คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หญิงสาวผมดำ
ความปรารถนานำพาท่าน
ตกลงสู่ความมืดในจิตใจอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ข้าคือ......
พรวด!!!
ภายในห้องเล็กๆ ที่ถูกความมืดยามราตรีเข้าครอบคลุม เด็กสาวเจ้าของห้องผุดนั่งบนเตียงไม้เก่าๆเพียงหลังเดียวในห้อง เธอหอบหายใจแรงและกุมขมับด้วยความปวดหัว เหงื่อไคลไหลลงเปียกปอนไปทั่วร่างกาย ร่างเธอเริ่มสั่นสะท้านด้วยอาการหวาดกลัว ครั้งที่ 3 แล้วที่ฝันแบบนี้เด็กสาวคิดพลางกอดตัวเองแน่นขึ้นทุกขณะ ผมห่มสีครีมตกลงไปกองอยู่บนพื้นข้างเตียง เธอจึงคิดที่จะเอื้อมมือไปเก็บและเข้าสู่นิทรากาลอีกครา แต่ทว่า...
ครืดๆๆๆ
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามา เด็กสาวหยุดมือ เธอจ้องเขม็งที่ประตูไม้บานโต
ครืดๆๆๆ
เสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆไม่หยุด มันใกล้เข้ามาเสียงนั้นดังขึ้นถี่ขึ้น จนเด็กสาวขดตัวอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าหวาดกลัวและร่างกายที่กำลังสั่นเทา เธออยากจะให้ช่วงเวลาในยามราตรีหมดลงไปโดยเร็วที่สุด แต่ทว่าเวลากลับไม่เป็นใจมันผ่านไปอย่างเชื่องช้า
เสียงหยุดลงที่หน้าบานประตู เธอเงยหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยน้ำตาขึ้นมาอีกครั้งนัยน์ตายังแฝงแววหวาดกลัวไม่จาง เธอเม้มริมฝีปากเน้น แล้วกลั้นใจเอื้อมมือหยิบผ้าห่มขึ้นมา ทันทีที่ปลายนิ้วของเด็กสาวสัมผัสโดนเนื้อผ้าสีครีม เสียงทุบประตูก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แกร่กๆๆๆๆ
เธอคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมแล้วนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มสีครีม เฝ้าสวดภาวนาให้เสียงบ้าๆ กับเหตุการณ์ประหลาดนี่จบไปเสียที ดังสวรรค์มีตา ทุกอย่างสงบลง เด็กสาวเลิกผ้าห่มขึ้น เส้นผมสีดำเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เด็กสาวมองไปรอบห้อง ของตนแล้วสายตาก็ไปปะทะกับบานหน้าต่างที่เธอมั่นใจว่า มันลงกลอนไว้อย่างแน่นหนา แต่หน้าต่างกลับเปิดออกให้ลมยาวค่ำคืนพัดผ่านเข้ามาภายในห้องของเธอ ผ้าม่านสีขาวขุ่นปลิวไสวไปกับสายลม เสียงอื้ออึงของสายลมดังไปทั่ว เด็กสาวเริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นอะไรบางสิ่งนอกหน้าต่างนั่น กำลังมองเธอ
----------------------------------------
ยามเช้ามาเยือน ตลอดทั้งคืนเด็กสาวเอาแต่มุดอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอเจออย่างไม่คาดฝัน ร่างบางๆนอนขดตัวอยู่บนเตียง ผ้าม่านสีขาวขุ่นปลิวรับสายลม ผมห่มผืนหนาเลื่อนหลุดไปกองที่พื้นไม้ แสงแดดได้สาดส่องร่างบางๆของเด็กสาว ยามเช้านี้ช่างดูเป็นสุขผิดกับเมื่อยามราตรี เธอปรือขนตาที่ดูจะหนักอึ้งขึ้นอย่างช้าๆ แสงแดดสีส้มอ่อนๆส่องผ่านขนตาของเด็กสาว ทำให้ดวงตาสีดำหรุบลงก่อนที่จะปรือมันขึ้นมาใหม่
เด็กสาวยันกายขึ้นนั่งบนเตียง เธอนั่งคิดถึงฝันประหลาดที่ปลุกเธอหลายคราให้ตื่นในยามค่ำคืน และบางสิ่งที่อาศัยอยู่ในความมืด เด็กสาวซะบัดหัวไปมาเพื่อสลัดความคิดทั้งปวง ผมสีดำยาวของเธอพลิ้วไปตามแรงสะบัด เธอเคยนึกเกลียดสีผมสีนี้อยู่หลายครั้ง เพราะมันทำให้เธอเข้ากับใครไม่ค่อยได้ หลายคนที่บอกว่าสีผมของเธอที่เป็นสีดำสนิทคือสีผมของพวกแม่มด และดวงตาสีมรกตของเธอก็อีกด้วยที่มันทำให้เธอเหมือนคอยสะกดใครต่อใคร แต่เด็กสาวก็พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาซักนิดที่นึกไม่ชอบเธอ มันคงจะเป็นความผิดของเธอเองที่เกิดมาเป็นแบบนี้ เด็กสาวมักแก้อาการคิดมากด้วยการโทษตัวเองเสมอ รอยยิ้มบางๆผุดที่ริมฝีปากสีกุหลาบ
ก๊อกๆๆๆ
เสียงของบางอย่างที่กระทบกับประตูไม้ดังขึ้นเบาๆ แต่ก็มากพอที่จะทำให้เด็กสาวตื่นจากความคิด ร่างๆบางๆผุดลุกไปเปิดประไม้บานโต
“มีอะไรเหรอค่ะ?”เด็กสาวแง้มประตูออกเล็กน้อย แล้วเอื้อนเอ่ยคำถามออกไป
ชายหนุ่มตรงหน้าเด็กสาวค้อมหัวลงเล็กน้อยมองหน้าตาของเด็กสาวอย่างประหลาดใจระคนกังวล เด็กสาวมองสีหน้าของชายหนุ่มก็ได้แต่มองตอบกลับไปพลางเอื้อมมือไปแตะที่แก้มของชายหนุ่มเบาๆ แล้วถามคำถามย้ำอีกครั้งเพื่อขอคำตอบ “มีอะไรเหรอค่ะ พี่เอลริค”
ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเอามือชี้ไปที่ด้านหลัง เด็กสาวมองตามมือที่ส่งไปแต่ก็ไม่สามารถที่จะมองทะลุคนตัวใหญ่ข้างหน้าไปได้ เธอจึงเงยหน้าเพื่อบอก แต่กลับเห็นเพียงชายหนุ่มที่จ้องเธอไม่กระพริบตา พลันมือใหญ่ก็เลื่อนมาที่ใบหน้าของเธอ
“ร้องไห้ ทำไม เอวาน”
ร้องไห้ เด็กสาวทวนคำในใจแล้วจับแถวดวงตาสีมรกตของเธอ คราบน้ำตาจากเมื่อคืนติดตามใบหน้าเธออยู่ เธอยกมือขึ้นมาเช็ดคราบเหล่านั้นเบาๆ เด็กสาวเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้เสียมารยาทโดยการปิดประตูกระแทกใส่คนตรงหน้า เด็กสาวเปิดประตูทิ้งไว้อย่างนั้น แล้วหมุนตัวกลับเข้ามาล้างหน้า
บางทีชายหนุ่มอาจจะคิดว่าการเข้าห้องของใครโดยไม่ได้รับการอนุญาต อาจเป็นการเสียมารยาททางสังคมอย่างหนึ่ง เอลริคจึงไม่เดินเข้ามา เขาเพียงแต่ยืนพิงกรอบประตู รอเอวานซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเขา พ่อแม่ของเอวานเสียชีวิตด้วยการฆาตกรรมที่ดูจะพิลึกพิลั่น ทั้ง 2 ถูกตรึงกางในวันที่ไปทำพิธีมิซซา ในตอนนั้น เขาได้อาศัยไปที่โบสถ์กับท่านทั้งสองคน เอวานที่เป็นลูกคนเดียวต้องไปกับพ่อแม่ด้วย นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเด็กสาวผมสีดำ เขาเองก็ประหลาดใจที่เด็กคนนี้มีผมสีแปลกตาแต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจ ซ้ำยังจะชอบอีกด้วย เด็กสาวเองก็ดูจะดีใจอยู่ไม่น้อยที่เจอเขา ด้วยที่เธอเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวในบ้าน ไม่มีใครที่อายุอานามใกล้เคียงกับเธอ นานทีที่เธอจะมีเพื่อนเล่นสักคน ความต้องการที่จะมีใครมาสนใจเป็นเรื่องปรกติทั่วไปในตัวของเด็กอย่างเธอ จึงไม่แปลกที่เธอจะเกาะติดตัวเขา
เอวานเห็นถึงกับกรีดร้องลั่น ในตอนที่เห็นบุพการี แต่ทว่าแม้เสียงร้องนั่นจะดังสักเพียงใด ผู้ที่เหลือเพียงร่างกายก็ไม่อาจฟื้นคืน เอลริคทำได้เพียงพยายามปลอบประโลมเด็กสาวตัวน้อยที่กรีดร้องไปพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูลงสู่พสุธา
นับแต่วันนั้นมาเด็กสาวตัวน้อยนาม เอวาน ก็ไม่เคยร้องไห้ฟูมฟายหรือแสดงสีหน้าที่เศร้าสร้อยให้เขาเห็นเต็มๆตา เธอพูดน้อยลง แทบจะเรียกได้ว่า ไม่ปริปาก มันออกจะทำให้ตัวเขาอึดอัดอยู่ไม่น้อยทีเดียว รอยยิ้มที่นานๆจะมีสักครั้งก็ไม่สดใส มันดูเหมือนเธอยิ้มรับความทุกข์ที่มองเห็นอยู่กลายๆเสียมากกว่า
เอลริค คิดในใจพลางก้มลงมองพื้นกระเบื้องสีฟ้าอ่อนๆ ที่แลดูสวยงามไม่น้อยเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องกระทบ ถึงจะดูงดงามแต่ก็แฝงความขมขื่นที่อัดอั้นอยู่ภายในของตัวเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี
หากว่าตัวเขา สามารถที่จะขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าได้แล้วล่ะก็ คงจะดีไม่น้อยที่เดียว หากพรนั่นจะบันดาลให้เขาได้ทุกสิ่ง ไม่เว้นแต่เด็กสาวตัวเล็กผมสีดำสนิทในห้วงความทรงจำเมื่อยามพบครั้งแรก
ความคิดเห็น