คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่่ 3 ตอนที่ 2
แสงแดดจัดจ้าสาดส่องผ่านรอยปรุระหว่างกิ่งก้านที่ถักทอเข้าหากัน หญิงสาวยกมือป้องตา น้ำตาแห้งไปนานแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันเกาะกรัง ทั้งที่ขอบตาและหัวใจของเธอ
เอเรอาญ์ได้ยินเสียงพ่อผลักประตูรถปิดลง ก่อนจะก้าวมายืนอยู่ข้าง ๆ เธอ โดยไม่มีใครพูดอะไร และแล้วในตอนเองที่พ่อทำท่าเหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง --
“เฮ้! อีริค พาใครมาแน่ะ! ”
คนที่ส่งเสียงเรียกพร้อมกับโบกมือให้พ่อนั้นเป็นชายในอายุไล่เลี่ยกัน มีโครงสร้างร่างกายและผิวพรรณอย่างชาวเมดิเตอร์เรเนียน หน้าท้องกลม ๆ ที่ดูเหมือนจะปริแตกออกมาจากเสื้อเชิ้ตสีส้มแสบตาในวินาทีไหนก็ได้ไหวกระเพื่อมตอนที่เขาทิ้งแขนลงและเริ่มพูดคุยกับพ่อของเธออย่างออกรส
เอเรอาญ์เดาว่าเป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อ แต่แทนที่จะหาคำตอบ เธอกลับยืนอยู่ตรงนั้นนิ่ง ๆ และชั่งใจ เธอควรจะเดินไปกับพ่อเพื่อแนะนำตัว หรือควรจะยืนอยู่ตรงนี้ แต่แล้วในที่สุด บรรยากาศอึดอัดที่เพิ่งกระหน่ำใส่เธอเหมือนห่าฝนก็ทำให้เอเรอาญ์ตัดสินใจเลือกทางที่สาม -- เดินจากไป
ความกลัวทำให้เธอไม่แน่ใจนักว่าอยากจะได้ยินคำที่พ่อใช้แนะนำเธอให้เขาฟังหรือเปล่า ยิ่งคิด เอเรอาญ์ก็ยิ่งจ้ำเดิน ไม่กี่อึดใจเธอก็ลับหายไปยังไหล่เขาอีกด้านที่มีต้นไม้ปกคลุมเป็นหย่อม ๆ กระจัดกระจาย
“เอเรล -- นี่ -- ”
และตอนที่อีริค อาร์เรห์นหันกลับมา ลูกสาวของเขาก็หายไปจากสายตาเสียแล้ว
เอเรอาญ์พิงหลังกับต้นสนสูงชะลูดพร้อมกับทรุดเข่าลงอย่างอ่อนแรง เปลือกสนกะเทาะร่วงลงมาใส่ผมเธอจนมันดูยุ่งเหยิงและน่าเกลียดกว่าเดิมเสียอีก
ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบนาทีก่อน เมื่อได้สติและคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาของคนที่โตแล้ว เธอจึงตัดสินใจหันหลังกลับ และไม่ว่าจะเป็นเพราะเธอตาฝาดไปเองในตอนแรก หรือไม่ทันสังเกตตอนที่เดินเข้ามา ป่า ‘เคย’ โปร่ง มีพุ่มไม้เตี้ย ๆ เป็นหย่อมๆ ก็กลับกลายเป็นป่าทึบที่เต็มไปด้วยต้นสนสูงเสียดฟ้า
หญิงสาวขบริมฝีปาก ทำไมต้นไม้ทุกต้นต้องหน้าตาเหมือนกันด้วยนะ เธอคิดอย่างงุ่นง่าน ถ้ามันต่างกันสักนิดจะลดปัญหาแบบนี้ได้เยอะไม่ใช่หรือไง?
เอเรอาญ์ไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอกำลังหลงป่า แต่ยิ่งคิดหาหนทาง ใบหน้าของเธอก็ยิ่งง้ำลงด้วยความหงุดหงิด สมองของหญิงสาวหมุนเร็วจี๋เหมือนเครื่องจักร แต่แล้วก็กลับมีอะไรบางอย่างทำให้มันหยุดทำงานฉับพลันราวกับว่ากระแสไฟฟ้าถูกตัด
“เสียงดนตรี? ”
มันเป็นเสียงของเครื่องดีด แต่นั่นไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญเท่ากับการที่มันทำให้ความหวังของเธอลุกโชติช่วงอีกครั้ง
“ทางออกอยู่ทางนั้นอย่างนั้นสิ”
เอเรอาญ์พึมพำ ก่อนจะตัดสินใจเดินเกี่ยวแขนเกาะไม้ใหญ่ทีละต้น ๆ อย่างทุลักทุเลเพื่อตามหามัน แสงอาทิตย์ปลายเดือนกันยายนส่องลอดเงาไม้ครึ้มสะท้อนนัยน์ตาเป็นระยะ ๆ ป่าเดี๋ยวทึบเดี๋ยวโปร่ง แต่ยังคงเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ และเมื่อเธอเกือบจะคิดว่าหูฝาดนั่นเอง ป่าทั้งป่าก็โปร่งจนกลายเป็นลานกว้าง
ราวกับฉากสวย ๆ สักฉากในนวนิยาย หรือภาพยนตร์แฟนตาซีสักเรื่อง ลานหญ้าเขียวสดโล่งกว้างเหมือนลานพิธีขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยต้นสนสูงชะลูดเรียงรายเป็นระเบียบ ตรงใจกลางลานคือแท่นหินลาดเอียงขนาดย่อม ที่ซึ่งแสงแดดเป็นลำเต้นระยับอยู่ข้างบนเหมือนม่านเบิกเวทีแสดง
ชายชราที่ดูเหมือนพ่อมดในนิทานไม่มีผิดนั่งอยู่บนนั้น หนวดเคราซึ่งยาวเหยียดอย่างไม่น่าเชื่อเป็นสีขาวโพลน ดวงตาทั้งสองข้างปิดพริ้ม นิ้วผอมบางเหี่ยวย่นค่อย ๆ ดีดเส้นสายทองเหลืองของเครื่องดนตรีในมือเป็นจังหวะที่อบอุ่นยิ่งกว่าแสงอาทิตย์
“ตำนาน ตำนาน ขานเล่า นานเนาว์ นานเนาว์ โพ้นสมัย
พิณหวาน พิณหวาน ขับขานไป รินไหล รินไหล ละม้ายธาร”
เอเรอาญ์ไม่รู้ว่าเพราะทำนองหรือน้ำเสียงที่ราวจะดึงดูดทุกสิ่งมีชีวิตให้เข้าหาที่พาเธอออกมาจากหลังเงาต้นไม้ จนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชายชราโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรและควรจะทำอะไรต่อไป
ทันใดนั้น มีเสียงอะไรบางอย่างที่แข็งและส่งเสียงกังวานขาดผึง สายเครื่องดนตรีทองเหลืองนั่นเอง ชายชราวางมันพาดเอาไว้บนตัก แล้วดวงตาที่ปิดอยู่ก็ค่อย ๆ เปิดขึ้น
มันเป็นแก้วตาที่เธอไม่เคยเห็นและไม่เคยคาดฝันว่าจะได้เห็นมาก่อน ดวงตาของชายชราไม่ใช่สีแดง สีแสด ชมพูหรือเหลืองโดยสิ้นเชิง ทุกเฉดสีเปล่งประกายอย่างน่าพิศวง และในวูบหนึ่งนั้น ความนึกคิดที่กำลังแตกซ่านของเธอก็มอบคำจำกัดความให้มันได้
มันคือสีสันของแสงอาทิตย์ --
“ฉะ -- ฉันขอโทษ เป็นเพราะฉันหรือเปล่าคะ”
เธอนึกว่าชายชราจะโวยวายใส่เธอตอนที่เขาอ้าปาก แต่เขากลับเพียงแต่ยิ้มอย่างที่ทำให้หญิงสาวนึกถึงแสงตะวันอุ่น ๆ เท่านั้นเอง
“อยากฟังต่อไหม เอเรอาญ์”
เธอเกือบจะพยักหน้าออกไปเสียแล้ว “คุณ... รู้จักฉัน? ”
“ข้ารู้จักเจ้ามานาน” ดวงตาประหลาดเหมือนจะเหม่อมองทะลุตัวเธอไปไกล “นาน... นานมากแล้ว”
สรรพนามและสำเนียงของชายชราทำให้เธอนึกถึงลูกค้าปริศนาและผลทับทิมของเขา เอเรอาญ์ตัดสินใจไม่ต่อปากต่อคำอีก
“คุณพอจะรู้ไหมคะว่าทางออกอยู่ที่ไหน”
“เพลงนี้กำลังจะเล่าเรื่องของเพอร์ซีโฟเน่” ไม่เพียงแต่ไม่ตอบ เขายังหันไปอีกทางหนึ่ง ไม่มองเธอเลยด้วยซ้ำ “น้องสาวต่างมารดาของข้า ไม่สิ... ของเรา พระบิดามีชายามากมาย เพอร์ซีโฟเน่เป็นธิดาของเทพีดีมิเทอร์กับท่าน นางเหมือน -- ใบไม้ผลิของพวกเราทุกคน”
มันไม่ใช่คำตอบที่เธอต้องการ แต่น้ำเสียงนั้นกลับผูกมัดให้เธอฟังตำนานปรัมปราอย่างตั้งอกตั้งใจราวกับต้องมนตร์สะกด
“เพอร์ซีโฟเน่ปฏิญาณจะเป็นเทพีผู้รักษาพรหมจรรย์ เช่นเดียวกับเทพีเฮสเทีย อาร์เทมีสฝาแฝดของข้า และอธีน่าพี่น้องของเรา แต่ความคิดนั้นทำให้อะโฟรไดท์ ผู้เป็นเจ้าของอำนาจความงามและความรักไม่สบอารมณ์เสียเลย นางคิดว่ามีผู้ปฏิเสธความรักมากเกินไปเสียแล้ว!” เขาหัวเราะ “ดังนั้น วันหนึ่งเมื่อเทพฮาเดสผู้ปกครองยมโลกเยือนพื้นพิภพ นางจึงมอบหมายให้อีรอส -- กามเทพ โอรสของนางยิงศรปักอกราชันแห่งปรภพ เทพฮาเดสตกหลุมรักเพอร์ซีโฟเน่ทันที และลักพานางไปเป็นราชินีเคียงคู่กัน เทพีดีมิเทอร์เสียใจมาก และได้ร้องเรียนต่อพระบิดาซึ่งให้คำตัดสินอย่างยุติธรรมว่าหากเพอร์ซีโฟเน่ไม่ได้ดื่มกินสิ่งใดของยมโลก เทพฮาเดสจะต้องคืนนางให้มารดา ทว่า -- เพอร์ซีโฟเน่เผลอกินผลทับทิมที่ราชันแห่งยมโลกหยิบยื่นให้ไปเสียแล้ว นางจะต้องอยู่เคียงข้างเทพฮาเดสในยมโลกสลับกับการกลับขึ้นมาเยี่ยมเยือนหามารดาในทุกปีนับแต่นั้น”
ชายชราทำท่าเหมือนจะเล่าต่อ แต่กลับเป็นเธอเองที่เอ่ยปาก โดยพยายามไม่สนใจว่าการเล่าเรื่องของเขาช่างฟังดูแปลกประหลาด “ตอนที่ลูกสาวกลับมาหา เทพีดีมิเทอร์จะเบิกบานใจ พืชพรรณธัญญาหารก็อุดมสมบูรณ์ มนุษย์ได้เรียกช่วงเวลาเหล่านั้นว่าฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน ส่วนเวลาที่ลูกสาวต้องจากแม่ จะกลับกลายเป็นฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวที่ขาดแคลนอาหาร ในขณะที่ผลทับทิมกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทพีเพอร์ซีโฟเน่ไป จิตรกรจะวาดผลทับทิมเอาไว้ในมือเธอเสมอ”
ทับทิม!
“ทับทิม... ” เธอสะอึก มีบางอย่างรบกวนจิตใจ
ป่าทั้งผืนถูกถ่วงลงสู่มหาสมุทรลึก เงียบสนิทยิ่งกว่าความเงียบทั้งหมดในโลก ก่อนจะถูกเก็บกู้ขึ้นสู่ผืนฟ้าแห่งเรื่องราวอีกครั้งด้วยเสียงของชายชรา
“เจ้าจำได้หรือนี่”
“จำได้สิคะ” เอเรอาญ์ตอบเหมือนมันไม่มีความสำคัญเลยสักนิด “เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้น” แล้วเธอจึงวกกลับเข้าประเด็นเดิม “ว่าแต่ คุณพอจะรู้ทางออกจากที่นี่ไหมคะ”
อีกฝ่ายยังไม่ยอมตอบเธอ แต่ถามว่า “แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ล่ะ”
เอเรอาญ์อ้าปากค้าง แล้วก็หุบ อ้าปากแล้วก็หุบอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
“เจ้าจะปิดบังความจริงต่อข้าผู้เป็นเจ้าวิหารในอาณาบริเวณนี้หรือ”
“อพอลโล? ” เธอโพล่งออกไป
และน่าประหลาดใจอย่างที่สุด เขาตอบเธอด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ “ใช่ ข้าคืออพอลโล”
“แต่... ”
“เอเรอาญ์” ชายชราพูดต่อโดยไม่ได้สนใจท่าทีของเธอสักนิด “มีใครหลายคนรักและเป็นห่วงเจ้า ไม่ว่าจะเป็นที่แห่งนี้ หรือที่ที่ข้ากำลังจะพาเจ้าไป”
“พาฉันไป? คุณรู้ทางออกใช่ไหมคะ”
เสียงของเธอเต็มไปด้วยความหวัง แต่แล้วชายชราก็ยืนขึ้นและกางแขนออก รูปร่างของเขาเหมือนไม้กางเขนสีขาวโพลนที่มีใบหน้า มีลมพัดเสียงดังสนั่น ป่าส่งเสียงเหมือนจะล้มลงมาและสิ้นลมหายใจ แรงลมทำให้เอเรอาญ์ซวนเซ ในเวลาเดียวกันกับที่ร่างกายของชายชราปรากฏแสงจัดจ้า
มันร้อนเหมือนจะแผดเผาทั้งประเทศให้ป่นเป็นผุยผง แต่แล้วในวินาทีต่อมา ความร้อนมหาศาลก็กลับกลายเป็นความเย็นยะเยือกกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
เอเรอาญ์รู้สึกได้เมื่อแสงตกกระทบเธอ มันไม่เชิงเจ็บ แต่มั่นใจว่าไม่ใช่ความทรงจำที่ดีนัก ไม่ใช่ความทรมาน แต่ก็ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย
แล้วก่อนที่มันจะอ่อนแรงกลายเป็นประกายแสงอ่อน ๆ ที่อบอุ่นนุ่มนวลในที่สุด ก่อนที่เธอจะได้รับรู้และเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สติของเอเรอาญ์ก็หลุดลอยไปในลมหอบสุดท้าย
อพอลโลยืดหลังให้ตรง ชายชรากลายเป็นชายหนุ่มสูงชะลูดและสง่างามที่บนศีรษะปกคลุมด้วยเส้นผมเหยียดยาวสีทอง เขาคุกเข่าลงและช้อนเอเรอาญ์ไว้ในอ้อมแขน
“ไม่ใช่มนุษย์” อพอลโลพึมพำกับเธอ “แต่ก็ไม่เป็นเทพเจ้า เจ้าไม่สิ้นใจเมื่อสบรัศมีเทพเช่นที่มนุษย์จะเป็น แต่ก็ไม่อาจทานทนได้”
การประชุมสภาโอลิมเปียนได้ข้อสรุปให้เทพโอลิมเปียน ไม่ว่าองค์ใดก็ตาม นำพาให้เธอกลับคืนสู่โลกของเทพเจ้าได้ในทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่เขตแดนของตนเอง ถึงอย่างนั้นอพอลโลก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าเธอจะมาที่นี่ -- เมืองเดลฟี เมืองที่มีวิหารของเขา หรือในอีกแง่คือเขตแดนของเขาอยู่
เทพแห่งดวงตะวัน การดนตรี ชะตา และศิลปะก้มมองใบหน้าของเอเรอาญ์ในอ้อมแขน ดวงตาของเธอปิดสนิท และทำให้ความเอ็นดูอุ่นวาบอยู่ในอกเขา
“เจ้าจะมีความสุขจริง ๆ หรือ เพอร์ซีโฟเน่... ”
เป็นประโยคแสดงความรู้สึกอย่างพี่ชายหรือเพื่อนคนหนึ่งมากกว่าประโยคคำถาม และอพอลโลเองก็ไม่เคยคิดอยากจะได้คำตอบ แต่แล้วก่อนที่เขาจะขยับตัว ก็มีบางเสียง และบางสิ่ง -- ทำให้ชะงัก
“เจ้า! ”
WRITER : พระเอกของเรากำลังจะมาในตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ ถ้าชอบ หรือมีข้อติชมยังไง บอกได้ ให้กำลังใจกันได้นะคะ น้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ :)
ความคิดเห็น