คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [OS] Retweet Mission 2
[OS] Retweet Mission 2
Author : Chuchompoo
Pairing : Yugyeom x Mark
Rate : PG
Song : รอพี่ก่อน – SHADE
1.
มาร์คคิดว่าช่วงนี้แฟนเด็กของเขาขี้งกเป็นพิเศษ..
"มาร์ค อย่าเปิดไฟห้องน้ำทิ้งไว้สิครับ"
ก็อย่างที่ว่าไปนั้นแหละ
ช่วงนี้ยูคยอมดูจะประหยัดขึ้นจริงๆ อย่างเห็นได้ชัด
เริ่มจากการบ่นเขาเวลาไม่ปิดไฟบ้างล่ะ ปรับแอร์เย็นเกินมาตรฐานบ้างล่ะ
เปิดทีวีทิ้งไว้บ้างล่ะ
ทำไมกันนะ...
2.
หรือว่ามีปัญหากับที่ทำงาน?
"คิดมากไปแล้วครับ ไม่ใช่ซะหน่อย เงินเดือนกับโบนัสผมยังอยู่ครบนะ
เยอะกว่าเดิมด้วย"
คนตัวโตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะกินข้าวตอบพลางหัวเราะร่าเมื่อมาร์คถามถึงสภาพทางการเงินในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้
เอ้า!
แล้วงกขึ้นมาทำเตี่ยอะไรวะยูคยอม
เอิ่ม...
เมื่อกี้มันเพราะความดันต่ำและจิตด้านมืดยามไม่มีสติครบถ้วนนะครับ
มาร์คไม่ได้ก้าวร้าว
ต้วน
อี๋เอินยู่หน้า ขมวดคิ้วตักข้าวเข้าปากอย่างคิดไม่ตก
เขากับยูคยอมคบกันมาเกือบห้าปี ไม่สิ..
มาร์คตัดขาดจากบ้านตัวเองเพื่อมาอยู่กับยูคยอมเกือบห้าปีแล้วต่างหาก
มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีหรือน่าเลียนแบบเท่าไหร่หรอก
ทุกวันนี้มาร์คก็ยังรู้สึกผิดกับที่บ้านอยู่นั่นแหละน่าที่หนีตามผู้ชายมาให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูลเล่นแบบนี้
แต่อาจเพราะเวลามันผ่านมานานจนเขาเคยชินกับชีวิตในห้องขนาดกลางของคอนโดราคาน่ารักนี่ไปแล้ว
ชินกับการทำงานรีทัช/ตัดต่อภาพด้วยโน้ตบุ๊คคู่ยากที่อยู่กันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นคุณหนู
ชินกับการลุกมาทำอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้ครอบครัว
(ประกอบด้วยสมาชิกสองคนถ้วน--มาร์คกับยูคยอมไง) ทุกวันที่ไม่มีงาน
ความรู้สึกโหยหาสิ่งที่เคยมีเลยน้อยลงไปตามกาลเวลา
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นไง!
"จริงๆ ฉันก็มีเงินจากที่รับงานอยู่นะ พวกค่าห้อง ค่าน้ำ
ค่าไฟนี่ลองหารกันมั้ย ยังไงก็อยู่กันมาตั้งนานแล้วก็น่าจะช่วยกันจ่าย
นายจะได้เอาเงินไปซื้ออย่างอื่นบ้างหรือบางที...."
ประโยคยาวผิดวิสัยจบอยู่แค่นั้น
เพราะสัมผัสอุ่นนุ่มที่ริมฝีปาก
และรอยยิ้มของเด็กตัวโข่งที่ถอยไปคว้ากระเป๋า
ลาไปทำงานด้วยรอยยิ้มกว้างจนน่าหมั่นไส้ในความรู้สึก
3.
"หรือว่ายูคยอมมีคนอื่นรึเปล่าวะ"
สาบานได้ว่าถ้า
หวัง แจ็คสัน ไม่ใช่เพื่อนคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ของมาร์คล่ะก็
อเมริกาโน่เย็นในแก้วนี่ต้องได้สัมผัสเสื้อเชิ้ตราคาสี่หลักปลายๆ
ที่มันใส่อยู่ซักวงสองวงแหละ
"กูแค่บ่นว่าน้องมันงกขึ้น มึงอย่าโยงมั่วซั่ว"
"เอ้า! ในเมื่อน้องมันบอกว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน
แล้วอะไรจะทำให้มันงกขึ้นล่ะวะ
ถ้าไม่ใช่ว่ามันแบ่งเงินบางส่วนไปให้คนอื่น"
ยัง... ยังไม่สำนึก
ยังมีหน้ากินเค้กอย่างสบายใจแม้กำลังพูดวาจาร้ายกาจใส่เขาอยู่อีก!
"อย่าเอามาตรฐานความชั่วตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิวะ"
"กูก็ไม่ได้บอกให้เชื่อนะ... แค่สันนิษฐานเฉยๆ~"
เพื่อนซี้สมัยมัธยมยังคงยักไหล่และยิ้มกวนประสาทไม่เลิก
จนเสียงเรียกเข้าเชยๆ แผดลั่นร้านกาแฟนั่นแหละ หวัง แจ็คสัน
ถึงเลิกทำตัวน่าหมั่นไส้ ตบบ่าเขาสองสามทีก่อนออกจากร้านไปทำธุระ
มีคนอื่นบ้าบออะไรกัน
เรื่องไร้สาระนั่นทำอะไรมาร์คไม่ได้หรอก
4.
มาร์ค ต้วน
นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
คิดไม่ออกเลยจริงๆ
ว่าถ้าอยู่ดีๆ ยูคยอมก็กลับบ้านเร็ว เปิดประตูผ่างเข้ามาตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ในเมื่อสภาพห้องนอนตอนนี้โดนค้นซะเละ
ไหนจะตู้เสื้อผ้าที่คงต้องมานั่งพับชุดใหม่ทั้งหมดอีก
สงสัยต้องรับงานสำหรับเดือนนี้เพิ่มแล้วละมั้ง
จะได้เลิกฟุ้งซ่านซะที
"มาร์ค วันนี้ผมเลิกเร็--- โจรขึ้นบ้านเหรอครับ!?"
เอากับโลกใบนี้สิ... แฟนตาซีเกินไปแล้วไหมชีวิต คิดอะไรเล่นๆ นี่ขยันเป็นจริงตลอด
อ่ะ..
ละไอ้ที่กังวลนี่จะเป็นจริงด้วยไหมล่ะสังคม
"...นั่นมุขใช่มั้ยยูคยอม"
จูนสติอยู่พักใหญ่ถึงจะโต้ตอบกลับไปได้เป็นประโยค ร่างโปร่งบางยันตัวขึ้นจากพื้น บิดขี้เกียจเล็กน้อยไล่ความเมื่อยขบ เดินข้ามทั้งกองเสื้อผ้า หนังสือ
และอย่างอื่นอีกสารพัดที่เขารื้อออกมาตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนและหยุดอยู่หน้ายูคยอม
ต้องยอมรับแล้วแหละว่ามาร์คเป็นบ้าเพราะคำพูดของไอ้เพื่อนเวรนั่นจริงๆ
แถมไอ้ที่อุตส่าห์นั่งค้นหลังขดหลังแข็งนี่ก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลยซักนิด แต่จะให้อยู่เงียบๆ
ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือลืมๆ ไปซะก็คงทำไม่ได้อีก
ถามมันตรงๆ
ให้มันจบไปเลยแล้วกัน
“ยูคยอม... มีเรื่องอะไรที่ไม่ได้บอกฉันรึเปล่า?”
“....ครับ?”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ... คือก็พอรู้ว่าตัวเองน่าเบื่ออยู่หรอก ช่วยอะไรก็ไม่ได้มาก ทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็น แต่คือ..”
มาร์คกำลังพูดไม่รู้เรื่องรึเปล่า
ทำไมในหัวมันถึงโล่งจนน่าตกใจ ทั้งๆ ทีเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วมันยังมีเรื่องวุ่นวายเต็มไปหมด
“เดี๋ยวนะ... มาร์คพูดเหมือนผมมีคนอื่น”
“แล้วไม่ได้มีเหรอ?”
“จะบ้าเหรอมาร์ค!”
เสียงแหวตะโกนของเด็กเรียบร้อยช่วยดึงสติที่กระจัดกระจายของมาร์คกลับมา กระพริบตาปริบๆ
มองสีหน้าตกใจปนโกรธของคนรักแล้วเริ่มรู้สึกได้ว่าเพิ่งพูดอะไรที่ไม่ค่อยดีออกไป
“อย่าบอกนะว่าที่คิดไปนู่นคือเพราะเรื่องที่ช่วงนี้ผมงกขึ้นอ่ะ?”
“......”
“โอเค ใช่แน่ๆ
โอ้ย...
ผมบอกแล้วว่าอย่าคิดมาก มาร์คนี่นะ”
ยูคยอมวางมือใหญ่ๆ
ลงบนหัวเขา
ออกแรงขยี้แบบไม่เกรงใจอายุ
สีหน้าตึงเครียดในตอนแรกคลายลงแล้วเหลือแต่สีหน้าทีดูขบขันเสียเหลือเกินของเจ้าเด็กตัวโต
จะตลกนี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ
แต่อธิบายให้กูรู้เรื่องด้วยซักนิดเถอะ กราบล่ะ
“ถึงเราจะอยู่กันมาตั้งนานแล้ว... มาพูดเอาตอนนี้อาจจะช้าไปซักหน่อย”
“.....?”
“แต่ผมว่าจะขอมาร์คแต่งงานแหละ มาร์คคิดว่าไง? J”
5.
ถ้าอยากได้งานแต่งงานริมชายหาดนี่ต้องนอนเปิดพัดลมซักกี่คืนกันนะ?
- END
–
อะไรเอ่ยวูบแรง
55555555555555555555
ฮือ
เรื่องนี้รีบแต่งมาก แต่งตามใจมากด้วย สั้นแถมไม่มีการเช็คคำผิดหรืออ่านทวนใดๆ
โปรดอภัยค่ะ orz
เป็นผลพวงมาจากความขี้งกของตัวเอง บ่นชาวบ้านเวลาไม่ปิดไฟอะไรแบบนั้น
จนโดนด่ามาว่างกขนาดนี้จะเก็บตังไปขอผู้ชายรึไง
ปึ้ง!
กลายเป็นเรื่องนี้เลยค่ะ /ไร้สาระไปอีก
ส่วนเพลง... คือพอได้พล็อตก็นึกถึงเพลงนี้เลย แต่ก็มานั่งคิดว่า เฮ้ย เพลงเฮฮาไปมั้ยวะคุณ
พยายามหาเพลงอื่น
สุดท้ายไม่มี วนกลับมาทีเพลงเดิมค่ะ ฮา
เหลืออีกหกเรื่อง
แล้วจะพยายามโผล่มาอีกนะคะ
ความคิดเห็น