คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ตอนที่ 27
"คุณแม่บอกว่า พราวจะไปอังกฤษ" พันตรีธงไทยเอ่ยถามพราวตะวันในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรับประทานของว่างในช่วงบ่ายของวันหยุดสุดสัปดาห์
"ค่ะ" หญิงสาวเอ่ยรับ
"ทำไมต้องไปไกลถึงอังกฤษ" ชายหนุ่มเอ่ยขณะตักของว่างซึ่งเป็นสละลอยแก้วเข้าปาก
"พราวคิดว่า ถ้าพราวไปอยู่ไกลทุกอย่างน่าจะดีขึ้น และที่สำคัญพราวต้องการเวลา อีกอย่างก็ถือโอกาสกลับไปเยี่ยมมัม กับแด๊ดด้วยค่ะ" พราวตะวันให้คำตอบกับผู้เป็นพี่ชาย พลางเอ่ยถึงครอบครัวอุปถัมภ์ที่หญิงสาวไปพักอยู่ด้วยเมื่อครั้งไปศึกษาต่อปริญญาโท
"ถ้าพราวต้องการเวลา พี่ยืนยันว่าพราวไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงอังกฤษ"
"ให้พราวไปเถอะนะค่ะ อย่างน้อยการเปลี่ยนสภาพแวดล้อม มันอาจทำให้พราวรู้สึกดีขึ้น" หญิงสาวให้เหตุผลกับผู้เป็นพี่ชาย เพราะหลายวันที่ผ่านมาหญิงสาวไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าไม่มีเวลาใดที่จะไม่คิดถึงคนตัวโตที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล อย่างน้อยระยะทางที่ไกลห่างกัน อาจช่วยเยียวยาหัวใจให้ดีขึ้น เธอได้แต่หวังว่าหัวใจที่อ่อนแอจะกลับมาเข้มแข็งภายในเร็ววัน
"ถ้าพราวต้องการอย่างนั้น พี่คงห้ามอะไรไม่ได้ เพียงแต่พี่เป็นห่วง เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวมันอันตราย แล้วพราวแน่ใจเหรอว่าการอยู่คนเดียวจะทำให้อะไรต่ออะไรดีขึ้นจริงๆ" ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นน้องสาว
"พราวก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พราวคิดว่ามันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด อย่างน้อยการไม่พบกัน จะทำให้ตัดใจได้เร็วขึ้น ถ้าพราวยังอยู่ที่เมืองไทย ผู้พันคงไม่ละความพยายามแน่ๆ" หญิงสาวเอ่ย
"พราวรู้จักนายพร้อมน้อยเกินไป รายนั้นถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ต่อให้มีอุปสรรคมากมายขนาดไหน นายพร้อมก็จะตะลุยไปจนได้ แล้วอีกอย่าคำว่า"ระยะทางที่ไกลกัน" ไม่เป็นปัญหาสำหรับนายพร้อมแน่นอน ว่าแต่พราวจะเดินทางเมื่อไหร่" ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นน้องสาว
"คิดว่าไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้าค่ะ วีซ่าของพราวยังไม่หมดอายุ ถ้าจองตั๋วได้ก็คงเดินทางทันที แต่พราวมีเรื่องจะขอร้องพี่ธง"
"อะไรเหรอ"
"พี่ธง อย่าบอกผู้พันนะค่ะ" หญิงสาวเอ่ยขอร้องผู้เป็นพี่ชาย
"ได้ พี่รับปาก"
"ขอบคุณค่ะ"
"อีกสองวันที่กรมจะมีงานจัดเลี้ยงขอบคุณคณะทำงาน พี่คิดว่าพราวคงจะหลีกเลี่ยงที่จะเจอนายพร้อมไม่ได้"
"ค่ะ คุณลุงบอกพราวแล้วเรื่องงานเลี้ยง พราวจะไปค่ะ จบงานนี้ ภารกิจคงจะจบสิ้นจริงๆเสียที" หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย และคงจะจริงอย่างที่ว่า "เวลาเป็นเครื่องรักษาหัวใจได้ดีที่สุด" ชายหนุ่มได้แต่มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเห็นใจ
"ทำไมพราวยังไม่มาอีก" ชายหนุ่มเอ่ยพลางหันไปถามพันตรีธงไทย
"พราวจะมาพร้อมคุณพ่อ"
"ฉันมีเรื่องจะคุยกับพราว" ชายหนุ่มเอ่ยกับผู้เป็นเพื่อน
"ตัดใจเถอะนายพร้อม เรื่องระหว่างนายกับยัยพราวมันเป็นไปไม่ได้หรอก" พันตรีธงไทยเอ่ยเตือนเพื่อนรัก
"เป็นไปได้สิ ฉันบอกคุณแม่ไปแล้วว่าฉันรักพราว คุณแม่บอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้"
"จริงเหรอ ทำไมมันง่ายอย่างงั้นว่ะ ว่าแต่ฝ่ายโน้นเขาจะยอมเหรอ" พันตรีธงไทยเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ ในขณะเดียวกันก็ยังสงสัยถึงปฏิกิริยาของฝ่ายว่าที่คู่หมั้นของเพื่อนสนิท เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าคุณหญิงศรีแก้วมารดาของพรรณฤดีหมายหมั้นปั้นมือว่าต้องการพันตรีพร้อมพิทักษ์มาเป็นบุตรเขยเพียงใด ในส่วนลึกของจิตใจ หากเรื่องที่เพื่อนสนิทเอ่ยเป็นจริงดังว่า เขาก็รู้สึกดีใจกับชายหนุ่มไม่น้อย
"จริงสิ" พันตรีพร้อมพิทักษ์ตอบซ้ำด้วยประโยคเดิมเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เป็นเพื่อน
"ถ้ายัยพราวรู้ก็คงจะดีใจ ลงเอยกันได้เสียทีนะน้องเขย" พันตรีธงไทยเอ่ยเย้าผู้เป็นเพื่อนสนิทและกำลังจะมาเป็นว่าที่น้องเขยในอนาคต แต่แล้วก็มีเสียงหวานใสขัดขึ้นระหว่างบทสนทนาของชายหนุ่มทั้งสอง
"พี่พร้อมมาอยู่ตรงนี้เอง น้องตามหาแทบแย่" พรรณฤดีเอ่ยขึ้น เมื่อเดินมาถึงบริเวณที่พันตรีพร้อมพิทักษ์ และพันตรีธงไทยยืนสนทนากันอยู่ หญิงสาวควงคู่มากับผู้เป็นบิดาในฐานะที่เป็นนายทหารผู้ร่วมในคณะทำงาน และเมื่อมาถึงก็พยายามมองหาชายหนุ่มว่าที่คู่หมั้นจบพบ
"คุณน้องตามหาพี่มีอะไรรึเปล่าครับ"
"พี่พร้อมพูดอย่างนี้น้องเสียใจนะค่ะ จะมาพบพี่พร้อมต้องมีเรื่องด้วยเหรอค่ะ อีกอย่างคนเป็นว่าที่คู่หมั้นกันตามหากันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก คือว่าน้องจะชวนพี่พร้อมออกไปเต้นรำค่ะ"
"งานเข้าแล้วไม๊ล่ะ" พันตรีธงไทยเอ่ยกระซิบกับผู้เป็นเพื่อน ชายหนุ่มหันไปมองหญิงสาวชั่วขณะ ถึงแม้ในใจนั้นไม่ได้อยากออกไปเต้นรำกับหญิงสาว แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ พันตรีพร้อมพิทักษ์จึงจำต้องโค้งให้พรรณฤดี เพื่อออกไปเต้นรำกับหญิงสาวตามที่ถูกเชิญชวน
"น้องขอตัวพี่พร้อมสักครู่นะค่ะ ผู้พัน" พรรณฤดีหันมาเอ่ยกับพันตรีธงไทย
"เชิญตามสบายครับ" ชายหนุ่มเอ่ย เมื่อเพื่อนสนิท และหญิงสาวเดินจากไป พันตรีธงไทยจึงได้แต่พึมพำกับตัวเอง "นายจะได้มาเป็นน้องเขยฉันแน่เหรอนายพร้อม คุณน้องเกาะติดแจเสียขนาดนี้"
อีกมุมหนึ่งของงาน เจ้าของดวงตากลมโตจับจ้องอยู่บริเวณกลางฟลอร์เต้นรำ
"ดูผู้พันกับคุณพรรณฤดี เหมาะสมกันดีนะเธอ ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวย แต่ดูสีหน้าผู้พันเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจยังไงไม่รู้"
"ก็แน่ล่ะสิ คุณน้องเธอเกาะผู้พันแจขนาดนั้นจะกระดิดตัวไปไหนก็ไม่ได้ แถมคุณเธอยังเที่ยวป่าวประกาศว่ากำลังจะหมั้นกับผู้พันพร้อม งานหมั้นครั้งนี้คงเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เลยนะ คุณหญิงศรีแก้วก็ใช่ย่อย คงจะไม่ยอมจัดงานเล็กๆแน่"
"อืม ก็คงอย่างนั้น"
บทสนทนาระหว่างหญิงสาวสองคนที่คาดว่าคงเป็นผู้ได้รับเชิญมาร่วมงาน ดังกระทบโสตประสาทของหญิงสาวเจ้าของดวงตากลมโตที่ยืนอยู่บริเวณนั้น พราวตะวันมาถึงบริเวณงานได้สักพักใหญ่ แต่ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายจึงเลี่ยงที่จะออกมายืนตามลำพัง เนื่องจากทั้งผู้เป็นลุง และพี่ชายนั้นกำลังสนทนากับนายทหารระดับชั้นผู้ใหญ่ และแขกผู้มีเกียรติคนอื่นๆ และยิ่งมาได้ยินบทสนทนาของหญิงสาวทั้งสองทำให้หญิงสาวจำต้องเดินเลี่ยงออกมาภายนอกงานมายังระเบียงที่อยู่ติดกับห้องจัดเลี้ยงเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายต่างๆในงาน
วันนี้ดวงดาวบนท้องฟ้า ยังคงทอแสงระยิบระยับงดงามจับตาเหมือนเดิม น้อยครั้งที่ท้องฟ้าในเมืองหลวงจะแจ่มใสจนมองเห็นหมู่ดาวมากมายขนาดนี้"ผ้าห่มดาว" หญิงสาวเคยนิยามการมองเห็นดวงดาวจำนวนมากมายแบบนี้ไว้ในใจ เมื่อใดที่เกิดความรู้สึกท้อใจ แสงจากผ้าห่มดาวจะช่วยปัดเป่าความรู้สึกเหล่านั้นให้กับเธอได้เสมอ หากในวันนี้แสงจาก"ผ้าห่มดาว" กลับไม่ทำให้ความรู้สึกเหล่านี้จางหายไป หากแต่ยิ่งทำให้เกิดความอ้างว้างในหัวใจขึ้นอย่างประหลาด ลมหนาวพัดผ่านเข้ามากระทบจนทำให้ร่างบางต้องห่อไหล่ด้วยความหนาวเย็น หญิงสาวจึงคิดจะเดินกลับเข้าไปในงาน แต่ยังไม่ทันที่จะหันหลังกลับ ไหล่บางก็ถูกคลุมทับด้วยเสื้อสูทตัวหนา และทันทีที่หันกลับไปมองก็พบว่าเจ้าของเสื้อยืนซ้อนหลังอยู่ในระยะประชิด
"คิดถึง" เจ้าของเสื้อสูทตัวหนาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ พลางสวดกอดร่างบางจากทางด้านหลัง แผ่นอกหนาและแข็งแรงยังคงให้ความอบอุ่นเสมอมา
"และมากจนคิดว่า ทำไมใครบางคนถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ คิดเหรอว่าชาตินี้จะไม่พบกันอีก และที่ทำมาทุกอย่างคงไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไม๊" น้ำเสียงทุ้มยังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ เมื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากคนตัวเล็กตรงหน้า ทำให้ชายหนุ่มได้แต่นึกอยากจะจับคนตัวเล็กเขย่าถามให้รู้ไปถึงความรู้สึกในก้นบึ้งของหัวใจ
"ทุกอย่างมันจบลงแล้วค่ะ" หญิงสาวเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
"จบลงพร้อมกับภารกิจที่ประสบความสำเร็จ" หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย
"ไม่จริง เรื่องมันยังไม่จบ" ชายหนุ่มเอ่ย
"ผมคุยกับคุณแม่ และบอกท่านไปแล้วว่าผมรักพราว และผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วยคือพราวเท่านั้น" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดื้อดึง
"ผู้พันกำลังจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้นไปอีก" หญิงสาวเอ่ย
"ไม่มีอะไรยุ่งยากสำหรับความรู้สึกของหัวใจ"
"ผู้พันยอมรับความจริงเถอะนะค่ะ ว่าเรื่องของเรามันจบไปแล้ว และเราไม่ควรจะพบกันอีก" ว่าแล้วหญิงสาวก็พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดที่โหยหามาตลอด แต่เมื่อถึงเวลานี้อ้อมกอดนี้ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป หากแต่สิ่งที่ชายหนุ่มกระทำกลับกอดรัดร่างบางตรงหนาแน่นขึ้น จนแรงดิ้นของคนในอ้อมกอดลดลง
"พราวต้องการแบบนี้จริงๆเหรอ" คนตัวโตได้แต่กระซิบถามกับคนตัวเล็ก
"ต้องการหรือไม่ พราวไม่มีสิทธิเลือก และที่สำคัญเรื่องมันกำลังจะเดินตามทางที่ควรจะเป็น" หญิงสาวได้แต่เอ่ยตอบชายหนุ่มไปเพียงเท่านั้น และได้แต่คิดในใจว่า หากครั้งนี้มีฝ่ายใดที่จะต้องเจ็บ ฝ่ายนั้นก็ควรจะเป็นเธอ "คนที่มาทีหลัง"
ความคิดเห็น