คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : เมียรับจ้าง :: XVI (rewrite)
“คุณคริส คุณคริสคะ!!!” เสียงแหลมสูงของวิคตอเรียตะโกนเรียกชื่อเจ้านายพร้อมกระโจนเข้ามาอย่างไม่ขออนุญาตเจ้าของห้อง ร่างสูงที่กำลังอ่านเอกสารอยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัว
“เกิดอะไรขึ้นวิค!” คริสรีบลุกขึ้นยืน แสดงสีหน้าตกใจ เพราะคิดว่าคงมีเรื่องด่วนอะไรเกี่ยวกับโรงแรมวิคตอเรียถึงได้วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“คุณคริสเห็นหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างร้อนรนพร้อมยื่นหนังสือพิมพ์และชี้คอลัมน์ข่าวที่มีชื่อของเขาปรากฏหราอยู่
คริสอู๋! พาสาวเข้าบ้าน พ่อแม่ยืนต้อนรับด้วยความดีใจ อ่านต่อหน้า 7
คริสรีบเปิดไปตามหน้าที่บอกแล้วทันที สิ่งแรกที่เห็นคือภาพของหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งซึ่งก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นอี้ชิงที่กำลังสวมกอดอยู่กับม๊าของเขา โดยที่มีป๊ายืนยิ้มอยู่ข้างๆ ส่วนอีกรูปเป็นภาพเขาเดินโอบร่างบางมาขึ้นรถ แล้วยังมีอีกภาพที่เขาจำได้ดีว่ามันคือวันที่เขาไปช่วยอี้ชิงจากจงอินและประคองคนตัวเล็กที่สวมฮู้ดไว้ขึ้นห้อง แต่ทุกรูปล้วนเห็นหน้าอี้ชิงเพียงแค่ด้านข้างเท่านั้น คริสไล่สายตาลงมาอ่านรายละเอียดของข่าวด้านล่างต่อในใจ
สาวทั่วเกาหลีคงจะอกหักกันถ้วนหน้า เมื่อคริสอู๋พาว่าที่ลูกสะใภ้สาวสวยมาทำความเคารพพ่อแม่ที่บ้าน และดูท่าพ่อแม่ของคริสจะถูกใจไม่น้อยเพราะยืนยิ้มหน้าบานกันเลยเชียว แล้วสาวที่ว่าคนนี้เป็นใครกันนะ จะใช่คนเดียวกันกับที่คริสพาขึ้นคอนโดหรือเปล่า จะเป็นสะใภ้ตัวจริงของตระกูลอู๋หรือเปล่า เดี๋ยวนักข่าวสุดหล่อL.H.จะสืบเสาะให้เอง
เมื่ออ่านจบก็เหมือนมีควันสีเทาๆออกมาจากหูของร่างสูง เลือดขึ้นหน้าด้วยความโกรธ อีกแล้ว! ไอ้นักข่าวชื่อนี้อีกแล้ว! มันเป็นใครกันแน่ ไปตามถ่ายรูปพวกเขาที่คอนโดยังไม่พอ แต่ครั้งนี้ยังตามไปจนถึงบ้านใหญ่ แบบนี้จะปล่อยไว้เฉยๆไม่ได้แล้ว เริ่มก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเขามากเกินไปแบบนี้ต้องรีบจัดการก่อนความลับจะแตก
“วิคคุณไปหาเบอร์ของสำนักข่าวนี้มาให้ผมด่วน!” เอ่ยสั่งเลขาสาวอย่างหัวเสีย แต่ก็ไม่ทีท่าว่าวิคตอเรียจะออกไปหาเบอร์ตามที่เขาสั่ง แต่กลับรัวคำถามใส่เขาแทน
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ เป็นแฟนคุณคริสจริงๆเหรอคะ ฉันรู้จักมั้ยคะ ฉันเคยเห็นหน้าหรือเปล่าคะ?”
“แล้วจะอยากรู้ไปทำไมวิค” คริสย้อนถามเสียงเย็น
“ก็ฉันเป็นเลขาของคุณนี่คะ ทำไมจะอยากรู้ไม่ได้”
“แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน”
“แต่เรื่องของคุณก็เหมือนเรื่องของฉันนะคะ”
“อะไรนะ!!” คริสถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าเขาได้ยินไม่ผิด ทำไมเรื่องส่วนตัวของเขาต้องเหมือนเรื่องของเลขาสาวด้วย ไม่เข้าใจ
“คะ...คือฉันหมายความว่าถ้ามีนักข่าวโทรมาถามจะได้ตอบคำถามได้ไงคะ” หญิงสาวตอบตะกุกตะกัก ไม่กล้าสบกับนัยน์ตาสีเข้มที่มองมาแบบยังไม่หายข้องใจ แต่เจ้าของดวงตาคู่คมราวเหยี่ยวก็เลือกจะไม่ถามอะไรต่อและไล่ให้ไปหาเบอร์ของสำนักข่าวมาให้ เธอจึงยอมออกจากห้องมาก่อนที่เจ้านายจะรู้ความจริงในใจของเธอ
“ฮัลโหลอี้ชิงเหรอ” ทันทีที่วิคตอเรียออกจากห้อง คริสก็รีบต่อสายหาอี้ชิงอย่างไว
‘มีอะไรครับ ยังไม่เที่ยงเลยนะ’ เป็นเพราะปกติคริสมักจะโทรมาตอนเที่ยง แต่ตอนนี้เพิ่งจะสิบโมง เลยอดที่จะสงสัยไม่ได้
“นายเห็นข่าวเราวันนี้หรือยัง ไอ้นักข่าวมันเอาอีกแล้ว”
‘ยังเลยครับ ทำไมครับ เขาลงข่าวอะไร เห็นหน้าผมหรือเปล่า?’ อี้ชิงละล่ำละลักถาม
“ใจเย็นๆอี้ชิง ภาพที่มันเอาลงเป็นวันที่เราไปกินข้าวที่บ้านกัน แต่โชคดีที่เห็นแค่ด้านข้างนายทั้งนั้น แต่ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่มีภาพที่เห็นหน้าชัดๆเลย” ก็ช่วงเวลาที่พวกเขายืนลาป๊าม๊าที่หน้าบ้านและช่วงเวลาที่เดินมายังรถมันนานพอที่ช่างภาพจะสามารถรัวภาพได้หลายรูป แต่นักข่าวคนนั้นกลับเลือกแต่ภาพที่เห็นเพียงด้านข้างเท่านั้น เหตุผลที่ทำแบบนี้คืออะไรกันแน่?
‘ฮู่ว์ ดีนะครับที่ไม่เห็นหน้าผม’ อี้ชิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก ก่อนจะเอ่ยถามต่อด้วยความเป็นห่วง ‘แล้วคุณคริสจะทำยังไงต่อไปครับ’
“ฉันกำลังตามหาตัวมันอยู่ แค่จะโทรมาบอกให้นายระวังตัวหน่อย นักข่าวมันอาจจะเริ่มตามสืบเรื่องนายอยู่เหมือนกันก็ได้”
‘แล้วจะรู้ได้ไงครับว่าเป็นผม ผมแต่งเป็นผู้หญิงแล้วนะ’
“พวกนี้มันเก่ง แค่เห็นหน้ามันก็หาได้แล้วว่าใคร ระวังตัวด้วยนะอี้ชิง” จบประโยคไม่ทันไร ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกพร้อมปรากฏร่างเล็กของเลขาที่เดินหน้านิ่งเข้ามา คริสจึงรีบกล่าวลาคนปลายสายแล้วกดวาง
“ทำไมไม่เคาะประตู” ถามเสียงดุ แต่วิคตอเรียก็ไม่ได้สนใจที่จะตอบ กลับยื่นเศษกระดาษแผ่นเล็กให้แทน
“เบอร์สำนักข่าวค่ะ ฉันขอตัวก่อน” พอรายงานกับเจ้านายเสร็จ เธอก็เตรียมสะบัดก้นหนีแต่ก็ถูกคริสขัดไว้
“เดี๋ยว ถ้ามีนักข่าวที่อื่นโทรมาถามเรื่องนี้ ตอบแค่ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อนผมนะ ออกไปได้”
“รับทราบค่ะ” กระแทกเสียงรับก่อนจะเดินลงส้นเท้าตึงๆออกจากห้องไป
หลังจากที่ออกมาจากห้องทำงานของคริส วิคตอเรียก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูล็อคกลอนห้ามไม่ให้ใครเข้ามา ก่อนกรี๊ดออกมาสุดเสียง
“กรี๊ดดดด ทำมายยยย!! ทำไมเป็นผู้ชาย ทำไมเป็นอี้ชิง” ชื่อของอี้ชิงที่ออกมาจากปากคริสก่อนวางสายยังคงก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเธอเสมอ ทั้งที่ไม่ได้จะแอบฟังแต่ก็ห้ามความอยากรู้ของตัวเองไม่ได้ แล้วเรื่องก็เป็นไปอย่างที่เธอไม่คาดคิด คริสลูกชายคนเดียวของตระกูลอู๋ที่เธอหมายปองมาตลอดกลับตกเป็นของผู้ชายคนอื่น
“คุณคริสไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วทำไมถึงชอบอี้ชิง มันไม่จริงใช่มั้ย?” พึมพำกับตัวเองคล้ายคนบ้า แต่ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันมา คริสไม่เคยมีท่าทางหรือแสดงอาการว่าเป็นประเภทชอบไม้ป่าเดียวกันเลยสักครั้ง แต่เพราะอะไรอี้ชิงถึงได้ใจคริสไปครอง
“แล้วทำไมต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง กรี๊ดดดดดด ฉันอยากจะบ้า” ทึ่งหัวตัวเองแรงๆ แล้วเดินไปเดินมารอบห้องน้ำ คิ้วเรียวขมวดยุ่งอย่างใช้ความคิด เผลอกัดเล็บตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“ใช่! ลู่หาน! ลู่หานต้องรู้แน่ๆ” เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงรีบล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อสูทแล้วต่อสายไปหาคนที่ต้องการทันที
“ลู่หาน พี่เองนะ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย เดี๋ยวเย็นนี้พี่ไปหาที่ห้อง”
“สวัสดีอี้ชิง”
“อ้าวลู่หาน มาได้ไง” เสียงหวานเอ่ยทักทายเพื่อนใหม่ชาวจีนที่อี้ชิงคิดว่าหน้าตาละม้ายคล้ายกวาง
“พอดีมีเรื่องมารบกวนอี้ชิงอีกแล้วอ่ะ” ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆอย่างเกรงใจ
“จะให้ช่วยอะไรล่ะ”
“ก็วันนี้มีนัดกับเจ้านาย แล้วเจ้านายสั่งให้รออีกแล้วอ่ะ ฉันเลยจะมาขออี้ชิงไปนั่งรอที่ห้องเหมือนคราวก่อน”
“โธ่! นึกว่าเรื่องอะไร ได้สิไม่มีปัญหา งั้นลู่หานนั่งรอก่อนนะเดี๋ยวฉันเก็บร้านแล้วเราไปหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยไปที่ห้องกัน” ร่างบางยิ้มจนแก้มขาวขึ้นรอยบุ๋มลึก ลู่หานก็ยิ้มรับด้วยความดีใจ แต่คนตรงหน้าไม่รู้หรอกว่าภายใต้รอยยิ้มที่สดใสจะแฝงไปด้วยความร้ายเหลือ
ลู่หานไม่ได้จะมานั่งรอเจ้านายอย่างที่ปากว่า แต่จะเข้ามาเก็บเครื่องดักฟังที่แอบติดตั้งไว้ในห้องนอนคริสต่างหาก และวิคตอเรียก็โทรมารายงานเขาแล้วด้วยว่าคืนนี้คริสจะกลับดึกเพราะติดประชุมโปรเจ็คใหม่ของบริษัท วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดี
“อี้ชิง!” ลู่หานที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้หน้าเคาน์เตอร์ตะโกนเรียกเจ้าของร้าน อี้ชิงเลิกคิ้วแทนคำถาม ลู่หานจึงเริ่มพูดต่อ “ฉันว่านายคล้ายคนในรูปนี้เลยนะ” มองหน้าคนร่างบางกับรูปในหนังสือพิมพ์สลับกันไปมา เมื่อเห็นอีกคนจ้องเขาสลับกับแผ่นกระดาษในมือไม่หยุด อี้ชิงจึงเดินเขาไปใกล้ๆและชะโงกหน้าดู แต่แล้วก็ต้องชะงัก ลมแทบจับ ตาเบิกโพลงอย่างตกใจ เพราะคนในภาพคือเขาในเวอร์ชั่นผู้หญิง ถึงแม้จะรู้ข่าวจากคริสแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่เห็นข่าวจริงๆ เจอแบบนี้เลยอดตกใจไม่ได้
“ละ...ลู่หานเอาหนังสือพิมพ์นี้มาจากไหนเหรอ” อี้ชิงจำได้ในร้านไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับนี้
“อ๋อ ฉันซื้อมาอ่ะ เห็นหน้าหนึ่งลงเรื่องคริสอู๋ด้วย” แสร้งตอบด้วยท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ภายใต้หน้าตาใสซื่อเต็มไปด้วยความสะใจที่เห็นร่างบางร้อนรนไม่น้อย
“เหรอ”
“แต่คนในรูปดูคล้ายอี้ชิงจริงๆนะ ยิ่งมองข้างๆแบบนี้ยิ่งเหมือนราวกับเป็นคนๆเดียวกันเลย” ลู่หานถือวิสาสะจับใบหน้าหวานหันข้างแล้วพูดย้ำๆซ้ำๆแต่คำว่าเหมือนว่าคล้าย จนทำให้ร่างบางทนไม่ไหวรีบแกะมือเล็กออก และกล่าวปฏิเสธทันควัน
“จะเป็นคนเดียวกันได้ไง ลู่หานเพี้ยนไปแล้วเหรอฉันเป็นผู้ชายนะ ส่วนคนในรูปเป็นผู้หญิง ไม่ใช่คนเดียวกันแน่นอน” เน้นท้ายประโยคด้วยเสียงหนักแน่น รู้ทั้งรู้ว่าคนในภาพคือตน และถึงแม้ลู่หานจะเป็นเพื่อนแต่ก็ยังไม่สนิทพอที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังได้
“อืมมม ก็จริงนะ จะเป็นคนเดียวกันได้ไง” แกล้งทำเป็นคิดอยู่นานก่อนจะเออออเห็นด้วยกับร่างบางแต่ก็แอบยิ้มร้ายอย่างผู้ชนะอยู่ในใจ ต้อนให้มีท่าทียอมรับออกมากลายๆได้ขนาดนี้ สงสัยความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะไม่ธรรมดาจริงๆ
ลู่หานเองก็แปลกใจไม่น้อยเช่นกัน ครั้งที่ตามไปซุ่มทำข่าวคริสที่บ้านตระกูลอู๋ ก็เห็นอี้ชิงออกมาจากบ้านพร้อมกับคริสและครอบครัว แต่ที่อึ้งจนพูดไม่ออกคือชุดผู้หญิงและวิกผมยาวที่ถูกสวมอยู่บนร่างขาวจัดนั้นต่างหาก เหยี่ยวข่าวอย่างเขาเลยไม่ลืมที่จะเก็บอะไรเด็ดๆแบบนี้ไว้ แซะรูปมาได้เกือบสามสิบรูปเรียกได้ว่าจับทุกช็อตทุกการเคลื่อนไหว แต่อยากได้ความชัดเจนในความสัมพันธ์ของสองคนมากกว่านี้ จึงเลือกรูปที่เห็นเพียงด้านข้างลง
ผ่านมาเกือบชั่วโมงอี้ชิงก็มาชวนกลับห้อง แต่ก่อนกลับทั้งสามคนรวมพนักงานพาร์ทไทม์ก็ไปหาอะไรยัดใส่ท้องก่อน มื้อนี้มีลู่หานเป็นเจ้ามือใหญ่ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการขอบคุณที่อี้ชิงให้ความช่วยเหลือ
พออาหารมื้อเย็นจบลงทุกคนก็แยกย้ายกันกลับที่พัก หนุ่มชาวจีนทั้งสองพูดคุยกันมาตลอดทาง เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัว ที่ชอบใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา ง่ายๆ สบายๆ หรือแม้แต่อาหารการกิน อาหารจานโปรดของทั้งคู่ก็คือเนื้อย่าง พวกเขาเลยนัดกันไว้ว่าจะไปกินด้วยกันคราวหน้า อี้ชิงรู้สึกสนุกที่ได้พูดคุยกับลู่หาน ถึงแม้ตอนนี้คริสจะไม่ว่าง จงอินจะไม่อยู่ แต่เขาก็ยังมีลู่หานเป็นเพื่อน
“ลู่หานเอาน้ำผลไม้มั้ย” อี้ชิงเอ่ยถามหลังเอาของไปเก็บในห้องเสร็จ
“ขอแบบใส่น้ำแข็งด้วยนะอี้ชิง ฉันชอบกินแบบเย็นๆ”
“ได้สิๆ นั่งดูทีวีไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ถ้านานคงไม่ว่ากันนะอี้ชิง” ลู่หานลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ แต่มีเสียงแซวจากเจ้าของห้องตามหลังมาด้วย
“มีสเปรย์อยู่ในตู้อย่าลืมฉีดก่อนออกมาด้วยนะลู่หาน” แหย่กวางเสร็จกระต่ายน้อยก็สะบัดก้นเข้าครัวไปด้วยท่าทางอารมณ์ดี
แผนการอันแยบยลเหมือนครั้งก่อนถูกหยิบมาใช้ ลู่หานแกล้งเปิดปิดประตูห้องน้ำเสียงดัง ก่อนจะค่อยๆย่องมาที่ห้องคริสเพื่อเก็บเครื่องดักฟังหลักฐานมัดตัวเจ้าของบ้านทั้งสอง สภาพห้องในวันนี้เป็นปกติเหมือนวันนั้น ข้าวของของอี้ชิงและคริสยังอยู่ครบ เมื่อสำรวจห้องจนทั่วแล้วลู่หานก็ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อเก็บอุปกรณ์กลับบ้าน เครื่องดักฟังยังอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนย้ายไปไหนแสดงว่าไม่มีใครพบเห็นมัน ไฟสีเขียวยังเปิดอยู่แสดงว่ามันยังใช้ได้ดีไม่เสียไม่พังหรือแบตเตอรี่หมด ลู่หานยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อคิดว่าความจริงของคริสและอี้ชิงคงรอเขาอยู่ในเจ้าเครื่องนี้
จังหวะที่กำลังจะออกจากห้องสายตาก็พลันไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่แปะอยู่บนหัวเตียง เขาสงสัยมาตั้งแต่ครั้งก่อนแล้วแต่เป็นเพราะเวลามีไม่มากจึงไม่ได้สนใจ ทว่าวันนี้เวลามีเหลือเฟือจึงไม่ลังเลที่จะเดินไปดู ตากลมเป็นประกายดุจดังกวางไล่อ่านบรรทัดแรกแล้วก็ต้องเบิกโพลง
“สัญญาจ้างเมีย เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน” อุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คาคคิดมาก่อนว่าจะเจออะไรที่เด็ดขนาดนี้
“ข้อหนึ่ง เวลาพบป๊าม๊าหรือญาติต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง ถ่ายๆ แบบนี้ต้องถ่ายเก็บไว้ ไอโฟนอยู่ไหนวะ” ไม่รอให้อ่านจนจบมือเล็กก็รีบควานหาโทรศัพท์ยุ่งวุ่นวาย เมื่อโทรศัพท์อยู่ในมือก็รีบเข้าแอพถ่ายรูปทันที และจังหวะที่กำลังจะกดชัตเตอร์นั่นเอง...
“อี้ชิงฉันกลับมาแล้ว แล้วนี่รองเท้าใคร ชานยอลมาเหรอ?” เสียงทุ้มใหญ่ดังมาจากนอกห้องทำเอาไอโฟนสุดหรูที่อยู่ในมือลู่หานร่วงหล่นบนหมอนดังตุบ
“เฮ้ย! ทำไมกลับมาเร็วจังวะ ไหนบอกเลิกดึกไง ทำไงดีๆ” ปากเล็กพึมพำกับตัวเองอย่างร้อนรนเขารีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง และโชคดีเหลือเกินที่วันนี้ใส่แจ็คเก็ตมา จึงมีกระเป๋าให้ซ่อนเครื่องดักฟังได้ ลู่หานค่อยๆแง้มประตูออกแล้วย่องกลับมาที่ห้องน้ำ หลังจากนั้นก็แกล้งปิดประตูห้องน้ำเสียงดังและเนียนเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น
“โอ๊ะ!” แสร้งอุทานตกใจเมื่อเห็นคนร่างสูงยืนอยู่ใกล้อี้ชิง
“คุณคริสนี่เพื่อนผมชื่อลู่หานครับ” คริสมองหน้าเพื่อนใหม่ของอี้ชิงก่อนจะโค้งให้ ลู่หานก็โค้งกลับแล้วหันมาถามอี้ชิงอย่างงงงัน
“คุณคริสเป็นเพื่อนอี้ชิงเหรอ? ทำไมอี้ชิงไม่บอกฉันล่ะ”
“ก็ลู่หานไม่ถามนี่นา”
“นายเป็นเพื่อนกับคนดังแบบนี้ทำไมไม่บอกฉันล่ะ” หันไปต่อว่าเพื่อนเบาๆ อี้ชิงก็ได้แต่ยิ้มรับแห้งๆ เขาบอกไม่ได้หรอกว่าเป็นเพื่อนกับคริสอู๋คนดัง ก็เรื่องนี้มันลับสุดยอดนี่นา แต่เล่นมาเจอกันตรงๆแบบนี้คงเลี่ยงไม่ได้
“เดี๋ยวฉันไปเก็บของก่อนนะ เชิญคุณลู่หานนั่งตามสบายเลยครับ” คริสพูดแทรกขึ้น ก่อนจะพูดกับอี้ชิงแล้วหันกลับมาผายมือไปยังโซฟาเพื่อเชิญแขกให้ไปนั่ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมต้องไปแล้ว พอดีเจ้านายโทรมาตาม” ลู่หานพูดพร้อมกับเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย แล้วก็เผลอยิ้มขึ้นที่มุมปากเมื่อคิดได้ว่าวันนี้เขาช่างโชคดีจริงๆ เพราะไม่ได้เอากระเป๋ากล้องติดตัวมาด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้คริสที่น่าจะฉลาดกว่าอี้ชิงสงสัยได้
“ขอตัวกลับก่อนนะครับคุณคริส ไปแล้วนะอี้ชิง” กล่าวลาเสร็จก็รีบสวมรองเท้าและออกจากห้องทันที
“ฮู่ว์” เมื่อประตูห้องปิดลง ลู่หานก็พรูลมหายใจออกมายาวๆอย่างโล่งอก โชคดีเหลือเกินที่ไม่ถูกจับได้ ถ้าสองคนนั้นฉลาดกว่านี้สังเกตชื่อเขากับชื่อย่อที่ใช้ในการเขียนข่าวสักนิดก็คงจะรู้ แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกันในฐานะเพื่อน เพราะอี้ชิงหมดประโยชน์สำหรับเขาแล้ว
“คุณคริสเรื่องนักข่าวคนนั้นว่าไงบ้างครับ” อี้ชิงเอ่ยถามขณะนำมานมอุ่นมาให้คริสที่ห้องทำงาน ห้องเล็กๆโทนสีพาสเทลนี้เป็นห้องที่คริสบอกกับอี้ชิงว่าเขาจะเอาไว้เก็บของ และกลายเป็นห้องทำงานของเขาด้วย แถมช่วงนี้เจ้าตัวก็กำลังยุ่งกับการเร่งเปิดโรงแรมสาขาใหม่ที่ต่างประเทศพอดีเลยต้องหอบงานกลับมาทำต่อที่คอนโด
“ฉันโทรไปถามสำนักข่าวแล้ว แต่มันไม่ยอมบอกว่าใครทำข่าว” มือใหญ่ละออกจากแป้นพิมพ์ แล้วตบต้นคอเบาๆ โยกคอไปมาเพื่อให้คลายความเมื่อยก่อนจะหยิบแก้วนมขึ้นดื่ม อี้ชิงเห็นแบบนั้นจึงรีบทำหน้าที่เมียที่ดีทันที
“เดี๋ยวผมนวดให้นะครับ” พูดพร้อมกับบีบนวดที่ไหล่หนา คริสครางออกมาอย่างพอใจเมื่ออี้ชิงนวดถูกจุด
“แล้วคุณคริสจะทำยังไงต่อครับ” อี้ชิงกลับมาถามต่อเรื่องก่อนหน้าที่คุยค้างไว้
“ฉันจ้างนักสืบให้ตามเรื่องให้แล้ว ไม่น่าเกินวันพรุ่งนี้คงรู้ว่าไอ้แอลเอชมันคือใคร”
“ถ้าเจอแล้วจะทำยังไงต่อ”
“จะฟ้องหนักๆทั้งไอ้นักข่าวนั่นและสำนักข่าวเลย เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับคริสอู๋ อี้ชิงเขยิบขวาหน่อย แรงๆ อืมม แบบนั้นแหละ มีเมียมันดีแบบนี้นี่เอง” คริสที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างรู้สึกผ่อนคลายพูดขึ้นมา
“ดียังไงครับ?”
“พอกลับมาบ้านก็มีคนทำอาหารให้กิน พอเมื่อยก็มีคนนวดให้ พอเช้าก็มีคนปลุกไง ดีจะตาย”
“ไม่เห็นดีเลย มีผมเหนื่อยอยู่คนเดียว คุณไม่เห็นจะทำอะไรให้ผมบ้างเลย” ร่างเล็กหยุดนวดซะดื้อๆ คริสจึงรีบหันเก้าอี้กลับดูคนรักที่กำลังยืนกอดอกทำหน้างออยู่
“ใครว่านายเหนื่อยอยู่คนเดียวอี้ชิง ฉันเหนื่อยกว่าอีกนะ”
“เหนื่อยยังไงครับ ไม่เห็นทำอะไร”
“ก็รักนายมากกกกกกกจนเหนื่อยไง”
“แหวะ! จะอ้วก” ทำท่าเป็นอ้วกใส่ แต่ใบหน้าขาวนวลก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม เรื่องเลี่ยนๆเสี่ยวๆไม่มีใครเกินคริสอู๋เลยจริงๆ “คุณคริสทำงานไปเถอะครับ ผมง่วงขอไปนอนก่อน อย่าเข้านอนดึกนะ”
“จ้า” เมื่อได้ยินร่างสูงตอบรับเสียงหวานอี้ชิงจึงหมุนตัวกลับเตรียมเดินออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าก็ถูกดึงให้หันกลับไปและกลีบปากนิ่มอิ่มก็ปะทะเข้ากับริมฝีปากหนา ก่อนเจ้าของปากจะผละออกไปและกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหู
“กู๊ดไนท์นะอี้ชิง ถ้านอนไม่หลับมาเรียกฉันได้นะ” พูดเสร็จก็หันกลับไปทำงานต่อเฉยๆ ปล่อยคนที่โดนจุ๊บกู๊ดไนท์ยืนแก้มแดงอยู่คนเดียว
“ไม่มีคุณผมคงหลับสบายมากกว่า” พูดออกมาอย่างหมั่นไส้แล้วเดินกระทืบเท้าออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันที่เท้าของเขาจะก้าวพ้นประตู เสียงทุ้มก็ดังขัดขึ้น
“เดี๋ยวอี้ชิง!!” คริสรีบเรียกอี้ชิงไว้ทันทีหลังจากที่มีอีเมล์จากนักสืบที่เขาจ้างส่งมา และพอเปิดข้อความขึ้นมาก็ต้องตกใจ
“อะไรอีกครับคุณคริส” ถามอย่างรำคาญ เพราะคิดว่าคริสจะแกล้งอะไรอีก
“มาดูรูปนี้เร็ว” คริสหันกลับมากวักมือเรียกด้วยท่าทางร้อนรนแล้วชี้ไปที่หน้าจอแมคบุ๊ค
“นี่มันรูปลู่หานไม่ใช่เหรอครับ” รูปหน้าตรงของลู่หานปรากฏอยู่บนหน้าจอ อี้ชิงหันมองหน้าร่างสูงอย่างงุนงง คริสเรียกเขาให้ดูรูปลู่หานทำไมกัน
“ใช่! ลู่หาน หรืออีกชื่อคือนักข่าวสุดหล่อแอลเอชประจำสำนักข่าวโอเซน”
TasTo_raY Talk
ขอให้สนุกในการอ่าน #เมียรับจ้าง กันด้วยนะ
ความคิดเห็น