ลำดับตอนที่ #36
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : [SF]Just so you know
Just so you know
...................... ในชีวิต นอกจากอากาศ คุณขาดอะไรไม่ได้...............
========== Just so you know =========
‘I shouldn't love you but i want to’
แสงแดดแรกของวันสาดลอดม่านสีครีมเข้ามาภายในห้องกว้าง ตาสวยของเจ้าของห้องขยับร่างลุกขึ้นจากที่นอนอย่างงัวเงีย ก่อนจะเหลือบไปมองใบหน้าคมเข้มที่เมื่อคืนหอบผ้าหนีมาหา
“กู..เป็นคนสุดท้ายใช่ไหม๊?”ริมฝีปากอิ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวลงจากที่นอนแล้วหายเข้าห้องน้ำไป...
เขากับคนที่นอนอยู่บนเตียง..เป็นเพื่อนสนิทกัน(?)
- -
“ไม่ปลุกกูวะ”ร่างสูงที่อยู่ในบ๊อกเซอร์ตัวสั้นตัวเดียวเดินออกมาจากห้องด้วยหัวฟูๆ แบบคนเพิ่งตื่นนอน ฮยอกแจหันมองร่างนั้นแล้วหันกลับไปกดไมโครเวฟต่อ
“ก็เห็นว่าหลับ”เรียวปากอิ่มตอบไปเสียงเรียบ ก่อนที่จะหันกลับมามองที่เดิม โดยไม่รู้ว่า อีกคนเข้ามาประชิดตัวแล้ว..
ร่างสูงสอดแขนแกร่งเข้ามาที่เอวบาง ใบหน้าคมคายโน้มเข้าใกล้ใบหน้าใส จนปลายจมูกแทบชิดกัน ฮยอกแจจ้องตาคมนั้นอย่างไม่เกรงกลัว...
“จ้องอยู่นั่นแหละ..จะทำอะไรก็ทำสิ คิบอม”พูจบใบหน้าคมคายก็ยกยิ้มร้ายที่มุมปากตามนิสัย ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงช่วงชิงลมหายใจของอีกฝ่าย เรียวปากอิ่มถูกรุกล้ำโดยลิ้นร้องของอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน เสียงริมฝีปากที่บดขยี้กันเสียดสีไปมาจนเกิดเสียง
Rrrr
เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ของร่างสูงร้องดังขึ้น คิบอมผละออกจากร่างโปร่งแทบจะทันที ขายาววิ่งกลับเข้าห้องเพื่อจะรับสาย ก่อนจะวิ่งออกมาโดยมีเสื้อและกางเกงยีนส์ที่ใส่เมื่อคืนติดมือมาด้วย
“ฮีชอลหายโกรธแล้ว..ไปนะเพื่อน”
และสุดท้าย...ก็ไปทุกครั้ง.....
========== Just so you know =========
ฮยอกแจหยิบกระดานวาดภาพที่เจ้าตัวทิ้งไว้ในห้องเรียนออกมาตั้งบนขาตั้งที่ประจำของตัวเอง เพื่อนในห้องวัยยี้ดูบางตาไปมาก คงเพราะด้วยเวลาเรียนของคาบนี้เลื่อนมาเช้าจนเกินไป...เช้าจนคนที่ตื่นเช้าแบบเขายังรู้สึกว่ามันเกินไป..
“เฮ้...ฮยอกจี้”เสียงของเพื่อนตัวเล็กที่คือสมุดวาดภาพขนาดใหญ่เข้ามาเอ่ยทักทาย พร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงที่ตรงหน้าขาตั้งวาดภาพอันข้างๆ ฮยอกแจ
“ชื่อฮยอกแจ..เรียกฮยอกแจได้ไหม๊”เสียงแหบเอ่ยเรียบๆ พลางหยิบดินสอ EE ออกมาจากกระป๋องที่ไว้สำหรับเก็บเฉพาะดินสอวาดรูป
“น่ารักออก”เรียวปากสวยว่าแล้วยิ้มออกมาอย่างน่ารัก ฮยอกแจพยักหน้าเหมือนเข้าใจ ก่อนจะล้วงเข้าไปในย่ามพื่อหาคัตเตอร์และกระดาษทราย
ดินสอมันยังไม่แหลมพอ...คงต้องเหลาอีกสักหน่อย
มือเรียวหันหน้าไปที่ขอบหน้าต่างใกล้ๆ กับตัวเอง ตาสวยจ้องที่คมมีดบางๆนั่นอย่างระวัง ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นร่างสูงเพรียวของใครบางคนกำลังกอดกระแซะอยู่กับใครก็ไม่รู้
“ฮีชอล”เรียวปากอิ่มพมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่มีดคมจะเฉือนไปในนิ้วเล็ก
“อ๊ะ...!”ร้องออกมาเบาๆ พร้อมกับปล่อยมีดลงกับขอบหน้าต่างนั้น นิ้วสวยยกขึ้นมาดูดเลือดออกอย่างเคยตัว ก่อนจะถูกเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตีมือ แล้วดึงมาจับไว้
“ไม่ระวังเลยให้ตาย...ไปล้างแผลเหอะ”
“เวอร์น่าทงเฮ...”ถึงจะพูดแบบนั้น แต่อีกคนกลับขมวดคิ้วจนยุ่ง แล้วหยิบกระดาษทิชชู่ที่เขามักจะพกไว้มากดแผลไว้ให้
“ก็เหลาดินสออยู่.. ฝุ่นมันลอยอยู่ก็เกาะดิ ไม่รู้ล่ะ ต้องไปล้าง”ว่าจบก็ดึงแขนเรียวให้ตามไป ฮยอกแจยอมลุกเดินไปด้วยเพื่อตัดรำคาน ก่อนจะหันไปเห็นร่างสูงของเพื่อนรัก(?)ยืนมองอยู่ที่กรอบประตู
“มายืนเก็กไรตรงนี้วะมึง”ทงเฮเอ่ยปากถามร่างสูงนั้นอย่างสดใส คิบอมแย้มปากยิ้มอย่างเซ็งๆ
“เรื่องกู...แล้วนี่จะไปไหนกัน”
“เรื่องกูเหมือนกัน..แบร่”ว่าจบร่างเล็กก็ดึงมือขาวนั้นให้วิ่งหนีรอยตรีนของอีกคน ฮยอกแจยิ้มบางๆ แล้วหันไปสบตากับดวงตาสีสวยคู่นั้นที่เขาหลงใหล
...........และหลงรักอย่างไม่มีข้อแม้...........
========== Just so you know =========
‘I don't know how to make the feelings stop’
ดินสอขนาด 6B เขียนลงบนขอบกระดาษวาดรูปที่เจ้าตัวดึงออกมาจากสมุดอย่างหวัดๆ ตากลมสวยเงยหน้าขึ้นจากมันก่อนจะสบตากับร่างสูงที่หันมาพอดี
“ทำไรวะ”เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม ฮยอกแจยิ้มตอบบางๆ เจื่อนๆ แล้วพับกระดาษแผ่นนั้นใส่กระเป๋าเสื้อนักศึกษาไว้
“ไม่ไปหาฮีชอลหรอ”เรียวปากอิ่มร้องถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง อีกคนแอบขมวดคิ้วน้อยๆ แล้วส่ายหัวให้
“ฮีชอลไปทำรายงานกับเพื่อน..วันนี้กูไปนอนกับมึงนะ”
แล้วสุดท้ายลี ฮยอกแจก็ไม่เคยจะได้เป็นคนแรกที่คนตรงหน้าคิดถึง
ร่างโปร่งไขกุญแจเข้าไปในห้องพักของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า แขนเรียวผลักบานประตูเพื่อหวังว่าจะทำให้มันปิดลง
“รอก่อน!”เสียงทุ้งของใครอีกคนร้องมาจากทางเดินด้านนอก ฮยอกแจหันไปมองเพียงเสี้ยววินาที แล้วเดินเข้าไปภายในห้องอย่างไม่สนใจใครคนนั้น
เผื่อมันจะเป็นอีกวิธี ที่เข้าจะหยุดความรู้สึกที่มีต่ออีกคนได้
“ฮยอกแจ...”เสียงทุ้มกระซิบหวานหลังจากสอดแขนแกร่งเข้ามาโอบกอดอีกร่างไว้อย่างไม่ให้รู้ตัว ฮยอกแจยืนนิ่งให้อีกคนทำตามใจ ก่อนจะเอี้ยวตัวไปสบตากับอีกคนอยากอยากรู้ความหมาย
ความหมายที่อีกคนทำแบบนี้...
”ฉันคิดว่าฮีชอลกำลังมีคนอื่นล่ะ”น้ำเสียงและคำพูดที่แสนสุภาพบอกกับเขาอย่างแผ่วเบา ใบหน้าคมพูดทั้งที่ไม่แม้กระทั่งที่จะมีสายตาเจ็บปวด...แต่มันจะไปมีประโยชน์อะไร ถ้าในใจของอีกคนมันรักคนอื่น
“แล้ว?”เรียวปากอิ่มสวยถามกลับไปเสียงเรียบ ตากลมไม่ได้ฉายแววอยากรู้นัก
“เล่าให้ฟังเฉยๆ...”ว่าจบจมูกโด่งก็ก้มลงสูดความหอมจากพวงแก้มใสเบาๆ
“................”
ร่างโปร่งถูกอุ้มตัวลอยขึ้นจากพื้น ขายาวตรงไปที่ประตูห้องนอนอย่างคุ้นเคย ก่อนที่ทั้งคู่จะหายเข้าไปในนั้น....ทั้งคืน....
========== Just so you know =========
‘I've tried my best to let go of you. But I don't want to’
ร่างโปร่งย่างเท้าเข้าไปในห้องเขียนแบบในเช้าวันใหม่ ตาสวยมองหาเพื่อนตัวเล็กที่มักจะจองโต๊ะประจำไว้ให้ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหา
“ทงเฮ”เอ่ยทักทายเพื่อนตัวเล็กแล้วยิ้มให้บางๆ ทงเฮพยักหน้ารับ พลางลงดินสอเพื่อดรออิ้งภาพตรงหน้าอย่างตั้งใจ
“วาดอะไรวะ..เห็นมาหลายวันละ”
“เรื่องของกูเหอะ”ฮยอกแจตบเรียบๆ โดยที่ตาใสๆ ไม่ได้ละมาจากรูปภาพตรงหน้าสักนิด
“ฮยอกแจ...กูมีเรื่องจะถาม”คนตัวเล็กเอ่ยถามหลังจากเงียบไปนาน ฮยอกแจวางดินสอใน
มือลงกับโต๊ะเล็กที่เจ้าตัวใช้วางของ ใบหน้าหวานหันมองเพื่อนอย่างตั้งใจจะฟังว่าคำถามนั้นคืออะไร
“มึง...”
“มึงอะไร”
“มึงชอบคิบอมใช่ไหม๊”เสียงเล็กว่า พร้อมกับตาสวยที่จ้องหน้าคนถามนิ่งๆ ทงเฮหันมาจ้องตากลับอย่างใคร่รู้ จนคนโดนถามเป็นฝ่ายละสายตาหนีไปเอง เรียวปากอิ่มเม้มเบาๆ
“ถามทำไม”เอ่ยถามกลับไปเสียงเบา ทงเฮส่ายหัวเล็กๆ ก่อนที่จะขยับตัวและเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ อีกฝ่าย มือเรียวตบไหล่ลาดของเพื่อนเบาๆ แล้วตอบออกไปเสียงนิ่ง
“กูแค่สงสัย...เพราะแววตาของมึงที่มึงมัน มันไม่ต่างกับที่กูมองมึง”
ความงุนงงประดังเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่คำบอกรักอ้อมๆ ของเพื่อนสนิทที่สุดอีกคนถูกเอ่ยออกมา ฮยอกแจลุกอกมาจากที่นั่นเงียบๆ ขาเรียวเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ใกล้กับตึกคณะ
“เป็นไรวะ”สียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยเอ่ยทักจากด้านหลัง คนตัวบางหันไปมองแล้วส่ายหัวเบาๆ
“ช่วงนี้มึงเครียดๆ นะ”
“กูอยากอยู่คนเดียว”จะให้พูดจริงๆ คือเขาไม่อยากเจอหน้าคนคนนี้ด้วยจะมากกว่า
“หรอ ..อือ...งั้นกูไปเรียนละ แล้วเดี๋ยวคืนนี้ไปหานะ”คิบอมว่าเรียบๆ ก่อนจะลุกเต็มความสูงแล้วทำม่าจะเดินออกไป
“ทงเฮชอบกู...”เสสียงแหบเล็กว่าขึ้นมา ขายาวชะงักก่อนจะหันมามอง้วยดวงตาขุ่นๆ
“แล้ว?”
“กูคิดว่าเราควรจะเลิกทำแบบนี้ มันไม่ดีกับฮีชอล แล้วกูก็อยากลองคบกับงเฮดู”ว่าโดยไม่สบตากับอีกคนแม้แต่เสี้ยวเดียว คิบอมเดินเข้าไปหาร่างบอบบาง มือใหญ่คว้าไหล่ลาดมาไว้ในมืออย่างแรงๆ ก่อนจะก้มลงกระซิบเสียงเข้ม
“แล้วมึงคิดว่าทงเฮจะทำให้มึงมีความสุขได้เท่าที่กูทำให้มึงหรอฮยอกแจ”
“แต่อย่างน้อย ทงเฮก็รักกู...ไม่ใช่แค่เอากูไว้ระบายความใคร่เหมือนมึง”
========== Just so you know =========
just so you know
ริมฝีปากหยับบดเบียดลงที่กลีบปากชมพูระเรื่ออย่างเร่าร้อน ผิวขาวเนียนลื่นมือที่แต้มเต็มไปด้วยรอยรักถูกมือใหญ่รุกล้ำอย่างลุ่มหลง ผิวเนื้อแนบเบียดกันไปมาอย่างไม่รู้เบื่อ มือเรียวเล็กขยี้เรียนผมสีเข้มของร่างกายที่ใหญ่กว่าด้วยอารมณ์รักที่พลุ่งพล่าน
“รัก..รักมากรู้ไหม๊”เสียงแหบเล็กเอ่ยบอกโดยไร้ซึ่งเสียงตอบ
“ซักวันกูจะเลิกกับฮีชอลเพื่อมาบอกรักมึง กูสัญญา”
========== Just so you know =========
ส่วนตัวผม...ขาดเขาไม่ได้ “คิม คิบอม”
========== Just so you know#END =========
...................... ในชีวิต นอกจากอากาศ คุณขาดอะไรไม่ได้...............
========== Just so you know =========
‘I shouldn't love you but i want to’
แสงแดดแรกของวันสาดลอดม่านสีครีมเข้ามาภายในห้องกว้าง ตาสวยของเจ้าของห้องขยับร่างลุกขึ้นจากที่นอนอย่างงัวเงีย ก่อนจะเหลือบไปมองใบหน้าคมเข้มที่เมื่อคืนหอบผ้าหนีมาหา
“กู..เป็นคนสุดท้ายใช่ไหม๊?”ริมฝีปากอิ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวลงจากที่นอนแล้วหายเข้าห้องน้ำไป...
เขากับคนที่นอนอยู่บนเตียง..เป็นเพื่อนสนิทกัน(?)
- -
“ไม่ปลุกกูวะ”ร่างสูงที่อยู่ในบ๊อกเซอร์ตัวสั้นตัวเดียวเดินออกมาจากห้องด้วยหัวฟูๆ แบบคนเพิ่งตื่นนอน ฮยอกแจหันมองร่างนั้นแล้วหันกลับไปกดไมโครเวฟต่อ
“ก็เห็นว่าหลับ”เรียวปากอิ่มตอบไปเสียงเรียบ ก่อนที่จะหันกลับมามองที่เดิม โดยไม่รู้ว่า อีกคนเข้ามาประชิดตัวแล้ว..
ร่างสูงสอดแขนแกร่งเข้ามาที่เอวบาง ใบหน้าคมคายโน้มเข้าใกล้ใบหน้าใส จนปลายจมูกแทบชิดกัน ฮยอกแจจ้องตาคมนั้นอย่างไม่เกรงกลัว...
“จ้องอยู่นั่นแหละ..จะทำอะไรก็ทำสิ คิบอม”พูจบใบหน้าคมคายก็ยกยิ้มร้ายที่มุมปากตามนิสัย ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงช่วงชิงลมหายใจของอีกฝ่าย เรียวปากอิ่มถูกรุกล้ำโดยลิ้นร้องของอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน เสียงริมฝีปากที่บดขยี้กันเสียดสีไปมาจนเกิดเสียง
Rrrr
เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ของร่างสูงร้องดังขึ้น คิบอมผละออกจากร่างโปร่งแทบจะทันที ขายาววิ่งกลับเข้าห้องเพื่อจะรับสาย ก่อนจะวิ่งออกมาโดยมีเสื้อและกางเกงยีนส์ที่ใส่เมื่อคืนติดมือมาด้วย
“ฮีชอลหายโกรธแล้ว..ไปนะเพื่อน”
และสุดท้าย...ก็ไปทุกครั้ง.....
========== Just so you know =========
ฮยอกแจหยิบกระดานวาดภาพที่เจ้าตัวทิ้งไว้ในห้องเรียนออกมาตั้งบนขาตั้งที่ประจำของตัวเอง เพื่อนในห้องวัยยี้ดูบางตาไปมาก คงเพราะด้วยเวลาเรียนของคาบนี้เลื่อนมาเช้าจนเกินไป...เช้าจนคนที่ตื่นเช้าแบบเขายังรู้สึกว่ามันเกินไป..
“เฮ้...ฮยอกจี้”เสียงของเพื่อนตัวเล็กที่คือสมุดวาดภาพขนาดใหญ่เข้ามาเอ่ยทักทาย พร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงที่ตรงหน้าขาตั้งวาดภาพอันข้างๆ ฮยอกแจ
“ชื่อฮยอกแจ..เรียกฮยอกแจได้ไหม๊”เสียงแหบเอ่ยเรียบๆ พลางหยิบดินสอ EE ออกมาจากกระป๋องที่ไว้สำหรับเก็บเฉพาะดินสอวาดรูป
“น่ารักออก”เรียวปากสวยว่าแล้วยิ้มออกมาอย่างน่ารัก ฮยอกแจพยักหน้าเหมือนเข้าใจ ก่อนจะล้วงเข้าไปในย่ามพื่อหาคัตเตอร์และกระดาษทราย
ดินสอมันยังไม่แหลมพอ...คงต้องเหลาอีกสักหน่อย
มือเรียวหันหน้าไปที่ขอบหน้าต่างใกล้ๆ กับตัวเอง ตาสวยจ้องที่คมมีดบางๆนั่นอย่างระวัง ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นร่างสูงเพรียวของใครบางคนกำลังกอดกระแซะอยู่กับใครก็ไม่รู้
“ฮีชอล”เรียวปากอิ่มพมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่มีดคมจะเฉือนไปในนิ้วเล็ก
“อ๊ะ...!”ร้องออกมาเบาๆ พร้อมกับปล่อยมีดลงกับขอบหน้าต่างนั้น นิ้วสวยยกขึ้นมาดูดเลือดออกอย่างเคยตัว ก่อนจะถูกเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตีมือ แล้วดึงมาจับไว้
“ไม่ระวังเลยให้ตาย...ไปล้างแผลเหอะ”
“เวอร์น่าทงเฮ...”ถึงจะพูดแบบนั้น แต่อีกคนกลับขมวดคิ้วจนยุ่ง แล้วหยิบกระดาษทิชชู่ที่เขามักจะพกไว้มากดแผลไว้ให้
“ก็เหลาดินสออยู่.. ฝุ่นมันลอยอยู่ก็เกาะดิ ไม่รู้ล่ะ ต้องไปล้าง”ว่าจบก็ดึงแขนเรียวให้ตามไป ฮยอกแจยอมลุกเดินไปด้วยเพื่อตัดรำคาน ก่อนจะหันไปเห็นร่างสูงของเพื่อนรัก(?)ยืนมองอยู่ที่กรอบประตู
“มายืนเก็กไรตรงนี้วะมึง”ทงเฮเอ่ยปากถามร่างสูงนั้นอย่างสดใส คิบอมแย้มปากยิ้มอย่างเซ็งๆ
“เรื่องกู...แล้วนี่จะไปไหนกัน”
“เรื่องกูเหมือนกัน..แบร่”ว่าจบร่างเล็กก็ดึงมือขาวนั้นให้วิ่งหนีรอยตรีนของอีกคน ฮยอกแจยิ้มบางๆ แล้วหันไปสบตากับดวงตาสีสวยคู่นั้นที่เขาหลงใหล
...........และหลงรักอย่างไม่มีข้อแม้...........
========== Just so you know =========
‘I don't know how to make the feelings stop’
ดินสอขนาด 6B เขียนลงบนขอบกระดาษวาดรูปที่เจ้าตัวดึงออกมาจากสมุดอย่างหวัดๆ ตากลมสวยเงยหน้าขึ้นจากมันก่อนจะสบตากับร่างสูงที่หันมาพอดี
“ทำไรวะ”เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม ฮยอกแจยิ้มตอบบางๆ เจื่อนๆ แล้วพับกระดาษแผ่นนั้นใส่กระเป๋าเสื้อนักศึกษาไว้
“ไม่ไปหาฮีชอลหรอ”เรียวปากอิ่มร้องถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง อีกคนแอบขมวดคิ้วน้อยๆ แล้วส่ายหัวให้
“ฮีชอลไปทำรายงานกับเพื่อน..วันนี้กูไปนอนกับมึงนะ”
แล้วสุดท้ายลี ฮยอกแจก็ไม่เคยจะได้เป็นคนแรกที่คนตรงหน้าคิดถึง
ร่างโปร่งไขกุญแจเข้าไปในห้องพักของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า แขนเรียวผลักบานประตูเพื่อหวังว่าจะทำให้มันปิดลง
“รอก่อน!”เสียงทุ้งของใครอีกคนร้องมาจากทางเดินด้านนอก ฮยอกแจหันไปมองเพียงเสี้ยววินาที แล้วเดินเข้าไปภายในห้องอย่างไม่สนใจใครคนนั้น
เผื่อมันจะเป็นอีกวิธี ที่เข้าจะหยุดความรู้สึกที่มีต่ออีกคนได้
“ฮยอกแจ...”เสียงทุ้มกระซิบหวานหลังจากสอดแขนแกร่งเข้ามาโอบกอดอีกร่างไว้อย่างไม่ให้รู้ตัว ฮยอกแจยืนนิ่งให้อีกคนทำตามใจ ก่อนจะเอี้ยวตัวไปสบตากับอีกคนอยากอยากรู้ความหมาย
ความหมายที่อีกคนทำแบบนี้...
”ฉันคิดว่าฮีชอลกำลังมีคนอื่นล่ะ”น้ำเสียงและคำพูดที่แสนสุภาพบอกกับเขาอย่างแผ่วเบา ใบหน้าคมพูดทั้งที่ไม่แม้กระทั่งที่จะมีสายตาเจ็บปวด...แต่มันจะไปมีประโยชน์อะไร ถ้าในใจของอีกคนมันรักคนอื่น
“แล้ว?”เรียวปากอิ่มสวยถามกลับไปเสียงเรียบ ตากลมไม่ได้ฉายแววอยากรู้นัก
“เล่าให้ฟังเฉยๆ...”ว่าจบจมูกโด่งก็ก้มลงสูดความหอมจากพวงแก้มใสเบาๆ
“................”
ร่างโปร่งถูกอุ้มตัวลอยขึ้นจากพื้น ขายาวตรงไปที่ประตูห้องนอนอย่างคุ้นเคย ก่อนที่ทั้งคู่จะหายเข้าไปในนั้น....ทั้งคืน....
========== Just so you know =========
‘I've tried my best to let go of you. But I don't want to’
ร่างโปร่งย่างเท้าเข้าไปในห้องเขียนแบบในเช้าวันใหม่ ตาสวยมองหาเพื่อนตัวเล็กที่มักจะจองโต๊ะประจำไว้ให้ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหา
“ทงเฮ”เอ่ยทักทายเพื่อนตัวเล็กแล้วยิ้มให้บางๆ ทงเฮพยักหน้ารับ พลางลงดินสอเพื่อดรออิ้งภาพตรงหน้าอย่างตั้งใจ
“วาดอะไรวะ..เห็นมาหลายวันละ”
“เรื่องของกูเหอะ”ฮยอกแจตบเรียบๆ โดยที่ตาใสๆ ไม่ได้ละมาจากรูปภาพตรงหน้าสักนิด
“ฮยอกแจ...กูมีเรื่องจะถาม”คนตัวเล็กเอ่ยถามหลังจากเงียบไปนาน ฮยอกแจวางดินสอใน
มือลงกับโต๊ะเล็กที่เจ้าตัวใช้วางของ ใบหน้าหวานหันมองเพื่อนอย่างตั้งใจจะฟังว่าคำถามนั้นคืออะไร
“มึง...”
“มึงอะไร”
“มึงชอบคิบอมใช่ไหม๊”เสียงเล็กว่า พร้อมกับตาสวยที่จ้องหน้าคนถามนิ่งๆ ทงเฮหันมาจ้องตากลับอย่างใคร่รู้ จนคนโดนถามเป็นฝ่ายละสายตาหนีไปเอง เรียวปากอิ่มเม้มเบาๆ
“ถามทำไม”เอ่ยถามกลับไปเสียงเบา ทงเฮส่ายหัวเล็กๆ ก่อนที่จะขยับตัวและเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ อีกฝ่าย มือเรียวตบไหล่ลาดของเพื่อนเบาๆ แล้วตอบออกไปเสียงนิ่ง
“กูแค่สงสัย...เพราะแววตาของมึงที่มึงมัน มันไม่ต่างกับที่กูมองมึง”
ความงุนงงประดังเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่คำบอกรักอ้อมๆ ของเพื่อนสนิทที่สุดอีกคนถูกเอ่ยออกมา ฮยอกแจลุกอกมาจากที่นั่นเงียบๆ ขาเรียวเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ใกล้กับตึกคณะ
“เป็นไรวะ”สียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยเอ่ยทักจากด้านหลัง คนตัวบางหันไปมองแล้วส่ายหัวเบาๆ
“ช่วงนี้มึงเครียดๆ นะ”
“กูอยากอยู่คนเดียว”จะให้พูดจริงๆ คือเขาไม่อยากเจอหน้าคนคนนี้ด้วยจะมากกว่า
“หรอ ..อือ...งั้นกูไปเรียนละ แล้วเดี๋ยวคืนนี้ไปหานะ”คิบอมว่าเรียบๆ ก่อนจะลุกเต็มความสูงแล้วทำม่าจะเดินออกไป
“ทงเฮชอบกู...”เสสียงแหบเล็กว่าขึ้นมา ขายาวชะงักก่อนจะหันมามอง้วยดวงตาขุ่นๆ
“แล้ว?”
“กูคิดว่าเราควรจะเลิกทำแบบนี้ มันไม่ดีกับฮีชอล แล้วกูก็อยากลองคบกับงเฮดู”ว่าโดยไม่สบตากับอีกคนแม้แต่เสี้ยวเดียว คิบอมเดินเข้าไปหาร่างบอบบาง มือใหญ่คว้าไหล่ลาดมาไว้ในมืออย่างแรงๆ ก่อนจะก้มลงกระซิบเสียงเข้ม
“แล้วมึงคิดว่าทงเฮจะทำให้มึงมีความสุขได้เท่าที่กูทำให้มึงหรอฮยอกแจ”
“แต่อย่างน้อย ทงเฮก็รักกู...ไม่ใช่แค่เอากูไว้ระบายความใคร่เหมือนมึง”
========== Just so you know =========
just so you know
ริมฝีปากหยับบดเบียดลงที่กลีบปากชมพูระเรื่ออย่างเร่าร้อน ผิวขาวเนียนลื่นมือที่แต้มเต็มไปด้วยรอยรักถูกมือใหญ่รุกล้ำอย่างลุ่มหลง ผิวเนื้อแนบเบียดกันไปมาอย่างไม่รู้เบื่อ มือเรียวเล็กขยี้เรียนผมสีเข้มของร่างกายที่ใหญ่กว่าด้วยอารมณ์รักที่พลุ่งพล่าน
“รัก..รักมากรู้ไหม๊”เสียงแหบเล็กเอ่ยบอกโดยไร้ซึ่งเสียงตอบ
“ซักวันกูจะเลิกกับฮีชอลเพื่อมาบอกรักมึง กูสัญญา”
========== Just so you know =========
ส่วนตัวผม...ขาดเขาไม่ได้ “คิม คิบอม”
========== Just so you know#END =========
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น