คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [Fic][Naruto][ShikaTema] -Request-
[Fic][Naruto][ShikaTema] -Request-
“กาอาระน้องรัก กลับบ้านกันเถอะนะ”
เสียงออดอ้อนของพี่สาวดังเข้าหูน้องชายหลายสิบรอบแล้ว แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบกลับเสียที จนหญิงสาวชักอยากจะตะโกนใส่ แต่ด้วยความเกรงใจจึงไม่ทำอย่างนั้น
“หนวกหู ออกไปไกลๆ น่ะเทมาริ” ในที่สุดน้องชายตัวดีก็ตอบกลับบ้าง แต่ด้วยน้ำเสียงรำคาญชวนโมโห เขายกมือปัดๆ เหมือนส่งสัญญาณให้พี่สาวออกไปไกลๆ จากเขา เทมาริที่รู้สึกโกรธจนอยากจะร้องไห้กับคำพูดของน้องชายสุดที่รัก กลับต้องมองเขากลับด้วยสีหน้าปกติ
“กะ... ก็ได้ งั้นเดี๋ยวฉันกลับก่อนนะ” เทมาริยิ้มอ่อนโยนให้กาอาระ เธอรีบเก็บของบนโต๊ะเรียนหน้าสุดริมหน้าต่าง แล้ววิ่งออกจากห้องเรียนไป... อะไรกัน! อีกแล้วนะเทมาริ แค่น้องชายพูดไม่กี่คำถึงกับต้องเสียน้ำตา... เทมาริที่ร่าเริงก็กลับมาซะทีสิ
“เอ๊ะ!?”
ชายหนุ่มที่ยืนพิงเสาตรงประตูเป็นต้องเอะใจ เมื่อเห็นเพื่อนร่วมห้องสาวเอาแขนปิดหน้าปิดตาวิ่งออกไปจากห้อง... เพียงแค่เห็นก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าเธอร้องไห้อยู่ แต่ถึงชายหนุ่มจะเริ่มสงสัยกับสาเหตุที่ทำให้สาวนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้ร้องไห้เท่าไร เขาก็ตีสีหน้าเบื่อโลกแล้วมองสิ่งรอบๆ ตัวเหมือนทุกๆ วันดั่งเดิม
อาจมีบางอย่างกำลังเริ่มเปลี่ยนไป...
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ ซากุระ อิโนะ ฮินาตะจัง” น้ำเสียงใสแจ๋วของเทมาริทักทายเพื่อนทุกคนในห้องเหมือนทุกๆ วัน อย่างกับเรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น เพียงแต่วันนี้แปลกไปนิดหน่อย...
“หืม?” หญิงสาวหันมาสบตากับชายหนุ่มเด็กหลังห้อง ชิกามารุที่จ้องเธอมาตั้งแต่เข้าห้องมาหลบสายตาของเทมาริ “เอ... นายคือ นารา ชิกามารุ... สินะ?” หญิงสาวเริ่มทักทายชายหนุ่มก่อน ด้วยความไม่ค่อยคุ้นเคยกัน เทมาริที่เป็นนักเรียนใหม่จึงจำชื่อเพื่อนในห้องบางคนไม่ค่อยได้ เธอค่อยๆ เดินไปใกล้ๆ กับโต๊ะเรียนหลังสุดที่ติดหน้าต่างด้วยความสงสัย
“ฉันเห็นนายจ้องฉันตั้งนานแล้ว มีอะไรรึเปล่า...?” เทมาริตีหน้าใสซื่อ ถามคนตรงหน้าอย่างอยากรู้อยากเห็น ส่วนชายหนุ่มกลับมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเย็นชา
“ฉันแค่สงสัยว่า ทำไมคนที่เมื่อวานร้องไห้วิ่งออกจากห้องไปอย่างเธอ กลับมาแสดงสีหน้าร่าเริงแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนนี้ก็เท่านั้น” ชิกามารุตอบตามความจริง เพียงแต่สายตาของเขายังคงมองไปนอกหน้าต่าง หญิงสาวที่ดูน่าจะเงียบไปสักพักด้วยความตกใจ... ก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม
“นายเพ้อเจ้อไปเองแล้วมั้ง ฉันเนี่ยนะจะร้องไห้ ฮ่าๆๆๆ” เทมาริตอบกลับพลางหัวเราะ ชิกามารุทำเป็นไม่สนใจ... สักพักเสียงออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น ทำให้นักเรียนทุกคนกลับไปนั่งที่ประจำของตัวเอง และแล้วคาบเรียนแรกที่แสนน่าเบื่อของชิกามารุก็เริ่มขึ้น
“ชิกามารุ! มาทำอะไรสนุกๆ แก้เบื่อกันฉันไหม?” เสียงดังใสของสาวสวยประจำห้องดังขึ้น แต่มันกลับน่ารำคาญในสายตาของชิกามารุ เขาทำเป็นไม่สนใจเธอ แล้วแกล้งหลับต่อ
“ชิกามารุ! ฉันเรียกอย่ามาทำหูทวมลมนะ” หญิงสาวเริ่มตวาดใส่ เธอเริ่มยกมือขวามันตบหัวเขาเพื่อเรียนความสนใจ
“พอได้แล้วน่ะอิโนะ ฉันก็รำคาญเป็นนะ” ชายหนุ่มรีบคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองเจ็บตัว ชิกามารุบอกปฏิเสธเพื่อนสาวด้วยความรำคาญ แล้วจึงกลับมานอนทำไม่สนใจเสียงโวยวายของอิโนะสักนิด
พระอาทิตย์กำลังส่องแสงเจิดจ้า ตอนเที่ยงซึ่งเป็นช่วงพักของนักเรียนในโรงเรียนโคโนฮะ และยังเป็นชั่วโมงแห่งการนอนหลับของชายหนุ่มขี้รำคาญอย่างชิกามารุด้วย เขามักจะใช้เวลาว่างๆ กับการนอนดูเมฆเสียส่วนใหญ่ แต่บางครั้งเขามักเสียเวลาไปกับการเล่นหมากรุกกับครูประจำชั้นที่ห้องพักครูด้วย
แต่ทว่าช่วงเวลาแสนสุขของเขาก็มักจะถูกขัดด้วยน้ำเสียงไม่พึ่งประสงค์ของอิโนะ สาวสวยลูกเจ้าของร้านดอกไม้ที่เป็นผู้หญิงน่ารำคาญอันดับ1 สำหรับเขาไปเสียแล้ว หรือเสียงของโจจิ ชายร่ามท้วมที่มักจะพกของกินติดตัวเสมอ เพื่อนสมัยเด็กของเขานั่นเอง แม้ทั้งสองคนจะน่ารำคาญมากก็ตาม แต่ชิกามารุก็ไม่เคยปฏิเสธหากทั้งสองคนจะขอความช่วยเหลือ
“ชิ-กา-มา-รุ! นายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ โจจิ จัดการเลย!” ไม้ตายสุดท้ายของอิโนะ การเรียกโจจิเพื่อนร่างใหญ่ของเธอมาร่วมวงด้วยนั้นมักมีแต่เสียกับเสีย ด้วยเหตุผลนี้ที่ชิกามารุรู้ดี ทำให้มักยอมทั้งสองโดยเสมอ เพียงแต่... ชายหนุ่มเกิดอาการแปลกใจเสียนิดหน่อย เพราะปกติอิโนะจะใช้ไม้ตายนี้เมื่อจนมุมจริงๆ เท่านั้น
“อะไร?” ชิกามารุเริ่มตอบกลับบ้างด้วยน้ำเสียงชวนเบื่อเหมือนนิสัยเจ้าตัว อิโนะเหยียดยิ้มราวกับนางร้ายในละครหลังข่าว แล้วตบบ่าเพื่อนชายโจจิอย่างภาคภูมิใจ
“มาหาไรทำแก้เซ็งกัน!” หญิงสาวเริ่มอธิบายเกมสนุกๆ ที่อยากให้เพื่อนรักเล่น คำว่า ‘แก้เซ็ง’ ของอิโนะนั้น ถึงจะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเขาไปบ้าง แต่ก็พอช่วยให้เริ่มรู้สึกหายเซ็งได้จริงๆ และนั่นคงเป็นเหตุผลหลักที่ชิกามารุยอมเล่นกับเธอด้วยทุกครั้งล่ะมั้ง...?
และมันก็ถูกต้อง หลังจากฟังเรื่องจากอิโนะก็ทำให้เขารู้สึกอยากกลับมาเล่นอะไรที่น่าสนใจอย่างการ ‘สืบ’ แบบมือสมัครเล่นอีกครั้ง โดยเป้าหมายครั้งนี้คือ ‘ซาบาคุโนะ เทมาริ’ สาวที่เรียกได้ว่า ‘สวย’ นักเรียนแลกเปลี่ยนที่มีอายุมากกว่าเพื่อนในชั้นเรียนถึง 3 ปี!
“ฉันคิดว่าพวกนายคงเห็นนะ ว่าเมื่อวานเทมาริร้องไห้วิ่งออกจากห้องไป...” คำพูดของอิโนะทำให้ชิกามารุนึกถึงเรื่องเมื่อวานอีกครั้ง หญิงสาวที่ร้องไห้หลังจากคุยกับน้องชายของตัวเอง คงพี่น้องทะเลาะกันล่ะมั้ง... เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อให้อิโนะอธิบายต่อ...
“งั้น... กำหนดเวลา 1 อาทิตย์ ฉันนำเอง” ชิกามารุออกตัว อิโนะกับโจจิเริ่มหันมามองด้วยความสงสัย เพราะปกติชิกามารุชายขี้เบื่อไม่เคยคิดจะเป็นหัวหน้าในการทำงานอะไรหากไม่มีใครขอร้อง
“แหม่ๆ สนใจอ่ะดิ พึ่งรู้นะเนี่ย ชิกามารุชอบสาวที่แก่กว่า” อิโนะเริ่มแซว ตามมาด้วยโจจิที่ร้องโห่ฮิ้วคอยเชียร์ ชิกามารุที่เริ่มรู้สึกเขินอาย พยายามปกปิดด้วยการแสดงสีหน้าขี้เบื่อตามปกติแลh;บอกปฏิเสธเสียงแข็ง
“ปะ... เปล่าสักหน่อย ฉันแค่อยากหาไรทำแก้เบื่อเท่านั้น”
ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะเริ่มแซวต่อ เทมาริเป้าหมายการแก้เซ็งครั้งนี้ก็เดินเข้าห้องมา เป็นอันว่าการประชุมของกลุ่มอิโนะชิกะโจต้องจบลง ทั้งสามเริ่มแยกย้ายกลับไปนั่งที่ประจำของตัวเอง...
แต่...
คงมีเพียงแต่ชิกามารุคนเดียวในห้อง... ที่แอบมองสาวเจ้าอยู่นานสองนานตลอดคาบบ่าย ก็แค่ทะเลาะกันน้องชาย ก็แค่เป็นน้องชายที่เรียนชั้นเดียวกัน แล้วก็แค่น้องชายที่นั่งเรียนติดกัน...? ชายหนุ่มที่ปกติไม่เคยจะสนใจความรู้ในห้องเรียนนั่งคิดเรื่อยเปื่อย เพียงแต่สายตาก็ยังไม่ละไปจากเทมาริ หรือมีอะไรมากกว่านั้นนะ…!?
“ให้ทุกคนจับฉลากในกล่องนี้! แบ่งเป็น2ฝ่าย โต้วาทีกัน”
ซารุโทบิ อาสึมะ ชายหนุ่มร่างบึกบึน ที่มักมีบุหรี่เป็นของคู่กาย ครูประจำชั้นของนักเรียนม.4 ห้อง1 แต่ทีเด็ดของครูคนนี้ยังมีอีก... นั่นคือเขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของอดีตผู้อำนวยการที่พึ่งเกษียณไปไม่กี่ปี ‘ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น’
อาสึมะ เรียกได้ว่าเป็นครูที่ถือว่าทั้งยอดเยี่ยมและยอดแย่ เขามักจะสูบบุหรี่ต่อหน้านักเรียนของเขาเสมอ ในห้องเรียนก็ยังไม่เว้น แต่เขาก็เป็นครูที่น่ายกย่อง เพราะอาสึมะมักเห็นจุดอ่อนจุดแข็งในตัวนักเรียนแต่ละคน แล้วผลักดันเขาไปในทางที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงชิกามารุด้วย นับได้ว่าเป็นครูที่เก่งมากคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โรงเรียนโคโนฮะเลยทีเดียว
“ชิกามารุ นายมานี่เลย ฮารุโนะอีกคน ฉันจะให้พวกเธอเป็นหัวหน้าทีมโต้วาที” อาสึมะเรียกหัวกะทิของห้องทั้งสองคนมาเป็นแกนนำหลักในการเรียนการสอน ถึงชิกามารุจะรู้สึกน่าเบื่อไปบ้าง แต่ก็ยอมทำแต่โดยดี
“โธ่! อะไรกันคะอาจารย์ แบบนี้ตลอดเลย หนูก็อยากอยู่ทีมเดียวกับชิกามารุบ้างนะคะ” ฮารุโนะ ซากุระโวยวาย เพราะทุกครั้งทั้งเขาและเธอก็ต้องมารับหน้าที่แบบนี้เสมอ ถึงซากุระจะรู้สึกภูมิใจ แต่บางครั้งบ่อยเกินไปก็รู้สึกรำคาญได้
ชิกามารุที่ทำให้เซ็งกะตายค่อยๆ ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาหน้าห้องด้วยท่าทางเอื่อยๆ “ฉันไม่มีปัญหาหรอกนะ” ชายหนุ่มเดินมายืนประจำตำแหน่งของเขาตามปกติ ตั้งแต่เมื่อวานเขามักจะมองเทมาริอยู่ห่างๆ และเชื่อว่าบางคนคงสังเกตได้บ้าง
“นี่เทมาริ เธอไม่อยากลองบ้างเหรอ...?” และแล้วคนที่สังเกตได้ก็เริ่มทำอะไรบางอย่าง ซากุระเรียกเทมาริด้วยน้ำเสียงเชิญชวน เทมาริยืนขึ้นตอบตกลง แล้วเดินไปยืนบริเวณที่ประจำแทนซากุระ
“เห็นว่าฉันไปเด็กใหม่ก็อย่าออมมือล่ะ ฉันฉลาดพอตัวนะ” สาวสวยมองเพื่อนร่วมชั้นที่อายุน้อยกว่าหลายปีแล้วยิ้มให้อย่างมีเล่ห์ใน ‘ชักสนุกล่ะสิ...’
อาสึมะเริ่มตั้งโจทย์โต้วาทีหลังจากจับฉลากกันเสร็จแล้ว ‘หญิงดีกว่าชาย’ เป็นหัวข้อโต้วาทีที่แค่ชายขี้รำคาญเห็นก็อยากจะส่ายหน้าหนี แต่ด้วยความอิสระของการโต้วาทีในฉบับอาสึมะ ซึ่งนั่นก็คือหาเหตุผลที่ดีกว่ามาพูดโต้กัน ใครที่หมดมุขก็เป็นอันแพ้ เวลาจำกัดคือก่อนหมดคาบเรียน ชิกามารุจึงยอมเล่นด้วยเพื่อฆ่าเวลานั่นเอง
‘เหลืออีก 20 นาทีสินะ คงต้องทำให้จบไวๆ’ ทีมชิกามารุถือเป็นทีมเปิด ถึงแม้ในทีมจะมีทั้งชายและหญิงปะปนกัน แต่ทุกคนจะต้องเชียร์ชิกามารุให้หาเหตุผลที่ว่า ชายดีกว่าหญิง! ซึ่งมาจากการแบ่งฝ่ายแบบพิลึกของอาสึมะ ‘เฮ้อ! ถ้าโต้วาทีกันปกติ ฉันคงต้องบอกว่า หญิงดีกว่าชาย ไม่ใช่รึไงวะ?’ เกมของอาสึมะมักเป็นเกมที่เล่นเพื่อหาความสนุกสำหรับเขาเท่านั้น ชายหนุ่มมักคิดแบบนี้เสมอ
“พวกผู้หญิงขี้บ่นจะตาย น่ารำคาญชะมัด” แต่ชายหนุ่มก็ต้องเลิกสงสัยเพียงเท่านั้น ชิกามารุเริ่มพูดเหตุผลที่เขาเกลียดผู้หญิงก็เป็นลำดับแรก ถ้าไม่ได้อยู่ในห้องเรียน ไม่ได้โต้วาทีกันอยู่ ทุกคนคงคิดว่าชิกามารุบอกเลิกแฟนอยู่ล่ะมั้ง...?
“ผู้ชายก็แทนที่จะไม่คิดอะไรมาก แต่ดันเก็บคำบ่นมาคิดเล็กคิดน้อย แล้วก็งอนนู้นนี่ไปเอง นี่แหละข้อที่แย่กว่า”
“ผู้หญิงก็เหมือนกันน่ะ เอะอะ ก็บอกไม่ชอบ ไม่เอา ไม่ใช่”
เพียงแค่สองสามประโยคแรก ก็อย่างกับคู่สามีภรรยาทะเลาะกันซะงั้น จะว่าเป็นเพราะประโยคเริ่มต้นของชิกามารุก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นประโยคตอบกลับของเทมาริก็ไม่เชิง ทั้งสองเริ่มประกาศสงครามกลางการโต้วาทีอย่างสนุกสนาน
“ผู้ชายไม่มีประจำเดือน ไปทำใครท้องก็ไม่เดือดร้อน” โต้วาทีเริ่มผ่านไปสักพัก ชิกามารุที่เริ่มจะมุกหมด จึงเริ่มหาเหตุผลที่แสนอัปรีย์มาพูดแทน
“หึ! ผู้ชายนะ ใส่กระโปรงก็ไม่ได้ แต่ผู้หญิงน่ะใส่ได้ทั้งกระโปรงกางเกง ดีออกเนอะ”
“. . .”
“เป็นผู้ชายก็อย่าร้องไห้ล่ะ ร้องแล้ว... ดู-สำ-ออย!”
“. . .”
“ผู้ชายทำไรก็ออกเกย์ ดูอย่างนายตอนนี้สิ ไหนว่าไอคิวสองร้อยอัพ เจอฉันหน่อยเดียวหงอยเลยอ่ะดิ ฮ่าๆๆ”
“. . .”
ชิกามารุได้แต่กัดฟันหลังจากเริ่มไม่มีเหตุผลสู้ เพราะไม่อยากแพ้กับผู้หญิงปากดีตรงหน้า ‘เพราะไอ้อาสึมะแท้ๆ แกก็รู้ว่าแต่ไหนแต่ไรฉันคิดว่าหญิงดีกว่าชาย แล้วให้ฉันมาโต้เรื่องชายดีกว่าหญิงหาพระแสงไรฟร่ะ?’ ชิกามารุได้แต่ด่าอาจารย์สุดที่รักของตัวเองในใจอย่างเจ็บแค้น
ยังไม่ทันที่ชิกามารุจะเอ่ยปากพูดต่อ เสียงออตเลิกเรียนคาบสุดท้ายของวันนี้ก็ดังขึ้น อาสึมะประกาศดังลั่นถึงชัยชนะของเทมาริอย่างภาคภูมิใจ แถมด้วยการเดินมาตบบ่าชิกามารุแล้วมองด้วยสายตาว่า แก-แพ้-แล้ว ยิ่งทำให้ชิกามารุเจ็บใจขึ้นอีกหลายเท่า
แต่ไม่นานนักอารมณ์เจ็บแค้นเจ็บใจที่ว่าของชิกามารุก็หายไปซะงั้น...
แสงแดดสีทองสาดลงจากหน้าต่างที่กำลังถูกปิดทีละบานสองบานในยามเย็น ห้องเรียนเงียบสงบเหลือแต่ชายหนุ่มกับหญิงสาวที่คอยปิดหน้าต่างและจัดโต๊ะ เพราะสมาชิกในเวรประจำวันคนอื่นๆ ออกไปทิ้งขยะ หรือไม่ก็โดดกันตามปกติ
“นี่นายตั้งใจจัดโต๊ะหน่อยสิ เบี้ยวหมดแล้วเห็นไหม!?” คู่หญิงชายที่ว่า คือคู่โต้วาทีเมื่อสักครู่นั่นเอง เทมาริที่ปิดหน้าต่างห้องเรียนจนครบทุกบานหันมามองเพื่อนหนุ่มของเธอที่จัดโต๊ะอยู่บ้าง แต่ปรากฏว่ามันเละและเบี้ยวไปเสียทุกแถว
“นี่! ชิกามารุ!” เทมาริตวาดเสียงดังใส่ชายหนุ่มที่กำลังเหม่อลอย...
ชิกามารุเริ่มรู้สึกตัว เขาหันมาหาเทมาริอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้อะไรตอบกลับมา หญิงสาวได้แต่ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของเขา ชิกามารุพยักหน้างืมๆ แล้วกลับมาจัดโต๊ะต่อ
ปัง!
สายลมเย็นพัดเข้าใส่หน้าต่างอย่างแรง คงเพราะชิกามารุผิดไปแล้วจึงได้ยินแต่เสียงโครมคราม ส่วนประตูเองก็ปิดเสียงดังปังทำเอาเทมาริตกใจ แต่เธอก็ยังคงแสดงสีหน้าปกติไม่ให้ชายหนุ่มเห็น บรรยากาศที่เริ่มผิดแปลกไปจากเมื่อสักพักที่แสงแดดยังสว่างจ้า ทั้งสองคนจึงคิดว่าพายุอาจเข้าเป็นแน่ๆ
‘ปะ... เปิดไม่ได้!?’ เทมาริที่มายืนอยู่หน้าประตูพยายามดันประตูออกนานสองนานก็เริ่มรู้สึกอะไรแปลกๆ เพราะประตูที่ว่ามันเปิดไม่ได้นี่สิ
“ชะ... ชิกามารุ ฉันเปิดประตูไม่ได้...” หญิงสาวตะโกนเรียกชิกามารุที่กำลังเก็บของบนโต๊ะหลังห้อง เขาหันมาพร้อมกับทำหน้ารำคาญแล้วเดินมาเปิดประตู
“... สงสัยเราคงโดนขังล่ะมั้ง” ชิกามารุที่ยุ่งกับประตูไม่นานพูดขึ้นมาลอยๆ เทมาริทำหน้างุนงงก่อนที่จะขำกับประโยคที่ชายหนุ่มพูด
“ฉันพูดจริงๆ ประตูจะปิดได้ยังไง ในเมื่อห้องเรียนนี้ไม่ได้อยู่ใกล้ระเบียบที่ลมสามารถพัดเข้ามาได้ นอกจาก...”
“...มีคนปิดมันสินะ” เทมาริกลับมาปั่นสีหน้านิ่งเงียบตามปกติ เธอเริ่มสำรวจห้องเรียน ผิดกับชิกามารุที่ทำตัวปกติไม่ตกใจอะไรเลยสักนิด
สายตาชวนสงสัยของสาวสวยที่มองไปทางชายหนุ่ม ราวกับจะถามว่าไม่ตกใจอะไรบ้างเลยเหรอ ทำเอาชิกามารุต้องเอ่ยปากบอกเหตุผลกับสาวบ๊องที่ฉลาดแต่ในชั่วโมงเรียน
“ก็กระเป๋ายังอยู่ พวกนั้นคงแกล้งเราเฉยๆ ล่ะมั้ง อย่าไปสนใจเลย” ชิกามารุพูดปัดไม่สนใจ เขาเดินไปเปิดหน้าต่างบานสองบานเพื่อรับลม แต่สำหรับชายขี้เบื่อคนนี้คงจะดูอาทิตย์อัสดงไปด้วยล่ะมั้ง...?
เทมาริที่น่าจะทำความเข้าใจกับความคิดของชิกามารุได้แล้วจึงเริ่มทำตัวตามปกติ หญิงสาวเดินไปปิดไฟห้องเรียนจนเริ่มมืด มีเพียงแค่แสงแดดยามเย็นที่ลอดผ่านจากหน้าต่างบานนั้นเท่านั้น ชิกามารุหันมามองด้วยความสงสัยในกระทำของเธอ
“นายคงอยากรู้เรื่องเมื่อวานสินะ...” เทมาริเดินเข้ามาใกล้ๆ ชิกามารุที่กลับไปยืนมองท้องฟ้านอกหน้าต่างอย่างสบายใจ “ฉันน่ะ เป็นพี่สาวคนโตที่มีน้องชายแท้ๆ ถึง2คน แต่กลับรักกาอาระมากกว่าคันคุโร่ รักมากกว่าญาติคนอื่น รักมากกว่าพ่อกับแม่ รักมากกว่าเพื่อน รักมากกว่าทุกๆ คน มันคงเป็นเพราะสายเลือด... รึเปล่านะ? นี่ฉันคง... เป็นพี่สาวที่แย่มากเลยล่ะ... รักน้องก็รักไม่เท่ากัน...”
“ก็... ไม่รู้สิ... อ่ะนะ?”
“...แต่กาอาระก็ไม่เคยสนใจฉัน ไม่เคยคิดว่าฉันเป็นพี่สาวเลยสักครั้ง... บางครั้งฉันยังสงสัยเลยว่า ทำไมฉันยังรักน้องชายคนนี้อยู่นะ...? เมื่อปลายปีที่แล้ว มีจดหมายจากท่านพ่อ... ผู้อำนวยการโรงเรียนซึนะสั่งให้กาอาระมาเรียนที่นี่เป็นเวลา3ปี ด้วยความบ้า ฉันจึงขอตามมาด้วยทั้งๆ ที่ก็เรียนจบมัธยมปลายแล้ว ดูตลกเนอะ... เพียงแค่หวังว่าสักวันกาอาระจะหันมาสนใจบ้าง แต่ฉันก็มีความสุขดี คงเหมือนเพิ่มเกรดให้ตัวเองเพื่อยื่นกับมหาวิทยาลัยในโคโนฮะไปด้วยล่ะมั้ง...”
เทมาริเริ่มเล่าชีวิตของเธอมาได้สักพักเธอก็หยุดไป... เหมือนกับว่าเปิดโอกาสให้ชายตรงหน้าตอบกลับบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวเห็นชิกามารุชายขี้รำคาญตั้งใจทำอะไรสักอย่างตั้งแต่เธอย้ายมาเรียนที่นี่ 3 เดือน เขาตั้งใจฟังเรื่องแสนน่าเบื่อที่เธอเล่าแทบไม่กะพริบตา
“เล่าต่อสิ...” ชิกามารุมองหน้าเธออย่างรู้สึกสนใจ เทมาริจึงเริ่มเล่าต่อเพื่อปกปิดอาการเขินอายที่ถูกผู้ชายมองหน้าใกล้ๆ แบบนี้ครั้งแรก
“แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบที่ฉันคิดไว้... ดูเหมือนกาอาระจะรำคาญฉันมากกว่าเดิม ก็คงเหมือนกับที่นายรำคาญแล้วก็เบื่อโลกนี้ล่ะมั้ง บางครั้งฉันก็อยากจะระบาย... ก็แค่นั้น...”
แกร๊ก!
เสียงเลื่อนกลอนประตูด้านนอกดังขึ้น ซึ่งทำให้ชิกามารุเกิดความสงสัยอีกแล้ว ทำไมโรงเรียนนี้ถึงสร้างประตูที่ล็อคจากด้านนอกกันล่ะ? แล้วทำไมถึงเป็นกลอนประตู... น่าจะเปลี่ยนเป็นลูกบิดประตูได้แล้วมั้ง...? ข้อสงสัยแปลกๆ ยังคงผุดขึ้นมาในหัวของเขาไม่หยุด แต่ชิกามารุก็ทำเป็นไม่ใส่ใจกับมันไป
“เอ๊ะ... ชิกามารุ เทมาริ ขอโทษนะที่ขังพวกเธอสองคนไว้ เพราะยัยโหนกนี่แท้ๆ ดันเผยล็อคประตูซะได้” คนที่เปิดประตูเข้ามาก็คืออิโนะ เธอรีบกล่าวขอโทษขอโพยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานผิดกับนิสัยปกติ แล้วหันมาเถียงกับสาวอีกคนข้างๆ อย่างซากุระ
“อะไรกัน ยัยหมู อย่ามาใส่ร้ายฉันนะยะ แกนั่นแหละเป็นคนเชียร์ฉันว่า ปิดเลยๆ ไม่ใช่หรา...?” ซากุระเถียงกลับทันทีหลังจากเสียงพูดของอิโนะจบลง ทั้งสองเถียงกันอย่างกับเด็กประถมแย่งของเล่นกัน ส่วนทางชิกามารุและเทมาริกลับไม่สนใจเสียงของสาวตรงหน้าแล้วเริ่มเดินออกจากห้องไป...
“กาอาระคงรอกลับบ้านอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนตามคำสั่งท่านพ่อแล้ว ฉันกลับนะ”
“อะ... อื้อ...” ชิกามารุตอบเทมาริด้วยสีหน้าที่แสดงว่าตกลง เทมาริจึงยิ้มบางๆ ให้เขาก่อนที่จะเดินลงบันไดไป ‘ไปหาอาสึมะล่ะกัน’ ชายหนุ่มคิดลอยๆ พลางเดินไปด้วย แต่ชิกามารุนักเรียนไอคิวสอยร้อยคนนี้กลับไม่เอะใจเลยว่า วันนี้เขาเริ่มเปลี่ยนไป...
เป็นในแบบที่เขาไม่เคยเป็น...
+++
มาช้าล่ะ ฮ่าๆ ได้เวลาปัดกวาดห้องเก็บของแล้วสินะ -3-
สวัสดีค่ะทุกท่านที่แอบหลงเข้ามาในนี้นะ...
ความคิดเห็น