คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ๐ (HanSeo) ๐ Love Or Not ? 2 (complete)
Love Or Not ? 2
เวลาร่วงเลยมากกว่า 2 เดือนแล้ว ที่ลู่ฮานเข้ามาพัวพันในชีวิตเธอ และมันก็ทำให้เธอมั่นใจว่าเธอ หลงรักเขา
เข้าจริงๆ ไม่เคยมีใครทำให้เธอยิ้ม หัวเราะ และ ใจเต้นได้ทุกๆครั้งที่ได้เจอหน้า
“ลู่ฮาน นายกลับไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวซอจะรอ.. เอ่อ เพื่อนก่อนน่ะ”
วันนี้เขามาหาซอฮยอนที่ร้าน โชคดีที่วันนี้ลูกค้าไม่เยอะเลยทำให้เขาได้นั่งคุยกับซอฮยอน ถึงแม้จะผิดจุดประสงค์ที่เขาตั้งใจว่าจะชวนซอฮยอนไปเดทก็ตาม ...
“ไม่เอาอ่ะ ลู่อยากเดินไปส่งซอที่บ้านนะ” เขาทำเสียงอ้อน จริงๆแล้วเขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆเธอให้นานกว่านี้ก็แค่นั้นเอง
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเพื่อนซอที่อยู่บ้านใกล้ๆ กันก็มาแล้วล่ะ” เธอพยายามพูดให้ลู่ฮานกลับไปก่อน ที่เพื่อนของเธอจะมาถึง
แต่ก็คงช้าไปนิด เพราะพูดจบประโยค ฮิมชานก็เดินเข้ามาพอดี “ซอกลับบ้าน... ไอลู่ฮาน มึงมาทำอะไรที่นี่” ฮิมชานพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตร
“เอ่อ ฮิมชาน ซอว่าเรากลับกันเถอะนะ ปะ ป่านนี้คุณป้ารอละ” เธอพอจะรู้อยู่บ้างว่าฮิมชานมีเรื่องกับลู่ฮาน เพราะเธอเองที่เป็นคนถามลู่ฮานเกี่ยวกับวันที่เขาวิ่งเข้ามาหลบอยู่ใต้เคาท์เตอร์ในร้าน
“เดี๋ยวก่อนซอ เธอรู้จักกับมันหรอ” เสียงของเขาฟังดูน่ากลัว
“อะ อื้ม เพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่เดือนน่ะ”
“ถ้ากูสนิทกับยัยนี่แล้วจะทำไมวะ มึงก็เป็นแค่เพื่อน” ลู่ฮานตะโกนออกไป ก่อนจะได้รับค้อนทางสายตาจากยัยจิ้มลิ้มของเขา ‘นายเงียบปากไปเลย’ และนี่ก็คือสิ่งที่เขาอ่านได้จากปากซอฮยอน
“เออ กูอ่ะเพื่อนแล้วมึงอ่ะใคร” ดูเหมือนฮิมชานจะอดไม่ไหวกลับท่าทางที่ดูกวนประสาทของลู่ฮานเท่าไหร่แล้ว แต่เพราะซอฮยอนหรอก ที่ยังจับมือเขาไว้อยู่
“กูก็อนาคตแฟนของยัยจิ้มลิ้มที่จับมือนายอยู่นั่นไง”
“หยุดๆทั้งสองคนเลย ฮิมชานนายไปโกรธอะไรลู่ฮานนักหนาเนี่ย ฉันรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว คงต้องให้พวกนายนั่งเคลียร์กันแล้วล่ะ ไม่งั้นฉันต้องปวดหัวตายแน่ๆ” เธอพูดพลางดึงมือทั้งสองไปนั่งที่โต๊ะ
“มีไรก็ว่ามา กูไม่มีเวลามากขนาดนั้นนะ” ลู่ฮานเอามือพาดขอบเก้าอี้แล้วเอนตัวไปข้างหลัง มันดูกวนโอ๊ยคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมาก ซึ่งก็เป็นใครไม่ได้นอกจากนายฮิมชาย
“กูเห็นแก่ซอนะ ถ้าไม่มีซอมึงรู้ตัวไว้เลย วันนี้มึงไม่ได้นอนที่บ้านแน่ แต่จะเป็นในโลงแทน” เขาพูดอย่างใจเย็น “พวกมึงใช่มั้ย ที่ส่งคนไปรุมเพื่อนกู”
“เพื่อนหรือลูกน้องวะ ฮ่าๆ” เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ ก็มันเป็นนิสัยเขานี่นา “กูจะพูดครั้งสุดท้าย กูไม่ได้ส่งใครไปทำอะไรพวกมึงทั้งนั้น”
“งั้นหมาตัวไหนวะ คนของกูบอกว่าพวกของมึงทำร้ายมัน” ฮิมชานพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของลู่ฮาน ก่อนจะเงื้อมือหมายจะชกลู่ฮาน
“ฮิมขานนายใจเย็นๆก่อนได้มั้ย ลู่ฮานนายหยุดทำท่าทางแบบนั้นได้แล้ว ไม่งั้นคนที่จะต่อยนายไม่ใช่ฮิมชานแต่จะเป็นฉันแทนนะ” ซอฮยอนพูดอย่างเหลืออด ถ้าเป็นเธอ เธอก็คงจะทำแบบที่ฮิมชานทำนี่แหล่ะ
“ขอโทษ” ลู่ฮานหันไปทางซอฮยอนแล้วพูดด้วยเสียงอ่อยๆ ก่อนจะหันไปพูดกับคนตรงข้าม “กูบอกแล้ว ว่าพวกกูไม่ได้ทำ แล้วพวกกูทุกคน ไม่เคยใช้ให้ใครไปออกหน้าแทนพวกกู มึงก็เคยต่อยกับพวกกูนี่หว่า เคยมั้ยที่พวกกูจะไม่ไป แล้วส่งคนอื่นไปแทน” ลู่ฮานพูดยืดยาว คนฟังถึงกับนึกขึ้นได้
ทุกครั้งที่มีเรื่องกับลู่ฮาน เซฮุน ดีโอ คริส และ ไค ต่างก็ออกหน้าเองทั้งนั้น ไม่มีครั้งไหนที่มีเรื่องแล้วพวกนี้จะส่งคน มาสู้แทนเลย
“มันก็จริง” ฮิมชานนั่งลง “เออ งั้นเรื่องวันนั้นกูก็ชอโทษละกัน”
“ไม่เป็นไร ถ้ามึงอยากให้พวกกูช่วยสืบว่าใครเป็นคนไปทำร้ายเพื่อนมึงก็บอกละกัน เดี๋ยวพวกกูช่วยเอง”
“อืม ไปซอกลับกันเถอะ” ฮิมชานว่าพลางจับมือซอฮยอนพลางดึงไปทางประตู
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูไปส่งยัยจิ้มลิ้มเอง มึงกลับไปก่อนเถอะ” ลู่ฮานดึงมืออีกข้างของซอฮยอนไว้ก่อน
“ไม่เว้ย ยัยนี่ต้องกลับกับกูครับ” ฮิมชานพูดแล้วหันมายิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์
“เฮ้อ พวกนายนี่จะคุยกันดีๆได้มั้ยเนี่ย” เธอพูดอย่างหัวเสีย เหมือนจะดีกันอยู่แล้วเชียว “ลู่ฮาน วันนี้นายกลับไปก่อนเถอะนะ วันนี้มันดึกแล้ว” ก่อนจะเขยิบเข้าไปกระซิบใกล้ๆหูว่า “ฉันเป็นห่วง”
“นี่ กระซิบอะไรกัน” ฮิมชานรีบเอาตัวมาแทรกตรงกลางระหว่างเขาและเธอ
“เปล่า” ซอฮยอนยิ้มเล็กๆ ให้กับลู่ฮาน
“กลับบ้านดีๆล่ะ เดี๋ยวคืนนี้โทรหานะ” ลู่ฮานพูดอ้อนๆ ก่อนจะหันไปแลบลิ้นใส่ฮิมชาน และวิ่งออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
- Himchan –
พวกคุณคงคิดว่าผมคิดอะไรบางอย่างกับยัยซอจู นี่สินะ ขอโทษนะครับ คุณคิดผิด ^^
ผมกับซอฮยอนน่ะ เราเป็นเพื่อนกันจริงๆ และผมก็มีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว ... ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกเหมือนผมรึเปล่านี่สิ ผมกับซอฮยอนน่ะ เราเป็นเพื่อนบ้านกัน อยู่โรงเรียนเดียวกัน แถมยังห้องเดียวกันอีกต่างหาก
เราเป็นเพื่อนบ้านที่เหมือนจะอยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้ว มีเรื่องอะไร ยัยนี่วิ่งแจ้นไปฟ้องแม่ผมก่อนทุกทีเลย วันที่ผมวิ่งไล่ไอลู่แล้วบังเอิญไปเจอยัยซอจูในร้านน่ะ ผมหัวใจแทบวาย กลัวยัยนี่เอาไปฟ้องแม่ แต่คราวนี้ทำไมยัยนั่นถึงไม่ฟ้องก็ไม่รู้ ซึ่งก็ดี เพราะผมจะได้ไม่โดนลดค่าขนม ฮ่าๆๆ
“ซอจู ตอบฉันมาตามตรงนะ แกชอบไอลู่หมาหันนั่นใช่มั้ย”
“ไอบ้าชาน ไปเรียกซะชื่อเขาเสียหมด” เธอหันมาตีเบาๆ ที่ต้นแขนผม ผมหมั่นไส้มันนี่นา ผู้ชายบ้าอะไรอย่างกับตุ๊ด หน้าอ่ะ โคตรหวานเลย ตัวก็เล็กกะจึ๋งนึง แต่แรงตอนมันต่อยโคตรหนักเลย “แกว่า ลู่ฮานเค้าดีมั้ยอ่ะ”
“อย่าบอกนะ ว่าเธอชอบมันน่ะ” ไม่อยากจะเชื่อเลย ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ ยัยนี่ไม่เคยสนใจผมอ่ะ เสียใจนะ “มันก็ดีแหล่ะ” พูดแล้วขนลุกว่ะ “แกรู้จักบริษัทยอนซังซึง มั้ยล่ะ” ผมเงียบ ยัยนี่คงไม่รู้จักสินะ “บริษัทที่ส่งออกอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของประเทศน่ะ”
“อ้อๆ รู้ละ ทำไมล่ะ” กว่ายัยนี่จะอ๋อได้ เฮ้อ
“ก็นั่นน่ะ คือบริษัทของพ่อไอลู่ฮานน่ะสิ” นี่ล่ะคือความจริง ตอนที่ผมเห็นมันอยู่ในร้านกับซอฮยอน ผมยังเอะใจเลยว่าลูกคนรวยอย่างมันมาทำอะไรที่ร้านอาหารเล็กๆ
“จริงดิ” ดูตาของเธอสิ จะโตไปไหน 5555555
“โกหกมั้ง ไม่เชื่อ พรุ่งนี้เธอก็ลองถามมันดูสิ”
- Seohyun –
กริ๊งงงง
“ฮัลโหล ว่าไง” ลู่ฮานโทรมาละ คิๆๆ
(“ก็คิดถึงเลยโทรมาน่ะสิ”) อีตาบ้า เขินนะเฟ้ย จริงๆแล้วหมอนี่โทรมาบอกคิดถึงฉันก่อนนอนตลอดๆ ถ้าไม่โทร เขาก็มักจะส่งข้อความมาเสมอ
“อะ อื้ม -//-”
(“พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันป่ะ เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าไปเดทถึงจะถูก”)
“เดทอะไรล่ะ ขี้ตู่นี่นา” นายนี่ชวนฉันเดทล่ะทุกคนๆ “ว่าแต่อยากไปไหนล่ะ”
(“อยากไปก็บอกมาเถอะ ฮ่าๆๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมพาไป พรุ่งนี้ 9 โมงเจอกันหน้าร้านนะครับ”
“อ่าฮะๆ” ฉันเอาไปไว้ไหนเนี่ยยย
(“ว่าแต่ทำไมเงียบๆล่ะ ทำอะไรอยู่น่ะ ถ้าไม่สนใจกันจะงอนละนะ”) ผู้ชายจริงๆใช่มั้ยนายเนี่ยน่ะ -3-
“เปล่า กำลังหาของอยู่น่ะสิ ไม่รู้เอาไปวางไว้ตรงไหน เพิ่งจะถือเมื่อกี๊เอง” หาของจริงๆนะ เพิ่งถือรีโมตเมื่อกี๊ แล้วดันลืมว่าเอาไปวางไว้ตรงไหน ฉันล่ะปวดหัวกับตัวเองจริงๆเลย
(“เบลอนะ”)
“ไม่ได้เบลอ แค่ลืมเฉยๆ บู่วๆ”
(“เบลอว่ารักแถบน่ะ ฮ่าๆ”) เดี๋ยวนะ อะไรคือเบลอว่ารักแถบ จะรักแถบทำไม แถบอะไร
เอ๊ะ ... แบบว่ารักเธอ เฮ้ยยยย นายนี่บอกรักฉันงั้นหรอ 0///0
“อะ อะไรของนาย ไปนอนไปเพ้อเจ้อจริงๆเลย” แต่ฉันก็เบลอเหมือนกันนะ -//-
(“ฉันรู้นะว่าเธอเข้าใจน่ะ แล้วฉันก็หมายความอย่างนั้นจริงๆนะ ยัยจิ้มลิ้มของลู่ฮาน”) โอ้ยยย เขินค่ะ เขิน (“ฝันดีนะครับ คนดีของผม”)
“อื้ม ฝันดีเหมือนกันนะ นายหน้าหวาน...” ของซอฮยอน ฉันไม่กล้าพูดคำหลังออกไปหรอก
เก้าโมงเช้า ลู่ฮานยืนอยู่หน้าร้านรอซอฮยอนอย่างใจจดใจจ่อ ก็นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาจะได้ไปเดทกับซอฮยอนน่ะสิ แต่ถ้าเดทกันที่ร้านอาหารของแม่เธอนี่นับครั้งไม่ถ้วนเลยล่ะ
“มานานรึยังเนี่ย ขอโทษนะพอดีกะเวลาออกจากบ้านผิดน่ะ”
วันนี้เธอใส่เดรสสีฟ้าอ่อนๆ ลู่ฮานยืมยิ้มจนซอฮยอนต้องตีแขน เพราะเธอเขินมาก ปกติเธอก็ไม่ได้ใส่ชุดเดรสสีหวานๆอย่างนี้บ่อยเท่าไหร่ นั่นยิ่งทำให้เธอเขินขึ้นไปอีก หลังจากที่บอกแม่ว่าจะไปเที่ยวกับลู่ฮาน แม่เธอก็รีบเลือกเสื้อผ้าให้ ดูแม่เธอจะปลื้มนายคนนี้มากๆเลยล่ะ
“ไม่เป็นไรหรอก น่ารักดีนะ ผมชอบ” คนฟังถึงกับไปต่อไม่เป็น เพราะมัวแต่เขิน “ไปเถอะ เดี๋ยวไปถึงช้า ผมอยากให้ซอรู้จักกับใครคนนึงนะ” พูดเสร็จเขาก็จับมือพาซอฮยอนขึ้นรถ
“นี่รถนายหรอ” รถสปอร์ตสองที่นั่ง นั่นยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่า สิ่งที่ฮิมชานบอกเธอเมื่อวานนั้นคือเรื่องจริง เธอไม่โกรธที่เขาไม่บอกเธอหรอก เพราะเขาก็คงมีเหตุผลของเขาล่ะมั้ง
“อื้ม ทำไมหรอ” พูดเสร็จ พอเขาเห็นซอฮยอนยังไม่ได้คาดเข็มขัด เขาก็เอื้อมมือเข้ามาหมายจะคาดเข็มขัดให้ แต่นั่นก็ทำให้ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ใกล้กันเพียงแค่คืบเดียว
“อะ เอ่อ คาดเข็มขัดก่อนเถอะ จะได้ไปเลย” ตาบ้า ยื่นหน้าเข้ามาเองแล้วยังจะมาเขินอีก ฮ่าๆ ซอฮยอนคิดอยู่ในใจ แต่ก็แอบยิ้มๆ ที่เขาทำท่าทางแบบนั้น มันดูน่ารักดีน่ะ
หลังจากออกเดินทางมาได้ซักพักก็ถึงที่หมาย มันเป็นสุสานขนาดใหญ่
“เอ่อ เรามาทำอะไรกันที่นี่หรอ” เมื่อวานเขาบอกว่าจะพาไปเดท แต่มาเดทที่สุสานเนี่ยนะ
“ผมไม่ได้พาคุณมาเดทที่นี่หรอกน่า แค่อยากให้เจอใครบางคนน่ะ” เขาจับมือของเธอแล้วพาเดินเข้าไปในที่แห่งนั้น ก่อนจะหยุดเดิน “นี่คือ สุสานของคุณแม่ผมเอง เธอเป็นคนที่ผมรักมาก มากกว่าใครในโลกนี้ ผมไม่เคยพาใครมาเจอท่านเลย ยกเว้นคุณนะ ซอฮยอน” ลู่ฮานไม่ได้พูดอย่างเดียว เขาล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“นี่นาย...” เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ พร้อมกับยื่นแหวนวงหนึ่งให้ มันเป็นแหวนที่แม่เขาเลยให้เขาไว้ตอนเด็กๆ และเขาอยากจะให้แหวนวงนี้กับคนที่เขารักมากที่สุด
“เป็นแฟนกับผมนะ”
“เอ่อ..” ซอฮยอนอึ้ง เพราะไม่คิดว่าเขาจะมาขอเธอเป็นแฟนต่อหน้าสุสานของแม่ของเขาเอง
“คุณคงไม่ได้รู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกสินะ” เขาทำหน้าเศร้าลง “งั้นเรากลับกันเถอะ เมื่อกี๊ถือว่าผมไม่ได้พูดอะไรละกัน ผมไม่อยากให้คุณลำบากใจเพราะผม” พูดเสร็จเขาก็ทำท่าจะเดินออกไป
“คะ ใครบอกล่ะ นายนี่ชอบคิดเอาเองจริงๆเลย” เธอพูดพลางหยิบแหวนจากมือแล้วสวมเข้าที่ นิ้วนางข้างซ้าย ก่อนจะชูให้เขาดู “เข้าใจรึยัง”
“จริงนะ คุณยอมเป็นแฟนกับผมจริงๆนะ” เขาทำตาโตราวกับว่าสิ่งที่เขารอคอยมาทั้งชีวิตมันบรรลุผลแล้ว
“อื้ม” เธอยิ้มกับท่าทางที่ดีใจเหมือนเด็กได้ของขวัญของเขา คนที่ทำให้ใจเธอเต้นได้เพียงแค่เจอกันครั้งเดียว
“แม่ครับ ผมพาลูกสะใภ้มาหาแม่แล้วนะ แม่ดูสิ ตาเธอ หน้าเธอ แม้แต่นิสัยของเธอยังเหมือนแม่เลย แล้วอย่างนี้ผมจะไม่หลงรักเธอได้ยังไงล่ะ” เขาพูด พลางดึงตัวซอฮยอนให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“นี่ นาย ถือโอกาสเลย” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืน “คุณแม่คะ ฝากตัวด้วยนะคะ หนูจะดูแลลู่ฮานแทนคุณแม่เองค่ะ หนูจะรักเขาจนกว่าเขาจะเลิกรักหนูเลยค่ะ” เธอพูดไปยิ้มไป เขาเองก็ยิ้มตามเหมือนกัน
เขาไม่รู้หรอกว่า ทำไมเวลาสั้นๆ เขาถึงมอบใจของเขาให้ผู้หญิงคนนี้อย่างง่ายดายนัก อาจจะเป็นเพราะเธอ เหมือนแม่ของเขา ทั้งนิสัยที่ดูจะขี้อ้อน และ มีเหตุผลในเวลาเดียวกัน มันคือสิ่งที่เขาประทับใจเหมือนกับที่แม่ของเขาเคยทำกับพ่อ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
-------------------------------------------------------------------
กรี๊ดดด จบแล้วค่าาา เอามาลงให้ก่อน ไม่รู้ถูกใจกันรึเปล่า
เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรเลยเนอะ ไว้เดี๋ยวแต่ตอนสเปเชี่ยลละกันเนอะ 555555
ส่วนสาวคนไหนที่ฮิมชานขอบ รอติดตามกันนะคะ อาจจะยาวกว่าเรื่องนี้ด้วย
ไรเตอร์เป็นคนเวิ่นเว้อง่ะ มันเลยไม่จบตามที่คิด เรื่องนี้ก็พยายามตัดออกไปแล้ว
บทสวีทน้อยเนอะ ยังไงเรื่องต่อไปจะพยายามใส่บทสวีทเยอะๆนะคะ
ขอบคุณทุกๆคนที่เม้นนะคะ มันทำให้ไรเตอร์มีกำลังใจแต่งมากๆๆๆๆๆๆเลย
เรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องของใครนะ 0.0
ปล. ตัวหนังสือเล็กไปรึเปล่าคะ อ่านง่ายรึเปล่า
พอดีไม่มั่นใจว่า จะใช้ตัวหนังสือขนาดไหน
ตัวเล็กไป ใหญ่ไปยังไงก็บอกได้นะคะ จะได้ปรับให้ค่ะ
ความคิดเห็น