ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    STOP! เลือกได้ยัง? ... ไอ้ตัวร้าย [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #22 : #18# หูไม่ตรงกับตา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 340
      1
      31 มี.ค. 52






    ต้องการเพลงใหม่ๆ ใช่มั้ย คลิกที่นี่





     
     
     
                     ผมนอนหงายก่ายหน้าผากอย่างสงบอยู่ในห้อง เสียงบอกเล่าของไอ้ซันราวกับโดนสะกดจิต ผมไม่ได้ฟังมันพูดอะไรต่อจากนั้น ผมวางสายเพื่อนไป พร้อมกับความรู้ที่ปะปนกัน





     
    “......................”
     
     
     
                     เสียงเคาะประตูห้องเบาๆ ดังขึ้นหลังเหมือนกับมาปลุกผม ยันตัวลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะร้องตะโกนกลับ

     
    “มีไร"


    “เฮียแชมป์ให้มาตาม มีเรื่องจะคุย”วินนี่บอก แล้วก็เหมือนจะเดินกลับไป ผมขยี้หัวตัวเองเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง 








     
                     ผมพาตัวเองลงมาจนถึงห้องนั่งเล่น ตาก็มองไปรอบๆ นั้น ก่อนจะไปสะดุดกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบที่วางอยู่ใกล้ๆ ตรงนั้น


     
    “มาแล้วหรอ”พี่ชายของผมร้องถามพร้อมกับเดินเข้ามา ผมพยักหน้าแล้วยิ้มจางๆ เหมือนคนไร้อารมณ์

    “พี่เอิงกับไอ้เอิ๊กจะมาอยูด้วย เพราะคอนโดมันพัง ไอ้เอิ๊กเอาสีไปพ่นเล่น กำลังทำใหม่”เฮียแชมป์เข้าประเด็นตรงๆ ผมพยักหน้าเข้าใจ ทั้งที่มันก็แค่เข้ารูหูเท่านั้น
     
    “มาวันไหนอ่ะเฮีย”วินนี่โผล่หน้าเข้ามาถาม พร้อมกับถือแก้วน้ำเย็นในมือ ผมฉวยแก้วนั้นจากมือไอ้วินนี่มาดื่มรวดเดียว แล้วส่งคืนน้องพร้อมกับถอนใจ
     
     
    .......................... นี่กูกำลังเครียดเรื่องไอ้จิงจนไม่สนใจใครเลยหรอวะ.....................






     
    “เดี๋ยวก็มาถึงละ นั่นไงๆ”ว่าจบเฮียแชมป์ก็ชี้ไปที่MASDA3สีดำเงาที่ขับเข้ามาจอดตรงประตูเข้าบ้าน ผมชะเง้อคอไปมองนิดนึง ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
     
    “ปีนี้ไอ้เอิ๊กมันโตขึ้นเยอเลยว่ะ”ผมหันไปพูดกับวินนี่ ที่ดูจะเห็นด้วย พี่เอิงกับไอ้เอิ๊กเป็นลูกของอาที่เป็นน้องชายแท้ๆ ของพ่อ 



            อาสองเป็นเจ้าของไร่อยู่ปากช่อง ปลูกหลายอย่าง มีที่หลายสิบไร่ อาจจะเป็นร้อยก็ได้ผมก็ไม่รู้



    “หวัดดีครับเฮียแชมป์ เฮียท็อป พี่วินนี่”ไอ้เอิ๊กร้องทักพร้อมกับยกมือไว้ประหลกๆ พวกผมยิ้มให้มัน ก่อนจะคว้าคอมันมากอดตามประสาคนสนิทกัน 

    “หวัดดีพี่เอิง”เฮียแชมป์ทักพี่เอิงที่อายุมากกว่าไม่กี่เดือน แต่เรียนรุ่นพี่อย่างสนิทสนม ผมกับวินนี่ยกมือไหว้ตามรุ่นตามศักดิ์ ก่อนจะเชื้อเชิญเข้าบ้านกัน
     
     
                     เรามานั่งรวมกันที่ห้องนั่งเล่น หลังจากที่พี่เอิงกะไอ้เอิ๊กเอาของไปเก็บที่ห้องเรียบร้อยแล้ว ผมที่ยังคงเครียดเล็กๆ กับเรื่องที่ไอ้ซันพูด ไม่ค่อยจะมีสติฟังที่คนอื่นคุยกันเท่าไร

     
    “ปีนี้ไอ้เอิ๊กมันม.4 แล้ว แต่ไม่เอาไหน คบแต่กับเพื่อนทะโมน”พี่เอิงว่า พลางตบหัวน้องตัวเองเบาๆ ซึ่งไอ้เอิ๊กเองก็แอบค้อนพี่มันไป 

    ว่าไป...ที่ว่าทะโมนอ่ะ มันก็3.9นะพี่เอิงไอ้เอิ๊กว่า แล้วยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ

    ว่าแต่จะมาอยู่นานไหม๊พี่เอิงเฮียชมป์ถามเสียงเรียบ พี่เอิงยิ้มนิดนึงก่อนจะตอบออกมา..

    พี่ซื้อบ้านไว้อ่ะ ตอนนี้ยังเหลืออีก 40 เปอร์เซ็นจะเสร็จ คงอีก 3-4 เดือนพี่เอิงสาธยายให้ฟังแล้วยิ้มออกมา 





           มองรอยยิ้มของพี่เอิงแล้วอดยิ้มไม่ได้...หน้าหวานจนถ้าไม่เป็นพี่ผมคงจีบ มาดามอกที่มีลากเลาจะหักซะ... พี่เอิงหน้าขาวๆ ตัวขาวๆ มีลักยิ้มนิดนึง จมูกไม่ได้โด่งอะไรมากนัก ผมไม่ยาวจนเกินไป ดูสะอาดตา แต่เป็นคนที่ตาคมมากๆ พอหันไปมองไอ้เอิ๊ก จะว่าหน้าเหมือนพี่เอิงก็ไม่ขนาดนั้น มันเหมือนพี่เอิง แต่คล้ำกว่า มีลักยิ้มข้างซ้ายข้างเดียว ตัดรองทรงต่ำ...มันดูหล่อหล่อ แล้วพี่เอิงดูหล่อสะอาด...แต่ก็ไม่หล่อเท่ากูหรอก
    T^T
     
     
                     ผมถอนหายใจเป็นรอบที่แปดจนวินนี่มันรำคาณออกปากไล่ผมให้ไปเอาลมออกจากปอดไกลๆ ผมก็ว่าง่ายครับ เดินหางลู่หูตกไปที่สนาม ก่อนที่ไอ้ซันจะโทรเข้ามา...
     
     
    มีอะไรครับเพื่อนผมรับสายอย่างเนือย ใจห่อเหี่ยวยิ่งกว่าตีนกาบนหน้ากว่าคุณป้าข้างบ้าน 

    กูไปสืบเรื่องหมิวให้มึงมาพูดจบผมก็สะอึกไปทีนึง ก่อนจะครางอือในลำคอให้มันพูดไป...

    หมิวเนี่ยดูเหมือนจะมาชอบไอ้จิงก่อน ออกแนวว่าส่งสายตามา ไอ้จิงเลยสานต่อ..มันหยุดไปนิดนึงเหมือนจะรอให้ผมพุดอะไร แต่นาทีนี้กูพูดไม่ออกหรอก..เมียในอนาคตกำลังนอกใจนะT^T
    ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปถึงไหน เพราะจูนบอกว่าจิงดูเหมือนจะมีอย่างอื่นที่สำคัญกว่าผู้หญิงคนนั้นทำอยู่ไอ้ซันว่าต่อ ผมถอนหายใจไล่มวนอากาศในอกออกไป ก่อนจะเอ่ยปากบอกมันออกไป...
     
    กูไม่สนใจหรอกว่าอะไรที่สำคัญ...แต่กูอยารู้ว่าไอ้จิงมันลึกซึ้งกับคนคนนั้นขนาดไหน ถ้าไม่เห็นด้วยตากูจะไม่เชื่อ!”ผมว่า แล้วกดตัดสาย
     





                     คุณอาจจะแปลกใจที่ผมไม่ลุกขึ้นมาโวยวายหรอทำตัวจิตตกมากมาย เพราะที่จริงแล้วที่ไอ้ซันบอกมาผมยังไม่เห็นด้วยตาหน่ะสิ ผมมั่นคงพอที่จะเชื่อใจไอ้จิง แต่ก็นั่นแหละพอรู้นิสัยมันมาบ้างว่าเวลาคบใครมันก็จะดูคนอื่นด้วย ก็เลยเลือกที่จะไม่ถามมันตรงๆ ...เพราะมันคงปฏิเสธ
     
     
     





    ---------------------------------------------------------*
     



     


                 ผมขับรถเข้าสู่ตัวคณะอย่างไม่รีบเร่ง เมื่อคืนไอ้จิงไม่ได้โทรหา แต่ใช้มือถือของเบลส่งข้อความาแทน ผมยิ้มให้กับมันพร้อมความรู้สึกที่ยังเคลือบแคลงใจอยู่เล็กน้อย...เล็กน้อยจริงๆ เมื่อเทียบกับที่ไว้ใจ

     
    มาเช้าเชียว วันนี้ไม่ไปเกยราชรถรับใครหรอฟี่ถาม หลังจากที่ผมเดินมาถึงที่โต๊ะประจำ ผมยิ้มบางๆ ไม่ตอบอะไร ก่อนจะหันไปมองไอ้นักเรียนทุนดนตรีที่นั่งเล่นเกมส์กดราคาถูกอยู่ข้างๆ ไอ้ฟี่

    มึงเอาแต่เช้าเลยหรอวะผมว่า มันเงยหน้าที่ใส่แว่นมีตาแดงๆ ช้ำๆ อยู่ขึ้นมาสบนิดนึงแล้วยิ้มให้...

    กูไปห้องน้ำแปปนึงนะว่าจบไอ้มิ้นก็ลุกพรวดพราดไปพร้อมกระเป๋าเรียน โดยไม่ลืมเก็บเกมส์นั่นใส่ไปด้วย 



     
                     ผมมองตาหลังผอมๆ นั่นไปแบบงงๆ ก่อนที่จะหันมามองไอ้ฟี่ที่ดูเหมือนจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรที่เพื่อนรักมันมีอาการเหมือนมนุษย์เป็นริดสีดวง

     
    มึงไม่ไปดูเพื่อนเลิฟมึงหน่อยหรอผมเอ่ยปากถาม ไอ้ฟี่หันมาเลิกคิ้วใส่แล้วยิ้มตอบกวนๆ

    มันไม่ตายหรอกน่ามึง..แล้วถ้ากูไปมึงก็นั่งคนเดียวดิผมพยักหน้าเบาๆ ฟังเหตุผลมันไป ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาไอ้จิง...

    ไอ้จิง กับจูนแล้วก็เบลไปกินด้าวกัน ไอ้ซันไปคุยเรื่องงานสโมกับไอ้วัติไอ้ฟี่ว่า ผมไหวไหล่เบาๆ แล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า...ว่าแต่ผมเองก็หิวๆ แหะ ไปหาไรกินดีกว่า...
     
    กูว่าจะตามพวกนั้นไปกินข้าว..ไปป่าว?ผมเอ่ยปากถามป็นมารยาท เพราะรู้ว่าไอ้มิ้นจะต้องทำข้าวเช้าประเคนมันมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย

    “ไม่อ่ะ”มันว่า พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วยิ้มให้ผมนิดๆ เดาว่าคงจะโทรไปหาวินนี่สินะ
     
     
     
                     ผมเดินถือของของตัวเองมาจนถึงร้านที่เรามักมากินข้าวประจำ ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะไปสะดุดกับการแต่งหน้าแนวร็อคอังกฤษของเบล ผมเดินตรงไปหาอย่างไม่รอช้า ก่อนจะยิ้มทักทายกันตามประสา
     
    “แล้วจิงอ่ะ”ผมถามเสียงเรียบ ทั้งสองสาวมองหน้ากันแล้วไหวไหล่นิดๆ ผมเองก็ไม่ถามอะไรต่อ หันไปสั่งข้าวที่จะกินกับพนักงานของร้านที่ดูท่าว่าจะเพิ่งมาทำงานใหม่ เพราะไม่เคยเห็นหน้า

    “กระเพราะหมูสับไข่ดาว”




     
     
     
     
                     เราสามคนกินกันจนเสร็จ ก็เหลือเวลาก่อนเข้าเรียนไม่มากแล้ว ผมเดินไปจ่ายที่เคาน์เตอร์แทนอีกสองคน ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับกระเป๋าวิกตองขนาดกลางที่วงอยู่ที่บนพื้นด้านใน เหมือนกระเป๋าที่ไอ้ฟี่ซื้อให้ไอ้จิงตอนวันเกิดปีที่แล้วเลยแหะ

     
    “ท็อป เสร็จยัง”เบลหันมาเร่งผมรับเงินทอนมาไว้ในมือแล้วเดินออกมา โดยที่ไม่ลืมจะหันกลับไปมองที่นั่นอยู่...

    มีไรหรอเบลถามอย่างอยากรู้ ผมหันมายิ้มนิดนึงแล้วส่ายหัวบอกไม่มีอะไร





     
    .............................. บางทีผมอาจจะคิดมากไปเอง........................................
     
     
     



                 ผมเข้าห้องเรียนก่อนเวลาประมาณ 3 นาที ไอ้จิงกับไอ้ซันนั่งอยู่ในนี้ก่อนแล้ว พร้อมด้วยไอ้ฟี่ที่ดูเหมือนหลังๆ จะไม่ค่อยตัวติดกับไอ้มิ้นมันเท่าไร....

     
    มิ้นอ่ะจูนสะกิดแขนไอ้ฟี่เพื่อถาม 

    มุ้งมาหา ไปกับเขาแล้วไอ่ฟี่ตอบสบายๆ ก่อนจหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทร
     
                     ผมหันไปมองหน้าไอ้จิง มันหันมายิ้มบางๆ ให้ผม ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วยิ้มกลับไปให้มัน

     
    เมื่อเช้าไม่ได้ไปกินข้าวกับจูนมันหรอผมถามโดยไม่คิดอะไร ไอ้จิงมองหน้าผมแล้วอึ้งนิดๆ ก่อนจะยิ้มตอบออกมาอย่างไม่เป้นธรรมชาติ

    กะ..กู..กู..ไปกินก๊วยเตี๋ยวคุณว่าธรรมชาติไหม๊ล่ะครับ? พูดอะไรอึกๆ อักๆ
    วันนี้เย็นว่างมะ..ผมเริ่มลองเชิง ไอ้จิงกัดปากเบาๆ แล้วส่ายหัวพรืด...
     
     
     
    ............................... กูไว้ใจมึงได้ไหม๊เนี่ยไอ้จิง.............................
     






     
                     คลาสนี้จบลงก่อนเที่ยงไม่ถึงห้านาที พวกผมลุกขึ้นกันพรึบพรับ ก่อนที่ไอ้ซันจะแตะไหล่ผมให้หันไปดูไอ้จิงที่ดูลุกลนแบบแปลกๆ

     
    มันเป็นไรวะไอ้ซันถาม ผมไหวไหล่ไม่รู้ และทำเหมือนไม่ได้สนใจ ก่อนไอ้จิงจะหยิบโทรศัพท์ออกมารับสาย
     
     
     
    ครับไอ้จิงว่า ผมหันไปสบตาไอ้ซันนิดนึงแล้วขมวดคิ้ว

    .................จากเรดาที่ส่งต่อมาจากไอ้ซันบ่งบอกผมว่าเสียงจากอีกฝั่งเป็นผู้หญิง - -*


    แล้วเจอกันไอ้จิงกระซิบกระซาบ แล้วกดวาง ผมทำเป็นเก็บของไม่สนใจมัน ก่อนที่ไอ้จิงจะชิ่งขอตัวกลับไปก่อน โดยหันมาพูดกับจูนก่อนออกไปว่า...
     
     
    ฝากบอกเบลด้วยนะว่าถ้าแม่โทรมาให้บอกแม่ว่าเราไปหาที่แต่งนิยาย
     
     
    -----------------------------------*






     
                     ผมกับไอ้ซันและจูน((ที่รู้เรื่องของผมกับไอ้จิงแล้วจากไอ้ซัน)) กำลังสะกดรอยตามไอ้จิงไปเรื่อยๆ ไอ้จิงเดินเข้าห้างหรูไปพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ผมสามคนตามมันไปเรื่อยๆ ห่างๆ 

     
    “มึงว่ามันเวริคหรอวะ”ผมถามไอ้ซันที่ยืนขมวดคิ้วมองไอ้จิงซื้อเสื้ออยู่ในร้านหนึ่ง มันหันไปมองจูนอย่างขอความเห็น ก่อนจะพยักหน้าออกมา

    “มันมีวิธีที่ดีกว่านี้?”มันถามผมกลับบ้าง 

    “กูรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ไว้ใจไอ้จิง”ตอบเสร็จจูนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ คนสวยประจำกลุ่มเบ้ปากบางๆ อย่างเซ็งๆ

    “ก็คนแบบไอ้จิงมันไว้ใจได้หรอ”จูนถามเสียงเรียบ ผมนิ่งไปนิดนึง ก่อนจะสำเหนียกได้ว่า ไอ้จิงเจ้าชู้ขั้นเทพ แบบที่ผมกับไอ้ซันรวมกันยังสู้เกือบไม่ได้

    “ก็..จริง...เฮ้ย”ผมรับคำ ก่อนจะหันไปมองไอ้จิง แล้วพบว่า...
     
     
    “มัวแต่คุยกัน ไอ้เชี่ยจิงหายไปแล้ว”
     
     
     
     









     
                     เราล้มเลิกภารกิจ หลังจากเดินไปรอบๆ นั้น แล้วหาไอ้ตัวดีไม่เจอ พวกผมตัดสินใจเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่มันชื่อเดียวกับยี่ห้อชากันอย่างเซ็งๆ 


     
     



    ............................... เซ็งที่มัวแต่คุยกันจนลืมไอ้จิง......................................
     
     





    “เอา.......................”จูนเอ่ยปากสั่งกับพนักงานหนุ่มในร้านอย่างสุภาพ ก่อนที่ไอ้ซันจะเติม
    ‘s โดยการอ้อมแขนไปโอบจูนเบาๆ

    “ทำเชี่ยไร”จูนหันมาแหวใส่ ก่อนจะขยับตัวหนี ไอ้ซันหัวเราะเบาๆ แล้วยิ้มกวนใส่

    “หลอกจับนิดนึงก็ไม่ได้”ไอ้ซันกระเง้ากระงอด แบบเหมือนกับจะน่ารัก = = แต่กูว่ามันทุเรศว่ะไอ้ญี่ปุ่นหุ่นยาว




     
     
                     ไม่นานนักอาหารที่ถูกสั่งโดยคนสวยที่สุดของกลุ่มก็ถูกเสริฟตรงหน้า พวกเราจักแจงยกสำเภา(?)ปลาดิบมาวางไว้กลางโต๊ะ ก่อนจะค่อยๆ ละเลียบกินอย่างมีมารยาท(?)

     
    “เจี้ยซัน ของกู”ไอ้จูนหันไปตวาดใส่ไอ้ซันที่คีบปลาเนื้อขาวเขาปากไปเรียบร้อยแล้วเสียงดัง ผมมองภาพตรงหน้าแล้วแอบยิ้มขำคู่ของมันสองคนไม่ได้...

    “ไอ้ซันมึ....เอ่อ..”ใบหน้าสวยสะอาดของเพื่อนผมที่กำลังจะอ้าปากด่าคนรักของมันต่อนิ่งค้าง ทั้งไอ้ซันเองก็นิ่งไป

    “เป็นไรกัน”ผมร้องถาม มันสองคนมองหน้ากันอย่างปรึกษาก่อนจะหันมาส่ายหัวให้ผมเบาๆ 





     
     
    ไม่มีอะไร
     
     
     
     
                 กูเชื่อก็โง่ดิ ผมหันควับไปตามสายตานั่นของมันสองคน ก่อนจะเจอกับแผ่นหลัง และใบหน้าครึ่งนึงของของคนที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี มันมากับผู้หญิงคนนึงที่มองเห็นเพียงด้านหลัง ไอ้จิงโอบเอวของเธอคนนั้นไว้ไม้ให้ห่างตัว ก่อนจะหันไปยิ้มให้แล้วเดินเข้าร้านสุกี้ไป
     
     
     
    “อะ..ไอ้จิง?”
     



     
     
                     ผมมองหน้าเพื่อนทั้งสองด้วยใบหน้าที่คาดว่าคงสื่ออารมณ์ไม่ได้เท่าไร ในหัวที่เคยคิดแต่เพียงคำว่าเชื่อใจถูกปิดทับด้วยภาพที่ไอ้จิงโอบเอวผู้หญิงคนนั้นไว้ แล้วพูดคุยกันกระหนุงกระหนิง


     
     


    ............................ ดูเป็นคู่รักที่น่าชื่นชม................................
     





     
                     ผมลุกพรวดขึ้นมาจากที่นั่ง ขาของผมเดินตรงไปที่ร้านนั้น ก่อนจะหยุดยืนอยู่ด้านหน้าร้านเพื่อมองคนคู่นั้น ก่อนจะไปสะดุดกับแผ่นหลังของคนที่ผมเรียกได้ว่ารักมาก...


     
                     ขาที่แทบไม่มีเรี่ยวแรงเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะตัวนั้นอย่างยากเย็น ผมเห็นว่าไอ้จูนวิ่งตามมาแล้ว โดยมีไอ้ซันนั่งรออยู่ในร้านที่ผมเพิ่งเดินออกมา


     
    “จิง”ผมเค้นเสียงเรียกมันอย่างลำบาก ไอ้จิงหันมามองก่อนใบหน้าใสๆ ของมันจะชักสีซีดลงจนเห็นชัด...กูไม่ได้เข้าใจผิดจริงๆ สินะ

    “มากับแฟนหรอมึง”ผมเอ่ยถามต่อไป ไอ้จิงมองหน้าผมกับเธอเลิ่กลั่ก ก่อนที่ไอ้จูนจะวิ่งมาจนถึงตัวผม

    “อ้าวหวัดดีจิง ไอ้ท็อปไปเหอะ อย่ามาขัดเพื่อนน่า”มันว่า ก่อนจะดึงแขนผมให้เดินไปทางเดียวกัน ผมหันมายิ้มให้ไอ้จิงและผู้หญิงคนนั้นบางๆ ก่อนจะพูดกับไอ้จิงด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และแววตาที่ทอดมองมันอย่างผิดหวังที่สุด
     
    “กูไปแล้วนะ ไม่อยากขัด เพื่อนทีหลังมีแฟนก็บอกกูบ้าง กูจะได้ไม่โง่”ว่าจบก็เดินตามไอ้จูนไปแต่โดยดี
     
     
     
     




    ความเจ็บปวดแล่นร้าวขึ้นจากปลายนิ้วเข้าสู่หัวใจ
     
    ตัวผมมันเบาหวิวราวกับไม่มีความรู้สึก
     
     
     
    ผมรู้ว่าไอ้จิงมันมีอิทธิพลกับใจผมมาก มากซะจนผมอาจจะทนไม่ไหวถ้าต้องเจอแบบนี้อีก


     
     
     
    เมื่อวานยังบอกว่ารักกัน...แต่วันนี้มีคนอื่น
     
     
     
    คำว่ารักที่ผมให้มันไม่มีค่าพอหรอ?
     
     
     
    ไม่รักกันงั้นหรอ?
     
     
     













     
    “มึงคิดว่ากูสมควรจะรอฟังคำแก้ตัวของมันไหม๊?”












    ++++++++++ 2 b con+++++++++++++++



    taLk* ปาดดดด ที่จริงจะลงเมื่อสามวันก่อน แต่ผิดพลาดทางเทคนิค คนที่จะเอาลงให้มันหาไฟล์ไม่เจอ -*- 

    เลยได้กลับมา แล้วค่อยลงเอง ฮ่าๆ


    กรุณาอย่าถามว่าจิงต้องการอะไรจากท็อป แต่ควรคิดว่า จูนกับซันจะทำยังไงกับชีวิต เมื่อเพื่อนสี่คนทำหน้าเหมือนหมากินหญ้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×