ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] OS l SF : Once Upon A Time ★

    ลำดับตอนที่ #1 : [OS] Innocent Yugyeom

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.08K
      15
      1 ก.พ. 64

    [OS] Innocent Yugyeom

    Author : Chuchompoo       

    Pairing : Yugyeom x Mark
    Rate : PG

     

     

    ยูคยอมดูเป็นคนที่ถ้าชอบใครแล้วคงชอบไปเรื่อยๆ

    ออมม่าของวงเคยกล่าวไว้ตอนไปออกรายการหรือสัมภาษณ์ที่ไหนซักแห่ง

     

     

                ที่พูดแบบนั้นคงเพราะดูออกแล้วแน่ๆ...

                ดูออกแล้วว่าคิมยูคยอมชอบใครบางคนในวง

     

                แต่คนๆ นั้นดันไม่รู้ตัวนี่สิ....

     

                มาร์ค ต้วนคือชื่อของคนๆ นั้นที่ยูคยอมพูดถึง  ผู้ชายที่ส่วนสูงตามมาตรฐาน อายุมากที่สุดในวง หน้าหวาน ผิวขาว ปากแดง... ทุกอย่างที่พูดทั้งหมดต่างรวมกันเป็นคนที่ยูคยอมชอบ

               

                หลายปีที่แล้ว...

                คิมยูคยอมในวัยสิบสี่ปีสากลโดนเพื่อนรักอย่างแบมแบมทิ้งให้นั่งเฝ้าห้องซ้อมอยู่คนเดียวเพราะเจ้าตัวแสบดันหนีออกไปซื้อขนมแบบไม่บอกกล่าว พอคิดจะตามไปก็กลัวว่าจะคลาดกันเขาเลยเลือกที่จะนั่งรออยู่ที่นี่ดีกว่า ยังไงซะอีกไม่นานก็ใกล้ถึงเวลาซ้อมแล้ว

                แอ๊ด..

                เสียงเปิดประตูทำให้เด็กหนุ่มหมาดๆ เงยหน้าขึ้นหลังจากเหม่อมองพื้นห้องซ้อมฆ่าเวลาอยู่นาน  เขาคิดว่าจะได้เห็นเจ้าเพื่อนตัวดีหรือรุ่นพี่ซักคนที่ต้องซ้อมด้วยกันเดินเข้ามา..

                แต่ไม่ใช่....

                ตรงหน้าเขาคือใครซักคนที่ไม่คุ้นหน้า  ผมสีดำตัดสั้นแบบสมัยนิยม ผิวออกจะคล้ำหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ดำอะไร  จมูกโด่ง ตาสวย ตัวบาง และที่สำคัญ....

                “Excuse me, here is practice room, right?

                ยูคยอมขออนุญาตร้องไห้หนักมาก....

                คิดว่าเด็กอายุสิบสี่ (ถึงจะตัวยักษ์ไปหน่อย) ที่เก่งภาษาอังกฤษเข้าขั้นกินเอฟตลอดภาคการศึกษาอย่างคิมยูคยอมจะแปลได้มั้ยครับ 

    ..คำตอบคือไม่ไงล่ะ!

                “อ่า...”

                และเพราะฟังไม่รู้เรื่องนั่นแหละ เขาถึงทำได้แค่ทำหน้าเอ๋อๆ แบบไม่รู้จะตอบยังไง  คนมาใหม่เห็นท่าทีแบบนั้นก็ยิ่งทำหน้ายุ่งเข้าไปใหญ่

                “ห้องซ้อม.. ใช่ไหม?”

                ปล่อยให้เงียบกันอยู่นาน สุดท้ายแล้วก็เป็นฝ่ายของผู้ชายหน้าตาดีที่พยายามสื่อสารใหม่อีกครั้งด้วยภาษาเกาหลีแบบงูๆ ปลาๆ ยังไม่เป็นรูปประโยคดีด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ทำให้เด็กยักษ์เข้าใจมากขึ้นเยอะ

                “ใช่ครับ ที่นี่แหละ”

                 ว่าแล้วก็ตบที่นั่งข้างๆ แปะๆ แบบที่คิดว่าถ้าพูดต่อด้วยภาษาเกาหลีแล้วคนตรงหน้าคงไม่เข้าใจแน่ๆ ว่าเขาจะสื่ออะไร  ซึ่งการกระทำแบบนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จเมื่อผู้มาใหม่ได้ก้าวยาวๆ มานั่งอยู่ข้างเขาแล้วตอนนี้

                แล้วไงต่อล่ะ....

                เดทแอร์ขนาดนี้ถ้าเป็นรายการอะไรซักอย่างนี่เจ๊งไปแล้วนะ

                “เอ่อ.. ชื่ออะไรเหรอครับ?”

                “มาร์ค... มาร์คต้วน”

                ละก็เงียบ......

                ตอนแรกก็ไม่ได้อะไรนะ  แต่ตอนนี้ยูคยอมเริ่มสงสัยแล้วแหละว่าไอ้คนข้างๆ เขาเนี่ยมันเงียบแบบนี้อยู่แล้วหรือไม่อยากคุยกับเขากันแน่  ตามหลักแล้วถ้าถามไปแบบนั้นมันต้องถูกถามชื่อกลับไม่ใช่รึไงกัน? หรือเขาควรแนะนำตัวทั้งๆ ที่ไม่ถูกถามไปเลยดี.. หรือว่า....

                “นาย... ชื่ออะไร?”

                หรือว่าบางที.... มาร์คอาจจะกำลังคิดภาษาเกาหลีอยู่ก็เป็นได้

                “ยูคยอมครับ คิมยูคยอม ปีนี้อายุสิบสี่ปีแบบสากล”

                “อืม ปีนี้ฉันอายุสิบแปดแล้ว”

                “งั้น.. ผมเรียกมาร์คฮยองนะ?”

                ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก... แต่มีการพยักหน้าแบบที่เข้าใจได้ว่ามาร์คโอเค

                นั่นเป็นบทสนธนาสั้นๆ ตอนที่เจอกันครั้งแรกระหว่างเขาและมาร์ค เพราะหลังจากนั้นทั้งห้องซ้อมก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งจนแบมแบมกับพวกพี่ๆ ที่เหลือกลับมาพร้อมขนมถุงโต

     

                ความเงียบของมาร์คเคยเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจสำหรับคิมยูคยอม

                แต่ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกัน.... ที่ความเงียบแบบนั้นกลายเป็นสิ่งที่คิมยูคยอมชอบ

     

                ในเวลานี้มาร์คฮยองของทุกคนพูดเก่งขึ้นมากแล้ว ขาวขึ้นอีกต่างหาก  ไหนจะไอ้การเล่นหูเล่นตาแบบใช้ใบหน้าดีๆ ของตัวเองให้เป็นประโยชน์นั่นอีก...

                ทุกอย่างของมาร์ค ต้วน คือสิ่งที่ยูคยอมละสายตาไม่ได้  ยิ่งเวลาที่เจ้าตัวเข้ามาเล่นใกล้ๆ หรือเวลาที่ร่างเล็กๆ นั่น (ถ้าเทียบกับเขา) เดินเข้ามาโถมตัวกอดเหมือนเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวยักษ์  ยิ่งทำเอาใจเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นหลุดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด 

    เขาคิดว่าอาการของเขามันชัดเจนเกินไปแล้ว...

                อย่างน้อยๆ มันก็ชัดเจนพอที่จะสรุปได้ว่า...คิมยูคยอมหลงรักมาร์คต้วนเข้าเต็มเปา

                แต่มันก็ไม่เคยชัดเจนพอที่จะทำให้มาร์ครู้ตัว...

     

                ถามว่าเจ็บไหม....

                ตอบแบบลูกผู้ชายเลยว่าไม่  อย่างที่จูเนียร์เคยพูดไว้ว่าเขาคงเป็นคนที่ชอบใครไปแล้วคงชอบไปเรื่อยๆ ออมม่าของวงดูออกและคิดถูกทั้งหมด

                เขาไม่เคยคิดที่จะครอบครอง ไม่เคยคิดว่าสายตาของมาร์คจะต้องมองมาที่เขาคนเดียว อาจจะมีหลุดออกอาการหวงไปบ้าง แต่ตราบใดที่มาร์คยังไม่รู้ตัวและไม่อึดอัดกับมันเขาก็โอเค

                โอเคมากๆ ที่จะแอบมองพี่คนโตอยู่เรื่อยๆ ต่อไปแบบนี้ 

     

    ...นี่แหละความรักของคิมยูคยอม....

     

     

                “ขอบคุณที่ทำงานหนักกันนะครับบบ”

                เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นหลังจากลีดเดอร์ของวงขอบคุณอย่างเป็นทางการ  งานเลี้ยงสังสรรค์ถูกจัดขึ้นหลังจากจบทัวร์โชว์เคสทางแถบจีน  ห้องซ้อมขนาดใหญ่ของตึกเจวายพีกลายเป็นห้องจัดเลี้ยงย่อมๆ ที่เต็มไปด้วยผู้อยู่เบื้องหลังมากมายรวมถึงสมาชิกกัซเซเว่นครบทีม

                “ดื่มๆ เฮฮฮฮ~

                คนที่โดนห้ามไม่ให้แตะแอลกอฮอลเพราะอายุไม่ถึงอย่างยูคยอม แบมแบม และยองแจได้แต่นั่งมองพี่ๆ สติหลุดไปทีละคน  แจ็คสันกับเจบีที่ขึ้นไปเต้นอยู่บนโต๊ะทำเอางานครึกครื้นไปอีกเท่าตัว กวาดสายตาไปทางมุมห้องก็จะเห็นออมม่าของวงนั่งไขว่ห้างจิบเครื่องดื่มมึนเมาอย่างผู้ดี....

                เห็นอย่างนั้นก็เถอะ  จริงๆ อาจจะเมาแล้วก็ได้

                น้องเล็กของหัวเราะออกมาอีกครั้งเมื่อท่าเต้นของสองหนุ่มเซ็กซี่ประจำวงมันจะเริ่มเสื่อมขึ้นไปทุกที แต่ทุกอย่างก็เหมือนจะถูกหยุดไว้เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสหนักๆ ที่ไหล่

                กลิ่นน้ำหอมบางๆ ที่คุ้นเคย...

                “มาร์คฮยอง”

                “ดื่มมั้ย? ....เอ้อ ดื่มไม่ได้นี่นะ”

                คนเป็นพี่ใหญ่ลงมานั่งกอดคอน้องเล็กของวง ยื่นหน้าใกล้จนยูคยอมได้กลิ่นแอลกอฮอลอ่อนๆ และใกล้จนเขาเห็นตัวตาปรือปรอยแบบคนเริ่มเมารวมถึงรอยยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวเล็กๆ นั่นในระยะประชิด

                ตาย... ตายแน่ๆ

                แล้วไอ้แบมแบมกับยองแจฮยองหายไปไหนวะเนี่ย!?

                “เอ่อ... มาร์คฮยองพอก่อนมั้ย ฮยองกินไปกี่แก้วแล้วเนี่ย”

                “คิก...”

                นี่ถามแบบต้องการคำตอบนะครับไม่ใช่ต้องการเสียงหัวเราะ....

                แต่แม่ง...โคตรน่ารักเลยว่ะให้ตายเถอะ

                “มาร์คฮยอง...”

                “ยังไม่เมาหรอกน่า  นี่ก็พักอยู่เดี๋ยวค่อยไปกินต่อ”

                หัวเล็กซบลงกับไหล่หนาตามความเคยชิน มือที่ตอนแรกกอดคออยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นกอดแขนยูคยอมหนึบ จนเจ้าตัวได้แต่อมยิ้มมองพี่ใหญ่ที่หลับตาซบเขาแบบสบายใจ บางทีก็แอบลอบมองปากสีชมพูอ่อนๆ ขยับฮึมฮัมตามเพลงที่ถูกเปิดเอาไว้

               

    รสชาติมันจะเป็นยังไงนะ..?

     

                พิ้งค์บอยสะบัดหัวแรงๆ หลังรู้ตัวว่าพึ่งคิดอะไรออกไป  ฉวยโอกาสกับคนเมามันใช่ทางเขาซะที่ไหนเล่า... ถึงจะเคยพลาดปากแตะกันมาก่อนแต่นั่นก็แค่พลาดนี่นา..

                “ยูคยอมอ่า..”

                “ครับ?”

                “กลับหอกันเถอะ ง่วงแล้ว”

                แล้วจะขัดอะไรได้เล่า.... ยินดีทำตามบรรชาเลยครับฮยอง

     

     

                “ฟู่ว.....”

                ยูคยอมผ่อนลมหายใจยาวเมื่อวางพี่ใหญ่ของวงลงบนเตียงได้สำเร็จ  เพราะคิดว่าคืนนี้คงไม่มีใครกลับหอมาอีกเขาเลยเลือกที่จะพาคนในอ้อมแขนมานอนบนเตียงสบายๆ แทนที่จะนอนฟูกในห้องของเจ้าตัว

                อ่านไม่ผิดหรอก.. คนในอ้อมแขนนั่นแหละถูกแล้ว

                พอออกจากห้องที่จัดเลี้ยงมาได้ไม่เท่าไหร่คนตัวเล็กก็เหมือนเรี่ยวแรงและสติจะหายไปซะเฉยๆ  พอจับให้เดินดีๆ ก็เดินเซซะจนเขาไม่รู้จะทำยังไงนอกจากช้อนตัวคนเมามาแบกขึ้นบ่ากลับหอแทน

                น้องเล็กตัวยักษ์ยืนมองพี่ใหญ่ที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงของตัวเองพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจก้มลงถอดถุงเท้าให้ และเป้าหมายต่อไปคือเสื้อโค้ดตัวหนา  แต่ยังไม่ทันถอดเสร็จดีดวงตาที่ปิดสนิทกลับปรือขึ้นสบกับเขาทำเอามือที่กำลังดึงเสื้อออกชะงักไปโดยอัตโนมัติ

                “เอ่อ... มาร์คฮยองถอดเสื้อก่อนนะ”

                ถึงจะพูดแบบนั้นไปแต่ดวงตาสีน้ำตาลปรือปรอยก็ยังไม่ละไปไหน ไม่มีการตอบรับใดๆ จากหมายเลขที่ท่านเรียก  เห็นทีตอนนี้จะมีแต่เสียงหัวใจที่เต้นเบรกแด๊นซ์อยู่นี่แหละที่ดังจนยูคยอมกลัวมาร์คจะได้ยิน

                ก่อนที่จะมีข่าวพาดหัวว่าน้องเล็กของวงหน้าใหม่แห่งเจวายพีหัวใจวายคาหอพัก ยูคยอมตัดสินใจหลบสายตาที่จ้องมาแล้วพยายามทำความตั้งใจในตอนแรกให้เสร็จสิ้น ยังดีที่มาร์คเองก็ไม่ได้ขัดขืนหรืองอแงอะไรทำให้เสื้อโค้ดตัวหนาถูกถอดออกอย่างง่ายดาย

                “เดี๋ยวผมไปหาน้ำมาให้ดื่มแล้วกัน..”

                พูดพลางหันตัวกลับเตรียมจะเดินออกไปข้างนอก หากแต่มีมือของคนที่คุณก็รู้ว่าใครมาจับไว้แล้วดึงลงไปนอนบนเตียงด้วยกันซะก่อน  ยังดีที่เขายังมีสติพอจะขืนตัวเอาไว้ไม่ให้ร่วงลงไปทับร่างบางๆ นั่นเต็มแรง แต่ก็ไม่วายมาอยู่ในท่าชวนคิดลึกอะไรแบบนี้จนได้

               

    พระเจ้าช่วยหมีด้วย....

               

                ใบหน้าห่างกันแค่คืบจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจกลิ่นแอลกอฮอล ปอยผมสีชมพูอ่อนละกับใบหน้าหวานด้านใต้ สองแขนแกร่งที่เท้ากับเตียงทำให้ระยะห่างระหว่างร่างกายน้อยนิดลงไปอีก...

                ที่สำคัญเลยคือแขนบางๆ ที่โอบรอบคอเขาอยู่ตอนนี้...

                มาร์คฮยองรู้ตัวอยู่รึเปล่านะว่าทำอะไรอยู่

                “มาร์คฮยอง...”

                “เลิกเรียกได้แล้วน่า...”

                คนเป็นพี่ถอนหายใจยาว ดวงตาสีน้ำตาลหลบไปอยู่หลังเปลือกตาอีกครั้งเมื่อเจ้าของเลือกที่จะหลับตาลง หากแต่แขนทั้งสองที่โอบรอบคอน้องเอาไว้ก็ไม่ได้คลายออก

                “......”

              ยูคยอมนิ่งไป....

                นิ่งไปเหมือนเมื่อหลายปีตอนเจอกันครั้งแรกในห้องซ้อมตอนนั้น

               

                เพราะมาร์คดันพูดภาษาอังกฤษใส่เขาเนี่ยแหละ!!

              ให้มันได้อย่างนี้สิมาร์คฮยองงงง!!!

     

              เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเมื่อลืมตามาเห็นหน้าตื่นๆ ของเจ้าหมียักษ์  มาร์คส่ายหัวน้อยๆ เป็นเชิงเหนื่อยใจก่อนจะงัดตัวหนักๆ ของคนด้านบนให้ลงไปนอนด้านล่างแทนเขา ส่วนตัวเองก็ล้มตัวลงนอนแหมะบนตัวหนาๆ นั่นแหละ

                แอลเอบอยขยับตัวอีกเล็กน้อยให้ท่านอนเข้าที่เข้าทาง ดวงตาปรือปรอยหลับลงอีกครั้ง ไม่นานลมหายใจก็เข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ...

               

                ดีครับดี...

                มาพูดอะไรให้เขาสงสัยไม่พอยังจะมานอนท่านี้อีก

               

                คืนนี้จะหลับลงไหมนะ

              ถ้าตื่นขึ้นมาทั้งหมดนี้เป็นความฝันจะทำยังไงดีล่ะ...

              ชักมีความคิดอยากเป็นเจ้าของซะแล้วสิ

             

     

              “ยูคยอม!

                เฮือก!

                ร่างสูงเบิกตาเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่มาพร้อมกับแรงเขย่า  เมื่อตาปรับโฟกัสได้แล้วภาพตรงหน้าของเขาก็ยิ่งชัดเจนขึ้น...

                ใบหน้าอ่อนกว่าวัยที่ก้มลงมามองยังดูยุ่งๆ เหมือนนอนไม่ค่อยพอ  ผมสีน้ำตาลจากการย้อมชี้โด่เด่ไปคนละทาง ที่สำคัญคือชุดยังเป็นชุดเดียวกันกับเมื่อคืน..

                ไม่ได้ฝันจริงๆ สินะ

              “อ้าว.. นิ่งเลย  ไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วหาอะไรกินกันเถอะ”

                “แล้วคนอื่นล่ะครับ?”

                “ไม่รู้สิ ยังไม่กลับมาเลยมั้ง... อ่า ปวดหัวแฮะ”

                “ถ้าปวดหัวฮยองนอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวผมไปหาอะไรมาให้กิน”

                “ไม่ต้องหรอก”  มาร์คพูดพลางฉีกยิ้มกว้าง “ไปด้วยกันนี่ล่ะดีแล้ว”

                มือบางยื่นมาตีๆ หน้าท้องของคนที่นอนอยู่เบาๆ ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องเพื่อทำภารกิจยามเช้า  ยูคยอมมองตามแผ่นหลังนั่นจนลับสายตา  รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ

     

                คิมยูคยอมก็ยังคงเป็นคิมยูคยอม

                ถึงจะมีความคิดอยากครอบครองแว๊บมาบ่อยแค่ไหนแต่สุดท้าย...

                การที่ได้มองมาร์คฮยองของเขาในทุกๆ วันที่อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็มีความสุขมากเกินพอ

     

                เพราะ มาร์ค ต้วน คือความสุขของ คิมยูคยอม ไงล่ะ

    แค่ได้ชอบไปเรื่อยๆ นั่นก็มีความสุขสุดๆ แล้ว

               

     

    - End –

    or

    - To be continued –

               

    อยากรู้ว่ายัยเอินพูดว่าอะไรต้องติดตามตอนต่อไปนะคะ ผ่างงงงงงงงงงง!

                จริงๆ เรื่องนี้เป็นฟิคแก้บนค่ะ.... แต่ถึงจะเป็นฟิคแก้บนเราก็ตั้งใจแต่งมากนะ ฮ่า

                จะมีใครเล่นด้วยมั้ย ฮือ.. คอมเม้นท์ติชมได้ทั้งในนี้และใน #กัซกลคน นะคะ (มาจากก็อตเซเว่นกาลครั้งหนึ่ง ลึกซึ้งมั้ยล่า(......))

                เจอกันตอนต่อไปกับฟิคแก้บนตอนที่สอง... เพราะบนไว้สองตอน เวววฮูวววว


    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×