ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การันตี!!! นายคนนี้....ฉันรักจริง ^ ^v

    ลำดับตอนที่ #5 : คัดตัวนักแสดง

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 49



    จากวันที่เค้าขอฉันคบเป็นแฟน.......นี่มันก็ร่วมเดือนเข้าไปแล้ว

    ฟูหลงคบกับยัยโบขาวได้เดือนนึงแล้วสินะ..........

    หนึ่งเดือนที่แสนจะทรมาน

    ฉันเปลี่ยนไปมากๆเพราะเขา จากคนที่สดใสกลายเป็นเศร้าซึม จากรอยยิ้มกลายเป็นน้ำตา จากคนที่ไม่ตั้งใจเรียนก็ตั้งใจเรียน เพราะฉันอยากจะลืมเขา แต่ถึงยังไงเสียงที่อาจารย์พูด มันก็ไม่เข้าหูชั้นอยู่ดี (อ่าว....เวง)

    และฉันก็ยอมให้ยัยมิ้งค์แกล้ง(ยัยมิ้งค์พ้นโทษแล้ว)..........โดยไม่ตอบโต้ใดๆ

    ไม่ใช่ฉันไม่รู้สึก......ไม่ใช่ฉันไม่แค้น.......ไม่ใช่ฉันไม่อยากลุกขึ้นไปตบมัน......

    แต่ฉันกำลังรอ......รอให้ฟูหลงมาช่วยเหมือนเมื่อวันนั้น............

    ยัยเบียร์ยังคงไปตามฟูหลงครั้งแล้วครั้งเล่า..............แต่เขาก็ไม่มา

    คนที่จะมาช่วยฉันเสมอก็มีแต่......พี่นัทเท่านั้น

    “ไอ้ไวน์ ถ้าแกยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ฉันจะไปฆ่าไอ้ฟูหลงมัน”

    แกมีปัญญาก็ไปสิวะ....ไอ้พิม

    “เฮ่ย....อย่างนั้นไอ้ไวน์ก็ยิ่งเศร้าดิวะ เอางี๊ดีกว่าฉันจะเล่าเรื่องตลกให้ฟังนะ”

    “.............”

    “เอ่อ.....ถือว่าแกตกลงและกัน.....นี่เว่ย วันเสาร์ที่ผ่านมาฉันไปเดทกับกระต๊อบมา.......เราเดินจับมือกัน......มองไปข้างหน้า แกคิดดูเรามองพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันอ่ะ......โรแมนติกเปล่า????  แล้วทีนี้วุ่ย ชั้นเดินซุ่มซ่ามไปหน่อย.......ใช่เลย มุขเดิมอ่า.....ตกท่ออ่ะดิ แต่ทีนี้ฉันจับมือต๊อบอยู่หว่ะ......ฉันก็เลยลากต๊อบตกลงไปด้วย.......แก ซากอะไรไม่รู้ติดอยู่บนหัวต๊อบเต็มไปหมดเลยอ่า อย่างกะพรายท่อแหนะ.....555+”

    “...........”

    “อ่าว.....ไม่ขำหรอวะ”

    “............”

    “เฮ้ย....ไอไวน์ แกช่วยขำหน่อยดิวะ ไอ้ฝนอุส่าห์เล่าเลยนะ แกไม่ขำ มันเสียความรู้สึกนะ”

    “ห้าห้าห้า พอใจยังอ่ะ”

    “ไวน์......ฉันทนแกไม่ไหวแล้วนะ กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว แกจะไปสนใจไรมากวะ เห็นแต่ก่อนแกไม่แคร์หนิ คบไปมะถึงสองอาทิตย์ แกก็เขี่ยทิ้งแล้ว  แล้วนี่แกเล่นเศร้าเป็นเดือน แกยังเป็นไวน์คนเดิมที่ชั้นรู้จักรึเปล่าวะ”

    “ฉันไม่เป็นไรหรอก”

    ฉันพูดออกมาได้ในที่สุด มือก็ปาดน้ำตาไปด้วย ฉันก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงชอบฟูหลงได้มากขนาดนี้

    แต่ก็อย่างไอ้พิมว่า.....กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว

    อกหักแค่นี้.......ไม่ตายหรอก!!!!!!



    ออดดดดดดดดดด

    และแล้วชั่วโมงเรียนก็มาถึงซะที

    อาจารย์ที่ปรึกษาของเราเดินเข้ามา

    เหลือจะเชื่อ ร้อยวันพันหนไม่เห็นจะเคยเข้ามาเลย โฮมรูมเนี่ย สงสัยวันนี้จะมีอะไรพิเศษซะแล้วสิ

    “วันนี้...ครูจะมาบอกพวกเธอว่า เดือนหน้า เราจะมีงานนิทรรศการของโรงเรียน เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 55 ปีของโรงเรียน ห้องเราต้องจัดงานอะไรก็ได้อย่างหนึ่ง โดยที่ห้องเรา ห้อง 2/7 ต้องรวมกะห้อง 2/3 นะจ๊ะ รายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วจะมอบให้โรงเรียน และห้องที่มอบรายได้ให้โรงเรียนได้มากที่สุดจะเป็นห้องเรียนดีเด่นประจำปีนี้ ฉะนั้นครูก็หวังว่าพวกเธอจะนำเกียรติอันยิ่งใหญ่นั้นมาสู่ห้องของเราได้นะจ๊ะ หัวหน้าจะเป็นฝ่ายประสานงานนะ ให้หัวหน้าตั้งชุดทีมงานขึ้นมาช่วยชุดนึงและกัน”

    ไม่นะ!!!!!!!!!!!!

    ห้อง 2/3 ก็ห้องฟูหลงอ่ะสิ.........

    ถ้าฉันต้องเจอเค้า.......แล้วเมื่อไหร่หล่ะ???? เมื่อไหร่ฉันจะลืมเค้าได้

    ต้องใช้ทั้งชีวิตเลยหรอ..............(เว่อร์ไปๆ)



    ช่วงพักกลางวันหัวหน้าของห้องเรา(และคณะ)ได้ไปประชุมกับห้อง 2/3 เกี่ยวกับการจัดงาน และได้มติเป็นเอกฉันท์ว่าจะจัดแสดงละครเวที ให้เย็นนี้ทุกคนอยู่คัดตัวนักแสดงด้วย

    ฉันรีบหาโอกาสชิ่งหนี......ก็ฉันไม่อยากเจอฟูหลงกะยัยโบขาวหนิ(มันอยุ่ห้องเดียวกัน)

    แต่สุดท้ายฉันก็ต้องอยู่จนได้.......เฮ้อ

    ‘ถึงแม้ว่าจะเรียนพิเศษก็ต้องโดด’

    ‘ทำไมหล่ะ...การเรียนสำคัญมากนะ....ให้ฉันเล่นเป็นตัวประกอบหรือทำฉากก็ได้หนิ’

    ‘เพื่อห้องแค่นี้เธอทำไม่ได้ใช่มะหล่ะ...........ยัยเห็นแก่ตัว’

    ‘ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เด๋วแม่ฉันตีหลังลายทำไงอ่า’

    ‘เธอไม่บอก ฉันไม่บอก ยัยเบียร์ไม่บอก เพื่อนๆไม่บอก แล้วใครจะบอกหล่ะ’

    ‘ก็.....ก็ที่เรียนพิเศษไง เค้าเช็คชื่อด้วยนะ’

    ‘กรำ.....เออๆไปก็ไป......แต่เด๋วไวน์ ชั้นจำได้ว่าแกไม่ได้เรียนพิเศษนะ’

    ทำไมมันไม่โง่ให้ตลอดรอดฝั่งฟระ.......คนสวยเซ็งเลย



    เวลาที่ฉัน(ไม่)รอคอยก็มาถึง

    การคัดตัวนักแสดง..............ที่โรงยิม

    เรื่องที่เราจะเล่นก็คือ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าคัดตัวกันยังไง รู้แต่ว่าเค้าจะเรียกเพื่อนๆออกไปทีละคนๆ แล้วคณะกรรมการก็ซุบซิบๆกัน (อย่างกะนินทาเลยอ่า) แล้วก็กรอกอะไรไม่รู้ลงในใบรายชื่อ แค่นั้นก็เป็นอันผ่านการคัดเลือก

    ฉันเบื่อมาก มานั่งเรียกทีละคนๆ สองห้องด้วยนะ เป็นร้อยคนอ่ะ แล้วเลขที่ฉันมันก็อยู่ท้ายๆด้วย ร้อนก็ร้อน  ฉันออกไปหาอะไรกินดีกว่า

    ขณะที่ฉันออกไป นอกโรงยิม ฉันก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ฉันรีบซ่อนตัวหลังถังขยะ เพราะ เป็นคุณ คุณก็คงไม่อยากให้ใครได้ยินเวลาคุณทะเลาะกะใครบางคน ซึ่งฉันคิดว่าสองคนนี้น่าจะเป็นแฟนกันนะ

    “กี่ครั้งแล้ว อาหลง เธอทิ้งฉันไว้คนเดียวกี่ครั้งแล้ว”

    “ก็เธอทำอะไรชักช้านี่หน่า หัดทำอะไรเร็วๆบ้างสิ”

    “แล้วเธอก็ทำหน้าเหมือนกับไม่อยากอยู่กะฉันด้วย เธอรู้มั๊ยว่าฉันเสียใจนะ”

    “.........”

    “ฉันถามจริงๆนะ ฟูหลง เธอรักฉันบ้างรึเปล่า”

    “เกี๊ยว....ฟังนะ ฉันขอโทษ......ฉันไม่ได้...../////นั่นใครอ่ะ”

    แย่แล้วสิ ยัยโบขาวหรือจะเรียกให้ถูกก็ยัยเกี๊ยวเห็นฉันเข้าแล้วสิ

    ตายหล่ะหว่า.....มันเดินมาแย้ววววววว

    “นี่เธอ.....มาแอบฟังคนอื่นเค้าคุยกัน มันเสียมารยาทนะ”

    “ฉะ.......ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่จะออกมาหาของกินเท่านั้น”

    “นั้นก็ไปสิยะ....แล้วอย่าได้เอาเรื่องนี้ไปบอกใครหล่ะ.....ไม่งั๊นฉันจะให้อาหลงจัดการเธอ”

    ฉันรีบเดิน....ไม่ใช่เพราะยัยนั่นไล่ชั้นหรอก เพราะฟูหลงกำลังเดินมาทางนี้ต่างหาก

    “มีอะไรหรอเกี๊ยว”

    “มีคนแอบฟังหน่ะ คนไรไม่รู้เสียมารยาทชะมัด แล้วมะกี๊ อาหลงจะบอกไรฉันหรอ”

    ฉันยังคงยืนอยู่แถวนั้น.....ก็ฉันอยากรู้นี่หน่าว่าฟูหลงจะบอกอะไรยัยเกี๊ยว

    ‘ฉันไม่ได้......’

        นายไม่ได้อะไรหล่ะ......นายไม่ได้รักยัยนั่นใช่มะ

    “เอ่อ.....คือ ไม่มีอะไรแล้วแหละ”

    “ไม่ได้นะ อาหลงจะพูดไรก็พูดมา......เอ๊ะ!!!! นั่น เธอยังไม่ไปอีกหรอ”

    ยัยเกี๊ยววิ่งมาที่ฉัน ลากฉันมาหาฟูหลง (อี๊....ปล่อยฉันน้า เอามือโสโครกของแกออกไป)

    “เธออยากฟังนักใช่ไหม เรื่องของฉันกะอาหลงเนี่ย นั้นมายืนตรงนี้ มาฟังให้พอ”

    “...........” ฉันเองๆ

    “นี่เธอ......” ฟูหลง สุดเลิฟ

    “อ้าว ว่ามาฟูหลงจะบอกอะไรฉัน บอกมาให้ยัยนี่ฟังด้วย”

    “ฉัน.......ฉันรักเธอเกี๊ยว”

    อีกแล้ว.......ฉันหาเรื่องให้ตัวเองต้องเจ็บอีกแล้ว

    สองคนนั้น......จูบกัน!!!!!

    ฉันก็ทำได้แต่ยืนอึ้ง และก็ทำตัวเป็นนางเอกวิ่งหนีมาหน่ะสิ

    ทำไมนะ เจ็บแล้วไม่รู้จักจำ

    แค่ฉันไม่สนใจฟูหลงเท่านั้น แค่ฉันไม่สนใจว่าเค้าจะพูดอะไรกับยัยเกี๊ยว

    แค่นั้น ฉันก็ไม่ต้องมาเจ็บอย่างนี้!!!!!

    ฉันเดินไปโรงอาหาร  ตอนนี้กินอะไรก็ไม่ลงแล้ว......

    ฉันนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น......จนยัยเบียร์เดินมาตามฉัน

    “นี่พี่.....ร้องไห้อีกแล้วหรอเนี่ย”

    “เบียร์....จะถึงคิวแล้วหรอ”

    “อืม.....พี่เข้มแข็งหน่อยสิ อย่าทำตัวเป็นเด็ก พี่สอนชั้นอย่างนี้มาตลอดนะ”

    “อืม ต่อไปนี้พี่จะไม่ร้องอีกแล้ว”



    แล้วการคัดตัวนักแสดงก็เสร็จสิ้นลง เมื่อมาถึงคนสุดท้ายของห้อง 2/7 คณะกรรมการประชุมกันแป๊บนึงแล้วก็ออกมาประกาศถึงหน้าที่ของแต่ละคนให้ได้ทราบกันทั่วไป

    “เอาแหละ ต่อไปนี้เราจะเริ่มประกาศตัวละครก่อนนะ”

    “เริ่มจากบทเจ้าชาย......ฟูหลง นายได้บทนี้”

    เสียงวี๊ดวิ่วจากพวกผู้ชาย และเสียงกรี๊ดจากพวกสาวๆดังไปทั่วโรงยิม

    “สโนว์ไวท์........ให้เกี๊ยวไป”

    มีเพียงเสียงปรบมือจากพวกห้อง 2/3 เท่านั้น ก็เพราะว่าบทพระนาง ห้อง 2/3 มันได้ไปหมด

    เดือดร้อนถึงคนที่ไม่ยอมใครอย่างพิม  มันกระโดลุกขึ้นมายืน เด่นไหมหล่ะนั่น

    “ได้ไงอ่า.....พระเอกนางเอกให้ห้อง 2/3 หมดเลย แล้วห้องเรา 2/7 อ่ะ ไม่คู่ควรใช่มะ”

    ยัยนี่เหมาะแก่การเป็นแกนนำม๊อบจริงๆ เพราะห้อง 2/7 ต่างก็ลุกขึ้นยืนประท้วงตามยัยพิมกันไปหมด

    “แล้วเธอจะเสนอใครหล่ะ....พิม”

    “ฉันเสนอ......ยัยไวน์”

    “555+” มีคนหัวเราะเยาะฉันหรอเนี่ย ใช่สิฉันมันเตี้ย อ้วนด้วย(ถึงแม้จะมีคนบอกว่าอวบก็เหอะ) ไม่เหมาะ ไม่เหมาะเลยกะบทนางเอก ใครจะดีเหมือนยัยเกี๊ยวเน่านั่นหล่ะ

    หนอย....แต่ไอพวกที่หัวเราะ มันก็มีส่วนนึงเคยมาจีบฉันแหละหว่า ไอ้พวกอ่อน!!!

    “ไม่ได้หรอก พิม เพราะ ไวน์มีบทแล้ว ซึ่งฉันกำลังประกาศอยู่นี่ไง”

    “................”

    “บทคนแคระทั้งเจ็ด...........ไวน์.......เบียร์.......พิม.......ปุ่น.......นิว......ฝน.......มิ้งค์”

    เชื่อเค้าเลยให้กลุ่มฉันเป็นคนแคระหมดเลยนี่หว่า แล้วทำไมต้องพ่วงยัยมิ้งค์ด้วยเนี่ย

    “แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะพิม บทเด่นอีกตัวนึงก็เป็นของห้องเรา”

    “บทแม่มด......ยู้ฮู.....เธอรับไปนะ”

    “กรี๊ดดดดดดดดดด ฉันเหมาะกับแม่มดตรงไหนไม่ทราบ ใครเนี่ย....ใครบังอาจมาให้ฉันเป็นแม่มด บอกมานะ ฉันจะไปสาปมัน”

    ทุกคนขำกลิ้งกันไปหมด.......เหอๆ นี่ไม่เหมาะกับแม่มด แล้วเหมาะกะอะไรหล่ะเนี่ย

    แล้วคณะกรรมการก็ประกาศรายชื่อพวกตัวประกอบที่เหลือ ฝ่ายจัดฉาก ฝ่ายอุปกรณ์ และนัดเวลาซ้อม

    “ตกลงตามนี้นะ....พรุ่งนี้สี่โมงเจอกันที่โรงยิมนี้”

    พรุ่งนี้!!!!อีกตั้งเป็นเดือน จะรีบซ้อมทำไมเนี่ย เท่ากับว่าฉันต้องเห็นหน้าฟูหลงกะยัยเกี๊ยวทุกวันเลยหรอเนี่ย

    คิดแล้ว.........ชีวิตมันช่างเศร้านัก

    “แล้วสำหรับคนที่เรียนพิเศษ ให้มาลงชื่อไว้ เด๋วฉันจัดการเอง”

    เหอๆ ยัยคณะกรรมการทั้งหลาย ใหญ่จังนะ จัดการเรื่องเรียนพิเศษของเพื่อนได้เนี่ย

    ในที่สุด ฉันก็ได้กลับบ้าน วันนี้ฉันเดินกลับบ้านกับยัยเบียร์และก็พี่นัท รู้สึกเป็นกอขอคอมากเลยอ่ะ ฉันจะทำไงดีน้า ฉันคิดไปคิดมาก็คิดไม่ออก จนมาถึงบ้านฉัน(แล้วมรึงจะคิดทำไมเนี่ย) พี่นัทก็ยืนรอจนฉันกะเบียร์เดินเข้าบ้าน แล้วจึงกลับบ้านตัวเอง

    คนอะไร สุภาพบุรุษชะมัด............

    ถ้าฟูหลง ทำอย่างนั้นกับฉันบ้างก็ดีสินะ

    ไม่ได้ๆ ฉันจะมัวแต่คิดถึงฟูหลงได้ไง ฉันจะต้องเปลี่ยนใหม่...........

    ฉันจะต้องหาแฟนที่ดีกว่านายให้ได้ ฟูหลง

    ฉันเริ่มเข้าไปในห้องแชท จะหาเพื่อนผู้ชายมาทำแฟนซักคนมันก็ต้องเริ่มจากวิธีนี้แหละ ก็เพื่อนที่โรงเรียนอ่ะ มันเอาอ่าวซะที่ไหนหล่ะ ก็บอกแล้วว่าแต่ละคน สนามรบทั้งนั้น!!!

    ฉันเข้าไปดูๆชื่อ เอาชื่อนี้ดีกว่าโทยะ ชื่อเหมือนตัวการ์ตูนที่ฉันชอบเลยอ่า ฉันเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน....

    ‘ดีดี’

    ‘ดีฮับ’

    ‘ฉันชื่อ.........’ จาบอกชื่อจริงดีมะเนี่ย

    แต่ว่า.....เราต้องจริงใจกะคนที่เราจะเป็นแฟนด้วยนะ ถึงจะถูก

    ‘ไวน์....แล้วนายหล่ะ’

    ‘ผมชื่อพีฮะ ไวน์เรียนชั้นไร’

    ‘มอสองอ่า แล้วนายอ่า’

    ‘มอสามฮะ...’

    แล้วเราก็แชทกันตั้งแต่สองทุ่มยันตีสอง.....

    ในความคิดชั้น......หมอนี่ก็ไม่เลวแฮะ

    แต่ก็อย่างว่าเพิ่งจะคุยกันวันเดียวเอง ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเจอกันรึเปล่า....

    หวังว่าคงเจอนะ......ถ้าฉันเจอนายอีก ฉันจะคิดว่าสวรรค์ลิขิตให้เรามาเจอกัน

    แล้วฉันก็จะยอมเป็นแฟนนาย.....ถ้านายขอนะ

    อยากให้เวลานั้นมาถึงเร็วๆจัง.....ฉันจะได้ลืมฟูหลงซะที


    เช้าวันรุ่งขึ้น อากาศยังคงร้อนมากมาย พร้อมที่จะให้เพื่อนๆของฉันทุกคนกลายเป็นพิษสุนัขบ้าได้

    ยิ่งชั่วโมงแรกเรียนพละด้วยแล้ว....ฉันแทบอยากฆ่าคนจัดตารางสอน

    ให้นักเรียนเหงื่อออกแต่เช้าเชียว..........แล้วจะทนกลิ่นเพื่อนข้างๆทั้งวันได้ไงเนี่ย

    แต่ก็ต้องเรียนต่อไปหล่ะนะ.........

    ที่โรงเรียนของชั้น วิชาพละ เค้าจะปล่อยตามสบาย แค่ตอนสอบปลายภาคมาสอบให้ผ่านตามที่อาจารย์กำหนดเท่านั้น เกรดสี่ก็ลอยมาเห็นๆ แล้วไอ้เกณฑ์ของอาจารย์ก็ไม่ได้ยากเลย เรียกว่า ถ้าใครได้เกรดสามนี่มันบรม....สุดๆแล้วอ่า
    ก็ที่อาจารย์สั่งอ่ะนะ วิ่งเก็บของให้ได้ภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้  กระโดดตบแปะร้อยที ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ง่ายอ่ะ จริงหรือเปล่า

    และด้วยเหตุที่ว่า ชั่วโมงนี้ถือเป็นชั่วโมงว่าง ฉันกับเพื่อนๆเลยไปเข้าห้องสมุดแทน



    ที่ห้องสมุด แอร์เย็นเจี๊ยบ เงียบก็เงียบ เหมาะแก่การนอนจริงๆเลย

    ฉันไปหยิบหนังสือมาเปิด แกล้งๆหรอกอาจารย์เล่มนึง แล้วก็หลับไป ก็มะวานนอนตีสองนี่หน่า

    Zzzz………….

    o_o…………..

    แล้วอยู่ดีๆตาฉันก็สว่าง เพราะ....นังมิ้งค์มันคุยโทรศัพท์เสียงดังลั่นข้างๆฉัน

    คือมันดังมากๆ จนอาจารย์และเพื่อนๆทุกคนในห้องสมุดหันมามอง

    และด้วยความที่ห้องสมุดมันใหญ่ อาจารย์เลยมองไม่เห็น(ฉันคิดว่างั๊นนะ) อาจารย์เลยเดินเข้ามา พร้อมกับขยับแว่นอันใหญ่โตให้เข้าที่

    พออาจารย์จะเดินมาถึงเรา ยัยมิ้งค์ก็โยนโทรศัพท์ใส่ฉันทันที

    นางนี่.....เลวสุดๆอ่า

    “พวกเธอ....ใครเป็นคนทำเสียงดังเมื่อกี๊”

    นังมิ๊งค์ชี้มาที่ฉัน ขณะที่เพื่อนๆฉัน รวมทั้งฉันด้วยชี้ไปที่นังมิ๊งค์

    “อาจารย์คะ พวกทรรศิกา เค้ารุมแกล้งหนูค่ะ”

    หนอยยยย.....นังตอแหล

    “จริงหรอ ทรรศิกา”

    “ไม่จริงค่ะ”

    “แต่ครูเห็นโทรศัพท์มันอยู่ที่ตักเธอนะ”

    “แต่มันไม่ใช่ของหนูนะคะ”

    “ไม่ใช่ของเธอ แต่เธอก็ใช้มันอยู่!!!!”

    “ไม่ใช่นะคะ”

    “ยังจะเถียงอีกหรอ.....หลักฐานเห็นอยู่โทนโท่แล้ว”

    “...........”

    “ออกไปจากห้องสมุดเด๋วนี้ แล้วเอาบัตรนักเรียนมาด้วย  ฉันจะไปแจ้งฝ่ายปกครอง”

    “อาจารย์ครับ.....แต่ผมเห็นว่าคนนั้นเค้าเป็นคนคุยนะครับ”

    โอ้....สวรรค์ เสียงสวรรค์นี้มาจากใครเนี่ย

    ฉันหันไปตามต้นเสียง........

    ฟูหลง......นายอีกแล้วหรอเนี่ย!!!!

    “จริงเหรอ.....แล้วพวกเธอหล่ะ เห็นกันรึเปล่าว่าใครทำ”

    ทุกคนชี้นิ้วไปที่ยัยมิ้งค์ สมน้ำหน้ามันที่สุด โฮ๊ะๆ

    “เลวมาก.....ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แค่นั้นไม่พอ ยังใส่ร้ายเพื่อนอีก ยังมีข้อหาโกหกอาจารย์ด้วย ไปห้องปกครองเด๋วนี้”

    “..............” ยัยมิ้งค์เงียบไปเลย โฮ๊ะๆๆๆๆ

    ทันทีที่ยัยมิ้งค์เดินออกไป.....ฉันก็เดินไปหาฟูหลง

    “ไม่ต้องขอบใจฉัน.....ฉันแค่ไม่ชอบขี้หน้า ยัยนั่น ก็เท่านั้น”

    “............”

    ฉันเงียบ ฉันบอกตัวเองแล้วว่าฉันจะตัดใจจากเค้า

    และฉันก็ควรบอกเค้าด้วย ถึงจะถูก เค้าจะได้เลิกหลงตัวเองซะที

    “ยังไงฉันก็สมควรพูด”

    “....................”

    “ขอบใจนะ......เพื่อน”

    ฉันพูดไปแล้ว.....ฉันพูดคำว่า ‘เพื่อน’ ไปแล้ว

    ฉันทำได้.....ฉันไม่ได้ร้องไห้.......ออกมา

    แต่.......

    น้ำตามันตกใน...........

    นั่นมัน.....ยิ่งเจ็บกว่าให้มันไหลออกมาอีก

    ทำไมนะ.........................

    เลิกทำร้ายตัวเองซะทีเถอะ............ไวน์

    ลืมเค้าซะ...............
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×