ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปิดตำนาน เทพเจ้ากรีก

    ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานเทพเจ้าแห่งยอดเขาโอลิมปัส

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 54


    ������������������สันนิษฐานของที่มาของการเกิดเทวตำนานเทพเจ้ากรีก�นั้น�อาจเป็นเพราะว่า
    ชาวกรีกโบราณพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่าทำไม
    ฟ้าร้องฟ้าผ่า หรือเหตุใดจึงมีเสียงสะท้อนจากถ้ำเมื่อเราส่งเสียง หรือ ฯลฯ นั่นเพราะความกลัวปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พวกเค้าไม่รู้� จึงพยายามหาเหตุผลว่าเกิดจากอะไร��� เลยให้เหตุผลว่าปรากฏการณ์เหล่านั้นเป็นไปด้วยการกระทำขอเหล่าเทพเจ้า�
    ���������
    ���������เล่ากันว่า
    โฮเมอร์ (Homer) นั้นเป็นนักขับลำนำชั้นยอดคนหนึ่งของกรีก
    แรกเริ่มเทวตำนานเป็นบทกลอนที่ท่องจำกันมาเป็นรุ่น ๆ ต่อมามีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร� เราจึงไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่งตำนานเทพเจ้า บ้างก็ว่า โฮเมอร์ เป็นผู้แต่ง
    อีเลียด (Iliad) บ้างก็ว่าแค่รวบรวม บ้างก็ว่ากวีกรีกนาม เฮซิออด
    (Hesiod) แต่ง

    ���������ต่อมาชาวโรมันก็รับเอาตำนานของเทพเจ้ากรีกไปหมดเลย��� เพียงแต่เปลี่ยนชื่อเรียกเทพเจ้ากรีกให้เป็นไปตามภาษาลาติน�เช่น ซุส เป็น จูปิเตอร์��� ชาวกรีกนั้นสร้างเรื่องราวให้เทพเจ้าของพวกเค้านั้นให้มีรูปร่างและลักษณะนิสัยใจคอคล้ายคลึงมนุษย์มากกว่าชาติอื่นๆ มาก�ในตำนานกรีก���� เราจึงจะเห็นว่าเหล่าเทพเจ้านั้นก็ต่างมีนิสัยไม่ได้แต่งต่างจากมนุษย์เลย เช่น ซุส กับโปเซดอน สองพี่น้องนี่ก็ ออกจะเจ้าชู้ไก่แจ้มีเมียเยอะเหลือเกิน�เฮราก็ขี้หึงแถมยังชอบอิจฉาริษยา�ฯ เทพองค์อื่นๆ มีมีลักษณะนิสัยคล้ายมนุษย์เหมือนกัน

    �������������� ตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณชื่อกันว่าแรกเริ่มนั้นจักรวาลมีสภาพเป็นที่เวิ้งว้างไม่มีรูปร่างบอกไม่ถูกว่ามีลักษณะอย่างไรเรียกว่า Chaos ซาออส แล้วต่อมาไม่นานก็เกิดเป็นเทพองค์แรกขึ้นมา คือเทพมารดาเกอา�เป็นตัวแทนแห่งแผ่นดิน แล้วก็ต่อมีก็มีอูรานอส ซึ่งถือเป็นตัวแทนแห่งท้องฟ้ากำเหนิดขึ้น

    �����������เทพรุ่นแรกเริ่มเลยนี่ไม่ใช่เทพในวงศ์โอลิมเปี้ยนที่เรารู้จักกันนะครับ แต่เป็นเทพวงศ์
    ไทแทนส์ ซึ่งล้วนมีรูปร่างใหญ่ใต บางองค์ก็มีรูปร่างเป็นอสูร โดยเทพที่มีอำนาจและสำคัญที่สุดในวงศ์ไทแทนส์ก็คือ โครนุส (Cronus ) หรือที่โรมันเรียกว่า แซ็ทเทิร์น นั่นเอง โครนุสนี่ที่จริงนี่ก็ถือว่าเป็นลูกอกตัญญููอยู่เหมือนกัน เพระเป็นผู้ทำการปฏิวัติยึดบัลลังค์จากอูรานอสซึ่งเป็นบิดา�� โดยร่วมมือกับเทพมารดาเกอาขับไล่อูรานอสออกไปแล้วตั้งตนเป็นใหญ่ในวงศ์ไทแทนส์เสียเอง�

    ����������� สาเหตุก็เนื่องจากว่าอูรานอสหวาดกลัวความทรงพลังลูกๆ ที่เกิดระหว่างตัวเองกับ
    เกอา ซึ่งเป็นชาย 6�องค์� คือ โอเชียนัส ซีอัส ครีอัส ไฮเพอเรียน ไอแอพินัส และโครนุส
    หญิง 6 องค์ คืออีเลีย รีอา ธิมิส เมโนซินี และฟีบี เทพและเทวี 12 องค์นี้ รวมเรียกว่า คณะเทพไททัน� สเด็จป๋าเลยเนรเทศลูกๆตัวเองไปในทาร์ทะรัส (เหวลึกใต้บาดาล) เพื่อป้องกันลูกๆตั้งตนเป็นศัตรูกับตัวเอง
    ������������� แต่พอโยนลงไปแล้วทาร์ทะรัสที่เป็นที่อับแสงก็กลับมีแสงสว่าง ทำให้คณะเทพไททัส์มีความคิดที่อยากเป็นอิสระ (แหมช่างเหมือนกับโฆษณาโหลดไฟเลยนะครับ แสงสว่างขจัดความมืดมน)

    ������������ส่วนเกอาซึ่งห้ามอูรานอสเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ไม่เป็นผล ก็เลยไม่พอใจที่อูรานอสทำใจร้ายกับลูกๆ ได้ขนาดนั้นเลยลงไปที่ทาร์ทะรัส (เอไม่รู้ลงไปได้ยังไงนะเนี่ย) แล้วก็ยุยงให้ลูกๆ ทำการปฏิวัติเสด็จป๋าเอาซะเลย
    ���������� ซึ่งลูกที่ยอมตอบรับเลยก็คือโครนัส เกอาเลยปลดปล่อยโครนัสแล้วให้เคียวไปหนึ่งด้านเพื่อใช้เป็นอาวุูธสังหารอูรานอส(ส่งลูกไปฆ่าพ่อตัวเองเนี่ยนะ�- -*)
    ���������� โดยโครนัสได้ไปแอบอยู่ใต้เตียงของอูรานอสแล้วคอยให้อูรานอสกลับมา พออูรานอส
    กลับมาถึงกำลังจะนอนโครนัสก็อาศัยจังหวะที่อูรานอสเผลอ โผล่ออกมาจากใต้เตียงพร้อมกับเอาเคียวฟันอูรานอสจนเสียชีวิต(แหมช่างเป็นลูกผู้ชายตัวจริงซะจริงๆ)�
    ��������� ก่อนตายอูรานอสได้สาปแช่งโครนุสเอาไว้ว่า จะต้องถูกลูกของตัวเองทำการรัฐประหารยึดอำนาจ�เช่นเดียวกับที่ตนโดน
    ��������� เมื่อสังหารอูรานอสได้แล้วนั้น โครนัสก็ถูกเลือกจากพี่น้องให้ขึ้นเป็ราชาครองบัลลังค์
    วงศ์ไททันส์แทนบิดา แล้วก็เลือกรีอา ซึ่งเป็นเทวีที่สวยที่สุดแต่งงานเป็นมเหสีแล้วจึงจัดการปกครองใหม่โดยแบ่งกับพี่ๆน้องดังนี้

    โอเชียนัส กับ ธีทิส ให้ปกครองมหาสมุทรและแม่น้ำทั้งปวง� เราเลยเรียกมหาสมุทรโอเชี่ยน
    ไงครับ������
    ไฮเพอเรียน�กับ�ฟีบี ปกครองวิถีโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์�������
    เมโนซีนี เป็นเทวีผู้ครองความทรงจำ�(Nemosyne เป็นรากศัพท์ของคำว่า memo เมโม ที่
    แปลว่าเกี่ยวกับความทรงจำยังไงล่ะครับ)
    ธิมิสเป็นเทวีผู้ครองความยุติธรรม (�บางคนอาจเคยเห็นรูปเทวีที่ถือตราชั่งและดาบนั่นแหละครับ
    ธิมิสล่ะ)��
    ��������������
    ��������� โครนัสปกครองไทแทนส์ได้อย่างเป็นสุขได้เป็นเวลานานจนกระทั่งมีโหรได้ทำนายว่าจะต้องกรรมสนอง โดนลูกทำการยึดอำนาจ� ดังคำสาปแช่งของอูรานอส
    ������� ด้วยความหวาดกลัวเมื่อรีอาประสูติโอรสองค์แรก โครนัสจังบังคับให้รีอาส่งตัวมาให้แล้ว
    ตัวเองก็จัดการกลืนลูกลงท้องไม่หน้าตาเฉย
    ต่อมา...ไม่ว่ารีอาจะประสูติโอรสหรือธิดากี่องค์ต่อกี่องค์ โครนัสก็จับกลืนทุกพระองค์ โดยไม่ฟังคำวิงวอนของรีอาเลย (กินลูกตัวเองเนี่ยนะ - -*)

    ��������������� ในที่สุดรีอาก็ตัดสินใจเก็บโอรสองค์น้อยเอาไว้(น้องเล็ก) ด้วยการส่งก้อนหินห่อผ้าให้โครนัสกลืนแทน(โครนัสประสาทช้าเนอะ ก้อนหินกับเด็กแยกกันไม่ออก)

    ��������������� รีอาจึงเอาโอรสไปฝากนางอัปสรนีเรียด ธิดาของเทพนีรูส (นีรูส คือเทพแห่งทะเลอีเจียน มีชายาชื่อโดริส ทั้งนีรูสลัโดริสเป็นบุตรของโอเชียนัส เทพแห่งท้องทะเล แต่ต่างมารดากัน นีรูสมีธิดาเป็นนางอัปสรทะเล 50 นาง และพวกนางทั้งหมดถูกเรียกว่า นีเรียด ตามชื่อของบิดา)

    ��������������� โอรสที่รอดจากการกลืนของโครนัส ชื่อว่า ซุส หรือ จูปิเตอร์

    ��������������� เหล่านางอัปสร นีเรียด ได้นำซุสไปไว้ในถ้ำบนยอดเขาไอดา โดยให้นางแอมัลเธีย กับนางมีลิสสา(สัตรีคนแรกที่รู้จักการเก็บน้ำผึ้ง) 2พระธิดาของท้าวมีลิสซัส เจ้าเกาะกรีต คอยเลี้ยงกุมารด้วยนมแพะ

    ��������������� ทั้งนี้เพื่อป้องกันเสียงร้องไห้ของกุมาร ได้ยินไปถึงโครนัส พวกคิวรีทิส(ชาวเกาะกรีต) สาวกเจ้าแม่รีอา ซึ่งเป็นอาจารย์ของซุส จึงคิดการเต้นรำขึ้นมาชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยเสียงร้องเซ็งแซ่และเสียงร้องประสานอาวุธอึกทึกสนั่น เพื่อกลบเสียงร้องไห้ของซุส

    ��������������� วันเวลาผ่านไปจนซุสเติบใหญ่ เวลาแห่งการรัฐประหารตามคำทำนายก็มาถึง
    ซุสได้เข้าต่อสู้กับโครนัส �อย่างดุเดือด

    ��������������� ในที่สุดซุสก็ชนะ และจับโครนัสเอาไว้ ซุสและรีอาได้ปรึกษากัน และได้ข้อตกลงว่า ให้บังคับโครนัสดื่มน้ำสำรอกที่ มีทิส ธิดาของโอเชียนัสปรุงขึ้น

    ��������������� หลังจากที่ดื่มน้ำสำรอกลงไป

    ��������������� โครนัสได้สำรอกลูกๆ ที่เคยกลืนลงไปทั้งหมด รวม 5 องค์ คือ

    ��������������� 1.ฮาเดส หรือ พลูโต

    ��������������� 2.โพไซดอน หรือ เนปจูน

    ��������������� 3.เฮสเทีย หรือเวสตา

    ��������������� 4.ดีมิเตอร์ หรือ ซีริส

    ��������������� 5.เฮรา หรือ จูโน

    ��������������� และก้อนหินที่โครนัสเข้าใจว่าเป็นซุสด้วย (ภายหลังก้อนหินก้อนนี้ได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่วิหารเดลฟี ซึ่งเป็นวิหารของเทพอพอโล่)

    ��������������� เป็นอันว่า ซุสได้อำนาจแห่งโอลิมปัสเรียบร้อย และเลือกเฮราพี่สาวคนเล็กมาเป็นภรรยา

    ��������������� แต่หนทางแห่งทางครองบันลังก์ก็ใช่ว่าจะราบลื่น เนื่องจากมีศึกอีกหลายคราว

    ��������������� ศึกแรกคือ ศึกเทพไททัน พวกเทพไททันที่ยังจงรักภัคดีต่อโครนัสอยู่ (มีเทพไททันบางองค์เปลี่ยนมาอยู่ฝ่ายซุสแล้ว เช่น เนโมซินี ธีมิส โอเชียนัส และไฮเพอเรียน(และเหล่าภรรยา) ได้โยธาทัพมาล้อมเขาโอลิมปัสไว้

    ��������������� จึงเกิดการต่อสู้กันเป็นเวลาช้านาน

    ��������������� ซุสเห็นว่าเทพไททันแต่ละองค์ ล้วนทรงพละกำลังและน่าเกรงขามยิ่งนัก (รวมๆแล้วก็ 6 องค์) ซุสเลยหันไปญาติดีกับไซคลอปส์ที่ยังถูกขังในทาร์ทะรัส (ไกอาช่วยแต่เทพไททันออกมาจากทาร์ทะรัส รักลูกไม่เท่ากันหนิ)

    ��������������� โดยให้สัญญาว่า จะปลดปล่อยไซคลอปส์เป็นอิสระ ถ้ายอมสร้างอาวุธสายฟ้า(อสุนีบาต)ให้กับซุส

    ��������������� ไซคลอปส์ยอมสร้างอาวุธสายฟ้าให้กับซุส (เพราะไงตัวเองก็เป็นเจ้าแห่งฟ้าผ่าอยู่แล้วทั้ง 3 ตน สร้างอสุนีบาตแค่นี้ It’s a very หมู)

    ��������������� ซุสพอได้อาวุธคู่หัตถ์ ก็เอาไปปราบเทพไททัน ซึ่งก็ชนะสมใจ เทพไททันบางตนที่แพ้ก็โดนจับลงทาร์ทะรัสใหม่อีกรอบ บางองค์ก็ถูกไปทำหน้าที่อื่นอย่างเทพไททัน แอตลาส ซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่นั้นโดนลงโทษหนักหน่อยคือใช้ให้แบกสวรรค์และโลกไว้บนบ่า(ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คาดว่าน่าจะเป็นชื่อโรมัน เพราะชื่อภาษากรีก ของเทพไททันมีเพียง โอเชียนัส ซีอัส ครีอัส ไฮเพอเรียน ไอแอพิทัส และโครนัส ดังนั้นแอตลาสจังน่าจะเป็นซีอัส ครีอัส หรือไอแอพิทัส)� เราเลยเรียกแผนที่โลกว่าแอตลาสไงครับ��������������� ฝ่ายยักษ์ไซคลอปส์ก็ถูกปลดปล่อยตามสัญญา แต่ภายหลังไซคลอปส์เกิดแข็งข้อกับซุส จึงถูกโยนกลับไปในทาร์ทะรัสเหมือนเดิม (บางตำราบอกว่าตกไปอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง ในภายหลังเทพฮีฟีทัสก็ถูกเด็จป๋าซุสถีบตกลงมาจากสวรรค์ ตกลงมาสู่เกาะแห่งนี้ ฮีฟีทัสได้ตังโรงงานเหล็กที่เกาะนี้และได้ไซคลอปส์มาเป็นลูกมือ)

    ��������������� พอจบศึกไททัน ก็ตามมาด้วย อสูรร้ายไทฟอน มีลักษณะเป็นมังกร 100 หัว ซึ้งเป็นอสูรที่ไกอาเนรมิตขึ้นเพื่อแก้แค้นให้กับเทพไททันที่แพ้ให้กับซุส ความน่ากลัวของไทฟอนทำเอาถึงโอลิมปัสแทบร้าง เพราะเทพต่างๆพากันหนีไทฟอนไปถึงประเทศอียิปต์

    ��������������� แต่หลังจากหลบได้ไม่นาน ซุสก็เกิดความละอายใจต่อการกระทำของตนเอง จึงกลับสู่โอลิมปัส และสามารถสังหารอสูรไพทอนได้ในที่สุด

    ��������������� แต่ทว่าอีกไม่นานไกอาก็ได้ส่งอสูรร้ายขึ้นมาอีกตนหนึ่ง ชื่อว่า เอนเซลาดัส เป็นยักษ์ ความร้ายกาจของเอนเซลาดัสก็ไม่แท้ไพทอน แต่ก็ถูกปราบลงจนได้ โดยโดนจับขึงพืดไว้ใต้ภูเขาเอตนา

    ��������������� หลังจากปราบเอนเซลาดัส เสร็จก็ไม่มีศึกใหญ่เกิดขึ้นอีกแล้ว (ไกอาเริ่มใจอ่อน เพราะซุสก็คือหลานไกอา)

    ��������������� ซุสจัดการปกครองซะใหม่ โดยจัดให้

    ��������������� ซุส ปกครองท้องฟ้า แล้วก็สวรรค์ทั้งหมด
    ����������������
    ��������������� ฮาเดส ปกครองบาดาล หรือยมโลกตลอดถึงทาร์ทะรัส

    ��������������� โพไซดอน ปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน(รวมถึงทะเลดำ) และแม่น้ำทั้งปวง (ดังนั้นมหาสมุทรจึงอยู่ใต้การปกครองของโอเชียนัสตามเดิม)

    ��������������� เฮสเทีย เป็นเทวีแห่งไฟ และความสุขในเคหะสถาน (หมายถึงไฟที่ให้คุณ เช่นไฟในเตาผิง ให้ความอบอุ่น)

    ��������������� ดิมิเตอร์ เป็นเทวีแห่งธัญญาหาร

    ��������������� เฮรา เป็นเทวีผู้คุ้มครองการวิวาห์


    �������� จากนั้นซุสก็ได้เปลี่ยนชื่อวงศ์ซะใหม่ โดยเอาชื่อของยอดเขาโอลิมปัสที่เป็นที่ตั้งของสวรรค์มาตั้งเป็นวงศ์โอลิมเปี้ยนแทน


    ��������������


    ���������������

    ���������������

    ����������������

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×