ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของ...ซีได
วันนี้อากาศแจ่มใสดีจัง อากาศดีแท้ๆแทนที่จะได้นอนอยู่กับบ้าน เฮ้อ!!! แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย
"ว้าย!!ตายแล้ว นี่มัน9โมงแล้วนิ ไม่ได้แล้วเดี๋ยวโดนอีตาเอริสเล่นงานเอา ต้องรีบแล้ว น้ำเนิ้มก็ไม่ต้องอาบมันแระ ไปอาบที่บ้านตานั่นเลยดีกว่า ประหยัดน้ำด้วย อิอิ"
ส่วนเอริสกำลังนั่งรอซีไดอย่างกังวล และคิดว่าตนเองนั้นคิดผิดรึเปล่าที่ไปหลงเชื่อยัยนั่น และขณะนั้นเอง
"อ๊าย!!! อุ๊บ โครม โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"นี่มันเสียงอะไรกัน ฮะ!นั่นมันเสียง ยัย!! โอ๊ย นี่เธอทำข้าวของอะไรของฉันพังอีกนี่ เธอนี่มันต้องได้รับรางวัลยัยจอมซุ่มซ่ามแห่งปีเลย เอ่อ แถมพ่วงเข้าไปอีกหนึ่งตำแหน่ง ยัยตัวซวยเอ๊ย นอกจากน่าตาอันน่าเกลียดแล้วเนี่ย เธอก็ยังคงไม่มีอะไรดีเลย "
"นี่!!นายอย่ามาว่าฉันนะ ก็ของบ้ายนั่นแหละดันมาขวางทางฉันเอง เฮ้อ!!ซวยแต่เช้าเลย เอ่อ แล้วนี่นายกินอะไรบ้างรึยังล่ะ แต่เอาไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วจะมาทำอะไรให้กินแล้วกัน นี่รู้ไหม นายน่ะโชคดีขนาดไหน ไม่เคยมีใครได้กินอาหารฝีมือฉันเลยนะ นายเตรียมตัวรอรับความอร่อยได้เลย อิอิ"
"เร็วๆล่ะ เฮ้อ!! แต่เอ๊ะ! อาบน้ำเหรอ เฮ้ยๆๆ นี่เธอ เรื่องอะไรมาอาบน้ำบ้านคนอื่นกันล่ะ เธอนี่มัน...โอ๊ย ฉันจะประสาทก่อนไหมเนี่ย" เอริสพูดไปพร้อมๆกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ตั้งแต่ยัยนี่เข้ามาเธอก็ทำให้ฉันยิ้มได้ตลอดเลยสิเนี่ย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ซีได้ทำอาหารให้เอริสทาน ซึ่งก็เป็นไปดังเช่นที่เอริสคิด ถึงเขาจะตาบอด แต่จมูกของเขานั้นยังใช้การได้ดีเหมือนคนปกติ ซึ่งถ้าทุกคนมาได้กลิ่นก็คงจะต้องนึกว่าบ้านหลังนี้ไฟไหม้แน่ๆ
หลังจากนั้นตอนบ่าย ซีชวนเอริสออกไปนั่งเล่นที่สวนหน้าบ้านกัน สวนบ้านของเอริสนั้นตกเต่งสไตล์เกาหลี ซึ่งบรรยากาศรอบๆนั้นชวนให้เธอหลงใหลจนไม่ได้ยินเสียงที่เอริสพูดกับเธอ
"นี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ เธอเป็นบ้าอะไรของเธอฮะ ฉันเรียกตั้งหลายรอบ ประสาทรึป่าวเธอน่ะ"
"เอ่อ ป่าว คือว่าสวนบ้านนายน่ะสวยดีนะ ฉันชอบมากเลย รู้รึป่าวฉันน่ะ มีความฝันว่าจะได้แต่งสวนสวยๆให้กับผู้คนมากมาย ฉันนะ ชอบปลูกต้นไม้มากๆเลย สีเขียวของต้นไม้ใครๆเห็นแล้วก็ต้องสดชื่น นายว่ามั้ย"ซีพูดพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้า
"อืม ฉันน่ะ เวลาอยู่ว่างๆก็ชอบมานั่งเล่นตรงสวนนี้แหละ มันเย็นสบายดี โดยเฉพาะเวลาที่มีเรื่องไม่สบายใจฉันก็มีเจ้าต้นไม้พวกนี้เป็นเพื่อน เวลาฉันบ่นอะไรให้ฟังมันก็ไม่เคยรำคาญเลย เฮ้อ..ก็มันพุดไม่ได้นิ ฮ่าๆๆๆๆ"
"อืม งั้นเอางี้ไหม พรุ่งนี้วันอาทิตย์ เดี๋ยวฉันพานายไปเดินเล่น มีอยู่ที่ๆนึงนะ มีต้นไม้เยอะแยะมากมายเลย นายจะได้ไม่เบื่ออยู่แต่ในบ้านไง"
"แต่ว่าฉันมองไม่เห็นนี่ ไปก็ไปเป็นตัวถ่วงความสุขเธอป่าวๆ ฉันไปด้วยเธอก็เที่ยวไม่สนุกกันพอดี และเดี๋ยวเธอจะพลอยอายคนอื่นไปซะเปล่าๆที่ต้องมาเดินกับคนตาบอดอย่างฉันนะ งั้นเธอไปแล้วกัน เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าบ้านเอง"
"บ้าหรอ ที่ฉันชวนก็เพราะว่าฉันอยากให้นายไปด้วย ถ้านายไม่ไปงั้นฉันก็ไม่ไปหรอก แหม!!เมื่อกี้นายก็เป็นคนบอกเองนี่ว่าชอบต้นไม้ แล้วไอ้เรื่องตาบอดนี่ อย่าเอามาพูดให้เป็นปมด้อยตัวเองสิ คนที่เขาลำบากกว่านายก็ยีงมีอีกตั้งเยอะแยะ หรือว่านายไม่เชื่อใจฉันว่าฉันจะดูแลนายได้ ฉันสัญญานะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนกับนายจนกว่านายจะเป็นคนทิ้งฉันไปเอง นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอริสสุดหล่อ "
"จริงอ่ะ "
"อืม หรือว่านายไม่เชื่อใจฉันล่ะ"
"หรอ ฉันหมายถึงว่า ฉันน่ะ หล่อจริงรึเปล่า อิอิ"
"อ่ะๆๆๆๆก็ได้ แต่ว่าเธออย่าทิ้งฉันไปไหนน่ะ ฉันน่ะเหงามากเลยเธอรู้ไหม พ่อแม่ของฉันก็เอาแต่ทำงานอยู่ต่างประเทศ กลับมาทีนึงก็อยู่แต่ห้องทำงาน เพื่อนก็พลอยหนี่หายกันไปหมด ก็ไม่มีใครเขาอยากเป็นเพื่อนกับคนพิการตาบอดหรอก และคนที่ฉันคิดว่าสำคัญที่สุดในชีวิตฉันก็ดันมาทิ้งฉันไปอีก เธอนี่แปลกดีนะ ไม่เหมือนคนอื่นๆที่ฉันเคยรู้จักมาเลย ฉันชักอยากรู้แล้วล่ะสิ ว่าหน้าตาของเธอจะเป็นยังไง เฮ้อ...แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรวันนั้นจะมาถึง แต่ว่าถึงเธอจะขี้เหร่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะฉันอ่ะเตรียมใจเอาไว้แล้ว 5555"
"โอ๊ย!!!นายนี่มัน ..."
"เอ่อ ทำไมนายถึงไม่ไปผ่าตัดล่ะ คนที่เขาบริจาคก็มีออกถมเถไป"
"คนที่เขาบริจาคน่ะ มันก็มีอยู่หรอก ฉันน่ะเคยผ่าตัดมาแล้วครั้งนึง แต่ร่างกายของฉันมันต่อต้านน่ะสิ เฮ้อ!!สงสัยพระเจ้าคงไม่อยากให้ฉันมองเห็นเหมือนคนอื่น ก็ฉันทำร้ายคนอื่นไว้เยอะ ท่านคงไม่ให้อภัยฉันง่ายๆหรอก"
"เอ่อ..ใช่สิ นายพอจะเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ทำไมนายถึงได้ตาบอดได้ล่ะ"
เอริสนั่งเงียบไป ซีจึงคิดว่าเขาคงไม่อยากรื้อฟื้นถึงมันอีก
"เอ่อ..ถ้ามันเป็นการละลาบละล้วงนายมากเกินไป ฉัน ๆ ๆ ฉันขอโทษนะ "
"เปล่าหรอก ฉันน่ะนะ ก่อนที่จะตาบอด เป็นเด็กเกเร วันๆไม่ทำอะไร เรียนหนังสือก็ไม่เรียน เอาแต่โดดไปเที่ยวกับเพื่อน คอยรวมกลุ่มกับเพื่อนๆเพื่อไปท้าตีกับโรงเรียนคู่แข่งจนต้องถูกไล่ออกดีที่พ่อแม่ของฉนไปขอเอาไว้ แล้วบางคนที่ฉันทำร้ายนะ บาดเจ็บจนไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้ ส่วนแฟน ฉันก็มีมาแล้วเยอะแยะนับไม่ถ้วน พอใครมาขอเป็นแฟนฉันก็ตกลงไปซะหมด คบทีนึงก็หลายคน ถ้าใครรับไม่ได้ฉันก็ไม่สนใจ ส่วนเขาจะรู้สึกยังไงนั้น ฉัน..ไม่เคยคิดเลย
ความจริงแล้วฉันก็ไม่อยากทำอย่างนั้นหรอก แต่ถ้าฉันไม่ทำฉันก็ไม่มีเพื่อนคบ ฉันเหงามากเลยเธอรู้ไหม เฮอะ!!แล้ววันนึง วันที่ฉันไปตีกับนักเรียนคนอื่นเหมือนปกติ ฉันก็ถูกขวดตีเข้าที่หน้า มันโดนตาฉันจนทำให้ตาฉันบอด ถึงฉันจะผ่าตัดมาแล้วมันก็ไม่ช่วยอะไรได้เลย คนที่บาปหนาอย่างฉัน พระเจ้าคงไม่ต้องการให้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป ฉันมันคงเลวมากสินะ เธอล่ะ!!เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ยังอยากที่จะอยู่ข้างๆฉันอีกไหม"
"คนเราทุกคนมีเรื่องที่เคยทำผิดพลาดกันทุกคน แต่มันอยู่ที่ว่าคนๆนั้นจะสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาดไหม ฉันเข้าใจนายนะ ที่นายทำไปทั้งหมด ก็เพียงต้องการเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างก็เท่านั้นเอง และอีกอย่าง ตอนนั้น นายก็ยังเด็กมากด้วย ฉันไม่เลือกคบคนที่อดีตหรอกนะ แต่ปัจจุบันและอนาคตสิ สำคัญ นายต้องสัญญานะว่า ตั้งแต่นี้ไป นายจะเป็นคนดี ฉันจะรอนะ รอวันที่ตานายหายเป็นปกติ แล้วนายจะต้องเห็นฉันเป็นคนแรกด้วย"
"ความจริงแล้ว ฉันก็พอจะรู้อยู่ว่าหน้าตาเธอคงน่าเกลียดพิลึก แต่ไม่เป็นไรหรอก ถ้าต้องเปิดตาแล้วเห็นสิ่งที่อัปมงคลอย่างเธอ อย่างน้อยเธอก็เป็น...เอ่อ เป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันมีนี่นา หรือเธอว่างั้นไหม"
"อ่ะ อ่ะอืม งั้นเอ่อ นายเข้าบ้านเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้ว ฉันคงต้องกลับก่อน แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ อ่อ กับข้าวฉันทำไว้แล้วนะ อยู่ในตู้กับข้าวแน่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรมานะ ฉันตั้งเบอร์ฉันไว้ที่สมุดโทรศัพท์เบอร์แรกสุดนะ กดปุ่มลูกศรลงแล้วก็โทรออกได้เลยนะ แล้วอีกอย่างนั่นก็โทรศัพท์นาย นายเก่งอยู่แล้วนี่ นายคงเข้าใจอยู่แล้วฉันไปแล้วนะ"
(ความคิดของไซคีขณะเดินกลับบ้าน)โอ๊ย!!!ฉันเป็นอะไรของฉันเนี่ย ทำไมแค่ตานั่นพูดคำว่าเพื่อน ฉันถึงต้องเจ็บแปลบๆที่หน้าอกด้วยนี่ น้ำตาบ้านี่ก็พานจะไหล แถมยังหงุดหงิดอีกต่างหาก อ่อ...ฉันคงจะไม่อยากเป็นเพื่อนกลับตานั่นสินะ เฮ้อ..คิดมากไปได้เรา รีบกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวถูกแม่เฉ่งกบาลเอา
คิวปิด(ปีกหัก)ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคะ หากมีข้อผิดพลาดใด ก็ต้องขออภัยด้วย มือใหม่หัดเขียนน่ะคะ
ขอให้มีความสุขกับเรื่องที่เขียนนะคะ บะบายค่ะ^ ^
"ว้าย!!ตายแล้ว นี่มัน9โมงแล้วนิ ไม่ได้แล้วเดี๋ยวโดนอีตาเอริสเล่นงานเอา ต้องรีบแล้ว น้ำเนิ้มก็ไม่ต้องอาบมันแระ ไปอาบที่บ้านตานั่นเลยดีกว่า ประหยัดน้ำด้วย อิอิ"
ส่วนเอริสกำลังนั่งรอซีไดอย่างกังวล และคิดว่าตนเองนั้นคิดผิดรึเปล่าที่ไปหลงเชื่อยัยนั่น และขณะนั้นเอง
"อ๊าย!!! อุ๊บ โครม โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
"นี่มันเสียงอะไรกัน ฮะ!นั่นมันเสียง ยัย!! โอ๊ย นี่เธอทำข้าวของอะไรของฉันพังอีกนี่ เธอนี่มันต้องได้รับรางวัลยัยจอมซุ่มซ่ามแห่งปีเลย เอ่อ แถมพ่วงเข้าไปอีกหนึ่งตำแหน่ง ยัยตัวซวยเอ๊ย นอกจากน่าตาอันน่าเกลียดแล้วเนี่ย เธอก็ยังคงไม่มีอะไรดีเลย "
"นี่!!นายอย่ามาว่าฉันนะ ก็ของบ้ายนั่นแหละดันมาขวางทางฉันเอง เฮ้อ!!ซวยแต่เช้าเลย เอ่อ แล้วนี่นายกินอะไรบ้างรึยังล่ะ แต่เอาไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วจะมาทำอะไรให้กินแล้วกัน นี่รู้ไหม นายน่ะโชคดีขนาดไหน ไม่เคยมีใครได้กินอาหารฝีมือฉันเลยนะ นายเตรียมตัวรอรับความอร่อยได้เลย อิอิ"
"เร็วๆล่ะ เฮ้อ!! แต่เอ๊ะ! อาบน้ำเหรอ เฮ้ยๆๆ นี่เธอ เรื่องอะไรมาอาบน้ำบ้านคนอื่นกันล่ะ เธอนี่มัน...โอ๊ย ฉันจะประสาทก่อนไหมเนี่ย" เอริสพูดไปพร้อมๆกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ตั้งแต่ยัยนี่เข้ามาเธอก็ทำให้ฉันยิ้มได้ตลอดเลยสิเนี่ย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ซีได้ทำอาหารให้เอริสทาน ซึ่งก็เป็นไปดังเช่นที่เอริสคิด ถึงเขาจะตาบอด แต่จมูกของเขานั้นยังใช้การได้ดีเหมือนคนปกติ ซึ่งถ้าทุกคนมาได้กลิ่นก็คงจะต้องนึกว่าบ้านหลังนี้ไฟไหม้แน่ๆ
หลังจากนั้นตอนบ่าย ซีชวนเอริสออกไปนั่งเล่นที่สวนหน้าบ้านกัน สวนบ้านของเอริสนั้นตกเต่งสไตล์เกาหลี ซึ่งบรรยากาศรอบๆนั้นชวนให้เธอหลงใหลจนไม่ได้ยินเสียงที่เอริสพูดกับเธอ
"นี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ เธอเป็นบ้าอะไรของเธอฮะ ฉันเรียกตั้งหลายรอบ ประสาทรึป่าวเธอน่ะ"
"เอ่อ ป่าว คือว่าสวนบ้านนายน่ะสวยดีนะ ฉันชอบมากเลย รู้รึป่าวฉันน่ะ มีความฝันว่าจะได้แต่งสวนสวยๆให้กับผู้คนมากมาย ฉันนะ ชอบปลูกต้นไม้มากๆเลย สีเขียวของต้นไม้ใครๆเห็นแล้วก็ต้องสดชื่น นายว่ามั้ย"ซีพูดพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้า
"อืม ฉันน่ะ เวลาอยู่ว่างๆก็ชอบมานั่งเล่นตรงสวนนี้แหละ มันเย็นสบายดี โดยเฉพาะเวลาที่มีเรื่องไม่สบายใจฉันก็มีเจ้าต้นไม้พวกนี้เป็นเพื่อน เวลาฉันบ่นอะไรให้ฟังมันก็ไม่เคยรำคาญเลย เฮ้อ..ก็มันพุดไม่ได้นิ ฮ่าๆๆๆๆ"
"อืม งั้นเอางี้ไหม พรุ่งนี้วันอาทิตย์ เดี๋ยวฉันพานายไปเดินเล่น มีอยู่ที่ๆนึงนะ มีต้นไม้เยอะแยะมากมายเลย นายจะได้ไม่เบื่ออยู่แต่ในบ้านไง"
"แต่ว่าฉันมองไม่เห็นนี่ ไปก็ไปเป็นตัวถ่วงความสุขเธอป่าวๆ ฉันไปด้วยเธอก็เที่ยวไม่สนุกกันพอดี และเดี๋ยวเธอจะพลอยอายคนอื่นไปซะเปล่าๆที่ต้องมาเดินกับคนตาบอดอย่างฉันนะ งั้นเธอไปแล้วกัน เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าบ้านเอง"
"บ้าหรอ ที่ฉันชวนก็เพราะว่าฉันอยากให้นายไปด้วย ถ้านายไม่ไปงั้นฉันก็ไม่ไปหรอก แหม!!เมื่อกี้นายก็เป็นคนบอกเองนี่ว่าชอบต้นไม้ แล้วไอ้เรื่องตาบอดนี่ อย่าเอามาพูดให้เป็นปมด้อยตัวเองสิ คนที่เขาลำบากกว่านายก็ยีงมีอีกตั้งเยอะแยะ หรือว่านายไม่เชื่อใจฉันว่าฉันจะดูแลนายได้ ฉันสัญญานะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนกับนายจนกว่านายจะเป็นคนทิ้งฉันไปเอง นะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอริสสุดหล่อ "
"จริงอ่ะ "
"อืม หรือว่านายไม่เชื่อใจฉันล่ะ"
"หรอ ฉันหมายถึงว่า ฉันน่ะ หล่อจริงรึเปล่า อิอิ"
"อ่ะๆๆๆๆก็ได้ แต่ว่าเธออย่าทิ้งฉันไปไหนน่ะ ฉันน่ะเหงามากเลยเธอรู้ไหม พ่อแม่ของฉันก็เอาแต่ทำงานอยู่ต่างประเทศ กลับมาทีนึงก็อยู่แต่ห้องทำงาน เพื่อนก็พลอยหนี่หายกันไปหมด ก็ไม่มีใครเขาอยากเป็นเพื่อนกับคนพิการตาบอดหรอก และคนที่ฉันคิดว่าสำคัญที่สุดในชีวิตฉันก็ดันมาทิ้งฉันไปอีก เธอนี่แปลกดีนะ ไม่เหมือนคนอื่นๆที่ฉันเคยรู้จักมาเลย ฉันชักอยากรู้แล้วล่ะสิ ว่าหน้าตาของเธอจะเป็นยังไง เฮ้อ...แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรวันนั้นจะมาถึง แต่ว่าถึงเธอจะขี้เหร่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะฉันอ่ะเตรียมใจเอาไว้แล้ว 5555"
"โอ๊ย!!!นายนี่มัน ..."
"เอ่อ ทำไมนายถึงไม่ไปผ่าตัดล่ะ คนที่เขาบริจาคก็มีออกถมเถไป"
"คนที่เขาบริจาคน่ะ มันก็มีอยู่หรอก ฉันน่ะเคยผ่าตัดมาแล้วครั้งนึง แต่ร่างกายของฉันมันต่อต้านน่ะสิ เฮ้อ!!สงสัยพระเจ้าคงไม่อยากให้ฉันมองเห็นเหมือนคนอื่น ก็ฉันทำร้ายคนอื่นไว้เยอะ ท่านคงไม่ให้อภัยฉันง่ายๆหรอก"
"เอ่อ..ใช่สิ นายพอจะเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ทำไมนายถึงได้ตาบอดได้ล่ะ"
เอริสนั่งเงียบไป ซีจึงคิดว่าเขาคงไม่อยากรื้อฟื้นถึงมันอีก
"เอ่อ..ถ้ามันเป็นการละลาบละล้วงนายมากเกินไป ฉัน ๆ ๆ ฉันขอโทษนะ "
"เปล่าหรอก ฉันน่ะนะ ก่อนที่จะตาบอด เป็นเด็กเกเร วันๆไม่ทำอะไร เรียนหนังสือก็ไม่เรียน เอาแต่โดดไปเที่ยวกับเพื่อน คอยรวมกลุ่มกับเพื่อนๆเพื่อไปท้าตีกับโรงเรียนคู่แข่งจนต้องถูกไล่ออกดีที่พ่อแม่ของฉนไปขอเอาไว้ แล้วบางคนที่ฉันทำร้ายนะ บาดเจ็บจนไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้ ส่วนแฟน ฉันก็มีมาแล้วเยอะแยะนับไม่ถ้วน พอใครมาขอเป็นแฟนฉันก็ตกลงไปซะหมด คบทีนึงก็หลายคน ถ้าใครรับไม่ได้ฉันก็ไม่สนใจ ส่วนเขาจะรู้สึกยังไงนั้น ฉัน..ไม่เคยคิดเลย
ความจริงแล้วฉันก็ไม่อยากทำอย่างนั้นหรอก แต่ถ้าฉันไม่ทำฉันก็ไม่มีเพื่อนคบ ฉันเหงามากเลยเธอรู้ไหม เฮอะ!!แล้ววันนึง วันที่ฉันไปตีกับนักเรียนคนอื่นเหมือนปกติ ฉันก็ถูกขวดตีเข้าที่หน้า มันโดนตาฉันจนทำให้ตาฉันบอด ถึงฉันจะผ่าตัดมาแล้วมันก็ไม่ช่วยอะไรได้เลย คนที่บาปหนาอย่างฉัน พระเจ้าคงไม่ต้องการให้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป ฉันมันคงเลวมากสินะ เธอล่ะ!!เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ยังอยากที่จะอยู่ข้างๆฉันอีกไหม"
"คนเราทุกคนมีเรื่องที่เคยทำผิดพลาดกันทุกคน แต่มันอยู่ที่ว่าคนๆนั้นจะสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาดไหม ฉันเข้าใจนายนะ ที่นายทำไปทั้งหมด ก็เพียงต้องการเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างก็เท่านั้นเอง และอีกอย่าง ตอนนั้น นายก็ยังเด็กมากด้วย ฉันไม่เลือกคบคนที่อดีตหรอกนะ แต่ปัจจุบันและอนาคตสิ สำคัญ นายต้องสัญญานะว่า ตั้งแต่นี้ไป นายจะเป็นคนดี ฉันจะรอนะ รอวันที่ตานายหายเป็นปกติ แล้วนายจะต้องเห็นฉันเป็นคนแรกด้วย"
"ความจริงแล้ว ฉันก็พอจะรู้อยู่ว่าหน้าตาเธอคงน่าเกลียดพิลึก แต่ไม่เป็นไรหรอก ถ้าต้องเปิดตาแล้วเห็นสิ่งที่อัปมงคลอย่างเธอ อย่างน้อยเธอก็เป็น...เอ่อ เป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันมีนี่นา หรือเธอว่างั้นไหม"
"อ่ะ อ่ะอืม งั้นเอ่อ นายเข้าบ้านเถอะ นี่ก็เย็นมากแล้ว ฉันคงต้องกลับก่อน แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ อ่อ กับข้าวฉันทำไว้แล้วนะ อยู่ในตู้กับข้าวแน่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรมานะ ฉันตั้งเบอร์ฉันไว้ที่สมุดโทรศัพท์เบอร์แรกสุดนะ กดปุ่มลูกศรลงแล้วก็โทรออกได้เลยนะ แล้วอีกอย่างนั่นก็โทรศัพท์นาย นายเก่งอยู่แล้วนี่ นายคงเข้าใจอยู่แล้วฉันไปแล้วนะ"
(ความคิดของไซคีขณะเดินกลับบ้าน)โอ๊ย!!!ฉันเป็นอะไรของฉันเนี่ย ทำไมแค่ตานั่นพูดคำว่าเพื่อน ฉันถึงต้องเจ็บแปลบๆที่หน้าอกด้วยนี่ น้ำตาบ้านี่ก็พานจะไหล แถมยังหงุดหงิดอีกต่างหาก อ่อ...ฉันคงจะไม่อยากเป็นเพื่อนกลับตานั่นสินะ เฮ้อ..คิดมากไปได้เรา รีบกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวถูกแม่เฉ่งกบาลเอา
คิวปิด(ปีกหัก)ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคะ หากมีข้อผิดพลาดใด ก็ต้องขออภัยด้วย มือใหม่หัดเขียนน่ะคะ
ขอให้มีความสุขกับเรื่องที่เขียนนะคะ บะบายค่ะ^ ^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น