ลำดับตอนที่ #28
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ส่งงาน:: New Biter : มือใหม่หัดกัด
สถานะ : วิจารณ์เสร็จสิ้น
ผู้วิจารณ์ : เค้กสตอว์เบอร์รี่
พล็อตเรื่อง 10 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 9/10
(ครึ่งแรก)เป็นพล๊อตเรื่องที่เกี่ยวกับแวมไพร์ แต่มันน่ารักตรงที่ พระเอกยังไม่เป็นแวมไพร์แต่กำลังจะเป็นแวมไพร์ คือมันน่ารักน่าหยิกอ่ะ >0< แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรักของpre-แวมไพร์กับผู้หญิงโดยเอาเวลามาเป็นเงื่อนไขว่า ถ้าเราจะจีบเขาเราต้องจีบเขาให้ได้ภายในเวลานี้ๆ เพราะเวลาเรากำลังจะหมด เรากำลังจะกลายเป็นแวมไพร์เต็มตัว อันนี้คหสตนะคะ ดิฉันว่ามันมีความfreshอยู่ตรงที่พระเอก แต่มันก็เป็นเนื้อเรื่องเหมือน Twilight ประมาณนั้นอ่ะ
(ครึ่งหลัง) เป็นเรื่องของนางเอกบ้างที่ต้องตามล่าหาหัวใจของทอม ทำให้พระเอกจำนางเอกได้ เพราะว่าพระเอกได้กลายเป็นแวมไพร์ไปเรียบร้อย แล้ว เป็นพล๊อตครึ่งหลังที่น่าติดตามเช่นเดียวกันคะ
บทย่อและบทนำ 5 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 4/5
มีบทย่อที่น่าสนใจ กล่าวคือมีเรื่องของสัตว์ร้ายเข้ามาเกี่ยวข้องแต่จะดูลึกลับๆว่า สัตว์ร้ายในตัวเขา มันคืออะไร อันนี้จะทำให้ผู้อ่านอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร ใครเป็นใคร แต่ว่าบทเรื่องดีๆนั้น ต้องมีความที่ ไม่บอกเรื่องราวนั้นจนหมด ดิฉันแนะนำว่า คำว่า “เรื่องราวของ”อันนี้เราลองเปลี่ยนดูดีไหม เพราะมันอ่านแล้วจะดูน่าเบื่อนะคะ อาจจะเริ่มต้นใช้ หนุ่มไฮสคูลเลยก็ได้ เพราะคำว่า เรื่องราวของ มันจะดู common ไง เราต้องแปลกใหม่นิสนึง แต่สิ่งที่ควรจะตัดออกคือประโยคสุดท้ายที่บอกว่า “เวลาของเขาเหลือน้อย” น่าจะตัดออกไปเพราะว่ามันดูเหมือนกล่าวซ้ำไปมา เราว่าถ้าตัดสองคำนี้ออกไปเราว่ามันจะทำให้บทย่อมีเสน่ห์ขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ
บทนำของเรื่องมีความที่อยู่นกรอบเยอะเกินไป คือเป็นการบรรยายถึงตัวอุปนิสัยของพระเอกว่า คนๆนี้เป็นคนยังไง แต่ที่ตัวเองขาดไปเลย นั่นก็คือการบรรยายลักษณะท่าทางของพระเอก ถึงแม้ว่าการบรรยายหน้าตาของพระเอกโดยที่ใช้พระเอกเป็นตัวดำเนินเรื่องมันชักจะดูยังไงๆชอบกลแบบ “อีนี่หลงตัวเองมาพรรณนาหน้าตาให้ฟัง” แต่คือ เราสามารถทำให้บทแรกดำเนินไปแบบไม่มีคนดำเนินเรื่องก็ได้ อาจจะมีบุรุษที่หนึ่งคือพระเอกบรรยายเป็นตอนต้น ตอนปลายเรื่องเราก็อาจจะเปลี่ยนได้ว่า “ชายหนุ่มที่ดูปกติคนนี้มีเรือนผมที่ซอยสั้นระถึงคอ”แล้วก็บรรยายต่อไปเลย!
อันนี้เสริมนะคะ** สมมุติว่าถ้าเราจะบรรยายตัวพระเอกไป ดิฉันว่าควรจะเล่าประวัติของเขาว่า เขาเรียนที่ไหน อายุเท่าไร อดีตเป็นยังไง เพราะอดีตอาจจะมีส่วนเกี่ยวกับปัจจุบันก็ได้ ดิฉันเชื่อว่าตัวเองทำได้ ^O^ (อันนี้คือให้อธิบายในบทนำเลย ไม่ต้องอธิบายในบทที่หนึ่งแล้วนะคะ)
เนื้อเรื่องโดยรวม 30 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รีให้ 29/30
เปิดเรื่องมาได้ดีค่ะ มีการแนะนำตัวอย่างเป็นเรื่องเป็นราวของพระเอกได้อย่างดี มีการแนะนำอดีตไปได้ดีมากค่ะว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร อีกอย่างหนึ่งนะคะ เรื่องนี้มีกลิ่นอายที่เป็นแบบฝรั่งน่ะค่ะ คือเป็นการใช้ศัพท์นอกทุกตอน และเป็นการดำเนินเรื่องที่ชิวๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบ ใช้คำถึงแม้จะไม่สลักสลวย ธรรมดาๆนะคะ แต่ก็ดิฉันว่าการใช้คำแบบนี้ดิฉันก็รู้สึกว่ามันอ่านได้ลื่นมากเลยนะคะ ก็ เป็นนิยายที่มีความเป็นตะวันตกด้วยวัฒนธรรม ลักษณะท่าทาง และอากัปกิริยาของพระนางนั้นจะดูเป็นฝรั่งมากๆเลยค่ะ
เอ้อ! อีกเรื่องหนึ่งก็คือตำนานของตระกูลต่างๆ มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดิฉันขอชื่นชมนะคะ เพราะว่าเป็นเรื่องเล่าที่น่าสนใจมาก อย่างเช่นการอธิบายตระกูล เปรียบเทียบกับดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ซึ่งมันเริ่ดอ่ะค่ะ คือคนที่แบบฝันไกล (เหมือนดิฉัน) ก็จะชอบเรื่องอย่างนี้มากๆเลยนะคะ
และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเสียงดนตรีด้วย ซึ่งดิฉันว่ามีการบรรยายน้อยมากเลยนะคะ ดิฉันว่าเอางี้ดีไหมคะ ก่อนที่จะบอกว่า “ผมเลือกที่ร้องเพลงนี้ๆ” น่าจะขึ้นด้วยเนื้อร้อง และความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ละเอียดกว่านี้นะคะ จะทำให้ผู้อ่านอินกันเยอะค่ะ
ดิฉันเดาว่าตัวเองน่าจะใช้บทบรรยายและบทดำเนินเรื่องให้มีประโยชน์เท่าๆกันนะคะ เพราะว่าการบรรยายจะมีเนื้อหาสูสีกับบทสนทนาเลย ก็ถือว่าทำได้ดี เพราะการที่มีบทสนทนานั้น ทำให้เนื้อเรื่องสามารถมีคนเข้าใจขึ้นเยอะ แต่ระวังหน่อยนะคะ เพราะการที่มีบทสนทนาเยอะเกินไป จะทำให้นิยายเคลียร์ และน่าเบื่อเกินไป อาจจะมีการเพิ่มบทบรรยายต่างๆลงไปนี่จะดีมากเลยนะคะ
ดิฉันขอเสนอจุดบกพร่องเล็กๆน้อยนะคะ คือเรื่องบทสนทนาที่เยอะไปนิดนึง และเวลาตัวเองพิมพ์บทสนทนาน่ะค่ะ สมมุติว่าเอมิลี่พูดว่า “ฉันชอบนาย” แล้วเว้นห้วงคำ ดิฉันว่าไม่ควรจะเคาะบรรทัดแล้วเขียนคำพูดของเอมิลี่คำต่อไปนะคะ เพราะดิฉันและผู้อ่านจะสับสนน่ะค่ะว่า อันนี้เป็นคำพูดของใคร บางทีอาจจะแก้ไขได้โดยการที่เราเขียนอยู่ในบรรทัดเดียวกัน แต่อาจจะเว้น spacebar น่ะค่ะ หรือไม่ก็ เคาะบรรทัดได้ค่ะ แต่ต้องมีการโต้ตอบของคู่สนทนา ถ้าคู่สนทนาเงียบก็น่าจะใส่ “...” ลงไปนะคะ
ส่วนเรื่องการบรรยายดิฉันว่าน่าจะมีการเพิ่มอีกสักนิดนึงนะคะ (มันจบแล้วจะเพิ่มไงล่ะ) ก็ ถ้าว่างๆก็มาแก้ไขได้เน้อ พวกลักษณะท่าทาง หรืออารมณ์ของตัวละคร ดิฉันว่าควรจะอธิบายและบรรยายอย่างลึกซึ้งนะคะ โดยเฉพาะอารมณ์ ตัวละครน่าจะมีอารมณ์และแสดงท่าทางออกไปมากกว่า อย่างเช่นเวลาทอมโกรธ หรือ ใจเต้น น่าจะมีการอธิบายท่าทาง อย่างเช่น “กัดฟันกรอด นัยน์ตาเบิกโพล่ง พละกำลังแข็งแรง หายใจเร็วและแรงผิดปกติ” อะไรเช่นนี้นะคะ
ฉากแต่ละฉากเป็นไปอย่างพลิ้วมากนะคะ ไม่ลื่นไหลและไม่ค่อยมีการข้ามฉากสักเทาไหร่ และมีการบ่งบอกเวลา เช่น 18.00 น เมื่อเปลี่ยนฉากเป็นอีกฉาก แต่ดิฉันแนะนำว่าควรจะใช้แค่เวลาบอกนะคะ ไม่ควรใช้แบบ “ยี่สิบนาทีต่อมา” เพราะมันจะดู มึนๆน่ะค่ะ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกติดๆขัดๆเหมือนกันนะคะ อันนี้ก็ลองเอาไปปรับแก้ด้วย
แต่ที่นักเขียนทำได้ดีเอามากๆเลยนั่นก็คือ ฉากต่อสู้ค่ะ เพราะว่านักเขียนบางคนจะมีแบบว่า ปัญหากับการบรรยายท่าทางและแอ๊คชั่นของตัวละครแต่ละตัว แต่ตัวเองไม่มีเลยค่ะ ดำเนินเรื่องตอนต่อสู้ได้อย่างน่าตื่นเต้น และบรรยายภาพจนดิฉันเหมือนถูกดูดเข้าไปในโลกของตัวละครแล้วน่ะค่ะ ดิฉันกดไลค์ค่ะ ซึ่งบางทีฉากแอ๊คชั่นนี้ แม้จะไม่ใช้อารมณ์ของผู้อ่าน จะเน้นไปทางการใช้พละกำลังข้างนอกใจมากกว่า แต่เรื่องใจและอารมณ์ในบางฉากต่อสู้ก็สำคัญนะคะ อย่างเช่นตอนเอมิลี่จะโดนเคลวินลากไปฆ่า(เลวบัดซบซะ อยากตบบ้องหูจริงๆเควินนี่) ทอมอาจจะอธิบายความโกรธของตัวเองมากขึ้นกว่านี้ จะทำให้ฉากนี้ดีขึ้นนะคะ แต่โดยรวมถือว่าดีอยู่แล้วค่ะ
การพลิกปม และพลิกเรื่องราว หรือการคลายปมทำได้ดีนะคะ คือค่อยๆคลายไปทีละปมๆ ทำให้ผุ้อ่านไม่งง ไม่สับสนน่ะค่ะ ส่วนเรื่องการหักมุมนี่ดิฉันชอบมากๆเลยค่ะ เพราะจากการที่พระเอกต้องตื๊อนางเอก คราวนี้นางเอกต้องมาตื๊อพระเอก แล้วเป็นการหักมุมที่ดีและสร้างสรรค์มากๆนะคะ และผูกเรื่องได้อย่างดีมากๆเลยค่ะ ขอชื่นชมนะคะ เพราะยิ่งอ่านเนื้อเรื่องก็ยิ่งลุ้น ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆค่ะ อย่างเช่นเพิ่งรู้ว่านังแม่มดไวโอเล็ดไม่ได้เป็นแม่ตัวจริงดิฉันก็ตกใจค่ะ แล้วก็ลุ้นต่อ แทบคลิ๊กตอนต่อไปไม่ทันเลยล่ะค่ะ ซึ่งตอนๆนี้ดิฉันว่าตัวเองอธิบายฉากต่อสู้ระหว่าง แม่-ลูก ได้ดีค่ะ กริยาท่าทางของตัวละครสามารถทำให้ดิฉันนึกภาพได้
และเรื่องก็ดำเนินมาถึงตอนจบ ตอนจบของตัวเองดิฉันว่ามันรวบรัดไปหน่อย แต่เป็นตอนจบที่ดีมากเลยล่ะค่ะ เพราะในเนื้อเรื่องก่อนจบจะหักมุมจนหน้าดิฉันแทบหัก คือเป็นการพลิกผันของเรื่องที่ดีมาก เข้มข้นและน่าลุ้น คำพูดตอนจบประโยคสุดท้ายนั้นอาจจุดูเหมือน เนื้อเรื่อมันยังไม่ค่อยจบน่ะค่ะ อาจจะเพิ่มฉากไปอีกนิดก็ดีนะคะ
แต่ตอนจบเนื้อเรื่องและพล๊อตมีการจบลงที่ดีมาก เป็นการจบเรื่องที่ตรงตามประเด็นเลยว่า “การรอคคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว” ซึ่งมันสอดคล้องกับนิยายค่ะ ดิฉันไม่อยากให้จบเลย เพราะเนื้อเรื่องมันดีมาก
ตัวละครและฉาก 20 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 18/20
เริ่มกันที่โดยรวมนะคะ ถือว่าทำได้ดีเลยล่ะค่ะเรื่องตัวละคร เพราะดิฉันชื่นชอบมากในการเล่าเรื่องอดีตของตัวละครแต่ละตัวน่ะค่ะ เพราะมันจะมีการเกี่ยวโยงกับนิสัยของตัวละครแต่ละตัวด้วย ถือว่าทำได้โอเคเลยทีเดียวค่ะ (ตัวเอง! ตอนนี้ดูเขากินซูชิอ่ะ อยากกินบ้าง! เอ้า แล้วจะมาบอกทำไม อ้ะต่อๆ) ตอนเริ่มเรื่องแรกๆนะคะดิฉันว่าตัวเองยังบรรยายถึงท่าทางและกริยาของพระนางได้ไม่ค่อยละเอียด ทำให้ผู้อ่านไม่ค่อยนึกภาพออก แต่เมื่ออ่านไปจนถึงตอนมากๆขึ้นๆเรื่อยๆดิฉันว่าฝีมือการเขียนของตัวเองจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะคะ มันจะมีการบรรยายอย่างละเอียด และปราณีต ดิฉันเลยสรุปเลยว่า ฝีมือของผู้แต่งจะเพิ่มไปตามจำนวนบทที่ตัวเองแต่งนะคะเนี่ย
คราวนี้ดิฉันเริ่มพูดถึงตัวละครเอกแต่ละตัวเลยนะคะ (ขอแค่สองตัวละกันนะคะ) เริ่มด้วยนางเอก เอมิลี่ กลิ่นประทุมค่ะ (เอ้ย! เอมี่ กลิ่นประทุมนี่) เอมี่ลี่อย่างเดียวก็พอนะคะเนาะ ก็เอมิลี่นี่ถ้าดูเผินๆนะคะภายนอกจะเป็นคนเข้าถึงยากเหมือนกันนะคะ เพราะดูจากท่าทางที่เงียบขรึม พร้อมท่าทางที่จะมีพร้อมหนังสือเล่มโปรด เป็นคนรักครอบครัว จึงตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียนเพื่อแม่โดยเฉพาะ เข็ดขยาดกับผู้ชายจากพ่อของตัวเอง แต่เมื่อเจอพระเอกก็อ่อนใจ ใจอ่อน ก็เป็นคาแร๊กเตอร์ของนางเอกที่สามัญเหมือนกันนะคะ แต่จะไม่มีบ่อยในนิยายทั่วๆไป ดูทั่วไปคาแร๊กเตอร์จะคล้ายๆกับ bella swans ในเรื่อง Twilight เหมือนกันนะคะ แต่พอดูเข้าไปในใจของเอมิลี่ดิฉันว่าเอมิลี่เป็นคนที่อ่อนโยน สดใสร่าเริงนะคะ แต่ติดอยู่แค่เครียดกับชีวิตก็แค่นั้นแหละค่ะ เอมิลี่ที่จริงถ้าไม่ติดเรื่องครอบครัวเรื่องเดียวเท่านั้นแหละค่ะ เอมิลี่ก็จะเป็นคนที่เหมือนผู้หญิงทั่วๆไปอ่ะค่ะ แต่คือนางเอกของเรื่องมีปมด้อยตรงเรื่องครอบครัวนะคะ
ต่อเลยค่ะ ทอม! ทอมอันนี้ขอวิจารณ์สองแบบละกัน เพราะครึ่งแรกจะกุ๊กกิ๊ก ครึ่งหลังจะเลว (=_=) เอาครึ่งแรกก่อนนะกันนะคะ ครึ่งแรกของทอม (ดูแปลกๆ) ก็จะเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอารมณ์ที่อ้อมค้อม คืออยากทำอะไร ให้เขาทำอย่างนี้เขาจะไม่ทำ แต่เขาจะไปเลือกทำในสิ่งที่เขาชอบ หรือสิ่งที่คนรักของเขาชอบ เป็นคนที่เทิดทูนบูชาในความรักอย่างแรงเลย เพราะว่าเป็นห่วงคนรักอย่างสุดหัวใจ (เราจะเจอไหมเนี่ย) และขอให้บอก ผมจะทำให้คุณได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเข้าไปในป่าหาเพชรมาให้ หรือว่าไปทะเลทรายจับหมีขั้วโลกมา ผมก็จะยอม ซึ่งก็เป็นพระเอกขี้เล่นนะคะ เก็บความลับไม่ค่อยเก่ง น่ารักอ่ะค่ะ
ครึ่งหลังของทอมเลยค่ะ ตอนนี้ขอนั่งไทม์แมชชีนไปอนาคต ถ้าไปผับดังๆก็จะเจอชายหน้ามนคนชื่อทอมคนนี้แหละนั่งอยู่กับสาวๆ แต่แปลกที่อะไรรู้ไหม มันแปลกที่เขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากความอบอุ่น เขากลายเป็นคนเย็นชา เจ้าเล่ห์ และใจโหดเหี้ยม พูดง่ายๆคือ จากหน้ามือเป็นหลังป๊อปทีนส์ อะไรงี้ คือทอมจะกลายเป็นคนที่เลวมากหลังจากโดนวิวัฒน์แล้ว จะเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น (อันนี้ดิฉันไม่เข้าใจนะคะว่า ทำไมเวลาแวมไพร์ดูดเลือดเขาต้องดูดเลือดผู้หญิงด้วย อันนี้งงมากอ่า) และก็เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด ใจโหดเหี้ยมด้วย จากที่ทำกับนางเอกเป็นนางฟ้า ตอนนี้กลายเป็นเหมือนคุณชาร์ลส์ที่ทำกับฟ้าลดาเลยอ่า
ก็ต้องขอชมเชยถึงการเปลี่ยนนิสัยหรือเปลี่ยนฉากของนิสัยทอมนะคะ เพราะทำได้ดีมากๆเลยล่ะค่ะ
ฉากแต่ละฉากดิฉันว่าทำได้ดีนะคะ ไม่ข้ามฉากมากเท่าไหร่ แต่จะติดตรงที่บอกการเปลี่ยนฉากนั่นล่ะค่ะ มันดูฉุกละหุกเกินไปนิดนึงนะคะ ส่วนการบรรยายฉากดิฉันว่าบทสนทนานั้นเยอะไปนะคะ และดิฉันขอชมเชยเรื่องการดำเนินและบรรยายฉากต่อสู้ แอคชั่นนะคะ เพราะทำได้ดีค่ะ เห็นภาพเลย (อ๊ายยย! เคลวินแกอย่าทำอารายช้าลลล เด๋วช้าลตบตายเลย)
การบรรยายและการดำเนินเรื่อง 20 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 18/20
บรรยายเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นได้ดีค่ะ เพราะตอนเปิดเรื่องน่ะค่ะ มีการแนะนำตัวละครในแต่ละมุมมองด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่ดิฉันเสริมไปว่าการแนะนำนั้นควรจะแนะนำให้เสร็จใน INTRO เลยดีกว่าค่ะ
การบรรยายฉากแต่ละฉากทำได้ดีค่ะ (ชื่นชมมากกับฉากแอ๊คชั่น (อีปอนนี่ยังไม่จบ))เพราะทำให้ผู้อ่านเข้าใจ ด้วยศัพท์ที่ไม่ยาก กะทัดรัด และได้ใจความดีอย่างเรียบง่ายน่ะค่ะ ซึ่งเป็นข้อดีในนิยายของตัวเองเลยทีเดียวนะคะ
การบรรยายลักษณะท่าทางของพระเอกนางเอก อย่างที่บอกตอนแรกดิฉันว่ามันแผ่วไปนิด ไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์เท่าไหร่ แต่พอแบบเนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นก็จะมีการบรรยายที่เป็นสัดเป็นส่วน มีการเข้าถึงอารมณ์ในแต่ละฉากอีกได้ดีขึ้น แสดงให้เห็นการพัฒนาของนักเขียนได้ดีมากเลยล่ะค่ะ แต่ดิฉันว่าการบรรยายหน้าตาของตัวละครนั้นจะดูน้อยไปนิด เพราะว่าดิฉันถ้าดิฉันเป็นผู้อ่านก็อยากทราบถึงหน้าตาของตัวละครทั้งหน้านะคะ การที่ตัวเองบรรยายแค่ “เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาล กับนัยน์ตาสีน้ำตาล” อันนี้เราจะมองไม่เห็นภาพอ่ะค่ะ ถ้าจะเสริมดิฉันว่าน่าจะเพิ่มการบรรยายไปว่า “เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่ยาวสลวยระถึงกลางหลัง นัยน์ตากลมโตแต่แฝงความคมสีน้ำตาลไว้” หรือถ้าจะบรรยายทั้งหน้า ดิฉันคิดว่าเสริมไปตอนเดียวเลย เป็นตอนที่พระนางเจอกันครั้งแรก ดิฉันว่าน่าจะบรรยายหน้าตาของตัวเอกให้ดีนะคะ
เรื่องการดำเนินเรื่องในมุมมองของพระเอกจะเป็นรักใสๆที่เกี่ยวกับชีวิตสมัยเรียน และการที่พระนางได้มาอยู่ใกล้กัน รักกัน กุ๊กกิ๊กหยิกหมอนหยิกหัวกัน (อันหลังน่าจะไม่ใช่นา) ซึ่งเป็นการดำเนินเรื่องที่เป็น 50% บรรยาย 50% สนทนา ซึ่งดิฉันว่าดีนะคะ เพราะมีเปอร์เซ็นต์ของการบรรยายและบทสนทนาของตัวเองเท่ากันค่ะ แต่มีบางฉาก ที่ส่วนใหญ่จะดำเนิน story ด้วยคำพูด ซึ่งมันก็เคลียร์อ่ะนะคะ แต่ดิฉันว่าถ้าเยอะเกินไปมันก็จะไม่ดีน่ะค่ะ มันจะเคลียร์เกินไป เราควรเป็นมัชชิมมาน่ะค่ะ ดำรงตนในทางสายกลางงงง
จนเมื่อดำเนินมาถึงจุดๆหนึ่งจึงเกิดการหักมุมเข้าโดนดั้งเค้กสตรอวเบอร์รี่อย่างจัง 555+ คือเป็นการหักมุมและเปลี่ยนมุมมองจากพระเอกเป็นนางเอกได้ดีมากค่ะ เพราะไม่สับสน มีการทิ้งท้ายสำหรับนางเอกว่าควรจะทำยังไง หรือนางเอกจะทำยังไงในมุมมองของนางเอก ก็ต้องนับถือในความคิดสร้างสรรค์ของผู้แต่งนะคะ
พอหักมุมเสร็จพระเอกก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดรถในคฤหาสน์ของเขา พร้อมพานางเอกที่สภาพ เอิม เข้ามา คราวนี้ละก็เลยเป็นเรื่องของนางเอกที่ต้องฝ่าฟันทำให้พระเอกจำได้ว่าเคยกุ๊กกิ๊กกับนางเอก เลยทำให้เกิดการผูกเรื่องจากหลังไปท้ายอย่างดีมากทีเดียวเลย การดำเนินเรื่องในครึ่งหลังนี้เป็นการดำเนินเรื่องที่เพิ่มตัวละครเข้าไป และเป็นการดำเนินเรื่องที่น่าลุ้น น่าตื่นเต้น และทำให้ผู้อ่านติดตามนิยาย เพราะไม่ใช่การดำเนินเรื่องแบบครึ่งแรก มันจะดูตึงเครียดมากขึ้นแต่เข้มข้นมากขึ้นนะคะ
ดำเนินเรื่องในครึ่งหลังจะเป็นการดำเนินแบบเดาเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้ เพราะแบบมันเป็นเหมือนการดำเนินเรื่องแบบเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยอ่ะค่ะ มีโลก มีแอนโดรเวีย (ใช่ชื่อนี้เปล่าวะ) ซึ่งฉากแต่ละฉากน่ะค่ะ มันจะแบบนึกไม่ค่อยถึงว่ามันจะดำเนินไปเป็นแบบนี้
อย่างที่บอกค่ะ ตอนจบทำได้ดีนะคะ แต่รวบรัดไปนิดนึง อาจจะเพิ่มตอนลงไปอีกตอนนึงก็ได้นะคะ คือดิฉันว่าตอนก่อนจบมันยาวไปนิด น่าจะแบ่งตอนแล้วทำเป็นสองตอน แล้วรวมตอนจบไปอีกก็จะมี 42 ตอนน่ะค่ะ
คำผิดและจุดบกพร่อง 5 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 4.5/5
อ่านมาเยอะมากนะคะแต่ว่าหาคำผิดได้ไม่ค่อยจะเจอ แต่คราวนี้มาดูข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆนะคะ
- การบรรยายทุกอย่างของตัวละคร ดิฉันว่าน่าจะนำนำทุกอย่างใน intro นะคะ จะทำให้อ่านไปไม่ติดขัดค่ะ
- อย่างที่ดิฉันบอกนะคะ การบรรยายหน้าตาของตัวละครเอกต่างๆไม่ค่อยละเอียดน่ะค่ะ
- อย่างที่ดิฉันบอกอีกรอบนะคะ บทพูดมีเยอะเกินไป และการเว้นวรรคบทพูดดูห้วนๆ อ่านแล้วงงว่าใครเป็นคนพูดอยู่นิดๆนะคะ
ความสนุกน่าติดตาม และการสร้างสรรค์ 10 คะแนน เค้กตรอวเบอร์รี่ให้ 10/10
นิยายเรื่องนี้จบแล้วอ่า แล้วจะให้ติดตามยังไง แหมมม! ดิฉันว่ามาอ่านแล้วมาเม๊นท์กันเยอะๆก็จะดีนะคะผู้อ่านทั้งหลาย เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนคนน่ารักนี้ เอ้า! เข้าเรื่อง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่เข้มข้นขึ้นมากแต่ละตอนๆ เพราะมีเนื้อเรื่องถึงแม้จะเป็นเกี่ยวกับแวมไพร์ที่มีอยู่เกลื่อนเด็กดีก็จริง แต่ดำเนินเรื่องด้วยกลิ่นอายตะวันตกเล็กๆ พร้อมภาษาและการแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผู้อ่านติดอยากจะฝังเขี้ยวนิยายเหมือนกันนะคะ ก็ขอฝากผู้อ่านให้ติดตามนิยายเรื่องนี้และเรื่องต่อๆไปของผู้เขียนคนนี้ด้วย ดิฉันว่าไม่ผิดหวังค่ะ
ความคิดสร้างสรรค์ของผู้แต่งดิฉันนับถือตรงการหักมุมกลางเรื่องค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่บรรยายมาอย่างลื่นไหล ไม่สะดุด และเมื่อมีการหักมุมตรงนี้มันทำได้ดีมากอ่ะค่ะ คือทำให้เนื้อเรื่องน่าลุ้นน่าติดตามขึ้นอีกเยอะ เป็นกองเลยน่ะค่ะ ก็ขอจบการวิจารณ์เพียงเท่านี้นะคะ
**เดี๋ยวเราแอด fanclub แปป ^O^***
คะแนนเต็ม 92.5 ปัดให้ 93 /100
ระดับ AAAเลยค่า ทำได้ดีค่ะ เดี๋ยวให้เลดี้เน๊ตเขาเอานิยายตัวเองขึ้นห้องนิยาย AAA นะคะ
ขอบคุณที่ใช้บริการคาเฟ่คาร์เน๊ตนะคะ นี่เป็นเรื่องที่หกแล้วที่เรารับวิจารณ์ ยังไงก็ต้องขอโทษถ้าใช้คำพูดแรงเกินไป หรือทำให้ตัวเองหมั่นไส้เราจะตบเราอ่ะ ต้องขอโทษจริงๆนะ เราวิจารณ์อย่างเต็มที่แล้ว!! และหวังว่าจะลองเอาคำแนะนำนี้ไปลองใช้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
(ครึ่งแรก)เป็นพล๊อตเรื่องที่เกี่ยวกับแวมไพร์ แต่มันน่ารักตรงที่ พระเอกยังไม่เป็นแวมไพร์แต่กำลังจะเป็นแวมไพร์ คือมันน่ารักน่าหยิกอ่ะ >0< แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรักของpre-แวมไพร์กับผู้หญิงโดยเอาเวลามาเป็นเงื่อนไขว่า ถ้าเราจะจีบเขาเราต้องจีบเขาให้ได้ภายในเวลานี้ๆ เพราะเวลาเรากำลังจะหมด เรากำลังจะกลายเป็นแวมไพร์เต็มตัว อันนี้คหสตนะคะ ดิฉันว่ามันมีความfreshอยู่ตรงที่พระเอก แต่มันก็เป็นเนื้อเรื่องเหมือน Twilight ประมาณนั้นอ่ะ
(ครึ่งหลัง) เป็นเรื่องของนางเอกบ้างที่ต้องตามล่าหาหัวใจของทอม ทำให้พระเอกจำนางเอกได้ เพราะว่าพระเอกได้กลายเป็นแวมไพร์ไปเรียบร้อย แล้ว เป็นพล๊อตครึ่งหลังที่น่าติดตามเช่นเดียวกันคะ
บทย่อและบทนำ 5 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 4/5
มีบทย่อที่น่าสนใจ กล่าวคือมีเรื่องของสัตว์ร้ายเข้ามาเกี่ยวข้องแต่จะดูลึกลับๆว่า สัตว์ร้ายในตัวเขา มันคืออะไร อันนี้จะทำให้ผู้อ่านอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร ใครเป็นใคร แต่ว่าบทเรื่องดีๆนั้น ต้องมีความที่ ไม่บอกเรื่องราวนั้นจนหมด ดิฉันแนะนำว่า คำว่า “เรื่องราวของ”อันนี้เราลองเปลี่ยนดูดีไหม เพราะมันอ่านแล้วจะดูน่าเบื่อนะคะ อาจจะเริ่มต้นใช้ หนุ่มไฮสคูลเลยก็ได้ เพราะคำว่า เรื่องราวของ มันจะดู common ไง เราต้องแปลกใหม่นิสนึง แต่สิ่งที่ควรจะตัดออกคือประโยคสุดท้ายที่บอกว่า “เวลาของเขาเหลือน้อย” น่าจะตัดออกไปเพราะว่ามันดูเหมือนกล่าวซ้ำไปมา เราว่าถ้าตัดสองคำนี้ออกไปเราว่ามันจะทำให้บทย่อมีเสน่ห์ขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ
บทนำของเรื่องมีความที่อยู่นกรอบเยอะเกินไป คือเป็นการบรรยายถึงตัวอุปนิสัยของพระเอกว่า คนๆนี้เป็นคนยังไง แต่ที่ตัวเองขาดไปเลย นั่นก็คือการบรรยายลักษณะท่าทางของพระเอก ถึงแม้ว่าการบรรยายหน้าตาของพระเอกโดยที่ใช้พระเอกเป็นตัวดำเนินเรื่องมันชักจะดูยังไงๆชอบกลแบบ “อีนี่หลงตัวเองมาพรรณนาหน้าตาให้ฟัง” แต่คือ เราสามารถทำให้บทแรกดำเนินไปแบบไม่มีคนดำเนินเรื่องก็ได้ อาจจะมีบุรุษที่หนึ่งคือพระเอกบรรยายเป็นตอนต้น ตอนปลายเรื่องเราก็อาจจะเปลี่ยนได้ว่า “ชายหนุ่มที่ดูปกติคนนี้มีเรือนผมที่ซอยสั้นระถึงคอ”แล้วก็บรรยายต่อไปเลย!
อันนี้เสริมนะคะ** สมมุติว่าถ้าเราจะบรรยายตัวพระเอกไป ดิฉันว่าควรจะเล่าประวัติของเขาว่า เขาเรียนที่ไหน อายุเท่าไร อดีตเป็นยังไง เพราะอดีตอาจจะมีส่วนเกี่ยวกับปัจจุบันก็ได้ ดิฉันเชื่อว่าตัวเองทำได้ ^O^ (อันนี้คือให้อธิบายในบทนำเลย ไม่ต้องอธิบายในบทที่หนึ่งแล้วนะคะ)
เนื้อเรื่องโดยรวม 30 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รีให้ 29/30
เปิดเรื่องมาได้ดีค่ะ มีการแนะนำตัวอย่างเป็นเรื่องเป็นราวของพระเอกได้อย่างดี มีการแนะนำอดีตไปได้ดีมากค่ะว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร อีกอย่างหนึ่งนะคะ เรื่องนี้มีกลิ่นอายที่เป็นแบบฝรั่งน่ะค่ะ คือเป็นการใช้ศัพท์นอกทุกตอน และเป็นการดำเนินเรื่องที่ชิวๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบ ใช้คำถึงแม้จะไม่สลักสลวย ธรรมดาๆนะคะ แต่ก็ดิฉันว่าการใช้คำแบบนี้ดิฉันก็รู้สึกว่ามันอ่านได้ลื่นมากเลยนะคะ ก็ เป็นนิยายที่มีความเป็นตะวันตกด้วยวัฒนธรรม ลักษณะท่าทาง และอากัปกิริยาของพระนางนั้นจะดูเป็นฝรั่งมากๆเลยค่ะ
เอ้อ! อีกเรื่องหนึ่งก็คือตำนานของตระกูลต่างๆ มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดิฉันขอชื่นชมนะคะ เพราะว่าเป็นเรื่องเล่าที่น่าสนใจมาก อย่างเช่นการอธิบายตระกูล เปรียบเทียบกับดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ซึ่งมันเริ่ดอ่ะค่ะ คือคนที่แบบฝันไกล (เหมือนดิฉัน) ก็จะชอบเรื่องอย่างนี้มากๆเลยนะคะ
และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเสียงดนตรีด้วย ซึ่งดิฉันว่ามีการบรรยายน้อยมากเลยนะคะ ดิฉันว่าเอางี้ดีไหมคะ ก่อนที่จะบอกว่า “ผมเลือกที่ร้องเพลงนี้ๆ” น่าจะขึ้นด้วยเนื้อร้อง และความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ละเอียดกว่านี้นะคะ จะทำให้ผู้อ่านอินกันเยอะค่ะ
ดิฉันเดาว่าตัวเองน่าจะใช้บทบรรยายและบทดำเนินเรื่องให้มีประโยชน์เท่าๆกันนะคะ เพราะว่าการบรรยายจะมีเนื้อหาสูสีกับบทสนทนาเลย ก็ถือว่าทำได้ดี เพราะการที่มีบทสนทนานั้น ทำให้เนื้อเรื่องสามารถมีคนเข้าใจขึ้นเยอะ แต่ระวังหน่อยนะคะ เพราะการที่มีบทสนทนาเยอะเกินไป จะทำให้นิยายเคลียร์ และน่าเบื่อเกินไป อาจจะมีการเพิ่มบทบรรยายต่างๆลงไปนี่จะดีมากเลยนะคะ
ดิฉันขอเสนอจุดบกพร่องเล็กๆน้อยนะคะ คือเรื่องบทสนทนาที่เยอะไปนิดนึง และเวลาตัวเองพิมพ์บทสนทนาน่ะค่ะ สมมุติว่าเอมิลี่พูดว่า “ฉันชอบนาย” แล้วเว้นห้วงคำ ดิฉันว่าไม่ควรจะเคาะบรรทัดแล้วเขียนคำพูดของเอมิลี่คำต่อไปนะคะ เพราะดิฉันและผู้อ่านจะสับสนน่ะค่ะว่า อันนี้เป็นคำพูดของใคร บางทีอาจจะแก้ไขได้โดยการที่เราเขียนอยู่ในบรรทัดเดียวกัน แต่อาจจะเว้น spacebar น่ะค่ะ หรือไม่ก็ เคาะบรรทัดได้ค่ะ แต่ต้องมีการโต้ตอบของคู่สนทนา ถ้าคู่สนทนาเงียบก็น่าจะใส่ “...” ลงไปนะคะ
ส่วนเรื่องการบรรยายดิฉันว่าน่าจะมีการเพิ่มอีกสักนิดนึงนะคะ (มันจบแล้วจะเพิ่มไงล่ะ) ก็ ถ้าว่างๆก็มาแก้ไขได้เน้อ พวกลักษณะท่าทาง หรืออารมณ์ของตัวละคร ดิฉันว่าควรจะอธิบายและบรรยายอย่างลึกซึ้งนะคะ โดยเฉพาะอารมณ์ ตัวละครน่าจะมีอารมณ์และแสดงท่าทางออกไปมากกว่า อย่างเช่นเวลาทอมโกรธ หรือ ใจเต้น น่าจะมีการอธิบายท่าทาง อย่างเช่น “กัดฟันกรอด นัยน์ตาเบิกโพล่ง พละกำลังแข็งแรง หายใจเร็วและแรงผิดปกติ” อะไรเช่นนี้นะคะ
ฉากแต่ละฉากเป็นไปอย่างพลิ้วมากนะคะ ไม่ลื่นไหลและไม่ค่อยมีการข้ามฉากสักเทาไหร่ และมีการบ่งบอกเวลา เช่น 18.00 น เมื่อเปลี่ยนฉากเป็นอีกฉาก แต่ดิฉันแนะนำว่าควรจะใช้แค่เวลาบอกนะคะ ไม่ควรใช้แบบ “ยี่สิบนาทีต่อมา” เพราะมันจะดู มึนๆน่ะค่ะ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกติดๆขัดๆเหมือนกันนะคะ อันนี้ก็ลองเอาไปปรับแก้ด้วย
แต่ที่นักเขียนทำได้ดีเอามากๆเลยนั่นก็คือ ฉากต่อสู้ค่ะ เพราะว่านักเขียนบางคนจะมีแบบว่า ปัญหากับการบรรยายท่าทางและแอ๊คชั่นของตัวละครแต่ละตัว แต่ตัวเองไม่มีเลยค่ะ ดำเนินเรื่องตอนต่อสู้ได้อย่างน่าตื่นเต้น และบรรยายภาพจนดิฉันเหมือนถูกดูดเข้าไปในโลกของตัวละครแล้วน่ะค่ะ ดิฉันกดไลค์ค่ะ ซึ่งบางทีฉากแอ๊คชั่นนี้ แม้จะไม่ใช้อารมณ์ของผู้อ่าน จะเน้นไปทางการใช้พละกำลังข้างนอกใจมากกว่า แต่เรื่องใจและอารมณ์ในบางฉากต่อสู้ก็สำคัญนะคะ อย่างเช่นตอนเอมิลี่จะโดนเคลวินลากไปฆ่า(เลวบัดซบซะ อยากตบบ้องหูจริงๆเควินนี่) ทอมอาจจะอธิบายความโกรธของตัวเองมากขึ้นกว่านี้ จะทำให้ฉากนี้ดีขึ้นนะคะ แต่โดยรวมถือว่าดีอยู่แล้วค่ะ
การพลิกปม และพลิกเรื่องราว หรือการคลายปมทำได้ดีนะคะ คือค่อยๆคลายไปทีละปมๆ ทำให้ผุ้อ่านไม่งง ไม่สับสนน่ะค่ะ ส่วนเรื่องการหักมุมนี่ดิฉันชอบมากๆเลยค่ะ เพราะจากการที่พระเอกต้องตื๊อนางเอก คราวนี้นางเอกต้องมาตื๊อพระเอก แล้วเป็นการหักมุมที่ดีและสร้างสรรค์มากๆนะคะ และผูกเรื่องได้อย่างดีมากๆเลยค่ะ ขอชื่นชมนะคะ เพราะยิ่งอ่านเนื้อเรื่องก็ยิ่งลุ้น ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆค่ะ อย่างเช่นเพิ่งรู้ว่านังแม่มดไวโอเล็ดไม่ได้เป็นแม่ตัวจริงดิฉันก็ตกใจค่ะ แล้วก็ลุ้นต่อ แทบคลิ๊กตอนต่อไปไม่ทันเลยล่ะค่ะ ซึ่งตอนๆนี้ดิฉันว่าตัวเองอธิบายฉากต่อสู้ระหว่าง แม่-ลูก ได้ดีค่ะ กริยาท่าทางของตัวละครสามารถทำให้ดิฉันนึกภาพได้
และเรื่องก็ดำเนินมาถึงตอนจบ ตอนจบของตัวเองดิฉันว่ามันรวบรัดไปหน่อย แต่เป็นตอนจบที่ดีมากเลยล่ะค่ะ เพราะในเนื้อเรื่องก่อนจบจะหักมุมจนหน้าดิฉันแทบหัก คือเป็นการพลิกผันของเรื่องที่ดีมาก เข้มข้นและน่าลุ้น คำพูดตอนจบประโยคสุดท้ายนั้นอาจจุดูเหมือน เนื้อเรื่อมันยังไม่ค่อยจบน่ะค่ะ อาจจะเพิ่มฉากไปอีกนิดก็ดีนะคะ
แต่ตอนจบเนื้อเรื่องและพล๊อตมีการจบลงที่ดีมาก เป็นการจบเรื่องที่ตรงตามประเด็นเลยว่า “การรอคคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว” ซึ่งมันสอดคล้องกับนิยายค่ะ ดิฉันไม่อยากให้จบเลย เพราะเนื้อเรื่องมันดีมาก
ตัวละครและฉาก 20 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 18/20
เริ่มกันที่โดยรวมนะคะ ถือว่าทำได้ดีเลยล่ะค่ะเรื่องตัวละคร เพราะดิฉันชื่นชอบมากในการเล่าเรื่องอดีตของตัวละครแต่ละตัวน่ะค่ะ เพราะมันจะมีการเกี่ยวโยงกับนิสัยของตัวละครแต่ละตัวด้วย ถือว่าทำได้โอเคเลยทีเดียวค่ะ (ตัวเอง! ตอนนี้ดูเขากินซูชิอ่ะ อยากกินบ้าง! เอ้า แล้วจะมาบอกทำไม อ้ะต่อๆ) ตอนเริ่มเรื่องแรกๆนะคะดิฉันว่าตัวเองยังบรรยายถึงท่าทางและกริยาของพระนางได้ไม่ค่อยละเอียด ทำให้ผู้อ่านไม่ค่อยนึกภาพออก แต่เมื่ออ่านไปจนถึงตอนมากๆขึ้นๆเรื่อยๆดิฉันว่าฝีมือการเขียนของตัวเองจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะคะ มันจะมีการบรรยายอย่างละเอียด และปราณีต ดิฉันเลยสรุปเลยว่า ฝีมือของผู้แต่งจะเพิ่มไปตามจำนวนบทที่ตัวเองแต่งนะคะเนี่ย
คราวนี้ดิฉันเริ่มพูดถึงตัวละครเอกแต่ละตัวเลยนะคะ (ขอแค่สองตัวละกันนะคะ) เริ่มด้วยนางเอก เอมิลี่ กลิ่นประทุมค่ะ (เอ้ย! เอมี่ กลิ่นประทุมนี่) เอมี่ลี่อย่างเดียวก็พอนะคะเนาะ ก็เอมิลี่นี่ถ้าดูเผินๆนะคะภายนอกจะเป็นคนเข้าถึงยากเหมือนกันนะคะ เพราะดูจากท่าทางที่เงียบขรึม พร้อมท่าทางที่จะมีพร้อมหนังสือเล่มโปรด เป็นคนรักครอบครัว จึงตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียนเพื่อแม่โดยเฉพาะ เข็ดขยาดกับผู้ชายจากพ่อของตัวเอง แต่เมื่อเจอพระเอกก็อ่อนใจ ใจอ่อน ก็เป็นคาแร๊กเตอร์ของนางเอกที่สามัญเหมือนกันนะคะ แต่จะไม่มีบ่อยในนิยายทั่วๆไป ดูทั่วไปคาแร๊กเตอร์จะคล้ายๆกับ bella swans ในเรื่อง Twilight เหมือนกันนะคะ แต่พอดูเข้าไปในใจของเอมิลี่ดิฉันว่าเอมิลี่เป็นคนที่อ่อนโยน สดใสร่าเริงนะคะ แต่ติดอยู่แค่เครียดกับชีวิตก็แค่นั้นแหละค่ะ เอมิลี่ที่จริงถ้าไม่ติดเรื่องครอบครัวเรื่องเดียวเท่านั้นแหละค่ะ เอมิลี่ก็จะเป็นคนที่เหมือนผู้หญิงทั่วๆไปอ่ะค่ะ แต่คือนางเอกของเรื่องมีปมด้อยตรงเรื่องครอบครัวนะคะ
ต่อเลยค่ะ ทอม! ทอมอันนี้ขอวิจารณ์สองแบบละกัน เพราะครึ่งแรกจะกุ๊กกิ๊ก ครึ่งหลังจะเลว (=_=) เอาครึ่งแรกก่อนนะกันนะคะ ครึ่งแรกของทอม (ดูแปลกๆ) ก็จะเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอารมณ์ที่อ้อมค้อม คืออยากทำอะไร ให้เขาทำอย่างนี้เขาจะไม่ทำ แต่เขาจะไปเลือกทำในสิ่งที่เขาชอบ หรือสิ่งที่คนรักของเขาชอบ เป็นคนที่เทิดทูนบูชาในความรักอย่างแรงเลย เพราะว่าเป็นห่วงคนรักอย่างสุดหัวใจ (เราจะเจอไหมเนี่ย) และขอให้บอก ผมจะทำให้คุณได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเข้าไปในป่าหาเพชรมาให้ หรือว่าไปทะเลทรายจับหมีขั้วโลกมา ผมก็จะยอม ซึ่งก็เป็นพระเอกขี้เล่นนะคะ เก็บความลับไม่ค่อยเก่ง น่ารักอ่ะค่ะ
ครึ่งหลังของทอมเลยค่ะ ตอนนี้ขอนั่งไทม์แมชชีนไปอนาคต ถ้าไปผับดังๆก็จะเจอชายหน้ามนคนชื่อทอมคนนี้แหละนั่งอยู่กับสาวๆ แต่แปลกที่อะไรรู้ไหม มันแปลกที่เขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากความอบอุ่น เขากลายเป็นคนเย็นชา เจ้าเล่ห์ และใจโหดเหี้ยม พูดง่ายๆคือ จากหน้ามือเป็นหลังป๊อปทีนส์ อะไรงี้ คือทอมจะกลายเป็นคนที่เลวมากหลังจากโดนวิวัฒน์แล้ว จะเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น (อันนี้ดิฉันไม่เข้าใจนะคะว่า ทำไมเวลาแวมไพร์ดูดเลือดเขาต้องดูดเลือดผู้หญิงด้วย อันนี้งงมากอ่า) และก็เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด ใจโหดเหี้ยมด้วย จากที่ทำกับนางเอกเป็นนางฟ้า ตอนนี้กลายเป็นเหมือนคุณชาร์ลส์ที่ทำกับฟ้าลดาเลยอ่า
ก็ต้องขอชมเชยถึงการเปลี่ยนนิสัยหรือเปลี่ยนฉากของนิสัยทอมนะคะ เพราะทำได้ดีมากๆเลยล่ะค่ะ
ฉากแต่ละฉากดิฉันว่าทำได้ดีนะคะ ไม่ข้ามฉากมากเท่าไหร่ แต่จะติดตรงที่บอกการเปลี่ยนฉากนั่นล่ะค่ะ มันดูฉุกละหุกเกินไปนิดนึงนะคะ ส่วนการบรรยายฉากดิฉันว่าบทสนทนานั้นเยอะไปนะคะ และดิฉันขอชมเชยเรื่องการดำเนินและบรรยายฉากต่อสู้ แอคชั่นนะคะ เพราะทำได้ดีค่ะ เห็นภาพเลย (อ๊ายยย! เคลวินแกอย่าทำอารายช้าลลล เด๋วช้าลตบตายเลย)
การบรรยายและการดำเนินเรื่อง 20 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 18/20
บรรยายเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นได้ดีค่ะ เพราะตอนเปิดเรื่องน่ะค่ะ มีการแนะนำตัวละครในแต่ละมุมมองด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่ดิฉันเสริมไปว่าการแนะนำนั้นควรจะแนะนำให้เสร็จใน INTRO เลยดีกว่าค่ะ
การบรรยายฉากแต่ละฉากทำได้ดีค่ะ (ชื่นชมมากกับฉากแอ๊คชั่น (อีปอนนี่ยังไม่จบ))เพราะทำให้ผู้อ่านเข้าใจ ด้วยศัพท์ที่ไม่ยาก กะทัดรัด และได้ใจความดีอย่างเรียบง่ายน่ะค่ะ ซึ่งเป็นข้อดีในนิยายของตัวเองเลยทีเดียวนะคะ
การบรรยายลักษณะท่าทางของพระเอกนางเอก อย่างที่บอกตอนแรกดิฉันว่ามันแผ่วไปนิด ไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์เท่าไหร่ แต่พอแบบเนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นก็จะมีการบรรยายที่เป็นสัดเป็นส่วน มีการเข้าถึงอารมณ์ในแต่ละฉากอีกได้ดีขึ้น แสดงให้เห็นการพัฒนาของนักเขียนได้ดีมากเลยล่ะค่ะ แต่ดิฉันว่าการบรรยายหน้าตาของตัวละครนั้นจะดูน้อยไปนิด เพราะว่าดิฉันถ้าดิฉันเป็นผู้อ่านก็อยากทราบถึงหน้าตาของตัวละครทั้งหน้านะคะ การที่ตัวเองบรรยายแค่ “เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาล กับนัยน์ตาสีน้ำตาล” อันนี้เราจะมองไม่เห็นภาพอ่ะค่ะ ถ้าจะเสริมดิฉันว่าน่าจะเพิ่มการบรรยายไปว่า “เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่ยาวสลวยระถึงกลางหลัง นัยน์ตากลมโตแต่แฝงความคมสีน้ำตาลไว้” หรือถ้าจะบรรยายทั้งหน้า ดิฉันคิดว่าเสริมไปตอนเดียวเลย เป็นตอนที่พระนางเจอกันครั้งแรก ดิฉันว่าน่าจะบรรยายหน้าตาของตัวเอกให้ดีนะคะ
เรื่องการดำเนินเรื่องในมุมมองของพระเอกจะเป็นรักใสๆที่เกี่ยวกับชีวิตสมัยเรียน และการที่พระนางได้มาอยู่ใกล้กัน รักกัน กุ๊กกิ๊กหยิกหมอนหยิกหัวกัน (อันหลังน่าจะไม่ใช่นา) ซึ่งเป็นการดำเนินเรื่องที่เป็น 50% บรรยาย 50% สนทนา ซึ่งดิฉันว่าดีนะคะ เพราะมีเปอร์เซ็นต์ของการบรรยายและบทสนทนาของตัวเองเท่ากันค่ะ แต่มีบางฉาก ที่ส่วนใหญ่จะดำเนิน story ด้วยคำพูด ซึ่งมันก็เคลียร์อ่ะนะคะ แต่ดิฉันว่าถ้าเยอะเกินไปมันก็จะไม่ดีน่ะค่ะ มันจะเคลียร์เกินไป เราควรเป็นมัชชิมมาน่ะค่ะ ดำรงตนในทางสายกลางงงง
จนเมื่อดำเนินมาถึงจุดๆหนึ่งจึงเกิดการหักมุมเข้าโดนดั้งเค้กสตรอวเบอร์รี่อย่างจัง 555+ คือเป็นการหักมุมและเปลี่ยนมุมมองจากพระเอกเป็นนางเอกได้ดีมากค่ะ เพราะไม่สับสน มีการทิ้งท้ายสำหรับนางเอกว่าควรจะทำยังไง หรือนางเอกจะทำยังไงในมุมมองของนางเอก ก็ต้องนับถือในความคิดสร้างสรรค์ของผู้แต่งนะคะ
พอหักมุมเสร็จพระเอกก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดรถในคฤหาสน์ของเขา พร้อมพานางเอกที่สภาพ เอิม เข้ามา คราวนี้ละก็เลยเป็นเรื่องของนางเอกที่ต้องฝ่าฟันทำให้พระเอกจำได้ว่าเคยกุ๊กกิ๊กกับนางเอก เลยทำให้เกิดการผูกเรื่องจากหลังไปท้ายอย่างดีมากทีเดียวเลย การดำเนินเรื่องในครึ่งหลังนี้เป็นการดำเนินเรื่องที่เพิ่มตัวละครเข้าไป และเป็นการดำเนินเรื่องที่น่าลุ้น น่าตื่นเต้น และทำให้ผู้อ่านติดตามนิยาย เพราะไม่ใช่การดำเนินเรื่องแบบครึ่งแรก มันจะดูตึงเครียดมากขึ้นแต่เข้มข้นมากขึ้นนะคะ
ดำเนินเรื่องในครึ่งหลังจะเป็นการดำเนินแบบเดาเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้ เพราะแบบมันเป็นเหมือนการดำเนินเรื่องแบบเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยอ่ะค่ะ มีโลก มีแอนโดรเวีย (ใช่ชื่อนี้เปล่าวะ) ซึ่งฉากแต่ละฉากน่ะค่ะ มันจะแบบนึกไม่ค่อยถึงว่ามันจะดำเนินไปเป็นแบบนี้
อย่างที่บอกค่ะ ตอนจบทำได้ดีนะคะ แต่รวบรัดไปนิดนึง อาจจะเพิ่มตอนลงไปอีกตอนนึงก็ได้นะคะ คือดิฉันว่าตอนก่อนจบมันยาวไปนิด น่าจะแบ่งตอนแล้วทำเป็นสองตอน แล้วรวมตอนจบไปอีกก็จะมี 42 ตอนน่ะค่ะ
คำผิดและจุดบกพร่อง 5 คะแนน เค้กสตรอวเบอร์รี่ให้ 4.5/5
อ่านมาเยอะมากนะคะแต่ว่าหาคำผิดได้ไม่ค่อยจะเจอ แต่คราวนี้มาดูข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆนะคะ
- การบรรยายทุกอย่างของตัวละคร ดิฉันว่าน่าจะนำนำทุกอย่างใน intro นะคะ จะทำให้อ่านไปไม่ติดขัดค่ะ
- อย่างที่ดิฉันบอกนะคะ การบรรยายหน้าตาของตัวละครเอกต่างๆไม่ค่อยละเอียดน่ะค่ะ
- อย่างที่ดิฉันบอกอีกรอบนะคะ บทพูดมีเยอะเกินไป และการเว้นวรรคบทพูดดูห้วนๆ อ่านแล้วงงว่าใครเป็นคนพูดอยู่นิดๆนะคะ
ความสนุกน่าติดตาม และการสร้างสรรค์ 10 คะแนน เค้กตรอวเบอร์รี่ให้ 10/10
นิยายเรื่องนี้จบแล้วอ่า แล้วจะให้ติดตามยังไง แหมมม! ดิฉันว่ามาอ่านแล้วมาเม๊นท์กันเยอะๆก็จะดีนะคะผู้อ่านทั้งหลาย เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนคนน่ารักนี้ เอ้า! เข้าเรื่อง
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่เข้มข้นขึ้นมากแต่ละตอนๆ เพราะมีเนื้อเรื่องถึงแม้จะเป็นเกี่ยวกับแวมไพร์ที่มีอยู่เกลื่อนเด็กดีก็จริง แต่ดำเนินเรื่องด้วยกลิ่นอายตะวันตกเล็กๆ พร้อมภาษาและการแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผู้อ่านติดอยากจะฝังเขี้ยวนิยายเหมือนกันนะคะ ก็ขอฝากผู้อ่านให้ติดตามนิยายเรื่องนี้และเรื่องต่อๆไปของผู้เขียนคนนี้ด้วย ดิฉันว่าไม่ผิดหวังค่ะ
ความคิดสร้างสรรค์ของผู้แต่งดิฉันนับถือตรงการหักมุมกลางเรื่องค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่บรรยายมาอย่างลื่นไหล ไม่สะดุด และเมื่อมีการหักมุมตรงนี้มันทำได้ดีมากอ่ะค่ะ คือทำให้เนื้อเรื่องน่าลุ้นน่าติดตามขึ้นอีกเยอะ เป็นกองเลยน่ะค่ะ ก็ขอจบการวิจารณ์เพียงเท่านี้นะคะ
**เดี๋ยวเราแอด fanclub แปป ^O^***
คะแนนเต็ม 92.5 ปัดให้ 93 /100
ระดับ AAAเลยค่า ทำได้ดีค่ะ เดี๋ยวให้เลดี้เน๊ตเขาเอานิยายตัวเองขึ้นห้องนิยาย AAA นะคะ
ขอบคุณที่ใช้บริการคาเฟ่คาร์เน๊ตนะคะ นี่เป็นเรื่องที่หกแล้วที่เรารับวิจารณ์ ยังไงก็ต้องขอโทษถ้าใช้คำพูดแรงเกินไป หรือทำให้ตัวเองหมั่นไส้เราจะตบเราอ่ะ ต้องขอโทษจริงๆนะ เราวิจารณ์อย่างเต็มที่แล้ว!! และหวังว่าจะลองเอาคำแนะนำนี้ไปลองใช้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
Shalunla
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น