ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - - - Why do you come in ? - - -

    ลำดับตอนที่ #3 : ลำดับตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 56


    รูป : เพราะ นาง เกรียน มาก

    ชื่อ : คาริแมทเต้ เฮอัลวีน ( Karimahte Heuleween )

    ** แปลว่า ผู้ที่มีใจประเสริฐงดงามที่สดใสดังแสงอาทิตย์ แต่เดี๋ยวเมิงเป็นแวมไพร์

    ชื่อเล่น : อัลวีน ( Ulween ) เอชอาร์. ( HR. )

    * ไม่ได้ใช้กฎตามยุโรปที่ชื่ออยู่หน้านามสกุลอยู่หลังนะคะ อันนี้เขียนตามญี่ปุ่นที่นามสกุลอยู่หน้าชื่ออยู่หลัง

    เผ่าพันธุ์ : ลูกครึ่งแวมไพร์มนุษย์ที่วันๆแดรกแต่โดนัท

    เพศ / อายุ : เพศหญิง / อายุ 18 ปี // ไม่นับตามแวมไพร์คะ

    ส่วนสูง / น้ำหนัก : 165 เซนติเมตร / 50 กิโลกรัม ไม่อ้วนนะคะกำลังพอดี + คิดค่า BMI แล้ว (?)

    สีตา / สีผม : โดยปรกติถ้าไม่กระพริบตาสองครั้งติดกัน ดวงตาจะเป็นสีเหลือง แต่หากกระพริบตาสองครั้งติด หรือ ในตอนกลางคืนจะเป็นดวงตาสีแดงสด / ผมสีเหลืองแก่

    นิสัย : 

                อัลวีวี้วี่ (?)” หรือนางสาวโดนัท (?) นางคือ อิเด็กสาวจอมขโมยแดรกโดนัทประจำกิลด์ // ห้ะ

    เอ่อ ... เธอเป็นพวก หน้าตาย ตะลัลล้า แบบ หน้าตายตอนแย่งกินโดนัทแล้วทำหน้านิ่ง หรือ ปล่อยมุขแป้กหน้าตาย อะไรเถือกๆนั้น แต่นางก็ยังคนดีประมาณหนึ่ง ที่ช่วยเหลืองานในกิลด์ และ ซื่อสัตย์ เป็นอันดับต้นๆ แม้นางจะเกรียนมากก็ตาม อัลวีวี้วี่ ไม่เคยพูดโกหก ปากขวานผ่าซาก ที่ไม่มีกิริยาอ้อมค้อม ซึ่งนางอาจอ้อมค้อมหากนางเบื่อ

                และอย่างแรกที่มักโดนพูดถึงนิสัยด้านนี้บ่อยๆคือ เกรียน เพราะนางชอบก่อกวนคนอื่นแล้วให้เหตุผลว่า “ แกะดำมันสั่ง ” เหตุผลเกรียนมาก อัลวี เธอเชื่อในทุกตำนานโดยเฉพาะเรื่อง นกสีฟ้า เพราะอะไรนั้นไปดูที่ประวัติอันเกรียนของนาง

                อัลวี บางครั้งเธอเป็นพวก อ่อนโยน และ อ่อนไหว ในเวลาที่ได้กินโดนัทจนอิ่มอ้วกแตก เห็นแบบนี้ อัลวีนเป็นพวกที่เข้าใจทุกคนมากกว่าใคร หรือ มากกว่าตัวของคนคนนั้นเอง แม้นางจะเข้าใจด้วยวิธีการประหลาดๆ อย่างการซื้อโดนัทให้แล้วแย่งกินเอง(?)  

                อัลวี เป็นเด็กที่ชอบในการสังสรรค์รื่นเริง แบบหน้านิ่งๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ใด หรือปิดไว้แค่ไหนนางก็จะรู้หมด ฉันมีมีเซ้นท์ด้านนี้โดยเฉพาะ  อัลวีนนั้น ไม่กินเหล้า แต่อย่าให้กินเถอะคอยิ่งกว่าทองแดงอีก ..

                แต่อย่างที่บอกไป อัลวีนเป็น ลูกครึ่งมนุษย์แวมไพร์ เพราะฉะนั้นต้องมีด้าน ดาร์ก อัลวีน เธอถึงแม้จะเป็นพวกเข้าใจใคร แต่ไม่เคยเข้าใจตัวเอง บางครั้ง บางครา อัลวีนเป็นเป็นค่อยไม่โมโหใคร แต่เวลาโมโหนั้น เป็นใครไม่กลัวเข้าใกล้ เพราะเธอยังทำลายข้าวของ และ ทำร้ายคนที่อยู่รอบข้าง ทางเดียวที่จะรอดคืออย่าไปยุ่งกับนางสักสองสามวัน หรือให้เมนส์หาย หรือ เอาโดนัทมาล่อ

                ... จบ .. แล้วคะ ... จบ (?)

    ประวัติคร่าวๆ :

                ลอนดอน ฟรานซ์ในตอนนี้คงเป็นชื่อลับของ คาริแมทเต้ เฮอัลวีนก็เป็นได้ เหตุใกเธอจึงได้เปลี่ยนชื่อนะหรือ ? มาดูเหตุผลหันเถอะ --- “ ฟรานซ์ ” หรืออัลวีนนั้น ไม่ได้มีชีวิตมากแต่เริ่ม เธอนั้นคือใคร ? เธอคือลูกครึ่งมนุษย์แวมไพร์ที่ดูโหดร้ายและน่ากลัว มากไปกว่านั้นเธอยังต้องอาศัยอยู่บ้านคนเดียวในสภาพที่โดนทำร้ายไม่ต่างอะไรไปจากสัตว์ประหลาด ที่ต้องโดนฮีโร่ทำร้ายแม้ไม่ได้ทำอะไรผิด เธอนั้นเคยกล่าวไว้ว่า “ ถ้าฉันนั้นเลือกเกิดได้ --- ฉันยอมตายตั้งแต่ตอนนี้เพื่อไปเลือกชีวิตที่ดีมากกว่านี้ ”

                อัลวีนนั้นไม่ใช่เด็กที่แข็งแกร่งมาแต่กำเนิด เธอนั้นช่างอ่อนแรงแม้จะมีสายเลือดแวมไพร์มากกว่าครึ่งของร่างกาย แต่นั้นก็ใช่ว่าเด็กอย่างเธอจะควบคุมพลังนั้นโดยไม่มีใครดูแลได้ หากเธอมีคนดูแล เธอคงไม่ต้องทนอยู่แบบนี้ แต่นั้นมันคือสิ่งที่ตรงข้าม

                เธออัลวีนเธอเชื่อเรื่องตำนาน “ นกสีฟ้าแห่งความสุข ” ที่เธอมั้งฝันถึงมันบ่อยๆ แม้ในฝันนั้นมันตรงกันข้ามจากความจริงมากเพียงใดก็ตาม

                วันหนึ่งในวัยเด็ก อัลวีนได้ช่วยเหลือเด็กผู้ชายคนหนึ่งจากการผู้ชายคลุ่มคลั่ง ทำให้เธอทั้งสองได้เป็นเพื่อนกัน ในตอนนั้นเด็กชายผู้นั้นไม่ทราบแม้แต่ชื่อของเธอ เพราะเธอไม่ยอมบอก เพราะฉะนั้นเค้าจึงเรียกเธอด้วยคำว่า เธอ อยู่มาวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังคุยเล่นกับเด็กชายคนนั้น อยู่ดีๆก็มีชาวบ้านบุกมาเข้ามาบ้านของเธอ เพื่อปกป้องเด็กชายคนนั้นที่เธอกำลังคุยสนุกกันอยู่ เด็กชายคนนั้นถูกพาตัวไป ในขณะที่เธอกำลังถูกทำร้าย

                เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอก็พบเพียงว่าบ้านกำลังถูกไฟไหม้ แต่เธอไม่มีแรงที่จะขยับตัวได้ อย่าว่าแต่การขยับตัวเลยแค่กระดิกนิ้วเธอยังทำไม่ได้ --- เธอได้พูดอีกครั้งว่า “ คนเลวก็คือฉันที่ไม่ได้ทำอะไรผิด สิ...นะ ? ” เธอได้นั้นบอกกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาจนเข้าใจถึงชีวิตของตนที่ถูกชะตากำหนดให้ได้พบแต่เพียง ความตาย

                แต่ก็นะ ถ้าเธอตายไปในวันนั้น --- ก็คงมี่สาวมาดนิ่งที่ชอบแย่งโดนัทของคนอื่นในกิลด์แน่ --- เด็กชายคนนั้นที่แน่ๆว่าอายุเท่าเธอ ได้คลุมผ้าเปียกน้ำเข้ามาและพูดกับเธอว่า ความตายคือจุดสิ้นสุด --- แต่แวมไพร์ที่ผมรู้จักในตำนาน --- ความตายนั้นคือประตูแห่งความสุขนะฮะ ! ’ เด็กชายคนนั้นพูดพลางยิ้มไป อัลวีนได้มองภาพนั้นด้วยใบหน้าที่อยากจะยิ้มอย่างอ่อนโยนตั้งแต่ครั้งแรกแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีแรงที่จะทำอะไรแล้วไง เด็กชายคนนั้นเมื่อเห็นเธอในสภาพที่เป็นรอยช้ำที่เด็กอย่างเธอไม่สมควรได้รับก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ งั้นงพวกเราไปสู่ความตายด้วยกันดีกว่านะ --- ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราก็คงคล้ายกันล่ะมั้ง ? ” เด็กชายคนนั้นพูดพลางนั่งลงไปและคุยเล่นกับเธอท่ามกลางกองไฟที่ค่อยๆคลืบคลานเข้ามา อัลวีนเห็นแบบนั้นแทนทีเธอจะดีใจ แต่เธอควรเสียใจมากขึ้นมากกว่า เธอได้พูดเท่าทีเธอจะเปล่งเสียงออกมาได้ นายนะ ... ฉันยังไม่อยากเป็นคนร้ายที่โดนตราบาปไปมากกว่านั้นนะ ... เพราะฉะนั้นนะ --- รีบออกไปดีกว่า ยังพอทันนะ ? เธอกล่าวออกไปทั้งๆที่ลึกๆเธอก็ยังอยากจะอยู่ด้วยกันมากกว่านี้ เมื่อพูดจบเธอพยายามจะลุกขึ้น ซึ่งก็ลุกขึ้นมาได้แต่ก็เซไปทำท่าจะล้ม “ ที่นี้มีทางลับอยู่นะ นายหนีไปทางนั้นเสียสิ ” เธอพยายามเดินไปทางเตาผิง ซึ่งจะล้มไปอยู่หลายครั้ง ซึ่งก็รู้ตนเองอยู่ว่าทางลับนั้นหนีออกไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เมื่อเธอเปิดประตูทางลับออกไปเธอก็โดนเด็กชายคนนั้นผลักเข้าไปทำให้ประตูทางลับนั้นปิดลง เธอได้ยินเสียงของเด็กชายคนนั้นดังว่า “ เพราะว่าผมรู้ไงฮะ ว่าทางลับนี้นะไปได้แค่คนเดียว และ ครั้งเดียว --- อ้อ อีกอย่างหนึ่งคุณไม่ใช่คนร้ายนะฮะ คุณคือแวมไพรที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินเลยต่างหากล่ะ ! เสียงนั้นดูไร้เดียงสา “ ว่าแต่คุณชื่อ คาริแมทเต้ เฮอัลวีนสินะฮะ ? ” เด็กชายคนนั้นดังออกมาด้วยสีหน้าสงสัย ทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าชื่อนั้นนะ เป็นชื่อที่ชาวบ้านแต่งประชดเธอขึ้นมา เธอจึงตอบไปด้วยเสียงพร่ามัวว่า “ ลอนดอน ฟรานซ์ --- ชื่อของฉันคือฟรานซ์ ” เด็กสาวพูดพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลรินแบบไม่ขาดสาย ความเจ็บปวดของร่างกายไม่เท่ากับความเจ็บปวดครั้งนี้แม้แต่นิดเดียว “ ฟรานซ์ ? อ่า ... ตอนนี้คุณคงเป็นผู้อิสระตามชื่อแล้วล่ะฮะ ! เมื่อเสียงนั้นจบลง เธอไม่ได้ยินแม้แต่เสียงอะไรตอบกลับมาอีกเลยไม่ว่าเธอจะตะโกนด้วยเสียงอันอ่อนล้าของเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ได้สลบไปในขณะที่น้ำตาก็ยังคงรินไหลอยู่ในตอนนั้น

                ** เธอได้เข้ากิลด์หลังจากนั้น 2 เดือนคะ ซึ่งเอายุครอบ 13 ปีพอดี เพราะฉะนั้นเรื่องราวนี้เกิดตอนที่เธอายุ 11 – 12 ปีคะ ~!

                ** เค้าบอกเอาคราวๆอินี้จัดเต็ม

    ความสามารถพิเศษ : แดรกโดนัทโดยไม่เบื่อแตะต้องสิ่งใดแล้วมองเห็นอดีตของสิ่งนั้น แต่แม่มไม่เคยบอก หรือพลัง ไซโคเมทรี ตามทางวิทยาศาสตร์

    อาวุธ : ไม่ย์ ... นางใช้มือ เท้า และ ปาก (?) // ลีลาการต่อสู้มวยไทย เทควันโด มวยปล้ำ ยูโด อะไรเถือกๆนั้นฮะ ไม่มีอาวุธ !

    บทที่ต้องการ : นางเอก // ไม่ย์ใช่ย์ สมาชิกกิลด์วินิค หรืออีกนัยหนึ่งคือ นางสาวโดนัท

    บทสัมภาษณ์

    "อะแฮ่ม สวัสดี ข้าชื่อ... เอ่อ ข้าลืมไปแล้วล่ะ ขอโทษนะ ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรเหรอ"

    : ลูกครึ่งแวมไพร์อายุเกินเยาวชน(?)หงายหน้าขึ้นมามองต้นเสียงด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย---ก่อนจะคว้าโดนัทใกล้ๆนั้นมาแดรกมากิน “ บาบาแบล็คชีพ แฮบยูเอนี่วูล ? ” เด็กสาวคนนั้นฮัมเพลง Baa, Baa, Black Sheep ขึ้นมาในขณะที่กำลังเคี้ยวโดนัทโดยไม่สนใจคนตรงหน้าแม้แต่น้อย --- จนกระทั้งคนที่คุยกับเธออยู่นั้นถามอีกครั้ง “ คา – ริ – แมท – เต้ ---- ” เดกสาวสาวค่อยๆพูดเพราะในขณะนั้นเธอยังคงเคี้ยวโดนัทอยู่ “ เฮ – อัล – วีน -- ” เมื่อเด็กสาวได้เคี้ยวโดนัทจบก็ได้นั่งเงียบ “ มีอะไรจะถามอีกป่ะ ? ”

    "อย่างงั้นหรอ... เจ้านี่หน้าตาดีนะ ข้าขอจูบเจ้าสักครั้งได้ปะ" (ยื่นหน้าไปใกล้ๆ)

    : เด็กสาวมองหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้   ของบุคคลปริศนาแล้วยื่นโดนัทเข้าไปจิ้มปาก “ จูบโดนัทแทนดิ จูบข้าทำไม บ้าป่ะ ? ”

    "อ๊ะ ข้าขอโทษ ข้าล้อเล่น หืม... ว่าแต่เนื้อของเจ้าก็น่ากินแฮะ ท่าทางจะนุ่มนิ่มน่าดู ถ้าไม่ว่าอะไร... ข้าขอกัดเนื้อเจ้าไปเคี้ยวเล่นสักคำสองคำได้มั้ยอะ" (จ้องมองอย่างกระหาย)

    : “ อยากกินก็กิน แต่ระวังพิษสุนัขบ้าเพราะยังไม่ได้ฉีด ” เด็กสาวพูดพลางถกแขนเสื้อขึ้นมาแล้วยื่นไปใกล้ๆแล้วทำหน้านิ่งๆ ในปากก็เคี้ยวโดนัทหน้านิ่งๆตามเดิม “ กินดิ ชะงักทำไมอะ ? ” เด็กสาวจ้องมองคู่สนทนาที่สะดุ้งในความด้านกล้าของเธอ

    "เอ่อ... ข้าความจำเสื่อมด้วย ข...ข้า... ข้าขอไปพักอาศัยที่บ้านเจ้าจนกว่าความทรงจำของข้าจะกลับมาได้มั้ย?" (อ้อนด้วยสายตาลูกหมาหิวนม)

    : “ เยสเซอร์ , เยสเซอร์ , ทรี แบ็ค ฟูล ” ในคราวนี้เด็กสาวได้ยินเพื่อแต่ทำหูทวนลม พร้อมกับเสียงเพลงเดิมแต่คนล่ะท่อนดังออกมา “ โดนัทยี่ห้อนี้ให้น้อยแหะ--- หมด - เสีย – แล้ว ~ เด็กสาวพูดพลางดวงตาอ่อนล้า แล้วลงไปกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น ก่อนที่จะคว้าโดนัทมาจากที่ไหนไม่รู้ (?) มาอีกชิ้น จึงเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ “ ห๋า ? --- ” เด็กสาวพูดพลางนั่งกลับหลังแล้วหงายหัวมา “ มิน่าล่ะ ทำไมดูบ้าๆกว่าคนที่มาคุยกับข้าสักสองร้อยคน ” เด็กสาวพูดพลางนับนิ้วเล็กๆของเธอ “ ถ้าความจำเสื่อมจริง ขอถามอะไรอย่างนึง --- โรคซินเนสทีเซีย คือโรค-อะ-ไร ~เด็กสาวพูดพลางเคาะนิ้วรอคำตอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานเด็กสาวเริ่มเบื่อ “ตอบไม่ได้ก็ไม่ได้เข้าบ้าน - - - หมดคำถามยัง ?  ”

    "เจ้าว่าอย่างงั้นหรือ? อืมๆ ช่างเถอะ ข้าว่าข้าต้องไปแล้วล่ะ มารดาแห่งกระป๋องปลาทูได้เรียกตามหาข้าแล้ว ลาก่อน..." (ทำหน้าเอ๋อๆ ก่อนเดินจากไปอย่างมึนๆ)

    : “ วัน ฟอร์ มาย มาสเตอร์ วัน ฟอร์ มาย เดม วัน ฟอร์ เดอะ ลิต เติ้ล บอย วู ลีฟ อิน เดอะ เลน ” เด็กสาวร้องสองท่อนสุดท้ายของเพลง ก่อนจะกระพริบตาสองครั้งจนดวงตาเป็นสีแดง ก่อนที่จะเกินหายไปพร้อมเงาสีดำในสายหมอก... ทำหน้าคนปั่นตัดบท ; u ;b

    คำถามถึงผู้ปกครอง

    สวัสดีค่า! ไรท์ชื่อนับสองนะคะ! แล้วท่านชื่ออะไรหว่า : ชื่อ นอ นายด์ คะ !

    ถ้าไม่ติดจะรับกลับหรือรับบทอื่นดีคะ T^T : ไม่รับกลับคะ จะยัดใส่กล่องให้ท่านไรท์เตอร์นับสองไปต้มยำผัดเผ็ดเลยคะ (?)

    ขอบคุณที่มาสมัครเรื่องนะเออว์!!! : ขอบคุณที่อ่านออริจนจบเช่นกันคะ !

     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×