คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไอศกรีม
ไอศกรีม
นี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่ผมต้องมานั่งร้องไห้เสียใจให้กับเค้า “นิชคุณ” คนที่ผมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนี้ทั้งที่ไม่รู้ว่าเค้าจะมาสนใจผมหรือปล่าวป่านี้เค้าอาจจะอยู่กับคนรักของเค้า “จาง อูยอง” เพื่อนสนิดผมก็ได้
ตอนนี้ผมหนีเรียนมานั่งอยู่ที่สวนดอกไม้หลังโรงเรียนที่ๆเวลาผมไม่สบายใจผมก็จะมานั่งอยู่ตรงนี้ทุกครั้ง
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่สบายใจแล้วมานั่งร้องไห้ที่นี่
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมต้องทนเห็นคนที่ผมรักทั้งสองรักกัน
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะแย่งคนรักของเพื่อนมาเป็นของตัวเอง
ผมมันเลวใช้ไหมหละ ที่คิดไม่ซื่อได้แม้แต่เพื่อนตัวเอง
ทำไม ทำไมกันนะทำไม่ผมถึงลืมพี่ไม่ได้
ทั้งที่ผมอยากจะลืมแต่ผมกับลืมไม่ได้ ทำไม ทำไมกันนะ
ทำไมเจ็บแล้วไม่รู้จักจำสักทีนะ “ลี จุนโฮ”
“เฮ่! จุนโฮนายมานั่งทำอะไรตรงนี้ฉันตามหาตั่งนาน หนีเรียนอีกแล้วสินะ”
ได้ยินดังนั้นผมจึงรีบเช็ดคราบน้ำตาตนเองแล้วตอบกลับไปโดยไม่หันไปมอนหน้าเพื่อนสนิทอีกคนอย่าง “ฮวาง ชานซอง”แม้แต่นิดเดียว
ผมไม่อยากให้เค้ารู้ว่าผมกำลังร้องไห้ ว่าผมกำลังอ่อนแอ
“ฉะ ฉัน เอ่อ ฉัน ฉันออกมารับลมข้างนอกนะ” ผมตอบออกไปอย่างตะกุตะกัก
“งั้นหรอ?”ชานซองเอ่ยตอบอย่างไม่เชื่อเท่าไหร่ก่อนจะมานั่งข้างหน้าผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จนทำให้ผมต้องก้มหน้าลงต่ำเพื่อไม่ให้เห็นดวงตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้อย่างหนักมา แต่ก็สายไปเสียแล้วเพราะคนอย่างฮวางชานซองนะตาไวจะตายไป
“ เฮ่! นูนอนายร้องไห้หนิ” เอ่ยถามพร้อมกับเชยคางเพื่อนรักอย่างผมขึ้น
“………………….”ผมไม่ตอบอะไรได้แต่มองหน้า
“ใครทำอะไรนายบอกฉันมานูนอ ฉันจะไปจักการมันให้”เขาเตรียมลุกขึ้น แต่ผมก็ดึงมือเค้าไว้ เพื่อที่จะห้าม
“ป่าวฉันไม่ได้เป็นไร ก็แค่เอ่อ.....เอ่อเครียดนิดหน่อยอ่ะ อย่าเครียดเลยชาน”ผมโกหกเขา ทั้งๆที่ผมเจ็บ แต่ผมไม่อยากให้เขาเป็นห่วง
“แล้วนายเครียดเรื่องไรหละ บอกชานได้ไหมนูนอ”
“เอ่อ.......คือว่า”ผมอ้ำอึ้ง
“เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ นายบอกฉันได้นะฉันสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ” เขาพูดแล้วมองผมกลับมาด้วยแววตาที่ยากจะเข้าใจ
น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วก่อตัวขึ้นอีกครั้ง จนมันหยดลงบนมือของชานซอง
ทำไมนะทำไมนายถึงดีกับฉันขนาดนี้ ถ้าเค้าคนนั้นดีกับฉัน ใส่ใจฉันได้สักครึ่งหนึงของนายก็คงจะดี
“เอาอีกแล้วนายร้องไห้อีกแล้วนะนูนอ พอแล้วหยุดร้องไห้ได้แล้ว ตาแดงหมดแล้วเนี่ย” เค้าเอ่ยพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ผม
“ฮึก...ฮืออออออ..ฉะ...ฉันหยุดไม่..ไม่ได้อะ...ฮือออออ” ผมตอบเค้าพร้อมกับร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะนูนอของชาน”เขาปลอบผม
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!!!!!!!
“เลิกเรียนแล้วกลับบ้านกันดีกว่า”เขาชวนผม
“ชั้นอยากไปกินไอติมอ่า ~” ผมอ้อน
“ก็ได้วันนี้ชั้นจะตามใจนายแล้วกัน เห็นนายเครียดอยู่หรอก”
”นายต้องเลี้ยงนะ 555 ”
“ก็เอาสิ”
.
.
.
.
“ชานชั้นอยากกินบาบาน่า เลิฟวิ่งยู ชานแบคชะชะช่าอ่ะ”(เป็นชื่อไอติมที่น่ากินและน่าฟินน์มาก)
“สั่งเลยสิ ถ้าชื่อไอติมมันยาวเกินไปอะนะ”
“ได้เดี๋ยวชั้นสั่งเอง นายเอาอะไรล่ะ”
“ชั้นเอา....(นาย)......”ก็คงได้แต่คิดแหละน่า ^^
“ไม่ต้องและชั้นสั่งให้นายเอง”
ร่างบางหันไปสั่งกับพนักงานสาวสวย
“ผมเอาบาบาน่า เลิฟวิ่งยู ชานแบคชะชะช่า และก็สตรอเบอร์รี่ไคโด้โอ้โอ้โอ้ฮิครับ”(ฟินน์อีกที)
“โอเคค่ะ ตามนี้นะคะ”หล่อนหัวเราะกับท่าทีของสองคนนี้
หลังจากพนักงานเดินไปแล้ว ก้มีเสีบงซุบซิบจากเคาน์เตอร์ว่า
“เธอดูสิ น่ารักทั้งคู่สงสัยจะเป็นแฟนกัน”
ร่างบางไม่ได้ตอบโต้อะไร ก็แก้เขินโดยการเปิดเมนูไปมา >///< ส่วนร่างสูงก็นั่งหน้าแดง มองหน้าร่างบางด้วยสายตาหวานหยาดเหยิม
กริ้งงงๆ เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านดังขึ้น เหมือนเป็นการขัดจังหวะของคู่รักจำเป็น
“อ่าว พี่คุณกะอูยองมาได้ไงอ่ะ นั่งด้วยกันสิ”ร่างสูงเอ่ยชวนบุคคลที่พึ่งเข้ามาใหม่
“จุนโฮนายไม่รอชั้นเลยนะ หนีออกมากับชานซองอีกแล้วนะ”อูยองแขวะ
“ตกลงเราสองคนจะเป็นแฟนกันรึเปล่าหนิ”นิชคุณถามเชิงแซว
“เปล่าครับพี่เรา ’เป็นแค่เพื่อนกัน’ ”จุนโฮรีบปฏิเสธ ชานซองถึงกับต้องก้มหน้ากับประโยคที่จุนโฮพูด
หญิงสาวพนักงานเสริฟ์มาเสริฟ์และพูดว่า
“บาบาน่า เลิฟวิ่งยู ชานแบคชะชะช่ากับสตรอเบอร์รี่ไคโด้โอ้โอ้โอ้ฮิได้แล้วค่ะ รับอะไรเพิ่มมั้ยคะ ?”หล่อนเอ่ยถาม
“ผมเอาวอเท่อเมล่อนเต๋าคชาที่นึงครับ เอาอะไรมั้ยครับอูยอง”นิชคุณหันมาถามคนรัก
“ไม่เอาผมอยากกินไก่อ่ะ พี่คุณ”อูยองงอแง
จุนโฮก้มหน้ากับภาพที่ได้เห็น ชานซองจึงจับมือร่างบางไว้และบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
ใช่ว่าชานซองไม่รู้ว่าจุนโฮคิดอย่างไรกับนิชคุณ แต่แค่เขาไม่พูดเท่านั้นเอง
“อ่าวจุนโฮไม่กินไอติมหรอละลายหมดแล้วหนะ”นิชคุณถามจุนโฮด้วยความเสียดาย (งกจังเยยพี่คุณ^^)
“ผมอิ่มแล้ว กลับบ้านกันเถอะชาน”ร่างบางเอ่ยตอบนิชคุณและหันไปกระซิบร่างสูงด้านข้าง
“’งั้นผมขอตัวก่อนนะครับนี่ครับค่าไอติม”ร่างสูงพูดก่อนจะจูงมือคนตัวเล็กออกมา
ระหว่างทางเดินไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งจนจุนโฮเริ่มอึดอัดจนต้องเป็นฝ่ายเริ่มหาเรื่องคุย
“นี่ชาน.....เอ่อ....คือว่าวันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านอะ......แล้ว....เอ่อ” ร่างบางอ้ำอึง
“แล้วทำไมหรอ????” ชานซองเอ่ยถามทั้งที่รู้ดีว่าร่างบานจะพูดอะไรต่อ
“คือฉันไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวอะกลัวผี วันนี้ฉันไปนอนบ้านนายได้ไหม นะๆๆๆ ชานนะ~” ร่างบางตอบกลับอย่างเขินอาย
“แล้วทำไม่ไม่ไปนอนกับอูด้งอะ” ร่างสูงเล่นตัว
“ไม่เอาอะ นายก็รู้ว่าอูยองกับพี่คุณเค้านอนบ้านเดี๋ยวกัน แล้วจะให้ฉันไปเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนั้นทำไมหละ”ร่างบางเอ่ยอย่างน้อยใจ
“อะก็ได้ แต่ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของ(เวอร์จิ้น)นายนะ” ร่างสูงพูดไปยิ้มไป
“อะหมายความว่า??”ร่างบางถามอย่างงงๆ
“อ๋อ~ ฉันหมายถึงว่าคนที่บ้านฉันมันเยอะเลยกลัวนายจะนอนไมหลับเพราะเสียงเอ่อ...เอ่อชั่งมันเหอะ”ชานซองโกหกจุนโฮอย่างอ้ำอึ้ง
“อ๋อ~ แล้วนายจะปล่อยมือฉันได้ยัง”จุนโฮเอ่ยถามพร้อมกับยกมือขึ้นให้ร่างสูงเห็น
“ก็มือนายนุ่มดีก็เลยอยากจับอยางนี้ตลอดอะได้ปะ”ร่างสูงถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆร่างบางจนคนตัวเลขกว่าต้องเขยิบออกห่าง
“อยากจับก็จับไป” ร่างบางเอยตอบก่อนจะก่มหน้าลงต่ำเพื่อไม่ให้อีกคนเห็นว่าหน้าของเขากำลังแดดไปจนถึงใบหู แต่มีหรือคนตาไวอย่างชานซองจะไม่เห็น
ความคิดเห็น