ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LPK please!!!

    ลำดับตอนที่ #16 : ฮาโลวีนจ๋า

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 52


    มาลงข้อมูลวันฮาโลวีนให้อ่านกันเล่นๆนะ
    ((ไม่มีอะไรลงน่ะสิ))
    พอดีเอามาจากรายงานก้เลยใหญ่ไปหน่อยนะ

    คำว่า "Halloween" มาจากคำของคริสต์นิกายคาทอลิกดั้งเดิม คือ เย็นวันสุกดิบก่อนฉลองนักบุญทั้งหลาย เขาเขียนว่า "Hallow's Evening" และกลายเป็น "Hallow's e'en" จนกลายเป็น "Halloween" ในที่สุด

    ในประเทศทางตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา เด็กๆจะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง มีการประดับไฟ และที่สำคัญคือการแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ เรียกว่า แจ๊ก-โอ-แลนเทิร์น (jack-o'-lantern)

    การฉลองวันฮาโลวีนนิยมจัดกันในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา และยังมีในออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ด้วย รวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็นิยมจัดงานวันฮาโลวีนเพื่อความสนุกสนาน

    การปฏิบัติในคืนวันฮาโลวีน

    เด็กๆ จะสนุกสนานมากในคืนวันฮาโลวีน เพราะพวกเขาจะได้แต่งตัวเลียนแบบคนตายหรือชุดที่ออกแบบขึ้นใหม่ และเดินออกไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อขอลูกกวาด โดยเฉพาะบ้านที่มีลูกฟักทองคว้านเนื้อออกเพื่อใส่เทียนเข้าวางไว้ และจะมีแสงสว่างออกมาจากรูจมูก ลูกตาและปากที่เจาะไว้ตั้งไว้หน้าบ้าน เด็กๆจะเคาะประตู เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตู พวกเขาจะร้องทักว่า "Trick or Treat" ซึ่งเด็กทั่วไปก็เป็นเพียงคำพูดไร้เดียงสา เพื่อพูดตามธรรมเนียมการขอขนม พวกเขาไม่เข้าใจความหมายแท้จริงของมัน เพราะคำว่า "Trick or Treat" นี้ เป็นคำคล้ายคำพูดของพวกบูชาลัทธิปีศาจ คล้ายทำสนธิสัญญาตกลงกับมันหรือจะมีการล่อลวง เด็กๆ ไม่เข้าใจความหมาย แท้จริง จึงพูดกันมาตามธรรมเนียม เพียงแต่สนุกสนานเท่านั้น พวกเจ้าของบ้านเมื่อเอา ลูกกวาดให้แล้ว บางแห่งก็มีการร้องเพลงให้ ซึ่งบางแห่งก็จะสวดภาวนาให้แก่เจ้าของบ้าน หรืออุทิศแด่วิญญาณผู้ล่วงลับ

    ที่มาของวันฮาโลวีน

    วันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันที่ชาวเคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นวันที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตายและคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้านให้อากาศหนาวเย็นและไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้ายต่างๆ นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป

    ตำนานเกี่ยวกับฟักทอง

    เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช ที่กล่าวถึง แจ๊ค ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา วันหนึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้ และเขียนกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจว่าห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คเสียชีวิต เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อเอาไว้ปัดเป่าความหนาวเย็น แจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดที่เจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดและใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึงการหยุดยั้งความชั่ว เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน

    ฮ่าๆเป็นยังไงกันบ้าง
    อย่าเพิ่งเสียขวัญหนีไปนะ
    ไปเม้นให้ตูข้าก๊อนนนนนนน
    สำหรับวันนี้ต้องไปอัพเดตข่าวเสื้อพี่ทีก่อนค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×