ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Jewel Quest

    ลำดับตอนที่ #8 : วางแผน

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 50



                  
    "เราน่าจะแบ่งออกเป็นสองสาย" เซียร่าเริ่มอธิบายแผนการของเธอขณะกางแผนที่ลงบนโต๊ะ  แน่นอนว่าในสถานการณ์ยังเร่งรีบแบบนี้การแบ่งคนออกไปให้มากที่สุดย่อมเป็นทางเลือกที่ดี "ดราซ์ดซาน...กับยาริส"


                   
    "เดี๋ยว ๆ  นี่เจ้าจะส่งคนไปบุกคฤหาสน์เจ้าเมืองดราซ์ดซาน" เสียงเอ่ยแย้งเมื่อนึกถึงข้อมูลของเชอริล


                   
    "ดี...งั้นเจ้าไป" ท่านจอมเวทตัดบทสั้น ๆ อย่างมัดมือชกนักฆ่าหนุ่มตรงหน้า  เจ้าตัวอ้าปากจะเอ่ยแย้ง  แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ารับงานนี้มาทำเอง เขาก็ยอมปิดปากเงียบ


                   
    "ถ้าจะไปยาริส  ข้าแนะนำทางเรือจะสะดวกที่สุด" ซอนย่าเอ่ย


                   
    "นั่นสิครับ เพราะยาริสเองก็เป็นเมืองท่าหลักของอาณาจักร" ลัวร์สนับสนุน ก่อนจะแย้งขึ้นเสียเอง "แต่ว่าแถวนี้จะมีท่าเรือใหญ่หรือครับ"


                   
    "เดินตัดป่าออกไปทางตะวันออกของเมืองประมาณสามชั่วโมงจะมีท่าเรือร้างอยู่  หากพวกท่านตัดสินใจจะใช้วิธีการของข้า  ข้าจะนัดเพื่อนของข้าให้มารับพวกท่านได้" แผนการที่ฟังราวกับว่าเธอเตรียมการล่วงหน้ามานานแล้ว


                   
    "แล้วเพื่อนเจ้าคนนี้...จะไว้ใจได้หรือ" ท่านจอมเวทซักต่ออย่างไม่ไว้ใจ


                   
    ขนาดเจ้าของโรงเตี๊ยมเก่าๆนั่นยังเป็นสายอัศวินได้  คนอื่นย่อมไม่น่าไว้ใจด้วยกันทั้งนั้น


                   
    "แน่นอน  นางเป็นเพื่อนของข้าที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว"


                   
    "นาง ?"  คนปากไวก็รีบแทรก


                   
    "อะไรทำให้ท่านคิดว่ากัปตันเรือเป็นได้เฉพาะผู้ชาย" ประโยคตอกกลับที่ทำเอาลูคัสหน้าเสีย  คนโรน์นี่...คารมแกร่งกล้ากันทุกคน


                   
    "ดี  งั้นตกลงตามนี้ เพราะข้ายังไม่เคยไปยาริส  การใช้เวทเคลื่อนย้ายย่อมเป็นไปไม่ได้" เซียร่าสรุปก่อนจะหันไปถามความเห็นของคนที่ดูน่าจะพึ่งได้ที่สุดในโต๊ะ


                   
    ลัวร์เพียงแต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ  ดูท่าจอมเวทหนุ่มกำลังคิดอะไรบางอย่างให้มันรกสมองเล่นๆ


                   
    "การใช้เวทเคลื่อนย้ายจะใช้ได้กับสถานที่ที่เราเคยไปแล้วเท่านั้นครับ  แล้วการเคลื่อนย้ายระหว่างเขตเมืองจะต้องทำการลงทะเบียนเอาไว้ก่อนเป็นมาตรการทางการทูต และจุดที่จะสามารถเคลื่อนย้ายได้ในแต่ละเมืองก็ต้องเป็นสถานที่ที่ทางการของเมืองนั้นกำหนดไว้ให้เท่านั้นครับ" เขาเอ่ยตอบสีหน้าสงสัยของใครบางคน


                   
    "แต่มาตรการนี้ก็จะใช้เฉพาะเมืองใหญ่ๆและมีความสำคัญต่อความมั่นคงครับ  แต่อย่างโอเรเนคถึงจะเป็นเมืองใหญ่ก็ไม่มีการเปิดให้ใช้เวทเคลื่อนย้ายในเขตเมือง  จุดหมายที่ใกล้ที่สุดก็ได้เพียงแค่รอบทะเลสาบ"


                   
    "ช่วยหยุดเลคเชอร์วิชาระบบขนส่งเวทมนตร์แล้วอธิบายหน้าที่เราต่อทีได้ไหม" เสียงดังขัด  จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้นักบวชปากมาก


                   
    "ได้" น้ำเสียงของท่านจอมเวทสาวราบเรียบแต่สีหน้าของเธอบ่งบอกความหงุดหงิดได้เป็นอย่างดี  ในเมื่อคนที่ทำหน้าสงสัยจนกวนประสาททำให้ลัวร์ต้องมานั่งอธิบาย...ก็คือมันเอง


                   
    "ผมขอไปดราซ์ดซานดีกว่านะครับ เพราะผมไม่ถูกกับเรือเอาเสียเลย" ลัวร์เอ่ยขึ้นก่อน


                   
    "งั้นท่านก็ไปยาริสสิ" ประโยคที่เหมือนคำแนะนำมากกว่าคำสั่ง...เป็นโซฟิเลียที่เอ่ยกับเซียร่า


                   
    "ทำไมล่ะ" แต่คนถามประโยคนี้ไม่ใช่เซียร่า


                   
    "เอานักเวทประจำไว้กลุ่มละคน  ถ้าเกิดเหตุต้องปะทะกับฝั่งโน้นเราจะได้ไม่ต้องลำบากมาก" คำตอบอย่างประเมินสถานการณ์ได้เฉียบขาดของรองหัวหน้าสมาคมนักฆ่า ที่ขนาดที่ปรึกษาแห่งสภาเวทยังพยักหน้าอย่างสนับสนุน


                   
    "งั้นฉันขอไปเรือแล้วกันเพราะแค่เดินจากโอเรเนคมาถึงโรน์นี่ก็ไม่ไหวแล้ว"  ประโยคแบบนี้มาจากปากลูคัสได้คนเดียว


                   
    "ข้าขอไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีไอ้นักบวชนอกรีตนี่"  เสียงเย็นๆจากโซฟิเลีย  คงเป็นประโยคที่กระแทกใจคนฟังได้ไม่น้อย  ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่ลูคัส


                   
    "เรนไปกับข้าดีกว่า" เซียร่าเอ่ยขึ้นอย่างตัดบท ไม่มีเหตุผลให้ แต่ก็ไม่มีใครโต้แย้งและคนถูกสั่งยอมทำตามแต่โดยดี


                   
    "ซอนย่าไปกับพวกซีนิกส์" เป็นคำสั่งรวบรัดอีกครั้งที่ยังคงไม่มีใครโต้แย้ง


                   
    พรานสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจในหน้าที่ตัวเองก่อนจะลุกขึ้น "ข้าจะขอตัวไปแจ้งข่าวให้เพื่อนของข้าก่อน"


                   
    "นางจะไว้ใจได้เหรอ" ยังไม่ทันที่เป้าหมายจะพ้นประตูออกไปเสียงกระซิบนินทาของเจ้านักบวชก็ดังขึ้น


                   
    "นางเป็นคนของเชอริล  คอนราดนะ" จอมเวทสาวเอ่ยแย้ง


                   
    "แล้ว เชอริล  คอนราดเนี่ย...จะไว้ใจได้เหรอ" ประโยคโต้กลับอย่างไร้เหตุผลทำให้คนที่เถียงกันอยู่เมื่อครู่ตัดสินใจยอมแพ้ไปเอง


                   
    "ขอโทษด้วยนะครับ" อยู่ดีๆเสียงของลัวร์ก็ดังแทรกขึ้นในความเงียบ  คนที่น่าจะขอโทษหลายครั้งหลายหนกลับไม่เคยเอ่ยคำนี้เลย  แต่ไอ้คนที่ไม่น่าจะมีเหตุอะไรกลับเอ่ยขึ้นมาอย่างน่าสงสัย


                   
    "ทำไมล่ะ"


                   
    "ถ้าผมยอมไปทางเรือคงจะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางได้มากพอดู" เจ้าจอมเวทหนุ่มเอ่ยประโยคสั้นๆได้ใจความ...แต่ใจความนั้นจะได้มาก็ต่อเมื่อนั่งคิดดูดีๆแล้วเท่านั้น


                   
    สถานการณ์ปัจจุบันหลังจากเสร็จงานทั้งสองฝ่าย  เซียร่าจะต้องเป็นคนไปรับคณะจากดราซ์ดซานมารวมกันที่ยาริสเพื่อความสะดวกในการเดินทางต่อไป  ความหมายของลัวร์คงจะแปลว่าถ้าเซียร่าอยู่ดราซ์ดซานแล้วใช้เวทเคลื่อนย้ายเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถมารวมกันที่ยาริสได้ทันที


                   
    ...ช่างเป็นคนคิดอะไรมากมายเช่นนี้...


                   
    "ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก  ทุกคนก็ต้องมีเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว  อีกอย่าง...งานขโมยของนี่ข้าก็ไม่อยากจะทำเท่าไหร่" เซียร่าเอ่ยเป็นเชิงปลอบใจปนแดกดัน 


                   
    'เหตุผลของตัวเอง' อย่างนั้นหรือ...แล้วเหตุผลของเจ้านักเวทตรงหน้านี่มันคืออะไรกัน


                   
    กริ๊ง
    !

                    เสียงประตูร้านเปิดออกเรียกความสนใจของคนทั้งหมดในวงสนทนาไปได้  ผู้ที่ผ่านประตูเข้ามาก็คือซอนย่านั่นเอง

                    เราโชคดีมาก...แนคกำลังจะผ่านมาทางโรน์ภายในไม่กี่ชั่วโมงนี้  นางกำลังมุ่งหน้าไปทางเอลเซสและจะแวะที่ยาริสด้วย  นางอนุญาตให้พวกท่านโดยสารไปได้  แนคคงจะเป็นกัปตันเรือที่พูดถึง  แม้เรื่องนี้จะดูบังเอิญอย่างน่าประหลาดรวมทั้งจุดหมายปลายทางก็เป็นที่เอลเซสซึ่งเป็นที่ตั้งของสมาพันธ์อัศวิน  แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครกังวลเรื่องนั้นในเวลานี้

                    งั้นเราน่าจะออกไปกันเลยนะครับ

                    เซียร่าให้ซอนย่าชี้ที่ตั้งของท่าเรือเก่าบนแผนที่  ระยะทางพอประมาณเพราะอย่างน้อยๆเจ้านักบวชปากมากที่ชะโงกหน้ามาดูด้วยก็ยังเผลอบ่นออกมาหลายประโยค

                    ข้าจะไปขอเหยี่ยวจากหมู่บ้านมาสักตัว น่าจะช่วยให้ติดต่อกันได้สะดวกขึ้น พรานสาวเสนอ

                    คงจะทนไม่ได้...ที่เหยี่ยวของโรน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดกลับถูกเจ้าเซกเตอร์แห่งสภาเวทแย่งหน้าที่ไปหน้าตาเฉย

                    แต่ท่านมหาเวทก็ค้านขึ้นในทันใด

                    เหยี่ยวของโรน์ทนไอเวทไม่ได้หรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ไอเวทของจอมเวทระดับแปดแถวๆนี้

                    ยังไม่วายหันมาแดกดันคนตรงหน้า

                    นางรู้ว่าปริมาณไอเวทที่ฟุ้งกระจายอยู่ในขณะนี้  เจ้าตัวก็พยายามควบคุมเอาไว้บ้างแล้ว  ถึงกระนั้นก็ยังมากพอที่จะทำให้คนที่สัมผัสได้รู้สึกสันหลังวาบไม่น้อย  ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากมายก็พอจะทราบได้ว่าฝีมือของคนที่ดูซื่อบื้อตรงหน้านี้ยอดเยี่ยมเพียงใด

                    ผู้ที่ตกเป็นขี้ปากก็เพียงแต่ยิ้มบางๆ

                    ไอ้นี่...ถ้ามันไม่เป็นคนดีมาก  มันก็คงจะซื่อบื้อมากทีเดียว

                    พวกเจ้าทำงานเสร็จแล้วรอข่าวจากเซกเตอร์  แล้วก็...ช่วยอย่าทำอะไรให้เอิกเกริกมากนักนะ ประโยคหลังสุดที่เจาะจงพูดกับท่านรองหัวหน้าสมาคมนักฆ่าซึ่งก็พยักหน้ารับแต่โดยดี

                    เข้าใจแล้วก็แยกย้ายกันไปได้

                    วิธีการทำงานอันรวดเร็วเรียบง่ายของท่านที่ปรึกษาแห่งสภาเวทยังคงทำให้ผู้ร่วมเดินทางทั้งหลายอึ้งไปตามๆกัน

                    เสียงเก้าอี้ครูดกับพื้น  ร่างบางของมือสังหารสาวที่ตั้งสติลุกขึ้นเป็นคนแรกตามด้วยเสียงของเรน

                    ระวังตัวกันด้วยนะคะ

                    เสียงเหรียญทองค่าเครื่องดื่มกระทบกันเช่นครั้งที่หัวหน้าหมู่บ้านนักล่าจากไป

                    ...หากเวรกรรมกำหนดให้เป็นเช่นนี้  มันก็ควรจะเป็นเช่นนี้นั่นแหละ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×