ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในดวงใจนิรันดร์

    ลำดับตอนที่ #27 : ตอนที่ 26

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2K
      5
      29 ธ.ค. 56


                     สีหน้าของชายหนุ่มที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงผู้ป่วยยังคงดูซีดเซียวจนน่าใจหาย หากแต่การหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้หญิงสาวรู้สึกเบาใจ เมื่อนึกถึงตอนที่แพทย์แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับอาการของชายหนุ่ม
                    “ผู้พันอาการดีขึ้นมากครับ ฟื้นตัวได้เร็ว คิดว่าสัปดาห์หน้าถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้”
    และเมื่อสังเกตดูก็พบว่าที่นิ้วก้อยของชายหนุ่มยังคงสวมแหวนของหล่อนติดตัวไว้
                  
    พี่ธง ช่วยเอาแหวนของพราวที่อยู่กับผู้พันกลับมาคืนด้วยนะค่ะ หญิงสาวยังจำได้ดี เมื่อคราวที่ขอร้องผู้เป็นพี่ชายให้นำแหวนของตนกลับมาจากพันตรีพร้อมพิทักษ์ แต่แล้วสิ่งที่ผู้เป็นพี่ชายกลับมาบอกคือ
                  
    นายพร้อมไม่คืนให้ และฝากบอกว่า ถ้าพราวอยากได้ให้ไปรับคืนด้วยตัวเอง
                    นั่นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หญิงสาวต้องมาที่นี่ในคืนนี้
    นอกจากสาเหตุสำคัญคือความห่วงใยในตัวชายหนุ่ม
                  
    พราวมาด้วยตัวเองแล้ว พราวขอคืนนะค่ะ หญิงสาวเอ่ยพลางจับมือหนาข้างที่สวมแหวน และพยายามที่จะถอดแหวนของตนออกจากมือของชายหนุ่ม หากแต่ความพยายามก็ไม่สัมฤทธิ์ผล อีกทั้งคนที่คิดว่าหลับสนิท กลับพลิกมือหนามากุมมือบางของหญิงสาวไว้
                    “อุ๊ย” หญิงสาวอุทานพลางชักมือกลับแต่ก็ไม่เร็วเท่ากับชายหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยมือหญิงสาวอีกทั้งยังยึดข้อมือบางไว้แน่น
                    “ผมรอพราวมาเยี่ยม แต่พราวก็ใจร้ายไม่ยอมมา จนผมต้องใช้วิธีนี้” ชายหนุ่มโอดครวญ
                    “พราวมาแล้วครั้งหนึ่ง” หญิงสาวเอ่ยแก้ตัวเสียงเบา เนื่องจากรู้สึกผิด เพราะตนก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มต้องมานอนรักษาตัวที่นี่
                     “มาแล้ว แต่ไม่เข้ามาเยี่ยมก็เท่ากับไม่มา” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
                     “พราวไม่ห่วงผมเลยใช่ไม๊ ถ้าวันนั้นผมตายไป พราวก็คงจะไม่ลำบากใจแบบนี้” ชายหนุ่มเอ่ยต่อเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงนิ่งเงียบ และเมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า
                     “คุณพร้อมก็รู้ว่าเรื่องระหว่างเราไม่มีวันเป็นไปได้ พราวต้องพยายามจบเรื่องระหว่างเราให้เร็วที่สุด อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บไปมากกว่านี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า และในดวงตากลมโตมีน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลา
                     “เป็นไปได้สิ ถ้าพราวจะให้โอกาส” ชายหนุ่มเอ่ย และเริ่มมีอาการไอ
                     “คุณพร้อมพักก่อนนะค่ะ อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย” หญิงสาวเอ่ย
                     “ไม่” ชายหนุ่มปฏิเสธ
                      “อย่าดื้อสิค่ะ หมอบอกว่าคุณพร้อมต้องพักผ่อนให้มาก”
                      “สัญญาได้รึเปล่าว่าจะมาเยี่ยมผมทุกวัน” เมื่อเห็นหญิงสาวยังนิ่งเงียบ ชายหนุ่มจึงเอ่ยต่อว่า
                      “พราวทำให้ผมรู้สึกว่า ผมไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับพราว ผมมันเป็นแค่ไอ้หน้าโง่คนหนึ่งที่มัวแต่ตามตื้อผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักตัวเองเลย ทั้งๆที่ผมคิดว่าผมได้พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงคนหนึ่งมากจนแม้กระทั่งชีวิตก็เสียสละให้ได้” ชายหนุ่มเอ่ย ในขณะที่สาตตาตัดพ้อยังคงจับจ้องที่ใบหน้างามของหญิงสาว
                       “พราวขอโทษ แต่พราวไม่อยากเป็นตัวปัญหา คุณพร้อมฟังแล้วอาจจะดูเหมือนว่าพราวงี่เง่า แต่พราวก็ไม่ต้องการแย่งของของใคร” หญิงสาวเอ่ย
                       “ถ้าจะมีคนที่เป็นตัวปัญหา คนคนนั้นก็คือผม ไม่ใช่พราว และอีกอย่างผมเป็นคนนะพราว ไม่ใช่สิ่งของที่พราวจะเสียสละเที่ยวยกผมให้ใครต่อใคร” ชายหนุ่มเริ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด และดูเหมือนความอดทนที่มีก็เริ่มลดน้อยลง มีแต่ความรู้สึกที่อยากให้คนตัวเล็กตรงหน้าได้รับรู้ และเข้าใจ
                       “ที่พราวมาวันนี้ ก็เพื่อที่จะต้องการทำความเข้าใจกับคุณพร้อมถึงเรื่องของเรา และหวังว่าคุณพร้อมจะเข้าใจ”
                       “ถ้าผมบอกว่าผมไม่เข้าใจล่ะ”
                      
    “ไม่ว่าคุณพร้อม จะตัดสินใจยังไง พราวก็ยินดี และเคารพในการตัดสินใจของคุณพร้อมเสมอ หญิงสาวเอ่ย 
                        “ผมขอถามพราวคำเดียว ว่าพราวรักผมรึเปล่า” ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวผู้เป็นดังดวงใจ พลางกระชับมือบางที่อยู่ในอุ้งมือของตนให้แน่นขึ้น ราวกับจะถ่ยทอดทุกความรู้สึกที่มีทั้งหมดของหัวใจผ่านมือบาง ให้หัวใจของคนตัวเล็กตรงหน้าได้รับรู้
                         “คำตอบของพราวคุณพร้อมก็ทราบอยู่แล้ว”
                         "แต่ผมอยากได้ยินจากปากของพราว”
                         “มันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพราะไม่ว่าคำตอบของพราวจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างระหว่างเราก็ต้องจบแบบนี้อยู่ดี”
                         “ผมจะไม่มีวันยอมให้เรื่องระหว่างเราจบแบบนี้ มันไม่ยุติธรรม แล้วแหวนวงนี้ผมก็จะไม่มีวันคืนให้” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างดื้อดึง
                         “นั่นก็แล้วแต่คุณพร้อม แต่สำหรับพราว พราวขอเลือกที่จะให้เรื่องจบแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยพลางปลดมือชายหนุ่มออกจากข้อมือของตนเอง ซึ่งในครั้งนี้ชายหนุ่มก็ยอมแต่โดยดี
                          “ลานะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยพลางประนมมือไหว้ลาชายหนุ่มแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้เจ้าของห้องมองตามด้วยสีหน้าที่ครุ่นคิด และหมายมาดในใจว่าก็ในเมื่อปฏิบัติการทุกครั้ง เขาสามารถวางแผน และฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาได้ กับครั้งนี้แค่ผู้หญิงคนเดียวเขาจะรับมือไม่ได้ก็ให้รู้ไป

     

                          “เป็นยังไงบ้างพราว” พันตรีธงไทยเอ่ยถามผู้เป็นน้องสาวในวันรุ่งขึ้น หลังจากทราบว่าหญิงสาวได้ไปเยี่ยมเพื่อนสนิทในคืนวาน
                          “ผู้พันดื้อเหมือนที่พี่ธง พูดไว้ไม่มีผิด เขาบอกว่าเขาจะไม่ยอมให้เรื่องระหว่างพราวกับเขาจบแบบนี้ แต่พราวก็บอกไปแล้วว่า พราวยินดีที่จะให้เรื่องจบแบบนี้”
                          “พี่คิดอยู่แล้วว่านายพร้อมต้องพูดแบบนี้ พราวเตรียมตัวรับมือนายพร้อมได้เลย นายพร้อมมีวิธีที่จะทำให้พราวยอมรับได้แน่ๆ ” ชายหนุ่มเอ่ย
                          “พี่ธงไม่ให้กำลังใจกันเลย” หญิงสาวเอ่ยขึ้น  
                         
    “แต่พี่ว่า บางครั้ง พราวก็น่าจะปล่อยให้หัวใจได้ทำหน้าที่ของมันบ้างนะ การทำตามคำสัญญาได้เป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับบางเรื่อง หรือกฎบางข้อก็มีข้อยกเว้นเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ” พันตรีธงไทยเอ่ย
                          จริงอยู่ในตอนแรกเขาไม่อยากสนับสนุนความรักครั้งนี้ของเพื่อนสนิท และน้องสาว แต่เมื่อเห็นการกระทำหลายอย่างของเพื่อนสนิทที่มีต่อผู้เป็นน้องสาว ทำให้ชายหนุ่มเริ่มกลับมาคิดว่า หากสักวันพราวตะวันจะต้องมีคนดูแล คนที่เหมาะสมก็ควรจะเป็นพันตรีพร้อมพิทักษ์มิใช่หรือ ชายหนุ่มคิดพลางเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวได้ใช้เวลาทบทวนกับคำพูดที่เอ่ยทิ้งไว้

     

                        “แม่ครับ ถ้าผมจะไม่ขอหมั้นกับคุณน้อง แม่จะว่ายังไงครับ” พันตรีพร้อมพิทักษ์เอ่ยถามผู้เป็นมารดา ในขณะที่คุณหญิงพิมพ์ดาวกำลังปลอกผลไม้ให้รับประทาน
                        “อะไรนะตาพร้อม”  คุณหญิงพิมพ์ดาวเอ่ยถามย้ำเพื่อความแน่ใจ  
                        
    “ผมบอกว่าผมจะไม่หมั้น และแต่งงานกับคุณน้อง” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
                         “ทำไมพูดแบบนี้ สัญญากับแม่แล้วนะว่าเสร็จภารกิจครั้งนี้จะกลับมาหมั้น และแต่งงานกับหนูน้อง” คุณหญิงพิมพ์ดาวเอ่ยเสียงดัง
                         “ผมรักพราวตะวัน รักมากและรักมานานแล้ว” ชายหนุ่มสารภาพกับผู้เป็นมารดา
                         “แล้วทำไมเพิ่งมาบอกแม่ แล้วแม่จะทำยังไงล่ะ ไปทาบทามลูกสาวเขาไว้แล้ว” คุณหญิงพิมพ์ดาวนั้นมีเหตุผลพอที่ยอมรับความรู้สึกของบุตรชาย ในขั้นแรกที่ไปทาบทามพรรณฤดีไว้ก็เนื่องจากความเหมาะสม และคิดว่าบุตรชายไม่มีใครอยู่ในหัวใจ  แต่เมื่อบุตรชายมาสารภาพแบบนี้ก็คงต้องหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
                          “ก็บอกฝ่ายโน้นไปตามตรงนั่นล่ะคุณหญิง” พลเอกพิทักษ์เอ่ยขึ้น หลังจากนั่งฟังเรื่องราวมานาน
                          “คุณพี่ก็พูดง่ายนะค่ะ ส่วนดิฉันนี่ต้องเป็นฝ่ายไปพูดยังนึกไม่ออกเลยว่าจะทำหน้ายังไง” คุณหญิงพิมพ์ดาวเอ่ยด้วยสีหน้าที่ยุ่งยากใจ
                         
    นะครับคุณแม่ ไม่มีใครที่เข้าใจผมเท่ากับคุณแม่อีกแล้ว ชายหนุ่มเริ่มออดอ้อนผู้เป็นมารดา ซึ่งวิธีนี้ก็ใช้ได้ผลดีทุกครั้ง
                         
    ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลย พ่อตัวดี คุณหญิงพิมพ์ดาวเอ่ย  
                         
    “สงสัยจะหลงรักหนูพราว ตั้งแต่เมื่อครั้งลากกันออกไปกลางทะเล ใช่รึเปล่าตาพร้อม” พลเอกพิทักษ์เอ่ยเย้าบุตรชาย ถึงวีรกรรมที่ก่อขึ้นเมื่อครั้งวัยเยาว์
                         “คุณพ่อชอบล้อผมอยู่เรื่อย” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เก้อเขิน แต่ก็รู้สึกดีใจไม่น้อยที่บิดา และมารดาเข้าใจความรู้สึกของเขา ทีนี่ก็เหลือแต่คนตัวเล็กคนเดียวที่เขาจะทำให้หญิงสาวยอมรับโดยที่ไม่มีรู้สึกผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาคิดว่าการรับมือกับหญิงสาวคงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป



    @@@@@@@@@@@@@@@@@สวัสดีปีใหม่ 2557 นะค่ะ@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
    @@@@@@@@@ขอให้รีดเดอร์ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขในทุกๆวัน ตลอดปี 2557 ค่ะ@@@@@@@@
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×