ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The goose story (5sos fanfic)

    ลำดับตอนที่ #3 : -2-

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 57


    chapter2




    Camiezz @amiam –

    นักถอยหลัง อาทิตย์สุดท้าย ชิงเสื้อThe Wolfe Brothers แล้วไปมันส์กันที่The rocks’

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    Ellexx @Zhangel--

    @amiam : ถ้าฉันอยากได้สักตัวล่ะ คาเมรอน ฉันทายถูกทุกครั้ง สนใจฉันหน่อยได้โปรด!!xx

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------

    Ellexx @Zhangel--

    @amiam : คาเมรอน คุณคือดวงดาว และพวกเขาก็คือดวงดาว

    เพลงแรกในปี2012ของThe Wolfe Brothersคือwake up คุณเห็นทวิตฉันแล้วใช่ไหม thx :/

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------


                  ฉันกดเมนชั่นข้อความสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของวันนี้ หลังจากสังเกตเห็นดีเจประจำคลื่นวิทยุหนึ่งพยายามเร้าอารมณ์แฟนคลับด้วยข้อความงี่เง่า คาเมรอนมักจะทำแบบนี้เสมอในเกมส์ชิงรางวัลในช่วงที่เธอจัด  นับถอยหลังอะไรกัน ฉันไม่มีเสื้อยืดของ The Wolfe Brothersด้วยซ้ำ ความจริงมีรูปแบบที่ทำออกมาขายแบบไม่ถูกลิขสิทธิ์ แต่ใครๆก็รู้ว่ามันจะไม่มีลายเซ็น ซึ่งฉันไม่ต้องการ ถึงจะเป็นลายเซ็นสกรีนก็เหอะ ฉันอยากใส่มันแล้วไปฟังเพลงของพวกเขาในไม่อีกวีคข้างหน้า

    หลายคนอาจจะคิดว่าฉันละเมอเพ้อฝันอะไร The Wolfe Brothersเป็น บอยแบนด์เพลงร็อคคันทรี่ ดีกรีมาจากเวทีประกวด Australia's Got Talent พวกเขาเจ๋งทุกอณู เนื้อเพลงที่แต่งแต่ละtrackก็ถูกรังสรรค์ผ่านราชานักแต่งเพลงคันทรี่หลายคนที่ฉันชื่นชอบ

    ไม่อยากจินตนาการเลย ถ้าฉันพลาดไปจะเกิดอะไรขึ้น โอ พระเจ้า TT

     

    “ ฉันไม่กินผักขม แซนวิช แล้วก็Vegemite แต่พี่ฉันกิน ฉันควรซื้อมันมั้ยนะ” เสียงแหบแปร่งดังขึ้น เมื่อลดมือถือลงร่างเตี้ยของแฮร์รี่ที่ยืนอยู่หน้าตู้แช่อาหารแข็งก็พลันปรากฏ แซนวิชหลากรสชาติวางตายเป็นเทือก เขาหยิบด้านซ้ายที ด้านขวาทีขึ้นมาอ่านฉลากอย่างพิจารณา

     

    “พวกเธอยังเด็ก ขึ้นชื่อว่าผักก็กินได้หมดนั่นล่ะ แต่…Vegemiteนี่มันของกินtop tenประจำชาติพวกนายนะ ทำไมไม่ชอบ พิลึกคน” ฉันพูดพลางเลื่อนเช็คทวิตเตอร์ต่อคร่าวๆ  “ว่าแต่พี่นายชอบกินอะไรล่ะ ถ้าไม่พอเอาเงินฉันก่อน เดี๋ยวค่อยบอกแอนนาทีหลัง หรือพวกเขารวยแล้ว ฉันอาจจะเอาเงินคืนจากพี่นายแทนก็ได้นี่จริงไหม นายเล่าว่าเขาดังไม่ใช่รึไง สาวๆถึงต้องมารอหน้าบ้าน ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้จักสักนิด ”

    ฉันพูดถึงเรื่องราวสุดระทึกเมื่อครู่ --ความทรงจำสุดท้ายก่อนที่จะถึงซูปเปอร์มาเก็ตคือการที่เราต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งเหมือนลูกหนี้ล้มละลายบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง  แฮร์รี่พยายามอธิบายระหว่างทางบนรถแทกซี่ว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจออะไรแบบนี้ มันเกิดขึ้นเสมอเวลาที่Big Irwinกลับมาพักที่บ้าน ความจริงแล้วสาวๆจะไปที่สตูดิโอทำงานเสียส่วนใหญ่  แต่ด้วยการหายไปทำงานที่ต่างบ้านนานๆ พวกหล่อนอาจจะเกิดแรงคิดถึง ทั้งที่ก่อนหน้านี้บ้านของแอนนาก็ดูสงบสุขดีทุกอย่าง 

    แต่ความโกลาหลทั้งหมดเกิดจากเอลลีน จาง

    คนแปลกหน้าเอย เป็นสตรีเพศในบ้านของศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ ไม่ได้มีประวัติขึ้นเป็นสมาชิกในสำมะโนครัว

    สาบานว่าฉันไม่เคยติดตาม5sosหรือบริโภคเพลงของพวกเขา  ใครๆก็รู้ว่าที่ออสเตรเลียมีบอยแบนด์เกิดขึ้นเยอะขนาดไหน ที่แคนดา อังกฤษ หรือจะอเมริกา ไม่รวมพวกคลั่ง channel ในyoutube ฉันรู้แค่ว่าพวกเขาดูเหมือนกันไปหมด.. พี่ชายของแฮร์รี่ เออร์วินก็คงเป็นหนึ่งในนั้น เพลงจากกีตาร์ เบส sound ป็อปพังค์ซ้ำๆ มันทำให้เบื่อหน่าย  ต่างจากคันทรี่ที่เปี่ยมด้วยความคลาสสิค

    ความบ้าระห่ำของแฟนคลับอาจจะมีแค่ช่วงที่พวกเขาดังสุดๆแบบเวลานี้เท่านั้นล่ะ ว่าไหม

    ฉันลองคิดในใจแบบที่ไม่มีใครได้ยิน และหวังว่าแฮร์รี่จะไม่รู้เพราะเขากำลังจะเริ่มแขวะฉันอีกรอบ

     

    “เธอสมควรกลับไปสวมกางเกงยีนส์เน่าๆแล้วออกไปเต้นเขย่ากำไลเหมือนเดิมเถอะ ในวงแอชตันตีกลองเจ๋งสุดๆ แถมมีคนอื่นที่เล่นดนตรีได้ดี ปีหน้าฉันบอกเขาแล้วว่าฉันจะไปประกวด The voice kids

     

    “เฮ้ คันทรี่ไม่ได้ใส่กำไลเต้น”

    ฉันเถียงพลางกลั้นขำใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น  ดวงตาใสของแฮร์รี่ยามที่เขากำลังตกในห้วงความฝันเผยให้เห็นมุมหนึ่งของความไร้เดียงสา ฉันชอบที่เขาเป็นแบบนี้มากกว่าแสดงบทเออร์วินจอมขี้อิจฉา

    เพราะสิ่งนั้นฉันไม่อยากเถียงอะไรเพิ่มเติมอีก เมื่อตระหนักถึงบทบาทที่แอนนาหวังให้ฉันเป็นต่อลูกๆของเขาในช่วงเวลาที่หล่อนไม่อยู่  เสี้ยววินาทีฉันจึงตัดสินใจหยิบนักเก็ตไก่แช่แข็งจากชั้นบนให้เจ้าตัวแสบ

     

    “กลับบ้านกันเถอะ ฉันหวังว่าพี่นายจะกินของที่เราซื้อมาหมดนี่ได้นะ”

    ฉันเอ่ยในขณะที่หมุนตัวเดินกลับออก  แม้มือจะสาละวนดันรถเข็นก็ยังไม่วายแอบเสิชคำว่า

    5 Seconds Of Summer” วงผู้ยิ่งใหญ่ของเด็กชายวัย13ด้านข้าง

    Band members

    ·         Luke Hemmings – lead vocalsguitar

    ·         Michael Clifford – guitar, vocals

    ·         Calum Hood – bass guitar, vocals

    ·         Ashton Irwin – drums, vocals

     

    ทำไมฉันถึงคุ้นตากับนามสกุลของหนึ่งสมาชิกในนั้นอย่างแปลกประหลาด

    ขนาดของหัวใจราวกับขยายออกอย่างอัตโนมัติอย่างไม่น่าเชื่อ

     ‘Calum Hood’ 

    ชื่อของคาลัม ฮู้ดขึ้นลิสต์บุคคลอันดับหนึ่งไปโดยปริยาย

    ก่อนที่แฮร์รี่ เออร์วินจะขัด ฉันจึงไม่ได้เสิชหารูปภาพของพวกเขาต่อ


    "เลิกเดินเหมือนเต่าสิเอลลีน!!"

     

     

                       -*-*-*-*-*-*-

     

     

     
     

    “ฉันบอกแล้วว่า มีคนอยู่ จะตามมาทำไมเนี่ยะ ลุค มาเอาคาลัมกลับไปที เลิกถ่ายรูปแปปนึง” เสียงสูงของแอชตันร้องตะโกนเมือ่อเหลือบเห็นคาลัมกระโจนเข้าขี่กวางอิฐบนสนามหญ้าเล็กๆหน้าบ้าน  ลุคไม่ได้สนใจเสียงโวยวายรอบๆ ในขณะที่พยายามแลบลิ้นปลิ้นตาใส่กล้องไอโฟนของสาวแมกซิโกคนหนึ่งอยู่ ช่วงเวลา6โมงกว่าๆทำให้อากาศเริ่มอยู่ในจุดที่เย็นขึ้นมาสาม-สี่องศา แสงสีทองทอประกายเป็นริ้วบนน่านฟ้าที่วิบวับไปด้วยสปอร์ตไลท์สูงราวกับคอยีราฟนับร้อย

    ไม่มีจิงโจ้ในเมือง หลังจากพวกเขากลับมา  มีโอกาสพบเห็นมีชีวิตมหัศจรรย์เหลานั้นแค่ไม่ถึง5ตัวตลอดถนนซุเปอร์เปอเวย์หลายกิโล

    รถตู้วกมาส่งแอชตัน เออร์วินที่บ้านพักเป็นคนแรกด้วยเส้นทางที่ไกล้กว่าคนื่น และหลังจากนั้นก็จะทยอยไปส่งแต่ละคนที่เหลือ พวกเขาใช้พื้นที่ในซอยแคบๆจอดพักรถเพราะมีแฟนราวสิบกว่าคนที่มาเฝ้ารออยู่  แน่นอนว่า4หนุ่มชื่นชอบการพบปะบรรดาแฟนยิ่งเสียกว่าอะไรดี

     

    “ฉันดูหัวโตไปรึปล่าวนะ” ไมเคิลลังเลเมื่อมองกล้องหน้าจากมือถือ เขามัวก้มหัวลงเบี่ยงไปซ้ายทางขวาหามุมอยู่หลายครั้งพร้อมฉีกปากเหมือนสระอิคว่ำ ทำเอาเด็กหญิงในวงแขนยิ้มกว้างเมื่อได้ไกล้ชิดศิลปินที่ชื่นชอบ  เธอเอาแต่พึมพำว่าน้ำหอมที่ไมเคิลใช้น่าจะมีมูลค่าแพงกว่าที่รุ่นที่เลดี้กาก้าออกแบบ

     

    “ฉันว่าน่าพักบ้านแอชตันให้หมดเลยว่ะ ดีจะตายไม่มีใครอยู่สักคน  ส่วนคุณก็กลับไปหาภรรยาได้เลยเต็มที่!” ลุคพูดกับผู้จัดการตัวเองที่ยืนพิงฝากระโปรงรออยู่อย่างใจเย็น แต่ดูเหมือนจอร์จจะไม่เห็นด้วย เขาส่ายศีรษะและตอบออกมาอย่างห้วนๆ

    “ฉันตกลงครอบครัวพวกเธอไว้แล้ว รีบขึ้นรถเถอะ มืดมากกว่านี้รถติดแหง่กตายแน่ๆ” ชายวัยกลางคนสั่ง เขาเริ่มย้ายตัวเองกลับไปด้านในรถด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย บางทีจอร์จอาจจะเจ็ทแล็ก แอชตันคิดแบบนั้นเมื่อลองสังเกตมาตลอดทาง ทุกคนดูเหนื่อยและกำลังอยากให้คาลัมเลิกป่วนไปรอบสวน เล่นกับเบ็นที่ถูกล่ามในกรงไว้ หรืออะไรจำพวกลงไปนอนกลิ้งบนสนามหญ้า.....มีสาวๆบางส่วนพยายามยื่นศีรษะผ่านทางช่องโหว่ของลูกกรราวกับกำลังเฝ้าชม สิ่งมีชีวิตหายากในสวนสัตว์ ภาพติดตลกรอบๆทำให้แอชตัน เออร์วินตัดสินใจหยุดขนของและเดินออกไปพบปะพวกเธอด้านนอกเช่นเดียวกับลุคและไมเคิล

     

    “มืดแล้วพวกเธอน่าจะกลับบ้านนะสาวๆ” Big Irwinเอ่ยในขณะที่ยกมือหนาขึ้นโอบเอวสาวน้อยผมสีบลอนด์ด้านข้าง พร้อมเสียงชัทเตอร์ดังราวกระซิบเป็นอันเสร็จสิ้นไปหนึ่ง แน่นอน มันไม่ได้ความว่าเป็นการเสร็จภาระกิจพบปะประชาชน

     

    “ฉันเห็นมีคนอยู่ในบ้านตั้งแต่เมื่อเย็น นึกว่าคุณกลับมาก่อนหน้านี้นานแล้วแอช  โอ้ย มือคุณใหญ่ที่สุดเลย!!>////<

    เด็กหญิงตัวอวบด้านหลังคว้าหมับไปยังฝ่ามืออุ่นๆของชายหนุ่ม  เขาไม่ได้ขัดขืนอะไร ราวกับว่ามันเป็นเรื่องปรกติ มิหนำซ้ำยังกำมือหนาตอบกลับพร้อมกับมองหากล้องตามความต้องการของแฟนๆ ทุกอย่าง
    หน้าบ้าน
    Irwinอลหม่านสักพักใหญ่เกือบครึ่งชั่วโมง ไม่มีการปฎิเสธใดๆ ก่อนที่ลุคจะเป็นฝ่ายพูดว่าอีกไม่กี่นาทีต่อไปนี้ เขาจะเดินทางกลับไปยังบ้านของตนบ้างและแน่นอนว่าอยากเจอพวกเธอบรรดาแฟนๆที่นั่นด้วย กองทัพ5sosขนาดย่อมจึงเริ่มกระจายตัวแม้ว่ารถตู้ของหนุ่มๆยังไม่ทันสตาร์ทเครื่องอีกรอบ

     

    พวกเริ่มเธอถกเถียงว่าใครเป็นคนได้รถแทกซี่ก่อนเหมือนลูกเจี้ยบแตกฝูง

     

    ใครๆก็รู้ว่าลุคฮอทที่สุดในวงเลยก็ว่าได้...... นัยน์ตาสีฟ้าของเขาสุกใสเหมือนก้อนน้ำแข็งบริสุทธิ์

     

     

    “ฉันไปก่อนนะเว้ย อย่าลืมนัดเที่ยวของพวกเราล่ะแอชตันเออร์วิน!”เฮมมิงส์ร้องเตือนถึงทริปสั้นๆที่ถูกวางแผนเอาไว้  เด็กชายใช้ขายาวกว่าเมตรครึ่งดีดตัวขึ้นยังเบาะด้านหลังข้างในอย่างคล่องแคล่วเป็นคนแรก ดวงตาสีฟ้ากรอกส่ายไปมาเมื่อสังเกตเห็นเพียงไมเคิลที่กำลังเดินหมุนตัวกลับมาที่รถ เสียงหนาเร่งตะโกนถามหาสมาชิกที่เหลือ

    “ไมค์ ตามคาลัมออกมาดิ้!!

     

    “จะให้ตามออะไร ไม่เห็นอยู่ในสนามหญ้าเลย เมื่อกี้ก็อยู่ในบ้านนี่ ฉันเห็นไอ้หมอนั่นแหย่เบ็นอยู่” ไมค์ว่า เขาวิ่งกลับเข้าไปยังด้านในรั้วอีกรอบอย่างไม่แน่ใจนัก สิ่งที่เห็นมีเพียงแอชตันที่กำลังเรียงกระเป๋าสองสามใบอย่างทุลักทุเล “คาลัมล่ะ!!? แอชนายเห็นมันมั้ย – จอร์จกลัวรถติดใจจะขาดละ มันหายไปไหนวะเนี่ยะ”

     

    “มัวคุยกับสาวๆตรงรั้วมั้ง ฉันเพิ่งไล่คาลัมออกไปเอง  เบ็นสมิธเห่าเขาจนหูฉันจะหนวกแล้ว ให้ตายสิ ”

    คำตอบของแอชตันทำให้ไมเคิลตัดสินใจยกมือถือที่มีแบตเพียง35%ขึ้นกดเลืกเบอร์ของจอมแสบประจำวง  เสียงรอสายและเพลงเรียกเข้าที่คุ้นหูทำเอาคนทั้งสองที่ยืนเก้กังถึงกับงุนงงเมื่อคนที่วิ่งเข้าบ้านมากลับไม่ใช่ คาลัม ฮู้ด

     

    “พี่ฮะ!!!!!”  เสียงแหกพร่าของเด็กชายตัวเล็กตะโกนลั่น เขาวิ่งพรวดเข้ามาพร้อมถุงใส่อาหารสองสามใบ ทั้งหมดหกลงพื้นหญ้าจนเกือบเกลี้ยงเมื่อแฮร์รี่ เออร์วินพยายามกระโดดเกาะพี่ชายของตนราวกับว่าเขายังอายุ5ขวบ แอชตันลืมเรื่องของคาลัมและเขาก็กำลังคิดถึงคนในครอบครัวทันทีที่มองเห็นน้องชาย

    “บีกเกิ้ล!!!   ฉันกำลังหาทางติดต่อนายอยู่พอดี เพิ่งเลิกเรียนพิเศษรึไง!!?? ไหนดูสิ นายสูงกว่าฉันแล้วใช่ไหมเออร์วิน นายมันเท่ห์เป็นบ้าเลย!!

    แอชตันยกมือขึ้นยีผมสีบลอนเข้มไปมา ..ความจริงแฮร์รี่ก็ยังคงตัวเล็กเหมือนเดิม ทว่า เขาคงอยากได้ยินจากปากคนอื่นว่ามีส่วนสูงที่พุ่งขึ้นจากหลายปีก่อนมากกว่า ไมเคิลชูแขนเพื่อไฮไฟว์กับเด็กชายอย่างสนิทสนม เขายิ้มกว้างอย่างใจดี แฮร์รี่คือมือดวลเกมส์วินนิ่งของไมค์ พวกเขาเคยเล่นมันด้วยกันที่บ้านแอชตันเมื่อครั้งยังเป็นแบคอัพให้กับวงอื่นๆอยู่

    “พี่คนที่เหลือละฮะ “ แฮร์รี่เลิกคิ้วถามไมเคิลที่นั่งยองๆลงเก็บลูกพีชและมันฝรั่งสด มันกลิ้งกระจายออกไปรอบๆ คนหนุ่มหยุดชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที เขากำลังจะติดต่อหาใครบางคนอยู่ เขาเริ่มควานหามือถือในกางเกงตัวฟิต

    แต่ยังไม่ทันที่ไมเคิจะกดสายโทรออกอีกครั้ง เสียงเอะอะโวยวายที่คุ้นหูก็ดังขึ้น

     

    เห้ย นี่ นั่นมันบ้านของเขานะ เธอเข้าไปไม่ได้ อยากถ่ายรูปกับฉันก็ได้ถ่ายแล้วไง เข้าใจหน่อยสิ นี่!! เดี๋ยวหยุดก่อน!!

    เสียงของคาลัม ฮู้ดร้องลั่น  โดยมีผู้หญิงผมดำสนิทเดินนำลิ่วอยู่เบื้องหน้า เธอมีร่มครอบหัวเอาไว้พร้อมกับชุดหลวมโคร่ง มืออีกด้านเต็มไปด้วยถุงกระดาษและถุงพลาสติกใส่นมแกลลอนยักษ์ สุภาพสตรีแสนพิลึกในสภาพน่าขันกลายเป็นเป้าสนใจเวลาเพียงเสี้ยววินาที มีสาวๆจำนวนหนึ่งที่ยืนรอแทกซี่พยายามจะเดินข้ามเข้ามาในรั้วบ้านด้วย บ้างก็เอะอะว่าทำไมพวกเธอไม่ได้เข้าไปหาหนุ่มๆบ้าง บ้างก็ยกมือถือมาถ่ายรูปแต่สุดท้ายก็ถูกจอร์จที่เด้งผึงจากรถตู้ลงมากั้นด้วยสองแขนหนา

     

    “แอชตัน เธอเป็นแฟนคลับนายรึปล่าว นั่น เธอเดินไปหานายแล้ว!!! ดูสิ ฉันถ่ายรูปกับเธอไปตั้งหลายช็อตแต่ดันไม่ฟังกันเลย!

    คาลัมหยุดวิ่งแม้ปากเขายังคงบ่นไม่ยอมหยุด คิ้วเข้มขมวดเป็นปมใหญ่ และลุค เฮมมิงส์ก็กลายเป็นตัวล่อให้สาวๆอีกสามสี่คนด้านนอกสงบอีกครั้งด้วยการลงมาจากรถตู้เพื่อยืนโชว์เป็นรอบที่ล้าน เขาถ่ายรูปไปมากกว่าร้อยรูปแล้วในวันนี้

    “เดี๋ยว ๆ เธอเป็นแฟนคลับสินะ ใจเย็นๆ หรืออยากจะถ่ายรูปกับพวกเราทุกคน” ไมเคิลยืนเต็มความสูง เขาอยู่ด้านในบ้านเหมือนแอชตัน สองมือชมพูที่กำมันฝรั่งเอาไว้แน่นอ้ากว้างออกคอยกั้นเด็กสาวที่กำลังจ้ำอ้าวแบบไม่มองเส้นทางเข้ามาหา เธอไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นเพราะร่มสีดำหุบลงมาปิดกั้นใบหูแล้วใบหน้าจนหมด

    ดูเหมือนว่า แฮร์รี่ เออร์วินจะรู้ดีกว่าใคร

     

    “นี่ยัยสัตว์ประหลาดหยุดวิ่งสักทีเถอะน่า!!

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×