คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [OS] Retweet Mission 1
[OS] Retweet Mission 1
Author : Chuchompoo
Pairing : Yugyeom x Mark
Rate : PG
Song : Please – Atom
“มาร์ค... จะไปจริงๆ เหรอครับ?”
.
.
.
“ผม... ชื่อต้วน อี๋เอิน”
“คุณ! คุณ!!”
ยูคยอมจับบ่าร่างเล็กตรงหน้าเขย่าเบาๆ
ของเหลวหนืดสีแดงเข้มบนพื้นทำให้เขาร้อนใจมากกว่าเดิม
ครั้นจะยกศีรษะคนที่นอนไม่ได้สติขึ้นมาตรวจดูก็คิดได้ก่อนว่าตัวเองไม่มีความสามารถด้านการปฐมพยาบาลเลยแม้แต่น้อย
“อย่าพึ่งตายนะคุณ หายใจไว้ก่อนนะ”
พูดออกไปทั้งที่รู้ว่าเจ้าของใบหน้าดูดีราวกับรูปปั้นนี่คงไม่ได้ยินที่เขาพูด สองแขนแกร่งค่อยๆ ช้อนร่างเล็กขึ้นอย่างเบามือ
วิ่งออกจากซอยไปทางถนนใหญ่เพื่อนหาแท็กซี่ซักคัน
ในตอนนั้น..
ยูคยอมไม่รู้หรอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตามมาหรือไม่
รู้แค่จิตสำนึกด้านดีที่มีอยู่มันร่ำร้องให้พาร่างบอบบางนี่ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ใครจะไปคิดว่าระหว่างเดินเอื่อยๆ
กลับคอนโดจะต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรเหนือความคาดหมายไปไกลโข
ยูคยอมได้ยินเสียงคนโวยวายและเสียงถังขยะเหล็กล้มมาจากซอยทางด้านขวามือที่เขายืนห่างอยู่จากปากทางมาประมาณสองเมตร จะไม่อะไรเลยถ้าซอยนั้นไม่ใช่ทางที่เขาต้องเดินผ่าน จะให้ดุ่มๆ เข้าไปแบบไม่สนเหตุการณ์ก็คงไม่ดี
หากเป็นนักเลงตีกันขึ้นมาชีวิตเขาคงได้ดับอยู่ในซอยนั้นแน่ๆ
เพราะแบบนั้น... ยูคยอมจึงเลือกที่จะยืนรออยู่ที่เดิม จนเสียงเอะอะโวยวายและข้าวของรอบข้างเงียบลงถึงค่อยยืนหน้าออกไปดู ตลอดความยาวของซอยนั้นว่างเปล่า
เหลือเพียงข้าวของที่ระเนระนาด (ประกอบไปด้วยลังใหญ่ๆ
ที่อยู่มาหลายปีและถังขยะ)
ร่างสูงถอนหายใจเฮือก
สาวเท้าเดินเข้าซอยไปพลางภาวนาไม่ให้มีอะไรมากระโจนใส่ในเวลาแบบนี้
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะภาวนาน้อยไปหน่อย... เพราะร่างของคนที่นอนอยู่หลังกล่องใบใหญ่กับเลือดที่ไหลนองพื้นตอนนี้มันน่ากลัวกว่าเสียอีก
“คุณ! ตื่นแล้วเหรอ!?”
ยูคยอมเบิกตากว้าง
เผลอจับแขนคนที่นอนไม่ได้สติมาสองสามวันด้วยความดีใจ เปลือกตาบางกระพริบถี่เพื่อปรับการมองเห็น
ก่อนที่ดวงตาสีเปลือกไม้คู่นั้นจะเลื่อนมาสบกับคนที่ยืนดีใจอยู่ข้างเตียง
“คุณหลับไปตั้งหลายวัน ผมนึกว่าจะเป็นอะไรซะแล้ว”
ริมฝีปากบางขยับจ้อตามนิสัย
แม้คู่สนทนาจะยังมองเขาด้วยสายตางงงวย
กว่าจะรู้ตัวยูคยอมก็เผลอพูดคนเดียวไปเกือบสิบนาทีแล้ว
“เอ่อ...
เดี๋ยวผมตามหมอก่อนแล้วกัน
ถ้ากลับบ้านได้ก็ค่อยบอกที่อยู่ผมนะ”
ยูคยอมขยับตัว กำลังจะหันปุ่มเรียกพยาบาลที่หัวเตียงแต่เสียงเรียบๆ
ก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน
“แล้วบ้านผมอยู่ที่ไหน?”
เดี๋ยวนะ...
ใบหน้าหล่อเหลาหันควับไปมองคนบนเตียงทันทีที่ตีความประโยคสั้นๆ
นั่นจบ
เบิกตากว้างมองตากลมแป๋วที่จ้องกลับมา
พยายามคิดว่าเมื่อกี้ตัวเองคงได้ยินผิด หรือไม่ก็อีกฝ่ายอาจจะยังเบลอๆ...
“แล้วผม...
เป็นใคร?”
ครับ...
เค้าลางความวุ่นวายมาเยือนชีวิตของคิมยูคยอมทันทีที่จบประโยคนั้น....
“มาร์คครับ แอบกินขนมอีกแล้วใช่มั้ย”
‘มาร์ค’ คือชื่อที่ยูคยอมตั้งให้คนแปลกหน้าที่เจอกันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน หลังจากเรียกคุณหมอเข้ามาตรวจอะไรเรียบร้อย
ก็ได้ผลสรุปว่ามาร์คน่าจะตกใจมากจนช็อค
ความทรงจำเลยหายไปชั่วคราว
ถ้าได้รับการกระตุ้นหรือรออีกซักพักก็คงกลับมาจำได้เหมือนเดิม
นั่นคือเหตุผลหลักว่าทำไมเวลานี้มาร์คถึงมานั่งตาแป๋วอยู่ในห้องของยูคยอม
“เปล่านะ”
มาร์คคลี่ยิ้มกว้างจนตาปิดแบบที่ยูคยอมเห็นแล้วยังไงก็ต้องยอมแพ้
ประกอบกับการยกมือขึ้นมาทำเป็นรูปกากบาทไปด้วย
เจ้าของห้องที่เก๊กหน้าดุอยู่เมื่อครู่จึงต้องยอม เปลี่ยนมายิ้มแล้วดึงแก้มคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟาเบาๆ
“ถ้ากินข้าวเย็นได้น้อยคืนนี้ผมจะไม่ให้ดูทีวี”
ยูคยอมลอบหัวเราะให้กับใบหน้างอๆ
นั่นก่อนจะเดินไปเตรียมอาหารเย็นใส่จาน (ทำเองเป็นที่ไหนล่ะครับ..)
อยู่กันมาก็ครึ่งเดือน ตอนนี้ยูคยอมพอจะเข้าใจนิสัยของมาร์คบ้างแล้ว
พอๆ กับการที่มาร์คเรียนรู้ว่าเขาชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรได้อย่างรวดเร็ว
มาร์คไม่ใช่คนชอบพูดนัก...
โดยปกติจะทำหน้านิ่งๆ
ยกเว้นเวลาที่จะอ้อนหรืออารมณ์ดีมากๆ นั่นแหละ เป็นคนติดสกินชิพ งานอดิเรกตอนนี้คือนั่งดูทีวี กินขนม นอน
แล้วก็...
อ้อนยูคยอม
ไม่อยากจะยอมรับนักหรอก แต่ยูคยอมเองก็ชอบให้มาร์คอ้อนเหมือนกัน ใบหน้าหวานๆ นั่นกับรอยยิ้มเห็นเขี้ยว
เป็นใครก็ชอบทั้งนั้นแหละ!
ยูคยอมชอบมาร์คมาก
มากจนก้าวผ่านเส้นกั้นระหว่างคำว่าชอบกับรักไปแล้ว
แต่ความรักครั้งนี้...
ยูคยอมไม่รู้ว่าเขาจะมีเวลาได้ใช้มันอีกนานแค่ไหน
ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กในชุดใหญ่ๆ
ของเขาที่นั่งอยู่บนโซฟานั่นจะกลับไปเป็นตัวเองเมื่อไหร่
และถ้าหากกลับไป...
เขาจะยังมีโอกาสได้เป็นคนที่รักและถูกรักอีกมั้ย
ยูคยอมไม่รู้คำตอบของมันจริงๆ
“มาร์ค ผมไปเรียนก่อนนะ”
มาร์คปรือตาขึ้น มองยูคยอมในชุดนักศึกษา มือเล็กยกขึ้นกวักหน่อยๆ
เป็นเชิงให้อีกฝ่ายก้มลงมา ริมฝีปากอิ่มแกล้งกดลงบนแก้มของอีกฝ่ายหนักๆ
หนึ่งที
ผละออกมายิ้มตาหยีแล้วลุกจากเตียงเพื่อเดินไปส่งยูคยอมที่หน้าประตู
กิจกรรมเดิมๆ
ของมาร์คเริ่มขึ้นหลังจากนั้น
ร่างเล็กเดินลากรองเท้าสลิปเปอร์ลายกระต่ายสีขาวที่ยูคยอมซื้อให้เข้าห้องน้ำ จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วออกไปกินข้าวเช้าที่คนตัวโตเตรียมเอาไว้ให้
จัดการล้างจานและแอบเปิดตูเย็นเช็คข้าวกลางวัน ถ้าเป็นของที่มาร์คชอบก็กิน แต่ถ้าไม่...
มาร์คก็จะปีนเก้าอี้ไปหยิบขนมที่ยูคยอมอุตส่าห์ซ่อนไว้บนช่องเก็บชั้นสูงสุดในครัว
(คิดว่ามาร์คไม่รู้รึไง!?) มากินแทน
นิ้วเรียวจิ้มรีโมตเปิดทีวี ทิ้งตัวลงโซฟาและจ้องมองจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าแบบไม่รู้ว่านอกจากนี้จะมีอะไรให้ทำอีก เลื่อนช่องไปเรื่อยๆ เพื่อหารายการที่ถูกใจ หรือหยุดดูข่าวบ้างตามความเคยชิน (ที่มาร์คเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชิน)
เวลาเช้าแบบนี้ยังไม่ค่อยมีอะไรให้ดูนักนอกจากข่าว
ดวงตาสีเปลือกไม้มองภาพเคลื่อนไหวในทีวีอย่างไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก
จนมาถึงข่าวหนึ่งที่มาร์ครู้สึกคุ้นกับชื่อของคนในข่าวนั้นมากอย่างแปลกประหลาด
อิมแจบอม..?
ดวงตาที่ปรือในตอนแรกเบิกกว้างเมื่อภาพตัดสลับไปที่คลิปสัมภาษณ์หนึ่ง เจ้าของชื่ออิมแจบอมอยู่ในนั้น ดวงตาคมสีดำสนิทกับใบหน้านิ่งนั่นสะกดมาร์คเอาไว้
พร้อมๆ
กับความทรงจำที่หายไปกำลังพุ่งเข้ามาในสมองเขาแบบไม่ได้ตั้งตัว
“มาร์ค..
ผม--- มาร์ค!?”
หัวใจของยูคยอมกระตุกวูบเมื่อไขประตูเข้ามาแล้วเจอแต่ความมืด มือยื่นไปกดสวิตซ์ไฟข้างประตูด้วยความเคยชิน ทิ้งถุงอาหารสำหรับเย็นนี้และพรุ่งนี้ไว้ที่หน้าประตู
รีบร้อนก้าวยาวๆ เข้าห้องไปทางโซฟา
“มาร์ค!”
ยูคยอมพุ่งไปหาร่างที่นอนอยู่บนพื้น ช้อนร่างเล็กๆ ขึ้นมาให้อ้อมแขน เขย่าและเรียกอยู่แบบนั้นจนมาร์คค่อยๆ
ปรือตาขึ้นมอง
“โล่งอกไปที..
เผลอหลับไปเหรอครับ?”
ยูคยอมถามพร้อมรอยยิ้มโล่งใจ แต่รอยยิ้มนั่นก็อยู่ได้เพียงไม่นานเมื่อสังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของมาร์ค
ดวงตาสีน้ำตาน่าหลงใหลไม่ได้มองเขาอย่างใสซื่อเหมือนเคย นอกจากนั้นมันยังดูเรียบเฉยจนเขาสัมผัสได้
“มาร์ค...?”
“มาร์ค?” เสียงทุ้มทวนคำ จับมือหนาที่กอดเอาไว้ออกอย่างมีมารยาท
สองแขนยันกับพื้นเพื่อให้ตัวเองลุกขึ้นนั่งดีๆ “คุณหมายถึงใคร แล้วผมมาทำอะไรที่นี่?”
ยูคยอมเหมือนหูอื้อตาลายไปชั่วขณะ
มองใบหน้าเรียบนิ่งของคนตรงหน้าอย่างเลื่อนลอยจนมาร์คต้องเอ่ยเรียกอีกรอบถึงจะได้สติ
“คุณ!”
“ครับ...
คือ...มีเรื่องนิดหน่อย
เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง”
ห่างจากเหตุการณ์ทำร้ายหัวใจของยูคยอมได้ไม่กี่ชั่วโมง คนของมาร์ค— ไม่สิ ตอนนี้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาไม่ใช่มาร์ค แต่เป็น ต้วน อี๋เอิน ลูกชายคนโตของเศรษฐีชาวไต้หวันที่ทำธุรกิจอยู่ในอเมริกา
ห้องขนาดกลางของยูคยอมตอนนี้เต็มไปด้วยคนจำนวนมาก ทั้งผู้ชายในชุดสูทกับแว่นกันแดดสีเข้มสองสามคน
และผู้ชายอีกคนที่เขาเห็นบ่อยๆ ในข่าวธุรกิจ
อิมแจบอม... เจ้าของบริษัทนำเข้าสินค้าที่กำลังบูมมากตอนนี้
อิมแจบอม... ผู้ชายที่เป็นคนรักของต้วนอี๋เอิน
“ยังไงก็ต้องขอบคุณมากที่ช่วยอี๋เอินไว้”
เสียงเรียบๆ
กับรอยยิ้มบางของนักธุรกิจหนุ่มตรงหน้าทำให้ยูคยอมต้องคลี่ยิ้มบางโต้ตอบไม่ให้เป็นการเสียมารยาท จะบอกว่าเขายังช็อคอยู่ก็ได้ ในเมื่อเรื่องวันนี้มันเยอะและถาโถมเข้ามาไล่เลี่ยกันจนเขาแทบจะรับไม่ไหว
เริ่มจากที่มาร์คของเขากลายไปเป็นคุณหนูอี๋เอิน
แถมดูท่าว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเขานั้นจำเรื่องราวระหว่างสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แค่นั้นยังทำให้เขาเจ็บได้ไม่มากเท่าการที่อี๋เอินพุ่งไปกอดแจบอมแน่นทันทีที่มาถึง
ไหนจะเหตุผลที่ทำไมอี๋เอินถึงไปโผล่อยู่ในซอยนั้นให้โดนปล้นแถมยังโดนทำร้ายร่างกายได้อีก
วันนั้นอี๋เอินน้อยใจอิมแจบอมเลยหนีออกมาทั้งๆ
ที่ไม่รู้ทาง....
และถ้าหากไม่รัก..
ก็คงไม่น้อยใจ
คำถามที่เคยถามตัวเองไว้ได้คำตอบที่ชัดเจนแบบไม่ต้องให้ใครพูดอะไร
ความรักครั้งนี้ของยูคยอมมันยากตั้งแต่มาร์คจำตัวเองไม่ได้แล้ว
และสิ่งที่ตอกย้ำว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยคืออิมแจบอมที่นั่งอยู่บนโซฟาเคียงข้างกับ
(อดีต) คนรักของเขา
แล้วยูคยอมจะทำอะไรได้อีก?
“งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกันครับ ขอบคุณมากอีกครั้ง ไว้ผมจะหาของมาตอบแทน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
ยูคยอมตอบไปเพียงเท่านั้น
ก้าวตามและมองแผ่นหลังของคนที่เดินเคียงคู่กันข้างหน้า
จนวินาทีที่มาร์คกำลังจะเดินออกจากเขตห้องเขาไป มือหนาก็พุ่งไปจับข้อแขนเล็กไว้โดยไม่รู้ตัว
ยูคยอมสัมผัสได้ถึงสายตาไม่พอใจของแจบอม... ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ปล่อยมือ
กลัวว่าถ้าหากปล่อยไปครั้งนี้แล้วเขาจะไม่ได้สัมผัสมันไปอีกตลอดกาล
คนรักของอี๋เอินเกือบจะมาดึงมือเขาออกอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำเมื่อเสียงนุ้มทุ้มถูกเปล่งออกมาขัดเสียก่อน
“ออกไปรอก่อนแจบอม ผม... มีเรื่องจะคุยกับยูคยอม”
ในทีแรกอิมแจบอมก็ไม่ได้ยอม แต่เพราะสายตานิ่งๆ ของอี๋เอิน
ร่างหนาจึงสบถออกมาแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แล้วเดินออกไป ไม่วายปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่ (จริงๆ
ก็รู้แหละว่าแจบอมปิดประตูประชด เล่นปิดแรงซะขนาดนั้นนี่)
“มีเรื่องอะไร...”
ร่างเล็กหันกับมาประจันหน้ากับยูคยอมตรงๆ ดึงแขนออกจากมือเขาอย่างมีมารยาทเหมือนเคย...
ตอนนี้หัวใจของยูคยอมโดนกรีดไปกี่แผลแล้วกันนะ?
“มาร์ค...
จะไปจริงๆ เหรอครับ?”
ไม่รู้ว่าเสียงที่เปล่งออกไปมันสั่นเครือมากแค่ไหน และสีหน้าที่แสดงออกไปคงไม่ได้ดีนัก
ดูจากแววตานิ่งเรียบนั่นที่สั่นไหวคล้ายกับรู้สึกอะไรซักอย่างอยู่แว๊บหนึ่ง
อาจจะสงสาร...
หรือสมเพช
ยูคยอมยังหวังที่จะเห็นแววตาลังเลที่อาจจะเกิดเพราะยังรู้สึกอะไรกับเขาได้รึเปล่า?
“ผม...
ชื่อต้วน อี๋เอิน”
เสียงที่เขาหลงรักตอบกลับมาพร้อมกับรอยมีดล่องหนที่กรีดลงไปในใจเพิ่มอีกแผล ยูคยอมคลี่ยิ้มที่ดูยังไงก็รู้ว่าฝืนเต็มทนออกมา สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ราวกับกำลังเรียกกำลังใจเฮือกสุดท้ายให้ตัวเอง
“ในนี้...” มือหนาแตะลงข้างศีรษะของอี๋เอินเบาๆ ดีที่เจ้าตัวไม่ได้ปัดออกหรือจับมันออกอย่างมีมารยาทเหมือนที่ทำมาก่อนหน้านี้
ไม่เช่นนั้นยูคยอมคงเจ็บมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“ไม่มีผมอยู่แล้วใช่มั้ยครับ?”
“.....”
“แล้วก็ในนี้...” ค่อยๆ
เลื่อนมือลงมาแตะที่หน้าอกด้านซ้ายของร่างเล็กเป็นอันดับต่อมา “ไม่รู้สึกถึงผมเลย... จริงๆ เหรอครับ?
แค่นิดเดียวก็ได้”
มาร์คไม่ได้ตอบอะไร สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง
แต่ใจกลับเต้นระรัวแบบที่เขาเองก็ไม่รู้สาเหตุ
...เต้นแรงขนาดที่ว่าแม้แต่เจบีก็ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ไม่ได้...
ดวงตาสีน้ำตายังคงสบกับดวงตาอีกคู่ไม่ได้ละไปไหน
รับความรู้สึกบางอย่างที่ส่งผ่านสายตาอ้อนวอนนั้นมา
ยืนค้างอยู่แบบนั้นเป็นเวลานานเพื่อสัมผัสความอบอุ่นจากแผ่นมือบนอก
มาร์คอยากยืนอยู่ตรงนี้ไปอีกนานๆ
แต่เพราะว่าจำไม่ได้....
ต่อให้ใจสั่นและรู้สึกหวั่นไหวแค่ไหน
ตอนนี้คิมยูคยอมก็เป็นเพียงคนที่ช่วยชีวิตเขาและให้ที่อยู่ชั่วคราวเท่านั้น นอกประตูบานหนานั่นยังมีอีกคนที่เขารัก ...หรืออย่างน้อยเขาก็รับรู้ว่าตัวเองรักเพราะอะไร
“ไม่เลย...”
“....”
“ผมขอโทษ...
แต่ผมจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ”
“....”
“เพราะฉะนั้น... คุณช่วยลืมผมด้วยได้มั้ยยูคยอม?”
-
END –
เรื่องแรกก็ดราม่า /หลบรองเท้า
ประเดิมมิชชั่น RT (ที่ไม่น่าหลงคำยุของพี่มดเลยให้ตายเถอะ!) ด้วยเพลงชาติ(?)คยอมมัคก่อนเลยค่ะ 55555555
เรื่องนี้มันเริ่มจากท่อน ‘รู้ทุกครั้งที่เรามองตายังทำให้ใจของเธอสั่น ทุกอย่างที่ผ่านมานั้นมันคือเรื่องจริง’ นี่แหละค่ะ
ตอนแรกกะว่าคงไม่ได้เอาเพลงนี้มาแต่ง
เพราะนึกไม่ออกว่าจะแต่งออกมาแบบไหนดี จนวันนึงนั่งร้องเพลงนี้ลอยๆ
แล้วร้องถึงท่อนนั้น เรื่องไหลเข้าหัวเฉยเลย..
ก็นั่นแหละค่ะ เนื้อเรื่องแบบที่อ่านไป บ้าพลังมากเสร็จในสาม-สี่ชั่วโมง ฮือ
ติดต่อได้ที่
@chuchompoo กับ #กัซกลคน เหมือนเดิมค่ะฮริ้ง <3
หวังว่าจะชอบกันนะคะ แล้วเจอกันอีกเจ็ดเรื่องหลังจากนี้ค่ะ เยิ้บบบ
ความคิดเห็น