คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 2nd beloved-Chapter 2
2nd beloved
Chapter 2
ไม่คิดจะง้อกันเลยใช่ไหม
ไม่คิดจะสนใจฉันบ้างเลยหรอ
พื้นที่ในสมองนายเคยมีให้เพื่อนคนนี้เขาไปอยู่บ้างไหม
มือบางที่จับดินสอหลวมๆ กำลังจะจมดิ่งลงสู่ห้วงนิทราแต่ทว่าก็ยังไม่หลับอยู่ดี หนังสือหลายเล่มกองรวมกันอิเน่ะเขะขะอยู่บนโต๊ะหนังสือ เบียดเสียดกันจนโคมไฟแทบจะตกโต๊ะอยู่แล้ว
Rrrrrrrrrrrrrrrrr~
“ครับพี่จงฮยอน”
// “รอโทรศัพท์พี่อยู่ล่ะสิ รับเร็วขนาดนี้” //
“งั้นผมวางนะครับ”
// “เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน พี่ล้อเล่น” //
“ผมก็ล้อเล่นครับ 55+”
“มีธุระอะไรรึเปล่าพี่”
// “ไม่มี” //
“แล้วโทรมาเพื่อ?”
// “เพื่อนายจะได้ไม่ต้องทนคิดถึงพี่ไง” //
“มีใครเคยบอกมั้ยว่าพี่น่ะชอบคิดไปเอง”
// “นายเป็นคนแรก” //
“ผมควรจะดีใจใช่มั้ย”
// “แล้วแต่ศรัทธา” //
“คือพี่จงฮยอนครับ พี่ชอบกินนมอะไรหรอ”
// “ทำไม” //
“คือผมจะได้ไม่กินน่ะ กลัวกินแล้วเป็นแบบพี่”
// “ฮ่า ๆ ๆ ” // หัวเราะดังๆ บอกให้โลกรู้ว่าคีย์บอมคนนี้น่ารักที่สุดในโลกเลย น่ารักขนาดนี้ ทำไมไอ้โย่งนั่นมันไม่ใส่ใจเลยวะ ดีล่ะเข้าทางจงฮยอนแล้ว
เวลาล่วงเลยมาเกือบๆ 2 ชั่วโมงที่คีย์กับรุ่นพี่ตัวเตี้ยโม้กันเพลินจนลืมสิ่งแวดล้อมรอบกายไปเลย มือหนาที่เดินก้าวสั้นค่อยๆบรรจงรดน้ำต้นไม้อย่างใจเย็นวนมารดต้นเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ป่านนี้ต้นไม้มันคงกร่นด่าร่างสูงในใจแล้ว
เฮ้อ~ นายคุยกับใครอยู่
ทำไมไม่รับสายฉัน
สิ้นสุดการสนทนาของร่างบาง ริมฝีปากบางก็ยิ้มไม่หุบ ขาเรียวก้าวไปจัดการกับกองหนังสือที่โตก่อนจะกดดูโทรศัพท์ก่อนนอน
Missed calls 34 Entries
Charisma Minho
คนตัวเล็กเบิกตาโพลงเมื่อเห็นสายไม่ได้รับกว่า 34 สาย คงจะเป็นตอนที่เขาโม้อยู่กับจงฮยอนจนลืมรับสายซ้อนไปเลย คนตัวเล็กอึ้งเล็กน้อยที่มีคนโทรเข้ามาเยอะขนาดนี้ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นเป็นสายของชเวมินโฮ ที่ไร้ซึ่งความอดทน แต่รู้ก็ช้าไปแล้วเพราะป่านนี้ร่างสูงคงนอนหลับฝันดีไปแล้ว
แต่ลองโทรดูหน่อยก็ไม่เสียหายนี่
ว่าแล้วคนตัวเล็กก็กระโดดนั่งบนเก้าอี้นวมปลายเตียง ขดแขนขาเข้าหาตัวเองจนกลมคล้ายลูกบอล มือขวาก็กดโทรศัพท์หาคนปลายสาย มือซ้ายก็ป้องปากไว้จากการหาวหวอดๆ
ตู้ด ด ตู้ด ด ตู้ด ด
// “ไง” //
“ฉันนึกว่านายหลับไปแล้วซะอีก”
// “มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นไปตั้งนานแล้ว” //
“นอนไม่หลับหรอ”
// “อืม” //
“ฉันพอจะช่วยนายได้รึเปล่า”
// “ไม่เป็นไร” //
อีกแล้ว นายปฏิเสธฉันอีกแล้ว
นี่ฉันยังใช้คำว่า “เพื่อนสนิท” กับนายได้อยู่ใช่ไหม
“หรอ คือฉันเห็นสายไม่ได้รับน่ะ นายโทรหาฉันมีไรป่าววะ”
// “เอิ่ ม มไม่มีไรหรอก สงสัยโทรผิด” //
ห๊า!! นายโทรผิด 34 สายเชียวหรอเพื่อน
“ไม่มีอะไรแน่นะ”
// “อืม ไปนอนได้แล้วไป” // พูดจบร่างสูงก็ตัดสายคนตัวเล็กทันที
คนหนึ่งยังเหมือนเดิมอยู่ อีกคนทำไมเปลี่ยนไป?
นายไม่มีเรื่องโม้กับฉันแล้วหรอ
ปกติเวลาแค่ 1 นาที นายกับฉันยังไม่เคยคุยกันรู้เรื่องเลยสักครั้ง
แต่ทำไม? ครั้งนี้นายหาเรื่องวางเร็วจัง
คนหนึ่งหาเรื่องคุย อีกคนหนึ่งหาเรื่องวาง
เช้าวันต่อมา ร่างสูงตื่นขึ้นพร้อมกับการวิ่งเข้าห้องน้ำไปธุระส่วนตัว หลังจากนั้นเขาก็คว้ารถจักรยานคู่ใจขี่ไปโรงเรียนเพื่อไปตามที่ได้นัดหมายกับเพื่อนๆไว้ วงล้อหมุนไปตามความเร็วที่ได้รับจากแรงถีบ ยิ่งหมุนเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลให้ร่างสูงถึงที่หมายได้เร็วเท่านั้น
สำหรับวงล้อของห้วงเวลาแห่งความรัก
ยิ่งเราหมุนมันเร็วมากขึ้นเท่าไหร่
ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อความเจ็บปวดมากเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ต้องยอมเสี่ยงดูบ้าง
เพราะ...
สิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิต คือ “การไม่เสี่ยงอะไรเลย”
“มึงเลทกี่ชั่วโมง” ยังไม่ทันได้เอาขาตั้งรถลง ยองเบคนตัวเล็กของกลุ่มก็ทักทายด้วยการกัดจิกซะแล้ว แหกตาดูกูหน่อย กูขี่จักรยานมานะโว้ย ไม่ได้นั่งเครื่องมาอย่างโอบาม่า
“ชั่วโมงครึ่ง” ผมตอบไปอย่างหน้าตาเฉย
“มึงอ่าตลอดเลย ตื่นกี่โมงเนี่ยมึง”
“10 โมง”
“เจริญ นัด 9 โมง ตื่น 10 โมง บ้านมึงก็โคตรรวยไม่มีปัญญาซื้อนาฬิการึไงวะ”
“กูเสมอต้นเสมอปลายไง”
“เวร สายเสมอเลย”
ผมกับไอ้ยองเบยืนเถียงกันอยู่นาน คนอื่นที่นั่งอยู่กับโต๊ะก็หันมามองบ้างตามระดับของความดังน้ำเสียงที่พวกผมคุยกัน พวกเวรไม่ช่วยทำงานแล้วยังจะคุยกันเสียงดังอีก
“เฮ้ย! ไอ้มินโฮมึงไม่รักรถหรอวะ” ยูกึลที่นั่งอยู่บนเบาะของจักรยานผมตะโกนมาแต่ไกล
“รักสิ”
“รักแล้วทำไมมึงไม่ล้างรถ เน่าเฟะอย่างกะซากศพ แต่แม่งขี่ดีกว่าสกู๊ดเตอร์กูอีก” ขาสั้นๆของไอ้ยูกึลยันตัวของมันให้พ้นจากเบาะรถผมพร้อมกับขย่มเบาๆ นี่มันคิดว่านี่มันเป็นจักรยานหรือคิดว่าเป็นน้องโซระกันวะ
“กูรักแต่กูไม่แสดงออก”
“ถุย!!!” พร้อมเพรียงกันทั้งโต๊ะเลยครับ ไม่รู้น้ำลายมันปฏิสนธิกันรึยัง
ผมสาวเท้าไปนั่งข้างไอยูพอจะหลบหลังมันเวลาโดนด่าได้ ผมจับปากกามาช่วยมันทำงานก่อนจะนึกได้ว่าใครอีกคนยังไม่มา แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป เพราะคนอย่างคีย์บอมไม่เคยมาสาย
“มินโฮมึงมานั่งเป็นหุ่นเชิดใช่ไหม”
“เออเดะ”
“ว่างอยู่??”
“อืม”
“งั้นไปซื้ออะไรแก้ง่วงมาให้พวกกูหน่อย” อะไรกันนี่ เพิ่งเที่ยงมันง่วงกันแล้วหรือไง หรือเมื่อคืนพวกมึงไปเที่ยวกันแต่ไม่บอกกู
“เออ”
“อ่ะนี่ 200 ด่วนๆนะโว้ย” พอไอ้จูมงสั่งจบ ผมก็น้อมรับคำบัญชาจากไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้ามา รีบถีบจักรยานออกตัวไปด้วยความรวดเร็ว
“มาแล้ว” ผ่านไป 5 นาทีผมก็กลับมาพร้อมของแก้ง่วงให้เพื่อนๆ
“เร็วจริงนะมึง”
“กูเทพ” ผมยื่นของที่มันให้ไปซื้อมาให้ ไอ้จูมงทำหน้างงกับของที่ผมซื้อมา
“กูให้มึงไปซื้ออะไรมาแก้ง่วง”
“มึงไม่ได้บอก กูเลยซื้อไอ้นี่มาให้ไง”
“หนังสือโป๊เนี่ยนะ”
“เออไง” มันแอบยิ้มน้อยๆ ก่อนจะค้อนใส่ผมแล้วมันก็ลงไปนั่งตามตำแหน่งของมันอย่างเดิม เพื่อนหลายคนก็คงอยากจะเตะปากของผมสัก 2-3 ทีโทษฐานกวนบาทาโดยไม่จำเป็น
“บรื๋อออๆ ... คนนี้ตูดดำจางง ง” ไอ่ซึงฮยอนร้องลั่นพอมันนั่งดูของแก้ง่วงที่ผมซื้อมาผ่านไปได้ 2-3 เล่ม มันเป็นเด็กเนิร์สประเภทอ่อนต่อโลก แต่ถ้ากับเพื่อนมันให้เต็มร้อยอ่ะ
“พูดเบาๆสิวะ เดี๋ยวพ่อมึงก็แห่กันมาพอดี” ผมตะครุบไปปิดปากมันไว้
“วันนี้รองอารามไม่มาหรอก”
“มึงรู้ได้ไง”
“เมียแกไปคลอดลูกคนที่ 7”
“ห๊า! แกเปิดโรงงานผลิตลูกหลังสี่โมงหรือไงวะ ขยันชิบหาย”
“เราเทพใช่ไหมล่ะ”
“อืมๆ มึงเก่ง” สุดยอดไปเลยครับเพื่อนผม ชเวซึงฮยอนเด็กนักเรียนผู้พากเพียรในการหาความรู้ ไม่ว่าจะความรู้ที่มีสาระหรือไม่มีก็ตาม
เดี๋ยวจะงงว่าอารามเนี่ยเป็นใคร อาจารย์อารามเป็นครูประจำชั้นของพวกผมเองครับมอปลายปี 2 ห้อง 2 แกเป็นพวกสปิริตสูงน่ะครับ จิตวิญญาณในความเป็นครูแกมีมากจนล้น เวลาพวกผมจะโดดเรียนทีนึงนะ แกวิ่งเร็วกว่าพวกผมอีก บางทีผมก็งงๆนะว่าแกมาเป็นครูทำไม วิ่งเร็วขนาดนี้ไปเป็นตำรวจรุ่งกว่าไหมครับอาจารย์?
และแล้วการทำงานของพวกผมก็กำลังจะสิ้นสุดลง โปรเจ็คที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับสายมอปลายปีสอง ผมยังไม่เอ่ยตอนนี้หรอกครับว่ามันเป็นอะไร เพราะคนเขียนก็ยังไม่รู้ (^^)
“ไอ้ซึงฮยอนมึงมองอะไรของมึงนักหนาวะ”
“มองการณ์ไกล ลล ล” มันลากเสียงซะยาวยืดชวนคิดถึงแม่นาคพระโขนง
“O[]o!!!”
“อ้าวๆ ไอ้สองตัวนั้นน่ะเลิกกัดกันได้แล้ว มาเก็บของ” ไอยูตะโกนไล่หลังพวกผม
“อะไรเนี่ย ให้ฉันสองคนเก็บ”
“อื้ม ใช่” โอ้แม่เจ้าอะไรกันนี่ ไหนจะเอกสารปึ้งหนากว่าหนาผม แล้วไหนจะเศษขยะอีกจิปาถะ ใครจะทำไหวครับ
ผมให้ไอ้ซึงฮยอนมันเอาของไปเก็บที่ห้องประจำ ส่วนผมก็แค่เก็บเศษขยะในบริเวณที่นั่งทำงานกัน เก็บ เก็บ เก็บแล้วก็เก็บ เก็บเท่าไหร่ก็ไม่หมด ยิ่งเก็บยิ่งเจอ ตกลงผมเรียนเอาความรู้ไปเป็นคนเก็บขยะรึไงครับ
“เฮ้ย! กูกลับก่อนนะโว้ยไอ้ซึงฮยอน”
“โอเคๆ เรากะรอขวัญใจเราพอดีอ่ะ คงจะเลิกเรียนแล้ว” ผมพยักหน้ารับหงึกๆ ไอ้ซึงฮยอนมันมีแฟนเป็นพวกสปีชี่เดียวกัน เด็กเนิร์สน่ะครับ เห็นว่าคบกันเพราะติวหนังสือให้กันบ่อย แต่ไม่ค่อยสวีทหวานเท่าไหร่หรอก จืดพอๆกับหนังหน้าของพวกเขา หึๆ
********************************************************************************************************
ฮ่าๆ เป็นไงกันบ้างเอ่ย ขำออกสักมุขไหม
ช่วยกันขำหน่อยนะ เป็นกำลังใจคนเขียนซักนิด
จะเม้นไม่เม้นก็ได้ ไม่ว่ากัน
ขอบคุณที่หลงเข้ามาค่ะ ^^;
ความคิดเห็น