คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เปลี่ยนมุมมอง
ณิชารีย์สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประกาศว่าใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
หล่อนถอนหายใจพร้อมกับเก็บหนังสือและคอมพิวเตอร์แบบพกพาเข้ากระเป๋า หันไปเห็นเจ้าของร่างใหญ่ข้างๆ
ยังคงหลับสนิท ไม่รู้สึกรู้สากับเสียงประกาศของพนักงานต้อนรับ...
“นี่คุณ ตื่นได้แล้ว จะนอนไปถึงไหน” ตั้งแต่การเดินทางฮันนีมูนในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น เธอกับเขาเลือกที่จะต่อปากต่อคำกัน
ให้น้อยที่สุด อย่างน้อยณิชารีย์ก็ถือว่ามันเป็นการฮันนีมูนในชีวิตครั้งแรกของเธอ
แม้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆจะไม่ใช่ผู้ชายที่เธอรักก็ตาม...
สองคู่บ่าวสาวเก็บสัมภาระและตรงเข้าโรงแรมโดยรถรับส่งจากสนามบิน ...
ณิชารีย์ตั้งใจไว้ว่าจะไปนวดคลายเครียดที่สปาของโรงแรม แล้วค่อยเดินชมสถานที่รอบๆ
ส่วนประวีณเมื่อถึงที่พัก ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่ตรงเข้าที่พักทันที
ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ประวีณไม่ค่อยอยากจะหาเรื่องทะเลาะกับหล่อนเท่าไหร่นัก
เขาตั้งใจว่าจะนอนให้เต็มอิ่ม ก่อนที่จะตื่นมาเข้าฟิตเนสในตอนเย็น อย่างที่เขาคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน
ณิชารีย์เข้าที่พักเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายๆ ให้เหมาะกับบรรยากาศทะเล
ก่อนที่เธอจะออกมาเดินรับลมและเข้าไปนวดสปาที่ให้บริการของโรงแรม
เจ้าของร่างบางในชุดเดรสเกาะอกผ้าบางเบา เดินตรงไปยังบาร์ของโรงแรมหลังจากนวดผ่อนคลายที่สปาเสร็จแล้ว หล่อนคิดว่าบรรยากาศอย่างนี้หล่อนน่าจะไปหาเครื่องดื่มจิบเบาๆในบาร์ของโรงแรม
“อ้าว มาหาเครื่องดื่มเหมือนกันหรอคุณ ดื่มด้วยกันหน่อยไหม” เสียงของเจ้าของร่างใหญ่ที่นั่งอยู่มุมหนึ่งในบาร์ของโรงแรมดึงความสนใจของณิชารีย์ให้หันไปตามเจ้าของเสียง
ประวีณซึ่งนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่มุมหนึ่งในบาร์ของโรงแรม โต๊ะที่ชายหนุ่มนั่งไม่เป็นที่เตะตาเท่าไหร่นัก
เขาเลือกที่จะนั่งแบบสงบๆมากกว่าที่จะพบปะผู้คนที่ไม่รู้จัก เขาไม่คิดว่าหล่อนจะมาหาเครื่องดื่มเหมือนกัน
ไม่เช่นนั้นเขาคงจะชวนหล่อนออกมาดื่มด้วยอย่างแน่นอน เพราะโดยปกติแล้ว ไม่บ่อยครั้งนักที่ประวีณ
จะออกตระเวนราตรีโดยไม่มีเพื่อนฝูงและสาวสวยข้างกาย เขาจึงค่อนข้างเหงาเมื่อต้องมานั่งดื่มคนเดียว
ในสถานที่ ที่ไม่มีคนรู้จักเช่นนี้...
เจ้าของร่างบางเดินตรงไปยังโต๊ะมุมหนึ่งในบาร์ พร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับประวีณ…
“งั้นฉันว่า เรามาสงบศึกกันสักสามสี่วันดีไหม อย่างน้อยก็เฉพาะตอนที่อยู่ที่นี่” ณิชารีย์เอ่ยพร้อมกับเรียกพนักงานในบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่ม
“คุณมีคนรักอยู่แล้วใช่ไหมคะ” ณิชารีย์เอ่ยขึ้นหลังจากดื่มไปได้สักพัก ก่อนหน้านี้หล่อนก็อยากจะถามเขาเหมือนกัน
แต่ด้วยความที่เขาและเธอไม่เคยจะมีโอกาสได้นั่งคุยกันอย่างนี้สักเท่าไหร่ หล่อนจึงไม่มีโอกาสได้เอ่ยปากถามเรื่องคนรักของเขา
“ใช่ ผมมีคนรักอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับคุณ เธอชื่อพาขวัญ” ประวีณเงียบไปสักพักก่อนจะตอบหญิงสาวร่างบางตรงหน้า
“แล้วคุณกับเธอเป็นยังไงคะ คุณพาขวัญเธอเข้าใจเรื่องของเรารึเปล่า”
“ผมก็อยากให้เธอเข้าใจนะ แต่คุณน่าจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะให้ยอมรับกันเลยก็คงยาก”
ประวีณพูดพร้อมกับยกแก้ววิสกี้กระดกเข้าปากทีเดียวรวด
“ฉันคิดว่าเธอคงจะเข้าใจคุณนะคะ เพราะถ้าฉันมีคนที่ฉันรักมากสักคน ฉันคงไม่โกรธเขา
เมื่อสิ่งที่เขาทำนั้นเขาทำเพื่อครอบครัวที่เขารัก” เธอเห็นใจเขาจากใจจริง ประวีณคงอยู่ในสถานะเดียวกันกับณิชา พี่สาวของเธอที่มีคนที่รักอยู่แล้ว ถ้าเธอไม่เสียสละแต่งงานแทน พี่สาวของเธอคงต้องอยู่อย่างไม่มีความสุขไปจนวันตายแน่ๆ
“คุณคิดอย่างนั้นจริงๆหรือแพรว” ประวีณถามด้วยความแปลกใจ ตั้งแต่เขาและเธอแต่งงานกันมา
เขาไม่เคยมองเธอในแบบที่ผู้ชายมองผู้หญิงนัก เขาคิดแค่ว่าเธอเป็นคนทำลายชีวิตเขาจนหมดสิ้น
แต่ในวันนี้เขาคงต้องเริ่มมองผู้หญิงคนนี้ใหม่ในอีกมุมหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็น เธอก็มีด้านดีของเธอเช่นกัน…
ความคิดเห็น