คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : หมดสติ
ขาของฉันทรุดลงพื้นทันที เมื่อเห็นร่างของลิน ที่นั่งแน่นิ่งอยู่บนพื้น เลือดไหลออกจากจมูกเล็กๆของเธอ ! เกิดอะไรขึ้น! แล้วเกมส์กับนีเวียร์ล่ะ!! ฉันเขย่าร่างเล็ก ๆ ของเธอ พรางเรียกชื่อลินไปด้วย แต่เธอไม่ได้สติอะไรเลย
“เกมส์ ! นีเวียร์ !” เสียงของฉันตะโกนดังลั่น สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความว่างเปล่า นี่มันไม่ตลกเลยนะ !
ลินได้แต่แน่นิ่งไม่ไหวติง ลมหายใจของเธอแผ่วลง เหมือนจะหยุดหายใจ
“อยากได้เพื่อนเธอคืน ก็แลกเปลี่ยนสะสิ ...” เสียงของผู้หญิงดังมาจากด้านหลัง สัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบที่ไหลแล่นจากหัวสมองจนถึงไขสันหลังทันที มันเสียววาบเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์ยืนอยู่! สายตาเหลียวไปมองนิดหน่อยอย่างกังวลใจ เห็นเพียงเงาดำตะคุ่มยืนอยู่ ฉันได้แต่กลั้นหายใจไม่กล้าจะหันหลังไปมอง ได้ตาหลับตาลงด้วยความกลัว ฉันไม่น่าเข้ามาตั้งแต่แรกเลย ..
“ถ้าเธอแลกเปลี่ยน ฉันจะคืนเพื่อนเธอทั้ง 3 คนให้” เงาสีดำที่ฉันเหลือบมองเมื่อครู่ ขยับเข้ามาใกล้จนเสียงกระซิบใกล้หู ขนของฉันลุกไปทั่วตัว มือไม้ชุ่มเหงื่อ ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พบเจอ ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน
“พาอนันต์มาหาฉัน แล้วฉันจะเลิกรังควานเธอ...” อนันต์คือใคร ..(?)
“....”
“ฉันจะอยู่กับเธอ...”
"..."
"..."
.
.
.
ฉันลืมตาขึ้นมา ฉากสุดท้ายที่ฉันเห็น คือ เงาตะคุ่มสีดำที่ยืนมองหน้า มันจ่อใกล้เสียจนร่างกายแข็งทื่อ แม้แต่เสียงกรี๊ดยังไม่สามารถเค้นออกมาได้ รู้เพียงว่านั่นเงาที่ไร้ใบหน้านั่น เป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน!
หญิงสาวสลบไป ในเสียงสุดท้ายที่ได้ยิน มีเพียงคำว่า ‘ฉันเตือนเธอแล้ว ว่าอย่าเข้ามา...’ ดังก้องอยู่ในหู...
ข่าวรายงานว่ามีนักเรียนสองคนหายตัวไป พบเพียงเด็กหญิงสองคนที่นอนสลบอยู่ในหอพักนักศึกษาเก่าของโรงเรียนนึง นักเรียน 4 คน ที่มาแจ้งข่าวเพียงว่า ได้เล่นเกมบางอย่างกันในคืนนั้นและนัดเจอกันที่ร้านตัดผมเก่า ที่อยู่ในหอพักชาย พวกเขาได้นัดเจอกันในเวลา 22.00 น. แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงกลับไม่มีใครกลับมาเจอกับพวกเขาเลย ขณะนี้เด็กหญิงทั้งสองคนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ นี้ ส่วนนักเรียนชายอีกสองคนที่หายไป ตอนนี้กำลังค้นหาตัวอยู่ค่ะ ...
ปิ๊ปป..
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งปิดทีวีทันทีเมื่อรายงานของนักข่าวจบลง พรางหันไปมองผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยความเหนื่อยใจ
“อนันต์ ถ้าพวกนั้นสืบเจอเรื่องเมื่อหลายปีก่อนเราจะแย่เอานะ”
“ไม่เป็นไร กะแค่เด็กหายไปสองคน มันคงไม่สืบเรื่องอะไรต่อหรอก..” อนันต์ขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป
“ถ้ามันได้อย่างนั้นก็ดีน่ะสิ...” ชายหนุ่มอีกคนหยิบบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นสูบ พรางพ้นควันสีขาวคลุ้งไปทั่วห้อง สีหน้าของเขาดูเป็นกังวลเมื่อนึกถึงเรื่องการตายของผู้หญิงสองคนที่ตายในหอพักเก่า ทั้ง ๆ ที่จะโดนทุบทิ้งอยู่แล้ว ไอพวกเด็กเวร !
พื้นที่หอพักเก่าถูกจัดให้เป็นพื้นที่ห้ามเข้า เพื่อหาร่องรอยที่เด็กหนุ่มสองคนหายไป และปัจจัยให้เด็กสาวสองคนนอนหมดสติในห้องพัก 4013 ภายในห้องพบเพียงเส้นผมสีดำปลิวเกลื่อนเต็มห้องไปหมด ตำรวจคิดว่าเป็นผมของนักเรียนหญิง แต่เมื่อไปตรวจดีเอ็นเอ กับไม่ตรงกันเลย กลายเป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ผมนั้นเป็นผมของผู้หญิงสองคน ที่น่าจะอยู่ในห้องนั้นด้วยตอนเกิดเหตุ ... เงาดำยืนอยู่ตรงมุมห้อง พรางยิ้มแสยะที่มุมปากก่อนจะเลือนหายไป ทิ้งไว้เพียงไอเย็นเฉียบปกคลุมห้องจนตำรวจหนาวสันหลังวาวไปตาม ๆ กัน ....
..................
“พวกเธอถูกพักการเรียนชั่วคราว โชคดีที่สอบเสร็จแล้ว พวกเธอไม่ต้องมาเรียน รอเปิดเทอมอีกทีแล้วกัน” คำขาดของผู้ที่เรียกว่าเป็นหมาป่าแห่งโรงเรียน ยื่นใบกระดาษสีขาวให้นักเรียน 4 คนที่ยืนหน้าเรียงกัน ในห้องปกครอง
“แล้วมณีรัตกับลินรดาล่ะคะอาจารย์” วิภา สาวผมสั้นเอ่ยถาม
“พวกเขายังไม่ฟื้นไม่ใช่หรอ พวกเธอที่มีส่วนผิด ไปดูอาการพวกเขาที่โรงพยาบาลด้วยล่ะ” ผู้เป็นอาจารย์พูดจบ ก็สะบัดมือเพื่อบอกให้เราออกไปได้แล้ว หน้าตาสลดใจเดินออกจากห้องปกครอง พลันสายตาเพื่อนคนอื่นๆที่ยืนรอหน้าห้องก็กรูกันเข้ามา ถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แต่ตอบคำถามไปเลี่ยงๆ เรื่องนี้ เพราะผิดกันทุกคน
“พวกเราถูกพักการเรียน เจอกันตอนเปิดเทอมนะ” ต้นเดินออกจากวงนักเรียนกลุ่มใหญ่ทันที และคนอื่นอีกสามคนก็เดินตามๆกันออกมา ทิ้งให้นักเรียนพวกนั้นยืนทำหน้าสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หอพักกันต่อไป เรื่องการแยกกันในครั้งนี้ผมเป็นคนผิดเอง! แต่ทำไมไม่มีใครโทษผมเลย! ชายหนุ่มที่ฉลาดและดูมีความเป็นผู้นำสูง ได้แต่กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปที่มือจนเลือดซิบ ปากสีชมพูอ่อนถูกอาบไปด้วยเลือดที่ไหลออกมา
“ต้น นายเป็นอะไรน่ะ! อย่าทำอะไรแบบนี้สิ พวกเราผิดกันทุกคนนะ” ออมดึงมือที่เลือดไหลซิบออกมา มันมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
“ทั้ง ๆ ที่ฉันผิดแท้ ๆ ทำไมถึงยังไม่พูดว่าเป็นความผิดของฉันล่ะ!” เสียงตวาดทำให้เพื่อนอีกสามคนสดุ้งนิดหน่อย
“ต้น ...ที่พวกเราไม่พูด เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นความผิดของแก แต่ในส่วนนึง พวกเราก็ผิดด้วยที่ไม่ห้าม แล้วปล่อยให้เรื่องบ้า ๆ นี่เกิดขึ้น ถ้าจะผิดก็ผิดกันทุกคน เราแค่ไม่อยากจะซ้ำเติมแก เพราะมันเหมือนว่าเราก็ซ้ำเติมตัวเองด้วย เข้าใจหรือยัง!”
อาร์มเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดมาก และเขาเป็นคนที่เข้าใจคนอื่นเสมอ นั่นเป็นเหตุผมว่าทุกครั้งที่เขาพูด นั่นหมายถึงพูดในสิ่งที่คนอื่นต้องการฟัง ไม่ใช่พูดเพื่อให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิม ทุกคนต่างแสดงสีหน้ารู้สึกผิด และได้แต่คิดในใจว่าสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ ไปเยี่ยมก้อยกับลิน และหาตัวเกมส์กับนีเวียร์ให้เจอ!
.........
ในโรงพยาบาล มีเด็กหญิงสองคนนอนหยอดน้ำเกลือในห้องพิเศษ มีเพียงเสียงวัดชีพจรที่ดังเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจ ทั้งสองหมดสติมาเกือบอาทิตย์ เพื่อนอีกสี่คนที่มาเฝ้าไข้พวกเขาทุกวัน ได้แต่ภาวนาให้ทั้งสองรีบ ๆ ฟื้นขึ้นมา รีบๆตื่นเถอะ ก้อย ลิน..
“.. อื อ ...” เหมือนเสียงอธิฐานเป็นผล
หน้าลูกครึ่งที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มมีสติ นิ้วมือเล็ก ๆ ขยับไปมา ก่อนดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจะค่อย ๆ ลืมขึ้น เสียงดีใจของเพื่อนๆเริ่มดัง เพื่อปลุกสติที่เลือนรางของก้อยให้ชัดเจน
“ก้อย ๆ นี่พวกเราเอง !..” ใบหน้าเปื้อนยิ้มปนน้ำตาของพวกเขามองมาที่ฉัน หัวมันหนักแปล็บ ๆ
“อื ...อ” ฉันพูดไม่ค่อยออก เหมือนเสียงของฉันหายไป
“ยังไม่ต้องพูดอะไรนะ เดี๋ยวฉันจะไปตามหมอมาให้” ออมวิ่งออกจากห้องไป ทิ้งให้ต้นกับอาร์มอยู่กับก้อยไปพราง
“พวกเราดีใจนะ ฉันนึกว่าเธอจะไม่ตื่นซะแล้ว”
“ฉั น ..” ร่างบางหยัดตัวเองให้ค่อยๆ นั่ง มือใหญ่ของต้นกับอาร์มรีบเข้ามาพยุง
“ไม่เป็นนะ ค่อยๆ” สายตาเป็นห่วงของอาร์มมองมาที่ฉัน เมื่อเริ่มควบคุมสติได้ก็เริ่มมองไปรอบๆ ซึ่งก็เห็นร่างของลินกำลังนอนอยู่ข้าง ๆ
“ลินนน!” ฉันแทบโผเข้าไปหาลินที่นอนอยู่ มือใหญ่ของทั้งสองรีบเข้ามาห้ามฉันไม่ให้ขยับออกจากเตียง
“ห่วงตัวเองก่อนดิก้อย” เสียงดุๆของต้นทำฉันชงัก ได้เพียงหันไปมองลินที่นอนข้างๆอย่างเป็นห่วง บุคคลในชุดกราวสีขาวเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับออมและพยาบาลอีกคนนึง คุณหมอตรวจฉันก่อนจะบอกว่าฉันเป็นปกติดีแล้ว พักอีกสักวันก็กลับบ้านได้
“ดีแล้วนะที่หายดี” มือเรียวๆของออมกุมมือที่ไร้เรี่ยวแรงของฉันไว้ รอยยิ้มเปื้อนทุกข์นั่นมันอะไรกัน ...
เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องที่ผ่านมา ก็เริ่มจะจำได้เลือนรางถึงเรื่องก่อนที่จะมานอนในโรงพยาบาล
“แล้วเกมส์กับนีเวียร์หล่ะ?” สีหน้าทุกคนเริ่มถอดสีทันที คงมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆสินะ
“เกมส์กับนีเวียร์หายตัวไป เราเจอแค่เธอสองคนในห้องเท่านั้น เธอจำอะไรได้หรือป่าวก้อย เกี่ยวกับเรื่องคืนนั้น”
ออมที่เหมือนจะพูดลำบาก ต้นจึงไปเป็นฝ่ายตอบและถามก้อยเอง ถึงเรื่องเหตุการณ์ในคืนนั้น หน้าลูกครึ่งของก้อยเริ่มฉายแววโรจน์ ดวงตาเริ่มเบิกกว้าง นึกถึงเรื่องในคืนนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ ร่างกายฉันก็เหมือนรับรู้ถึงสัมผัสบางอย่างแปลก ๆ
“เง ...า เงาดำนั่น ...” สีหน้าก้อยซีดเผือดถอดความกลัวในจิตใจออกมาทางสีหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องในคืนนั้น หันไปมองหน้าอาร์ม ต้น และออม เขาต่างก็ทำหน้าประหลาด ถามเพียงว่าเงาดำคืออะไร
“คืนนั้น พวกเขาเข้าไปในห้อง 4013 ฉันจำได้แม่นถึงบรรยากาศแปลกๆที่ไหลผ่านออกมาจากหลังประตูนั่น พวกเขาไม่กลับออกมา มีเพียงความเงียบไร้เสียงฝีเท้านั่น ฉันจึงตัดสินใจจะเข้าห้องนั้นไป ความเย็นเฉียบที่ฉันสัมผัสกับประตูนั่นฉันจำได้แม่น ฉันเห็นลินนั่งนิ่งไม่ไหวติงเลยตอนที่ฉันเจอ ... แล้ว ..แล้ ..ว” ร่างบางนั่นน้ำตาไหลพรากออกมา พรางกอดแขนตัวเองที่กำลังสั่นเทาด้วยความกลัวกับภาพที่เห็นภายในห้องนั้น มันติดตาจนลืมไม่ได้ นึกถึงทีไร ขนทั้งตัวก็ลุกซู่ไปหมด
“แล้วอะไร..”
.
.
.
“ฉันเห็นผี!!” สีหน้าทุกคนบ่งบอกถึงความสงสัย พรางมองหน้าสลับกันไปมา เหมือนทำหน้าไม่เชื่อสิ่งที่ฉันพูด!
พวกเธอหาว่าฉันโกหกหรือไง !
..........................................
ความคิดเห็น