คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ทอม เฟลตัน?
“รับสายแล้ว!” ยุนโฮใช้มือปิดหูโทรศัพท์เอาไว้แล้วหันมาปรึกษาชางมินอย่างตื่นเต้น
“คุยไปเลยซิ!” น้องชายกระซิบให้เขาเริ่มปฏิบัติการ
“แต่...”
“มั่นใจหน่อยสิฮยอง!” ชางมินตบไหล่หัวหน้าวงอย่างให้กำลังใจ เขาจึงสูดหายใจ แล้วยกโทรศัพท์แนบหู
** ต่อไปนี้จะเป็นบทสนทนาทางโทรศัพท์ จึงจะขอใช้สีแทนแต่ละฝั่งนะคะ**
โดยสีเขียว แทนฝั่งยุนโฮ
สีชมพู แทนฝั่งชนนี่
“ 안영”
เด็กสาวสะดุ้งเฮือก... ตายล่ะหว่า ไม่ใช่คนไทย!!
ที่สำคัญ... เขายังพูดภาษาเกาหลีอีกด้วย!!
“H
Hello” เธอทักเป็นภาษาอังกฤษไป “Who are you?”
ยุนโฮป้องหูโทรศัพท์อีกครั้ง แล้วหันมากระซิบถามน้องชายที่นั่งลุ้นอยู่ข้าง “เธอพูดภาษาอังกฤษอ่ะ”
“ก็ต้องพูดภาษาอังกฤษสิฮยอง ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนเกาหลีซะหน่อย” ฝ่ายให้คำปรึกษาบอก
“แล้วทำไงอ่ะ?” ยุนโฮเป็นกังวล
“ก็คุยไปซี!”
“แต่...”
“เร็วเข้าฮยอง!” ท่าทีที่ชางมินดูลุ้นกว่าเจ้าตัวทำให้เขาต้องรีบตอบปลายสายนั้น
“Who are you?” เขาถามกลับคำถามเดิมซะงั้น - -“
“This number
no no
your number is mine.” เธอตอบแบบค่อนข้างจะสับสนในชีวิต...
“What’s your name?” ยุนโฮเข้าเซตคำถามคลาสสิค
“My name is Chonny! Who are you?” เธอก็ใช้ประโยคภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน - -“
ยุนโฮหันมาปรึกษากะที่ปรึกษาส่วนตัว “เขาถามว่าเป็นใครอ่ะ จะตอบไงดี?”
ชางมินครุ่นคิด จากที่เขาชันสูตรโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้คร่าวๆ ดูจากรูปหน้าจอและสายคล้องโทรศัพท์แล้ว เธอต้องเป็นแฟนคลับของพวกเขาแน่ๆ ถ้ายุนโฮตอบไปว่าเขาคือยุนโฮ เรื่องมันคงยิ่งวุ่นวาย...
“บอกไปว่าพี่ชื่อ ทอม”
“เอาชื่ออื่นได้มะ? ชื่อทอมมันโหลอ่ะ - -“” ยุนโฮออกแนวเรื่องมากนิดๆ
“ชื่อทอม เชื่อผมเถอะ”
ยุนโฮถอนใจ แม้เขาจะไม่อยากใช้ชื่อปลอมว่าทอม แต่เขาก็นึกชื่ออื่นไม่ออกแล้วจริงๆ “I’m Tom. I met your cell phone at the airport”
“ว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นที่แอร์พอร์ต!!”
“What?” เขาไม่เข้าใจภาษาไทยที่เธอพูด
“ah
er
How can I get my phone back?” เธอถามต่อด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษแบบบ้านเกิดมากมาย(สำเนียงคนไทย - -“) โชคดีที่ปลายสายก็ใช้สำเนียงภาษาอังกฤษไม่ค่อยชัดจึงสื่อสารกันรู้เรื่อง
“just a moment” เด็กหนุ่มหันมาปรึกษาคนข้างๆอีกครั้ง “เธอถามว่าจะคืนโทรศัพท์ให้เธอได้ไงอ่ะ?”
ชางมินหยิบแว่นตามาสวม บวกกับใบหน้าฉลาดเฉลียวของเขาแล้ว มันยิ่งทำให้เขาเหมือนนกฮูกน้อยเลยทีเดียว >.<
“มันก็ไม่ยาก ก็คืนเขาไปสิ”
“แล้วจะคืนยังไง?” ยุนโฮถามตรงประเด็น
คิ้วหนาของชางมินขมวดมุ่น... นี่แหละปัญหา ถ้ายุนโฮเอามือถือไปคืน เธอคนนี้ก็จะพบตัวจริง แล้วมันก็อาจจะบานปลายไปมากกว่านี้ แต่เรื่องโทรศัพท์นี้ยุนโฮขอร้องเขาเด็กขาดว่าอย่าบอกใคร เพราะฉะนั้นคงต้องใช้วิธีปลอมตัว...
“เอางี้แล้วกันฮยอง” แล้วผู้คิดแผนการก็ดึงโทรศัพท์มาคุยด้วยตัวเอง...
+++++++++++++++++++
“ทำอะไรของเธอน่ะ?” แจนถามคนที่เดินออกมาจากห้องนอนแล้วตรงไปที่ครัว... สงสัยเหลือเกินว่าดึกดื่นป่านนี้ทำไมยังไม่เข้านอนอีก (แต่ตัวคนถามเองกยังไม่นอนเหมือนกัน - -“)
ฝ่ายคนถูกถามไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่เปิดตู้เย็นแล้วหยิบแตงกวาออกมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ
“ดึกป่านนี้ยังจะกินอะไรอีกหรอเธอ?” แจนอึ้ง ไม่คิดว่าเพื่อนเธอจะชอบกินอาหารมื้อดึก
“ใครว่าฉันกินยะฉัน จะเอามาเสริมความงามที่มากมายอยู่แล้วของฉันให้มากขึ้นต่างหาก” ชนนี่บอกก่อนที่จะหยิบแผ่นแตงกวาที่หั่นเมื่อครู่เข้าปากซะงั้น - -“
“ไหนบอกว่าไม่ได้เอามากินไง”
“ชิมดูยะว่าใช้แล้วหน้าฉันจะสวยขึ้นมากน้อยแค่ไหน ^0^” แล้วชนนี่ก็จัดแจงเก็บล้างเขียงและมีดที่ใช้หั่นแตงกวาเมื่อครู่โดยมีแจนที่มองตามเธอทุกขั้นตอนอย่างไม่วางตา
“ดึกป่านนี้แล้วเธอไม่นอนรึไง?” ชนนี่ถามขณะที่รินน้ำเย็นหนึ่งแก้ว
“ฉัน.. “ แจนอ้ำอึ้ง ที่เธอยังไม่นอนเพราะว่าเธอกำลังแอบเจ้าของบ้านดูวีซีดีหนังผีกะเด็กๆพวกนั้นอยู่ ขืนบอกความจริงไป เธอและพวกน้องๆต้องไม่เหลือซากแน่ๆ “แล้วเธอล่ะ ปกติสามทุ่มก็หลับแล้วไม่ใช่หรอ?” เธอถามกลับเพื่อเลี่ยงประเด็นของเธอ
“ฉันตื่นเต้นน่ะ เธอไม่ตื่นเต้นมั่งหรอ?” ชนนี่จิบน้ำอย่างค่อยเป็นค่อยไป
“ตื่นเต้นสิเธอ!”
“อ่อ... ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเหมือนกัน” ชนนี่หันไปล้างแก้วที่อ่างล้างจานทำให้แจนต้องรีบถอนใจอย่างโล่งอก ให้ชนนี่เชื่อว่าเธอตื่นเต้นจนนอนไม่หลับก็ยังดีกว่าให้รู้ความจริงเรื่องหนังผีล่ะนะ
“รีบๆนอนซะล่ะ อย่าตื่นเต้นมากเสียจนนอนไม่หลับทั้งคืน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่สวยนะแก ^0^” แล้วชนนี่ก็หยิบแตงกวาที่หั่นเมื่อครู่เตรียมจะเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่แจนรั้งไว้ก่อน
เธอจ้องหน้าเพื่อนเขม่นเหมือนจะจับผิดอะไรบางอย่าง
“ทำไมมองฉันอยางนั้นล่ะ?” ชนนี่เหงื่อตก... โดนจ้องหน้าแบบนี้มันไม่ค่อยจะน่าสบายใจสักเท่าไหร่หรอกนะ
“ฉันว่าเธอแปลกๆ” แจนพยายามสังเกตความผิดปกตินั้น
“แปลก?”
“เธอใช้เครื่องสำอางบำรุงผิวหน้าก่อนนอนใช่มั้ย?” เธอสังเกตเจอในที่สุด... หน้าของเพื่อนเธอดูเหลืองนวลจากปกติเพราะพอกครีมบำรุงผิวเอาไว้
ชนนี่ยิ้มอย่างเขินๆ
“เธอไม่ชอบใช้ของพวกนี้นี่”
“ก็ฉันอยากจะใช้ขึ้นมาอ่ะ ไม่เอาแล้วฉันง่วง ไปนอนก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์” แล้วเธอก็รีบเดินเข้าห้องไปเลย
“เฮ้อ!” เด็กสาวถอนใจอย่างโล่งอก ถ้าเธออยู่กับยัยแจนนานกว่านี้มีหวังต้องถูกยัยนั่นเค้นความจริงออกมาแน่ๆ จะทำไงได้ล่ะ ก็เธออยากสวยเหมือนกันนี่ อยากสวยเพราะ... หนึ่งคือวันพรุ่งน้เป็นคอนเสิร์ตสำคัญของดงบังชินกิอันเป็นที่รัก และสอง... ผู้ชายคนที่ชื่อทอมนัดเธอไปรับโทรศัพท์คืน
เธอสงสัยเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงชื่อทอม ทั้งๆที่เขารับสายด้วยภาษาเกาหลี และฟังสำเนียงแล้วเขาน่าจะเป็นคนเอเชีย และต้องเป็นคนเกาหลีแน่ๆ หรือเขาจะเป็นลูกครึ่ง? (คนแต่งฝังใจกะคนชื่อทอมมากไปป่าวเนี่ย 555+)
ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ใช่คนไทย และฟังจากเสียงแล้วเสียงเขาหล่อ... หน้าจาก็อาจจะหล่อ ^0^ เพราะฉะนั้น แต่งสวยไว้ก่อนแล้วกัน >< (อาการม่อกำเริบอะเกน)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
เสียงคลุกคลักบวกกับกลิ่นหอมที่ลอยมาจากในครัวทำให้แขกทั้งสี่ลืมตาตื่นในที่สุด
“มีอะไรให้กินมั่งอ่าพี่ชนนี่” บีทถามทั้งๆที่ยังสะลึมสะลือ
“โจ๊กจ้ะ รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วมากิน” ชนนี่ตอบเสียงใสด้วยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
30 นาทีต่อมา โจ๊กทั้ง 5 ถ้วยก็ถูกเสิร์ฟ ก่อนที่เจ้าของบ้านจะถอดผ้ากันเปื้อนออกให้เห็นถึงชุดแซกสีขาวยาวประมาณหัวเข่า ประดับด้วยริบบิ้นและลูกไม้สีชมพูน่ารักๆ
“โห! พี่ชนนี่จะตื่นเต้นอะไรนักหนาเนี่ย แต่งตัวตั้งแต่เช้าเลยหรอ คอนเสิร์ตเริ่มตั้ง 6 โมงเย็นโน่นนะเจ๊” เมย์แซว
ชนนี่หวีผมแล้วคาดที่คาดผมจิ้มลิ้มก่อนที่จะหันมาตอบรุ่นน้อง “พี่ต้องไปธุระก่อนน่ะจ้ะ ฝากบอกยัยแจนด้วยนะว่าให้ล็อคบ้านให้พี่ด้วย” ชนนี่ฝากฝังเพราะแจนยังคงอาบน้ำอยู่
“แล้วพี่จะมาทันนัดที่บ้านไร่บ่ายโมงรึป่าวเนี่ย?” พีชตักโจ๊กเข้าปาก
“คิดว่าทันนะ ถ้าไม่ทันก็บอกพวกเจ๊ๆให้พี่ด้วยแล้วกันว่าไปเจอกันที่อิมแพ็คเลย ^^” ชนนี่เดินไปหยิบกระเป๋าถือที่โซฟาหน้าโทรทัศน์แล้วหันมาร่ำลากับพวกน้องๆ “ฝากอพาร์ทเม้นพี่ด้วยนะ อย่าลืมที่บอกไว้ล่ะ พี่ไปก่อนนะ”
“เดี๋ยว...” บีทโผล่หน้าออกมาจากห้องแต่งตัว
“หืม?” ชนนี่หันกลับมา
“โจ๊กของเจ๊มีอีกป่ะอ่ะ?” บีทยิ้มแหยๆอย่างเขินๆที่เธอถามเรื่องกิน
“อยู่ในครัวน่ะ ถ้าไม่พอก็เติมได้ พี่ไปแล้วนะ” แล้วชนนี่ก็เดินออกจากบ้านไปโดยมีเสียงน้องๆ(ที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว)ตะโกนลา “แล้วเจอกันค่ะ”
++++++++++++++++++++++++++
แท็กซี่สีเขียวเหลืองจอดปล่อยผู้โดยสารลงตรงหน้าภัตตาคารหรูแถวสุขุมวิท เด็กสาวที่เพิ่งลงจากรถหยิบเงินในกระเป๋าถือใบเล็กที่เธอเพิ่งซื้อมาจากสำเพ็งเมื่ออาทิตย์ก่อนจ่ายเป็นค่าแท็กซี่ แล้วเดินขึ้นบันไดทางขึ้นอันโอ่อ่า หรูหราจนเธอยังเกรงๆว่าร้องเท้าถูกๆของเธอจะทำให้พรมนุ่มๆเปรอะเปื้อนหรือเปล่า
ประตูกระจกใหญ่ถูกเปิดโดยพนักงานบริการผู้ชายร่างใหญ่ในชุดสีแดงสลับดำเพื่อให้ลูกค้าเดินเข้าไป
“จองไว้รึป่าวคะ?” บริกรสาวเข้ามาต้อนรับ
“ค่ะ” เธอตอบอย่างเหรอหรา
“ไม่ทราบว่าจองชื่ออะไรไว้คะ?”
“ทอมค่ะ ทอม เฟลตัน” เธอตอบตามที่ได้นัดแนะเอาไว้เมื่อคืน
“ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ”
บริกรนำทางเธอขึ้นบันไดหรูไปที่ชั้นสอง ซึ่งดูรวมๆแล้วน่าจะเป็นชั้น VIP เพราะโต๊ะแต่ละที่จัดเอาไว้อย่างเป็นส่วนตัว และดูหรูกว่าชั้นล่างมาก (ขนาดที่ชั้นล่างก็ดูหรูสำหรับเธอแล้ว!)
“โต๊ะนี้ค่ะ” บริกรพาเด็กสาวมาที่โต๊ะหนึ่งที่อยู่ติดริมกระจก ทำให้คนที่นั่งโต๊ะนี้สามารถมองบรรยากาศเบื้องนอกได้
“ขอบคุณค่ะ” เธอค่อยๆหย่อนก้นลงนั่งเพราะกลัวจะทำเก้าอี้เป็นรอย
เหล่าพนักงานต่างกระวีกระวาดจัดการโต๊ะ ทั้งเอาจานมาวาง เอาแก้วมาจัด พร้อมกับวางเมนูให้เธอ
ชนนี่เปิดดูอาหารเหล่านั้นอย่างต้องซ่อนน้ำลาย เพราะมันน่ากินเหลือเกิน แต่พอหางตาเหลือบไปเห็นราคาปุ๊บเธอก็ต้องค่อยๆวางเมนูอย่างเนียนๆ (กลัวเค้ารู้ว่าไม่มีปัญญาจ่าย) แล้วหันมายิ้มกับบริกร “หนูขอรอเพื่อนหนูมากก่อนดีกว่าค่ะ”
“ได้ค่ะ” บริกรบริการด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน ทิ้งให้ลูกค้านั่งรอคนที่นัดหมายไว้คนเดียว
เธอยกนาฬิกาขึ้นมาดู... เธอมาก่อนเวลานัดตั้ง 5 นาที!
เธอจึงต้องนั่งรอ จากตอนแรกที่พยายามนั่งนิ่งๆเพื่อรักษามารยาทในภัตตาคารหรู แต่ไปๆมาๆชักจะเริ่มคุมตัวเองไม่ไหวจะต้องหยิบโน่นหยิบนี่มาเล่น แต่ก็ไม่กล้ายุ่งย่ามกับของบนโต๊ะอาหารสักเท่าไหร่นัก เพราะกลัวทำของเขาแตกแล้วไม่มีปัญญาจ่าย เธอจึงหยิบกระเป๋าขึ้นมารื้อของทุกอย่างออกมาเล่น (ออกแนวอยู่สุขไม่เป็นทำนองนั้น)
เธอรื้อตั้งแต่ลิปมัน กระจก หวี สมุดบันทึกเล่มเล็ก(ที่บันทึกแล้วบันทึกเล่าก็ยังไม่สามารถแก้เบื่อได้) จนถึงกระเป๋าตัง
เด็กสาวดึงบัตรใบหนึ่งออกมาจากในนั้น เป็นบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตของคืนนี้...
เธอมองใบหน้าของนักร้องคนหนึ่งในวงนี้ที่มักจะยืนทางขวามือสุดแล้วยิ้มน้อยๆ... อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะได้เจอเขาแล้วสินะ ^^
เธอหันบัตรที่ว่านั้นกลับอีกด้านหนึ่ง ด้านนั้นดูเละเทะยังไงชอบกล เพราะพื้นที่ที่ควรจะว่างมันกลับมาอะไรเขียนอยู่เต็มไปหมด
(ชนนี่ย้อนความ)
“เธอบ้าไปแล้วแน่ๆ” แจนที่ยื่นหน้ามามองการกระทำของเพื่อนทัก
“เขาเรียกว่ารอบคอบย่ะ” เธอตอบก่อนที่จะลงมือทำสิ่งที่ว่านั้นต่อไป
“ทำอย่างกับเด็กประถม” แจนมองเพื่อนอยางเป็นห่วงว่าสติยังอายุมัธยมปลายดีอยู่รึป่าว เพราะตั้งแต่ที่โทรศัพท์มือถือหาย เพื่อนเธอคนนี้ก็เริ่มทำตัวเหมือนเด็กอนุบาลเข้าไปทุกทีด้วยการเขียนชื่อตัวเองลงในสิ่งของทุกชิ้นด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวหาย
“เสร็จแล้ว!” ชนนี่ชูบัตรคอนเสิร์ตหรา ด้านหลังของบัตรนั้นควรจะเหมือนกับด้านหลังของบัตรอื่นๆเพียงแต่เจ้าของบัตรกลับเขียนทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อกลับ อีเมล์ไว้พร้อยไปหมด
“ไม่ติดรูปไปด้วยเลยล่ะ” แจนประชด
“จริงสิ ติดรูปไปด้วยดีกว่า!” ชนนี่เห็นจริงจังซะงั้น... ทำไงได้ล่ะ บัตรนี้มันสำคัญกับเธอมากๆนี่หน่า เธอก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อนป้องกันการหายสูญน่ะสิ
(ชนนี่จบย้อนความ)
++++++++++++++++++++++++++++
“จะไปไหนน่ะ” เสียงเข้มๆทำให้เด็กหนุ่มสองคนสะดุ้งเฮือก รีบทำเป็นบิดขี้เกียจเพื่ออำพรางพิรุธ
“จะไป...” ยุนโฮอ้ำอึ้ง... เขาจะตอบผู้จัดการว่าไปไหนดี?
“ไปห้องน้ำครับ” ชางมินรีบช่วยต่อ
“บนห้องไม่มีรึไง?” ผู้จัดการมองเขาด้วยสายตาดุดัน
“จุนซูฮยองใช้อยู่” ชางมินโทษคนที่กำลังเล่นเกมกด(แน่นอนว่าต้องเป็นเกมฟุตบอล)อยู่บนห้อง
“แต่ห้องน้ำอยู่ทางนู้น” ผู้จัดการยังคงมองพวกเขาอย่างจับผิด
“เออจริงด้วย ยุนโฮฮยองอ่ะพาผมมาทางนี้ทำไมเนี่ย” ว่าแล้วเขาก็ลากคนที่เขาเพิ่งจะโยนความผิดไปให้เมื้อกี้เดินไปทางที่ผู้จัดการบอก ในหัวก็พยายามคิดหาวิธีอื่นที่จะพาพี่ชายคนนี้ออกไปตามนัด
“จะทำไงต่อดีล่ะทีนี้?” ยุนโฮถามอยางร้อนใจ... เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องร้อนใจขนาดนี้ แค่เอาของไปคืนเจ้าของแค่นี้เอง
ชางมินแอบโผล่ไปมองทางเข้าโรงแรม... ผู้จัดการยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เขาจึงหันกลับเข้าไปเพื่อปรึกษากับพี่ชาย
วิธีไหนนะที่เขากับยุนโฮจะสามารถใช้ออกไปจากโรงแรมได้โดยที่ไม่ถูกผู้จัดการจับได้?
ทางเข้าข้างหน้าผู้จัดการก็ยืนคุมไม่ยอมไปไหน
ทางเข้าด้านอื่นๆการ์ดก็คุมอยู่เต็มไปหมด
ไหนจะบรรดาแฟนคลับที่มานั่งเฝ้า นอนเฝ้าพวกเขาอีกล่ะ?
เขามองใบหน้ากลุ้มใจของพี่ชายอย่างหนักใจ... ยังไงเขาก็จะต้องหาวิธีออกไปให้ได้!
โปรดติดตามตอนต่อไป...
++++++++++++++++++
แหะๆ
เอาจนได้ยัยชนนี่
ในที่สุดก้อดึงชื่ออดีตแฟนเก่าออกมาร่วมวง (ทอมเฟลตัน)
ฟิคเรื่องนี้เปนฟิคขำๆที่ชนนี่เอาความบ้าของตัวเองมารวมมิตรกานนะคะ
อีกนัยน์นึงก้อคือเปนฟิครวมพลบ้านไร่น่ะเอง
ขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆบ้านไร่ทุกคนที่ทำให้ชนนี่มีความสุขเหมือนกับได้ครอบครัวอีกครอบครัวนึง
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้น ทุกๆกำลังใจนะคะ
สิ่งเหล่านี้จะผลักดันให้ชนนี่มีกำลังฮึดที่จะแต่งต่อค่ะ ^^
(แต่เทอก้อต้องไปตามอัพนิยายเก่าๆของเทอด้วยนะยัยชนนี่ ดง(บังชินกิ ^^) จนเค็มได้ที่แระ)
อาจาอาจา ไฟท์ติ้ง!!
ความคิดเห็น