ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] OS l SF : Once Upon A Time ★

    ลำดับตอนที่ #7 : [OS] Hidden mark

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 58


    [OS] Hidden mark

    Author : Chuchompoo        

    Pairing : Yugyeom x Mark
    Rate : PG

     

     

                เรื่องนักเรียนต่อยตีกันมันเป็นเรื่องธรรมดา...

                ยูคยอมคิดแบบนั้น

     

                โรงเรียนชายล้วนกางเกงน้ำเงินชื่อดังที่เขาเรียนอยู่มีเด็กอยู่ไม่กี่ประเภทนัก  หากแยกคร่าวๆ คงได้ประมาณสี่...  เด็กเรียน  เด็กกิจกรรม  เด็กที่ลอยไปลอยมาเรียนไปวันๆ และอันธพาล

     

                ถามว่าคนอย่างคิมยูคยอมอยู่ในประเภทไหน?

     

                แน่นอนว่าไม่ใช่เด็กเรียนหรอก  เกรดเขาน่ะแค่พอรอดพ้นขึ้นชั้นเรียนใหม่ได้โดยไม่โดนไล่ออกก็เพียงพอแล้ว  อย่าไปคาดหวังถึงเลขสวยๆ ที่ทำให้พ่อแม่ชื่นใจได้เลย

     

                เด็กกิจกรรม?  ...อา  เขาก็พอเล่นบาสเกตบอลได้อยู่บ้างน่ะนะ  เรื่องดนตรีนี่ก็พอได้นิดหน่อย  แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ชอบมันมากพอที่จะคิดจริงจัง

     

                หรือจะเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนไปวันๆ....  ข้อนี้ใกล้เคียง  แต่ถ้าให้พูดตอนนี้คงต้องบอกว่าแค่เคยเป็นเท่านั้น  ถึงใบหน้าจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดและดูไม่มีพิษมีภัยอะไร  แต่ยูคยอมไม่ใช่คนที่รักความสงบนัก  ความตื่นเต้นเร้าใจต่างหากที่เป็นจานโปรดของเขา

     

                แถมตอนนี้เขาก็เจอไอ้ ความตื่นเต้นเร้าใจที่ว่านั่นแล้วด้วย...

     

                เพราะฉะนั้นการถูกเรียกว่าอันธพาลมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย  ถ้ามันจะนำพาให้เขากับใครคนนั้นได้เจอกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

     

     

     

                “โอ้ย!  มือหนักอย่างกับควาย”

     

                ใบหน้ายู่ยี่แต่ก็น่ารักจนใจกระตุกนั่นเป็นสิ่งที่ยูคยอมละสายตาไม่ได้  เสียงทุ้มนั่นบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยังคงนั่งเฉยให้เขาแนบสำลีชุ่มแอลกอฮอลลงบนแผลตรงข้างแก้ม  รวมถึงมือเล็กๆ ที่จับแขนของเขาอยู่  ทายาให้อย่างไม่เบามือเท่าไหร่นัก

     

                แน่นอนว่าไม่รู้สึกรู้สาหรอก  หมัดของมาร์คหนักกว่านี้ตั้งเยอะเขายังไม่ร้องซักแอะเลย

     

                “อะ... เสร็จละ”

     

                นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่โกดังร้างท้ายซอยกลายเป็นสถานที่นัดพบของเขาสองคน  แทบทุกครั้งหลังจากที่ตะลุมบอนกันอยู่กลางเมืองเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนและถูกตำรวจวิ่งไล่เป็นสิ่งปิดท้ายอย่างเคยๆ 

     

                หลังจากเรื่องเหล่านั้น...  มาร์คกับยูคยอมก็จะมาเจอกันอีกครั้งโดยไม่ต้องมีคำพูดนัดใดๆ

     

               

     

     

                อย่างที่รู้ๆ กันว่ายูคยอมเองก็เคยเป็นแค่เด็กนักเรียนธรรมดา  ไปโรงเรียนและนั่งรถกลับบ้าน  อาบน้ำ  กินข้าว  เล่นเกม  และนอนหลับเพื่อตื่นมาวนลูปกิจกรรมเดิมๆ นั่นไปเรื่อยๆ

     

                เย็นวันหนึ่งขณะที่เขากำลังเดินไปหาแท็กซี่ซักคัน  เสียงโวยวายและเสียงตุบตับดังแว่วมาจากซอยไหนซักซอยไม่ไกลจากจุดที่เขายืน  จะด้วยความอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรก็ตามแต่...  สองขาก้าวตามเสียงนั่นไป  ก่อนสถานการณ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นทีละหน่อย

     

                กลุ่มคนสองกลุ่มใหญ่กำลังวิ่งไล่กัน  มีไม้หน้าสาม  มีเสียงเนื้อกระทบเนื้ออย่างรุนแรงทำให้เขาเผลอยืนค้างอยู่แบบนั้น  จนกระทั่งได้สติตอนใครบางคนวิ่งผ่านมา  ยูคยอมคว้าแขนบางนั้นไว้  กำลังจะถามอยู่แล้วเชียวว่าเกิดอะไรขึ้น

     

                ตุ๊บ!!

     

                ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดไปตามแรง  เลือดสีสดหยดลงพื้นชัดเจนพอๆ กับกลิ่นคาวในปาก

     

                เพียงแค่นั้น  หมัดลุ่นๆ ก็พุ่งเข้าหน้าคู่กรณีอย่างไม่มีออมมือ

     

                ในตอนนั้น...  ยังสัมผัสไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใบหน้านั่นน่ารักตรงไหน

     

                แค่รู้สึกว่าอยากเจอกันอีกซักรอบ  จะเจอดีๆ หรือต้องมีเรื่องกันก็ได้ไม่เกี่ยง  เพียงแค่นั้นก็ทำให้ยูคยอมคนธรรมดายอมเดินไปบอกเจบีที่เป็นหัวโจกของกลุ่มเลยว่าขอร่วมด้วย 

     

    ถือเป็นเรื่องดีๆ ที่เจบีเองก็รู้สึกถูกใจฝีมือของเขาในวันนั้นอยู่พอสมควร..

     

     

     

     

                “ทำไมต้องพูดเพราะๆ ตลอด”

     

    “นั่นคำถามประเภทไหนน่ะมาร์ค?”

     

    เด็กหนุ่มเงยหน้าจากกล่องเก็บอุปกรณ์ทำแผล  เลิกคิ้วมองคงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามแบบไม่เข้าใจนัก 

     

    “ก็แค่อยากถาม  ทำไมถึงพูดเพราะตลอด”

     

    มาร์คเอ่ยด้วยใบหน้านิ่งๆ  จ้องมองเด็กยักษ์ตรงหน้าไม่วางตา  ทั้งๆ ที่เป็นอันธพาลไม่ต่างกันนักแท้ๆ  ทำไมถึงยังมีรอยยิ้มแสนซื่อนั่นประดับหน้าอยู่ได้ทุกวัน  แถมยังมีออร่าลูกคุณหนูแผ่ออกมาแทบทุกกการกระทำอีกต่างหาก

     

    ถ้าจะเป็นเด็กมีปัญหาก็ช่วยเป็นให้มันครบสูตรจะได้มั้ย  ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้มันสับสน!

     

    “ถ้ามาร์คอยากรู้.. ผมบอกก็ได้”  ใบหน้าหล่อเหลายื่นมาใกล้ราวกับจะกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคนทั้งๆ ที่โกดังนี้มันก็ไม่ค่อยมีใครมาวุ่นวายอยู่แล้ว  “แม่ผมบอกมา...”

     

    “.....”

     

    “แม่บอกว่าอย่าพูดคำหยาบน่ะ  มันไม่ดี”

     

    ไอ้เด็กเวร!!

     

    ก่นด่าในใจเมื่อเห็นยูคยอมผละไปแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง  อยากจะพุ่งไปตีซ้ำที่แผลให้โอดโอยสมใจแต่มาร์คก็เลือกที่จะไม่ทำ  ได้แต่นั่งมองตาขวางแบบไม่สบอารมณ์อยู่อย่างนั้น

     

    หรือคราวหน้ามาร์คจะเสยไอ้หมีนี่ให้คางแตกไปเลยดีนะ...

     

     

     

     

    มาร์ค ต้วน  ก็แค่เด็กช่างกลคนหนึ่ง...

     

    มีเรื่องกับสถาบันคู่อริบ้างตามประสา  ยิ่งมีเพื่อนสนิทเป็นหัวโจกใหญ่ประจำแก๊งค์แล้วยิ่งเลี่ยงไม่ได้  แจ็คสันเคยบอกว่าถ้าเป็นเพื่อนมัน  ต่อให้ยืนอยู่เฉยๆ ก็มีคนมาหาเรื่องอยู่ดี  จะเป็นไรไปหากมาร์คจะเป็นคนเริ่มซะบ้าง

     

    ตอนแรกมาร์คก็ไม่ได้เชื่อคำพูดอะไรนั่นนัก  ใช้ชีวิตสงบๆ จนกระทั่งวันที่เขาโดนล้อมโดยพวกเด็กกางเกงน้ำเงินคู่อริของแจ็คสันระหว่างที่กำลังเดินทางกลับบ้าน  กว่าจะมีคนผ่านมาเห็นแล้วไปเรียกเพื่อนสนิทของเขา  สภาพมาร์คก็สะบักสะบอมจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว

     

    แทนที่จะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น...  แจ็คสันกลับยิ้มอย่างยินดี

     

    สายตานั่นมองเขาอย่างชื่นชมแค่ไหน...  มาร์คเองก็จำไม่ค่อยได้  รู้เพียงเขาได้รับมันหลังจากแจ็คสันเห็นสภาพโชกเลือกของพวกกางเกงน้ำเงินที่มาร์คจัดการไปก่อนหน้านั้น

     

    หลังจากนั้นเป็นต้นมา...  มาร์คก็กลายเป็นทั้งเพื่อนสนิทและมือขวาของแจ็คสันอย่างสมบูรณ์

     

     

     

     

    “จะว่าไป... วันนี้มาร์คต่อยหน้าผมอีกแล้ว”  ว่าพลางชี้ไปที่รอยช้ำบนแก้ม

     

                “มันชุลมุน  ใครจะไปนั่งสังเกตว่าใครเป็นใคร”

     

                “ผมไง  ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เคยต่อยมาร์คอีกเลยนะ”

     

                เหลือบมองคนพูดด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย...  แต่นั่นก็จริง  ยูคยอมไม่เคยทำร้ายร่างกายเขาอีกเลยตั้งแต่วันนั้น..

     

      วันที่เขาได้สัมผัสทั้งความน่ากลัวและความอบอุ่นของเด็กยักษ์นี่ในเวลาห่างกันไม่ถึงยี่สิบนาที

     

     

     

     

    วันนี้มันซวย!! 

     

    ซวยตั้งแต่การที่ลืมทั้งมือถือและกระเป๋าตังไว้ที่บ้าน  ซวยตั้งแต่คนที่มักกลับบ้านด้วยกันตลอดอย่างแจ็คสันเลือกที่จะไปดูบอลต่อแล้วทิ้งให้เขากลับบ้านคนเดียว

     

    หรือบางทีมันซวยตั้งแต่เขาเป็นเพื่อนกับแจ็คสันแล้ว!!

     

    กลุ่มของแจ็คสันใหญ่มาก...  แทบจะบอกได้ว่ามีจำนวนคนเท่าๆ กับจำนวนนักเรียนช่างกลในหนึ่งชั้นปี  มากหน้าหลายตาจนมาร์คเองก็จำได้ไม่หมดว่าใครเป็นใครบ้าง  หรือใครอยู่พวกไหนกันแน่

     

    คนนอกเองก็เหมือนกัน....

     

    เพียงแค่เห็นว่าชุดคนที่หาเรื่องพวกมันก่อนหน้านั้นเป็นสถาบันไหน  ถ้าหากบังเอิญโป๊ะเช๊ะว่าเป็นสถาบันเดียวกับหวัง แจ็คสัน ละก็....

     

    คนที่พวกมันจะแห่มาเอาคืนน่ะ  ไม่มาร์คก็แจ็คสันเนี่ยแหละ!

     

    Sh*t….

     

    ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกสูดเข้าปอดแล้วพ่นออกมาเต็มแรง  ความเจ็บปวดตามใบหน้าและร่างกายมันใกล้จะเกินลิมิตแล้ว  มาร์คเชื่อว่าต่อให้ใช้พลังที่มีอยู่ทั้งหมด  เขาก็คงจัดการได้อีกไม่เกินสองคน

     

    เหลืออีกตั้งห้าคน..  จะให้วิ่งหนีก็คงเร็วไม่พอ  เสียแรงเปล่าแถมอาจจะโดนลากไปยำด้วย

     

    ผลัก! ตุ๊บ!!

     

    อืม...เหลือสี่แล้ว  ถ้าหากเขาไม่ได้เจ็บมากจนเห็นภาพหลอน  มาร์คเห็นร่างสูงใหญ่ของใครซักคนพึ่งซัดหนึ่งในห้าคนนั้นล้มลงไปนอนกอง  ก่อนจะจัดการที่เหลือต่อโดยไม่ได้สนใจมาร์คที่ทรุดลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้นเลยด้วยซ้ำ

     

    แม้ภาพจะพร่ามัว...  แต่มาร์คคิดว่าเขาจำการออกหมัดแบบนั้นได้อย่างแม่นยำ

     

    และถึงแม้คนๆ นั้นจะดูน่ากลัวกว่าทุกครั้งที่เจอจนแทบจะบอกได้ว่าเป็นคนละคน...  มาร์คค่อนข้างแน่ใจว่าผู้ชายร่างสูงใหญ่คนนั้นคงเป็นคนเดียวกับเด็กตัวโตจากโรงเรียนคู่อริที่มีเรื่องกับเขาบ่อยๆ แน่นอน

     

    ใบหน้านิ่งสนิทของยูคยอมคือสิ่งที่มาร์คเคยชิน  สายตาดุๆ กับแรงเยอะๆ นั่นเขาก็ได้สัมผัสมาแล้ว  แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขาถึงรู้สึกได้ว่ามันดูไม่สบอารมณ์มากเป็นพิเศษ...

     

    และมันยิ่งน่ากลัวมาก...  เมื่อร่างสุดท้ายลงไปนอนนิ่งที่พื้น  เมื่อยูคยอมเช็ดมือเปื้อนเลือดกับกางเกงลวกๆ และยื่นมือนั่นมาตรงหน้าเขา  เมื่อใบหน้าน่ากลัวนั่นเปลี่ยนมาเป็นยิ้มแย้มในเสี้ยววินาที 

     

    ตลอดทางที่ถูกพยุงไปยังโกดังท้ายซอย (คิดว่าน่าจะเป็นที่ประจำของยูคยอม)  มาร์คสามารถพูดได้เต็มปากว่าเขาสั่นแค่ไหน  กับคนที่ยิ้มแย้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้พึ่งจะไปยำใครจนจมกองเลือดมา  มาร์คไม่รู้จริงๆ ว่าจะจัดหมวดหมู่คนประเภทนี้ไว้ตรงไหนดี

     

    แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าระหว่างที่นั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยให้มือหนาค่อยๆ ปฐมพยาบาลเขาไปทีละหน่อย  หายาให้กิน  รวมถึงเสียงเจื้อยแจ้วแนะนำตัวนั่น...  การกระทำของยูคยอมมันมีเสน่ห์มากจริงๆ...

     

     

     

     

    “ไม่รู้ล่ะ.. แบบนี้ต้องมีมาตรการ”

     

    “มาตรการอะไรของมึง...”

     

    ลอบมองสีหน้าซื่อๆ นั่นอย่างไม่แน่ใจ  ตลอดหลายเดือนที่รู้จักกันมา (ในสถานะที่ระบุไม่ได้) มาร์ครู้แล้วว่าไม่สามารถเชื่อสีหน้าซื่อๆ หรือรอยยิ้มแบบเจ้าหมาน้อยที่เห็นได้ทั้งนั้น

     

    “คราวหน้าถ้ามาร์คต่อยผมหนึ่งที  ...แลกกับหนึ่งจูบโอเคไหม?”

     

    “อย่ามาตลกหน่อยเลย....”

     

    ใช่...  มาร์คหมายความอย่างที่พูดนั่นจริงๆ  หนึ่งหมัดแลกหนึ่งจูบงั้นเหรอ...

     

    ยูคยอมน่ะ  ได้มากกว่าจูบไปตั้งนานแล้ว  ไอ้เงื่อนไขเด็กน้อยน่าตลกนี่มันอะไรกัน

     

    “ผมก็แค่พูดเล่นไปงั้นแหละ...  มาร์คนี่ไม่มีอารมณ์ขันเลย”  คนมีอารมณ์ขันพูดพลางหันไปเก็บกล่องยาไว้ข้างถังน้ำมันเก่าๆ ถังหนึ่ง  “แต่ว่า...  จูบซักทีก็ดีเหมือนกันนะ”

     

    ริมฝีปากร้อนทาบทับลงมาโดยไม่ได้ตั้งตัว  บดเบียดและดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ  ส่วนทางมาร์คก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองอึ้งอยู่นานนัก  ทั้งริมฝีปากอิ่มแดง  ฟันเขี้ยวซี่น้อย  รวมถึงเรียวลิ้นเล็กโต้สัมผัสจากคนด้านบนได้อย่างไม่มีใครยอมใคร

     

    จะว่าไป...  มาร์คลงมานอนราบที่พื้นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?

     

    นั่นมันไม่สำคัญหรอก...

     

    ไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้น  จะเรื่องที่มาร์คสงสัยว่าความช่ำชองของยูคยอมนี้ไปฝึกมาจากไหน  เรื่องที่วันนั้นยูคยอมเข้ามาช่วยเขาเพื่ออะไร  เรื่องความน่ากลัวของยูคยอมที่มาร์คยังคงจำได้ไม่ลืม  หรือเรื่องที่เขาสองคนจะแอบมาทำอะไรๆ แบบนี้ลับหลังเพื่อนตัวเองอีกกี่ครั้ง

     

    ตราบใดที่รอยแดงจากฝีมือ... หรือบางทีอาจจะเป็นฝีปากของยูคยอมยังคงเนียนปะปนไปกับรอยช้ำตามร่างกายของเขาได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นมัน

     

    จะไม่มีอะไรสำคัญเกินกว่านี้... แน่นอน

     

     

    - End –

     

     

    อนุญาตให้ตีคยอมที่ต่อยพิมัคค่ะ..

     

    ตัดสลับไปสลับมานี่ไม่งงใช่มั้ยคะ...

    พูดตามตรงว่าช่วงนี้คยอมเวอร์ชั่นโกลเด้นน้อยพีคมาก แต่งแทบไม่ออกเลยค่ะฮึก

    แถมที่คิดไว้มันเรทกว่านี้.. แต่ก็แต่งไม่เป็นจริงๆ ค่ะให้ตายเถอะ

     

    คอมเม้นท์ได้สามช่องทางเช่นเคยค่ะ ในนี้  ในแทก #กัซกลคน และ @chuchompoo

     

    หวังว่าจะได้เจอกันอีกเร็วๆ นี้ค่ะ  ชุ้บ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×