ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic EXO] รวม SF

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] คุณหมอเซฮุนกับมนุษย์ป้าคยองซู (HunSoo)

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 59






    สวัสดี


    มนุษย์ป้าคยองซู






    ...







    "ป้าเตี้ยๆ ขอกะเพราะไก่ไม่ใส่ใบกะเพราะไม่ใส่ไก่แต่ใส่หมู"



    "ป้า นี่จะเอาน้ำเย็น ไม่ได้จะเอาน้ำใส่น้ำแข็ง เตี้ยไม่เข้าใจหรอวะ?"



    "ป้า! กะเพราะใส่พริกทำไมอ่ะ ไม่กินเผ็ด"



    "เตี้ยอยาก…"



    "โว้ย!!" มือเล็กทุบโต๊ะเสียงดังลั่น ร่างเล็กของโดคยองซูโวยวายขึ้นมาจนคนในร้านหันมามอง



    "ไม่ได้ชื่อเตี้ยโว้ย!!แล้วหน้ากูเหมือนพี่สาวแม่มึงหรอ!" ริมฝีปากบางเรียบของร่างสูงกำลังส่งยิ้มกวนประสาทมาให้โดคยองซูก่อนจะลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงแล้วเดินเข้ามาประชิดคนตัวเล็ก ใบหน้าคมค่อยๆก้มลงมาจนแทบจะชิดกับใบหน้าของเขา



    สาบานได้ว่าเสียงที่กำลังได้ยินไม่ใช่เสียงหัวใจของโดคยองซู



    ก็บอกว่าไม่ใช่ไง



    "อ่อครับ ป้าคยองซูคนเตี้ย" คนตัวสูงที่ยกยิ้มมุมปากทำเอากล้ามเนื้อบนใบหน้าของคยองซูกระตุก



    "ตีนมั้ย?" เสียงหวานพูดด้วยเสียงนิ่งๆ



    "ไม่ดีกว่าป้า แตะช้างดาวไม่ค่อยอร่อย ผมไปละ" มือเรียวหยิกแก้มของคนตัวเล็ก รอยยิ้มมุมปากยังคงปรากฏอยู่บนหน้ากวนตีนนั่นก่อนจะวางเงินแล้วเดินออกไป



    เป็นที่ชินตาของคนในชุมชน สำหรับร้านอาหารตามสั่งหลังตลาด



    นั่นล่ะ ไอ้เด็กเวรโอเซฮุน



    .

     

     

    บรรยากาศมืดๆกับลมเย็นๆทำให้การแอบอยู่ในมุมอับอย่างนี้ไม่ค่อยน่าอึดอัดเท่าไหร่



    "ป้าเอ๊ยยย" ร่างสูงของโอเซฮุนพึมพัมเบาๆพลางหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นคนตัวเล็กกำลังพยายามที่จะดึงประตูกรงเหล็กลงมาปิดร้านแต่ดันสูงไม่ถึงจนต้องเอาเก้าอี้มาต่อแต่ก็ยังคงสูงไม่ถึงอยู่ดี ยิ่งเห็นร่างเล็กจิ๊ปากด้วยความขัดใจยิ่งทำให้เขายิ่งหลุดหัวเราะออกมามากกว่าเดิม มือเรียวหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ก่อนจะเดินออกไปจากมุมตึกที่ตัวเองหลบอยู่ราวกับบังเอิญเดินผ่านมา



    "แม่งเอ้ย อย่าให้รู้นะว่าใครขโมยไม้ดึงประตูไป จะเล่นให้แม่งเป็นหมันเลย" เสียงหวานที่พูดจาไม่ค่อยเหมาะกับหน้าตาทำให้โอเซฮุนสะดุ้งไปเล็กน้อยก่อนจะตีสีหน้าเป็นปกติ
    ไม่ให้อีกคนรู้ว่าคนที่เอาไม้ไปเป็นคนไม่ใกล้ไม่ไกล....เซฮุนเอง



    "อ่าวป้า ทำไรอ่ะ" เสียงทุ้มทักทายอีกคนที่กำลังสาปแช่งบุคคล



    "วางแผนฆ่าคน" คยองซูตอบด้วยเสียงเรียบๆจนคนฟังขนลุกก่อนจะมองไปรอบๆที่มืดแล้ว ความสว่างที่พอจะเห็นได้ก็มีเพียงที่มาจากเสาไฟริมถนนเท่านั้น

     

     

    "แล้วแกมาทำอะไร?" สิ่งที่โดคยองซูต้องการจะถามคือมาทำอะไรแถวนี้ในเวลาแบบนี้



    "ก็บังเอิญจะมาทำธุระแถวนี้อ่ะป้า" คำตอบที่ทำให้ร่างเล็กขมวดคิ้ว เวลาสองทุ่มที่ร้านค้าแถบนี้ปิดหมดแล้ว?



    "ธุระอะไรของแก"



    "ผมช่วยมะ" ร่างสูงเลี่ยงที่จะตอบคำถามของอีกคนแต่กลับยืดตัวขึ้นไปดึงประตูลงมาแทนคำตอบทำให้คนตัวเล็กเลิ่กคิ้ว



    ร่างเล็กมองอีกคนด้วยความแปลกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มือเล็กล็อคแม่กุญแจเข้ากับประตูเหล็กก่อนจะหันหลังเพื่อเดินกลับ



    "โหป้า ไม่คิดจะขอบคุณซักคำเลยหรอ" เสียงทุ้มตะโกนไล่หลังมาก่อนจะสาวท้าวขึ้นมาเดินข้างๆ



    "ทำไมต้องขอบคุณ?"



    "เอ้าป้า"



    "ไม่ได้ขอให้ช่วย" คำตอบจากใบหน้านิ่งทำให้เซฮุนต้องลอบยิ้ม โดคยองซูก็ยังเป็นโดคยองซูอยู่วันยังค่ำ



    "เดินตามทำไม?" ร่างเล็กหันมาเหวี่ยงใส่ร่างสูงพลางใช้ขาส่มส่วนของเขาเดินถอยหลังไปด้วย



    "ขาสั้นๆเงี้ยเดี๋ยวก็ไปสะดุดอะไรหัวคว่ำ"



    "ใครจะไปเป็นแบบนโอ้ย!" เซฮุนเบิกตากว้างเมื่อร่างเล็กที่เขาเพิ่งจะแซวไปเมื่อกี้ดันสะดุดขึ้นมาจริงๆ คยองซูทรุดลงไปกุมข้อเท้ากับพื้น


    ที่ข้อเท้าไม่ได้แสดงความผิดปกติใดๆออกมาแต่ใบหน้าเหยเกของคนตัวเล็กทำให้เซฮุนรู้ถึงความผิดปกติทันที



    ร่างสูงรีบเข้าไปพยุงเมื่อร่างเล็กทำท่าจะลุกขึ้นมาแล้วฝืนเดินต่อ



    "ฉันเดินเองได้" มือเล็กปัดแขนของเซฮุนออก




    "เห้ย! นั่นมันไอ้เตี้ยคยองซูป้ะวะ!" เสียงที่ดังมาจากข้างหลังทำให้ดวงตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นกว่าเดิม



    "ป้า เกาะให้แน่น!" เซฮุนพูดเสียงดังก่อนจะย่อตัวจับขาของอีกคนให้ขึ้นขี่หลังแล้วออกตัววิ่ง



    "อย่าหนีนะเว่ย!" ด้วยความเชี่ยวชาญของโอเซฮุน ร่างสูงวางอีกคนลงก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในซอกเล็กๆระหว่างตึกแล้วรีบดึงอีกคนให้ตามเข้ามา


    คยองซูเม้มปากแน่นเมื่อตอนนี้ใบหน้าของเขากำลังซบอยู่ตรงแผ่นอกกว้างของอีกคนเพราะความแคบของพื้นที่ ได้แต่บอกตัวเองให้ลดเสียงหัวใจที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ลงหน่อย มือเล็กกำเสื้อเชิ้ตนักศึกษาของคนสูงกว่าแน่น



    "เห้ย หายไปไหนแล้ววะ! แม่งเอ้ย!" ทันทีที่พวกนั้นเดินเลยไปคยองซูก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ท่าทางน่ารักที่ทำให้เซฮุนเผลอวางมือลูบไรผมนิ่มอย่างอ่อนโยนก่อนจะรีบชักมือกลับเมื่อรู้ตัวว่าเผลอทำสิ่งที่ไม่เหมาะเท่าไหร่ ร่างสูงดึงอีกคนให้ออกมาจากซอกเล็กๆที่แสนน่าอึดอัดก่อนจะถามคำถามเพื่อกลบเกลื่อนอาการที่แสดงออกไป



    "ป้าไปทำไรมาเหนี่ย"



    "เจ้าหนี้น่ะ" ร่างเล็กตอบออกไปพลางเกาจมูกแก้เก้อ สัมผัสที่ได้รับจากเซฮุนทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและรู้สึกไว้ใจแปลกๆ ทั้งๆที่ร่างสูงอายุน้อยกว่าเขาตั้งหลายปี



    "เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน" ร่างสูงย่อตัวลงตรวหน้าคนตัวเล็กอีกครั้ง คยองซูมองอย่างช่างใจก่อนจะตัดสินใจยอมขี่หลังของอีกคน



    ท่ามกลางอากาศเย็นๆกับแสงไฟที่ริบหรี่จากเสาไฟฟ้า มีเพียงเสียงลมพัดเบาๆ ไร้คำพูดใดๆ มันไม่ได้ดูน่าอึดอัดอย่าวที่ควรจะเป็น ในทางกลับกันความอบอุ่นแปลกๆที่เกิดขึ้นคืออะไร





    .



    ใบหน้าของคนตัวเล็กที่ซบอยู่ที่หลังกว้างทำให้โอเซฮุนยกยิ้ม



    โอเซฮุนก็เป็นแค่เด็กสายอาชีพธรรมดาๆที่สอบเข้าหมอจนในตอนนี้ได้เป็นนักศึกษาแพทย์ เมื่อก่อนก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีเรื่องฟันแทงกับใครไปทั่ว ทักษะการเอาตัวรอดของเขาเลยค่อนข้างที่จะดี



    สาเหตุที่เรียนหมอก็คงจะเพราะอยากให้คนตัวเล็กข้างหลังนี่มองเขาในทางที่ดีขึ้น เขาแอบมองพี่คยองซูร้านอาหารตามสั่งมาตั้งแต่เขาเรียนม.ต้น แต่นิสัยกวนตีนนี่ก็เหมือนจะเลิกไม่ได้สักที



    โดคยองซูตัวเบาเหมือนปุยนุ่น ถึงแม้ภายนอกจะดูตันเป็นก้อนๆก็เถอะ



    "ขอบใจ" คนตัวเล็กพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่นิ่งสนิทเหมือนเดิมอย่างเสมอต้นเสมอปลายเมื่อถึงที่หน้าบ้าน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นการหลบตาเสมองไปทางอื่นและแก้มกลมๆที่ตอนนี้เรื่อสีแดงอ่อน
    อย่างชัดเจน



    "ป้า" เสียงทุ้มเรียกอีกคนไว้เมื่อร่างเล็กกำลังเดินกะเผลกเข้าไปในรั้วบ้าน



    "ขอดูขาหน่อยดิ เข้าไปในบ้านได้ป้ะ?"




    .







    ดวงตาโตเหลือบมองอีกคนที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นพลางวุ่นวายกับขาของเขาที่นั่งอยู่บนโซฟา



    "ขาแพลงนะป้า มีผ้าพันขาป้ะ?" คนเป็นหมอถาม



    "มีๆ อยู่ในตู้" เซฮุนพยักหน้าตอบรับก่อนจะจับให้ร่างเล็กที่กำลังจะลุกขึ้นไปหยิบผ้านั่งอยู่ที่เดิมและเป็นเขาเองที่เดินไปหยิบ



    สิ่งของที่อยู่ในตู้ทำให้เขาต้องเลิ่กคิ้ว ทั้งผ้าก็อซ เบตาดีน ผ้าปิดแปล ผ้าพันขา ยาสามัญทุกขนาน และทุกสิ่งทุกอย่างที่จะใช้ในการปฐมพยาบาลอยู่ในนั้น



    "โหป้า นี่นึกว่าสถานีอนามัย" ร่างสูงหันไปพูดกับอีกคนที่นั่งอยู่




    "ก็ต้องมีพร้อมป้ะวะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นมา อย่างวันนี้แงะ"



    "ไม่ใช่ว่าซุ่มซ่ามเป็นประจำจนต้องมีของพวกนี้ติดบ้านหรอกนะ" เซฮุนพูดขึ้นพลางหยิบผ้าพันขาที่ต้องการออกมาก่อนจะปรายตามองหัวเข่าที่เป็นแผลถลอกของคยองซู



    โดยปกติร่างเล็กจะใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวตลอดทำให้ไม่เคยเห็นว่ามีรอยแผล รอยช้ำอะไรทั่วไปหมดแต่เมื่อกี้พอเขาพับขากางเกงขึ้นมาให้อีกคนเพราะจะดูเท้า ก็พบร่องรอยเต็มไปหมด




    ร่างเล็กนิ่งไปกับคำพูดของอีกคนที่รู้ทัน




    "แล้วก็ทำแผลเองทั้งหมด บางแผลนี่ลึกมากพอทำแผลแบบสั่วๆมันก็เป็นแผลเป็น ผิวสวยๆเสียหมด" ร่างสูงพูดพลางถกแขนเสื้อของอีกคนขึ้นที่ทำให้เห็นรอยแผลเป็น



    เป็นโชคดีของโดคยองซูที่ใบหน้าน่ารักนั่นไม่เคยโดนอะไร



    เขาสังเกตเห็นตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้าน กระดาษที่แปะอยู่เต็มไปหมดว่าระวังเดินชนนู่นชนนี่ แต่สงสัยว่าจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่แผลถึงเต็มตัวขนาดนี้



    ร่างเล็กหยุดหายใจไปชั่วครู่เมื่อมือเรียวจับข้อเท้าของเขาอย่างอ่อนโยนเพื่อพันขาให้



    ดวงตาโตจดจ้องไปที่ใบหน้าคมของร่างสูงที่กำลังตั้งใจกับการพันขาให้เขา ราวกับอยู่ในภวังค์ เพิ่งจะเคยสังเกตเป็นครั้งแรก ใบหน้าที่สมส่วนไปซะหมด จมูกโด่งกับริมฝีปากนิดๆนั่นทำให้ดูดีอย่างน่าประหลาด ผิวขาวเนียนละเอียดที่คาดว่าคงจะเป็นเพราะดูแลอย่างดี เขาเคยสงสัยว่าทำไมโอเซฮุนไปมีเรื่องกับใครๆตั้งเยอะ ทำไมผิวขาวๆนั่นถึงเหมือนไม่เคยมีรอยขีดข่วน ตอนนีเขาเข้าใจแล้ว



    "กลับแล้วนะป้า ไว้เจอกัน ระวังอย่าไปชนอะไรอีกล่ะ" คนตัวเล็กสะดุ้งหลุดจากภวังค์เมื่ออีกคนเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขา




    "อะเออๆ กลับดีๆ"




    หลังจากที่ก้าวออกมานอกบ้านร่างสูงก็มองกลับเข้าไปอย่างเป็นห่วง ขนาดปกติยังซุ่มซ่ามจนได้แผลเยอะขนาดนั้น แล้วยิ่งขาเจ็บอย่างงี้จะเป็นยังไง ไม่ได้อยากรีบกลับเลยสักนิด แต่เขารู้ดีว่าถ้าอยู่ต่อนานกว่านี้คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่ ตอนนี้ก็สามทุ่มครึ่งแล้ว




    "ฝันดีนะครับพี่คยองซู" ริมฝีปากบางยกยิ้มอ่อนโยนให้กับประตูรั้วหน้าบ้านของคนตัวเล็ก ตอนนี้เขากำลังรู้สึกมีความสุขจนรู้สึกว่าว่าประตูรั้วก็กำลังยิ้มตอบเขาเช่นกัน




    บางทีโอเซฮุนก็ไม่เข้าใจตัวเอง อยู่ลับหลังเรียกเค้าว่าพี่แต่พออยู่ต่อหน้าดันเรียกเค้าว่าป้า



    จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ?



    เรียกร้องความสนใจ




    ก็คงงั้นแหละมั้ง




    .




    เป็นเช้าที่อากาศสดใสว่ามั้ย โอเซฮุนกำลังทำหน้าอิ่มบุญจนผู้เป็นแม่ทักทายด้วยความเป็นห่วง



    "ยิ้มคนเดียวแกเป็นบ้าหรอ" บางทีอาจจะเข้าใจได้จากจุดนี้ว่าทำไมเซฮุนถึงเป็นคนกวนตีน




    "อากาศดีเน้อะแม่เน้อะ"




    "ดีบ้านพ่อแกสิ ฟ้ามืดฝนจะตกอยู่แล้ว เอาร่มไปด้วย" ผู้เป็นแม่โยนร่มมาให้เขาที่รับได้พอดี




    "พ่อผมก็ผัวแม่อ่ะแหละ อิ้อิ้ ไปละนะแม่"



    .



    โดคยองซูรู้ตัวว่าวันนี้เขาคงต้องปิดร้านเพราะไม่สามารถขนของไปทำขายได้แน่ๆ เลยกลายเป็นวันว่างๆที่เขาเอาแต่นั่งดูทีวีทั้งวัน เสียงกริ่งที่ดังขึ้นทำให้เขาขมวดคิ้ว ใครจะมาหาเขากัน?



    ร่างเล็กลุกขึ้นก่อนจะค่อยๆเดินออกไปที่หน้าบ้านอย่างทุลักทุเลก่อนจะเห็นร่างสูงที่คุ้นตากำลังยืนยิ้มกวนตีนเหมือนเดิม ในมือทั้งสองข้างของโอเซฮุนถือของพะรุงพะรังไปหมด



    "มาทำไม?" ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ริมฝีปากถึงยกยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ทันทีที่ได้เห็นคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน




    "ไปเบิกที่โรงบาลมาให้ เห็นป้าละสงสาร" มือเรียวชูสิ่งของในมือขึ้น ข้างนึงเป็นไม้ค้ำเดินสำหรับคนขาหัก ส่วนอีกข้างเป็นถุงกระดาษที่มีชื่อโรงพยาบาลสกรีนอยู่



    ร่างสูงทำท่าจะยื่นของมาให้ผ่านประตูรั้ว



    "รับไปดิวะป้า" โดคยองซูยืนนิ่งมองคนตรงหน้าก่อนจะพูดสิ่งที่ทำให้ทั้งสองไม่สามารถกลั้นยิ้มเอาไว้ได้



    "เข้ามาดิ"



    .



    "อันนี้ทาลบรอยแผลเป็นเข้าใจมั้ยป้า" มือเรียวชูครีมกระปุกสีขาวขึ้นก่อนจะยื่นให้เขาดู



    "ทาวันเว้นวัน ห้ามทาบ่อยๆเพราะเป็นสเตียรอยด์ ทาบ่อยหายเร็วก็จริงแต่มันอันตรายโอเคป้ะ ห้ามทาหนาด้วย ทาบางๆ" ร่างสูงที่พูดรัวออกมาด้วยใบหน้านิ่งราวกับไม่ได้ใส่ใจนัก



    "ป้าแม่งแก่ละ ผมกลัวป้าลืมเลยเขียนคำเตือนแปะไว้ที่กระปุกละ" ก็ไม่ได้เป็นห่วงเท่าไหร่




    "แล้วข้าวของในบ้าน อะไรที่มันมีคมป้าก็เอาผ้าไปปิดไว้สิวะ นี่โง่หรือโง่เนี่ย รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองซุ่มซ่าม" ไม่พูดเปล่าแต่ยังทำให้ด้วย



    ถึงจะกวนตีนแต่ก็เป็นความกวนตีนที่เจือด้วยความเป็นห่วงที่เขาเพิ่งจะรู้สึก



    "แกชอบฉันใช่มั้ย" โดคยองซูก็คือโดคยองซูที่ไม่มีการอ้อมค้อมใดๆ คำพูดที่ทำให้ร่างสูงนิ่งค้างทันที มือเรียวเผลอปล่อยผ้าลงพื้นก่อนจะกระแอมเพื่อกลบเกลื่อนแล้วเก็บผ้าขึ้นมาใหม่




    โอเซฮุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับดวงตาโต




    "ก็ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วป้าจะทำไง?" ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มทันทีที่อีกคนพูดจบ




    "ก็ไม่อะไร ฉันจะได้ชอบแกกลับ"




    ดวงตาทั้งสองจ้องกันอย่างไม่ลดละเพื่อหาความจริงใจจากคำพูดของแต่ละคนก่อนจะเป็นเซฮุนที่หลบสายตาก่อน ริมฝีปากบางอมยิ้มไม่ยอมหยุดจนคยองซูหัวเราะออกมา



    "ชอบก็บอกว่าชอบสิวะ เรียกร้องความสนใจทำไม" ร่างเล็กพูดพลางเบ้ปากก่อนจะมองเซฮุนอย่างสงสัยว่าร่างสูงทำเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่าง




    "จูบได้ป้ะ?"




    "ห้ะ!? เห้ย อื้อ!" ริมฝีปากอิ่มถูกทามทับอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว




    สวัสดีความเซฮุน


    The End.

    ติดแท็กทวิตเตอร์ #ฟิคหมอเซฮุนกับป้าคยอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×