ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OnLiNE? (BETA)

    ลำดับตอนที่ #3 : 1.1b - วันที่เลวร้ายที่สุด (2)

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 54


      

    ยังไงถ้ามีอะไรล่ะก็ มาหาครูได้ตลอดเลยนะ

    เสียงว่าไล่หลังจากอาจารย์แนะแนวที่แว่วออกมาจากประตูห้องซึ่งถูกเปิดออกอีกครั้ง ทำให้เอกต้องหันกลับไปโค้งน้อยๆ ให้กับอาจารย์วัยหนุ่มก่อนจะปิดประตูกลับคืนอย่างแผ่วเบา

    เรื่องเกม?” เพื่อนสนิทที่ยืนกอดอกพิงกำแพงรออยู่ข้างประตูเอ่ยถามเรียบๆ

    เอกส่ายหน้า

    แค่เรื่องคะแนนสอบวันก่อน

    มันแย่มากขนาดนั้นเลยเรอะวินหันมาเลิกคิ้ว

    คะแนนคณิตร่วงสิบเปอร์เซนต์ได้เอกว่าพลางยกมือล้วงกระเป๋าออกเดินด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ปล่อยให้เพื่อนนิ่งงไปชั่วขณะก่อนจะรีบวิ่งตามไป

    เฮ่ย... แค่นั้นไม่น่าโดนเรียกเลยนี่

    ก็อาจารย์เค้าเป็นห่วง กลัวคะแนนรวมไม่สวย แล้วชั้นจะไม่ได้รับเลือกไปสอบคัดตัวโอลิมปิกคราวหน้าเอกตอบเสียงเรียบแกมประชดประชัน

    วินได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ยักไหล่แล้วถอนหายใจ

    ถ้าพ่อรู้เข้าว่าชั้นโดนเสนอชื่อ มีหวังเอาไปป่าวประกาศทั่วโรงบาล แล้วชั้นก็คงจะถอนตัวไม่ได้เอกยังคงว่าต่อไปเสียงเครียด เนื่องจากหากต้องเป็นตัวแทนสอบแข่งขันวิชาการระดับชาติ ก็แน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาในการเข้าค่ายกวดวิชาและทำแบบฝึกหัดพิเศษเพิ่มขึ้นอีก

    และนั่นเท่ากับว่าเขาคงไม่มีเวลาว่างสำหรับหาข้อมูลและวางแผนต่างๆ เพื่อการเล่นเกมอีกต่อไป

    งั้นก็รีบปฏิเสธอาจารย์ไป บอกว่าช่วงนี้สุขภาพไม่ดี แล้วก็บอกพ่อนายว่าไม่ได้รับเลือกซะ

    ...ถ้ามันง่ายแบบนั้นก็ดีซี้... เกิดครูเอาเรื่องนั้นไปถามพ่อก็จบเห่กันพอดี... เอกนึกในใจทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

    ไม่นานนักหลังจากนั้นเสียงสัญญาณเรียกเข้าห้องเรียนคาบบ่ายก็ดังขึ้น พร้อมกับการสอบกลางภาคที่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

    ทันทีที่เวลาสอบผ่านไปครบครึ่งชั่วโมงซึ่งเป็นเวลาน้อยที่สุดจะที่จะอนุญาตให้นักเรียนออกจากห้องสอบได้ เอกก็ลุกขึ้นจากโต๊ะในทันที เสียงฮือฮาจากเพื่อนร่วมห้องดังขึ้นอื้ออึงจนอาจารย์คุมสอบต้องบอกให้ทุกคนเงียบ เด็กหนุ่มเดินไปส่งข้อสอบให้อาจารย์ซึ่งยื่นมือมารับด้วยความแปลกใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่หลังจากที่อาจารย์สาวกวาดสายตาอ่านคำตอบไปครู่หนึ่งก็รีบวิ่งตามออกไปหน้าห้อง ทว่าก็ไม่เห็นเอกอยู่บนระเบียงนั้นแล้ว

    เอกนั่งอยู่บนม้านั่งที่หน้าตึก มีอาจารย์สองคนแล้วที่เดินเข้ามาทักเขาว่าทำข้อสอบเสร็จแล้วหรือ ซึ่งเขาก็เพียงยิ้มตอบรับอย่างง่ายๆ

    ...ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่เคยรู้สึกว่าในหัวของตนเองขาวโพลนแบบนี้มาก่อนเลย...

    เอกยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา ตอนนี้เพิ่งบ่ายสอง ยังออกจากโรงเรียนไม่ได้ ถ้านั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบคำถามอาจารย์อีกกี่คน จึงตัดสินใจว่าจะไปนั่งฆ่าเวลาในห้องสมุด

    ที่ห้องสมุดในเวลานี้มีอาจารย์บรรณารักษ์เพียงคนเดียว เอกถูกถามด้วยคำถามที่คาดไว้ และก็ตอบไปด้วยคำตอบเดิมๆ หลังจากถูกปล่อยตัวให้เข้าไปภายในได้ เด็กหนุ่มก็เดินไปหาโต๊ะที่มุมหลังชั้นหนังสือด้านในสุด หยิบมือถือขึ้นมาเสียบหูฟัง จากนั้นก็เปิดเพลงแล้วหลับตาลง

    เดี๋ยวก็โควต้า เดี๋ยวก็โอลิมปิก เคยถามเราบ้างรึเปล่าว่าอยากทำอะไร

    ...ที่ชอบคณิตกับฟิสิกส์ก็เพราะเห็นว่าการทำโจทย์มันท้าทาย... แต่พอสนุกกับมันจนทำคะแนนได้ดีก็เริ่มถูกคาดหวังให้ไปเป็นตัวแทนโน่นนี่...

    เอกเริ่มใจลอยคิดไปไกล

    ...จริงๆ เราก็ต้องเซ็งเพราะความคาดหวังมานานแล้วนี่นะ... ทั้งที่ตอนม.ต้นเราชอบดนตรี แต่พอพ่อกับครูเห็นว่าเราเก่งเลข ก็คะยั้นยอให้มาเรียนต่อสายวิทย์ ที่มีแต่พวกบ้าเรียนแบบนี้...

    ...พอจะหนีไปเล่นเกมให้ได้ผ่อนคลายบ้าง เพียงแค่อยากจะทำเรื่องที่คิดว่าท้าทายน่าสนุกแท้ๆ... ก็กลับต้องกลายเป็นเรื่องดราม่าแย่งผลประโยชน์ทุกครั้งไป...

    ...นั่นสินะ... สังคมเราก็แค่นี้... สนใจแต่เรื่องผลประโยชน์ ความมั่นคงของอนาคต... ขอแค่ให้ได้เรียนสูงๆ มีการงานดีๆ มีเงินมีทองใช้... มีหน้ามีตาในสังคม...

    ...แต่เราแค่อยากจะสนุกแค่นั้น...

    ...แค่นั้นไม่ได้รึไง...

    ติ๊ง!

    เสียงเตือนข้อความเข้าทำให้เอกสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้น เมื่อเหลียวมองดูหน้าต่างก็พบว่าท้องฟ้าภายนอกจวนจะมืดสนิทแล้ว

    ...ตายล่ะ! เผลอหลับไปเหรอเนี่ย! จริงสิ เย็นนี้มีนัดด้วย... ยายผึ้งเมสเสจมาตามแน่เลย...

    เอกคิดพลางรีบลุกขึ้นพร้อมกับกดเปิดโทรศัพท์มือถือ แต่ข้อความที่เห็นกลับไม่ได้ถูกส่งมาจากคนที่คาดเอาไว้

    [HERO ONLIVE]

    ...เกมที่สมัครไว้เมื่อวานเหรอ? ชื่อไม่คุ้นเลยแฮะ...

    เด็กหนุ่มกดเปิดข้อความทั้งที่ยังนึกสงสัย ทว่าทันใดนั้นหน้าจอมือถือกลับกลายเป็นสีดำตามด้วยแถวตัวอักษรจำนวนมากที่ไหลเลื่อนลงมา

    เมล์ไวรัส... เวรเอ๊ย...

    เอกบ่นอย่างหัวเสีย...น่าจะรู้ตั้งแต่คำว่า ONLINE พิมพ์ผิดแล้วแท้ๆ โง่ชะมัดเลยตรู...

    เมื่อพบว่าตนกดยกเลิกหน้าจอดังกล่าวไม่สำเร็จ กระนั้นก็ยังเฝ้ามองหน้าจอโทรศัพท์ของตนจนกระทั้งข้อความที่เหมือนโค้ดโปรแกรมเหล่านั้นหยุดลง เหลือเพียงข้อความสามบรรทัดบนจอ

    [Register Completed]

    [Sysem – ON]

    [Status – LIVE]

    ...อะไรของมัน...

    ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังทำสายตาเอือมระอา ข้อความบนหน้าจอก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

    // บอส: [Bloodfang] เผ่าพันธุ์หมาป่าระดับ 20 ปรากฏตัว ผู้เล่นในดันเจี้ยนโปรดระวัง //

    ...แนวจริงนะ... ไอ้คนเขียน...

    เอกพยายามจะกดปิดเครื่องอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงได้แต่เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเสื้อ

    แต่แล้วเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้นอีก

    // คำเตือน: [Bloodfang] บอสเผ่าพันธุ์มาป่าเลเวล 20 กำลังเข้าใกล้ผู้เล่น แต่เนื่องจากผู้เล่นระดับต่ำกว่ามาก จึงขอแนะนำให้ออกจากแอเรีย //

    ...เดี๋ยวแวะส่งศูนย์ฯเลยดีกว่า... ไม่งั้นคืนนี้รำคาญตายแน่... เอกกลอกตาถอนหายใจ

    กรรรรร.....

    ทันใดนั้นเอง เสียงเอฟเฟคที่เคยได้ยินประจำจากบรรดามอนสเตอร์หมาป่าทั้งหลายในเกมออนไลน์ก็แว่วจากด้านหลังมาเข้าหูเอก ส่งผลให้ชายหนุ่มไปหาต้นเสียงด้วยความแปลกใจ

    นั่นเองที่เด็กหนุ่มได้เห็นว่ามีแสงเรืองลึกลับสองจุดส่องประกายขึ้นในเงามืดระหว่างชั้นหนังสือ ก่อนที่สิ่งนั้นจะเผยตัวตนออกมาว่ามันคือดวงตาของหมาป่าดำร่างยักษ์ขนาดสูงเกือบเท่าตัวเขาที่เยื้องย่างออกมาพร้อมกับแยกเขี้ยวขาวครางขู่อย่างมุ่งร้ายจนทำให้เอกได้แต่ตกตะลึง...

    ...ไม่ใช่เพราะด้วยความกลัว...

    ...แต่เพราะความทึ่งที่ได้เห็นว่าทั้งเท็กซ์เจอร์ขนสัตว์และการเคลื่อนไหวของมันช่างนุ่มนวลสมจริงกว่าโมเดลหมาป่าโหลๆ ในทุกๆ เกมที่เคยเห็นมาจริงๆ...

    เอกก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ แต่ในหัวของเขากำลังคิดพิจารณาเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น

    ...เขากำลังอยู่ในภาวะคลื่นสมองสับสนชั่วคราวขณะเข้าลองเกมใหม่จนความจำตั้งแต่ช่วงเย็นหลังจากกลับบ้านจนกระทั่งเริ่มเล่นเกมหายไป และตอนนี้เขากำลังอยู่ในเกมอะไรสักเกมที่ลองสมัครไว้ตั้งแต่เมื่อวาน...

    ...ส่วนฉากที่เหมือนห้องสมุดโรงเรียนของเขานี้เกิดจากระบบ UMA (User Memory Adaptation) ที่ใช้สร้างออบเจ็กต์ต่างๆ จากความทรงจำของผู้เล่น...

    ...แต่ระบบนี้ถูกห้ามใช้ไปแล้วเพราะถูกฟ้องเรื่องละเมิดสิทธิส่วนบุคคลไม่ใช่รึไง...

    ...เอาเถอะ ดูเหมือนจะไม่ใช่เวลาคิดเรื่องไร้สาระนะ...

    เอคคิดพลางกลับมาตั้งสติสนใจมอนสเตอร์หมาป่าตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า ...ถ้ามัวมึนจน KO ตั้งแต่เริ่มเล่นก็เสียชื่อแย่สิ...

    เมนู

    เด็กหนุ่มเอ่ยคำสั่งระบบทันทีที่ตั้งสติได้ ทว่ากลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เจ้าหมาป่ายักษ์เริ่มย่างเข้ามาใกล้เขามากขึ้นทุกที

    ...ลืมหมดกระทั่งยูสเซอร์แมนน่วล...

    เอกยกมือแตะขมับอย่างอ่อนใจ

    ...สงสัยต้องหนีก่อน...

    เอกคิดแล้วก็ขยับฝ่าเท้ารอโอกาส สายตาจับจ้องขาหน้าของเจ้าหมาป่ายักษ์เขม็ง และในชั่วพริบตาที่สัตว์ร้ายทะยานเข้าใส่ เด็กหนุ่มที่รอจังหวะอยู่แล้วก็ดีดตัวไปด้านข้างหลบการจู่โจมนั้นไปได้อย่างสวยงาม

    เสียงโครมครามที่ดังสนั่นขึ้นจากด้านหลังแสดงว่าเจ้าหมาป่าคงโถมตัวเต็มแรงจนชนชั้นหนังสือล้มไปหลายตู้ แต่เอกไม่มีเวลาจะหันกลับไปสนใจ เด็กหนุ่มออกวิ่งไปยังประตู ทั้งที่ยังนึกสงสัยว่าภายนอกห้องสมุดจะเป็นโรงเรียนของเขาอยู่หรือไม่ แต่ครู่ถัดมาเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเมื่อพบว่าภายนอกของห้องสมุดยังคงเป็นระเบียงอาคารที่เขาคุ้นเคย จะต่างไปก็เพียงที่ภายนอกอาคารนั้นกลับมืดสนิทไร้ซึ่งแสงใดๆ ซึ่งทำให้เอกยิ่งแน่ใจขึ้นอีกว่าเขากำลังอยู่ในเกม และตึกเรียนในความทรงจำของเขาถูกแปรเปลี่ยนเป็นดันเจี้ยนซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอก

    ...ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลองไปที่ทางออกดู...

    เอกเร่งวิ่งลงไปยังบันได ทว่าเพียงแค่ก้าวลงไปได้ไม่กี่ขั้นก็ได้ยินเสียงประตูห้องสมุดถูกกระแทกโครมดังตามมาด้านหลัง จึงรีบเร่งฝีเท้ากระโดดลงบันไดไปให้เร็วยิ่งขึ้น ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็วิ่งลงมาจนถึงชั้นล่าง แต่ทันทีที่พุ่งไปยังทางออกของตึก เอกก็ต้องนิ่งงันไปอีกครั้ง

    เนื่องจากทางออกกว้างที่เคยมีอยู่ตรงนั้น บัดนี้กลับถูกปิดขวางด้วยกำแพงอิฐจนเต็มกรอบประตู

    ต้องสู้งั้นเรอะ... แต่เพลย์เยอร์ใหม่เจอศัตรูเลเวลยี่สิบแต่เริ่มเนี่ยนะ... ทำเป็นนิยายไปได้...เอกบ่นกับตนเอง

    กระนั้นเขากลับเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายที่กระโจนลงบันไดมาประจันหน้ากันพอดี

    หมาป่ายักษ์แยกเขี้ยวคำราม ขณะที่เด็กหนุ่มปรือตาลงตั้งสมาธิจับจ้องการเคลื่อนไหวของมัน ไม่นานนักเจ้าสัตว์ร้ายก็โผทะยานเข้าหาเอกอีกครั้ง เด็กหนุ่มฉวยจังหวะนั้นย่อกายลงต่ำพร้อมกับถีบตัวไปด้านหน้าจนหลบลอดกรงเล็บของหมาป่าดำไปได้อย่างเฉียดฉิว ปล่อยให้ศัตรูพุ่งชนกำแพงเสียงดังโครมใหญ่ จนเอกอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง

    วอลสตันนานแฮะ ถ้ามีอาวุธซักหน่อยล่ะก็หวานหมู

    เด็กหนุ่มว่าพลางเหลือบมองไปยังเจ้าหมาป่าที่กำลังพยายามยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะออกวิ่งต่อไปด้วยหวังว่าตนเองจะสามารถหาที่ซ่อนเพื่อทดสอบวิธีเรียกเมนูและการควบคุมต่างๆ ให้ได้สักหน่อยแล้วจะมาลองจัดการมันดู

    แต่แล้วเอกก็ต้องชะงักไปอีกครั้่ง เมื่อได้ยินเสียงครางของหมาป่าจำนวนมากดังแว่วมาจากความมืดเบื้องหน้า ก่อนที่ประกายแสงนับสิบคู่จะปรากฏขึ้นในความมืด

    // คำเตือน: [Blackmane] มอนสเตอร์เผ่าพันธุ์หมาป่าเลเวล 10 จำนวน 13 ตัว กำลังเข้าใกล้ผู้เล่น แต่เนื่องจากผู้เล่นมีระดับต่ำกว่ามาก จึงขอแนะนำให้ออกจากแอเรีย //

    “...เฮ่ย...เฮ่ย... มันจะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง...

    เด็กหนุ่มยิ้มแหยๆ พลางก้าวถอยหลัง ขณะที่ฝูงหมาป่าต่างพากันย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ก่อนที่เจ้าตัวนำฝูงจะกระโจนเข้าหาเอกอย่างรวดเร็ว

    หมอบลง

    เสียงเรียบของเด็กสาวที่เอกรู้สึกคุ้นหูแว่วมาจากด้านหลัง

    ชายหนุ่มทรุดตัวลงตามคำสั่งโดยสัญชาตญาณ เสี้ยววินาทีนั้นเด็กหนุ่มก็เห็นเงาร่างหนึ่งกระโจนข้ามหัวเขาไปด้านหน้า ก่อนที่ร่างนั้นจะสะบัดอาวุธในมือเป็นวงกว้าง ส่งคลื่นพลังสีแดงเพลิงเข้าปะทะฝูงหมาป่าจนเกิดเสียงระเบิดดังกัมปนาท

    เอกได้แต่อ้าปากค้าง ขณะจับจ้องไปยังร่างระหงที่แตะปลายเท้าลงสู่พื้นอย่างงดงาม เรือนผมยาวสีดำขลับนั้นทิ้งตัวพลิ้วสยายลงกลางหลังอย่างเชื่องช้าราวกับว่าเวลากำลังจะหยุดหมุน

    หญิงสาวใช้ฝ่ามือบางเอื้อมขึ้นปาดเส้นผมที่เคลียไหล่ลง แล้วจึงหันมองมายังเอกด้วยแววตาเย็นชาที่ยากจะบ่งบอกอารมณ์

    เธอ... 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×