คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันวาน
วับๆวามๆ ท่ามกลางความมืดมิด
แสงจิ๊ดริดล่องลอยไร้ขอบฝัน
วันเวลาก้าวผ่านเคียงคู่กัน
พร้อมสุขสันต์มิพลัดพรากจากไกล
.
.
.
.
"อุ๊ย! ดูนั่นสิ" เด็กหญิงตัวน้อยชี้ไปที่แสงน้อยๆนับสิบที่ลอยละลิ่วเรืองรองอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
"ไหนๆ" เด็กชายที่เดินมาเคียงข้างมองหา ไม่ทราบว่าเด็กหญิงพูดถึงสิ่งใด
"แสงนั่นไง... สวยจัง" ดวงตากลมมองสิ่งนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม
เด็กชายหรี่ตามอง แล้วก็ร้องขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "อ๋อ! หิ่งห้อยน่ะ... ฉันเคยเห็นในสารคดี"
"หิ่งห้อยหรอ?" เสียงเล็กของเด็กหญิงถามด้วยความฉงน... เพราะเธอเป็นเด็กเมืองหลวง จึงแปลกใจที่ได้พบเห็นสิ่งน่าอัศจรรย์อย่างนี้ในชนบท "มันคืออะไรหรอ? สะเก็ดดาวที่ตกมาจากฟ้ารึป่าว?"
เด็กชายส่ายหัว "ไม่ใช่หรอก มันคือแมลงชนิดหนึ่งน่ะ"
"แมลงหรอ... สวยจัง" เด็กสาวยังคงประทับใจ... เกิดมาไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตที่ส่องแสงได้อย่างนี้มาก่อน
"ยอลนึล แทมิน" เสียงนุ่มเรียกให้เด็กทั้งสองละสายตาจากสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ "อยู่นี่นี่เอง น้าตามหาซะให้ทั่ว"
"น้าชางมีคะ... ดูนั่นสิ" เด็กหญิงวิ่งไปจูงมือหญิงสาวให้มาดูสิ่งที่เธอพบ
"หิ่งห้อย" ชางมีระบายยิ้มน้อยๆ... นานแล้วสินะ ตั้งแต่ครอบครัวของเธอย้ายไปโซล เธอก็ไม่เคยเห็นหิ่งห้อยอย่างนี้อีก
เหมือนวันเก่าๆหวนย้อนกลับมา... นิทานเรื่องเดิมที่ใครบางคนเคยเล่าให้เธอฟังดังขึ้นอีกครั้งในห้วงความทรงจำของเธอ...
"น้าชางมีคะ เราจับหิ่งห้อยกลับไปได้รึป่าวคะ?" เด็กหญิงยอนนึลสะกิดคนเป็นน้าถามขึ้น เรียกเธอคืนจากความจำในวันก่อน
"ไม่ได้นะ มันจะตาย!" แทมินรีบห้าม "คุณครูเคยบอกไว้ว่าปล่อยให้มันอยู่ตามธรรมชาติ มันจะได้ปลอดภัย"
"แต่ฉันอยากได้นี่!" ยอนนึลบอกอย่างเอาแต่ใจ
"ไม่ได้หรอกจ้ะยอนนึล" ชางมีลูบหัวหลานเบาๆ บอกเธออย่างอ่อนโยน "หิ่งห้อยน่ะมันจะต้องอยู่ทำหน้าที่ของมัน กลับไปโซลกับเราไม่ได้หรอก"
"หน้าที่ของมันคืออะไรคะ?" เด็กหญิงถาม จ้องหน้าน้าสาวด้วยดวงตาใสซื่อ
"หน้าที่ที่ต้องส่องแสงให้คนที่มันรัก"
"หิ่งห้อยมีคนที่มันรักด้วยหรอครับ?" แทมินเกาหัว... ก็ในสารคดีที่เขาดูไม่มีบอกนี่หน่า
"มีสิจ๊ะ" ชางมียิ้ม
"ในนิทานหิ่งห้อยไง" เสียงทุ้มเสริมขึ้น... ชางมีและหลานทั้งสองรีบหันไปมองด้วยความสงสัยว่าใครที่ตามพวกเขาเข้ามาในป่ายามกลางคืนแบบนี้
"น้ามินโฮ!" แทมินตัวน้อยรีบวิ่งไปกอดร่างสูงด้วยความดีใจ
"น้ามินโฮของแทมินสวัสดีค่ะ" เด็กหญิงยอนนึลยิ้มหวานให้เขา
"เห็นว่าหายมานาน เลยออกมาตามหาน่ะ" เขาตอบสายตาสงสัยของเธอ
"นิทานหิ่งห้อยเป็นยังไงหรอคะน้ามินโฮ" ยอนนึลกระตุกชายเสื้อร่างสูงเบาๆ ดวงตาฉายแววเอาแต่ใจนิดๆจนคนเป็นน้าหนุ่มอดเอ็นดูไม่ได้... เหมือนคนบางคนตอนเด็กๆไม่มีผิด...
[i]"นิทานหิ่งห้อยเป็นยังไงหรอมินโฮ"[/i]
เขามองเจ้าของประโยคในวันวานที่ตอนนี้โตเป็นสาวสวยอยู่ตรงหน้าเขา... ไม่สามารถหุบยิ้มกว้างได้
เขานั่งลงบนขอนไม้ใกล้ๆ อุ้มหลานทั้งสองนั่งบนตัก ดวงตาอ่อนลอบมองหญิงสาวที่พิงหลังกับต้นไม้ข้างๆ ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวที่คุ้นเคยตั้งแต่วัยเยาว์... นิทานเรื่องโปรดที่เขาไม่มีวันลืมเลือน...
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..."
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สายลมจางๆพัดใบหน้างามที่อมยิ้มน้อยๆ ค่อยๆเดินไปตามทางยามค่ำคืนอย่างใจเย็น... เวลาอันแสนสงบเช่นนี้ นางโปรดเป็นยิ่งนัก... แสงจางๆจากหมู่ดาวนับล้านที่กระพริบทักทายดูเป็นมิตรหนักหนา
"คุณหนูเจ้าคะ เร่งฝีเท้าเถิด... ค่ำมากแล้ว คุณท่านจะเป็นห่วงเอานะคะ" พี่เลี้ยงที่ถือตะเกียงนำทางเอ่ยเร่ง... แต่ก็แค่ลมปาก เพราะนางไม่สนใจที่จะเร่งรีบสักนิด ยังคงเพลิดเพลินกับการซึมซับบรรยากาศยามค่ำคืน
"คุณหนูเจ้าคะ" พี่เลี้ยงเสียงอ่อย... คิ้มบางขมวดมุ่นด้วยความกังวลเมื่อสายลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ... เกรงว่าเทียนในตะเกียงจะดับเอา
เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง... แค่คิดเท่านั้นสรรพสิ่งก็มือดับไป เมื่อลมพัดเข้ารอยขาดของตะเกียง เป่าเทียนเล่มน้อยให้ไร้แสงไฟ
"ว๊าย!" พี่เลี้ยงสาวอุทาน เกาะคุณหนูของเธอที่หัวเราะเบาๆอย่างร่าเริงไว้แน่น
"โถ่นามี แค่นี้เอง" คุณหนูหัวเราะคิกคัก จูงมือพี่เลี้ยงให้เดินตามไปอย่างไม่กลัวความมืดในยามนี้
เสียงนกฮูกขานร้องให้ขนลุกเกรียว... มองไปทางไหนก็พบแค่เพียงเงาลางๆของเมกไม้... ดวงตาของนามีกวาดไปรอบๆอย่างหวาดระแวง... แค่ลมพัดกิ่งไม้ก็ทำให้เธอสะดุ้งจนตัวโยน ผิดกับคุณหนูที่ตาลุกวาวเมื่อพบว่าทางเดินมืดสงัดเช่นนี้เป็นสิ่งน่าท้าทายยิ่งนัก
พรึ่บ!
ชั่วพริบตา แสงสว่างจ้าก็โอบอุ้มไปโดยรอบด้วยตะเกียงที่แขวนไล่ไปตามทางที่ไม่ทราบว่าใครนำมาแขวนตั้งแต่เมื่อไร... และจุดเทียนด้านในไปพร้อมๆกันได้อย่างไร
นางมองตะเกียงงดงามเหล่านั้นด้วยความพึงใจและสงสัย
ปริศนานี้เฉลยเมื่อร่างสูงก้าวออกมาจากพุ่มไม้พร้อมคันธนูทรงสง่า
หญิงสาวยิ้มหวานอย่างยินดีเมื่อเห็นใบหน้าคุ้นตา เอื้อนเอ่ยนามของเขาอย่างคิดถึงเป็นที่สุด "แทฮวา"
ชายหนุ่มเดินมาใกล้ ยื่นดอกไม้กลีบสีขาวบริสุทธิ์ให้เธอด้วยรอยยิ้มละไม "ดึกป่านนี้ทำไมเจ้าถึงยังเตร่อยู่ที่นี่?"
เธออมลมแก้มพองน้อยๆอย่างขัดใจ... เพราะหาเรื่องรอพบเขา แต่เขากลับทำเหมือนจะดุเธอเสียอย่างนั้น น่าน้อยใจนัก!
"คุณหนูรีบกลับเถอะเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวคนของคุณท่านมาพบจะไม่ดีเอานะเจ้าคะ" พี่เลี้ยงสาวเตือน
"งั้นข้าจะไปส่ง" ชายหนุ่มอาสา เดินขึ้นมาตีคู่กับนาง... โดยมีพี่เลี้ยงสาวผ่อนฝีเท้าตามหลังอย่างเป็นใจ
"ไม่ต้องลำบากเจ้าหรอก!" นางตอบอย่างง้องอน
เขาได้เพียงลอบขำ ยังคงไม่หยุดฝีเท้าที่ก้าวไปพร้อมๆนางที่รัก
"เหตุใดเจ้าถึงต้องตามข้ามา? แล้วตะเกียงพวกนั้นอีก?" เธอยังไม่หายเคืองใจ
เขายังคงไม่ละรอยยิ้ม "เพราะข้าต้องการเป็นแสงนำทางให้เจ้าตลอดไป"
คำตอบที่เรียกสีฝาดบนแก้มผ่อง พยายามห้ามรอยยิ้มด้วยความเก้อเขินนั้น... เพราะอายเกินกว่าจะให้เขารู้ว่ใจเธอคิดอย่างไร
"เจ้าจุดไฟเหล่านั้นได้อย่างไรกัน?" รีบเปลี่ยนประเด็นเพื่อไม่ให้ตนเองใจสั่นไปมากกว่านี้
ชายหนุ่มยกคันธนูขึ้น... เป็นคำตอบที่เธอเข้าใจอย่างดี...
ฝีมือของชิน แทฮวาเป็นที่เลื่องลือยิ่งนัก... แม้เธอจะเคยเห็นมานับครั้งแต่ไม่มีครั้งใดประทับใจได้เพียงนี้... รอยลูกศรเล็กๆบนตะเกียงกระดาษที่แขวนเหนือหัวนางเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดี... เพียงดอกเดียว สามารถทะลุจุดไฟในตะเกียงนับสิบได้ราวจับวาง...
"ข้าอยากแม่นธนูได้อย่างเจ้าเหลือเกิน" นางชื่นชม
"ไว้วันหลังข้าจะสอนให้เจ้าแล้วกัน"
"จริงนะ" เธอยิ้มอย่างดีใจราวกับเด็กน้อย... ท่าทางอย่างนี้ที่ทำให้เขารักยิ่งนัก
เขาพยักหน้าพร้อมกับยกนิ้วก้อยขึ้นเกี่ยวสัญญากับนิ้วก้อยบางของนาง
"ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าก็จะสนองความต้องการเจ้า... ตลอดไป"
.
.
.
ร่างเล็กเขย่งปลายเท้าข้ามห้องโถงที่บิดากำลังหลับกลางวันให้เงียบที่สุด แผ่วเบาที่สุด และรวดเร็วที่สุด... นางกระโดดลงจากหน้าต่างสู่พื้นด้วยท้วงท่าที่ฝึกปรือมาอย่างดี จึงไม่มีทหารคนใดได้ยินเสียง...
ในที่สุด ด้วยความชำนาญในวิชาย่องเบาที่แอบฝึกฝนจนคล่องแคล่ว คุณหนูแห่งตระกูลชิมก็สามารถออกมาเดินเล่นที่ตลาดอย่างสบายใจ ไม่สนสายตาของชาวบ้านที่มักจะมองมาที่นาง
แม้นางจะแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายธรรมดาเหมือนชาวบ้าน แต่ผิวพรรณผุดผ่องจากการดูแลรักษาอย่างดี และรัศมีชนชั้นสูงของนางเป็นที่โดดเด่นสะดุดตายิ่งนัก... แต่กระนั้นนางยังคงเมินสายเลือดขุนนางในตัวนาง เลือกใช้ชีวิตร่วมกับคนสามัญอย่างไม่ถือตัว
เพราะการเดินเล่นพบปะผู้คนมากมายเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เพลิดเพลินกว่าการนั่งเย็บปักถักร้อยเป็นสาวงามหลังม่านงามนั้นยิ่งนัก!
"นี่คือตลาดดงนัมขอรับ" นายทหารชั้นผู้น้อยเอ่ยกับคุณชายต่างเมืองที่ได้รับคำสั่งจากบิดาให้มาว่าราชการแทน
เขาเพียงสาดสายตาอย่างเหนื่อยหน่าย ก้าวยาวๆผ่านไปอย่างไม่ใส่ใจ
"คุณชายจินกิครับ รอกระผมด้วยขอรับ!" คนสนิทรีบวิ่งตามไปพร้อมๆกับนายทหารคนอื่น
สามวัน ตั้งแต่เดินทางมายังเมืองนี้ คุณชายของเขาก็ไม่มีทีท่าจะสนใจการเมืองใดๆ... แม้จะรู้ว่าคุณชายชื่นชอบงานศิลปะมากกว่าการปกครอง แต่เมื่อได้คำสั่งจากนายท่าน เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากยัดเยียดการเมืองทุกอย่างให้... เผื่อคุณชายจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของตระกูลได้บ้าง
แต่สิ่งที่เขาได้รับจากคุณชายยามแนะนำเกี่ยวกับเมืองนี้ กลับมีเพียงแค่สายตาเย็นชา ไร้ซึ่งอารมณ์คู่นั้น
ร่างสูงของคุณชายจินกิหยุดนิ่งหน้าร้านภาพเขียน... จับจ้องภาพวิจิตรเหล่านั้นด้วยความสนใจ...
ได้ยินมาว่าเมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องภาพเขียนสี่ฤดู เพิ่งได้มาเห็นกับตาก็ครานี้...
"อาจิชิคะ ภาพวาดที่ข้าสั่งไว้ได้รึยัง?" เสียงนุ่มเรียกให้เขาเมีนยมองไปข้างกายเป็นครั้งแรกนับแต่มาที่เมืองแห่งนี้...
เสียงหวานปานระฆัง เหมาะกับใบหน้างามของนางยิ่งนัก...
เกิดมาเขามิเคยพบใครเหมือนนางมาก่อน... แม้จะแต่งกายเฉกเช่นชาวบ้านทั่วไป... แต่นางกลับมีบางสิ่งที่บ่งบอกถึงชาติตระกูลสูงส่ง...
หรือนางจะเป็นลูกสาวของขุนนางตกยากกัน?
"ว้าว! สวยมากค่ะ เท่าไหร่คะ?" ดวงตาชื่นชมภาพศิลปะของนางทำให้ดวงใจของเขาเต้นระรัว... สาวยามกับงานศิลป์ ช่างพบได้ยากนัก...
นางจ่ายเงินกับเจ้าของร้านแล้วเดินออกไปอย่างชื่นบาน พร้อมๆกับหัวใจของเขาที่เหมือนจะถูกพิษรักแรกพบเล่นงาน
"รีบเถิดคุณชาย จวนของคุณชายชางมินอยู่ไม่ไกลนี้เอง" คนสนิทเรียกสติเขาให้กลับคืน
คุณชายจินกิทิ้งรอยยิ้มน้อยๆทิ้งไป แทนที่ด้วยใบหน้าเย็นชาตามแบบฉบับก่อนที่จะก้าวตามผู้นำทางไป... ทิ้งหัวใจเอาไว้กับนางผู้นั้น อย่างตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องตามหานาง เพื่อทวงหัวใจนางมาแลกกับการที่นางได้ขโมยหัวใจเขาไป...
.
.
.
ภาพวาดยังคงกางหราตรงหน้า... หญิงสาวจ้องมองมันอย่างลึกซึ้ง จมดิ่งไปกับความงดงามของลายหมึกที่จิตรกรบรรจงแต่งแต้ม จนทางไม่ทันได้มองทาง... สะดุดก้อนหินที่โผล่เหนือพื้นดิน... โชคดีที่ได้ร่างใหญ่มารองรับไว้ในอ้อมอกจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
"ระวังบ้างซี" ชายหนุ่มบอกกับนาง ยังไงไม่ปล่อยนางจากอ้อมแขน
"แทฮวา!" นางยิ้มสดใส ใบหน้าระเรื่อของอิ่มใจที่ได้รับการปกป้องจากเขา... แม้จะเป็นแค่เพียงเรื่องเล็กน้อย
"อย่างนี้ข้าคงไม่สามารถอยู่ห่างกายเจ้าได้แล้วกระมัง" บอกพร้อมกับสบสายตา ทำให้สาวในอ้อมกอดใบหน้าร้อนผะผ่าว รีบเบี่ยงตัวออกห่างอย่างเขินอาย
"เจ้าพูดอะไรก็ไม่รู้!" ทำเป็นสะบัดหน้าหนีอย่างมีจริต ปิดบังใบหน้าแดงซ่านนั้น
"คุณหนู! คุณหนูเจ้าคะ!" เสียงของพี่เลี้ยงละความเขินอายของเธอทิ้ง... หญิงสาวมองใบหน้าคนรกอย่างสลด อยากจะแอบซ่อนพี่เลี้ยงแล้วหนีไปหาอะไรสนุกๆเล่น หากแต่นางถูกพบเข้าเสียก่อนแล้ว
"มีอะไรหรือนามี?"
"คุณท่านเจ้าค่ะ... คุณท่านโมโหใหญ่เลยเจ้าค่ะ ตอนนี้สั่งให้คนตามหาคุณหนูเสียทั่ว คุณหนูรีบกลับเถอะเจ้าค่ะ"
ความผิดหวังจุกอยู่ที่คอยามได้ยินสิ่งที่พี่เลี้ยงบอกกล่าว... มองใบหน้าคนรักที่พยักหน้าเป็นเชิงให้เธอรีบกลับไปอย่างอาวรณ์ จำใจจากมาทั้งที่เพิ่งจะพบหน้ากันเพียงครู่เดียวเท่านั้น...
ไม่เข้าใจว่าเหตุใดความรักของนางช่างอาภัพนัก...
รักเขามาก แต่กลับมีอุปสรรค์ใหญ่โตคั่นขวางเอาไว้... อุปสรรคของชนชั้นที่ต่างกัน...
ถ้าเลือกได้ นางจะขอละทิ้งความสุขสบาย เพื่อไปอยู่กับคนที่นางรัก... นางจะได้มิต้องถูกจับแต่งตัว ทำตามคำสั่งนั่นนี่ราวกับตุ๊กตาไร้ชีวิตจิตใจ...
เส้นทางที่ถูกขีดกำหนดไว้ตั้งแต่นางลืมตามมาดูโลกใบนี้...
สักวัน นางจะวิ่งหนีไปเสียให้พ้น... จะไม่ขอมีบ่วงฐานะบรรดาศักดิ์รั้งตัวไว้เช่นนี้อีก!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
บรรยากาศรอบกายมีแต่ความเงียบ... แค่เสียงสายลมเขย่ากิ่งไม้ไหวเป็นท่วงทำนองขับกล่อม...
"แล้วไงต่อล่ะคะน้ามินโฮ?" เสียงเล็กของยอนนึลเร่งร้องทำลายความเงียบ
"ดึกมากแล้ว เรารีบกลับที่พักกันดีกว่านะ" ชายหนุ่มบอกกับหลานน้อย
เธอแบะปากน้อยๆอย่างไม่พอใจ "หนูอยากฟังต่อนี่คะ"
เขามองไปทางน้าสาวของเด็กหญิงอย่างมีความนัยน์... ใบหน้าของชางมีขึ้นสีเพราะรู้ว่าเขากำลังต่อว่าว่าเหมือนกับเธอเมื่อตอนเด็กเลยน่ะสิ!
"กลับไปที่บ้านพักก่อนนะเด็กดี แล้วเดี๋ยวน้าเล่าให้ฟังต่อ" เขาพยายามเกลี่ยกล่อม
"อย่าดื้อนะยอนนึล น้ามินโฮไม่เคยผิดสัญญานะรู้มั๊ย" แทมินช่วยเสริม
ดวงตาใสของเด็กน้อยมองน้าชายที มองเพื่อนชายที แล้วก็พยักหน้าน้อยๆอย่างว่าง่าย จูงมือเด็กชายไปตามทางกลับบ้านพัก
ภาพเด็กน้อยสองคนเคียงคู่กันทำให้เธออดหวั่นไหวในใจไม่ได้...
เหมือนภาพใจอดีตกำลังย้อนกลับมาฉายซ้ำตรงหน้าเธอ...
อดีตของเธอ... กับเขาคนนี้...
"ไปเถอะ" เขายื่นมือมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มแสนคุ้นเคย... รอยยิ้มที่ทำให้เธออุ่นใจทุกครั้ง
ไม่ลังเลที่จะจับมือนั้นตอบ... แล้วเดินเคียงร่างสูงไปเหมือนเช่นวันวาน... มีหิ่งห้อยน้อยๆช่วงส่องแสงนำทางในความมืดมิด...
.
.
.
"แทมิน นายจะอยู่กับฉันอย่างนี้ตลอดไปใช่มั๊ย?"
"อื้ม"
"สัญญานะ"
"สัญญาสิ"
"น้ามินโฮคะ"
"จ๋า?"
"พรุ่งนี้ต้องเล่านิทานให้หนูฟังต่อด้วยนะ"
"จ้า"
"สัญญานะ"
"สัญญาจ้า"
"น้าชางมีคะ"
"หืม?"
"น้าชางมีจะแต่งงานกับน้ามินโฮเมื่อไหร่คะ?"
"..."
"น้าชางมีคะ"
"..."
TBC.
ความคิดเห็น