ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในดวงใจนิรันดร์

    ลำดับตอนที่ #30 : ตอนที่ 28

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.25K
      5
      25 ม.ค. 57

      

             ร่างเล็กของหญิงสาวที่กำลังง่วนกับการจัดเตรียมขาตั้งกล้อง และอุปกรณ์ในการทำงานต่างๆอยู่บริเวณหน้าเวที รู้สึกคุ้นตาชายหนุ่มเป็นยิ่งนัก และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งแน่ใจว่าเป็นบุคคลคนๆเดียวกับที่เป็นสาเหตุให้หัวใจหวั่นไหวตลอดมา
           
    "สวัสดีคุณ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" พันตรีธงไทยเป็นฝ่ายเอ่ยทักนักข่าวสาว 
            เสียงทักจากทางเบื้องหลัง ทำให้แพรแก้วที่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการให้พร้อมในการทำงาน ซึ่งไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้าง และเมื่อได้ยินเสียงทัก หญิงสาวจึงหันกลับมามอง และทันทีที่เห็นใบหน้าผู้เป็นเจ้าของเสียง หญิงสาวก็ถึงกับชะงักไปชั่วครู่ และก็พลันนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน ซึ่งยังคงสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับหญิงสาวไม่น้อย เนื่องจากคิดว่าชายหนุ่มเป็นพวกดูถูกความสามารถของเพศตรงข้าม หญิงสาวจึงหลีกเลี่ยงที่จะพบกับชายหนุ่ม หลายครั้งที่เกือบเดินผ่านกันในกรมซึ่งชายหนุ่มทำงานอยู่ หญิงสาวก็มักจะเป็นฝ่ายเลี่ยงที่จะไม่เผชิญหน้ากันตรงๆ แต่ครั้งนี้เห็นทีจะเลี่ยงยาก เนื่องจากชายหนุ่มเป็นฝ่ายเดินมาทักทายเสียเอง
         
    "สวัสดีค่ะ" แพรแก้วเอ่ยเพียงเท่านั้น ก็หันกลับไปทำงานที่ค้างไว้ โดยไม่สนใจว่าคนที่ตั้งใจเดินมาทักว่าจะรู้สึกอย่างไร
         
    "อ้าว สั้นๆแค่นี้เองเหรอคุณ ผมเห็นท่าทางคุณยุ่งๆมีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า"
          "ขอบคุณค่ะ ดิฉันดูแลตัวเองได้ แล้วก็ขอโทษ ดิฉันต้องทำงาน" หญิงสาวเอ่ยเพียงเท่านั้นก็หันกลับไปทำงานต่อ และไม่สนใจชายหนุ่มตรงหน้าอีก ชายหนุ่มจึงได้แต่เกาศีรษะกับปฏิกิริยาโต้ตอบจากหญิงสาว และจำต้องถอยกลับไปด้วยอาการงุนงง
           “เป็นอะไรของเขานะ” พันตรีธงไทยได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ต้องการความช่วยเหลือแน่แล้ว จึงเดินจากไป และเมื่อคล้อยหลังชายหนุ่ม หญิงสาวซึ่งเดิมอ้างว่าต้องทำงานจึงหันหน้ากลับไปทางที่ชายหนุ่มเดินจากไป
          
    "ขอโทษนะค่ะที่ฉันตอบคุณไปแบบนั้น ถึงแม้คุณจะเคยช่วยฉันไว้ แต่ตอนนี้ฉันยังทำใจที่จะยอมรับความช่วยเหลือจากคุณไม่ได้จริงๆ" หญิงสาวได้แต่พึมพำกับตัวเอง โดยไม่มีโอกาสล่วงรู้เลยว่าเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่พันตรีธงไทยปฏิเสธที่จะร่วมงานด้วยนั้นไม่ได้เกิดจากความไม่ไว้ใจในความรู้ความสามารถของหญิงสาว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากความห่วงใยจากใจของชายหนุ่มที่มีต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของหญิงสาวเพียงอย่างเดียว
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

           "ปล่อยฉันเถอะนะค่ะ ถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะไม่เป็นผลดีกับผู้พันแน่ๆ" พราวตะวันเอ่ยกับชายหนุ่มที่ยังคงกอดรัดเธอไว้ในอ้อมกอด
          
    "ทำไมพราวถึงได้ดื้อแบบนี้นะ" ชายหนุ่มได้แต่เอ่ยพึมพำ ก่อนที่จะคลายอ้อมกอดเพื่อปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ 
           
    "พราวขอให้ผู้พันโชคดีนะค่ะ" หญิงสาวเอ่ยพลางเดินจากไป เมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาวที่ยังคงดื้อดึง และไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง ชายหนุ่มจึงเลิกที่จะตามตื้อหญิงสาว แต่กลับคิดที่จะหาวิธีการที่จะทำให้หญิงสาวยอบรับความรู้สึกที่มีด้วยตัวเอง

            “เทพีแห่งโชคชะตาต้องเข้าข้างผมแน่ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยกับตัวเอง
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
            “พราวไม่ฟังฉันพูดเลยว่ะ” พันตรีพร้อมพิทักษ์เอ่ยปรับทุกข์กับพันตรีธงไทย เมื่อเดินกลับเข้ามาพบกันอีกครั้งในงานเลี้ยง
            “กว่าฉันจะหลบคุณน้อง แล้วออกไปพบพราวได้ก็แทบแย่ แต่พอไปถึงพยายามพูดอธิบายยังไงพราวก็ไม่ฟังฉันพูดเลย”
           “แกต้องให้เวลายัยพราวหน่อย เพราะตอนนี้ยัยพราวคิดว่าตัวเองกำลังแย่งแกมาจากคุณน้อง ยัยพราวถึงพยายามปฏิเสธแกเรื่อยมายังไงล่ะ”
           “ฉันไม่ได้เป็นสิ่งของนะเว้ย จะได้ให้ใครต่อใครแย่ง” ชายหนุ่มเอ่ย
           “แต่แกอย่าลืมว่า ข่าวแกกับคุณน้อง มันไม่ใช่ข่าวเล็กๆเลยนะ ถ้าอยู่ดีๆแกมาแต่งงานกับยัยพราว แล้วคุณน้องเกิดเล่นบทนางเอกผู้เสียสละขึ้นมา ยัยพราวมิกลายเป็นนางร้ายในสายตาคนอื่นไปเลยเหรอ”
           “เฮ้อ” ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ ก่อนที่จะเอ่ยต่อไปว่า
          “ฉันคงต้องเร่งให้คุณแม่ไปคุยกับคุณหญิงศรีแก้ว”
           “อืม จะมำอะไรก็รีบๆหน่อยแล้วกัน” พันตรีธงไทยได้แต่เอ่ยออกไป พลางเอาใจช่วยเพื่อนสนิท และน้องสาว
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

            “อะไรนะค่ะ คุณพี่จะยกเลิกงานหมั้นระหว่างผู้พัน กับยัยน้องอย่างนั้นเหรอค่ะ” คุณหญิงศรีแก้วเอ่ยกับคุณหญิงพิมพ์ดาวด้วยน้ำเสียงตกใจถึงเรื่องที่คุณหญิงพิมพ์ดาวมาขอพบ ในขณะที่พรรณฤดีได้แต่นิ่งเงียบกับสิ่งที่ได้ยิน
            “ค่ะ คือพี่ต้องขอโทษคุณหญิง กับหนูน้องมากๆเลยนะค่ะ เพราะตาพร้อมเพิ่งมาสารภาพว่ารักคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว พี่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ก็เลยมาทาบทามหนูน้องไว้” 
            “แล้วงานที่จัดไปแล้วล่ะค่ะ แล้วจะยังชื่อเสียงของยัยน้องอีก” คุณหญิงศรีแก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะคิดถึงผลประโยชน์ที่ครอบครัวจะได้รับกับการเกี่ยวดองกับครอบครัวรัชตการ 
            “เรื่องนั้นพี่เข้าใจค่ะ ทางเราจะขอเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนหนูน้อง ป้าขอยกสินสอดทองหมั้นทั้งหมดให้ก็แล้วกันนะจ๊ะถือว่าเป็นสิ่งที่ทางเราพอที่จะชดเชยให้กับชื่อเสียงของหนูได้”
            เมื่อได้ยินดังนั้นคุณหญิงศรีแก้วก็มีสีหน้าดีขึ้น เพราะมูลค่าสินสอด และของหมั้นที่ตกลงกันไว้ก็มีค่าไม่น้อย ในขณะที่พรรณฤดีได้แต่นิ่งเงียบ จะว่าเสียใจรึเปล่า ก็คงไม่เท่ากับความรู้สึกเสียหน้า เพราะถ้าถามว่าหญิงสาวรักพันตรีพร้อมพิทักษ์มากหรือไม่ ก็อาจเป็นแค่ความรู้สึกที่คิดว่า ตนกับชายหนุ่มนั้นเหมาะสมกันทั้งหน้าตา และฐานะทางสังคม แต่ถ้าพูดถึงความรักที่มีให้กับขายหนุ่มนั้นอาจจะยังไม่มากพอ เพราะมันเป็นแค่เพียงความต้องการอยากเอาชนะใจชายหนุ่มซึ่งเป็นที่หมายปองของหญิงสาวส่วนใหญ่
           “ถ้าอย่างนั้น ตกลงตามนี้ก็ได้ค่ะ” คุณหญิงศรีแก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระแทก หากก็รู้สึกดีใจไม่น้อยกับสิ่งที่ได้รับตอบแทน
           “ป้าต้องขอโทษหนูน้องอีกครั้งนะจ๊ะ” คุณหญิงพิมพ์ดาวหันไปเอ่ยกับพรรณฤดีก่อนขอตัวกลับไป
           “ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า เพราะน้องก็คงจะทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักน้องได้เหมือนกัน” หญิงสาวเอ่ยตอบคุณหญิงพิมพ์ดาวไปเท่านั้น และเมื่อคุณหญิงพิมพ์ดาวกลับไป พรรณฤดีก็เอ่ยกับมารดาถึงเรื่องสินสอดที่ได้รับ
            “ตกลงเราจะรับสินสอดเขาจริงๆเหรอค่ะคุณแม่ หนูว่าคืนเขาไปดีไม๊ค่ะ หนูไม่อยากได้”
             “แกจะบ้าหรือไง เงินตั้งมากมาย แถมมีชุดเครื่องเพชรอีก” คุณหญิงศรีแก้วเอ่ยตำหนิบุตรสาว
            “ถ้าคุณแม่อยากได้ คุณแม่ก็รับไว้เองก็แล้วกันนะค่ะ ส่วนหนูไม่เอาค่ะ” หญิงสาวเอ่ยพลางเดินจากไป
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

            “ขอบคุณ คุณแม่มากเลยนะครับ” พันตรีพร้อมพิทักษ์ประนมมือก้มลงกราบมารดาที่ตัก หลังจากมารดาแจ้งข่าวดีให้ทราบ
            “จ๊ะ” คุณหญิงพิมพ์ดาวเอ่ยพลางค้อนลูกชาย
            “ทีนี้ เรื่องของเราก็ไปจัดการต่อเองก็แล้วกันนะ” คุณหญิงพิมพ์ดาวเอ่ย
            “หน้าระรื่นเชียวนะไอ้ลูกชาย” พลเอกพิทักษ์เอ่ยเย้าบุตรชาย
            “คุณพ่ออย่าล้อผมสิครับ ตอนแรกผมใจไม่ดีเลย ไม่รู้ว่าทางโน้นเขาจะว่ายังไงบ้าง”
            “ก็คงไม่ว่าหรอก เพราะเที่ยวนี้แม่แกเขายกสินสอดให้ฝั่งโน้นไปหมดแล้ว แต่งครั้งนี้แกคงต้องไปหาสินสอดเองแล้วล่ะ”
            “ไม่มีปัญหาครับพ่อ อีกอย่างพราวคงไม่สนใจของพวกนี้อยู่แล้ว” 
             “นั่นสิคงไม่มีปัญหา” พลเอกพิทักษ์เอ่ยเนื่องจากรู้ว่าบุตรชายได้รับมรดกจากพลเอกพร้อมผู้เป็นบิดาของเขามาไม่น้อย แต่ชายหนุ่มก็รู้จักคุณค่าของสิ่งที่ได้มาเนื่องจากทั้งตน และคุณหญิงพิมพ์ดาวได้พร่ำสอนบุตรชายเสมอมา
             “ถ้าอย่างนั้นผมไปหาพราวก่อนนะครับ ครั้งนี้พราวคงต้องยอมแต่งงานกับผมแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดี
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

             “ยัยพราวไม่อยู่หรอก” พันตรีธงไทยเอ่ยบอกพันตรีพร้อมพิทักษ์
             “พราวไปไหนว่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
             “ยัยพราวไปอังกฤษ” 
             “ไปทำไม” พันตรีพร้อมพิทักษ์เอ่ยถามต่อ
              “ก็คงอยากหลบหน้าใครบางคนแถวนี้”
              “หลบหน้าใครว่ะ” พันตรีพร้อมพิทักษ์ยังคงถามแบบแกล้งไม่เข้าใจ
              “นี่แกโง่จริงๆ หรือว่าแกล้งโง่ว่ะนายพร้อม” พันตรีธงไทยเอ่ยถาม
               “เออ เออ ฉันรู้แล้ว ตกลงว่าฉันต้องไปอธิบายให้พราวฟังถึงอังกฤษใช่ไม๊”
               “ใช่”
               “ตกลง ถ้าอย่างงั้น ฉันกลับก่อนนะโว้ย จะเตรียมตัวไปรับน้องสาวนายกลับมา ส่วนทางนี้นายเตรียมงานไว้รอฉันด้วย กลับมาแต่งทันที ไม่ยอมให้น้องสาวนายหนีฉันไปไหนอีกแน่ๆ”
                “เออ ไปอธิบายให้ยัยพราวเข้าใจก่อนเถอะวะ ส่วนเรื่องอื่นกลับมาแล้วค่อยว่ากัน” ชายหนุ่มเอ่ยบอกไปเพียงเช่นนั้น



     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×