ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wheel Gear : นวัตกรรมจักรกล

    ลำดับตอนที่ #2 : Race Day #2 : โค้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 55


    (วันที่ 10 มิถุนายน ปี ค.ศ 2013)

     

    ในที่สุดเช้าวันใหม่ก็มาเยือน ดวงตะวันขึ้นจากขอบฟ้า เจิดจรัสบนนภา อากิฮิโกะสมาชิกใหม่ของไพเรทนั้นมิสามารถจะข่มตานอนหลับได้ ถึงแม้เขาจะนอนหลับได้เขาก็ไม่สามารถนอนหลับเต็มอิ่มได้ เขาตัดสินใจลุกขึ้นมาก่อนจะออกจากเต้นท์ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเพื่อนสมัยเด็กของตน หรือ อาคาเนะที่กำลังจ้องเขาด้วยสายตาดุร้าย สิ่งแรกที่ผู้ถูกจ้องคิดนั่นคือตนกำลังมีปัญหาแน่ๆ

     

    เมื่อวานขอโทษด้วยนะอาคาเนะโค้งขอโทษ

     

    มันไม่ใช่สิ่งที่อากิฮิโกะคิดเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความฉงน ไม่นานนักเขาก็คิดออกทันทีว่าเพราะเหตุใดอาคาเนะต้องกล่าวขอโทษตน สาเหตุนั่นก็คือ ปืนที่แตะบนหน้าผาก

     

    ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรอากิฮิโกะตอบรับคำขอโทษของเธอ

    ว่าแต่ว่าเธอน่ะ ไม่เป็นไรแล้วแน่นะ?” ยามาคูจิ อากิฮิโกะถามกลับ

    อ่า..ชั้นให้หมอดูแล้ว เขาบอกว่าสมองของชั้นไม่เป็นไรหญิงสาวตอบพลางเอามือจับไปที่ขมับของตนเอง

    แล้ว Wheel Gear ล่ะ?” สมาชิกใหม่ถามต่อ

    คิดว่าน่าจะกลับมาใช้ได้ตามปกติแล้วล่ะ สำหรับ Flamethower น่ะ

    Flamethower?” อากิฮิโกะเอียงคอด้วยความสงสัย

    Wheel Gear ที่นายขับเมือคืนน่ะ

     

    อากิฮิโกะพยักหน้าหลังจากฟังที่อาคาเนะตอบเขาทั้งหมด สิ่งนึงที่เขาได้รับรู้คือ Wheel Gear พวกนี้มีชื่อรุ่นของตนเองด้วย ถ้าให้เปรียบเถียบมันก็คงคล้ายๆรถถังละมั้งนะ ซักพักนึง ผู้คนก็เริ่มไปรวมตัวกันอยู่ที่จุดเดียวกันนั่นคือรถบ้านสีขาวที่จอดอยู่ สมาชิกใหม่เดินไปรวมตัวเช่นกัน แต่ว่าร่างของเขาถูกบังโดยชายผู้อื่นจนหมด เขาอาศัยความตัวเล็กของเขามุดผ่านสมาชิกไพเรทคนอื่นๆ เมื่อเขารู้ตัวอีกทีเขาก็ยืนอยู่แถวหน้าสุดเสียแล้ว ประตูของรถบ้านสีขาวก็ถูกเปิดออก ภาพของชายหนุ่มผมยาวที่มีบาดแผลบนใบหน้ายืนจ้องผู้คนที่ยืนรายล้อมเขา

     

    เอาละ ทุกท่าน ต่อไปเราจะเดินทางไปที่สนามบินนาริตะกัน

    ส่วนวิธีการเดินทางนั้นก็เหมือนเดิม เอาละแยกย้ายได้..

     

    แม้ว่าคนอื่นจะเข้าใจไอ้คำว่า เหมือนเดิมก็ตามแต่เด็กใหม่ นั้นไม่เข้าใจซักนิด เขาได้ยืนงงๆและมองไปรอบๆ สมาชิกคนอื่นๆนั้นก็เริ่มรวมตัวก่อนจะออกเดินทาง เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า เหมือนเดิมนั้นคืออะไร เด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยวคิดว่าตนนั้นควรจะเดินทางไปสนามบินนาริตะยังไงดี ซักพักนึงเขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกเขา เมื่อเขาหันไปตามเสียงเรียก เขาก็พบกับอาคาเนะที่ผูกผมหางม้าอยู่

     

    สะ สะ สนใจจะไปพร้อมกับชั้นไหม?”

     

    ก็คงต้องพูดว่านี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดกระมั้ง เด็กหนุ่มตอบรับคำชวนของเพื่อนสมัยเด็ก การเดินทางสู่สนามบินของทั้งสองนั้นคือการโดยสารไปด้วยรถประจำทาง แน่นอนว่าการเดินทางไปด้วย Wheel Gear สีแดงคันนั้นคงเป็นการเตะตาผู้คนโดยรอบแน่นอน ซึ่งหากถามต่อว่าพวก Wheel Gear ใครเป็นคนนำไป? คำตอบคือเรย์และทีมช่างคนอื่นๆเป็นคนพาไป ในระหว่างที่ทั้งสองคนนั่งอยู่บนประจำทางนั้น อดีตนักแข่งรถได้นั่งอ่านข่าวบนโทรศัพท์มือถือของตัวเอง

     

    ช็อค!! ทีมงานทีมแข่งรถชื่อดังตายเรียบ!! เว้นแต่นักแข่ง

     

    มันเป็นข่าวที่ขึ้นหน้า 1 เกือบทุกหนังสือพิมพ์หรือตามเว็ปไซต์ข่าวๆต่างๆ อากิฮิโกะนั่งอ่านก็ได้แต่นิ่งเงียบ สมาธิของเขาจดจ่ออยู่กับเรื่องเมื่อคืน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเพื่อนสมัยเด็กของตนเองกำลังเรียกอยู่

     

    นายฟังชั้นอยู่รึเปล่า?”

     

    อากิฮิโกะสะดุ้งก่อนจะหันมามองอาคาเนะที่มองหน้าด้วยสายตามไม่พอใจ

     

    โทษที..พอดีไม่ได้ฟังน่ะ


    ให้ตายเถอะ...อาคาเนะถอนหายใจก่อนที่จะกอดอกและหลับตาลง


    ที่ชั้นพูดคือ Wheel Gear น่ะมีระบบพลังงานที่ไฟหน้า

     

    นั่นอธิบายว่าทำไม Wheel Gear ของอาคาเนะถึงมีอาวุธยิงไปที่ไฟหน้าของรถอีกฝ่าย

     

    แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ


    มี Wheel Gear บางชนิดที่มีระบบควบคุมอยู่ที่เบาะหลัง

     

    นั่นก็ตอบคำถามของเด็กหนุ่มอีกครั้งว่าทำไม Wheel Gear ของอาคาเนะไม่มีเบาะหลัง จริงๆแล้วข้อมูลพวกนี้มันก็มีตามอินเตอร์เน็ตอยู่หรอกนะ ด้วยว่าความที่เธอเป็นห่วงหรืออยากจะอวดภูมิหรืออะไร เธอจึงบอกข้อมูลเหล่านี้แก่เพื่อนสมัยเด็กของตนเองที่ยังไม่เคยทำการศึกษาข้อมูลอะไรพวกนี้เลย บทสนทนาของทั้งสองนั้นมีแต่เรื่อง Wheel Gear เมื่อรถจอดที่จุดหมายปลายทาง ทั้งคู่ก็เดินลงจากรถพลางมองนาฬิกาของตนเอง มันบอกว่าทั้งสองยังมีเวลาที่จะเที่ยวเล่นได้อีกนาน จะให้ไปรอที่สนามบินตั้งแต่ตอนเที่ยงวันก็แปลกๆ

     

    งั้นไปเยี่ยมแม่ของชั้นก่อนดีไหมอากิฮิโกะชวน

    เอ..จะดีหรออาคาเนะถามกลับ

    ตอนนี้นายตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมอยู่นะหญิงสาวอธิบาย

    นั่นก็จริง...แต่ว่าถ้าอธิบายดีๆ คุณแม่ต้องเข้าใจแน่นอนเด็กหนุ่มเชื่อมั่นในแม่ของตนเอง

     

    อากิฮิโกะพูดจบก็นำหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่รอให้สหายของตนได้พูดอะไร เพื่อนสนิทของปีกปฏิหารณ์ถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป ทั้งสองเดินไปตามทางจนกระทั้งถึงบ้านหลังนึง ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวต่างจำบ้านหลังนนี้ได้ดี มันเป็นบ้านสีขาว หลังคาบ้านสีฟ้า เจ้าของบ้านเดินเข้าไปก่อนและใช้นิ่วของเขากดลงไปยังกริ่ง สีของกริ่งดังขึ้นมา ตามด้วยเสียงของฝีเท้าจากคนในบ้าน อากิฮิโกะยืนรอส่วน อาคาเนะได้แต่ยืนมองจากระยะไกล เมื่อประตูถูกเปิดขึ้น ภาพของผู้หญิงวัยกลางคน ผมสั้น ก็ปรากฏอยู่บนดวงตาของอากิฮิโกะ หญิงคนนี้เห็นหน้าของเด็กหนุ่ม มันทำให้ดวงตาของเธอเปิดกว้าง

     

    สวัสดีครับ คุณแม่นี่คือคำทักทายคำแรก

     

    หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าคุณแม่ได้ทำการสวมกอดเด็กหนุ่ม อาคาเนะที่ยืนอยู่ห่างได้แต่ยิ้ม แม่ของอากิฮิโกะมองมายัง หญิงสาวทรงผมหางม้า เมื่อสายตาของคุณแม่ตรงมายังเด็กสาว เด็กสาวนามอาคาเนะโค้ง คุณแม่ของเด็กหนุ่มปล่อยลูกชายของตนก่อนที่จะตรงไปยังเพื่อนสมัยเด็กของอากิฮิโกะ

     

    ไม่ได้เจอกันนานเลยนะอาคาเนะจังคุณแม่ของอากิฮิโกะยิ้มทักทาย


    ค่ะ..ยินดีที่ได้พบอีกครั้งค่ะ ผู้ถูกทักทายตอบกลับ


    ไม่ต้องมีมารยาทขนาดนั้นก็ได้ คนกันเอง


    ขอบคุณมากค่ะ


    งั้นเข้ามาดื่มชาในบ้านก่อนดีกว่าไหมจ๊ะ

     

    อาคาเนะโค้งขอบคุณก่อนที่จะเดิมตามคุณแม่ของอากิฮิโกะไป ทั้งสามเข้าไปยังบ้านสีขาวที่คุ้นเคย ผู้มาเยือนนั่งลงบนโซฟาตัวเก่า ที่เป็นของบ้านหลังนี้มาหลายปี เมื่อเจ้าของบ้านนั่งลงนั้นทางเด็กหนุ่มก็ยืนขึ้นมาก่อนที่จะเดินตรงไปที่ห้องครัว

     

    อาคาเนะจังเจออากิฮิโกะได้ยังไงจ๊ะ?”


    เพราะป้าจำได้ว่าอาคาเนะย้ายออกไปตั้งหลายปีแล้ว

     

    ไม่ทันที่อาคาเนะจะได้ตอบเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านก็มาพร้อมกับถาดที่มีแก้วน้ำชาวางไว้ สตรีทั้งสองต่างโค้งขอบคุณเด็กหนุ่มผู้นำน้ำชามาเสริพ์ แม้ว่าอากิฮิโกะจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนสนามแข็ง หากทว่าเรื่องงานบ้านคงจะพูดว่าอากิฮิโกะทำได้เนี๊ยบกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก ไม่ว่าจะเรื่องทำอาหาร ที่อากิฮิโกะมีฝีมือพอๆกับเชฟประจำร้านที่มีชื่อเสียง หรือเรื่องงานบ้านต่างๆนา อากิฮิโกะทำได้หมด ทั้งสามต่างเพลิดเพลินไปกับรสชาติของชา

     

    จะว่าไป คุณแม่ได้ดูโทรทัศท์บ้างรึเปล่าครับ?” อากิฮิโกะถาม


    ไม่ได้ดูเลย ทำไมหรอลูกคุณแม่ถามกลับ


    อ่อ..พอดีผมเพิ่งแข่งชนะน่ะครับผู้จุดประเด็นตอบกลับ


    จริงหรอลูก..แม่ไม่เคยรู้เลยผู้เป็นแม่ตกใจก่อนที่มือของเธอจะคว้ารีโมทขึ้นมา

     

    นิ้วของเธอกดปุ่มสั่งให้ภาพจากกล่องสีดำเปิดขึ้น คงจะพูดว่าเป็นไทม์มิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็ได้มั้งนะ เพราะภาพในข่าวมันคือภาพที่อากิฮิโกะเกี่ยวข้องเต็มๆ ข่าวนั้นก็คือการที่เพื่อนร่วมทีมของแชมป์เปี้ยน Super GT ถูกสังหารโหด เด็กหนุ่มถึงกับหน้าซีดทันที แม่ของเขาหันมามองผู้ต้องสงสัยทันที

     

    ลูกอยู่ทีมนี้ไม่ใช่หรอ


    แม่คงจำผิดแล้วล่ะครับผู้ต้องสงสัยแก้ตัว

     

    โชคร้ายหน่อยว่าหลังจากนั้นผู้ประกาศข่าวก็ได้ทำการกล่าวชื่อผู้สูญหายสองคนและแน่นอนหนึ่งในนั้นก็คือคนที่ชื่อ ยามาคูจิ อากิฮิโกะนั่นแหละ คุณแม่ของเด็กหนุ่มจ้องหนักกว่าเดิม อากิฮิโกะถูกสายตาจากคนที่ให้กำเนิดตนเองจ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ อากิฮิโกะเหลือบไปมองเพื่อนสมัยเด็กของตนเองที่นั่งนิ่งๆ

     

    สงสัยคราวนี้ท่าจะลำบากแล้วแฮะนี่คือสิ่งแรกที่อากิฮิโกะนึกขึ้น

     

    ว่าไงลูก..นี่มันหมายความว่าอะไรคำถามกดดันเริ่มปรากฏออกมา

     

    จะเอาไงดี? บอกความจริงเกี่ยวกับไพเรท? ไม่ได้ๆ ถ้าบอกไปรับรองว่าเรื่องยาวแน่ๆ จะให้โกหกต่อไปก็คงลำบากแล้ว แต่แล้วก็มีเสียงตัดผ่านความเงียบ นั่นไม่ใช่เสียงคนอื่นคนไกล แต่นั่นคือเสียงของเพื่อนสมัยเด็กและสมาชิกไพเรท

     

    จริงๆแล้ว อากิฮิโกะเขาไปลองรถรุ่นใหม่ของทีมน่ะค่ะ

     

    คำพูดของอาคาเนะเบี่ยงความสนใจของคุณแม่ไป เธอหันกลับมามองเพื่อนของลูกตัวเองที่นั่งอยู่บนโซฟา

     

    เมื่อวานทางทีมของอากิฮิโกะ นั้นเรียกตัวอากิฮิโกะไปทดลองรถที่จะใช้แข่งในปีหน้าน่ะค่ะ

    ตอนนี้ก็ใกล้จบซีซั่นแล้วด้วย

     

    เมื่อคุณวัยกลางคนฟังจบก็หันไปทางลูกชายตระกูลยามาคูจิก่อนจะออกปากถามว่าทั้งหมดนี่จริงหรือเปล่า? เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบ ซึ่งการพยักหน้าตอบนั้นนำพามาซึ่งคำถามต่อมา

     

    แล้วทำไมลูกไม่บอกแม่ตรงๆล่ะ


    เพราะมันเป็นความลับน่ะแม่อากิฮิโกะตอบ


    ถ้างั้นทำไมถึงอาคาเนะจังถึงรู้เรื่องนี้ได้ล่ะ?”

     

    วินาทีนี้อากิฮิโกะคงคิดว่า คุณแม่ของตัวเองทำไมถึงจู้จี้อย่างนี้ สมองของอากิฮิโกะตันไปหมด

     

    คะ...คือเด็กสาวพูดแบบตะกุกตะกัก

     

    ทั้งอากิฮิโกะและคุณนายยามาคูจิต่างหันมามองหญิงสาวที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

     

    คือว่า...


    ชั้นเป็นแฟนของอากิฮิโกะค่ะอาคาเนะพูดลั่นบ้าน

     

    หะ....นี่คือปฏิกริยาแรกที่แม่ลูกคู่นี้ได้ยิน อาคาเนะพูดจบก็หน้าแดง ไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อหญิงสาวที่กำลังเขินอายก็พูดต่อ

     

    เมื่อวานชั้นไปดูอากิฮิโกะขับรถรุ่นใหม่มาล่ะ มันเร็วจริงๆ


    คิดอย่างงั้นไหมอากิฮิโกะ


    อะ อืมแฟนจำเป็นพยักหน้า


    อย่างงี้นี่เอง...คุณแม่ผู้กำลังสงสัยพูดเบาๆ

     

    ดูเหมือนคำแก้ตัวแปลกๆนั่นจะทำให้ทั้งสองรอดออกมาจากสถานการณ์นี้ได้ หลังจากนั้นสถานการณ์ก็เบาลง แต่ความคาดหวังของคุณแม่ที่จะฝากความหวังไว้กับแฟนสาวจอมปลอมกลับมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองตัดสินใจบอกลาคุณแม่ของเด็กหนุ่มและเดินทางกลับไป ก้าวแรกเมื่อทั้งสองเดินออกไปหน้าบ้านหลังสีขาวนั้น

     

    ขอบคุณมากนะเด็กหนุ่มพูดเบาๆพลางก้าวเท้าต่อไป


    เอ๋?” เด็กสาวเอียงคอ พลางเดินตามเด็กหนุ่มไป


    สำหรับมะกี้ต้องขอบคุณมากๆ ถ้าไม่ได้เธอต้องแย่แล้วแน่ๆ


    ถะ ถะ ถ้าชั้นไม่ช่วยแล้วใครจะช่วยล่ะ?” อาคาเนะแสดงอาการซึนเดเร๊ะอย่างเห็นได้ชัด


    เอาเป็นว่านายติดหนี้ชั้นครั้งนึงแล้วนะเธอพูดต่อโดยไม่มองหน้าของชายหนุ่ม

     

    ว่าแล้วทั้งคู่ก็ตัดสินใจเดินทางกลับเข้าไปสู่จุดหมาย จากบ้านของอากิฮิโกะสู่สนามบินนาริตะนั้นถือว่าไม่ไกลมากเท่าไหร่ เท้าของทั้งสองถึงจุดหมาย ดวงตาได้เห็นผู้คนอันคุ้น แต่ทั้งสองนั้นต่างมองหาผู้นำของตนเอง ผู้นำที่มีชื่อว่า เรย์ หาทกว่าไม่ว่าจะกวาดสายตากว่างเพียงใดก็ไม่สามารถมองเห็นคนที่ชื่อเรย์เลยแม้แต่น้อย มีอะไรผิดปกติหรือเปล่านะ? ไม่นานที่ความคิดนี้เกิดขึ้น สตรีที่มีน้ำเสียงอันไพเราะ ก็ตรงมาหาอากิฮิโกะและอาคาเนะ

     

    มีอะไรงั้นหรออากิระอาคาเนะเอ่ยปากออกถาม

     

    หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าและเคยพูดคุยกับนักขับหนุ่มในยามสงครามนั้นมีชื่อว่า อากิระ เธอเป็นสาวร่างเล็ก ทรงผมสั้นเพียงประบ่า

     

    ช่วยตามดิชั้นมาหน่อยค่ะเธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

     

    นักขับทั้งสองจ้องหน้ากันเองก่อนจะเดินตามสาวร่างเล็กคนนี้ เมื่อทั้งสามมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดจะได้ยินบทสนทนา อยู่ดีๆ ร่างของเธอก็สั่นด้วยความกลัว ก่อนที่จะพยายามพูดออกมา

     

    ชะ ชะ ช่วยด้วยค่ะ


    คะ คะ คุณเรย์ตอนนี้ถูกลอบโจมตีค่ะ

     

    คำพูดคำนี้ทำให้ดวงตาของผู้ฟังเบิกโพลน เรย์โดนลอบโจมตีงั้นหรอ? มีใครมองเส้นทางการเดินทางของเรย์ออกงั้นหรอ?

     

    หะ หะ เห็นว่าสถานการณ์กำลังแย่มาก...


    ขะ ขะ เขาอยากให้พวกคุณไปช่วยเขา

     

    อาคาเนะพยักหน้าก่อนที่จะสวมกอดเด็กสาวที่กำลังหวาดกลัวมือของเธอลูบ พลางปลอบ เมื่อความกลัวถูกสยบลง เด็กสาวร่างเล็กก็ตั้งสติก่อนจะพูด

     

    คุณเรย์ บอกดิชั้นว่าต้องการ Wheel Gear ของพวกคุณมาช่วย


    ตอนนี้ดิชั้นได้ทำการตั้งค่าที่อยู่ของคุณเรย์เรียบร้อยแล้วค่ะ

     

    คนขับทั้งสองต่างพยักหน้า แต่แล้วคนขับชายก็นึกออกว่าตนเองยังไม่มียานรบของตนเอง เขายกมือขึ้นมาก่อนจะเอ่ยออกปากถามถึง Wheel Gear ของตน หญิงสาวร่างเล็กหันหลังก่อนจะก้าวเท้าเพื่อไปที่ไหนซักแห่ง ผู้ที่ไร้ซึ่ง Wheel Gear ของตนเองได้เดินตาม ทั้งสองมาถึงยังรถบรรทุกที่จอดอยู่ใกล้ๆกัน เมื่อรู้ตัวอาคาเนะก็หายไปจากสายตาของเด็กหนุ่มแล้ว ไม่นานนักตู้คอนเทนเนอร์ของรถบรรทุกคันนึงก็ถูกเปิดออก ภาพของยานยนต์สีแดง ที่มีเพื่อนสมัยเด็กของอากิฮิโกะนั่งอยู่ ซักพักนั้น ประตูของตู้คอนเทนเนอร์ก็เปิดขึ้นอีกที รอบนี้มาจากรถบรรทุกอีกคัน เงาสะท้อนดวงตาของเด็กหนุ่มเป็นรถสีฟ้า สีของมันเป็นเสียงเดียวกับผืนนภายามที่ดวงอาทิตย์ยังเจิดจรัศบนท้องฟ้า

     

    นี่คือ Wheel Gear ของคุณค่ะ...Sky ค่ะ

     

    เจ้าของ Wheel Gear เดินเข้าไปในรถบรรทุกก่อนที่จะยืนดูเงาสะท้อนของตนเองบนรถยนต์สีฟ้าคันนี้ ในระหว่างนั้นประตูของคอนเทนเนอร์ก็ปิดลง ผู้ที่อยู่ในภายในหันไปยังประตูที่ถูกปิดสนิทด้วยความตกใจ

     

    อากิฮิโกะ นายเปลี่ยนเป็นชุดไว้สำหรับขับ Wheel Gear ก่อน


    เปลี่ยนเสร็จแล้วบอกชั้นล่ะ จะได้เปิดประตูให้นายได้ซักที

     

    เสียงของเพื่อนสนิทตนเองตะโกนเข้ามา เด็กหนุ่มคว้าเสื้อสำหรับ Wheel Gear ที่แขวนไว้บนผนังตู้คอนเทนเนอร์ มันก็คล้ายๆชุดแข่งนั่นแหละ ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ประตูได้เปิดออก เด็กหนุ่มนั่งมองไปรอบๆ Wheel Gear ของตนเอง เสียงหัวใจของเขาเต้นดังขึ้นเรื่อยๆ นี่คือครั้งที่สองที่เขาจะได้เข้าสู่สงครามอีกครั้ง เขาหวาดกลัว เกรงกลัวต่อความตาย หากทว่า...เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว เขาหลับตาลงลึกๆก่อนที่จะรวบรวมสมาธิ

     

    มันก็เหมือนครั้งแรกที่เราลงสู่สนามจริงนั่นแหละ

     

    เขาพยายามข่มความกลัวของตนเอง เท้าเหยียบคันเร่ง รถของเด็กหนุ่มวิ่งออกสู่ภายนอก ไม่นานนักรถสีแดงก็ได้ตามหลังเขาไป โชคชะตาที่อยู่ที่ล้อของ Wheel Gear ยังคนวิ่งต่อไป ทุกอย่างๆกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×