คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : สู่โรน์
แสงแดดกระทบผืนน้ำเป็นประกาย ทะเลสาบโอเรอันกว้างใหญ่ผืนน้ำสงบนิ่งน่าเกรงขาม น่าเหลือเชื่อที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาคณะเดินทางทั้งสี่เพิ่งจะรอดจากน้ำวนในทะเลสาบนี้มาได้อย่างหวุดหวิด
"ไปแล้วหรือครับ" ทหารยามโค้งให้อย่างนอบน้อมระหว่างที่เซียร่าผ่านประตูเมืองออกไป
ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันยังตะคอกใส่อย่างไม่สนใจเหตุผล...น่าเตะสั่งสอนจริงๆ
ท่านที่ปรึกษาพยักหน้าให้อย่างไม่ใส่ใจนักแล้วออกคำสั่ง "ขอแพสักลำสิ"
"จะไปทางแพหรือครับ เมื่อครู่พวกท่านเพิ่งจะเจอน้ำวนกันไป..."
"น้ำวนหรือ..." จอมเวทหันมาทางผู้ต้องคดีโดยไม่รู้ตัว
"คิดว่าเป็นฝีมือของพวกอัศวินกับคนที่ชื่อไดเมสหรือครับ" ลัวร์เอ่ยอย่างเดาใจได้
"ทำไมถึงได้คิดแบบนั้นล่ะคะ"
"เพราะบริเวณทะเลสาบทั้งหมดและตัวเมืองอยู่ในเขตเวทของหัวหน้าฝ่ายอารักขาไดเมส ปราก น้ำวนก็ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติเพราะทะเลสาบนี่ก็ไม่ใช่ธรรมชาติ...มันถูกสร้างขึ้นโดยเวทมนตร์" เซียร่าอธิบายขณะเดินออกมาให้ห่างจากประตูเมือง
"สภาเวทไม่รู้ตัวหรือว่ามีหนอนบ่อนไส้" ประโยคถามต่อจากนักฆ่าหนุ่มถูกตัดบทอย่างห้วนๆโดยฝีมือของเซียร่า
"นั่นไม่ใช่หน้าที่ของข้า หน้าที่ของข้าคือค้นหาอัญมณีทั้งสิบสองให้พบและนำกลับมาที่สภาเวท"
"งั้น...ท่านจอมเวททั้งหลายก็ช่วยกรุณาพาพวกเราข้ามทะเลสาบนี่ไปทีสิ" เสียงกวนๆเอ่ยพร้อมกับแววตากวนประสาทที่ส่งให้
เซียร่าแกล้งทำเป็นหูทวนลม กรรมนี้จึงตกเป็นของลัวร์
เสียงบริกรรมคาถาเบาๆถูกกลบด้วยเสียงโหยหวนของลมที่พัดหมุนวนรอบพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงบริกรรมเวทที่พอจะได้ยินอยู่บ้างนั้นฟังแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย พวกเขาคงจะประสาทเสียแน่ ภาพรอบตัวเริ่มพร่ามัวกับอาการคลื่นไส้...อาการปกติเมื่อเดินทางด้วยเวทเคลื่อนย้าย ระยะทางยิ่งไกล อาการยิ่งเป็นหนัก นี่เพียงแค่ออกจากโอเรเนค...บางที...การเดินไปโรน์คงจะดีกว่าจริงๆ
ตุบ !
ของหนักๆกระทบพื้น 'ผู้โดยสาร' ทั้งหลายก็ควานหาสัมภาระตนอย่างไม่สนใจ 'ผู้ให้บริการ' ที่บัดนี้กลิ้งอยู่บนพื้นหญ้า เสื้อคลุมที่เป็นรอยจากเท้าใครบางคนอยู่ก่อนแล้วยิ่งสกปรกขึ้นไปอีก
"เจ้ากำหนดบริเวณเคลื่อนย้ายได้อย่างไรโดยไม่กางข่ายเวท" เขายังไม่ทันหายมึนดีคำถามที่เหมือนข้อสอบเข้าเรียนเวทก็ตามมาติดๆจากท่านจอมเวทที่ปรึกษา
"ความลับทางการค้าน่ะครับ" ลัวร์ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พยามยามปัดเศษหญ้าออกจากตัว
"ความลับทางการค้า...ในการส่งลูกค้าอย่างปลอดภัยแต่ตัวเองลงไปนอนเล่น" คำถามที่จอมเวทหนุ่มแอบหัวเราะในใจ ลองข้าส่งพวกท่านให้ลงไปกลิ้งดูสิ สักสองคนแหละที่จะด่าข้าหูชา เขาคิดอยู่ในใจก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าตามเหล่าเพื่อนร่วมชะตากรรมไป
◘
"เมื่อยโว้ย...เมื่อย" เสียงบ่นของนักบวชเรื่องมาก ปากมาก แถมยังขี้สงสัยเป็นที่สุด นอกจากบ่น กับตั้งคำถามร้อยแปดที่มีลัวร์คอยตอบอยู่ทุกครั้งแล้ว มันก็ทำอย่างอื่นไม่เป็น
ตะวันลับขอบฟ้าไปหลายชั่วโมงแล้ว โชคดีที่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ไปเจอเข้ากับป้ายแนะนำโรงเตี๊ยมริมทาง
ทั้งๆที่รู้ว่าจะได้พักอยู่แล้วไอ้นักบวชนี่ก็ยังคงบ่นต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน
ปลอบก็แล้ว...
ตะคอกใส่ก็แล้ว...
หรือแม้แต่ใช้กำลังไปแล้ว...
ไม่ช้าแสงไฟสลัวจากจากโรงเตี๊ยมเล็กๆก็อยู่ตรงหน้า อาคารไม้สูงประมาณสามชั้น สถาปัตยกรรมพื้นฐานของเหล่าโรงแรมริมทาง ถ้าเป็นทางระหว่างเมืองใหญ่ๆทั้งปริมาณและคุณภาพของโรงแรมริมทางเหล่านี้ก็มักจะเพิ่มขึ้นตาม
แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า...โรน์ไม่ได้ยิ่งใหญ่อีกต่อไปแล้ว
ชั้นล่างเป็นร้านเหล้า หยากไย่บนผนังบ่งบอกชัดเจนว่าคงไม่มีใครผ่านมาทางนี้เป็นเวลานานแล้ว ชายแก่ที่เหมือนจะเป็นเจ้าของนั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่หลังเคาน์เตอร์
เซียร่าเดินไปเอากุญแจห้องมา
"สามห้อง หกร้อยเหรียญจ่ายข้ามาด้วย คนล่ะร้อย" เธอเอ่ยเรียบๆ
...ยัยนี่งกชะมัด...
ซีนิกส์ควานหาใบประกาศรับจ้างของกลุ่มนักฆ่าอิสระมาโบกตรงหน้าเธอ
"ข้อ 4 ค่าใช้จ่ายระหว่างการทำงานผู้จ้างจะต้องเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด" เขากล่าวอย่างมีชัยแล้วขยำกระดาษเก็บที่เดิม
...รอดตัวไปสอง...
"ฉัน...ขอรบกวนคุณเซียร่าหน่อยแล้วกันนะคะ" เรนเอ่ยเบาๆอย่างสุภาพ...เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีเพราะไอ้จอมเวทอีกคนก็มาไม้เดียวกัน
"ผมด้วยครับ"
...นี่ไปอีกสอง...
ลูคัสแทบอยากจะกัดลิ้นตาย เงินก็ไม่มี ยังต้องมาขอร้องจอมเวทบ้าอำนาจนี่อีก
"ฉันด้วย" เขาส่งเสียงลอดไรฟัน
"ข้าไม่ได้ยิน เจ้าพูดว่าอะไรนะ" เซียร่าเอ่ยน้ำเสียงสดใส นานๆจะได้แก้เผ็ดมันเสียบ้าง ให้รู้ว่าอย่ามาลองดีกับที่ปรึกษาแห่งสภาเวท
"ฉัน บอก ว่า ขอ รบ กวน ด้วย คน" เขาเอ่ยเน้นๆทีละคำอย่างหมดทางเลือกกับรอยยิ้มอย่างพึงพอใจของจอมเวทสาวก่อนจะเดินนำขึ้นบันไดไป
ที่แท้...มันก็เป็นเพียงสงครามประสาทระหว่างท่านมหาเวทกับนักบวชนอกรีตก็เท่านั้น
"โอ๊ย...เมื่อย ไปพักก่อนดีกว่า ไปเถอะเรน" ยังไม่ทันหายเข็ดจากท่านเซียร่าเจ้านักบวชก็เริ่มโวยวายอีกครั้ง
"เสียใจ เรนพักกับข้าเจ้าไปพักกับลัวร์" จอมเวทส่งเสียงขัด
"อะไรกัน !" คนปากมากรีบโวยลั่น
"แล้วจะให้ผู้หญิงกับผู้ชายมานอนห้องเดียวกันเนี่ยนะ"
"แล้วนักฆ่าสองคนนี่..."
"ตกลง...งั้นเจ้าพักกับโซฟิเลีย ลัวร์พักกับซีนิกส์" ประโยคที่ทำให้เขาปิดปากสนิทอย่างไม่กล้าต่อปากต่อคำอีกต่อไป
"ไม่" แต่คำปฏิเสธกลับมาจากสตรีผู้ถูกดึงไปร่วมอย่างไม่จำเป็นก่อนจะรีบคว้ากุญแจห้องไป
◘
"เจ้าได้เงินค่าจ้างจากหัวหน้าหรือยัง" ซีนิกส์เอ่ยลอยๆกับหญิงสาวเพื่อนร่วมห้อง
"หัวหน้าเคยจ่ายค่าจ้างให้ท่านด้วยหรือ" เสียงเรียบๆจากเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลที่นั่งอยู่บนขอบหน้าต่าง สายตาเลื่อนลอยไปยังยอดไม้ที่ไหวไปตามลมต้องกับแสงนวลจากจากจันทร์เสี้ยวบนฟากฟ้า
"ถึงแม้จะได้ค่าจ้างจากสภาเวทมาสามเท่า เราก็จะไม่ได้สักแดง" ประโยคประชดที่เรียกได้เพียงอาการพยักหน้าตอบจากคนเย็นชาก่อนจะสวนกลับ
"ท่านเองก็ได้สิ่งตอบแทนจากการทำงานนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ"
"ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านหัวหน้าถึงกลัวเจ้าหนักหนา" ซีนิกส์ตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะที่จงใจเลียนแบบคนที่ถูกพาดพิงในประโยค "เจ้ารู้ทันไปเสียทุกเรื่อง"
มือสังหารสาวที่นั่งอยู่บนขอบหน้าต่างเริ่มได้กลิ่นบรรยากาศไม่ค่อยดีนัก
ซีนิกส์สาวเท้าเข้ามาใกล้ สีหน้าแบบนั้นไม่น่าไว้วางใจแม้แต่น้อย
ว่าแล้ว...เจ้าคนกะล่อนตรงหน้าต้องมาไม้นี้
"ข้า...ย้ายห้องดีกว่า" ร่างของหญิงสาวเดินตรงไปที่ทางออก
"ไม่เห็นต้องไป" น้ำเสียงสบายอารมณ์เอ่ยค้านพร้อมกับที่เจ้าตัวเอนกายลงบนเตียงอย่างสบายอารมณ์
"เตียงเดียวจะนอนได้ยังไงกัน" เธอเอ่ย ในใจพลันนึกอยากฆ่าไอ้คนแจกห้องนัก...แต่จะว่าไปแล้วเธอเป็นคนคว้ากุญแจมาก่อนเอง
ฉึก !
มีดสั้นสีเงินพุ่งเสียบเข้าที่ช่องประตูในวินาทีที่นักฆ่าสาวเอื้อมมือไปจับที่กลอน มีดสั้นที่น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่ามาจากใครแล้วเจ้าของมีดที่ว่าก็มาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าเธอ
ใบหน้าของเขาก้มต่ำลงมาจนเสมอกับใบหน้าเธอที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ใกล้...จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่ปะทะหน้า
กึก !
มือของสาวงามยังคงพยายามเปิดประตูที่ปิดตายไปแล้วเพราะมีดสั้นเมื่อครู่ แม้เท้าจะถอยหนีออกมาจนแผ่นหลังแนบกับกำแพงแต่คนตรงหน้าก็ไม่ยอมทิ้งช่องว่างแม้แต่น้อย
"ท่าน...." เสียงหวานที่ขาดหายไปเพียงเท่านั้น
นัยน์ตาสีน้ำตาลปรือลงช้าๆ...
ปัง ! ปัง !
"เรารู้ว่าพวกแกอยู่ในนั้นเจ้าพวกนักฆ่า" เสียงทุบประตูดังประสานกับเสียงตะโกนจากข้างนอก
"บ้าเอ๊ย !" ซีนิกส์สบถ ส่วนคนที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของเขาเมื่อครู่อาศัยจังหวะนั้นปลีกตัวออกไปแล้วพร้อมกับส่งเสียงตอยกลับมา "มันรู้ได้ยังไงกัน"
"มีทางเดียว"
"ไอ้แก่นั่น !"
เสียงกระซิบสนทนากันอย่างวิตกกังวลของนักฆ่าทั้งสองที่จบลงด้วยบทสรุปอย่างเป็นเอกภาพ
แต่ก่อนจะมีใครได้คิดว่าควรทำอะไรในสถานการณ์เช่นนี้
"ถ้าพวกแกไม่ออกมานางนักบวชกับจอมเวทนี่เป็นศพไม่สวยแน่" เสียงตะโกนพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดที่จำได้แน่ๆว่าเป็นของเรนมาเป็นหลักฐาน
ซีนิกส์บิดที่ลูกบิดแต่...
กึก !
เวรกรรม จะอะไร...ก็มีดที่ปักคาอยู่เกือบครึ่งเล่ม แม้เขาจะพยายามดึงมันออก แต่ก็ไม่เป็นผล
"จะเปิดไหม !"
โครม !
เสียงตะโกนครั้งสุดท้ายถูกกลบด้วยเสียงประตูที่พังปะทะหน้าผู้บุกรุกไปแล้วด้วยฝีมือใครบางคน
อัศวินนายหนึ่งในเกราะสีดำวับ ทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าเขาจะต้องเป็นหนึ่งในตัวเอ้ของสมาพันธ์ ตามด้วยมือดาบอีกเป็นโขยงกับเรนและเซียร่า...ยัยนักบวชนี่ยังไม่เท่าไหร่แต่ไอ้ท่านที่ปรึกษาคนสำคัญแห่งสภาเวทนี่สิ กลับมาเสร็จมือดาบกระจอกพวกนี้ได้
"ความอดทนน่ะมีไหม...ไม่เห็นหรือไงว่าประตูมันติดต้องพังออกมาเนี่ย" น้ำเสียงสบายอารมณ์พร้อมกับที่เจ้าตัวก้าวออกมาช้าๆ
"ซีนิกส์ โชเมส" อัศวินเกราะดำ กล่าวตอบพลางยิ้มอย่างแกนๆให้
"ลาเรว...ท่าทางคงจะมีคนส่งสาส์นไปเชิญแกมาเป็นแขกพิเศษของเราล่ะสิ" เป็นเสียงของนักฆ่าสาวที่ได้รับการตอบรับเช่นเดียวกัน
"อ้า...โซฟิเลีย เมลาเรน"
"หวังว่าพวกข้าจะไม่ได้มาขัดเวลาความสำราญ...แต่ข้ามาเพื่อชำระหนี้กับพวกเจ้า เจ้ารับเงินค่าจ้างจากท่านไพออสมาแล้ว แต่กลับมาร่วมทางกับพวกของสภาเวท ข้าคงต้องถือว่านี่...คือการทรยศ และคนที่ทรยศต่อสมาพันธ์ โทษที่จะได้รับคือความตาย"
เมื่อดาบเรียวยาวของผู้นำกองทัพย่อยๆถูกดึงขึ้นมาจากฝัก เป็นสัญญาณให้แก่เหล่าอัศวินผู้ติดตามทั้งหลาย
"ท่านคงต้องติดต่อที่สำนักงานแล้วล่ะครับ คุณลูกค้า" มือสังหารหนุ่มเอ่ยตอบ ใบหน้าของสองมือสังหารที่แม้จะถูกขู่เอาชีวิตยังคงนิ่ง
ส่วนนักบวชสาวที่ถูกใช้เป็นตัวประกันอยู่ตอนนี้ก็ทำสีหน้าได้อย่างสมบทบาท ที่น่าแปลกใจคือเซียร่าดูจะไม่วิตกกังวลกับการถูกเหล่า 'มือดาบกระจอก' พวกนี้เล่นงานเท่าไรนัก แม้จะเดิมพันด้วยตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งสภาเวทโอเรเนคก็ตามที
เรื่องที่น่าแปลกใจยังไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แม้เจ้านักบวชนอกรีตที่พักอยู่ห้องถัดไปจะขี้เซาสักเท่าใด เสียงตะโกนโหวกเหวกและเสียงพังประตูโครมครามเมื่อครู่ก็น่าจะทำให้อีกสองคนนั้นรู้ตัวบ้าง ลูคัสอาจจะไม่ได้ยิน อย่างน้อย...ลัวร์ก็ต้องได้ยิน
"คิดจะสู้กับพวกข้าหรือไง...เจ้าไม่มีทางชนะหรอก" เป็นประโยคแรกที่ออกจากปากจอมดาบขี้โอ่นี่แล้วให้ความรู้สึกว่าน่าจะเป็นความจริงมากที่สุด
ซีนิกส์ชักมีดยาวประจำตัวออกมาราวกับตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
เป็นวินาทีเดียวกับที่เกิดความรู้สึกกดดันมหาศาล อากาศรอบตัวถูกพลังบางอย่างบีบอัดจนไม่สามารถจะทรงตัวอยู่ได้
โครม !
เสียงดังโครมครามอีกระลอก พร้อมกับการจากไปของพื้นโรงแรมผุๆใกล้ตัวของ 'ต้นตอ' ผู้ใช้เวท พาเอาเหล่ามือดาบทั้งหลายร่วงลงไป
สมแล้วกับตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งสภาเวทที่เพิ่งจะถูกปรามาสไปเมื่อครู่ ท่านมหาเวทสามารถกำหนดอาณาเขตเวทโดยไม่ให้เรนถูกลูกหลงไปด้วย
เพียงตัวคนเดียวก็สามารถจัดการคนทั้งกองย่อยนี่ได้ในพริบตา
...ถ้าไอ้สองคนนั่นไม่ตื่นด้วยเสียงพังประตูเมื่อกี้ อย่างน้อยเสียงนี่ก็น่าจะมีผลอะไรบ้าง...
"อย่าเล่นแรงนักสิครับ ค่าห้องยังค้างเขาไว้เลย" ยังไม่ทันขาดคำ เสียงของจอมเวทหนุ่มก็ดังขึ้นจากอีกฟาก
มันคงรู้ตัวตั้งแต่ก่อนพวกอัศวินทวงหนี้นี่จะบุกเข้ามาแล้ว...แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
"ช่าย...รู้ม้ายว่านี่มานกี่โมงกี่ยามแล้ว" เจ้านักบวชตัวดีลากเสียงอย่างกวนประสาทตามมาติดๆ "โคนจาหลาบจานอน"
"ตอนนั้นข้าแค่เป็นห่วงเรนเท่านั้นแหละ ไม่งั้นแกจะได้มายืนลอยหน้าอวดดีอยู่ตรงนี้หรือ" เซียร่าขยับเสื้อคลุมให้เข้าที่
มันคงจะเป็นเหมือนคำแก้ตัวหากไม่ใช่เพราะอัศวินหลายสิบนายเพิ่งจะถูกท่านเซียร่าจัดการไปเมื่อไม่กี่นาทีมานี้
จากสถานการณ์ได้เปรียบสุดๆกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
...ไม่เห็นมีใครเคยบอกว่ายัยจอมเวทนี่จะเก่งขนาดนี้...
"ออกไปซะ ไม่งั้นข้าจะฝังเจ้าตรงนี้เลย" ไม่ว่าเปล่าท่านที่ปรึกษาควงคทาเป็นเชิงขู่
"อย่าลงมือเองเลยเจ๊ อุตส่าห์จ้างนักฆ่ามาทั้งที ปล่อยให้นักฆ่าลงมือจะคุ้มกว่า" ลูคัสบอกพร้อมกับโยนภาระเต็มๆ
"แกมันก็ชอบสั่งอยู่เรื่อย" คนถูกโยนภาระใส่เอ่ยอย่างหงุดหงิด
เคร้ง !
แต่ลงท้ายก็ยอมทำตามแต่โดยดี
มีดสั้นจากมือสังหารหนุ่มถูกดาบจากยอดอัศวินแห่งเอลเซสปัดทิ้งไปได้พร้อมกับคำปรามาส
"อย่าคิดว่ามีดกระจอกจะฆ่าได้ทุกคน"
"อย่าคิดว่านักฆ่าทำเป็นแค่เล่นมีด"
ดวงตาสีเข้มหรี่ลงอย่างอำมหิต ดาบยาวค่อยๆถูกดึงออกมาจากเสื้อคลุมของนักฆ่า...การประดาบของรองหัวหน้าสมาพันธ์อัศวิน และสมาคมนักฆ่าอิสระกำลังจะเริ่มขึ้น
เคร้ง ! เคร้ง ! เคร้ง !
มือสังหารหนุ่มกำลังบรรเลงเพลงดาบใส่ศัตรู ทั้งความเร็วและพละกำลังนั้นเป็นเลิศ คงสามารถจัดการฝ่ายตรงข้ามได้ภายในพริบตาหากศัตรูนั้นไม่ใช่บุรุษผู้นี้
...ลาเรว วัลเตส...
อัศวินแห่งเอลเซสผู้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าสมาพันธ์อัศวิน ถึงเจ้าตัวจะปากดีขี้โอ่สักเพียงใด ยามต่อสู้ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่คำโอ้อวดที่ไร้มูลความจริง และในทางกลับกันหากคู่ต่อสู้ของอัศวินผู้นี้ไม่ใช่ซีนิกส์เขาก็คงสามารถเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ชิ้ง !
ดาบในมือของอัศวินเกราะดำถูกซีนิกส์ปัดกระเด็นไป คงจะเพราะความประมาทในคู่ต่อสู้หรือไม่ก็เพราะเป็นความกังวล ถึงแม้เขาจะสามารถเอาชนะนักฆ่าตรงหน้าได้...ซึ่งก็ดูจะยากอยู่แล้ว คนที่เหลือนี่ดูท่าทางคงจะไม่ธรรมดา
เขายังคงสามารถเบี่ยงตัวหลบดาบในมือของคู่ต่อสู้ตรงหน้าได้อย่างเฉียดฉิว แต่คนอย่าง ซีนิกส์ โชเมส คงไม่ปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ได้นานนัก
ไม่ทันไรดาบของมือสังหารก็แทงถูกสีข้างของอัศวินหนุ่ม คงไม่ใช่ความบังเอิญที่บริเวณที่ดาบวาดผ่านนั้นเป็นรอยต่อระหว่างชุดเกราะพอดิบพอดี หยดเลือดไหลลงสู่พื้นไม้อย่างถี่ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะลาเรวสามารถหลบดาบนั้นได้ในวินาทีสุดท้ายแล้ว...คงไม่ได้มีแค่เลือดที่จะกองอยู่บนพื้นเป็นแน่
อย่างไรก็ตามแม้ลาเรวจะรอดจากการโจมตีเมื่อครู่ได้ สภาพของเขาในตอนนี้ก็คงไม่สามารถหลบวิถีดาบของคู่ต่อสู้ได้อีกต่อไป และบทสรุป...ก็คงไม่ต่างกัน
ดาบยาวถูกวาดขึ้นอย่างช้าๆ
...รองหัวหน้าคนสำคัญของสมาพันธ์อัศวิน เหตุใดจึงจบลงง่ายๆเช่นนี้...
ฉับพลันคนถือไพ่เหนือกว่าก็ผงะถอยออกมาจากร่างของเหยื่อ เพราะไอมนต์ที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบๆ แปรสภาพเป็นกำแพงลมที่กำลังก่อตัวหมุนวนอยู่รอบร่างของอัศวินหนุ่ม
"เวทเคลื่อนย้าย !" เป็นเสียงตะโกนของเจ้าจอมเวทระดับแปด ที่ถือคทาอยู่ในท่าบริกรรมเวท
"จงสลายไป !!" แสงสีแดงพุ่งออกจากคทาของผู้บริกรรมเวท ตรงเข้าสู่กำแพงลมของเวทเคลื่อนย้าย
...หากแต่ไม่เกิดผลใดๆ...
เวทเคลื่อนย้ายยังคงสามารถทำหน้าที่ของมันต่อไปได้อย่างไม่สนใจคาถาเมื่อครู่ เป็นไปได้เพียงกรณีเดียว คือ...พลังของผู้ใช้เวทนั้น มีมากกว่าลัวร์
...แต่ มันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ...
"แค้นนี้ข้าจะตามมาชำระแน่นอนไม่ต้องห่วง" คำพูดทิ้งท้ายของอัศวินหนุ่ม ทั้งๆที่มันควรจะเป็นประโยคของทางนี้มากกว่า ก่อนที่กระแสลมจะพัดกระหน่ำขึ้นและหยุดลงแทบจะในทันทีทิ้งไว้เพียงความเงียบวังเวง
ดวงตาสีฟ้าใสแต่แฝงแวววิตกกังวลของนักบวชสาวยังคงจับจ้องไปตรงที่พวกอัศวินเคยอยู่เมื่อครู่ ผมสีฟ้าขุ่นที่เคยดูนุ่มลื่นราวไหมบัดนี้ดูไม่ต่างจากหัวเจ้านักฆ่านั่นแม้แต่น้อย คงเป็นตอนที่สู้กับพวกนักดาบในห้องแต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจที่จะปัดให้มันดูดีขึ้นเลย
นักบวชอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้กันแต่ 'ความเป็นนักบวช' กลับเทียบกันไม่ได้ มันกำลังหาวถี่ๆอย่างกวนประสาท
สีหน้าของมือสังหารสาวยังคงเรียบ ราวกับเธอเพียงแค่รอคอยให้คนที่เหลือสงบสติอารมณ์ เพื่อออกเดินทางต่อ
ซีนิกส์ปล่อยสายตาออกไปทางหน้าต่างที่สุดทางเดิน ในใจคงกำลังโกรธแค้นตัวเองที่ไม่ฆ่าไอ้นักดาบขี้โอ่นั่นให้ตายๆไปเสียเมื่อยังมีโอกาส เป็นอาการที่ไม่ได้ต่างจากจอมเวทเจ้าของนัยน์ตาสีทองที่เหม่อลอยไม่แพ้กัน สาเหตุ...ก็คงจะไม่ต่างกันมากนัก
เซียร่ามองดูคณะเดินทางของตัวเองอย่างปลงอนิจจัง
"เอาล่ะ ใกล้เช้าแล้ว เราไปกันต่อดีกว่า" เธอยอมเค้นเสียงร่าเริงออกมาเพื่อทำลายความเงียบ
แม้แต่คนที่ควรจะบ่นก็ยอมตามออกมาอยู่หน้าโรงเตี๊ยมแต่โดยดี
โรงเตี๊ยม...ที่คาดว่าคงจะไม่มีใครมาพักที่นี่อีกต่อไปแล้ว ระเบียงซีกซ้ายถูกถล่มด้วยเวทอันทรงพลังของท่านมหาเวทที่ปรึกษาแห่งโอเรเนค ส่วนผลงานหลังคากับหน้าต่างที่แตกอีกเป็นแถบนี่ก็ของท่านไดเมส ปรากและ 'หน่วยทวงหนี้' ของเขา
ทางแยกทางเดิมจากเมื่อวานที่ยังมีป้ายแนะนำโรงเตี๊ยมปักอยู่ดูคุ้นตา
โครม !
ป้ายไม้ที่ยังเห็นกันอยู่เมื่อวินาทีที่แล้วบัดนี้หักกระจายอยู่ใต้เท้าของนักบวชที่เส้นอารมณ์ขาดไปนานแล้ว พร้อมกับที่มือของจอมเวทหนุ่มตบบนบ่าเขาเบาๆ
"ข้าจะไม่มาพักที่นี่อีกแล้ว ดูสิอาหารเช้าก็ไม่มีให้" ประโยคล้อเล่นประโยคแรกของท่านจอมเวทแห่งโอเรเนคที่ดูจะเหมาะกับบทจริงจังมากกว่า
"ช่าย.....บริการห่วยจริงๆ" เสียงสนับสนุนของลูคัส
พร้อมๆกับเสียงหัวเราะของนักบวชสาวแห่งเอลเซสที่กลับมารื่นเริงได้อีกครั้ง คณะเดินทางมุ่งหน้าสู่อีกแยก
แยก...ที่มีป้ายโลหะขนาดใหญ่กับตัวหนังสือที่สลักลงไปว่า 'สู่โรน์'
ความคิดเห็น