ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Story นี่หรือ! คือนิทาน

    ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องวุ่นๆของมังกรเฝ้าหอคอย ตอนที่1

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 62


         เรื่องวุ่นๆของมังกรเฝ้าหอคอย       


           ณ หอคอยอันสูงลิบลิ่ว ท่ามกลางทิวเขาและธรรมชาติอันสวยงาม
    ยังมีมังกรน้อยรูปงามตนหนึ่ง(มังกรตอนนี้แปลงเป็นคนได้ค่ะ) 




    ด้วยหน้าตาที่แสนจะน่ารัก(?)
    และแบ๊ว(?)
    บวกกับ รูปร่างที่บอบบางและส่วนสูงที่เตี้ยเล็กน้อย
    สำหรับมังกรทั่วไป


    ทำให้กลายเป็นเคะในตอนนี้ไปค่ะ








    (แอ๊ฟ:ไรท์ โดนรองเท้าปาหัว)


     
    มังกรน้อย:แกว่าใครเป็นเคะฟร๊ะ รูปร่างหน้าตาอย่างข้าไม่มีทางเป็นเคะได้หรอก....

    .

    .

    .
    ว่าแต่เคะคืออะไรเหรอ?







     
    บรรยายต่อล่ะ
     
     
         และด้วยความไร้เดียงสาจึงถูหลอกง่ายเกินไปทำให้ต้องแยกจากฝูง
    ออกมาเฝ้าหอคอยให้กับเจ้าหญิงใจร้าย นามว่า....

     
    มังกรน้อย:เดี๋ยวก่อน เรื่องของยัยป้านั่นให้ข้าเล่าเอง
    (ไรท์:อะ...อืม)




    อีรีส(มังกรน้อย) said




       ไฮ ข้ามีนามว่าอีรีสเป็นมังกรเฝ้าหอคอยให้กับยัยป้าราพันเซล ให้ตายเถอะหอคอยมันวิ่งได้หรือไงถึงต้องให้ข้าเฝ้ามันน่ะ
             






    เอาหล่ะ
    เดี๋ยวข้าจะเล่าประวัติของข้าให้พวกเจ้าฟังว่าข้ามาอยู่พิทักษ์หอคอย
    ให้กับยัยแม่มดในคราบของเจ้าหญิงได้ยังไง...









     
    ...ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน
    เทียบเท่าอายุของมนุษย์ข้าคง18 ปีพอดี









    หลังจากทำพิธีการทดสอบการเลื่อนวัยของเผ่ามังกรเสร็จ
       ข้าก็เดินออกมาด้านนอก  หลังจบพิธีมังกรทุกๆตนที่เข้ารับการทดสอบ
       จำต้องแยกออกจากฝูงชั่วคราว เพื่อทำการค้นหาดินแดนใหม่ให้กับเผ่ามังกร
    เพราะบริเวณพื้นที่ตรงนั้นไม่สามารถดำรงชีพได้อีกแล้ว




      การเดินทางของข้าช่างยากลำบาก
    ใครเล่าจะคิดว่าเด็กหนุ่ม(?)ที่พึ่งจะพ้นวัย 18 มาหมาดๆ
    ต้องระเห็จออกจากถิ่นถานมาเป็นนักเดินทางกลางไพรเช่นนี้
    การเดินทางที่ข้ายังไม่รู้จุดสิ้นสุด
    แต่นั่นก็ทำให้ข้าได้พบกับสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ควรจะขึ้นมาอยู่กลางไพรแห่งนี้ได้






     
    อีรีส:เฮ้อ ให้ตายเถอะที่นี่มันที่ไหนกันแน่แล้วสิ่งที่ยืนหยัดสูงลิบฟ้าตรงหน้าข้านี่มันอย่างไรกัน          
     



    ข้าบ่นกับตัวเองพลางคิ้วมุ่นอย่างสงสัย แล้วทำการสำรวจบินวนดูรอบ
    ก่อนวางสัมภาระของตนเองและค่อยๆบินขึ้นไปจนยอดสิ่งประหลาด(หอคอย)
    ที่รูปร่างแปลกตา เมื่อบินขึ้นมาจนยอกข้าก็เข้าทางระเบียงก่อนจะมุดทางช่องเล็กๆ(หน้าต่าง) เข้าไปอีกทีหนึ่ง หลังจากที่ข้าเข้ามาได้ก็จัดการเดินสำรวจทันที




    ด้านในสิ่งประหลาดนั้นช่างดูแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกเหลือเกิน
    อัญมณีสีขาวใสที่ห้อยลงมาจากด้านบนและสามารถเรืองแสงได้(โคมไฟคริสตัล)
    ทำให้ด้านในห้องไม่มืดมากนัก สิ่งของต่างๆภายในห้องช่างแปลกตา
    และมีแต่สิ่งที่ข้าไม่เคยเห็นทั้งนั้น


    'ซ่า ซ่า'


     'เสียงน้ำหนิ รู้สึกว่าจะมาจากทางนั้น' ข้าคิดพร้อมหันไปทางทางกำแพงที่มีที่จับยื่น
    ออกมา(ประตูจ้า) 



    'เอี๊ยด'
    "ลั้ลหล้า  ลั้ลหล่า ลั้ลลั้ลา"


    และแล้วข้าก็พบกับสตรีนางหนึ่งที่เดินออกมาจากกำแพงประหลาดๆตรงนั้น
    อือ นางจัดว่าเป็นสตรีที่งามทีเดียวเชียวเลยหล่ะ แต่ท่าทางจริตมากเกินขนาดนั้นกับใบหน้า
    ที่ดูเหมือนจะไม่สมอายุจริง มันไม่ใช่เสป็คของข้าเลยซักนิดเดียว


    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แกเป็นใครกันฟร๊ะแล้วบังอาจเหยียบย่ำเท้าสกปรกๆของแกลงบนพื้นที่ในหอคอยที่เป็นที่พักอันทรงเกียรติ ของเจ้าหญิงราพันเซลอย่างตัวฉันผู้นี้ได้ยังไงกันหน่ะ เฮอะ เพราะ - ฉะ - นั้น - ก็ - ตาย - ซะ - เถอะ!'



    "อ้าาาาาาาาาาาาาากกกกก"


    ข้ารู้สึกได้ว่ามีของบางอย่างมากระทบกับหัวของข้าอย่างแรงและสติของข้าก็ดับลงไป

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    " อะ...อืม "

    สติของข้ากลับคืนมาอีกครั้งตอนนี้ข้ารู้สึกปวดหัวเหลือเกิน
     
    " เอาหล่ะ ตื่นได้แล้วซิน่ะ เจ้ามังกรชั้นต่ำ"

    ข้าหันมองไปยังเบื้องหน้าอีกครั้ง ก็ได้พบกับยัยป้าที่มีอายุน่าจะเกิน 30
    แต่ชอบแต่งหน้าหนาๆให้อายุดูลดลง
    ก่อนหันกลับมามองที่ตัวเองอีกครั้งจึงพบว่าตนถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้
    'เอ...แล้วยัยป้าตรงหน้านี่เป็นใครกันเนี่ย'

    "ว่าแต่เจ้ามังกรชั้นต่ำอย่างแกเป็นใครกัน แล้วขึ้นมาทำอะไรบนหอคอยอันทรงเกียรติแห่งนี้กัน"

    นางพูดพลางทำหน้าราวกับจะขย้ำข้าแล้วฉีกออกเป็นชิ้นๆ

    'อย่าคิดนะว่าข้าจะกลัว'

     " นี่ป้า! ป้าเป็นใครกันเนี่ย แล้วป้ามีสิทธิ์อะไรที่มามัดข้าไว้กับเก้าอี้แบบนี้เนี่ย"

    "หนอยแน่ ไอ้เด็กปากเสียแกว่าใครเป็นป้ากันย่ะ อย่างชั้นน่ะ พึ่งจะอายุ 25 เอง แล้วหุ่นก็ออกจะเพรียวสวย เช้งกะเดะขนาดนี้ยังเรียกชั้นว่าป้าอีกเหรอไอ้เด็กปากเสียเอ้ย"

    " ฮ่ะ ป้าว่าอะไรน่ะ คนเป็นป้าก็ยังป้าอยู่วันยันค่ำหล่ะ ป้า!ป้า!ป้า!ป้า!ป้า!ปะ...อุ๊บ"

    ทุกคนครับ....ยัยป้านี่


    มันเอาเทปมาปิดปากผมเฉยเลย อ้าาาาาาาาาาากปล่อยเดี๋ยวนี้น่ะเฟ้ย!


    "หนอยไอ้เจ้าเด็กปากเสีย แบบนี้ต้นโดนลงโทษ เฮอะว่าแต่หน้าตานายก็น่ารักดีหนิ 
    ของเล่นเก่าชั้นก็พังแล้วซะด้วย นี่ๆนายหน่ะมาเป็นของเล่นใหม่ของฉันเถอะ"

    "อื้อ อื้อ อื้อ(ไม่ ไม่ ไม่)" 

    "อืม นายไม่ตอบแสดงว่าตกลงซิน่ะ โอเค!เริ่มต้นการทำพันธสัญญาชั่วคราวได้"

    พอยัยป้านี่พูดจบเขตแดนเวทย์มนต์ก็กางขึ้น พร้อมกับเจ้าตัวที่ถือมีดเดินมาทางผม

    " เอาหล่ะ มาเริ่มพิธีกันเถอะ ฮึ ฮึ"เธอพูดพร้อมกับทำหน้าโรคจิต


    ปลายมีดอันแหลมคม ค่อยๆบรรจงกรีดลงไปบนแขนเล็กเรียวบางนั้น
    ก่อนจะค่อยๆกดปลายมีดให้ลึกลงไปอีกราวกลับเป็นการกลั่นแกล้ง ยามที่ใบมีดอันแหลมคมถอดถอนออกจากแขนเล็ก เลือดสีขาวค่อยๆไหลลงมาจากแขนของร่างเล็ก ก่อนหยดลงไปบนเขตอาคมบนพื้น


    " อืมๆ ทีนี้ก็ตาฉันซิน่ะ "

    ยัยป้านั่นกลับเอามีดปาดปลายนิ้วของตัวเองแล้วค่อยๆหยดลงไปบนเขตอาคม

    "ด้วยนามของข้าแม่มดราพันเซล ขอลงพันธสัญญาชั่วคราวกับมังกรวารี อีรีส"

    เอ๋! แล้วยัยป้านั่นรู้จักชื่อข้าได้ยังไงกันเนี่ย

    หยดเลือดทั้งสองผสมกันและเกิดเป็น กิ๊ปเล็กๆสีแดงชมพู2อัน

    "อ่ะ พันธสัญญาชั่วคราวเสร็จแล้ว ทีนี้ก็มาเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของฉันได้แล้วอีรีส"

    " อื้อ อื้อ อื้อออออออออ(ไม่ ไม่ ม้ายยยยยยยยย)"

    ข้าเป็นมังกรน่ะ ถึงเป็นการทำพันธสัญญาแค่ชั่วคราวก็เถอะแต่มันเป็นการทำลายอิสระของข้าเลยน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา







    ตัดกลับมาปัจจุบัน



    และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ข้าต้องทนทุกข์ทรมาณอยู่กับยัยป้านั่นมาตลอด 3ปี 

    เพราะยัยนั่นจับข้าแต่หญิงมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมาเลยน่ะซิ
    ให้ตายเถอะข้าน่ะเป็นมังกรนะไม่ใช่ตุ๊กตายัดนุ่นหล่อนถึงจะได้จับข้าแต่งตัวเล่นน่ะ


    " อีรีสจ๋าาาาาาา"

    ' เฮือก!'

    ตายยากจริงๆ ยัยป้านี่

    อีรีส: "จะ...จ๋าพี่ราพันเซล"

    ราพันเซล:" ดีมาก ว่าแต่เมื่อกี้ชั้นได้ยินเสียงแว่วๆว่ามีใครเรียกชั้นว่าป้าน่ะ"

    อีรีส:"อ่ะ...อ๋า ผมว่าพี่จ๋าหูฝาดไปเองแน่ๆเลยครับ" ข้าพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

    ราพันเซล:"อ๋อหรอ ช่างเถอะอีรีสจ๋ามาลองชุดกันเถอะ"

    'วิ้ง วิ้ง'

    โห เอฟเฟ็คมาเลย ยัยบ้าพูดพร้อมชูชุดกระโปรงสั้นสีฟ้าอ่อนที่เติมแต่งด้วยลูกไม้สีขาวสะอาดตา
    พร้อมหูและหางแมวในมืออีกข้าง

    'เฮือก!'

    อีรีส: "พะ...พี่จ๋า ผมว่าผมยัยเหลืองาน ซักผ้า ถูพื้น ล้างจาน ขัดรองเท้า และอีกหลายๆอย่างเพราะงั้นผมขอตัวก่อนน่ะครับ"

    ราพันเซล: 'หมับ!' "อ๋า ทำงานบ้าน...งั้นก็ใส่ชุดเมด  งั้นไปก็เถอะ"

    อีรีส: ม่ายยยยยยยยยยย หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ ยัยป้านี่ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้น่ะ"

    ราพันเซล:"เห! เดี๋ยวนี้ลูกแมวน้อยของฉันบังอาจแข็งข้อกับฉันงั้นหรอ งั้นต้องลงโทษ"

    อีรีส:"ม่ายยยยยยย หยุดน่ะ แน่จริงก็ปล่อยช้านเซ่ ยัยป้านี่ มาสู้กันเล้ย"

    ราพันเซล:"แหมๆ ลูกแมวน้อย ตัวผอมแห้งอย่างนายสู้ฉันไม่ได้หรอกจำไว้ซะด้วย"

    อีรีส:"ม่าาาาาาาย"









     
    เช้าอันสดใสของอีกวัน (ไรท์เป็นผู้บรรยาย)
     
    ท่ามกลางอาณาจักรใหญ่อันเงียบสงบในปราสาทหลังใหญ่ตระกาลตากลางดูช่างวุ่นวายนัก
    ภายในท้องพระโรงขนาดใหญ่พระราชาและพระราชินีทรงกังวลพระทัยเป็นอย่างมากเมื่อบุตรชายของพระองค์นั้นยังมิคิดที่จะอภิเษกสมรถกับองค์หญิง/องชาย(?)
    เหมือนกับเจ้าชายของอาณาจักรอื่นๆเสียที
     
    พระราชินี:สเด็จพี่น้องรู้สึกหนักใจเหลือเกิน เมื่อองค์ชายของอาณาจักรอื่นๆได้อภิเษกสมรถกันหมดแล้วต่างทำให้อาณาจักรอื่นๆเข้มแข็งขึ้น และทำให้ผู้ปกครองอาณาจักรอื่นๆต่างโล่งใจ
    ลงได้บ้างเมื่อลูกหลานของเขาได้เป็นฝั่งเป็นฝาแถมมีทายาทตัวน้อยๆน่าอุ้มชูอีกด้วย"
     
    พระราชา:"ข้าว่าเจ้าคงไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก ลูกของเราอาจยังไม่เจอคนที่ใช่จริงๆก็ได้เลยยังไม่คิดเรื่องแต่งงานมากซักเท่าไร"
     
    พระราชินี:"ไม่ต้องกังวลเหรอค่ะ! ยังไม่เจอคนที่ใช่เหรอค่ะ! แล้วไอ้การที่ให้ลูกเราดูตัวกับหญิง/ชายทัวอาณาจักร กับการดูตัวกับองค์หญิง/องค์ชายกับอีก10อาณาจักรในละแวกนี้มันคืออะไรกันน่ะหา!"
     
    พระราชา:"ฮะ...เอาน่าๆ ยังไงเดี๋ยวไม่ช้าก็เร็วลูกเราก็คงจะแต่งงานเร็วนี้หล่ะ"
     
    พระราชินี:"ท่านพี่พูดแบบนั้นจะแน่ใจได้ยังไงกันค่ะ"
     
    พระราชา:"ก็เรียกได้ว่าสัญชาติญาณละมั้งฮะ...ฮะ" 

    ' ปึ้ง!'

    เสียงของประตูท้องพระโรงขนาดใหญ่ได้เปิดออก เผยให้เห็นร่างองครักษ์หนุ่มของ
    องค์ชายสเตฟาน นามว่า เอเธน

    พระราชินี:"ได้ความว่าอย่างไรบ้าง เอเธน ลูกข้าเจอหญิงสาวที่สนใจบ้างหรือไม่"

    เอเธน:"ไม่เลยพะยะค่ะ องค์ชายไม่สนใจหญิงสาวหรือชาย คนใดเลยพะยะค่ะ"

    พระราชา:"อืม งั้นเหรอ"

    พระราชินี: "แล้วท่านเจอหญิงสาวผู้อื่นในบริเวณระแวกนี้บ้างอีกหรือไม่"

    เอเธน:"พะยะค่ะ จากที่เราได้รวมกำลังของทหารทั้งหมดแล้วพบว่า ถัดจากที่นี่ผ่านไปอีก
    จะเป็นป่าสน 3ฤดู จะพบกับหอคอยที่สูงขึ้นไปเสียดฟ้าและเราก็พบว่ามีเจ้าหญิงรูปงาม
    อยู่องค์หนึ่งพะยะค่ะ"

    พระราชินี:"งั้นเจ้าจะรอช้าอยู่ใยรีบรวมพลกำลังไปตามตัวนางมาซิ"

    เอเธน: "พะยะค่ะ"


    พระราชา: "เดี๋ยวก่อน ข้าคิดอะไรสนุกๆออกแล้วหล่ะ หึๆ" (พูดขึ้นพร้อมทำหน้าชั่วร้าย)

    .
    .
    .
    .
    .
    อีก 1ชม.ต่อมา
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


     
    ณ ห้องบรรทมขององค์ชาย
       ตัดมาที่ร่างสูงขององค์ชายรูปงามประจำอาณาจักร ที่เป็นที่หมายปองของเหล่าหนุ่มสาว
    ทั่วทั้งอาณาจักร เพราะความเย็นชาที่มักปรากฏอยู่บนใบหน้าทำให้ดูน่าเกรงขามและสง่างามในเวลาเดียวกัน ถึงแม้นจะเป็นเช่นนั้นแต่กลับยังไม่มีคู่ครองเหมือนกับคนอื่นเขาซ้าาาาาาาาก
    ( คูณ สระ า 100 ตัว)ที เฮอะๆ
        และเหตุที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะว่าเจ้าชายของเราตายด้านแต่อย่างใด แต่เพียงเพราะเหตุผลง่ายๆที่พวกคุณต่างก็รู้ คือ ยังไม่เจอคนที่รู้สึกว่าใช่เท่านั้นเองเน้อ (-o- : ไรท์)
                                                               

     
    เริ่มบรรยายจริงๆแล้วค่ะ

    องค์ชายสเตฟานตอนนี้กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องค่ะ

    'ปึ้ง!'

    เสียงที่ดังขึ้นเพราะการเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้งของวัน ในปราสาท
    พร้อมร่างขององครักษ์เอเธนที่เร่งรีบเดินเข้ามาหาองค์ชายของตน

    เอเธน: "องค์ช่ายพะยะค่ะ"

    องค์ชายสเตฟาน: "นี่ เอเธนเราบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกเราว่าองค์ชาย เรียกแค่ชื่อก็พอน่ะ"

    เอเธน: "แต่" องครักษ์หนุ่มส่ายหน้าเฉิงปฏิเสธ

    สเตฟาน:"ไม่มีแต่น่า เราทั้งสองก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนี่" องค์ชายสเตฟานปิดหนังสือที่ตนกำลังอ่านลงแล้วหันไปจ้องหน้าขององครักษ์เอเธน เฉิงข่มขู่(?)

    เอเธน: "พะยะค่ะ อง....โอเคก็ได้ ฟาน"

    สเตฟาน: "แล้วนายมีอะไรหรือเปล่า ข้าเห็นท่าทางรีบร้อนของเจ้าจึงรู้สึกกังวลใจแปลกๆ"

    เอเธน: "อืม ก็ท่านพ่อของนายน่ะซิให้ชั้นกับนายเข้าไปในป่าสน 3ฤดู เพื่อไปตามหาผู้หญิงแปลกๆให้นายดูตัวอีกแล้ว"

    สเตฟาน: "ท่านพ่อเหรอ อืม...ร้อยวันพันปีไม่เคยให้ข้าออกไปไหน แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงกลับให้ออกนอกวังไปกับนายเองซะหละเนี่ย"

    เอเธน: "งั้นจะบอกให้ฟังก็ได้เหตูผลของพ่อนายหน่ะ คือ..."



    เริ่มย้อนไปเมื่อ 1ชม.ก่อนหน้านี้

    พระราชา: "เดี๋ยวก่อน ข้าคิดอะไรสนุกๆออกแล้วหล่ะ หึๆ"

    พระราชินี: "อะไรเพค่ะท่านพี่"

    พระราชา: "ข้าจะให้ลูกของเราเดินทางไปหาเจ้าหญิงด้วยตัวเองหน่ะสิ"

    พระราชินี: "ทำไมล่ะเพคะ ทำไมต้องให้ลูกเราไปเซี่ยงอันตรายด้วย"

    พระราชา: "เฮ้อ เจ้าจะห่วงอะไรลูกเราหนักหนา ในเมื่อลูกเราก็โตแล้ว เรื่องปัญญาและศิลปะ
    การต่อสู้ก็ดีเด่น การเผชิญหน้ากับอันตรายก็คงไม่ต้องห่วง แล้วอีกอย่าง
    การเดินทางเพื่อตามหารักแท้ก็ฟังดูโรแมนติกดีมิใช่เหรอ"

    พระราชินี:ทำท่าครุ่นคิดและพูดว่า "จริงด้วยเพค่ะเสด็จพี่ ฟังดูโรแมนติกมากเลย แต่ว่าน้องก็ยังเป็นห่วงลูกเราอยู่ดี"

    พระราชา: "งั้นเราก็ให้องครักษ์เอเธนไปกับลูกเราด้วยเลยซิ ไม่แน่พวกเขาอาจจะพบรักแท้พร้อมๆกันก็ได้"

    พระราชินี: "จริงด้วยเพค่ะ งั้นเอเธนเจ้ารีบไปเตรียมตัวได้แล้วและรีบบอกองค์ชายด้วยหล่ะ เริ่มเดินทางวันพรุ่งนี้เลยแล้วกันน่ะ" พูดด้วยสีหน้า ท่าทาง และ แววตาที่ดูระรื่น

    เอเธน: "อะ...เอ่อ พะยะค่ะ"



    .

    .

    เอเธน: " อืมก็ประมาณนี้ พ่อกับแม่นายมีความคิดที่แปลกประหลาดดีแท้ ให้ลูกชายตัวเองออกเดินทางตามหาสิ่งที่ไม่รู้ว่ามีไม๊ เพราะความโรแมนติกโดยแท้"

    สเตฟาน: "อ่อ เพราะความโรแมนติกซิน่ะ"

    เอเธน: "แล้วถ้านายไม่เจอคนที่เป็นรักแท้จริงๆ นายจะทำยังไงกันหล่ะ"
    ว่าอย่างเหนื่อยๆแล้วนั่งลงบนเก้าอี้

    องค์ชายสเตฟานลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งก่อนค่อยๆเดินเข้าไปใกล้องครักษ์เอเธน 
    ก่อนหยุดยืนตรงหน้าของอีกฝ่ายพอดี
    .
    .
    .
    .
    .

    ก่อนท้าวแขนลงบนเก้าอี้เพื่อกั้นอีกฝ่ายช้าๆ
    .
    .
    .
    .

    สเตฟาน: "ก็คง..."
    พูดพร้อมค่อยๆก้มหน้าของตนเข้าหาอีกฝ่ายช้าๆ.....

    เอเธน: ๐//////๐ หน้าเริ่มขึ้นสีแดงนิดๆ

    ก่องที่ริมฝีปากขององค์ชายสเตฟานจะหยุดอยู่ที่ใบหูขององครักษ์เอเธน
    .
    .
    .
    .
    .
    แล้วพูดว่า

    สเตฟาน: "ก็คง กินเพื่อนตัวเองหล่ะมั้ง"
    ก่อนจะผละออก แล้วเดินออกจากห้องไป


    เอเธน: "๐////////////////๐!!!!!!!!!!!! "เจ้าบ้า!!!!!!!!" 











    และแล้วันพรุ่งนี้ก็มาถึง (มาแล้วจ้าoAo)



    เช้าวันนี้ที่หน้าประตูของอาณาจักรรู้สึกจะคึกคักเป็นพิเศษ เมื่อเหล่าประชาชนออกมาส่งเจ้าชายอันเป็นที่รักยิ่งและองครักษ์ของพระองค์ให้ออกเดินทางตามหาผู้เป็นรักแท้ของพระองค์เอง


    พระราชินี: " ลูกของข้าเจ้าจงเดินทางปลอดภัย และข้าขอให้เจ้าพบเจอกับผู้เป็นรักแท้จริงของ                 เจ้าเสียที อ่า ทีนี้ข้าจะได้มีรัชทายาทที่น่ารักน่าเอ็นดูให้กอด ไห้อุ้มเสียที อิๆ หึๆ" 
               
     

    องค์ราชินีกล่าวคำอวยพรก่อนการเดินทางให้แก่บุตรชายของตน
    ก่อนที่จะพึมพำประโยคหลังกับตนเองเพียงคนเดียว


    พระราชา: "อ่า ข้าว่าพวกเจ้าควรออกเดินทางกันได้แล้วหล่ะก่อนที่จะมือค่ำซะก่อน"

    สเตฟาน: "ขอรับ ไปกันเถอะเอเธน"

    เอเธน: "พะยะค่ะ"







    ตัดบทมาที่อีรีสกันเถอะ



    ราพันเซล: "อีรีสจ๋าาาาาาาาาาา วันนี้พี่สาวสุดสวยได้ชุดกระโปรงน่ารักๆมาให้อีรีสลองใส่อีกและหล่ะ มามะ...มาใส่ให้พี่ดูซะดีๆเถอะ"

    อีรีส: " มะ...ไม่เอาอ่ะ พี่จ๋า อีรีสขอไม่ใส่ได้ม่ะ ก็พี่สาวบังคับ อ่ะ...เอ่อ ผมเต็มใจใส่ เต็มใจใส่มากๆเลยครับ แต่ใส่มาทุกวัน วันนี้ไม่ใส่ได้มั๊ย น่ะๆๆ"  ขยับหนีนิดๆ

    ราพันเซล: "อ่าเร่ะ อ่าวจะไปไหนหน่ะ อีรีส นายควรจำไว้น่ะว่านายเป็นตุ๊กตาของฉันเพราะงั้น แต่งตัวทุกวันก็ถูกแล้วซิ มาม่ะ...มาให้ชั้นแต่งตัวซะดีๆ"

    ม่าาาาาาาาาย ตอนนี้ผมคิดว่าคงไม่พ้นเงื้อมือมารแน่ๆ ม่าาาาาาาาาาาย 



    ราพันเซล: "แต่ว่า วันนี้ชั้นรู้สึกว่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเพราะงั้นวันนี้แต่งแค่ชุดเดียวก็แล้วกันน่ะ "   
    ม่าาาาาาาาาย ก็โดนแต่งอยู่ดีหล่ะเฟ้ย









    อีก 30นาที ต่อมา




    ราพันเซล: "อ้าาาาาาย อีรีสจังน่ารักจังเลย เดี๋ยวน่ะๆ ขออัพรูปลงเฟสบุ๊คก่อน(?)"

    หลังจากที่นางปีศาจเดินจากไปก็ทำให้ผมมีเวลาดูความอัปยศของตัวเองในกระจก
    อ่า ตอนนี้ผมอยู่ในชุดสีขาวอมชมพูฟูฟ่อง(?) ลายตาค้วยลูกไม้หน่อยๆกับแขนเสื้อสั้นๆฟู
    อีกเล็กน้อย ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีอ่อนดูหวานแหววกับผมสั้นที่ติดคาดผมดอกกุหลาบขาว สุดท้ายให้ดูน่ารักสดใสด้วยถุงเท้าลูไม้ขาวกับรองเท้าหุ้มส้นสีขาวสวย

    อืม ถ้าไม่ติดว่ามันคือร่างของผมๆคงคิดว่าน่ารักสุดๆเลยหล่ะ
    อ้าาาาาาาาาก ม่าาาาาาาาาาาย   มันต้องไม่ใช่ซิมันไม่ใช่ตัวผมเลย ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย!!!!!!!!!! 

    ราพันเซล: "เอาหล่ะ ตัดสินใจแล้วมาใส่อีกชุดล่ะกัน"

    อีรีส: "เอ๋อะไรล่ะป้า อุ๊บ พี่สาว ไหนบอกว่าแค่ชุดเดียวไง"

    ราพันเซล: " เมื่อกี้ว่าอะไรน่ะ เฮอะ! ชั้นเปลี่ยนใจหล่ะ มาใส่อีก10ชุดในวันเดียวเลยเป็นไงดีไหมหล่ะ เริ่มจากชุดนี้"

    อีรีส: "ไม่น่ะ"

    ผมรีบพูดปฏิเสธทันทีหลังจากที่คุณเธอชูชุดโกธิคสีดำพร้อมกับวิกผมในมือ

    ทันใดนั้นก็มีเสียงที่3ดังขึ้นมาจากด้านล่างของหอคอย

    บุคคลปริศนา: "เฮ้! ข้างบนนั้นมีใครอยู่หรือไม่ช่วยตอบที"

    ราพันเซล: "อีรีสไปดูซิว่าใครมากันน่ะ"

    อีรีส: "ครับผม"

    ผมพูดรับก่อนเดินไปส่องทางช่องหน้าต่างเล็กๆ

    อีรีส: "อ่อ มีคนมาครับและดูเหมือนจะเป็นเชื้อพระวงศ์ซะด้วยมาตั้ง2คนแน่ะให้ไปไล่ไม๊ล่ะครับ"

    ราพันเซล: "เอ๋ เชื้อพระวงศ์ เหรอ แหมตอนนี้ก็ไม่มีอะไรสนุกๆเล่นซะด้วย งั้นเชิญท่านขึ้นมาเล่นด้วยกันซักหน่อยดีกว่า หึๆ อ้อ ทำเสียมารยาทหล่ะอีรีส พูดตามที่ชั้นเคยสอนน่ะเข้าใจไม๊"

    อีรีส: "คร้าบๆ"

    เสียงปริศนาตะโกนเรียกอยู่นานก่อนที่ผมจะโดนราพันเซลไล่ลงไปด้านล่างเพื่อเปิดประตูให้บุคคลปริศนาทั้งสองขึ้นมา

    แล้วผมก็เดินเข้าลิฟท์เพื่อลงไปสู่ด้านล่าง แต่ใครจะคิดหล่ะว่าผมจะพบเจอการพบพานที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยน

    'ติ้ง!'

    ผมเดินไปที่ประตูก่อนเปิดออกและพูดตามที่ยัยป้าสอนว่า


         "ยินดีต้อนรับค่ะ นายท่าน"           

















    tbc.น่ะค่ะ
    ไรท์เองค่ะ ตอนนี้ยังไม่จบน่ะ นึกว่าจะจบในหน้าเดียวแต่ว่าคิดอีกที มันยาวไปเลยจะต่อหน้าใหม่
    อ่า ติดตามได้ค่ะ มาดูกันว่าอีรีสจะเจอกับอะไร ใครสงสัยโพสถามได้น่ะค่ะ
    และเหตุที่ไม่ลงรูปตัวละครเพราะว่าให้คนอ่านจินตนาการเองจะดีกว่า
    ถ้าลงรูปไปอาจเสียใจก็ได้ งั้นแค่นี้ค่ะ ขอบคุณผู้อ่านค่ะ


     


     



     

     



     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×