ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Story นี่หรือ! คือนิทาน

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องวุ่นๆของมังกรเฝ้าหอคอย ตอนที่2

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 62


    การพบเจอของมังกรและเจ้าชาย

    การเดินทางช่างยากลำบากนัก
    การแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่อย่างการปกครองประเทศต่อจากผู้ปกครองคนก่อนนั้น
    นับเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยซักนิดเดียว
    แค่เรื่องการปกครองเมืองก็ทำให้มีเวลาเป็นของตัวเองไม่มากนักอยู่แล้ว
    จะให้มีเวลาที่ไหนไปหาคนรักของตัวเองกันหล่ะ



    การเลือกคู่ครองมันไม่ง่ายนะ การดูตัวคนทั้งอาณาจักรมันก็แค่การให้ผมพบเจอการประชาชน
    ที่ต้องปกครองเท่านั้นหล่ะครับที่ผมคิด ส่วนเรื่องของเอเธนนั้นผมก็คิดว่าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น
    จะให้ผมคิดอะไรกับคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เจอหน้ากันจนเบื่อ
    หยอกเล่นกันเป็นประจำทุกวัน แต่ผมก็คิดน่ะว่าแกล้งหมอนี่มันสนุกดีเท่านั้นเอง

    คิดแล้วก็เบื่อ
    เข้าเรื่องเลยดีกว่า...





    หลังจากที่พ่อกับแม่ให้ผมออกเดินทางมาหาเจ้าหญิงที่ชื่อว่าราพันเซล
    ตอนนี้ผมกับเอเธนยืนอยู่ที่บริเวณสิ่งก่อสร้างขนาดสูงที่เรียกว่าหอคอย
    จะว่าไปก็เป็นก็หอคอยที่สูงจริงๆ 

    เอเธน: "อ่า สูงจริงๆเลย นายว่ามั้ยแล้วทีนี้นายจะทำยังไง สรุปแล้วที่นี่มีคนอยู่มั้ยเนี่ย"

    แล้วเอเธนก็พูดขึ้นกับผมด้วยศัพท์ที่ผมบังคับให้เขาใช้เวลาอยู่กัน 2คนเทา่นั้น
    ก็การใช้ราชาศัพท์กับเพื่อนมันแปลกๆนี่

    สเตฟาน: "นายอยากรู้ว่ามีคนอยู่มั้ยก็ตะโกนถามซะเลยซิ"

    โฮ่ ถ้านายทำมัน นายจะซื่อมากเลยหล่ะ เอเธน

    เอเธน: "เอ๋! จริงด้วย ชั้นไม่ทันได้คิด รอเดี๋ยวน่ะ ชั้นจะตะโกนถามให้"
    และแล้วเอเธนก็ลงจากม้าพร้อมเอาม้าไปผูกกับต้นไม้ใกล้ก่อนเดินออกไปยืนอยู่หน้าหอคอยแล้วตะโกนขี้นว่า "เฮ้! ข้างบนนั้นมีใครอยู่หรือไม่ช่วยตอบที"

    โอเค สรุปนายมันซื่อ(บื้อ)มากจริงเหรอเนี่ย

    แค่นั้นยังไม่พอยังตะโกนอีกหลายรอบจนผมลงจากม้าและเอาม้าไปผูกเรียบร้อยแล้ว
    หลังจากนั้นเขาจึงเดินมาบอกผมว่า

    เอเธน: "เฮ้ ฟานไม่มีใครตอบอ่ะ ทีนี้จะเอาไงดี"

    สเตฟาน: "งั้นนายอยากรู้อีกมั้ยว่ามีใครอยู่หรือเปล่า"

    เอเธน: "อืม อยากซิเสร็จแล้วจะได้กลับซักที"

    สเตฟาน: "งั้นนายก็ปีนขึ้นไปบนนั้นซะสิ"

    เอเธน: "อ้อ งั้นนายรออยู่ตรงนี้น่ะ"

    เฮ้อ! ชั้นชักเบื่อกับความซื่อบื้อของนายเต็มทนแล้วน่ะ

    สเตฟาน: "อื้อ นายจะทำอะไรก็ทำเถอะ"


    หลังจากนั้นสรุปว่าไอ้(?)เอเธนมันปีนขึ้นไปจริงๆครับแถมเร็วด้วยได้ครึ่งทางแล้ว
    อ่าสรุปว่าเอเธนเป็นลิงซินะ ไม่ก็คงมีอาชีพเสริมเป็นคนเก็บมะพร้าว(?)
    ห้ามตอนนี้คงไม่ทันแล้ว งั้นผมเดินสำรวจคงไม่ว่ากันนะ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เดินมาเรื่อยๆ ตอนนี้ถ้าให้เดาคงอยู่ตรงด้านหลังหอคอย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    แต่
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ทำไมอยู่ดีๆถึงมีประตูโผล่ออกมาตรงหน้าก็ไม่รู้
    ก่อนที่ผมจะได้จับบานประตูนั้น
    ประตูบานนั้นก็เปิดออกมาเอง
    .
    .
    .
    .
    ทำให้ผมพบกับร่างของคนตรงหน้า
    พร้อมกับที่เด็กผู้หญิงตรงหน้าได้พูดว่า

    เด็กผู้หญิงปริศนา: "ยินดีต้อนรับค่ะ นายท่าน"

    'อ่า ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้น่ะ เดี๋ยวนายท่านเหรอ งั้นก็เมดสินะ แต่ไม่น่าจะใช่
    แย่หล่ะ! มองนานเกินไปแล้ว '

    ขอสงบสติอารมณ์ก่อนแล้วกัน
    .
    .
    .


     
    มังกรน้อยอีรีส said

           ตอนนี้ข้ากำลังเผชิญหน้ากับคนบ้าตรงหน้าอยู่ เฮ้!สติดีหรือเปล่า จ้องหน้าข้าอยู่ได้ตั้งนาน
    หรือจะตะลึงกับความหล่อเหลาอันงดงามของข้า แต่ไม่น่าจะใช่คงเพราะเจ้านี่ไม่เคยเห็น
    ชายชาตรีอย่างข้าแต่งหญิงมาก่อยเลยอาจตะลึงก็เป็นได้

                  อืม ดูๆไปหมอนี่ก็จัดว่าหน้าตาดีมากถึงกับมากทีเดียว คงจะเป็นเจ้าชายเมืองไหนซักเมืองที่หลงทางมา ช่างน่าสงสาร อ่า...ข้าจะไม่พรรณาหน้าตาของชายเบื้องหน้าเหมือนกับสาวน้อยวัยใสที่พบเจอชายหนุ่มผู้ถูกชะตาปิ้งปั้งเป็นรักแรกหรอกน่ะ

    อีรีส: "เฮ้! เจ้า อ้อ...ไม่สิ นายน่ะเลิกจ้องหน้าชั้นได้หรือยัง"

    แต่จู่ๆไอ้หมอนี่ก็คุกเข่าลงต่อหน้าข้าพร้อมคว้ามือของข้าขึ้นมาจุมพิตเบาๆ
    .
    .
    .

    'เฮ้! เดี๋ยวน่ะ ข้ารู้ว่าอาจเป็นธรรมเนียมหรืออะไรซักอย่างแต่ต้องไม่ใช่ที่ชายหนุ่มทำให้กันแน่'

    ฉับพลันข้าจึงดึงมืออกแล้วเริ่มเจรจากับบุคคลตรงหน้า

    อีรีส: "ไอ้บ้าเอ้ย ทำแบบนี้ทำไมฟร๊ะ มาทำแบบนี้มันหยามศักดิ์ศรีกันชัดๆเลย"

    ชายหนุ่มตรงหน้าข้าลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

    เสตฟาน: "หยามศักดิ์ศรีงั้นเหรอก็ไม่นี้แบบนี้นะมันเป็นท่าพื้นฐานของฝ่ายที่จะทำการขออีกฝ่ายแต่งงานมิใช่หรือ"
     
    อีรีส: "อะไรนะ ขอแต่งงานงั้นเหรอเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกันที่บังอาจมาขอมังกร
    สายเลือดศักดิ์สิทธิ์อย่างข้าแต่งงานน่ะ" ข้าเพิ่มเสียงในการเจรจามากขึ้นไปอีก 

    สเตฟาน: "งั้นหรือ ข้าคิดว่าเจ้าเป็นอะไรข้าไม่สน แต่ ข้ารู้ว่าข้าถูกใจเจ้าแล้วหล่ะ แม่สาวน้อย"

    อีรีส: "เจ้าคนสามหาว! เป็นแค่คนแปลกหน้าแท้ๆรู้บ้างหรือไม่ว่าเจ้ากล่าวอะไรออกมา"

    สเตฟาน: "ข้ารับรู้ทุกคำพูดของตัวเองทั้งหมดล่ะ แม่สาวน้อย"

    อีรีส: "หยุดพูดคำๆนั้นเสียที ข้าเป็นชาย จำไว้ซะอย่าพูดคำนั้นให้ข้าได้ยินอีกเป็นครั้งที่3  
    ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเสียใจ จำไว้ซะ!" ข้าเริ่มหมดความอดทนแล้วน่ะ

    สเตฟาน: "แล้วไงล่ะ แม่สาวน้อย"

    อีรีส: "ข้าถือว่า ข้าเตือนเจ้าแล้วน่ะ เตรียมรับหายนะได้เลยคนแปลกหน้า"

    ฉับพลันเมื่อพูดเสร็จข้าจึงคว้าดาบเล่มสีขาวบริสุทธิ์ออกมาจากกลางอากาศแล้วฟันไปที่กลางตัวของคนแปลกหน้าทันที

    เคร้ง!

    เอ๋ ไม่จริงน่าน้อยคนนักที่สามารถรับคมดาบจากข้าได้อย่างเฉียบขาดเช่นนี้
    ฮึ่ม! เห็นแล้วชั่งน่าหงุดหงิดเสียจริง

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    นับแต่นาทีที่เสียงคมดาบแรกปะทะกัน เสียงที่สองและสามก็ดังต่อมาเรื่อยๆ ให้ตายเถอะมังกรผู้มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงข้าหรือจำต้องมาพ่ายให้กับชายแปลกหน้าที่พึ่งเจอกันครั้งแรก
    ได้โดนท่านพ่อ ท่านแม่ และมังกรตนอื่นหัวเราะเยาะเป็นแน่

    งี้ต้องใช้วิธีสกปรก ...


    ไม่สิๆ เรามังกรสายเลือดบริสุทธิ์ต้องมีเกียรติ ต้องยุติธรรม ต้อง...



    สเตฟาน: "แม่สาวน้อย สตรีเยี่ยงเจ้าปล่อยดาบในมือนั่นแล้วมานั่งอยู่ในอ้อมกอดของชายชาตรีเยี่งข้าดีกว่า ข้าพูดถูกมั้ย"

    ต้องไม่ไว้หน้ามัน ต้องไม่ให้คนเช่นนี้มาดูถูกข้ามากไปกว่านี้ มัน-ต้อง-ตาย!

    อีรีส: " ใช่ท่านพูดถูกทุอย่าง เว้นแต่ ข้าน่ะ เป็นชายเฟ้ย ไอ้งั่ง! "


    เมื่อข้าพูดจบก็โถมแรงใส่ลงไปและกดดาบลงด้วยพลังที่มากกว่าเก่า

    สเตฟาน: "จะหญิงหรือชายข้าก็ไม่เกี่ยงหรอกเพราะข้า ต้องการเจ้า ว่าแต่พูดกับเธอเนี่ยไปมาๆ ดันติดภาษาเธอซะแล้วซิ"

    เคร้ง เคร้ง

    อีรีส:"กล้ามากที่มาพูดเลียนภาษาของข้า แบบนี้มันดูถูกกันนี่! ไปตายซะเถอะ คนอย่างเจ้าอยู่ไปก็ดันแต่จะทำให้คนอื่นประสาทเสีย"


    ฟึ่บ! เคร้ง! เคร้ง!

    สเตฟาน: "แล้วเจ้าคิดว่า ข้าดูเจ้าผิดไปซะเมื่อไหร่ล่ะ "

    เคร้ง!

    สเตฟาน: "อ้อ! อีกอย่างข้าไม่รังเกียจหรอกนะที่จะตายด้วยน้ำมือของว่าที่ภรรยาข้าน่ะ"


    พอเจ้าบ้านั่นพอจบ ข้าก็คิดว่ามีบางอย่าเห่อร้อนขึ้นมาที่ใบหน้าของข้า

    ข้าคิดว่าหน้าข้าต้องแดงแน่ๆเลย หรือว่าข้าจะเขินไอ้คนตรงหน้า

    บ้าน่า ข้าไม่ได้เขินน่ะ ข้าโกรธต่างหากล่ะ โกรธ! 

    ใช่แล้วข้ารู้สึกโกรธ

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    เสียงกระทบกันของดาบยังคงกระทบกันอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

    ไม่ได้การล่ะ ต้องรีบจัดการให้เสร็จไม่งั้นยัยป้านั้นได้ด่าจนหูชาแน่ 

    ไม่สิอาจโดนให้ลองชุดอีกวันละ10ชุดเป็นแน่



    อีรีส: "เจ้ามันบ้าไปแล้วแน่ๆ ให้ตายซิ ข้าควรต้องเลิกเล่นกับเจ้าแล้วรีบกลับไปเสียที ตายไปได้แล้วน่า!"

    เคร้ง!

    สเตฟาน:"งั้นเธอก็มาเป็นภรรยาของฉันสิ เท่านั้นก็จบ"

    ข้ายิ้มหวานให้คนตรงหน้าชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป

    อีรีส:"ไม่มีวันซะหรอก "

        "ย้าาาาาาาาาก"

    อีรีสพูดจบประโยคผมก็ตั้งดาบขึ้นและพุ่งตัวเข้าหาไอ้บ้าตรงหน้าทันที
    (สรรพนามเปลี่ยน//ไรท์ ยุ่งน่า//อีรีส)

    ฟิ้ว--------------ตุบ

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่ามันเป็นเสียงอะไร
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ตอนนี้ผมกำลังประสบปัญหาใหญ่ครับ 

    อีรีส: "ปล่อยฉันนะเจ้าบ้า ปล่อย"

    สเตฟาน: "ทำไมล่ะก็เธอพุ่งเข้ามาให้ฉันกอดเองไม่ใช่หรอกหรอ"//กอดแน่นขึ้น

    อีรีส: "แกจะบ้าเหรอ ปล่อยน่ะ! เจ้าบ้าปล่อย!"










    To be continue ....






























     
     

     
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×