำเสียงเย้ยหยันถูกส่งให้อีกคน พร้อมกับสายตาหยิ่งๆอันเป็นเอกลักษณ์ของชองยุนโฮ….สายตาคมของร่างสูงอีกคนจ้องดูร่างที่กำลังบิดตัวร้องครวญคราง
“ทำอะไรซักอย่างซิ….พี่มินโฮ…กำลังจะตาย”
แทมินที่นั่งให้มินโฮหนุนตัก กลับรู้สึกเจ็บปวดแทนคนตรงหน้านี้เหลือเกิน แม้สายตาหลายคู่จะจ้องมองเขาเป็นอาหาร ตอนนี้เขาก็ไม่รู้สึกกลัว
“มินโฮ…กินอะไร…ไม่รู้หรือไงว่ามันไม่ย่อย…”ชีวอนจ้องใบหน้าหวานของอีกคนอย่างคาดโทษ
“พี่มินโฮ….พี่มินโฮ..กิน…ข้าวฮะ…”
“แก!!!!ไม่รู้รึไง…ว่าองค์ชายกินอาหารพวกนั้นไม่ได้!!!!”เสียงตวาดดังลั่นมาจากแวมไพร์สาว สีหน้าและแววตาดูโกรธเกรี้ยวคนตรงหน้าเหลือเกิน
“หยุดนะ!!!ฮยอนอา….เด็กนี่เป็นของมินโฮ!!!!”
ชีวอนปรามหญิงสาวที่กำลังง้างเล็บแยกเขี้ยวขู่คนตรงหน้า แววตาแดงกล่ำบ่งบอกถึงความโกรธและเกลียดมนุษย์น้อยตรงหน้าสุดขีด
“อนยู….เอาว๊อสก้าทั้งหมดมา”อนยูรับคำสั่งในทันทีก่อนจะเดินตรงมาพร้อมด้วยขวดเหล้า
“ในเมื่อไม่ย่อยก็คงต้องเอาออกแบบนี้แหละ”ยุนโฮยืนมองการกระทำของแวมไพร์เงียบๆ
เหล้ามากมายถูกจับกรอกปากของแวมไพร์หนุ่ม อาการบิดเร้าที่แสดงว่าร่างสูงกำลังเจ็บยิ่งทำให้แทมินเป็นทุกข์มากขึ้น…..ไม่นานนักเมื่อเหล้าเข้าไปเต็มข้างในเป็นมนุษย์เมื่อเมาก็มีแต่อ้วกเท่านั้น แวมไพร์ก็เช่นกัน มินโฮอ้วกเอาอาหารทั้งหมดออกมา จนกระทั่งหมดแรงร่างสูงค่อยๆหายจากอาการปวดทั้งหมด ดวงตาคมมองสบดวงตาหวานอย่างอ่อนแรง ก่อนจะค่อยๆหลับลงไปช้าๆ
“มินโฮปลอดภัยแล้ว….พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว เราจะให้อนยูไปส่ง”ชีวอนส่งยิ้มไปให้ยุนโฮแต่หากอีกคนทำได้แค่ยกยิ้มที่มุมปากตอบไปเท่านั้น
“ขอบใจ” ชีวอนพูดเบาๆ แต่ยุนโฮกลับได้ยินมันชัดเจน
………………………………………………………………………………………….
CRY .q
ความคิดเห็น