คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 2nd beloved-Chapter 3
2nd beloved
Chapter 3
ผมใช้กำลังขาที่มีทั้งหมดเดินข้ามถนนที่วันนี้คนมันช่างมากมายเหลือเกิน สงสัยจะแห่กันมาซื้อของลดราคาเช่นเดียวกันกับผมคีย์บอมจอมงก 55+
ประชากรหลายสิบคนยืนออกันอยู่ที่ทางม้าลายเพื่อรอข้ามถนนอย่าเบียดเสียดจนแทบจะหาอากาศหายใจไม่ได้ คาดว่าคนที่สูงต่ำกว่า 160 cm. คงขาดอากาศหายใจตายแน่ๆ แล้วจู่ๆก็มีชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นมาเบาๆกับโทรศัพท์
“วางระเบิดเรียบร้อยแล้วครับ” ห๊า!!! อะไรกันนี่ ไอ้นี่มันมาจากเกาหลีเหนือรึไง ตายล่ะคราวนี้ โอ้! อาเมนช่วยผมด้วยครับ
“นายกลัวหรอ” ผมหันขวับไปทางขวามือพบว่าคนที่ผมอยากคุยด้วยที่สุดโผล่มาแล้ว แปลกใจๆนิดๆที่เขามาได้ยังไง แต่ก็ดีใจนั่นแหล่ะที่ได้เจอกัน
“เปล่า” ปฏิเสธออกไปทั้งๆที่เมื่อครู่ขอให้พระเจ้าช่วย
ปฏิกิริยาของร่างสูงที่ตอบกลับมาคือยืนอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะคว้ามือผมไปอีกทาง ไอ้มินโฮฉันจะไปซื้อของนะโว้ย ไม่ได้มีเวลามาเดินเล่นเหมือนแก!!!
ผมไม่เคยให้ใครมาบังคับ แต่...
ผมก็ยอมให้เขาบังคับอยู่เสมอๆ
“นายจะพาฉันไปไหน”
“ไป… ไปเรื่อยๆ จบไหม”
อ้าวไอ้นี่วอนซะแล้ว นี่ฉันมีธุระนะโว้ย ถ้าฉันซื้อหุ่นยนต์รดราคาตอนนี้ไม่ทัน แล้วต่อไปฉันจะเอาเงินไหนมาซื้อ ฉันไม่ใช่คุณชายอย่างแกนะไอ้โย่ง
“คิดว่าไง” เดินมาได้ประมาณ 200 เมตร เพื่อนรักชเวมินโฮก็หยุดอยู่ที่หน้าร้านขายโมเดลร้านหนึ่ง ข้างในมีตู้ไอติมอยู่ คาดว่าจะขายไอติมด้วย ไอ้มินโฮยกหุ่นตัวหนึ่งขึ้นมาให้ดู มันคล้ายๆกับตัวตลกในสวนสนุกทั่วไปแต่น่ามองกว่าเยอะ ติดอยู่แค่ตรงอกด้านซ้ายของมัน...กลวง (นี่หุ่นประกอบหรือสมองไรท์เตอร์)
“มันไม่ครบ 32”
“ตาถึงนะเราอ่ะ นี่มาใหม่เลย เรียกว่า Destiny Model” ลุงเหม่งเจ้าของร้านเดินออกมาแนะนำ ท่าทางอายุราวๆ 45 เด็กกว่าพ่อผมหน่อยและน่าจะใจดี
“แต่ลุงครับทำไมตรงนี้มันกลวงล่ะ”
“มันไม่กลวงหรอก เพียงแค่น้องอ่ะยังหาส่วนนี้ไม่เจอ” ส่วนนี้ที่ว่าอ่ะ มันหมายถึงหัวใจไอ้หุ่นนี่ใช่ไหมครับ
“อ้ะ! ผมนาย” มินโฮจับผมที่ติดอยู่มุมปากของคนตัวเล็กออกมา ก่อนจะเพ่งเล็งด้วยความสงสัยว่าทำไมมันยาวแปลกๆ
“เปล่าเลย ไม่ใช่ของฉัน” คนตัวเล็กปฏิเสธ
“ผมลุงป่าวครับ” ร่างสูงหันไปถามเจ้าของร้านที่ยืนนิ่งฟังพวกผมคุยกัน
“ -3- ” เจ้าของร้านเหล่ตาขึ้นบนจนแทบถลน บอกเป็นนัยน์ๆว่ากูไม่มีผม (หัวล้านอ่ะ) แล้วไอ้นี่มันจะเป็นของกูได้ยังไง ไอ้เด็กเวร หัวใจหุ่นมันไม่ได้กลวงหรอก สมองแกแหล่ะกลวงไอ้โย่ง
“เฮ้ย! ไอ้มินโฮ” คีย์ห้ามปรามเพื่อนให้หยุดการหยอกเจ้าของร้านที่อายุราวพ่อ
“แล้วผมจะหามันยังไงล่ะครับ” ร่างสูงเปลี่ยนคำถาม ขืนถามคำถามแนวเดิมต่อไป มีหวังว่าได้รับประทานยำรวมสหบาทา
“มันมีนะ แต่ลุงก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”
“ครับ ผมเอาตัวนี้” ร่างสูงควักเงินจากกระเป๋าตังค์ออกมาอย่างไม่ลังเลที่จะจับจ่าย ต่างกับคนตัวเล็กที่อยากจะยื่นมือไปห้ามกับการตัดสินใจใช้เงินของอีกคน แต่ก็ทำไม่ได้
ฉันไม่เคยจะบังคับนาย เพราะ...นายไม่เคยสนใจฟังฉัน
“สักวันน้องจะหามันเจอเองแหล่ะ” คุณลุงเจ้าของร้านยื่นถุงกระดาษที่ห่อโมเดลไว้ให้ร่างสูง แล้วพวกเขาก็โค้งคำนับรับคำอวยพร
ทั้งคู่เดินออกมาจากร้านขายโมเดลแล้วก็มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่คีย์ตั้งใจจะไปตั้งแต่แรก ถือซะว่าเดินย้อนกลับไปอีก 200 เมตร
“แล้วนายจะหามันเจอหรอ”
“ก็ลองดู”
“เฮ้ย! นี่มันไม่ใช่ถูกๆนะ ถ้าหาไม่เจอล่ะก็นายขาดทุนย่อยยับ”
“ลองเสี่ยงดูสักครั้ง สนุกดีออก” คนตัวเล้กเบ้ปากให้กับความคิดของร่างสูง
“เสี่ยงเพื่อรอความล้มเหลวหรอวะ” เพื่อนผมบ้าไปแล้วแน่ๆเลยครับ มีอย่างที่ไหนเอาเงินเกือบ 2000 วอนมาทิ้งให้ไอ้โมเดลบ้านี่ แล้วมันก็พิการอีก
“สิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตคือการไม่เสี่ยงอะไรเลย”
“จะบอกให้ฉันเลิกป๊อดใช่ไหม” ร่างสูงยักคิ้วรับบอกว่าใช่
ถึงฉันจะป๊อด แต่ก็มีบางเรื่องที่ฉันยอมเสี่ยง
แม้มันจะไร้สาระ แต่มันก็คุ้ม...ที่จะลองเสี่ยงกับเพื่อนอย่างนายดูสักครั้ง
“ส่งแค่นี้ได้ไหม” อะไรนะ พูดใหม่อีกทีซิ นายลากฉันไปไกลตั้งเยอะ แล้วทำให้ฉันเสียเวลาอีก ตอนจบนายจะเอาฉันมาปล่อยที่เดิมง่ายๆแบบนี้หรอ ฉันไม่ใช่ของตายนะโว้ย!!!
“อ่อ...” ยังพูดไม่ทันจบ “อ้าวคีย์” เสียงอันหวานหูสอดแทรกเข้ามาระหว่างการสนทนา มินโฮเหลือบไปมองและโค้งทำความเคารพอย่างไม่ชอบใจนัก ก่อนจะหันกลับมาทางเดิม
“อืม ส่งตรงนี้แหล่ะ ฉันกลับพร้อมพี่จงฮยอนก็ได้” จงอยอนได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกว้าง ยืดอกด้วยความเต็มใจ เสร็จฉันล่ะไอ้โย่งเอ้ย
นายก็มีพี่จงฮยอนของนายแล้วนี่
ฉันจะไปสำคัญอะไร
“งั้นพรุ่งนี้เจอกัน”
“อย่าเลทล่ะ” แล้วมินโฮก็เดินหายลับไปกับความมืด (นี่มันหนังผีป่าววะ) เหลือเพียงแค่คีย์กับจงฮยอนที่มองหน้ากันอย่างงงๆ
“ขอโทษนะครับที่ตู่เอาว่าพี่จะไปส่งผม” ผมโค้งขอโทษตามมารยาท
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ขอบคุณครับ” แล้วผมกับพี่จงฮยอนก็เดินไปตามทางลดเลี้ยวของทางเท้าในตัวเมือง ตอนนี้เวลาประมาณทุ่มเศษๆ รถก็เริ่มบางตาลงแล้ว เลยมีแสงไฟที่สาดส่องเพิ่มเข้ามาแทน ระหว่างทางพี่จงฮยอนก็พูดเรื่องตลกให้ฟังตลอดเลย ผมก็พลอยยิ้มไปด้วย อยู่กับพี่จงฮยอนไม่เครียดกลับสนุกไปอีกแบบ ไม่เหมือนกับไอ้เพื่อนรักของผมที่มันพร้อมจะทำให้ผมเจ็บใจได้ตลอดเวลา >.<;
บางทีก็รู้สึกดีเวลาอยู่กับคนข้างๆตอนนี้ แต่ทำไมยังคิดถึงอีกคนที่เพิ่งบอกลากันไป ไม่รู้ว่าคิดยังไงกันแน่ ถามว่าชอบหรอ? คงตอบว่าไม่ แต่ถ้าเป็นไอ้โย่งอีกคนก็คงขอเปลี่ยนคำถามเพราะตอบไม่ได้จริงๆ
“คิดถึงเพื่อนหรอ”
“ผมจะไปคิดถึงมันทำไม มีพี่อยู่ทั้งคน”
“แล้วเวลาไม่มีพี่ล่ะ นายก็คิดถึงเค้าใช่มั้ย”
“เปล่า”
“ชอบเค้าหรอ” ฉึกๆ ราวกับเข็มนับพันเล่มกรูกันเข้ามาที่กลางอกซ้ายของคีย์บอมคนนี้ คำถามที่สั้น ห้วน แต่กลับรุนแรงราวกับแผ่นดินไหว 8.7 ริกเตอร์
โปรดอย่าถามผมว่าผมชอบเขารึเปล่า
เพราะ...
ผมก็ยังไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกันครับ
“เปล่าครับ”
“งั้นพี่ขอจีบนะ” พี่จงฮยอนครับ พี่บอกผมได้ไหมว่าพี่ล้อผมเล่น อย่าให้ความเป็นพี่เป็นน้องของเรามาจบด้วยความไม่ตั้งใจของพี่
ในความมืดสลัวๆ ใบหน้าขาวจัดกำลังแดงก่ำเพราะความเขิน โชคดีที่ไม่ค่อยมีแสงทำให้อีกคนมองไม่เห็นมัน คนตัวเล็กเขินจนกำมือแน่น นิ้วแทบหัก
“นี่ยังไม่เรียกว่าจีบอีกหรอครับ”
“ฮ่าๆ ๆ งั้นจีบเลยแล้วกัน” มือหนาเกาท้ายทอยแก้เขินพลางกับส่งยิ้มมาให้อีกคน
คุณเข้าใจความหมายของคำว่า “ตกหลุมรัก” ไหมครับ
เรื่องแบบนี้มันโทษแรงโน้มถ่วงไม่ได้หรอก
ต้องโทษคนขุดหลุม
งั้นคีย์บอม งานนี้นายผิดเต็มประตูเลยนะ
นายขุดหลุมซะลึกจนพี่มองไม่เห็นแสงสว่างข้างบนหลุมรักเลย
“ส่งผมหน้าบ้านก็ได้ครับ” ขาเรียวทั้งสองคู่หยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่กะทัดรัดน่ารักเหมือนกับลูกเจ้าของบ้าน ประตูรั้วไม้ขาวเปิดรอรับคนตัวเล็กไว้เพียงแค่ประตูเล็ก ดอกไม้ที่ปลูกหน้าบ้านตลอดทางจนพ้นริมรั้วหันหน้าเขาหาแสงเพื่อประชันความสวยของพวกมัน
“ฝันดีนะ”
“ขอบคุณนะครับ” ทั้งคู่ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินไปคนละทาง
ความรักก็เหมือนวิญญาณ
ใครๆก็พูดถึง แต่น้อยคนนักที่จะพบเจอเข้ากับตัว
ร่างสูงนอนคว่ำอยู่บนที่นอนสีขาวสบายตา ขายาวยกขึ้นลงเป็นจังหวะ สายตากำลังจับจ้องไปที่โมเดลที่เพิ่งไปซื้อมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
ระหว่างนายกับฉัน
ก็เหมือนโมเดลที่หาส่วนประกอบไม่เจอสักที
“บอกไว้ก่อนนะโว้ย! ถ้าจะตายให้ตายเดี่ยว อย่าลากฉันไปตายหมู่” คนตัวเล็กพูดขึ้นระหว่างทางในการเดินป่าไปเข้าค่ายก่อนจะลงฐานน้ำ
“เออ เฮ้ย ย ยย!!!” ยังไม่ทันสิ้นเสียงร่างสูงคนตัวเล็กก็ดึงมือเพื่อนรักลงน้ำไปด้วย ลืมคำพูดตัวเองไปโดยปริยาย
“แฮ่กๆ ใครบอกวะว่าให้ตายคนเดียว” ทันทีที่หัวของมินโฮโผล่พ้นน้ำก็หลุดปากแขวะเพื่อนตัวเองทันที
“ฮ่าๆๆ” คีย์บอมหัวเราะมาเป็นคำตอบ ชวนให้อีกคนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว
มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับฉัน
ทำไมไม่คุ้นเคยกันเหมือนเมื่อก่อน
ทั้งที่เราก็ยังอยู่ด้วย แต่ทำไม...ฉันรู้สึกว่า
มิตรภาพของเรามันถูกขีดคั่นด้วยอะไรบางอย่าง
*******************************************************************************************************
1 2 3! ใครงงยกมือขึ้น พรึ่บ บ (เต็มเลยวุ้ย ^^)
ขอบคุณนะที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ O.O;
รักคนอ่าน พิศวาสคนเม้นท์ โฮ่ๆๆ ๆ
ความคิดเห็น